เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 18 กรกฎาคม 2025, 10:00:43
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  {{ เรื่องของข้าว การทำนาและเกษตรผสมผสาน }}
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ... 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 [21] 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 ... 96 พิมพ์
ผู้เขียน {{ เรื่องของข้าว การทำนาและเกษตรผสมผสาน }}  (อ่าน 417623 ครั้ง)
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #400 เมื่อ: วันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 21:39:36 »

หลังจากนั้นอากาศยังไม่ร้อนก็พ่นฮอร์โมนครับ เพื่อช่วยบำรุงราก ลำต้นและใบ การพ่นฮอน์โมนแบบนี้ควรพ่นเมื่อข้าวได้รับน้ำพอเพียงเพราะรูปากใบจะเปิดเพื่อรับอากาศในการสังเคราะห์แสง แต่หากพ่นเชื้อราไตรโครเดอร์ม่า  อาจไม่ต้องสนใจเพราะเพียงต้องการให้พ่นให้เกาะต้นข้าวเท่านั้น ควรพ่นในช่วงเช้าหรือตอนเย็นที่แดดไม่แรง การพ่นเมื่อแดดร้อน ๆ มีโอกาศระเหยไปไวเนื่องจากเป็นละอองน้ำใบข้าวยังอาจไม่ทันดูดซึม แถมอุณหภูมิที่ใบข้าวมีความร้อนเมื่อโดนน้ำทันทีอาจไม่เป็นผลดี  เครื่องพ่นผมมีทั้งแบบ คันโยก  แบบติดเครื่องยนต์ และแบบไฟฟ้า  แบบคันโยกจะเบาหน่อยแต่เหนื่อย  แบบติดเครื่องยนต์จะพ่นได้ไกลแต่เปลืองน้ำในถังพ่น แบบไฟฟ้าน้ำหนักเบากว่าเครื่องยนต์ พ่นได้เป็นละอองฝอยกว่า ประหยัดน้ำที่พ่น ถังนึงพ่นได้ประมาณ 3-4 ไร่  ชาร์ทไฟครั้งหนึ่งพ่นได้ 12-15 ถัง แต่อาจช้านิดนึงเพราะพ่นได้ไม่ไกลมาก


* IMG_8493.JPG (75.59 KB, 700x525 - ดู 662 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 23:23:54 โดย ubuntuthaith » IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #401 เมื่อ: วันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 21:46:44 »

พ่นฮอร์โมนได้ประมาณ 5 ไร่ก็หยุดครับเพราะแดดเริ่มร้อนวันนี้มาสายเลยพ่นได้ไม่มากพรุ่งนี้ค่อยต่อ  หยุดดูกับดักหอยเชอรี่ที่ทำไว้ครับ ตอนแรกมีแต่คนหัวเราะว่าหอยอะไรจะเข้ามาติด วันนี้มีติดครับขึ้นมาวางไข่และลงไม่ได้ครับ เสียดายทำไว้แค่อันเดียวไว้วันไหนว่าง ๆ ค่อยทำเพิ่ม ผมใช้ขวดน้ำอัดลมแฟนต้าขนาด 1.25 ลิตรทำครับ


* IMG_8498.JPG (40.92 KB, 480x640 - ดู 716 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #402 เมื่อ: วันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 21:55:35 »

แปลงนาที่พูดถึงเมื่อวานครับ  ด้านบนเป็นของคนอื่นแปลงล่างเป็นแปลงที่ผมทำ หว่านวันเดียวยังไม่ได้ใส่ปุ๋ยรอบแรกทั้งคู่ ดูความแตกต่างของสีของต้นข้าวครับ  เจ้าของนาข้างบนก็มาถามว่าทำยังไงบ้างก็บอกแกไปครับ ต้นข้าวไม่งามจะต้องใส่ปุ๋ยเคมีมากขึ้นเพื่อให้ข้าวงาม ส่วนต้นข้าวที่งามไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเคมีมากครับ


* IMG_8502.JPG (27.53 KB, 700x525 - ดู 705 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #403 เมื่อ: วันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 22:08:53 »

ช่วงแดดร้อน  ๆ ก็มาทำงานในที่เย็น ๆ ครับทำบ้านกลางนาต่อ ฉาบปูนครับที่จริงตอนแรกฉาบไม่เป็น ไม่ได้รู้เรื่องงานปูนเลยไม่ได้จบช่างก่อสร้างก็ศึกษาในเน็ตเอาครับ เคยถามจ้างช่างเค้าเหมาครับทั้งหลังนี้ 3000 บาท รายวันเค้าไม่รับครับวันละ 300 บาท จะต้องใช้ปูน 5 ลูกทราย 1 คิว ค่าวัสดุยังไม่ถึงพันเลย ค่าแรงนี่หนักเอาเรื่องเลยลองหัดทำเองครับไม่สวยแต่ประหยัดตังค์ ผนังหนึ่งด้าน ขนาดประมาณ 4 ตร.มกว่า ๆ เพราะมีประตู ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงสำหรับมือใหม่  สาเหตุที่ทำบ้านแบบนี้เพื่อไว้เก็บอุปกรณ์ ไว้หลบแดด และหลบฝนโดยเฉพาะช่วงที่มีฟ้าผ่าครับ ปลอดภัยดีในช่วงฤดูฝน


* IMG_8504.JPG (50.37 KB, 700x525 - ดู 696 ครั้ง.)

* IMG_8506.JPG (81.26 KB, 700x525 - ดู 716 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #404 เมื่อ: วันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 22:31:50 »

ฉาบปูนเสร็จก็เกือบบ่าย 3 โมงครับ มีเวลาเหลือคิดไปคิดมาใส่ปุ๋ยในนาดีกว่าครับ ตอนแรกกะว่าจะไม่ใส่แล้วแต่พอดีคลองชลประทานเค้าจะปิดน้ำเพราะจะซ่อม  เลยต้องใส่ปุ๋ยที่ตอนยังมีน้ำ แม้ข้าวอายุ 20 กว่าวันแล้วแต่ข้าวยังเขียวอยู่ การใส่ปุ๋ยก็เลยประหยัดได้เยอะก็เลยไปซื้อปุ๋ยเคมี  16-20-0 ราคา 790 บาท และยูเรีย 46-0-0 ราคา 800 บาท อย่างละ 1 กระสอบรวมเป็นเงิน  1590 บาทสามารถใส่ในนาได้  22 ไร่ครับ วันนี้ช่วงเย็นผมหว่านไป 13 ไร่แล้วยังไม่ถึงครึ่งกระสอบเลย ชาวนาทั่วไปอาจต้องใส่ปุ๋ยเคมี 6-7 กส สำหรับช่วงนี้

ปุ๋ยยูเรีย  46-0-0  เน้นบำรุง ลำต้น และใบ
ปุ๋ย       16-20-0 ช่วยบำรุงรากให้แตกแขนงสำหรับช่วงนี้และยังช่วยบำรุงเมล็ดในช่วงออกดอก

หากข้อมูลทางกรมการข้าวจะให้ใส่ปุ๋ยสูตร 16-20-0  โดยเฉพาะในช่วงนี้ แต่ผมบำรุงรากไปพอสมควรแล้วเลยเน้นไนโตรเจนร่วมด้วย ผมนำปุ๋ย 2 สูตรนี้ผสมกันข้อดีของการผสมยูเรียอีกอย่างคือพ่นง่ายเพราะเม็ดเป็นสีขาว  16-20-0 เม็ดเป็นสีน้ำตาลเวลาพ่นสังเกตุยากกว่า  เราจะได้เห็นปริมาณปุ๋ยที่เราพ่นได้ชัดเจน  นา 13 ไร่


* IMG_8519.JPG (88.21 KB, 700x525 - ดู 694 ครั้ง.)

* IMG_8522.JPG (83.87 KB, 700x525 - ดู 719 ครั้ง.)

* IMG_8523.JPG (38.89 KB, 700x525 - ดู 700 ครั้ง.)

* IMG_8521.JPG (87.47 KB, 700x525 - ดู 690 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 23:16:11 โดย ubuntuthaith » IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #405 เมื่อ: วันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 22:54:20 »

ปุ๋ยเคมี 1 กส. น้ำหนัก 50 ก.ก.  1 กส.สามารถใส่ถังพ่นได้ 3 ถัง หากใส่ในปริมาณเท่ากันปุ๋ยยูเรียจะมีน้ำหนักเบากว่าปุ๋ยสูตรตัวอื่น ๆ    1 ถังพ่นน้ำหนักปุ๋ยประมาณ 17 ก.ก. น้ำหนักเครื่องพ่นประมาณ 10-12 ก.ก. รวมน้ำหนักสุทธิที่ต้องแบกรับน้ำหนักประมาณ 27-29 ก.ก. สำหรับผมถือว่าไม่มากเพราะเมื่อก่อนที่บ้านค้าข้าวเปลือกบางทีไม่มีคนงานต้องยกข้าวแต่เด็กบางครั้งก็แบกข้าวขึ้นรถหกล้อซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 65-85 ก.ก.แล้วแต่ชนิดกระสอบ  สำหรับการพ่นปุ๋ยหากเดินพื้นแห้งหรือคันนาค่อนข้างสบายแต่หากเดินในนานี่ลำบากครับ นาหล่มยิ่งไปกันใหญ่  ใครหัดพ่นใหม่ ๆ นี่คงมีปวดหลังปวดเอวเมื่อยแข้งเมื่อยขากันบ้างครับ อาจต้องมีไม้เท้าพยุงตัวด้วยหากทรงตัวไม่เก่งเพราะถังพอๆ กับศีรษะอาจมีแกว่งบ้าง ผมพ่น 1 ถังพ่น พ่นได้ประมาณ 5 ไร่ครับ  แรก ๆ ก็เคยมีคนว่าทำไมใส่ปุ๋ยน้อยแต่ผลผลิตออกมาได้เกิน 1 ตันต่อไร่อยู่ครับ ต้นทุนน้อยกว่า บางคนใส่ปุ๋ยมากกว่าหลายเท่าแต่ผลผลิตน้อยกว่า 1 ตันก็มีมากครับสำหรับนาปรังเพราะมีปัจจัยอื่นร่วมด้วยไม่ใช่แต่ปุ๋ยอย่างเดียว


* IMG_8515.JPG (71.43 KB, 700x525 - ดู 690 ครั้ง.)

* IMG_8516.JPG (53.58 KB, 700x525 - ดู 679 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #406 เมื่อ: วันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 23:07:53 »

ผมมักจะพ่นปุ๋ยในช่วงสาย ๆ  หรือบ่าย ๆ ครับ ทำไมถึงไม่พ่นตอนเช้าล่ะครับ เพราะผมจะต้องตั้งระดับน้ำให้ได้ก่อนไม่ให้น้ำมากเกินไปแปลง น้ำมากต้องปล่อยทิ้ง  แปลงไหนน้อยต้องเติมน้ำเข้า น้ำมากเกินไปปุ๋ยไม่ค่อยได้ผลเพราะมีการเจือจางมาก  แต่ถ้าไม่มีน้ำปุ๋ยไม่ละลาย ที่สำคัญควรดูรอยรั่วตามคันนา  กักน้ำในแต่ละแปลงนาและหยุดปล่อยน้ำเข้านาเมื่อน้ำได้ระดับครับ  ต้นข้าวไม่ได้กินปุ๋ยแบบเป็นเม็ด จะต้องละลายกับน้ำถึงจะดูดขึ้นไปใช้ในกระบวนการสร้างอาหาร  สังเคราะห์แสงได้


* IMG_8536.JPG (68.42 KB, 525x700 - ดู 686 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 23:09:59 โดย ubuntuthaith » IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #407 เมื่อ: วันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 23:14:41 »

พ่นปุ๋ยเสร็จ 13 ไร่เย็นพอดีกลับบ้านครับพรุ่งนี้มาต่ออีก 9 ไร่ หากพ่นปุ๋ยเคมีไปจะเห็นผลอีกทีประมาณ 4-5 วันครับ ปุ๋ยอินทรีย์จะเห็นผลได้ช้ากว่ามาก แต่ก็มีข้อดีข้อเสียไม่เหมือนกัน


* IMG_8541.JPG (43.73 KB, 700x525 - ดู 682 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
~ lทวดาไร้ปีก ~
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 609



« ตอบ #408 เมื่อ: วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013, 00:15:38 »

 ยิ้มกว้างๆ ของผมเืมื่อไหร่จะสวยแบบนี้บ้างนะ ชาวนาวันหยุดแบบเราถ้าจะทำนาดำนั้นหมายถึงว่าเราจะต้องจ้างรถดำนะ หรือคนดำนาใช่มั้ยครับพี่อู๋ หมายถึงต้นทุนก็ต้องสูงขึ้นด้วย ผมเห็นพี่เคยโพสว่าจะเปลี่ยนมาทำนาดำพี่จะทำยังไงครับ นาโยน จ้างคนดำ จ้างรถปลูก หรือปลูกเองครับ
IP : บันทึกการเข้า


Thanks: ฝากรูป [url=http
yonok
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 103


เจ้านายตัวเอง 0813663304


« ตอบ #409 เมื่อ: วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013, 11:33:37 »

-ขอบคุณครับ ความรู้เริ่องการทำนา
-ผมเพิ่งทำนาเข้าปีที่3 ปีแรกน้ำท่วม
-ตอนนี้นาปรังกำลังพ่นยาคุทวัชพืชอยู่ครับ(อายุ15วัน)
-ในนาผมมีแหนแดงด้วยครับ(ปีที่แล้วมีไม่มาก) เห็นเต็มไปหมด ตอนหว่านปุ๋ยจะมีปัญหาไหมครับ
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #410 เมื่อ: วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013, 21:08:35 »

ยิ้มกว้างๆ ของผมเืมื่อไหร่จะสวยแบบนี้บ้างนะ ชาวนาวันหยุดแบบเราถ้าจะทำนาดำนั้นหมายถึงว่าเราจะต้องจ้างรถดำนะ หรือคนดำนาใช่มั้ยครับพี่อู๋ หมายถึงต้นทุนก็ต้องสูงขึ้นด้วย ผมเห็นพี่เคยโพสว่าจะเปลี่ยนมาทำนาดำพี่จะทำยังไงครับ นาโยน จ้างคนดำ จ้างรถปลูก หรือปลูกเองครับ

ค่อย ๆ เป็นค่อยไปครับ ผมทำนาครั้งแรกก็ใช่ว่าจะงามครับ ผลผลิตต่ำ เป็นโรค ต้นทุนสูงครับ กว่าจะปรับตัวได้ก็เกือบ 2 ปีเหมือนกัน สำหรับทางเลือกการทำนาต่อไปคงอาจจะเป็นรถดำนาครับ ตอนนี้ที่เล็งไว้  6 แถวเดินตามคันละ 2 แสนบาทครับ รวมถาดสำหรับ 30 ไร่อีกประมาณ 35000 บาท รวมเป็น 235,000 บาท เผื่อไว้รับจ้างพรรคพวกด้วยในช่วงวันหยุด ส-อ ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะ เพราะใช้แรงงานน้อยที่สุดประมาณ 2-3 คนน่าจะพอเอาอยู่ครับ แบบเดินตาม 4 แถวค่อนข้างเหนื่อยกว่าเพราะดำได้น้อยกว่าแต่ราคาถูกกว่าประมาณ 6 หมื่นกว่าบาทครับ วันนี้ตอนเช้าก็ไปดูนาดำโดยรถดำนาเดินตาม 4 แถวก็ใช้ได้ครับ เจ้าของนาเป็นอาจารย์วัยเกษียนซึ่งแกก็ดำเองครับ แกว่าคนหนุ่ม ๆ ทำสบายเลยก็มีกำลังใจขึ้นมาอีกหน่อย สำหรับแบบรถดำนานั่งขับดูเกินตัวไปหน่อยสำหรับผม เหมาะสำหรับคนมีเวลารับจ้างครับ รายได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แถวนางแลจ้างดำอย่างเดียวไร่ละ 600 บาทโดยเจ้าของนาเพาะกล้าเองวันหนึ่งดำได้ 20 กว่าไร่สำหรับในรุ่น 6 แถว ลองดูรายได้ต่อวันสิครับ ดีทีเดียวถึงแม้ปีนึงจะดำไม่กี่วันก็ตามค่อนข้างคืนทุนได้เร็วเหมือน

สาเหตุที่เลือกคำนวณคร่าว ๆ ประมาณนี้ครับ

ต้นทุนการปลูกต่อไร่  

นาดำด้วยคน
- พันธุ์ข้าว  10  ก.ก. ราคาข้าวกรม ประมาณ ก.ก. ละ  25 บาท เป็นเงิน 250 บาท
- หว่านข้าวทำเองได้
- ค่าจ้างถอนและปักดำ   ไร่ละ  1,300 บาท    
รวมเป็นเงิน   1,550  บาท

นาโยน
-  พันธุ์ข้าว  10 ก.ก.  ราคาข้าวกรม ประมาณ ก.ก. ละ  25 บาท เป็นเงิน 250 บาท
-  ค่าถาด ถาดละ 7 บาทต่อไร่ 130 ถาด มีอายุการใช้งาน 3 ปีเป็นเงิน 151 บาท (คิดเฉลี่ยทำนา 6 ครั้ง)
-  ค่าดินบดละเอียดสำหรับเพาะต่อไร่ประมาณ  300 บาท
-  ค่าจ้างเพาะกล้าหรือหากซื้อถาดเองและค่าดูแล ประมาณ 300 บาท
-  ค่าจ้างถอนกล้าและโยนกล้า  780 บาท
รวมเป็นเงิน  1,781  บาท
สำหรับนาโยนถ้าทำไม่มากไม่เกิน 5 ไร่ผมว่าใช้แรงงานคนสองคนพอได้ แต่ผมทำ 22ไร่จำเป็นต้องจ้างแรงงานมาช่วยครับ    

มาดูต้นทุนในการทำนาแต่ละแบบครับ คิดที่ 22 ไร่
นาดำคน  22 ไร่ x 1550 บาท  เป็นเงิน    34,100  บาท  1 ปีทำนา 2 ครั้ง =  68,200 บาท
นาโยน    22  ไร่ x 1781 บาท  เป็นเงิน   39,182  บาท  1 ปีทำนา 2 ครั้ง =  78,364 บาท

หากทำนาน้อยก็ไม่เหมาะจะคำนวณแบบนี้เพราะอาจใช้แรงงานตัวเองหรือบางพื้นที่มีการลงแขก บ้านเราเรียกว่าเอามื้อกันก็ต้องคิดอีกแบบ แต่สำหรับผมประมาณนี้ครับ

ปกตินาหว่านต้นทุนอยู่ที่ 800 บาทต่อไร่หากใช้ข้าวกรมการข้าวจะมีค่า พันธุ์ข้าว ค่าจ้างหว่าน ค่ายาคุมหญ้า ครับ ต้นทุนต่ำแต่หนีเรื่องสารเคมีอันตรายไม่ออก แถมมีโอกาสเป็นโรคและแมลงง่ายกว่าการทำนาแบบอื่น ๆ ครับ
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #411 เมื่อ: วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013, 21:23:21 »

-ขอบคุณครับ ความรู้เริ่องการทำนา
-ผมเพิ่งทำนาเข้าปีที่3 ปีแรกน้ำท่วม
-ตอนนี้นาปรังกำลังพ่นยาคุทวัชพืชอยู่ครับ(อายุ15วัน)
-ในนาผมมีแหนแดงด้วยครับ(ปีที่แล้วมีไม่มาก) เห็นเต็มไปหมด ตอนหว่านปุ๋ยจะมีปัญหาไหมครับ


ยินดีครับ.. ปกติไม่ค่อยพบแหนแดงในนาหว่านครับเนื่องจากกระบวนการปลูกไม่เหมือนกับนาโยนหรือนาดำที่มีน้ำเลี้ยงเกือบตลอดเพื่อคุมวัชพืช  นาหว่านน้ำจะแห้งอยู่หลายวัน แหนแดงบางส่วนอาจจะตายหรือตายทั้งหมดเนื่องจากถูกยาคุมหญ้าพ่นใส่ แต่สำหรับนาดำและนาโยนที่อาศัยแหล่งน้ำธรรมชาติก็มีโอกาสพบได้ครับ  สำหรับการหว่านปุ๋ยเคมีหากมีแหนแดงหนาแน่นมากก็คงลำบากนิดนึงปุ๋ยเคมีอาจจะไม่ลงน้ำ แต่ถ้ามีไม่มากก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ


* DSCF0681.jpg (86.62 KB, 655x491 - ดู 668 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #412 เมื่อ: วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013, 21:32:22 »

วันนี้ไม่ได้ทำอะไรมากครับ เหมือนเมื่อวาน โบกปูนและใส่ปุ๋ยในนาอีก 9 ไร่ที่เหลือครับ


* IMG_8598.JPG (50.66 KB, 700x525 - ดู 651 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
pradi
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 150


« ตอบ #413 เมื่อ: วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013, 21:45:58 »

พ่นฮอร์โมนได้ประมาณ 5 ไร่ก็หยุดครับเพราะแดดเริ่มร้อนวันนี้มาสายเลยพ่นได้ไม่มากพรุ่งนี้ค่อยต่อ  หยุดดูกับดักหอยเชอรี่ที่ทำไว้ครับ ตอนแรกมีแต่คนหัวเราะว่าหอยอะไรจะเข้ามาติด วันนี้มีติดครับขึ้นมาวางไข่และลงไม่ได้ครับ เสียดายทำไว้แค่อันเดียวไว้วันไหนว่าง ๆ ค่อยทำเพิ่ม ผมใช้ขวดน้ำอัดลมแฟนต้าขนาด 1.25 ลิตรทำครับ
ขอทราบวิธีทำได้ไหมครับ สงวนลิขสิทธิ์ไหม ยิ้ม ดูแล้วตัดเป็นแฉกๆแหลมๆแล้วพับเข้าคล้ายกรวยไซใช่ไหม
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #414 เมื่อ: วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013, 21:49:26 »

รูปนี้เป็นรูปการโยนกล้านาโยนของจีนเมื่อ 13 ปีก่อนครับ ผมเคยไปช่วยโยนกล้านาโยน หากจะต้องการโยนให้ได้ผลดีจะต้องโยนให้สูงเพื่อให้ต้นกล้าปักลงดินในแนวดิ่งข้าวจะตั้งตัวได้ดีกว่าโยนเอียงหรือนอนกับพื้น แต่การโยนสูง ๆ ก็ทำให้เมื่อยแขนได้เหมือนกัน มาดูชาวนาจีนคนนี้ครับใช้เครื่องพ่นแทนก็โยนผมว่าช่วยทุ่นแรงได้ดีเหมือนกันครับ


* 7934814580_8fa2d2aa54_z.jpg (213.43 KB, 640x409 - ดู 675 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #415 เมื่อ: วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013, 21:58:18 »

พ่นฮอร์โมนได้ประมาณ 5 ไร่ก็หยุดครับเพราะแดดเริ่มร้อนวันนี้มาสายเลยพ่นได้ไม่มากพรุ่งนี้ค่อยต่อ  หยุดดูกับดักหอยเชอรี่ที่ทำไว้ครับ ตอนแรกมีแต่คนหัวเราะว่าหอยอะไรจะเข้ามาติด วันนี้มีติดครับขึ้นมาวางไข่และลงไม่ได้ครับ เสียดายทำไว้แค่อันเดียวไว้วันไหนว่าง ๆ ค่อยทำเพิ่ม ผมใช้ขวดน้ำอัดลมแฟนต้าขนาด 1.25 ลิตรทำครับ
ขอทราบวิธีทำได้ไหมครับ สงวนลิขสิทธิ์ไหม ยิ้ม ดูแล้วตัดเป็นแฉกๆแหลมๆแล้วพับเข้าคล้ายกรวยไซใช่ไหม

ผมก็ดูที่อื่นมาเหมือนกันครับ  ผมตัดบริเวณต่ำกว่าปากขวดลงมาซัก 1 นิ้วเพราะเป็นพลาสติกแข็งและมีเกลียวจากนั้นตัดส่วนที่เป็นคอขวดเป็นแฉก ๆ และพับเข้าด้านในครับ จากนั้นเอาไม้ไผ่ที่มีขนาดพอเหมาะมาเป็นเสาฐานการปักก็ให้ขวดอยู่สูงกว่าระดับน้ำประมาณ 8 ซ.ม. ก็ได้แล้วครับครับ
IP : บันทึกการเข้า
~ lทวดาไร้ปีก ~
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 609



« ตอบ #416 เมื่อ: วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013, 23:58:16 »

ยิ้มกว้างๆ ของผมเืมื่อไหร่จะสวยแบบนี้บ้างนะ ชาวนาวันหยุดแบบเราถ้าจะทำนาดำนั้นหมายถึงว่าเราจะต้องจ้างรถดำนะ หรือคนดำนาใช่มั้ยครับพี่อู๋ หมายถึงต้นทุนก็ต้องสูงขึ้นด้วย ผมเห็นพี่เคยโพสว่าจะเปลี่ยนมาทำนาดำพี่จะทำยังไงครับ นาโยน จ้างคนดำ จ้างรถปลูก หรือปลูกเองครับ

ค่อย ๆ เป็นค่อยไปครับ ผมทำนาครั้งแรกก็ใช่ว่าจะงามครับ ผลผลิตต่ำ เป็นโรค ต้นทุนสูงครับ กว่าจะปรับตัวได้ก็เกือบ 2 ปีเหมือนกัน สำหรับทางเลือกการทำนาต่อไปคงอาจจะเป็นรถดำนาครับ ตอนนี้ที่เล็งไว้  6 แถวเดินตามคันละ 2 แสนบาทครับ รวมถาดสำหรับ 30 ไร่อีกประมาณ 35000 บาท รวมเป็น 235,000 บาท เผื่อไว้รับจ้างพรรคพวกด้วยในช่วงวันหยุด ส-อ ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะ เพราะใช้แรงงานน้อยที่สุดประมาณ 2-3 คนน่าจะพอเอาอยู่ครับ แบบเดินตาม 4 แถวค่อนข้างเหนื่อยกว่าเพราะดำได้น้อยกว่าแต่ราคาถูกกว่าประมาณ 6 หมื่นกว่าบาทครับ วันนี้ตอนเช้าก็ไปดูนาดำโดยรถดำนาเดินตาม 4 แถวก็ใช้ได้ครับ เจ้าของนาเป็นอาจารย์วัยเกษียนซึ่งแกก็ดำเองครับ แกว่าคนหนุ่ม ๆ ทำสบายเลยก็มีกำลังใจขึ้นมาอีกหน่อย สำหรับแบบรถดำนานั่งขับดูเกินตัวไปหน่อยสำหรับผม เหมาะสำหรับคนมีเวลารับจ้างครับ รายได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แถวนางแลจ้างดำอย่างเดียวไร่ละ 600 บาทโดยเจ้าของนาเพาะกล้าเองวันหนึ่งดำได้ 20 กว่าไร่สำหรับในรุ่น 6 แถว ลองดูรายได้ต่อวันสิครับ ดีทีเดียวถึงแม้ปีนึงจะดำไม่กี่วันก็ตามค่อนข้างคืนทุนได้เร็วเหมือน

สาเหตุที่เลือกคำนวณคร่าว ๆ ประมาณนี้ครับ

ต้นทุนการปลูกต่อไร่  

นาดำด้วยคน
- พันธุ์ข้าว  10  ก.ก. ราคาข้าวกรม ประมาณ ก.ก. ละ  25 บาท เป็นเงิน 250 บาท
- หว่านข้าวทำเองได้
- ค่าจ้างถอนและปักดำ   ไร่ละ  1,300 บาท    
รวมเป็นเงิน   1,550  บาท

นาโยน
-  พันธุ์ข้าว  10 ก.ก.  ราคาข้าวกรม ประมาณ ก.ก. ละ  25 บาท เป็นเงิน 250 บาท
-  ค่าถาด ถาดละ 7 บาทต่อไร่ 130 ถาด มีอายุการใช้งาน 3 ปีเป็นเงิน 151 บาท (คิดเฉลี่ยทำนา 6 ครั้ง)
-  ค่าดินบดละเอียดสำหรับเพาะต่อไร่ประมาณ  300 บาท
-  ค่าจ้างเพาะกล้าหรือหากซื้อถาดเองและค่าดูแล ประมาณ 300 บาท
-  ค่าจ้างถอนกล้าและโยนกล้า  780 บาท
รวมเป็นเงิน  1,781  บาท
สำหรับนาโยนถ้าทำไม่มากไม่เกิน 5 ไร่ผมว่าใช้แรงงานคนสองคนพอได้ แต่ผมทำ 22ไร่จำเป็นต้องจ้างแรงงานมาช่วยครับ    

มาดูต้นทุนในการทำนาแต่ละแบบครับ คิดที่ 22 ไร่
นาดำคน  22 ไร่ x 1550 บาท  เป็นเงิน    34,100  บาท  1 ปีทำนา 2 ครั้ง =  68,200 บาท
นาโยน    22  ไร่ x 1781 บาท  เป็นเงิน   39,182  บาท  1 ปีทำนา 2 ครั้ง =  78,364 บาท

หากทำนาน้อยก็ไม่เหมาะจะคำนวณแบบนี้เพราะอาจใช้แรงงานตัวเองหรือบางพื้นที่มีการลงแขก บ้านเราเรียกว่าเอามื้อกันก็ต้องคิดอีกแบบ แต่สำหรับผมประมาณนี้ครับ

ปกตินาหว่านต้นทุนอยู่ที่ 800 บาทต่อไร่หากใช้ข้าวกรมการข้าวจะมีค่า พันธุ์ข้าว ค่าจ้างหว่าน ค่ายาคุมหญ้า ครับ ต้นทุนต่ำแต่หนีเรื่องสารเคมีอันตรายไม่ออก แถมมีโอกาสเป็นโรคและแมลงง่ายกว่าการทำนาแบบอื่น ๆ ครับ
ขอบคุณมากครับ คงต้องค่อยเป็นค่อยไปเหมือนที่พี่ว่าจริงๆ แต่ผมยังถือว่าดี ที่มีตัวอย่างให้ศึกษา เหมือนกระทู้นี้แหละครับ มีอะไรก็เอามาลงอีกเยอะๆนะครับ มีประโยชน์กับผมมากเลยครับ วันนี้ผมก็เพิ่งไปซื้อเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า มา 1 ซอง 30 บาทผมว่าจะซื้อซัก 2 ซองเจ้าของบอกซองเดียวก็พอแล้ว ใช้ได้ทั้งอำเภอ 55 เค้าแนะนำเรื่องการทำและใช้น้ำหมักหน่อกล้วยกับฮอร์โมนไข่ด้วยครับ พี่เคยใช้บ้างรึเปล่าครับ
IP : บันทึกการเข้า


Thanks: ฝากรูป [url=http
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #417 เมื่อ: วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2013, 12:25:12 »

ยิ้มกว้างๆ ของผมเืมื่อไหร่จะสวยแบบนี้บ้างนะ ชาวนาวันหยุดแบบเราถ้าจะทำนาดำนั้นหมายถึงว่าเราจะต้องจ้างรถดำนะ หรือคนดำนาใช่มั้ยครับพี่อู๋ หมายถึงต้นทุนก็ต้องสูงขึ้นด้วย ผมเห็นพี่เคยโพสว่าจะเปลี่ยนมาทำนาดำพี่จะทำยังไงครับ นาโยน จ้างคนดำ จ้างรถปลูก หรือปลูกเองครับ

ค่อย ๆ เป็นค่อยไปครับ ผมทำนาครั้งแรกก็ใช่ว่าจะงามครับ ผลผลิตต่ำ เป็นโรค ต้นทุนสูงครับ กว่าจะปรับตัวได้ก็เกือบ 2 ปีเหมือนกัน สำหรับทางเลือกการทำนาต่อไปคงอาจจะเป็นรถดำนาครับ ตอนนี้ที่เล็งไว้  6 แถวเดินตามคันละ 2 แสนบาทครับ รวมถาดสำหรับ 30 ไร่อีกประมาณ 35000 บาท รวมเป็น 235,000 บาท เผื่อไว้รับจ้างพรรคพวกด้วยในช่วงวันหยุด ส-อ ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะ เพราะใช้แรงงานน้อยที่สุดประมาณ 2-3 คนน่าจะพอเอาอยู่ครับ แบบเดินตาม 4 แถวค่อนข้างเหนื่อยกว่าเพราะดำได้น้อยกว่าแต่ราคาถูกกว่าประมาณ 6 หมื่นกว่าบาทครับ วันนี้ตอนเช้าก็ไปดูนาดำโดยรถดำนาเดินตาม 4 แถวก็ใช้ได้ครับ เจ้าของนาเป็นอาจารย์วัยเกษียนซึ่งแกก็ดำเองครับ แกว่าคนหนุ่ม ๆ ทำสบายเลยก็มีกำลังใจขึ้นมาอีกหน่อย สำหรับแบบรถดำนานั่งขับดูเกินตัวไปหน่อยสำหรับผม เหมาะสำหรับคนมีเวลารับจ้างครับ รายได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แถวนางแลจ้างดำอย่างเดียวไร่ละ 600 บาทโดยเจ้าของนาเพาะกล้าเองวันหนึ่งดำได้ 20 กว่าไร่สำหรับในรุ่น 6 แถว ลองดูรายได้ต่อวันสิครับ ดีทีเดียวถึงแม้ปีนึงจะดำไม่กี่วันก็ตามค่อนข้างคืนทุนได้เร็วเหมือน

สาเหตุที่เลือกคำนวณคร่าว ๆ ประมาณนี้ครับ

ต้นทุนการปลูกต่อไร่  

นาดำด้วยคน
- พันธุ์ข้าว  10  ก.ก. ราคาข้าวกรม ประมาณ ก.ก. ละ  25 บาท เป็นเงิน 250 บาท
- หว่านข้าวทำเองได้
- ค่าจ้างถอนและปักดำ   ไร่ละ  1,300 บาท    
รวมเป็นเงิน   1,550  บาท

นาโยน
-  พันธุ์ข้าว  10 ก.ก.  ราคาข้าวกรม ประมาณ ก.ก. ละ  25 บาท เป็นเงิน 250 บาท
-  ค่าถาด ถาดละ 7 บาทต่อไร่ 130 ถาด มีอายุการใช้งาน 3 ปีเป็นเงิน 151 บาท (คิดเฉลี่ยทำนา 6 ครั้ง)
-  ค่าดินบดละเอียดสำหรับเพาะต่อไร่ประมาณ  300 บาท
-  ค่าจ้างเพาะกล้าหรือหากซื้อถาดเองและค่าดูแล ประมาณ 300 บาท
-  ค่าจ้างถอนกล้าและโยนกล้า  780 บาท
รวมเป็นเงิน  1,781  บาท
สำหรับนาโยนถ้าทำไม่มากไม่เกิน 5 ไร่ผมว่าใช้แรงงานคนสองคนพอได้ แต่ผมทำ 22ไร่จำเป็นต้องจ้างแรงงานมาช่วยครับ    

มาดูต้นทุนในการทำนาแต่ละแบบครับ คิดที่ 22 ไร่
นาดำคน  22 ไร่ x 1550 บาท  เป็นเงิน    34,100  บาท  1 ปีทำนา 2 ครั้ง =  68,200 บาท
นาโยน    22  ไร่ x 1781 บาท  เป็นเงิน   39,182  บาท  1 ปีทำนา 2 ครั้ง =  78,364 บาท

หากทำนาน้อยก็ไม่เหมาะจะคำนวณแบบนี้เพราะอาจใช้แรงงานตัวเองหรือบางพื้นที่มีการลงแขก บ้านเราเรียกว่าเอามื้อกันก็ต้องคิดอีกแบบ แต่สำหรับผมประมาณนี้ครับ

ปกตินาหว่านต้นทุนอยู่ที่ 800 บาทต่อไร่หากใช้ข้าวกรมการข้าวจะมีค่า พันธุ์ข้าว ค่าจ้างหว่าน ค่ายาคุมหญ้า ครับ ต้นทุนต่ำแต่หนีเรื่องสารเคมีอันตรายไม่ออก แถมมีโอกาสเป็นโรคและแมลงง่ายกว่าการทำนาแบบอื่น ๆ ครับ
ขอบคุณมากครับ คงต้องค่อยเป็นค่อยไปเหมือนที่พี่ว่าจริงๆ แต่ผมยังถือว่าดี ที่มีตัวอย่างให้ศึกษา เหมือนกระทู้นี้แหละครับ มีอะไรก็เอามาลงอีกเยอะๆนะครับ มีประโยชน์กับผมมากเลยครับ วันนี้ผมก็เพิ่งไปซื้อเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า มา 1 ซอง 30 บาทผมว่าจะซื้อซัก 2 ซองเจ้าของบอกซองเดียวก็พอแล้ว ใช้ได้ทั้งอำเภอ 55 เค้าแนะนำเรื่องการทำและใช้น้ำหมักหน่อกล้วยกับฮอร์โมนไข่ด้วยครับ พี่เคยใช้บ้างรึเปล่าครับ

น้ำหมักหน่อกล้วย หมักใช้อยู่ครับได้ผลดีทีเดียวแต่ฮอร์โมนไข่ไม่เคยทำครับ ทำแต่ฮอร์โมนจากถั่วเหลือง สับปะรดและน้ำซาวข้าวครับ กำลังทดลองเหมือนกันถ้าได้ผลยังไงจะมาบอกอีกทีครับ


* DSCN1078_resize.JPG (191.19 KB, 750x563 - ดู 671 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
กระเจียว
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #418 เมื่อ: วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2013, 15:07:57 »


   จะติดตามจนกว่าโน้นละ เก็บเกี่ยวโน้นละครับ ยิงฟันยิ้ม ;Dสู้ๆเน้อชาวนาทั้งหลาย อีกหน่อยคงได้ทำนาเต็มตัวละครับ
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #419 เมื่อ: วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2013, 16:01:01 »

ดูบรรยากาศดี ๆ หมู่บ้านชาวนาญี่ปุ่นครับ หมู้บ้านOgimachi  แต่เห็นภาพตอนหิมะตกแล้วหนาวแทนจริง ๆ ครับ   ดูแล้วหากเค้าทำนาเคมีแบบบ้านเราคงจะสร้างบ้านใกล้นาแบบนี้ไม่ได้แล้ว หากเป็นสมัยก่อนบ้านใครติดทุ่งก็มีแต่คนอิจฉาลมเย็นสบาย แต่ตอนนี้กลายเป็นต้องได้รับควันจากการเผาตอซัง  กลิ่นยาคุมหญ้า ที่เหม็นที่สุดก็คงเป็นยาฆ่าแมลงที่ใช้ปราบหอยเชอรี่แหล่ะครับ



* QmBhCR.jpg (301.72 KB, 600x400 - ดู 664 ครั้ง.)

* 8A9dkl.jpg (284.27 KB, 600x400 - ดู 636 ครั้ง.)

* AgHLbq.jpg (315.37 KB, 600x400 - ดู 656 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 [21] 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 ... 96 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!