|
singhato
มัธยม
ออฟไลน์
กระทู้: 697
|
|
« ตอบ #381 เมื่อ: วันที่ 02 สิงหาคม 2011, 18:52:27 » |
|
สวดยอดเลยท่านวายุ ผมไม่ได้เข้าในบอร์ดเสียนานเลย ตอนนี้ได้ข่าวหลังจากที่รัฐบาลใหม่จะขึ้นค่าแรงเป็น300บาทต่อวัน แล้วผมก็ได้ข่าวจาก http://tnews.teenee.com/etc/69374.html คือ ช็อก!ก๋วยเตี๋ยวจ่อขึ้นชามละ80บาท นายดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย อันนี้ผมก็อยากถามว่าหุ้นมาม่าที่ผมติดดอยอยู่คงจะปรับราคาตามท้องตลาดถูกต้องหรือเปล่าครับ แล้วหุ้นที่ผมถืออยู่จะไปทางแม่สายหรือไปเบตงครับ ขอความรู้จากทุกๆท่านด้วยครับ ปล.ตอนนี้ผมถือของthaiอยู่ที่28บาทผมว่าเป็นราคาที่ต่ำมากนะผมคิดถูกหรือปล่าว รอถึงปลายปีคงจะมีกำไรอยู่บ้างท่านว่ามีแนวโน้มที่ดีหรือเปล่าครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
ออฟไลน์
กระทู้: 10,912
|
|
« ตอบ #388 เมื่อ: วันที่ 07 สิงหาคม 2011, 23:19:24 » |
|
และตามที่สัญญากันไว้ว่าจะเอาหุ้นมาแนะนำ ตัวต่อไปที่ดีในสายตาผมก็คือ DCC หรือไดนาสตี้เซรามิก หลายคนอาจจะคุ้นๆแต่นึกไม่ออก ผมบอกให้ก็ได้ เขาขายกระเบื้องปูพื้นและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องครับ สาเหตุที่หุ้นตัวนี้เข้าตาก็คือ บริษัทนี้ไม่มีหนี้สิน มีการเติบโตพอสมควร เนื่องจากว่า ประเทศเพื่อนบ้านเขากำลังสร้างบ้านพักอาศัยกันอยู่เป็นจำนวนมาก กำลังซื้อกระเบื้องปูพื้นยังมีอีกเยอะครับ โดยเฉพาะพม่า กัมพูชา ลาว บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผล 100 % มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง และที่ไม่เหมือนใครก็คือ บริษัทนี้ปันผลปีละ 4 ครั้ง พูดง่ายๆว่า ใครชอบกระแสเงินสดดีๆก็ต้องตัวนี้เลย แต่ถ้าอยากซื้อก็รอจังหวะเวลาหุ้นตกก็แล้วกันครับ ตอนนี้หุ้นแพงแล้ว ผมเคยซื้ออยู่ช่วงหนึ่งตอนราคา 10 บาท พอขึ้นเป็น 14 บาทก็ขาย แต่มันก็วิ่งหน้าตั้งไม่ยอมเหลียวหลังมาจนถึงห้าสิบกว่าบาทเลย...เสียดายจัง
เอามาฝากท่านวายุครับ http://www.dcs-digital.com/moneychannel/program.php?listid=11ให้ดูย้อนหลังวันที่ 10 ก.ค. 54 (เปลี่ยนวันที่ มุมบนขวา) DCC หรือ ไดนาสตี้เซรามิก
|
|
|
|
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
ออฟไลน์
กระทู้: 10,912
|
|
« ตอบ #389 เมื่อ: วันที่ 08 สิงหาคม 2011, 09:59:04 » |
|
วันนี้คงจะพอเท่านี้ก่อน เพราะยังไม่เห็นตัวอื่นน่าสนใจเท่าใดนัก อ้อ...ลืมอีกตัวหนึ่ง ตัวนี้ดีมากๆเลย นั่นก็คือ CPALL นั่นเอง แหะ แหะ ตอนนี้กระผมก็ว่าราคามันแพงแล้วนะ ถ้าอยากซื้อก็รอหน่อยแล้วกัน ช่วงนี้ดูท่าทางเหมือนจะตกแรงพิกล
เอามากฝากท่านวายุอีกแล้วครับ http://www.dcs-digital.com/moneychannel/program.php?listid=11ให้ดูย้อนหลังวันที่ 7 ส.ค. 54 (เปลี่ยนวันที่ มุมบนขวา) CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
|
|
|
|
|
|
marcus147
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #392 เมื่อ: วันที่ 13 สิงหาคม 2011, 09:06:19 » |
|
การแจกเงินคนว่างงานนี่ อเมริกาเลยครับ ให้เยอะมาก คนเลยหางานกัน ส่วนกู้เงินมาแจกนี่บ้านเราเอง แย่ทั้งคู่
|
|
|
|
|
วายุ
มัธยม
ออฟไลน์
กระทู้: 650
|
|
« ตอบ #394 เมื่อ: วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 16:19:19 » |
|
แปลกใจ หลายครั้งที่ผมได้พูดคุยกับนักลงทุนท่านอื่นๆว่าลงทุนหุ้นตัวไหนอยู่ พอผมตอบว่าลงทุนในหุ้น 7-11 ท่านต่างๆเหล่านั้นก็มักจะพูดคล้ายๆกันว่า หุ้นตัวนี้ดี ตัวนี้ชัวร์อยู่แล้ว ฯลฯ และเมื่อผมถามกลับไปว่า เขาลงทุนตัวไหนอยู่ คำตอบที่ได้รับทำให้ผมแปลกใจมาก เพราะเขาลงทุนในหุ้นที่เขายังไม่ค่อยรู้จักมันดีเลย หลายๆคนยังไม่รู้จักบริษัทด้วยซ้ำ อาจจะมีกฎที่ไม่ได้เขียนเกี่ยวกับการลงทุนไว้ว่า อย่าลงทุนในบริษัทที่คุณรู้จักดีหรืออยู่ใกล้บ้าน แต่จงทุ่มเงินทั้งหมดที่มีลงไปในบริษัทที่คุณไม่รู้อะไรเลย หรือว่าหลายคนชอบความตื่นเต้นท้าทาย ผมก็สุดจะเดา จริงๆแล้วการที่เราจะประสบความสำเร็จในการลงทุนนั้น มันมีปัจจัยหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นว่าสำคัญที่สุดก็คือ เราต้องเข้าใจวิธีหาเงินของเขาให้ดี ถ้าเรารู้ว่าเขาหากินยังไง มันก็มีจุดอ้างอิงให้ดูได้เช่น บริษัทขายน้ำมัน มันก็ดูที่แหล่งน้ำมันที่เขามีว่ามีเยอะไหมและราคาน้ำมันตลาดโลกเป็นอย่างไร หรือบริษัทเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายมือถือ เราก็ดูที่ในประเทศว่ามีคนใช้มือถือกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว มีคนที่ยังไม่มีมือถืออีกกี่คน บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นเท่าไหร่ ค่าบริการโทรศัพท์มีกำไรขนาดไหน ถ้าเราสามารถทำความเข้าใจกับวิธีการหารายได้ของบริษัทที่เราลงทุนได้ดี ก็ถือได้ว่าการลงทุนของเรามีคุณภาพพอสมควร เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เราก็สามารถนำมาวิเคราะห์หาผลกระทบกับบริษัทได้ จริงๆแล้วการที่คนสองคนจะลงทุนในบริษัทเดียวกัน ผมว่ามันอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกันก็ได้ เพราะคนนึงซื้อขายหุ้นตลอดเวลา ส่วนอีกคนถือยาวรอบริษัททำกำไรเพิ่มไปเรื่อยๆ ถ้าแนวโน้มกำไรที่บริษัททำได้เพิ่มขึ้นตลอดเวลาเนื่องจากว่าธุรกิจยังไม่อิ่มตัว คนที่ถือยาวก็จะชนะในที่สุด แต่ถ้าสองคนนี้ลงทุนในบริษัทน้ำมันที่มีความผันผวนตลอดเวลา คนที่ถือยาวสุดท้ายอาจไม่ได้อะไรเลย เพราะหุ้นมันขึ้นแล้วก็ลงมาที่เดิม ลงแล้วมันก็กลับมาที่เก่า ส่วนคนที่ซื้อขายตามการขึ้นลงของราคาน้ำมันก็จะมีกำไรสะสมมากกว่า แต่ถ้าทั้งสองคนนี้ลงทุนในบริษัทที่ใกล้เจ๊ง ไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์ไหน อย่างนี้ก็คงเจ๊งทั้งคู่ เพราะฉะนั้น สำคัญที่สุดตรงที่เราต้องเข้าใจบริษัทก่อนเป็นอันดับแรก เคยมีผู้นำจีนคนดังกล่าวไว้ว่า “แมวจะสีอะไรก็ได้ แค่จับหนูได้ก็พอ” นับว่าเป็นคำกล่าวที่คมมาก เมื่อมาดูที่หุ้น ผมก็ให้คำจำกัดความว่า “หุ้นบริษัทอะไรก็ได้ ขอให้เราเข้าใจก็พอ” ถ้าเราเข้าใจบริษัท เราก็สามารถกำหนดกลยุทธ์ในการลงทุนได้ ดังเช่นนักลงทุนหลายๆท่านที่ผมได้พูดคุยด้วย เขารู้จัก 7-11 ดี แต่เขากลับไปลงทุนกับบริษัทที่เขาไม่รู้จักมันลึกซึ้ง...แปลกใจ วันนี้เอาผลประกอบการที่เพิ่งออกมาให้อ่านครับhttp://www.set.or.th/dat/news/201108/11031357.pdf
|
ถึงจะจน พี่ก็จน อย่างมีเกียรติ ถึงจะเครียด พี่ก็เครียด อย่างมีหวัง ถึงจะบ้า พี่ก็บ้า อย่างมีพลัง ถึงจะพัง พี่ก็พัง อย่างมีฟอร์ม
|
|
|
|
|
|
marcus147
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #398 เมื่อ: วันที่ 20 สิงหาคม 2011, 00:24:55 » |
|
เรื่อง แนวโน้ม นี่เยี่ยมเลยครับ ยกตัวอย่างได้ชัดเจน ได้แนวคิดและความรู้มากมายจริงๆ
|
|
|
|
|