ตอบคุณ eaku
เรื่องเกี่ยวกับนิทานนั้น จริงๆแล้วมันบอกอะไรหลายอย่างมาก แต่ที่เป็นหัวใจสำคัญหลักๆเลยก็คือ
"จังหวะ" ถ้าเหตุการณ์เป็นเหมือนอย่างในนิทาน เราควรจะตระหนักไว้ว่า
"หุ้นมันจะน่าสนใจก็ต่อเมื่อไม่มีใครสนใจมัน" ถ้าช่วงที่หุ้นกำลังเร่งตัวขึ้น เหมือนอย่างเช่นที่ฝนกำลังตก มันก็จะมีแต่คนมาแย่งกันซื้อร่ม ทำให้ร่มนั้นราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น แต่ในทางกลับกัน ช่วงที่ไม่มีเหตุการณ์อะไร เราจะพบว่า ร่มพวกนั้นมีราคาถูก และสามารถเลือกซื้อได้ตามใจชอบโดยไม่ต้องรีบร้อน
เพราะฉะนั้น ถ้าเรามีเงินเย็น และมีเหตุผลว่าควรซื้อตอนไหน มันก็จะดีกับตัวเราครับ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าฝนมันจะตกเมื่อใด แต่ถ้าเราคิดไว้ว่า ซื้อไว้แล้วอนาคตได้ใช้แน่ๆ ก็ซื้อไว้เถอะครับ ถึงแม้ว่าฝนมันอาจจะไม่ตกก็ตาม และตามที่คุณบอกว่า
เตรียมการหาความรู้เพิ่มหรือหาที่ปรึกษาที่เก่งกว่าเรา ไว้ แก้แค้นเอาคืน..
ผมไม่อยากให้คุณมีมุมมองอย่างนี้เลย เพราะถ้าจะเปรียบการลงทุนเหมือนเกมกีฬา ผมรู้สึกว่า การลงทุนจะเหมือนกับพวกกอล์ฟ วิ่งแข่ง ว่ายน้ำ หรือยิงปืนยิงธนูน่ะครับ เพราะกีฬาพวกนี้ เราจะชนะได้ก็ต่อเมื่อตัวเราทำได้ดีกว่าคนอื่น ไม่ใช่อย่างพวกฟุตบอล ปิงปอง หรือเทนนิส ที่เราจะชนะได้โดยการทำลายคู่ต่อสู้
และคำถามที่ผมอยากถามก็คือ ในมุมมองของคุณเอง คุณมีความรู้สึกว่าธุรกิจไหน หรืออุตสาหกรรมไหนน่าลงทุนที่สุดในตอนนี้ครับ และเพราะอะไร