เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 24 เมษายน 2024, 18:13:18
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  นักลงทุน การเงิน การธนาคาร
| | |-+  ใครมีเงินเย็น อยากลงทุนหุ้น มาทางนี้
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ... 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 [27] 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 ... 41 พิมพ์
ผู้เขียน ใครมีเงินเย็น อยากลงทุนหุ้น มาทางนี้  (อ่าน 293336 ครั้ง)
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #520 เมื่อ: วันที่ 25 เมษายน 2012, 16:07:05 »

     วันนี้เอารายงานประจำปีของ  7-11  มาฝากกันครับ  ใครสนใจก็โหลดไปอ่านเอา  ของผมมีเป็นแผ่นส่งมาให้ที่บ้านแล้วครับ  ช่วงนี้หุ้นก็แรงได้ใจจริงๆเลย  เจ็ดสิบกว่าเข้าไปแล้ว

http://www.cpall.co.th/contentlv3.aspx?mnu=th&ctlv1=2&ctlv2=9fc7bb90-9c4f-429d-9027-c2ba85ca5c90&ctlv3=07983011-d8a9-416f-80ae-18e81e3710e2&ctst=True
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,912



« ตอบ #521 เมื่อ: วันที่ 25 เมษายน 2012, 18:04:29 »

เสี่ยวายุ ลูกท่านทำนิวไฮทุกวันเลยน๊า หุหุ
IP : บันทึกการเข้า

Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #522 เมื่อ: วันที่ 26 เมษายน 2012, 12:24:39 »

  แนะนำถึง 75 ปล่อยเลยครับ  แล้วค่อยไปรับหลังปิด XD เพราะมีการจ่ายปันผลเป็นหุ้น...ซื้อง่ายขายคล่องกันอีกแล้ว... ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,912



« ตอบ #523 เมื่อ: วันที่ 26 เมษายน 2012, 12:34:17 »

  แนะนำถึง 75 ปล่อยเลยครับ  แล้วค่อยไปรับหลังปิด XD เพราะมีการจ่ายปันผลเป็นหุ้น...ซื้อง่ายขายคล่องกันอีกแล้ว... ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม

เค้าคงไม่ปล่อยหลอกครับ เค้ารักของเค้า ฮาๆ
IP : บันทึกการเข้า

Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #524 เมื่อ: วันที่ 26 เมษายน 2012, 16:09:36 »

 แนะนำถึง 75 ปล่อยเลยครับ  แล้วค่อยไปรับหลังปิด XD เพราะมีการจ่ายปันผลเป็นหุ้น...ซื้อง่ายขายคล่องกันอีกแล้ว... ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม

เค้าคงไม่ปล่อยหลอกครับ เค้ารักของเค้า ฮาๆ

  สงสัยจะเก็บกระทั่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เลยมั้ง  และผมจะได้บัตรสิทธิพิเศษคลับการ์ดจากท่านวายุ

จะสะสมแต้มเอาไว้แลกซื้อข้าวมันไก่ อีซี่โก สูตรของท่านก็เป็นได้ ใครจะรู้  สู้ๆ ครับนักลงทุนทั้งหลาย... ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #525 เมื่อ: วันที่ 27 เมษายน 2012, 16:33:37 »

ตอบท่านเต
     ผมคงไม่ขายหรอกนะครับ  เพราะขี้เกียจมาตามซื้อคืน  ตลาดมันเอาแน่นนอนอะไรไม่ได้  ถือไปเรื่อยๆอย่างนี้ก็ดีแล้ว  อีกอย่างถ้าขายออกไป  เดี๋ยวต้นทุนมันเปลี่ยนน่ะครับ  ทีหลังจะควักมาโชว์ไม่ได้  หุ  หุ

     และสำหรับท่านวัยทอง  ตกรถเสียแล้ว  ง้างอยู่ตั้งนาน  ไม่ยิงเสียที  แล้วเราก็จะ...แล้วเราก็จะ...หุ  หุ  วันนี้นิวไฮอีกแล้ว  ราคาน่ากลัวจัง  ถ้าจะซื้อก็รอให้มันลงก่อนก็แล้วกันเด้อ


    วันนี้นิมนต์พระมาเทศน์ซะหน่อย  สืบเนื่องมาจากกระทู้เวลาและความสุขที่ผมลงไปแล้ว  เชิญทัศนากันตามอัธยาศัยนะครับ


* จุลสาร.jpg (112.63 KB, 752x1027 - ดู 342 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 27 เมษายน 2012, 16:46:11 โดย วายุ » IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #526 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2012, 15:40:05 »

  ตอนนั้นผมเชียร์ให้ซื้อ CPN ตั้งแต่ 25-26 บาทมีใครซื้อไว้มั่งล่ะ  ท่านวัยทองผมรู้สึกแนะนำไปอยู่ ตอนนั้นอาจลองเชิงอยู่... ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม

ปล.ถ้าซื้อตอนนั้นโชว์ได้แบบไม่อายใครเลย...55+
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #527 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2012, 16:14:06 »

  ลึกซึ้งมากครับ  สำหรับคติธรรมที่ท่านนำมาฝาก  ผมบอกแล้วไง  ว่านักลงทุนที่ดีควรศึกษาเรื่องปรัชญาในแขนงต่างๆ ด้วย

บางครั้ง ความกลัว ความโลภนี่แหละที่ทำให้เรามีวินัยและอารมณ์ที่ไม่มั่นคงเพียงพอ แนะนำให้ท่านๆ ที่สนใจการลงทุน

สนใจการศึกษาวิชาปรัชญาบ้าง เผื่อมันทำให้ชีวิตดีขึ้น มิใช่...แค่ด้านการลงทุน  แต่โดยรวมก็จะดีขึ้น ผมเชื่ออย่างนั้น.. ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
pkai69
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 34


« ตอบ #528 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2012, 20:14:21 »

พึ่งมาเจอกระทู้นี้ ก็เมื่อตอนขวานบิ่น เง้อ เสียดาย สวัสดีทุกๆท่านนะครับพึ่งมาเป็นสมาชิกใหม่ในเวบนี้ แต่เล่นหุ้นมาสิบกว่าปีแระเหนด้วยกับความเห็นของหลายๆท่านในกระทู้นี้
IP : บันทึกการเข้า
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #529 เมื่อ: วันที่ 30 เมษายน 2012, 09:38:32 »

พึ่งมาเจอกระทู้นี้ ก็เมื่อตอนขวานบิ่น เง้อ เสียดาย สวัสดีทุกๆท่านนะครับพึ่งมาเป็นสมาชิกใหม่ในเวบนี้ แต่เล่นหุ้นมาสิบกว่าปีแระเหนด้วยกับความเห็นของหลายๆท่านในกระทู้นี้

  ยินดีต้อนรับครับท่าน... บิ่นก็ไปตีไปเข่นมันให้คมใหม่ได้  ผมก็บิ่นมาหลายรอบแล้ว  แต่ก้ยังใช้ฟันไม้งามอยู่... ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,912



« ตอบ #530 เมื่อ: วันที่ 30 เมษายน 2012, 09:44:42 »

อยากให้ท่านวายุอธิบายเกี่ยวกับการซื้อหุ้นที่ละ 100 หุ้นหน่อยครับ

เพราะวันก่อนที่คุยกันแล้วน่าสนใจ และน่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนสมาชิกมากๆ

เรื่องก็ประมาณว่า บางรายไม่กล้าซื้อหุ้นที่ละ 100 เพราะกลัวเสียค่าคอมที่แพงๆ
IP : บันทึกการเข้า

Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #531 เมื่อ: วันที่ 30 เมษายน 2012, 09:53:56 »


  ก็ตามหลักเหรียญ 2 ด้านนั่นแหละครับ สำหรับผมจะซื้อเป็นล๊อต (ไม่ใช่บิ๊กล๊อตนะ  ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม) เช่นเช้าซื้อ 5 พัน

บ่ายอีก 5 พันในวันนั้น  ก็จะเสียค่าคอมฯ เท่ากัน ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย  แต่เราบริหารความเสี่ยงตรงนี้ได้ถ้าบ่ายลบ...
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,912



« ตอบ #532 เมื่อ: วันที่ 30 เมษายน 2012, 14:02:00 »


  ก็ตามหลักเหรียญ 2 ด้านนั่นแหละครับ สำหรับผมจะซื้อเป็นล๊อต (ไม่ใช่บิ๊กล๊อตนะ  ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม) เช่นเช้าซื้อ 5 พัน

บ่ายอีก 5 พันในวันนั้น  ก็จะเสียค่าคอมฯ เท่ากัน ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย  แต่เราบริหารความเสี่ยงตรงนี้ได้ถ้าบ่ายลบ...

ก็น่าจะประมาณนี้แหละครับ แต่วิธีการอธิบายให้เข้าใจและเป็นเนื้อหา ท่านวายุเขาชำนาญ 55+
IP : บันทึกการเข้า

วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #533 เมื่อ: วันที่ 30 เมษายน 2012, 15:44:59 »

มาแล้วตามคำขอ

     ขอยกตัวอย่างเลยดีกว่า  อธิบายง่ายดี  มีอยู่วันหนึ่งท่านวัยทองมาปรึกษาด้วยความกลุ้มอกกลุ้มใจว่า  เงินเยอะจนไม่รู้ว่าจะเอาไปเก็บไว้ไหนดี  ผมก็เลยแนะนำไปว่า  ซื้อหุ้น  7-11  สิ  ท่านวัยทองได้ยินดังนั้นก็นั่งดีดลูกคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็บอกว่า  ได้สิ...แต่เงินผมสามารถซื้อได้เพียงแค่  500  หุ้นเท่านั้น  ผมว่ากำลังจะรอซื้อตูมเดียวหมดตังค์เลย  ผมก็เลยทักท้วงไปว่า  ซื้อไม้เดียวหมดตังค์นั้นเสี่ยงมาก  น่าจะทยอยเข้าซื้อจะดีกว่า  ท่านวัยทองก็บอกมาว่า  ถ้าแบ่งซื้อแล้วเสียดายค่าคอมเป็นหนักหนา  เพราะถ้าเข้าซื้อสองขยัก  จากที่ต้องโดนค่าคอมแค่ไม่กี่สิบ  ก็จะต้องโดนค่าคอมเป็นร้อย  แต่ผมก็ให้ข้อคิดว่า  สมมุติว่าท่านซื้อไปก่อน  300  หุ้น  ท่านเสียค่าคอมไป  50  บาทถูกต้องไหม  แต่ถ้าสมมุติว่าหุ้นตกลงมาอีก  2  บาท  ท่านก็ยังเหลือเงินไว้ซื้ออีก  200  หุ้น  นั่นเท่ากับว่า  ท่านสามารถประหยัดเงินจากที่ต้องเข้าทีเดียวตอนแรกไปถึง  400  บาทเชียวนา  ถึงแม้ว่าท่านจะโดนค่าคอมในรอบหลังไปอีก  50  บาทก็ตาม  แต่ท่านก็ยังประหยัดตังค์ไปได้อีกถึง  300  บาทเชียว  หนำซ้ำยังไม่พอ  ต้นทุนถัวเฉลี่ยของหุ้นก็ยังลดลงด้วย  เมื่อท่านวัยทองได้ฟังดังนั้น  ก็บรรลุสัจธรรมทันที

     นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของคนเบี้ยน้อยหอยน้อยแต่อยากลงทุน  แต่ทีนี้ก็ดันมางกค่าคอมโดยไม่ใช่เรื่อง  และในทางกลับกัน  ถ้าคุณเห็นหุ้นตัวนั้นน่าจะขึ้นแน่นอน  คุณจะเสียเวลาเก็บเงินให้เยอะๆก่อนแล้วค่อยมาซื้อโดยหวังจะประหยัดค่าคอม  แล้วถ้าหุ้นตัวนั้นมันพุ่งขึ้นไปอีกเรื่อยๆ  ทีนี้คุณอาจจะท้อใจจนไม่อยากซื้อหุ้นนั้นแล้วก็ได้  เพราะราคามันแพงกว่าตอนที่คุณเล็งมันไว้ซะอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 เมษายน 2012, 15:47:55 โดย วายุ » IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #534 เมื่อ: วันที่ 30 เมษายน 2012, 16:09:27 »

แกะรอย  (สำหรับมือใหม่ทุกท่าน)
     ในชีวิตประจำวัน  ไม่ว่าหุ้นจะผ่านเข้ามาทำให้คุณสนใจด้วยวิธีใดก็ตาม  ทั้งจากรายการช่องเศรษฐกิจ  จากหนังสือพิมพ์  จากคนอื่นบอกมา  จากการใช้สินค้าและบริการต่างๆของบริษัทแล้วเกิดความประทับใจ  จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการแกะรอยควรจะเป็นการอ่านรายงานประจำปีของบริษัทที่เรากำลังสนใจอยู่  และการแกะรอยนี้  ถือว่าเป็นสุดยอดวิชาสำหรับนักลงทุนวงนอก(รายย่อย)อย่างพวกเราเลยนะครับ  เดี๋ยวผมจะมาช่วยทุกท่านที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยมาแกะรอยของหุ้นตัวที่เราสนใจกันดีกว่า  ซึ่งนี่จะเป็นตัวอย่างหนึ่งในการเริ่มต้นของเรา  แต่ผมขอบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่า  ถ้าคุณอ่านรายงานประจำปีไม่รู้เรื่อง  แสดงว่าคุณไม่เข้าใจธุรกิจนั้น  หรือถ้าคุณมีความรู้ในเรื่องการทำธุรกิจปานกลาง  และคุณก็ยังอ่านไม่เข้าใจอยู่ดี  นั่นก็แสดงว่า  เจ้าของบริษัทไม่ต้องการให้คุณรู้เรื่อง  คำแนะนำก็คือ  ไม่ว่าคุณจะมีความรู้ในระดับใด  ถ้าคุณอ่านแล้วไม่เข้าใจ  คุณก็ไม่ควรไปยุ่งกับบริษัทนั้น

     สำหรับหุ้นตัวอย่างที่ผมจะพามาแกะรอยกันในวันนี้คือ  หุ้นที่กำลังอยู่ในกระแสมากตัวหนึ่ง  หุ้นตัวนั้นก็คือ  Loxley  หุ้นตัวนี้กำลังมีข่าวเกี่ยวกับการทำหวยออนไลน์อยู่  ซึ่งทุกวันนี้  ราคามันขึ้นๆลงๆเพราะข่าวนี้เป็นส่วนใหญ่  แล้วการได้ทำหวย  มันมีความสำคัญต่อหุ้นตัวนี้มากขนาดนั้นเลยหรือ  เดี๋ยวผมจะมาช่วยทุกท่านไขข้อข้องใจกันแล้ว  แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า  นี่เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น  ซึ่งมันอาจจะผิดก็ได้  พิจารณากันเอาเองนะครับ

     ก่อนอื่นเลย  ขอให้ทุกท่านที่สนใจ  โหลดรายงานประจำปีของบริษัทมาเก็บไว้ก่อน

http://www.loxley.co.th/upload/multi/189/annual11_t.pdf

หลังจากวันนี้อีกพอประมาณ  เดี๋ยวผมจะเข้ามาลงความรู้ให้อ่านกัน  เพราะเดี๋ยวเราต้องรอเพื่อนๆที่สนใจแต่เข้ามาอ่านช้ากว่าก่อนนะครับ  หรือถ้าท่านโหลดมาแล้วและอยากรู้  ก็อ่านก่อนได้นะครับ  เวลาอ่านก็พยายามทำความเข้าใจกับธุรกิจเขาหน่อย  ถ้ายังไม่รู้เรื่องก็รอผมและเพื่อนๆอีกแป๊บนึง  เพราะมีมือใหม่หลายคนแล้วที่ไปหาผม  แต่ผมก็มัวแต่ขายของอยู่  เลยไม่มีเวลาคุยกันมาก  เดี๋ยวกระทู้นี้แหละจะแหล่มแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 03 พฤษภาคม 2012, 15:56:05 โดย วายุ » IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #535 เมื่อ: วันที่ 03 พฤษภาคม 2012, 16:02:08 »

วิเคราะห์บริษัทล็อกซเล่ย์  (การลงทุนมีความเสี่ยง)
     รายงานประจำปีฉบับนี้มีทั้งหมด  172  หน้า  และการกล่าวอ้างของผมก็จะบอกกล่าวเป็นหน้าที่เท่าไหร่(จากคอม  ไม่ใช่หน้าที่เท่าไหร่จากตัวรายงาน)  ขอให้เข้าใจตรงกันด้วยนะครับ

     หน้า  8  หน้านี้เป็นข้อมูลสรุปทางการเงิน  สังเกตดูช่องรายได้รวม  แม้รายได้จะเพิ่มขึ้นทุกปี  แต่กำไรไม่คงที่(ปี  52  กำไร  310  ล้าน  ปี  53  ขาดทุน  138  ล้าน  ปี  54  กำไร  298  ล้าน)  เพราะฉะนั้น  อาจเป็นไปได้ว่า  ขายของหรือทำงานมากก็จริง  แต่ไม่มีกำไร  ทำไปก็เหนื่อย  ดังจะเห็นได้จาก  เมื่อเอากำไรของปี  52  และปี  54  ไปคำนวณกับรายได้รวมจะพบว่า  ทั้งสองปีบริษัททำรายได้ไปปีละหมื่นกว่าล้าน  แต่มีกำไรแค่สามร้อยล้าน  เมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว  กำไรแค่  2-3  %  เท่านั้นเอง  นับว่ากำไรน้อยมาก  เมื่อเทียบกับการทำธุรกิจอย่างอื่น  ถ้ามีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นเช่นค่าแรงขึ้น  ราคาน้ำมันขึ้น  นั่นจะเป็นเหตุทำให้ได้กำไรน้อยลงหรือถึงกับขาดทุนได้เลยทีเดียว  สำหรับช่องอื่นๆนั้น  ผมไม่ค่อยให้ความสนใจมากเท่าไหร่  เพราะไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน  หนี้สิน  หรืออะไรก็ตาม  มันก็จะมาสะท้อนเบ็ดเสร็จอยู่ตรงที่กำไรนี่แหละ  ถึงแม้ว่าจะมีทรัพย์สินมากขนาดไหนก็ช่าง  แต่ถ้ามันทำให้งอกออกมาเป็นเงินไม่ได้  มีไปก็เท่านั้น

     หน้า  9  โครงสร้างรายได้ของบริษัท  ถ้าสังเกตดูจะพบว่า  บริษัทนี้ทำธุรกิจหลายอย่างมาก  แบ่งออกเป็น  3  สายธุรกิจ  และแต่ละธุรกิจ  ก็แยกย่อยออกมาอีก  แต่สิ่งที่ผมให้ความสำคัญก็คือข้อ  1.1 , 1.3  และ  2.1  เนื่องจาก  3  ข้อนี้  มีรายได้มากที่สุด  ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำไรโดยรวมของบริษัท  และตรงนี้จะมีผลต่อราคาหุ้นด้วย  และถ้าเราลองมาดูเป็นข้อๆ  จะเห็นได้ว่า  รายได้ของทั้งสามข้อนี้เพิ่มขึ้นมาจากปีก่อนหน้า  แต่ข้อ  1.3  และ  2.1  นั้นดูดีกว่าเพื่อน  เพราะรายได้เพิ่มขึ้นมา  3  ปีติดต่อกันแล้ว  แต่ถึงแม้ว่าข้อ  1.3  และ  2.1  จะดีขนาดไหน  ก็ไม่สามารถทำให้กำไรโดยรวมเพิ่มขึ้นมาได้  เพราะรายได้ส่วนใหญ่มาจากข้อ  1.1  และเมื่อเรามองย้อนกลับไปที่หน้า  8  ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า  เมื่อข้อ  1.1  รายได้ตก  กำไรโดยรวมของบริษัทก็ตกตาม  ดังนั้น  เมื่อมาโฟกัสกันดีๆก็จะเห็นว่า  บริษัทนี้  มีรายได้หลักมาจากข้อ  1.1

     หน้า  10-13  โครงสร้างองค์กร  เมื่อมาดูลึกๆแล้วก็ให้ตกใจเป็นอย่างมาก  เพราะบริษัทนี้  แตกตัวออกเป็นบริษัทย่อยๆอีกเพียบ  ถ้าคุณอยากรู้ความเคลื่อนไหวของบริษัทนี้จริงๆล่ะก็  วันๆคุณไม่ต้องไปทำอะไรแล้ว  คุณต้องคอยเช็คบริษัทลูกที่มีอยู่ทั้งหมด  ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก  แต่ถ้าคุณไม่ต้องการเช็คทั้งหมดก็ได้  เพราะตอนนี้เรารับรู้มาแล้วว่า  หน่วยงานที่มีรายได้กับบริษัทมากที่สุดคือกลุ่มสารสนเทศและโทรคมนาคม  คุณก็โฟกัสลงไปที่หน่วยงานนี้เลยก็ได้  แต่กลุ่มสารสนเทศและโทรคมนาคมก็มีบริษัทลูกอีกเพียบ  คำถามก็คือว่า  คุณรู้จักบริษัทพวกนี้ทั้งหมดหรือไม่?  และคุณจะรู้ไหมว่าเมื่อไหร่ที่บริษัทพวกนี้จะได้งานหรือไม่ได้งาน  ถ้าคุณไม่รู้  การลงทุนนี้ก็ยากที่จะติดตามได้  และไหนจะเป็นงานตามข้อ  1.3  อีกล่ะ(กลุ่มธุรกิจงานโครงการ)  ว่ากันตามตรงแล้ว  ผมไม่ชอบบริษัทที่ทำธุรกิจแบบรับเหมาหรืองานโครงการเลย  เหตุผลก็เพราะว่า  งานพวกนี้มันเหมือนตำข้าวสารกรอกหม้อ  เวลาไม่มีงานก็ไม่มีรายได้  งานพวกนี้มันก็เลยรายได้ไม่แน่นอน  ถ้าวันไหนไม่มีงานทำ  รายได้ก็คงจะหดตัวลง  และเมื่อเรามาดูเฉพาะกลุ่มธุรกิจงานโครงการอีกก็จะเห็นว่า  มีบริษัทลูกอีกบานตะเกียง  แล้วเราจะรู้ความเคลื่อนไหวของทั้งหมดได้อย่างไร  และถ้าดูให้ดีในหน้า  10  ที่บรรทัดล่างสุดเขาบอกว่า  ทั้งข้อ  1.1 , 1.2  และ  1.3  นั้น  งานส่วนใหญ่เป็นงานโครงการ  ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า  รายได้หลักของบริษัท  กระจุกตัวอยู่แต่ในงานโครงการเท่านั้น

     หน้า  20  แผนภาพธุรกิจ  เมื่อมองเข้าไปถึงสินค้าของบริษัทก็พบว่า  ทำธุรกิจหลากหลาย(มั่วได้ใจจริงๆ)  มีทั้งน้ำมันพืชกุ๊ก  นมหนองโพ  ถั่วกรีนนัท  ปลากระป๋องซีเล็ค  ชาระมิงค์  ผลไม้กระป๋องมาลี  กูลิโกะ  น้ำมันคาสตรอลและบีพี  ทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น  ทำธุรกิจ รปภ.  ทำภาพยนตร์  ขายมือถือโซนี่,แอปเปิ้ล,โมโตโรล่า  การให้บริการเช่าอาคารสำนักงาน  เช่าพื้นที่ป้ายโฆษณา  งานบริการรักษาความสะอาด  งานก่อสร้าง  ขายเคมีภัณฑ์  ขายอาหารกุ้ง  ฯลฯ  และเมื่อมองสินค้าที่ขายแต่ละอย่างนั้น  จะเห็นได้ว่าไม่มีสินค้าอะไรที่เป็นของตัวเองเลย  รับเขามาขายทั้งนั้น  แถมยังไม่พอ  สินค้าพวกนี้ก็ไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างสักเท่าไหร่  รายได้มันก็เลยเรื่อยๆ

     หน้า  21-44  เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจของบริษัท  อ่านกันให้ตายไปเลยครับ  รู้เรื่องบ้าง  ไม่รู้เรื่องบ้าง  แต่ที่เป็นประเด็นจริงๆของหุ้นตัวนี้ก็คือ  ทุกวันนี้นักลงทุนต่างก็มีความหวังกับโครงการหวยออนไลน์กันมาก  โดยเข้าใจว่า  เมื่อบริษัทได้ทำหวยเมื่อไหร่  กำไรคงกระฉูด  แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ  ดูที่หน้า  40  ครับ  มีคำอธิบายของทางบริษัทไว้ว่า  บริษัทที่เป็นผู้รับดำเนินการเรื่องเกมสลากนั้นคือบริษัทล็อกซเล่ย์  จีเท็ค  เทคโนโลยี  ซึ่งเมื่อเรามองย้อนกลับมาดูที่หน้า  13  ก็จะเห็นได้ว่า  บริษัทล็อกซเล่ย์  จีเท็ค  เทคโนโลยีนั้น  เป็นส่วนเล็กๆแค่ส่วนหนึ่งของบริษัทล็อกซเล่ย์เท่านั้นเอง  เนื่องจากเป็นการร่วมทุนกับบริษัทอื่น  โดยส่วนของบริษัทล็อกซเล่ย์เองมีสัดส่วนการถือหุ้นนั้นเพียงแค่  35  %  เท่านั้น  ทีนี้ถ้าบริษัทล็อกซเล่ย์ได้ทำหวยออนไลน์จริง  รายได้ที่เข้ามาก็เพียงแค่  35  %  ตามจำนวนเงินที่ร่วมทุน  และรายได้จากหวยที่เข้ามานั้น  ยังต้องนำมาคำนวณรวมกับรายได้ที่มาจากทางอื่นอีก  ถ้าสมมุติว่ารายได้จากกลุ่มใหญ่ที่สุดตกลง(งานโครงการ)  รายได้โดยส่วนใหญ่ก็คงโดนถัวลงมาเช่นกัน  ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว  การได้ทำหวยออนไลน์ก็คงไม่มีผลอะไรมากมายต่อบริษัทนี้นัก  เนื่องจากว่า  บริษัทนี้ทำธุรกิจหลายอย่างเกินไป  แต่ถ้าสมมุติว่าบริษัทนี้  ทำธุรกิจหวยออนไลน์เพียงอย่างเดียว  และไม่ได้ไปร่วมทุนกับใครด้วย  การวิเคราะห์ตัวบริษัทจะง่ายกว่านี้  และถ้าบริษัทได้ทำหวยออนไลน์เมื่อไหร่  ราคาหุ้นคงกระฉูดจนหยุดไม่อยู่แน่นอน  สรุปแล้วในมุมมองของผม  บริษัทนี้ยากเกินไปสำหรับผมครับ  ผมจะไม่ลงทุนกับหุ้นตัวนี้  ไม่ว่าจะได้ทำหวยหรือไม่ได้ทำก็ตาม  แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นผลกระทบจากเหตุการณ์นี้นั่นก็คือ  ถ้าบริษัทนี้ได้ทำหวยจริง  7-11  จะได้ประโยชน์ไปด้วยโดยไร้ความเสี่ยง  เพราะเคยมีข่าวออกมาว่า  ถ้าบริษัทล็อกซเล่ย์ได้ทำหวยเมื่อไหร่  ก็คงจะเอาเครื่องไปวางตาม  7-11  ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง  7-11  ก็จะได้ค่าวางเครื่อง  ยิ่งวางมาก  7-11  ก็ได้ค่าวางมาก  ดีจริงๆ...เสร็จหุ้นผมอีกแล้ว
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #536 เมื่อ: วันที่ 04 พฤษภาคม 2012, 08:25:16 »

หุ้น cpall วันนี้ลงแรงดีจริงๆ น่ารับที่ราคาเท่าไรดีครับ  อยากมากๆ หุ หุ

  สำหรับผม ณ ตอนนี้สำหรับหุ้น CPALL และราคานี้  ผมไปเล่นตัว SPC,SPI ดีกว่าดูมีอนาคตกว่าเยอะ ได้หลายอย่างด้วย   ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม

ปล.รู้มั้ยว่า 108 Shop ไม่มีสาขาเยอะเพราะอะไร  คิดให้มากๆ นะนักลงทุน  55+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 04 พฤษภาคม 2012, 09:05:26 โดย Temujin » IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
pkai69
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 34


« ตอบ #537 เมื่อ: วันที่ 04 พฤษภาคม 2012, 10:05:53 »

หุ้น cpall วันนี้ลงแรงดีจริงๆ น่ารับที่ราคาเท่าไรดีครับ  อยากมากๆ หุ หุ

  สำหรับผม ณ ตอนนี้สำหรับหุ้น CPALL และราคานี้  ผมไปเล่นตัว SPC,SPI ดีกว่าดูมีอนาคตกว่าเยอะ ได้หลายอย่างด้วย   ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม

ปล.รู้มั้ยว่า 108 Shop ไม่มีสาขาเยอะเพราะอะไร  คิดให้มากๆ นะนักลงทุน  55+
  สนใจอยู่เหมือนกันนะ รอจังหวะอยู่ครับ 555+
IP : บันทึกการเข้า
pkai69
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 34


« ตอบ #538 เมื่อ: วันที่ 04 พฤษภาคม 2012, 10:12:19 »

หุ้น cpall วันนี้ลงแรงดีจริงๆ น่ารับที่ราคาเท่าไรดีครับ  อยากมากๆ หุ หุ

ท่านต้องทราบด้วยนะครับ ว่าที่มันลง เพราะอะไร
หุ หุ รอจังหวะเข้าเสียบถ้าราคาสมเหตูสมผล รอบที่ผ่านมามัวแต่ง้างไม่ได้ฟันพอจะฟันแล้วหนี รอหุ้นที่ปันผลเข้า 22 พ ค ก่อนค่อยดูเชิงอีกที
IP : บันทึกการเข้า
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #539 เมื่อ: วันที่ 08 พฤษภาคม 2012, 15:56:00 »

ฉีกตำราเกี่ยวกับค่า  PE  (สำหรับมืออาชีพ)
     ผมเชื่อว่ามีไม่กี่คนที่มีความคิดเหมือนผมเกี่ยวกับค่า  PE  เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วเรารู้จักค่า  PE  มาจากการศึกษาและการบอกต่อหรือมันเป็นเครื่องมือที่นิยมใช้กันในตลาด  แต่ทีนี้จากการสังเกตการณ์ของผมเองกลับพบว่า  การประเมินด้วยวิธีนี้มันมีจุดอ่อน  เวลาเราจะใช้เครื่องมือชนิดนี้(PE)  เราไม่ควรปักใจเชื่อว่ามันเป็นมาตรวัดเดียวหรือมีมาตรฐานเดียวในการที่ต้องใช้มัน  PE  พวกนี้มันเป็นแค่ตัวช่วยหนึ่งในการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น  เนื่องจากว่าแต่ละบริษัทที่อยู่ในตลาด  ไม่สามารถใช้ค่า  PE  ร่วมกันได้  แม้ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมที่เหมือนกันเปี๊ยบก็ตาม  และอีกหนึ่งอย่างที่เราควรรู้ก็คือ  ตัวเลขของค่า  PE  นั้น  “ไม่ถูกต้องเสมอไป”  ยิ่งถ้าหากว่าเราต้องคาดการณ์ไปในอนาคตเกี่ยวกับหุ้นของบริษัทที่ต้องเติบโตด้วยแล้ว  การกำหนดให้ค่า  PE  นั้นถูกต้องจะเป็นเรื่องที่ยากมาก  และมีบางอย่างที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ  ค่า  PE  ที่เรามองมันอยู่บ่อยๆ  บางทีมันกลับเป็นตัวที่ทำให้เราปอดแหกเสียเองเช่น  ค่า  PE  ของบางบริษัทมีค่าสูงมาก  เราก็จะไม่สนใจมัน  ไม่ว่ามันจะสามารถโตได้อย่างน่าตื่นเต้นแค่ไหนก็ตาม  เพราะคนโดยส่วนใหญ่จะมีความคิดหรือถูกเสี้ยมมาว่า  จะซื้อทั้งทีต้องของถูกเท่านั้น  ใครซื้อแพง...โง่  ซึ่งในส่วนของประเด็นนี้ที่ว่า  หุ้นที่มีค่า  PE  สูงจะทำให้ระยะเวลาในการคืนทุนนานนั้นท่านว่าจริงหรือไม่  เดี๋ยวเรามาพิสูจน์กัน

     เมื่อไม่กี่วันมานี้  มีมหกรรมติดดอยกันยกใหญ่จากหุ้น  7-11  พ่อเลี้ยงเกิดมาในตลาดกันเพียบ(ซื้อดอยเป็นลูกๆ)  ตอนที่หุ้นพุ่งขึ้นไปจนถึงราคา 44  บาท  มันน่าตกใจมากที่ค่า  PE  ของ  7-11  ขึ้นไปถึง  50  เท่า  ถ้าค่า  PE  ที่มันเป็นอยู่ในขณะนี้เกิดขึ้นกับหุ้นที่อิ่มตัวแล้ว  นั่นจะหมายความว่า  คุณต้องถือหุ้นนั้นไปอีก  50  ปีจึงจะคืนทุน!!!  แต่คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่านี่มันไม่ใช่หุ้นอิ่มตัว  มันเป็นหุ้นเติบโตสูง  เพราะฉะนั้นแล้ว  มันจะไม่ใช่  50  ปีอย่างที่พ่อเลี้ยงทุกคนคิด  แล้วคำถามที่ตามมาก็คือ  มันต้องถือไปอีกกี่ปีล่ะ  งั้นดูตามตัวเลขประมาณการของผมได้

     ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนสักเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวเลขต่างๆที่จะเอามานำเสนอ  ในปีที่ผ่านมา  7-11  ทำกำไรไปได้หุ้นละ  1.78  บาท  แต่เมื่อนำมาหารสองตามจำนวนของหุ้นที่จะเพิ่มขึ้นมาในอัตรา  1:1  กำไรต่อหุ้นก็จะลดลงเหลือ  0.89  บาทต่อหุ้น  และถ้าคุณเกิดเข้าไปซื้อตอนที่หุ้นมันราคา  44  บาท  นั่นก็จะเท่ากับว่า  44  /  0.89  =  PE   49.43  สิ่งนี้มันจะน่าตกใจหากหุ้นนั้นไม่โตแล้ว  เพราะคุณต้องถือหุ้นไปจนหงำเหงือกกว่าจะได้เงินคืนมา  แต่...แต่น  แตน  แต๊น  นี่คือ  7-11  ก๊าบ..บบ  มันสามารถโตได้ปีละ  20  %  (จากที่มันเคยเป็น)  และตลาดจะให้ค่า  PE  สำหรับตัวมัน  30  (จากที่มันเคยเป็น)  แล้วเราลองมาดูกันว่า  คุณต้องถืออีกกี่ปี  (นี่เป็นการประมาณการเท่านั้น)


กำไรต่อหุ้น               ราคาที่คุณเข้าซื้อ     ค่า  PE  ของคุณ     ราคาที่ควรจะเป็น
(ถ้ามันโตปีละ  20  %)                           จะเท่ากับ             หากตลาดให้ค่า PE 30
0.89                             44                   49.43                        26.70
1.068                           44                   41.19                        32.04
1.28                             44                   34.37                        38.4
1.53                             44                   28.75                        45.9

     เมื่อได้ดูแล้วเห็นอะไรบ้างครับ  จากประมาณการดังกล่าว  คุณต้องถือหุ้นเพียงแค่  4  ปีเท่านั้นจึงจะคืนทุน  ไม่ใช่  49  ปีตามตัวเลขในตอนแรก  เพราะถ้าบริษัทมันโตได้เรื่อยๆ  ค่า  PE  มันก็จะลดลงมาเอง  และเมื่อค่า  PE  ลดลงมา  ตลาดก็จะไล่ราคาขึ้นไปให้มันเหมาะสมใหม่  ดังนั้นในปีที่  4  ทุนคุณก็คืนมาพร้อมกับกำไรอีกนิดหน่อยแล้ว  นี่ยังไม่ได้นับรวมเงินปันผลที่คุณจะได้ระหว่างติดหุ้นอยู่อีกนะ  ถ้าปันผลกันมาทุกปีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  คุณก็จะคืนทุนไวขึ้น  เหมือนผมสมัยที่เข้าซื้อ  7-11  ในตอนแรกๆ  ตอนนั้นหุ้นราคายี่สิบกว่าบาทและค่า  PE  30  ช่วงนั้นใครก็บอกว่าหุ้นแพง  ต้องถือตั้ง  30  ปีจึงจะคืนทุน  แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน  ไอ้ที่บอกว่าต้องถือกัน  30  ปี  กลับกลายเป็นว่าถือแค่ไม่เท่าไหร่กำไรบานเบอะ  แต่นี่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะใช้ได้กับหุ้นทุกตัวหรอกนะ  เพราะแต่ละตัวจะมีการเติบโตที่ไม่เท่ากัน  ถ้าคุณติดหุ้นตัวอื่นอยู่  ก็ต้องไปนั่งคำนวณเอาเองแล้วล่ะ  แต่ผมคาดว่าคนที่ติดดอยส่วนใหญ่  คงจะไม่มานั่งคำนวณให้เสียเวลาหรอก  สู้ขายทิ้งเอาเงินกลับคืนมาง่ายกว่า  ทำไมถึงเป็นงั้นน่ะเหรอ  ก็ถ้าเขาคำนวณเก่งจริง  เขาคงไม่เข้าไปติดหุ้นตั้งแต่ทีแรกแล้วล่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 08 พฤษภาคม 2012, 15:58:41 โดย วายุ » IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
หน้า: 1 ... 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 [27] 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 ... 41 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!