วันนี้เราจะมาวิเคราะห์งบการเงินแบบคร่าวๆหยาบๆกันนะครับ โดยใช้ตัวอย่างจากบริษัท CPALL เจ้าเก่า
งบการเงินรายปีhttp://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=CPALL&language=th&country=TH ถ้าดูแบบหยาบๆ ดูที่กำไรก็พอครับ ถ้าสังเกตจะเห็นว่า ยอดขายไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายอะไร แต่สิ่งที่โตก็คือกำไร คงจะเป็นเพราะว่า เขาขายของเน้นที่คุณภาพมากขึ้น อาหารอาจจะรสชาติอร่อย ถึงขายแพงแต่คนก็ซื้อ มันก็เลยทำให้กำไรโต เพราะฉะนั้น ดูกำไรเป็นหลักครับ ราคาหุ้นนั้นจะวิ่งไปพร้อมกับกำไร ถ้ากำไรมากขึ้น ราคาหุ้นก็จะมากขึ้น ถ้ากำไรลดลง ราคาหุ้นก็มักจะลดลง แต่ถ้าหากสองอย่างนี้ไม่ไปด้วยกัน นั่นคือโอกาสของเราครับ เช่น ถ้ากำไรเพิ่มขึ้นระเบิดเถิดเทิง แต่ราคาหุ้นไม่ไปไหน อย่างนี้เราควรรีบเก็บก่อนที่มันจะวิ่งขึ้นไปครับ แต่ถ้ากำไรตก แล้วราคาหุ้นยังไม่ลง ถ้าเรามีหุ้นอยู่ อันนี้ต้องรีบขาย
และเมื่อหารเป็นกำไรต่อหุ้นแล้วจะทำให้เราดูง่ายขึ้น เริ่มจากปี 50 ที่กำไรต่อหุ้น 0.33 บาท ราคาหุ้นตอนนั้น 10.90 บาท พอปี 51 กำไรต่อหุ้น 0.74 บาท ราคาหุ้นก็เพิ่มขึ้นเป็น 12.30 บาท และปีที่แล้วปี 53 กำไรต่อหุ้น 1.48 บาท และราคาหุ้นขึ้นเป็น 39.25 ครับ สำหรับตัวเลขค่าอื่นๆ อย่าไปสนใจมันมากก็ได้ครับ เพราะนี่คือการดูแบบหยาบๆ ดูที่กำไรตัวเดียวก็พอ
งบดุลhttp://www.set.or.th/set/companyfinance.do?type=balance&symbol=CPALL&language=th&country=TH ดูที่เงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นก่อนเลย เพราะเงินสองตัวนี้ สามารถนำมาใช้ได้ทุกเมื่อ ถือว่าเป็นพื้นฐานของกิจการทีเดียว ถ้าเงินเหลือมาก เวลาจะลงทุนทำอะไรก็ไม่ต้องไปกู้เขาให้เสียดอก ดูจากงบตัวนี้แล้วเห็นว่า เงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นมีรวมกันถึงสองหมื่นกว่าล้านบาท แต่หนี้สินระยะยาวไม่มี เพราะฉะนั้นแล้ว บริษัทนี้เป็นบริษัทปลอดหนี้...แม๋ อะไรจะเริ่ดขนาดนั้น ที่มีหนี้หนักๆก็เห็นจะเป็นรวมหนี้สินหมุนเวียน มีมูลค่า 27150.03 ล้าน ตรงนี้ตีความได้ว่า เป็นต้นทุนค่าสินค้าที่เราต้องจ่ายให้เจ้าหนี้ เพราะเราเอาสินค้าเขามาขายเพื่อกินกำไร แต่หนี้ในส่วนนี้จะถูกหักล้างด้วยรวมสินทรัพย์หมุนเวียน ซึ่งมีมูลค่า 32233.72 ล้าน อธิบายได้ว่า ต้นทุนสินค้าสองหมื่นเจ็ดพันล้าน แต่ถ้าเราได้ขายของออกไปได้ จะทำให้มีเงินเข้ามาสามหมื่นสองพันล้าน เพราะฉะนั้น เรื่องหนี้สินหมุนเวียนและสินทรัพย์หมุนเวียน มันจะสามารถหักล้างกันได้ ไม่ต้องไปดูอะไรมาก เพราะเราดูแบบหยาบๆ เมื่อดูบรรทัดสุดท้าย รวมส่วนของผู้ถือหุ้น มีเงินอยู่สองหมื่นล้าน บริษัทนี้.....ดี เงินเหลือพะเรอเกวียน
งบกำไรขาดทุนhttp://www.set.or.th/set/companyfinance.do?type=income&symbol=CPALL&language=th&country=TH ตรงนี้มาดูที่รวมรายได้ 35900.86 นำมาหักจากรวมค่าใช้จ่าย 35958.06 เหลือกำไรสุทธิ 2086.56 เมื่อคิดเป็นอัตรากำไรต่อหุ้นคือ 0.46 สรุปว่าบริษัทนี้.....ดีอีกแล้ว เพราะไม่ขาดทุน เหอ เหอ
งบกระแสเงินสด อันนี้ยกแบบรายปีมาให้ดูเพื่อความกระจ่าง อาจจะยาวไปนิดนึง พยายามดูหน่อยก็แล้วกันนะครับ
หมายเหตุ ถ้าตรงไหนวงเล็บแสดงว่าเป็นลบ
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบกระแสเงินสด
สำหรับแต่ละปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะกิจการ
หมายเหตุ 2553 2552 2553 2552
(บาท)
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน
กำไรสำหรับปี 6,669,767,352 5,013,137,835 6,142,569,745 4,597,321,211
รายการปรับปรุง
ค่าเสื่อมราคา 13, 26 2,900,446,308 2,684,037,438 2,524,094,759 2,298,194,204
ค่าตัดจำหน่าย - สินทรัพย์ไม่มีตัวตน 26 108,606,807 90,572,792 69,335,500 58,089,130
ค่าตัดจำหน่าย - สิทธิการเช่า 26 83,939,748 84,078,902 83,939,748 84,078,902
ดอกเบี้ยรับ (339,202,521) (296,895,395) (132,934,450) (115,231,430)
เงินปันผลรับ (37,120) (33,736) (463,993,348) (433,995,488)
ต้นทุนทางการเงิน 111,706 2,473,529 - -
ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 27 2,487,358,316 1,773,966,792 2,221,683,057 1,536,156,864
สำรองเงินชดเชยพนักงานออกจากงาน 17 217,561,434 77,634,091 192,900,000 66,400,000
ค่าเผื่อขาดทุนจากสินค้าที่เคลื่อนไหวช้า 209,559,771 137,372,012 206,654,570 121,413,846
หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ 2,349,011 7,767,519 1,193,776 2,175,234
ค่าเผื่อ (กลับรายการค่าเผื่อ) ขาดทุนจากการด้อยค่า
ของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 1,898,843 (2,416,210) - -
(กำไร) ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (33,297,014) 5,812,969 3,394,157 2,910,190
ขาดทุนจากการขายและตัดจำหน่ายที่ดิน อาคาร
และอุปกรณ์ 37,724,902 50,829,056 36,584,040 48,824,060
ขาดทุนจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ไม่มีตัวตน - 11 - -
กำไรจากการขายสิทธิการเช่า (455,010) (2,200,186) (455,010) (2,200,186)
(กำไร) ขาดทุนจากการขายเงินลงทุนใน
บริษัทย่อย - (10,115,010) - 1,419,060
12,346,332,533 9,616,022,409 10,884,966,544 8,265,555,597
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบกระแสเงินสด
สำหรับแต่ละปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะกิจการ
หมายเหตุ 2553 2552 2553 2552
(บาท)
การเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงาน
ลูกหนี้การค้า (37,530,939) 106,518,808 (33,166,196) (14,182,632)
ลูกหนี้อื่น (276,888,306) 36,821,725 (315,648,251) 23,331,927
สินค้าคงเหลือ (826,775,433) (593,808,872) (756,100,882) (651,087,308)
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น (385,268,294) (691,257,939) (351,631,348) (745,978,359)
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น (119,319,905) (18,470,535) (22,742,293) (7,691,824)
เจ้าหนี้การค้า 2,423,667,585 1,455,734,003 2,358,827,227 2,511,724,348
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 874,985,432 312,346,330 449,844,226 (156,422,506)
สำรองเงินชดเชยพนักงานเมื่อออกจากงาน (137,598) - - -
เงินประกันค้างจ่าย 424,276,456 273,913,729 431,235,936 293,841,439
จ่ายภาษีเงินได้ (2,083,431,798) (1,492,428,937) (1,844,298,728) (1,239,487,345)
เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน
12,339,909,733 9,005,390,721 10,801,286,235 8,279,603,337
กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน
รับดอกเบี้ย 182,653,821 150,303,666 133,822,719 118,628,376
รับเงินปันผล 37,120 33,736 463,993,348 433,995,488
ซื้อเงินลงทุนชั่วคราว (4,849,562,712) (445,692,264) (598,417,012) (1,075,283,526)
ขายเงินลงทุนชั่วคราว 1,677,203,278 - 1,396,010,076 -
เงินสดจ่ายสำหรับการลงทุนในบริษัทย่อย/
การชำระบัญชีของบริษัทย่อย 11 (27) - (10) (1,208,202,000)
เงินสดรับจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย - 75 - 33
เงินสดจ่ายสำหรับการลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพ
ของกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 12 - (1,221,370,093) - -
เงินสดรับจากการใช้สิทธิขายเงินลงทุนในหุ้น
บุริมสิทธิแปลงสภาพของกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 12 3,787,726,201 - 34,912,765 -
เงินสดจ่ายสำหรับเงินลงทุนระยะยาวอื่น (640,883,156) (50,000,000) (640,883,156) (50,000,000)
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดของ
บริษัทย่อยที่ขายไป - (37) - -
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบกระแสเงินสด
สำหรับแต่ละปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะกิจการ
หมายเหตุ 2553 2552 2553 2552
(บาท)
รับชำระคืนเงินให้กู้ยืมระยะยาว
แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 4 - - 858,200,000 637,500,000
เงินสดจ่ายสำหรับเงินให้กู้ยืมระยะยาว
แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 4 - - (600,200,000) (372,000,000)
ซื้อที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 32 (4,093,294,946) (3,674,588,868) (3,838,042,599) (3,369,111,086)
ขายที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 224,318,477 123,044,105 217,026,656 123,109,902
ซื้อสินทรัพย์ไม่มีตัวตน 32 (111,754,892) (138,688,460) (102,973,307) (111,179,546)
ขายสินทรัพย์ไม่มีตัวตน 101,825 - - -
ซื้อสิทธิการเช่า (54,721,856) (89,022,840) (54,721,856) (89,022,840)
ขายสิทธิการเช่า 5,556,928 7,415,658 5,556,928 7,415,658
เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน
(3,872,619,939) (5,338,565,322) (2,725,715,448) (4,954,149,541)
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน
จ่ายดอกเบี้ย (164,687) (3,097,722) - -
จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นของบริษัท 30
(5,391,777,629) (2,695,888,814) (5,391,777,629) (2,695,888,814)
จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (6,652) (4,512) - -
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้น
จากสถาบันการเงินลดลง (10,212,018) (157,783,474) - -
เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน
(5,402,160,986) (2,856,774,522) (5,391,777,629) (2,695,888,814)
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้นสุทธิ 3,065,128,808 810,050,877 2,683,793,158 629,564,982
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันต้นปี 12,682,282,755 11,896,726,054 9,495,769,282 8,866,204,300
ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนของยอดคงเหลือ
ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ (31,642,460) (24,494,176) - -
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันสิ้นปี 5 15,715,769,103 12,682,282,755 12,179,562,440 9,495,769,282
โดยปกติแล้วงบกระแสเงินสดนี้จะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ซึ่งแต่ละอันก็จะบอกความหมายและเรื่องราวของบริษัทได้ดีมาก แต่คนที่สนใจงบนี้มีน้อย อาจจะเป็นเพราะว่าเขาตีความไม่เป็น มันก็เลยทำให้เขาไม่ค่อยดูกัน แต่งบนี้เป็นงบที่สำคัญมากงบหนึ่งเลยทีเดียว เดี๋ยวผมจะมาไขความลับให้ได้รู้กัน
สามส่วนหลักๆในงบการเงินนี้มี กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน และกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน โดยย่อๆแล้วความหมายของแต่ละอันคือ
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน อันนี้หมายถึง การที่เราลุกขึ้นมาทำโน่นทำนี่เพื่อให้เงินมันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นซื้อมาขายไป หรือรับจ้างทำอะไรต่างๆก็แล้วแต่ มันจะส่งผลมายังงบนี้ ซึ่งถ้างบนี้เป็นบวก ก็แสดงว่าเราทำงานเป็น หาเงินเก่ง การดำเนินงานมันก็เลยเป็นบวก แต่ถ้าเป็นลบนี่แย่ เพราะว่าเราทำแล้วมันขาดทุน ดูจากงบนี้ บริษัทมีตัวเลขเป็นบวกอยู่
หมื่นสองพันล้าน ในปี 53
กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน อันนี้มันหมายถึง เราได้เอาเงินที่มีอยู่ไปลงทุนทำอะไรก็ได้ ถ้างบเป็นบวกนี่ไม่ดีนะ เพราะมันหมายถึงเราอาจจะขายของเก่ากิน เช่นขายตึกหรือโรงงานออกไป ทำให้มีเงินเข้ามาในกระเป๋า แต่การได้เงินเข้ามาในลักษณะนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เนื่องจากว่าสินทรัพย์มันลดลงกลายมาเป็นเงินแทน ยกตัวอย่างเช่น ถ้า 7-11 ขายสาขาออกไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะมีเงินเสดเข้ามา แต่สาขามันลดลง ทำให้ในระยะยาวแล้ว จะหาเงินได้น้อยลง แต่ถ้างบนี้เป็นลบนี่กลับดี เพราะว่ามันหมายถึงเราได้มีการเอาเงินออกจากกระเป๋าไปลงทุนเพิ่ม เช่นไปซื้อตึกเพื่อเปิด 7-11 สาขาใหม่ ดูจากงบนี้ บริษัทมีการลงทุนเพิ่มไป
สามพันแปดร้อยล้าน กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน อันนี้ก็คล้ายๆอันที่สอง ถ้าเป็นบวกนั่นหมายถึงมีเงินเข้ามา แต่เงินที่เข้ามาในลักษณะนี้จะเป็นเงินที่ได้มาจากการไปกู้ยืมมา หรืออาจจะเป็นการเพิ่มทุน ซึ่งการเพิ่มทุนนี้ไม่ดีต่อผู้ถือหุ้นเลย เอาไว้วันหลังจะมาลงเพิ่มเติมก็แล้วกันนะครับสำหรับหัวข้อการเพิ่มทุน ถ้างบตัวนี้เป็นบวกต้องระวัง เพราะมันแสดงให้เห็นถึงสัญญาณว่า บริษัทพึ่งพาตัวเองไม่ได้ จนต้องใช้เงินที่มาจากภายนอกบริษัท แต่ถ้างบนี้ออกมาเป็นลบนี่ดีมากๆ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเรามีเงิน และเราก็เอาเงินพวกนี้ไปจ่ายหนี้ที่เรากู้มา ทำให้ดอกเบี้ยลดลง หรือเอาไปจ่ายเป็นเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งอันนี้ต้องไปดูรายละเอียดอีกทีว่าเขาระบุเป็นอย่างไร เมื่อดูจากงบจะเห็นว่า ใช้เงินไป
ห้าพันสี่ร้อยล้าน แต่ที่จ่ายออกไปหนักๆคือปันผล เป็นเงินถึง
เกือบห้าพันสี่ร้อยล้าน เมื่อสรุปเป็นภาพกว้างๆออกมาในงบกระแสเงินสดจะพบว่า ถ้างบที่ดีจะต้องมีลักษณะเป็น บวก ลบ ลบ แต่ถ้าเป็น ลบ บวก บวก นี่สาหัส ตัวใครตัวมันเด้อ..อออ