เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 เมษายน 2024, 17:52:18
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  นักลงทุน การเงิน การธนาคาร
| | |-+  ใครมีเงินเย็น อยากลงทุนหุ้น มาทางนี้
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 [12] 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ... 41 พิมพ์
ผู้เขียน ใครมีเงินเย็น อยากลงทุนหุ้น มาทางนี้  (อ่าน 293282 ครั้ง)
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #220 เมื่อ: วันที่ 03 มิถุนายน 2011, 15:59:02 »

มาส่งข่าวเฉยๆ...เมื่อวานรับ 7-11 ไปเต็มพอร์ตแล้วครับ  กะถือยาวเลย  ต้นทุน 44.87  มีใครรับเป็นเพื่อนบ้างหรือยังน๊อ.....  เดี๋ยววันหลังจะเอาการวิเคราะห์ส่วนตัวสำหรับหุ้นตัวนี้มาลงให้อ่านกัน
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #221 เมื่อ: วันที่ 03 มิถุนายน 2011, 16:47:35 »

ท่านวายุเคยเห็นป่ะ uic ราคาจอง 1.92 เข้าตลาดวันแรกปิด 5.50  ขยิบตา
คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์เนี่ย ผมคำนวณบ่ถึก
หลายปีก่อนผมได้บ่อยหุ้นจอง ส่วนมากเปิดมากำไรก็ขายล่ะ ตัวนี้เปิด 3.80 ก็คงเรียบร้อย ขายหมู โห เท่าที่จำได้ผมบ่เคยเห็นนะ หุ้นเข้าใหม่วันแรกมอบความรวยแก่คนจองมากมายขนาดนี้
โดยเฉพาะคนที่ได้หลายหมื่นหุ้นขึ้นไป น่าอิจฉา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 03 มิถุนายน 2011, 17:06:01 โดย ซาลาเปา » IP : บันทึกการเข้า
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #222 เมื่อ: วันที่ 05 มิถุนายน 2011, 09:33:31 »

มาส่งข่าวเฉยๆ...เมื่อวานรับ 7-11 ไปเต็มพอร์ตแล้วครับ  กะถือยาวเลย  ต้นทุน 44.87  มีใครรับเป็นเพื่อนบ้างหรือยังน๊อ.....  เดี๋ยววันหลังจะเอาการวิเคราะห์ส่วนตัวสำหรับหุ้นตัวนี้มาลงให้อ่านกัน
ขอเป้าหมายสักนิดครับ เป็นแนวทาง ซื้อน่ะง่ายแต่เวลาขายเอากำไรมันยากเหมือนกันนะ ต้องใช้ทั้งศิลปะ
IP : บันทึกการเข้า
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,912



« ตอบ #223 เมื่อ: วันที่ 05 มิถุนายน 2011, 09:41:08 »

วันนี้ไม่เกี่ยวกับหุ้น  แค่มาโฆษณาร้านเฉยๆครับ

อ้าว ร้านนี้จริงด้วย ขับผ่านร้านหลายรอบ ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า

เมื่อวานก็ไปอีกรอบ ดันปิดร้าน - -

เดี๋ยววันนี้จะไปอีกรอบ 555+

ยังไงก็ขอความรู้ด้วยนะครับท่านวายุ

IP : บันทึกการเข้า

vee48
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #224 เมื่อ: วันที่ 05 มิถุนายน 2011, 09:44:23 »

มาส่งข่าวเฉยๆ...เมื่อวานรับ 7-11 ไปเต็มพอร์ตแล้วครับ  กะถือยาวเลย  ต้นทุน 44.87  มีใครรับเป็นเพื่อนบ้างหรือยังน๊อ.....  เดี๋ยววันหลังจะเอาการวิเคราะห์ส่วนตัวสำหรับหุ้นตัวนี้มาลงให้อ่านกัน
ขอเป้าหมายสักนิดครับ เป็นแนวทาง ซื้อน่ะง่ายแต่เวลาขายเอากำไรมันยากเหมือนกันนะ ต้องใช้ทั้งศิลปะ
+100000000 ซื้อง่าย ขายยาก....
IP : บันทึกการเข้า
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #225 เมื่อ: วันที่ 05 มิถุนายน 2011, 15:08:44 »

ตอบคุณ ♥วัยทอง~คะนองรัก♥
     วันนี้ผมไม่ขายของครับ  พอดีมีธุระนิดหน่อย  ไว้วันหลังนะครับ

ตอบท่านเปา
     ส่วนที่ถามว่าจะขายหุ้นเมื่อไหร่... ฮืม   ดูว่าเมื่อไหร่มันหยุดโตก็เมื่อนั้นแหละครับ  เดี๋ยวจะเอาบทวิเคราะห์ส่วนตัวมาให้อ่านก็แล้วกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 05 มิถุนายน 2011, 15:27:52 โดย วายุ » IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #226 เมื่อ: วันที่ 05 มิถุนายน 2011, 15:37:04 »

ตอบท่านเปา
     ที่ถามเรื่อง UIC มา  ขอตอบว่า  จากการที่ผมอ่านรายละเอียดแล้ว  ผมไม่เข้าใจลักษณะธุรกิจของเขาครับ  เพราะฉะนั้นหุ้นตัวนี้  จะเป็นหุ้นที่ผมหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปยุ่งด้วย  เพราะมันอยู่นอกขอบเขตความรอบรู้ของผม  มันจะพาลทำให้ผมนอนไม่หลับหากไปยุ่งกับมัน

http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fin/datafile/69/115400092801012010-09-07T05.PDF?ts=1307262674

แล้วท่านลองอ่านสิครับว่าเข้าใจไหม  ถ้าไม่เข้าใจ  ผมก็ว่าราคามันเว่อร์
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
azlanesra
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 228



« ตอบ #227 เมื่อ: วันที่ 05 มิถุนายน 2011, 21:37:59 »

อ๊ากก กว่าจะอ่านจบ 16 หน้า ตาลาย

เอาไว้ไปอุดหนุนข้าวมันไก่ แล้วค่อยนัดวันให้ท่านชี้แนะเด้อครับ
IP : บันทึกการเข้า
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #228 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2011, 15:06:12 »

วันนี้เอาพอร์ตที่เก็บไว้เมื่อครั้งยังหนุ่มๆมาให้ดู  ตอนนั้นชื่อโบรกของผมยังเป็นแอ๊ดคินซันอยู่เลย  ช่วงนั้นว่าจะยึดเรือเสียหน่อย  แต่ต้องขายหุ้นออกมาซื้อบ้านก่อน  ซึ่งช่วงก่อนหน้านั้นผมก็ได้มาจากหุ้น DCC มาพอสมควร  แต่ไม่มีหลักฐานมาโชว์  ตอนนั้นได้เครดิตแค่แสนหก  เลยซื้อไม้แรกได้ 9900 หุ้น  เหลือเงินอีกนิดหน่อยต้องรอชำระเงินเสร็จค่อยตามไปซื้ออีกไม้  แต่ราคาก็ขึ้นไปพอสมควรแล้ว


* TTA 1-800+600.jpg (46.97 KB, 800x600 - ดู 570 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #229 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2011, 15:09:41 »

อันนีอีกไม้  และก็ขายไปกำไรนิดหน่อย  สามหมื่นกว่าบาท


* TTA 2-800+600.jpg (45.86 KB, 800x600 - ดู 553 ครั้ง.)

* TTA 3-800+600.jpg (44.29 KB, 800x600 - ดู 551 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #230 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2011, 15:20:32 »

พอทำเรื่องบ้านเสร็จ  เหลือเงินนิดหน่อย(หายไปเป็นแสน)  ก็กลับมาซื้อหุ้นอีกรอบ  โบรกเปลี่ยนชื่อเป็นคันทรี่กรุ๊ปไปแล้ว  งวดนี้ได้มาเกือบสี่หมื่น


* CPALL 1-800+600.jpg (49.05 KB, 800x600 - ดู 533 ครั้ง.)

* CPALL 2-800+600.jpg (50.58 KB, 800x600 - ดู 524 ครั้ง.)

* CPALL 3-800+600.jpg (49.58 KB, 800x600 - ดู 531 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 06 มิถุนายน 2011, 15:22:58 โดย วายุ » IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #231 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2011, 15:25:05 »

 TTA ปี 2009 สูงสุด 32 แต่ปิดสิ้นปีที่ 27.25  ยิงฟันยิ้ม
 CPALL ปีที่แล้ว สูงสุด 45.25 ปิดสิ้นปี 39.25  ยิงฟันยิ้ม ขายราคานี้เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 06 มิถุนายน 2011, 15:31:00 โดย ซาลาเปา » IP : บันทึกการเข้า
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #232 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2011, 15:37:33 »

ตามที่สัญญากันไว้  เอาบทวิเคราะห์ส่วนตัวมาให้อ่าน  วันนี้หุ้นตกเยอะ  แต่ถ้าเราวิเคราะห์เป็นอย่างดีแล้วไม่ต้องซีเรียส

การวิเคราะห์กิจการ
     ก่อนที่เราจะลงทุนในบริษัทไหนก็แล้วแต่  สิ่งที่จำเป็นมากในอันดับต้นๆก็คือการวิเคราะห์บริษัทที่เราสนใจจะลงทุน  ให้รวบรวมข้อมูลต่างๆแล้วมานั่งทำความเข้าใจกับมัน  ถ้าคุณนึกไม่ออกว่าบริษัทนี้มีลักษณะกิจการอย่าไร  หากำไรมาจากไหน  กลุ่มลูกค้าของบริษัท  คู่แข่งของบริษัท  ความเสี่ยงของบริษัท  ฯลฯ  ก็แสดงว่าคุณยังตีโจทย์ไม่แตก  มีสองทางเลือกคือ  คุณต้องหาข้อมูลเพิ่มจนคุณรู้  หรือสอง  คุณก็ไปหาบริษัทอื่นที่คุณเข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง  ซึ่งกระบวนการตรงนี้คุณต้องทำเอง  และไม่มีกระบวนการไหนมาทดแทนมันได้  ถ้าคุณต้องการรวย  คุณต้องทำ  และขอแนะนำอีกอย่างว่า  ถ้าคุณจะรอจนนักวิเคราะห์ค่ายต่างๆออกบทวิเคราะห์มาให้  เมื่อถึงตอนนั้น  มันก็ช้าไปแล้ว  เพราะคนอื่นๆก็จะรับรู้พร้อมกับคุณ  และมันจะส่งผลทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปจนคุณซื้อไม่ลง  หรือถ้าคุณตามซื้อเข้าไป  ราคานั้นมันก็แพงมาก  จะดีแค่ไหน  ถ้าเราชิงลงมือก่อน  และมีความสุขอยู่กับต้นทุนที่ถูกกว่าคนอื่น  ถ้าคุณบอกว่าวิเคราะห์ไม่เป็น  ผมมีบางอย่างอยากบอกคุณ  “มีใครเป็นตั้งแต่เกิดบ้าง”  ผมก็ต้องมาหัดเหมือนกัน  ถ้าคุณฝึกบ่อยๆ  แล้วคุณจะช่ำชองจนกลายเป็น “นักลงทุน”  ไปในที่สุด  แต่มีอีกวิธีนึงที่ง่ายกว่า  วิธีนั้นก็คือกองทุนรวม  การลงทุนประเภทนี้มันอยู่ที่ความง่าย  เพราะคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็ลงทุนได้  แต่ปัญหามันอยู่ที่  เมื่อคุณลงทุนในกองทุนรวมแล้ว  มันจะทำให้คุณเรียนรู้เรื่องการลงทุนได้มากแค่ไหน  แทนที่คุณจะเรียนรู้เรื่องการลงทุน  กลับกลายเป็นว่า  คุณได้เรียนรู้วิธีการซื้อกองทุนรวมไปเสีย  แถมยังต้องจ่ายแพงกว่าลงทุนเองซะอีก  มีคำบางคำที่ผมอยากบอกกับคุณคือ  “สิ่งที่ผมกังวลไม่ใช่เรื่องที่คุณกำลังลงทุนในอะไร  แต่ที่ผมเป็นห่วงก็คือความเป็นนักลงทุนในตัวคุณต่างหาก”

     ตอนนี้ผมก็จะมาวิเคราะห์บริษัท  CPALL  ที่เป็นเจ้าของ 7-11 ให้คุณทั้งหลายอ่านกัน  เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปวิเคราะห์บริษัทอื่นๆที่พวกคุณสนใจจะลงทุนกันอยู่  มันไม่จำเป็นหรอกว่าคุณจะลงทุนในบริษัทเดียวกับผม  ที่ผมลงทุนในบริษัทนี้ก็เนื่องจากว่าผมเข้าใจมัน  บางทีคุณอาจทำงานเป็นช่างเปลี่ยนยาง  คุณก็จะสังเกตได้ว่ายางยี่ห้อไหนขายดีที่สุด  แล้วคุณก็ลงทุนกับบริษัทนั้น  หรือคุณเป็นพนักงานขายโทรศัพท์  คุณก็จะรู้ว่ายี่ห้อไหนขายดีมาก  หรือคุณเป็นนักเดินทาง  เวลาคุณเดินทางไปตามถนน  คุณจะสังเกตเห็นว่ารถยี่ห้อไหนมีบนท้องถนนมากมายเกลื่อนกราด  หรือคุณอาจจะทำงานในห้าง  ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กซี  เซ็นทรัล  หรือแมคโคร  คุณก็จะสังเกตเห็นได้เองว่า  มีลูกค้ามาใช้บริการเยอะขึ้นหรือไม่  นั่นเท่ากับว่า  คุณเป็นนักลงทุนวงในเชียวนะ  ได้เปรียบคนอย่างผมตั้งเยอะ  แต่ท่านเตมูยินไม่ได้ลงทุนในหุ้นเซ็นทรัล  อาจจะเป็นเพราะว่า  ท่านเห็นอะไรบางอย่างหรือเปล่าน๊า...  นี่เป็นแค่ตัวอย่างครับ  เอาล่ะ  เรามาเริ่มวิเคราะห์บริษัทกันเลยดีกว่า

ธุรกิจหลัก
     ร้าน  7-11  ในช่วงเริ่มแรกนั้น  เขาจะออกแนวคล้ายๆร้านขายของชำมากกว่า  แต่ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนรูปแบบธุรกิจออกไป  โดยไปเน้นที่อาหารพร้อมทานมากขึ้น  ซึ่งดูจากสโลแกนที่ว่า  หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา  โดยเขาให้เหตุผลว่า  การขายของชำต่างๆ  นับวันจะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น  ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะดึงลูกค้าเข้าร้านได้มากก็คือการลดราคา  ดังนั้นแล้ว  เขาจึงเปลี่ยนแนวไปขายอาหารพร้อมทาน  ซึ่งให้เหตุผลว่า  กำไรเยอะกว่า  โดยการขายของชำต่างๆเป็นแค่สินค้าประกอบเท่านั้น

สินค้าหลัก
     มีขนมปัง  สเลอปี้  กาแฟ  แซนด์วิช  แฮมเบอร์เกอร์  ซาลาเปา  ฮอทดอก  อาหารแช่แข็งต่างๆ  ฯลฯ  ซึ่งสินค้าพวกนี้ตัวผมเองได้ลองซื้อชิมแล้วก็เห็นว่า  รสชาติใช้ได้และราคาไม่แพง  ซึ่งทำให้มั่นใจว่า  ขายได้แน่นอน  โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเมืองตามจังหวัดต่างๆที่ค่าครองชีพสูง  และเมื่อดูรายละเอียดด้านหลังซองขนมปังเลอแปงและพวกซาลาเปาไส้ต่างๆ  หรืออาหารแช่แข็งของอีซี่โก  ทำให้ผมทราบว่า  บริษัท  CPALL  เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เอง  โดยมีบริษัทลูกเป็นผู้ทำส่ง  ซึ่งการที่เราทำเองขายเองนั้น  ทำให้มีกำไรมากเมื่อเทียบกับการที่เรารับเขามาขายกินกำไรอีกต่อหนึ่ง

วัตถุดิบ
     ก่อนที่มันจะมาเป็นผลิตภัณฑ์พวกนี้ได้  มันก็ต้องมีวัตถุดิบ  ซึ่งเมื่อดูย้อนไปว่าเขาเอาวัตถุดิบมาจากไหน  ก็เลยรู้ว่าเขารับมาจากบริษัทแม่คือ CPF นั่นเอง  ตรงนี้เลยทำให้มั่นใจว่า  วัตถุดิบจะไม่ขาดแคลนแน่นอน  เพราะผมเคยเห็นกรณีที่ทำให้เกิดปัญหามาแล้ว  กล่าวคือ  บริษัทไม่ใช่ผู้ผลิตวัตถุดิบ  ต้องสั่งมาจากอีกบริษัทหนึ่ง  แต่พอเกิดปัญหากับบริษัทที่ส่งวัตถุดิบมาให้  ผลกระทบมันก็เลยมาถึงเราด้วย  ซึ่งในส่วนนี้ที่ 7-11 รับวัตถุดิบมาจาก CPF  ก็เป็นการช่วยทำให้ทาง CPF  ได้ขายของด้วย  และทาง CPF  ก็คงต้องส่งวัตถุดิบให้อย่างแน่นอน  เนื่องจากว่าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน 7-11 ด้วย  เพราะถ้า 7-11 กำไร  ตัวของ CPF  เองก็ได้ดีไปด้วย

ธุรกิจอื่นที่ทำอยู่
     อย่างที่เราเห็น  รับชำระค่าบริการต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ  ค่าไฟ  ค่าโทรศัพท์  ค่าบัตรเครดิต  ค่าผ่อนบ้าน  ขายเครื่องดื่ม  เครื่องสำอาง  สินค้าแคตตาล็อก  เก็บค่าวางเครื่อง ATM  และตอนนี้เขาก็ไปเปิดบริษัทแบบชอบปิ้งออนไลน์เพิ่มแล้ว  ซึ่งร่วมทุนกับทางทรูและเดอะมอลล์

ธุรกิจที่น่าจะทำได้อีก
     อันนี้มันต้องใช้จินตนาการนิดนึง  โดยที่เรามองส่วนประกอบของธุรกิจ  แล้วเราก็มานั่งนึกเอาว่า  เขามีระบบขนส่งเพื่อมาส่งสินค้าอยู่แล้ว  เขาน่าจะรับจ้างส่งของหรือเอกสารต่างๆได้อีก  เพราะเท่าที่ดูสาขาของ  7-11  มีมากกว่าไปรษณีย์  และเปิด 24 ชม.ด้วย  เพราะฉะนั้น  การที่ลูกค้าจะไปรับของจึงใกล้บ้านมากกว่า  และไปรับตอนไหนก็ได้  ทำให้สะดวกมากกว่า
     บางทีเขาอาจจะขายยารักษาโรคเพิ่มได้  เนื่องจากการใช้เทคโนโลยี 3 G เข้ามาช่วย  เพราะเท่าที่รู้มา  บริษัททรู  ก็เป็นของเครือ  CP  เหมือนกัน  ดังนั้น  การใช้ประโยชน์จาก  เทคโนโลยี 3 G  จึงสามารถทำได้  ยกตัวอย่างคือ  ปกติเวลาเราไปซื้อยาตามร้านขายยา  ร้านที่จะจำหน่ายยาได้ต้องมีเภสัชกรอยู่ในร้าน  แต่ถ้า 7-11  จ้างเภสัชกรมาประจำที่ศูนย์กลาง  แล้วเวลามีใครป่วยตอนดึกๆมาเข้า 7-11  เพื่อซื้อยา  ทางสาขาก็ติดต่อไปที่ศูนย์โดยใช้เทคโนโลยี 3 G   แบบที่เห็นหน้ากัน  สามารถสอบถามอาการและสั่งจ่ายยาโดยสาขาได้เลย  ซึ่งตรงนี้จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้  และอนาคต  ถ้ามีหวยออนไลน์เกิดขึ้น  ก็ต้องมาฝากที่ 7-11  อยู่ดี  ทำให้ได้ค่าเช่าวางเครื่องด้วย  หรืออาจจะกินเปอร์เซ็นต์ก็ว่ากันไป

ขึ้นราคาสินค้าได้เอง
     บริษัทขายอาหารพร้อมทาน  ซึ่งตรงนี้ไม่มีหน่วยงานไหนมากำกับว่าจะต้องขายขนมปังก้อนละเท่าไหร่  กาแฟแก้วละเท่าไหร่  ไม่เหมือนสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆเช่นน้ำตาลทราย  น้ำมันปาล์ม  มาม่า  ซึ่งมันก็เป็นผลดีต่อกำไรของบริษัท

ลดต้นทุน
     บริษัทมีความสามารถลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ผมไม่รู้ว่าเขาทำวิธีไหนบ้าง  แต่เท่าที่ผมรู้มาคือ  เขามีโครงการสร้างศูนย์กระจายสินค้าตามภูมิภาคต่างๆเพื่อจะได้ไม่ต้องตีรถไปมาระหว่างกรุงเทพกับจังหวัดต่างๆให้เปลืองน้ำมัน  เช่นเขามาสร้างศูนย์กระจายสินค้าที่เชียงใหม่  รถส่งของก็มารับของที่เชียงใหม่ไปส่งตามจังหวัดต่างๆทางภาคเหนือ  จะได้ไม่ต้องไปไกลถึงภาคกลางทำให้ประหยัดขึ้น  และจากประสบการณ์ของผมเอง  ผมซื้อขนมปังเลอแปงมากิน  และเมื่อดูที่หลังซองพบว่า  เมื่อก่อนเขาทำกันที่ปทุมธานี  แต่เดี๋ยวนี้  ทำที่เชียงใหม่แล้ว  ตรงนี้ก็ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกครับ

ความยืดหยุ่นของธุรกิจ
     ในร้าน 7-11 แต่ละร้านในภาคต่างๆของไทย  ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีสินค้าเหมือนกันเป๊ะทุกอย่าง  บางทีสาขาไหนมีความต้องการสินค้าอะไร  เขาก็สามารถตอบสนองลูกค้าได้เช่น  สาขาแถวๆออฟฟิศเยอะๆในกรุงเทพ  บางสาขามีไข่ต้มขายด้วย  นี่ถ้ามาขายบ้านเราคงเน่าคาตู้  เพราะพวกเรามีเวลาเยอะกว่าคนทางนู้น  บางสาขาที่อยู่ใกล้ท่ารถ  ก็จะมีขนมขบเคี้ยวมากเป็นพิเศษเป็นต้น

การขยายตัวของธุรกิจ
     เขามีนโยบายว่า  จะเปิดสาขาใหม่ปีละ 500  สาขา  ไม่ว่าจะในปั๊มน้ำมันหรือพื้นที่ทั่วไป  และผมก็ว่าเขาทำได้จริง  ซึ่งนั่นก็หมายความว่า  ตอนนี้ธุรกิจเขายังไม่หยุดโต  แล้วผมก็มาคิดต่ออีกว่า  ถ้าประเทศไทยมี 7-11 หมดทุกตรอกซอกซอยแล้ว  บริษัทจะทำยังไงต่อไป  ซึ่งคำถามตรงนี้มีคำตอบแล้ว  ตอนนี้มีข่าวว่า  เขากำลังจะบุกอาเซี่ยนและจีน   กำลังขออนุญาตอยู่  ถ้าได้ไฟเขียว  ผมคิดว่ามันเป็นแรงเหวี่ยงที่สำคัญมาก  ไม่ต้องอะไรมากหรอก  แค่จีนประเทศเดียวก็ใหญ่มากกว่าเรากี่เท่าแล้ว  ประชากรเป็นพันล้าน  และเรื่องวัตถุดิบที่จะเอามาทำสินค้าอีก  ไม่ต้องห่วงเลย  เพราะตอนนี้  CPF  ก็เลี้ยงหมูเลี้ยงไก่รออยู่ที่เมืองจีนเรียบร้อยแล้ว  แต่อันนี้มันหนังชีวิตครับ  ต้องดูกันอีกทีนึงด้วย  เพราะการที่เราจะไปจีนก็ไม่ได้หมายความว่าต้องสำเร็จ  ในทางกลับกัน  ถ้าไปลงทุนแล้วขาดทุน  มันก็จะมาดึงกำไรในส่วนของประเทศไทยได้ครับ

อสังหาริมทรัพย์
     เมื่อต้องขยายสาขา  ก็ต้องมีอสังหาริมทรัพย์  เพราะฉะนั้นแล้ว  เชื่อมั่นได้ว่า  ถ้า 7-11 จะไปเปิดตรงไหน  ตรงนั้นก็มักจะเจริญแล้ว  อสังหาริมทรัพย์ชิ้นนั้นก็การันตีได้ว่าเกรดเอ  ซึ่งมีผลทำให้  อสังหาริมทรัพย์ชิ้นนั้น  มักจะเพิ่มค่าขึ้นในอนาคต

แฟรนไชส์
     ในส่วนแฟรนไชส์นี้  ดีตรงที่สาขาขยายได้เร็ว  โดยที่เราไม่ต้องลงทุนเองด้วยซ้ำ  ไม่เหมือนกับโลตัสเอ็กซ์เพรส  ที่ลงทุนเองทุกสาขา

คู่แข่ง
     ตอนนี้เท่าที่ดูก็ยังไม่มีคู่แข่งที่ใกล้เคียง  ทั้งสินค้าและจำนวนสาขา  ถ้าเรามองไปที่โลตัสเอ็กซ์เพรสจะเห็นว่า  เขาเน้นขายของชำเป็นหลัก  ไม่ใช่อาหาร  ส่วนยี่ห้ออื่นก็มีคาร์ฟูซิตี้  TOPS  แต่ก็ยังไม่ใช่คู่แข่งอยู่ดี  เพราะฉะนั้นแล้วจึงมั่นใจว่า  7-11 ยังเป็นเบอร์หนึ่งต่อไป  ด้วยเหตุนี้เมื่อผมวิเคราะห์จากปัจจัยต่างๆแล้ว  ผมจึงกล้าลงทุนจนหมดเงินเลยทีเดียว....ฟันธง

     เดี๋ยวเอาไว้คราวหน้า   ผมจะมาสอนวิธีการดูงบการเงินแบบคร่าวๆกันบ้างครับ  เพราะถ้าดูกิจการแล้ว  ถึงแม้จะเป็นเบอร์หนึ่งก็จริง  หากขายของได้เยอะแต่ไม่มีกำไร  จะขายเอาอะไร  เพราะฉะนั้นมันจึงต้องเอามาดูประกอบกันครับ
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,912



« ตอบ #233 เมื่อ: วันที่ 07 มิถุนายน 2011, 18:47:00 »

หน้า 17 แล้ว แต่ก็อ่านทุกหน้าครับ หุหุ

ขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า

Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #234 เมื่อ: วันที่ 07 มิถุนายน 2011, 19:56:04 »

ไม่รวม True เข้าไปด้วยล่ะ ของลูกเค้า...CP เป็นเครือที่สมบูรณ์แบบในสายตาผม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม อ่อ aro ในแม็คโครถ้าจำไม่ผิดก็ของเค้าด้วย...
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #235 เมื่อ: วันที่ 08 มิถุนายน 2011, 13:07:52 »

     ช่วงนี้ไม่ว่างมาอัพเลย  พอดีไม่ค่อยมีเวลาครับ  แต่เข้ามาแนะนำน้องๆหนูๆที่ยังไม่ได้เปิดบัญชีไว้ว่า  อยากให้รีบไปเปิดบัญชีซื้อขายได้แล้วครับ  ช่วงนี้หุ้นตกแรงมาก  ฝรั่งขายไม่หยุด  กองทุนก็ผสมโรงด้วย  ถ้ามันหยุดตกเมื่อไหร่หุ้นคงราคาถูก  แต่น้องๆต้องรอให้ฝรั่งหยุดขายก่อนครับ  พูดง่ายๆว่ารอให้มันสะเด็ดจนแห้งก่อน  สำหรับหุ้นผมก็โดนไปกับเขาด้วย  แต่ไม่เป็นไรหรอก  เพราะมันไม่ใช่เงินผม  มันเป็นเงินของตลาดน่ะ  เงินผู้ใดก็ไม่รู้...  เงินของผมเอาออกมาหมดตั้งแต่ตอนซื้อบ้านแล้ว  ตอนนี้มองที่กิจการครับไม่ใช่ที่ตลาด  เพราะความรู้สึกผมบอกว่า  ไม่ช้าก็เร็วยังไงมันก็ต้องกลับมา(สำหรับหุ้นผมนะ)  แต่หุ้นคนอื่นผมไม่รู้  เพราะผมไม่เข้าใจกิจการของเขา  แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว  ตอนสิ้นเดือน 6  ทุกๆกองทุนจะต้องรายงานผลต่อผู้ซื้อกองทุน  เพราะฉะนั้น  แต่ละกองทุนจะต้องพยายามทำตัวเลขให้ได้ผลกำไร  เพื่อให้ผู้ซื้อกองทุนพอใจ  จะได้ไม่หอบเงินหนีไปกองทุนอื่น  ตอนนี้เดี๋ยวเรามาดูกันว่า  หลังจากที่มันตกแรงแล้ว  ตอนใกล้สิ้นเดือนจะมีการทำวินโดว์จากกองทุนหรือไม่  สำหรับเรื่องวินโดว์เดรสซิ่ง  ก็หาอ่านได้จากกระทู้เก่าๆของผมได้ครับ
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #236 เมื่อ: วันที่ 08 มิถุนายน 2011, 13:14:09 »

ช่างมีสัญชาตญาณ และวิตจารณญาณดีเหลือเกินนะท่านวายุ โซรอสอายเลยนะเนี๊ย...ช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยได้ไปอุดหนุนท่านเท่าไหร่ แม่ค้า Canteen ที่ทำงานบ่นว่าขายไม่ดีเลยอุดหนุนเค้า ทั้งเที่ยงและมื้อเย็นเลย... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #237 เมื่อ: วันที่ 09 มิถุนายน 2011, 12:47:39 »

ไทยพาณิชย์ตีแผ่ ทำไม? ต่างชาติทิ้งหุ้นไทย

บล.ไทยพาณิชย์วิเคราะห์

...ทำไม?...นักลงทุนต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย จาก Neutral เป็น underweight โดยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้

นับจากวันนี้ไปก็จะเหลือเวลาไม่ถึง 1 เดือนแล้วสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 ก.ค. 54 แต่หากหันมาดูตลาดหุ้นไทยดูเหมือนว่าปีนี้จะไม่เหมือนกับสถิติในอดีตที่ตลาดหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นก่อนการเลือกตั้ง ในทางตรงข้ามดูเหมือนตลาดหุ้นจะลดลงก่อนการเลือกตั้งมากกว่า

เห็นได้จากนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิมาตั้งแต่การประกาศยุบสภาฯในวันที่ 10 พ.ค. 54 จนถึงสัปดาห์ที่แล้วมีมูลค่ารวมกัน 1.51 หมื่นล้านบาท มีแต่นักลงทุนในประเทศที่ซื้อสุทธิทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไป ภาพดังกล่าวแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในช่วงเดือน เม.ย. 54 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเก็งกำไรในเรื่องการยุบสภาฯ โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในเดือน เม.ย.ถึง 2.7 หมื่นล้านบาท ในขณะเดียวกันปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท และ 2.5 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในตลาดฯ



เหตุผลที่นักลงทุนต่างชาติลดน้ำหนักในตลาดหุ้นไทยสู่ระดับ Underweight

- ดัชนีฯในช่วงปี 2010-11 ได้ปรับตัวขึ้นมาสะท้อนมูลค่าหุ้น (ค่า PER) ที่เหมาะสมแล้ว หลังจากที่ดัชนีฯเคยซื้อขายที่ค่า PER ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นในปี 2004-2006 รวมถึงประเมินว่าการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยได้ผ่านช่วงที่ดีที่สุดไปแล้ว

- ความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อ และผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ปัญหาความไม่แน่นอนของการเมืองในช่วงการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
- นักลงทุนต่างชาติมีสถานการณ์ถือครองในตลาดหุ้นไทยอยู่มากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี
- ผลตอบแทนของตลาดฯที่เหลือของปี 2554 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาค

เราประเมินว่าสาเหตุเดียวกันที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นเอเชีย คือ ความกังวลรอบใหม่เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯและจีนได้แก่ ตัวเลข ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีน เดือน พ.ค.พบว่า ลดลงติดต่อกันมา 2 เดือน ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะชะลอที่แรงกว่าคาดการณ์ สื่อต่างประเทศเริ่มกลับมาใช้คำว่า Hard landing สำหรับเศรษฐกิจจีน และ Double dip สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวถือว่าเป็นตัวเลขสำคัญ เนื่องจากเป็นตัวเลขสะท้อนกิจกรรมในด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจสำคัญที่ช่วยให้หนุนให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวในปี 2552-53 นอกจากนี้ ตัวเลขทั้ง 2 ยังถูกใช้เป็นดัชนีชี้นำ(Leading indicator) การเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคตอีกด้วย

ปัจจัยดังกล่าวถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันบรรยากาศการลงทุนต่อตลาดหุ้นในช่วงนี้แต่จะส่งผลดีต่อราคาทองคำ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกกลับมาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีทั้ง 2 ตัวมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับ SET index ด้วย ประเด็นสำคัญ คือ เมื่อไหร่ที่ดัชนีทั้ง 2 ตัวจะฟื้นตัว เราคาดการณ์โดยประมาณว่าจะเป็นช่วงเดือน ส.ค. ทั้งนี้เนื่องจาก ประเมินว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ดัชนีทั้ง 2 ตัวอ่อนตัวลงเกิดจากปัจจัยในเรื่องแผ่นดินไหวญี่ปุ่นส่งผลต่อการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นบ้างแล้ว แต่หากจะให้ดีจริงๆน่าจะต้องใช้เวลาอีก 1-2 เดือน ดังนั้น หากเป็นไปตามที่ผมคาดการณ์ก็จะส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวในช่วงเวลาดังกล่าว

นอกจากนี้ เราคาดการณ์ต่อว่า หากการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 2/54 ของสหรัฐฯในช่วงปลายเดือน ก.ค.ออกมาตามคาดการณ์ คือ 3% จะส่งผลในเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เนื่องจากเป็นตัวเลขที่ฟื้นตัวจากตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 1/54 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 1.8% ทั้งนี้รวมถึง การประกาศตัวเลข CPI ของประเทศในเอเชียหากมีสัญญาณชะลอตัวลงตามคาดการณ์ คือ ช่วงไตรมาสที่ 2-3 โดยรวมจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

เมื่อไหร่ตลาดหุ้นไทยจะกลับไป 1200 จุด เราคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยหลังจากผ่านพ้นบรรยากาศของการ เลือกตั้งไปประมาณ 1-2 เดือน คือ ก.ค-ส.ค.จะเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยดัชนีฯมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปถึง 1200 จุดตามเป้าหมายของเรา เนื่องจากเราประเมินว่าเราจะเริ่มเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับรัฐบาลใหม่ ถึงแม้ยังคงมีความเสี่ยงที่บรรยากาศการเมืองไทยอาจจะกลับมาเหมือนเดิมแต่คาดว่าจะไม่รุนแรงกว่าเดิม ประกอบกับ เราคาดว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ภาวะเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัว อัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว ตามรูปภาพด้านบน

ความเสี่ยงด้านล่างของดัชนีฯอยู่บริเวณ 1030 จุด ทั้งนี้ ประเมินจากค่า PER 12 เท่า ซึ่งเราประเมินว่าเป็นระดับที่สามารถรองรับความเสียงได้ (เท่ากับ -1SD) โดยเราใช้สมมติฐานของ EPS ปี 2554 ที่ 86 บาท จาก Bloomberg consensus

ดังนั้น เราจึงแนะนำให้นักลงทุนทยอยซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคาร ปิโตรเคมี พลังงาน ซึ่งเป็นหุ้นที่คาดว่าจะลดลงจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในช่วงนี้ โดยหุ้นเด่น ยังคงเป็น KTB KBANK SCC PTTCH TOP ส่วนในระยะสั้น แนะนำ ซื้อหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPALL HMPRO
IP : บันทึกการเข้า
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #238 เมื่อ: วันที่ 09 มิถุนายน 2011, 15:13:52 »


ม.หอการค้าไทย คาดต่างชาติกลับเข้าตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง Q3/54 เหตุพื้นฐานศก.ไทยยังแข็งแกร่ง ระบุขายหุ้นช่วงนี้แค่ระยะสั้น





ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า สาเหตุที่นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ได้เทขายทำกำไรในตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากโบรกเกอร์ต่างชาติได้มีการปรับลดน้ำหนักการลงทุน โดยมองว่ามีความเสี่ยงในเรื่องของการเมืองสูงขึ้น จากการที่จะมีการเลือกตั้งเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะมีผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตและมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังมีโอกาสเติบโตเกิน 4% ทำให้เชื่อว่าแนวโน้มเงินทุนต่างชาติคงจะไหลกลับเข้ามาในช่วงไตรมาส 3/2554

ส่วน ปัญหาหนี้สินในแถบยุโรป ไม่ได้เป็นประเด็นกดดันตลาดหุ้นไทยเนื่องจากยังไม่ส่งสัญญาณกดดันตลาดหุ้นประเทศแถบยุโรปให้ปรับตัวลดลง ซึ่งประเด็นหลักคงมาจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณชะลอลง จากตัวเลขว่างงานที่สูงขึ้น การซื้อสินค้าคงทนถาวร เช่น บ้านและรถยนต์ต่ำกว่าคาด รวมไปถึงกำลังการผลิตยังหดตัวลง ประกอบกับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ QE2 จะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย. แต่ทางผู้นำสหรัฐฯ ยังคงระบุว่าจะใช้มาตรการงบประมาณขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอาจจะไม่ใช้ QE3 ในการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ ดังนั้น จึงส่งผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

นอกจากนี้ เชื่อว่าการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง เม็ดเงินต่างชาติจะยังคงไม่ไหลออกอย่างเต็มที่ แต่จะนำไปลงทุนในตราสารหนี้ โดยเฉพาะพันธบัตรระยะสั้น เพราะได้ผลตอบแทนที่สูงในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยเบื้องต้นประเมินอัตราดอกเบี้ยของประเทศในเอเชียจะปรับขึ้นเฉลี่ยอีก 0.5-1%

'ตลาดหุ้นไทยมีสัญญาณปรับตัวลดลง และมีสิทธิหลุด 1000 จุด หลังจากที่โบรกฯ ต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทย แต่เชื่อว่ามีผลระยะสั้น เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังเติบโตดี โดยจีดีพีมีโอกาสเติบโตเกิน 4% ในปีนี้ โดยเชื่อว่าเงินทุนจากต่างชาติคงจะไหลกลับเข้ามาได้ในช่วงไตรมาส 3'ผศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าว

ด้านนายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ภาคเอกชนมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ที่ออกมาจะมีผลกระทบให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจไทยได้ในอนาคต โดยเฉพาะฐานะทางการคลัง หลังจากที่ธนาคารโลก ได้ออกมาเตือนว่านโยบายของพรรคการเมืองไทยจะนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจในอนาคต แต่ส่วนตัวมองว่านโยบายของพรรคการเมืองแต่ละพรรคเป็นเพียงการโฆษณาเพื่อหวังเรียกคะแนนเสียงจากประชาชน ดังนั้นจะต้องจับตาดูว่าหลังการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะมีนโยบายใดที่เป็นรูปธรรม แต่ขณะนี้ความเชื่อมั่นของต่างชาติได้ปรับตัวลดลงสะท้อนได้จากตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง จากความกังวลว่านโยบายของพรรคการเมืองจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะฐานะทางการคลังของประเทศ

'ตอนนี้ความเชื่อมั่นต่างชาติลดลงจากนโยบายของแต่ละพรรคที่หาเสียง เพราะหวั่นว่าในอนาคตจะกระทบและสร้างปัญหาให้กับเศรษฐกิจไทย แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นการโฆษณาเพื่อเรียกคะแนนเสียงเท่านั้น แต่หากเป็นเรื่องจริงทั้งหมดจะเป็นภาระทางการคลังอย่างแน่นอน ซึ่งต่างชาติได้วิตกกังวลจนเทขายหุ้นไทยและนำเงินไปพักไว้ลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะความเสี่ยงทางการเมืองของไทยยังมีค่อนข้างสูง'นายฉัตรชัย กล่าว
IP : บันทึกการเข้า
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #239 เมื่อ: วันที่ 09 มิถุนายน 2011, 15:26:26 »

ขอบคุณท่านเปาที่เอาข้อมูลมาฝาก  แม๋...เล่นเน้นหุ้นผมซะแดงแป๊ดเชียวนะ
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 [12] 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ... 41 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!