----[ จำหน่ายมูลไส้เดือน 100%, น้ำหมักมูลไส้เดือน และชุดทดลองเลี้ยงไส้เดือน ]----

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #117

ถั่วพร้า

ถั่วพร้า เป็นพืชที่ได้รับความสนใจในปัจจุบัน เพราะให้ธาตุไนโตรเจนในปริมาณสูง มีการนำมาทำเป็นปุ๋ยพืชสดที่ภาครัฐให้การสนับสนุนเนื่องจากสามารถเพาะปลูกได้ง่าย มีค่าใช้จ่ายต่ำ และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยฝักอ่อนและเมล็ดอ่อนสามารถนำมาทำเป็นอาหารสัตว์ได้ สำหรับเมล็ดที่โตเต็มที่ต้องทำการชำระพิษโดยลอกผิวหุ้มเมล็ดออกแล้วต้มถ่ายน้ำหลาย ๆ ครั้ง หรือใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดินและเพิ่มไนโตรเจนให้กับดิน และปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยเพื่อสกัดเมล็ดมาเป็นส่วนประกอบของยารักษาโรคและเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง

ข้อมูลโดย >> http://www.farmthailand.com/webboard/forum.php?mod=viewthread&tid=229&extra

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 118

หน่อไม้ฝรั่ง สารอาหารเพียบ

นักโภชนาการ จากวิทยาลัย เซนต์ แมรี โดมินิกัน ประเทศสหรัฐอเมริกา บอกว่า หน่อไม้ฝรั่งประมาณ 1 ขีดครึ่ง (150 กรัม) ให้กรดโฟลิก ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการทั้งหมดของร่างกายใน 1 วัน เป็นแหล่งอาหารที่ดีของวิตามินบี 6 วิตามินบี 1 วิตามินเอ วิตามินซี โพแทสเซียม และใยอาหาร ทั้งยังให้พลังงานต่ำอีกด้วย

ทำไมกินหน่อไม้ฝรั่งจึงป้องกันเบาหวานได้ เพราะนักวิจัยจาก University of Ulster ประเทศไอร์แลนด์ ค้นพบว่า การกินหน่อไม้ฝรั่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ โดยผลการค้นพบนี้จะมีการวิจัยต่อยอดเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการรักษาโรคเบาหวานต่อไป

ส่วนเหตุผลที่ว่า ทำไมหน่อไม้ฝรั่งจึงป้องกันมะเร็งได้ เพราะผักชนิดนี้มีวิตามินบี 6 และกรดโฟลิกสูง ซึ่งจากรายงานวิจัยในวารสาร The Journal of the American Medical Association ระบุว่า วิตามินบี 6 กรดโฟลิก และกรดอะมิโนเมไทโอนีน สามารถช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอดลงได้มากถึง 2-3 เท่า (สำหรับกรดอะมิโนเมไทโอนีนพบได้ทั่วไปในถั่วและโยเกิร์ต)

ทั้งนี้นักวิจัยจากสถาบันป้องกันมะเร็ง (The Institute for Cancer Prevention; IFCP) ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โปรตีนกลูตาไธโอน ในหน่อไม้ฝรั่ง มีประสิทธิภาพเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายจึงช่วยป้องกันการลุกลามของมะเร็ง

กินผักคุณภาพเยี่ยม แล้วต้องหมั่นออกกำลังกายด้วยนะคะ เพื่อป้องกันเบาหวานและมะเร็งไม่ให้มาทำร้ายเราได้

Credit: ชีวจิต

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 119

"สาวร้อยผัว" หรือ "รากสามสิบ"

เป็นสมุนไพรไทยที่มีรสหวานเย็น แฝงไปด้วยสรรพคุณขนานเอก บำรุงเครื่องเพศในสตรี นิยมนำส่วนของใบอ่อน ยอดอ่อน ผลอ่อน ซึ่งมีกลิ่นหอมคล้ายผักชีลาว มารับประทานเป็นผัก และนำส่วนของรากที่มีลักษณะคล้ายกระชาย แต่มีขนาดใหญ่ และยาวกว่าทั้งยังมีกลิ่นหอม มาใช้ดองยาสมุนไพร บำรุงกำลังในสตรีด้วย

สรรพคุณที่สอดคล้องกับชื่อที่เรียกขานกันว่า "สาวร้อยผัว" ที่สื่อความหมายได้ว่า ไม่ว่าสาวใด อายุเท่าไหร่ อยู่ในวัยมีประจำเดือน หรือหมดประจำเดือนก็ตาม หากได้ทานหัวพืชชนิดนี้เป็นประจำ จะช่วยทำให้ดูเป็นสาวกว่าวัย มีพลังทางเพศ และยังช่วยเพิ่มขนาดของหน้าอก ด้วยวิธีการนำรากสดมาต้มกิน หรือจะนำรากไปตากแห้ง แล้วนำมาบดเป็นผงปั้นเป็นลูกกลอนผสมกับน้ำผึ้งกินก็ได้เช่นกัน ตามตำราอายุรเวท มีการใช้รากสามสิบเป็นสมุนไพรหลักสำหรับบำรุงในเพศหญิง ช่วยทำให้ผู้หญิงกลับมาเป็นสาวได้อีกครั้ง

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/1qKXuvx

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #120

”วิธีการกำจัดมด” 7 วิธีมาฝากเพื่อนๆ ได้เลือกใช้ตามสะดวกค่ะ

-วิธีที่ 1 : น้ำสบู่ช่วยกำจัดมด...นำน้ำยาล้างจานมาใส่ขวดสเปรย์ไว้ 1 ช้อนชา และเติมน้ำลงไป เขย่าให้เข้ากันหรือผสมน้ำมันมินท์ น้ำมันผิวส้ม หรือผิวส้มลงไปในน้ำด้วยก็ได้ แล้วนำไปฉีดบริเวณรังมดหรือทางเดินของมด
-วิธีที่ 2: เปลือกไข่ไล่มด…นำเปลือกไข่มาเผาไฟแล้วไปวางไว้ที่ๆมดเดินผ่าน
-วิธีที่ 3 : ใช้พริกไล่มด…นำพริกแห้งป่นละเอียด 100 กรัม ผสมน้ำ 1 ลิตร หมักทิ้งไว้ 1 คืน กรองเอาแต่น้ำ นำมาผสมน้ำสบู่ 1 : 5 ส่วน ใช้ฉีดพ่น ทุก 7 วัน ควรทดลองแต่น้อย ๆ ก่อน และใช้อย่างระมัดระวังเพราะอาจเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ หรือนำใบและดอกของพริกมาคั้นผสมน้ำไปฉีดพ่น เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส โดยฉีดก่อนที่จะมีการระบาดของไวรัส
-วิธีที่ 4 : พริกป่นปิดรูมด...ให้โรยพริกป่น สะระแหน่แห้ง กากกาแฟ ตามบริเวณที่มดเดินหรือบีบมะนาวตามรูเข้าของมด อาจจะทิ้งเปลือกมะนาวไว้ตรงนั้น หรือไม่ก็ปลูกสะระแหน่ไว้รอบบ้าน มดจะไม่กล้าเข้าใกล้
-วิธีที่ 5: น้ำมันก๊าดกันมด...หาเศษผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาตัดเป็นชิ้น ๆ ความยาวพอประมาณ ชุบกับน้ำมันเครื่องพอหมาดหรือจาระบี แล้วนำมาพันรอบขาตู้หรือโต๊ะหรือใช้ปูนขาวใส่ภาชนะรองที่ขาตู้ และหากพบมดไต่ขึ้นมาตามรอยแตกร้าวของคอนกรีตให้ใช้น้ำมันก๊าดเทลงไปในร่องก็ได้ค่ะ
-วิธีที่ 6 : ไล่มดด้วยขมิ้น…ให้เอาขมิ้นพอสมควรมาตำจนละเอียด จากนั้นเทน้ำมันก๊าดผสมลงไป กวนให้ข้นๆ นำขมิ้นพสมน้ำมันก๊าดไปโรยบริเวณที่มีมด มดจะหนีหายไปหมด
-วิธีที่ 7 : ใช้สารส้มกันมด…นำสารส้มมาละลายในน้ำอุ่นที่เราต้มไว้ จากนั้นนำไปราดในบริเวณที่มดเดินผ่าน แต่วิธีนี้ใช้ได้ดีสำหรับมดดำเท่านั้นนะเพราะมันจะกลัวสารส้ม และจะไม่มาบริเวณนั้นอีก

***เพียงเท่านี้เพื่อนๆก็สามารถกำจัดมดออกจากบ้านได้แล้วค่ะ สำหรับใครที่มีวิธีการกำจัดมดแบบอื่น อย่าลืมนำมาแบ่งปันกันบ้างนะคะ***

ขอบคุณข้อมูลจาก Maeban

[Ck 401]

ชอบกระทู้นี้ครับ ถ้าดันแบบบนี้
ผมจะไม่ว่าสักคำ ผมไม่สดวกที่จะอ่านทุกหน้า
แต่ชอบที่นำเสนอในแนวทางสร้างสรรค์แบบนี้ครับ
 มีโอกาสคงได้ไปเยือนฟาร์มสักครั้ง ไปศึกษาเรียนรู้ครับ

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

ชอบกระทู้นี้ครับ ถ้าดันแบบบนี้
ผมจะไม่ว่าสักคำ ผมไม่สดวกที่จะอ่านทุกหน้า
แต่ชอบที่นำเสนอในแนวทางสร้างสรรค์แบบนี้ครับ
 มีโอกาสคงได้ไปเยือนฟาร์มสักครั้ง ไปศึกษาเรียนรู้ครับ

ขอบคุณนะค่ะ ที่ชอบกระทู้นี้ ทางฟาร์มของเรา มุ่งหวังที่จะให้คนทุกกลุ่มที่เข้ามาเยี่ยมชมอ่านกระทู้นี้ได้รับความรู้ โดยให้เกิดประโยชน์กับผู้อ่านให้มากที่สุดค่ะ หวังว่าทุกท่านคงชอบนะค่ะ

ยังไงถ้าคุณ Ck 401 จะเข้ามาเยี่ยมชม ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงไส้เดือนเพื่อเกษตรกรรม ทางฟาร์มยินดีถ่ายทอดความรู้ต่างๆ ให้นะค่ะ (ฟรี!!! ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ)

แต่ !!! รบกวนโทรมานัด สอบถามวัน เวลา หน่อยนะค่ะ ที่เบอร์ 084-5456163 นะค่ะ
เพราะทางฟาร์มเราไม่สะดวกจะให้ความรู้ได้ทุกวันค่ะ จะว่างเฉพาะวันอาทิตย์ทั้งวันนะค่ะ

ขอบคุณค่ะที่เข้ามาติชม แนะนำในเรื่องกระทู้นี้

ออย
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
Tel.084-5456163

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #121

เมล็ดฟักทอง

เมล็ดเล็กๆแต่คุณค่าไม่แพ้ผลฟักทองลูกโตๆ...เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีผลดีต่อการทำงานของตับ จึงถูกแนะนำให้เป็นอาหารกินหลังการล้างพิษตับ หาซื้อง่าย บริโภคง่าย ไม่ซับซ้อน รสชาติหวานๆมันๆถูกปากหลายคน และราคาไม่แพง

สารอาหารในเมล็ดฟักทองที่มีประโยชน์ต่อตับนั้น ประกอบด้วย โปรตีนซึ่งถือว่าเมล็ดฟักทอง"มีโปรตีนมากรองลงมาจากถั่วลิสง" มีไขมันต่ำ ให้ธาตุเหล็กสูง มีแร่ธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี ซิลิเนียม วิตามินเอ และมีใยอาหารอีกด้วย

นอกจากนั้นเมล็ดฟักทองยังช่วยลดไขมันในเส้นเลือด เพราะไขมันในเมล็ดฟักทองเป็นกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว จึงช่วยลดไขมันในเส้นเลือด แก้โรคหลอดเลือดอุดตันได้ ช่วยให้ต่อมลูกหมากทำงานเป็นปกติ เพราะมีแร่ธาตุสังกะสี ที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตทั่วไป และการพัฒนาของอวัยวะสืบพันธุ์ ตลอดจนการทำงานตามปกติของต่อมลูกหมาก แร่ธาตุฟอสฟอรัสที่มีอยู่มากก็ช่วยยับยั้งการเกิดผลึกนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้

และหากกินเมล็ดฟักทองในขณะท้องว่างวันละสองครั้งก็จะช่วยขับพยาธิตัวตืด พยาธิเส้นด้าย พยาธิตัวกลม พยาธิใบไม้ได้อีกด้วย

ส่วนสิ่งที่เป็นสัญญาณที่บอกว่าตับของคุณมีสารพิษมาก คือ รอยคล้ำใต้ตา ผิวซีดเหลือง ตาเหลือง ลิ้นเป็นฝ้าเหลือง ปวดหัว ปวดข้อ ท้องอืด วิงเวียน ขี้เกียจ หงุดหงิด อารมณ์เสีย ฯลฯ

Credit :www.manager.co.th และเนื้อหาบางส่วนจาก OKnation

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #122

แกงจืดตำลึง

“แกงจืดตำลึง” เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย เป็นอย่างยิ่ง ตำลึงเป็นผักข้างรั้วที่ขึ้นง่าย ปลอดสารพิษ เก็บกินได้ตลอดปี

มีการศึกษาวิจัยถึงประโยชน์ของตำลึงค่อนข้างมาก การวิจัยของสถาบันโภชนาการพบว่าตำลึง เป็นผักที่มีเบต้าแคโรทีนสูง เป็นแหล่งของวิตามินเอที่ดีมาก นั่นหมายถึงว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ขณะเดียวกันสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ที่ช่วยในเรื่องของภูมิต้านทาน ช่วยในเรื่องของการมองเห็น

มีงานวิจัยที่พบว่า ตำลึง เป็นแหล่งของสารฟลาโวนอยด์ที่ดีแล้วก็สามารถช่วยในการป้องกันโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน หรือว่าโรคมะเร็งได้

และจากการศึกษาวิจัยยังพบว่าตำลึงสามารถช่วยลดน้ำตาลได้

สถาบันโภชนาการเอง ก็วิจัยพบว่า ตำลึงมีแคลเซียมค่อนข้างสูง และแคลเซียมที่อยู่ในตำลึง ร่างกายสามารถดูดซึมเอาไปใช้ได้เทียบเท่ากับแคลเซียมที่อยู่ในนม เพราะฉะนั้นในผู้ที่ไม่สามารถดื่มนมได้ เนื่องจากแพ้นม หรือดื่มนมแล้วท้องเสีย ก็หันมากินตำลึงให้มากขึ้น ก็จะช่วยให้ได้รับแคลเซียมไปช่วยในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ซึ่งก็เหมาะทั้งเด็กและผู้สูงอายุที่ต้องการแคลเซียมมากกว่าวัยอื่นๆ

ข้อควรระวัง สำหรับผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบและต้องควบคุมปริมาณกรดยูริคในร่างกาย ผักตำลึงจัดเป็นอาหารที่ควรจำกัด กินได้แต่ไม่ควรกินบ่อยครั้งจนเกินไป เพราะมีสารพิวรีนในระดับปานกลาง (มูลนิธิโรคข้อในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี)

Credit : www.inmu.mahidol.ac.th

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #123

น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์คุณก็ทำได้

น้ำมันมะพร้าวที่สกัดแบบเย็น โดยไม่ต้องใช้ความร้อนในการเคี่ยวหรือสกัด จะได้น้ำมันมะพร้าวที่ใสบริสุทธิ์ มีองค์ประกอบของสารทุกชนิดที่มีอยู่ในเนื้อมะพร้าว และไม่เปลี่ยนสภาพเนื่องจากความร้อน ใช้สำหรับบำรุงผิวหนัง ป้องกันความร้อนจากแสงแดด ใช้หมักผมก่อนสระเพื่อรักษาเส้นผมให้สลวยสวยงามตามธรรมชาติ ทำให้ผมมีน้ำหนัก ใช้เป็นน้ำมันพื้นฐาน (base oil) ในการผสมน้ำมันสำหรับนวดในสปาร์ ใช้รักษาน้ำร้อนลวก ไม่ให้เป็นแผลเป็น

วิธีการทำ
1. ใช้กะทิสด บีบกะทิใส่ในถุงหรือขวดโหล ตั้งทิ้งไว้ไม่เกิน 3 วัน
2. น้ำมันในกะทิจะแยกตัวออกมาจากน้ำ
3. แยกน้ำมันที่ลอยอยู่ด้านบน ออกจากน้ำที่จมอยู่ด้านล่าง
4. กรองน้ำมันที่ได้ จะได้น้ำมันที่ใส เหมือนน้ำบริสุทธิ์
5. เก็บไว้ในภาชนะสี ให้เต็มขวด
6. หากต้องการเก็บไว้นานๆ ควรเก็บไว้ในตู้เย็น น้ำมันจะเป็นไข สีขาวๆ เมื่อจะนำมาใช้ ให้ตั้งไว้จนน้ำมันละลาย
อ่านแล้วอาจไม่เชื่อลองดูครับ ทิ้งไว้แล้วมันจะแยกชั้นจริงๆ ง่ายๆ แค่นี้แต่เขาเอามาขายเราแพงแสนแพง

บล็อกของ sothorn

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #124

แตงกวามีดีกว่าที่คุณคิด

ผักที่ดูธรรมด๊า..ธรรมดาที่พบเห็นได้ทั่วไปอย่างแตงกวา ใครจะรู้ว่าจะมีประโยชน์มากมายและถือเป็น “Super food” อีกชนิดที่แนะนำให้รับประทาน ลองมาดูคุณประโยชน์ของแตงกวาว่ามีดีอะไร ทำไมเราควรรับประทาน…

- หากคุณดื่มน้ำน้อยการรับประทานแตงกวาช่วยคุณได้เพราะแตงกว่าประกอบด้วยน้ำถึง 90 เปอร์เซ็นต์ มันสามารถชดเชยน้ำที่คุณขาดได้
-แตงกวานั้นช่วยลดความร้อนหากมีอาการร้อนในการรับประทานแตงกว่าจะ ช่วยลดความร้อนภายในร่างกายได้ หรือเมื่อเกิดอาการผิวหนังโดนแดดเผา นำแตงกวาฝานเป็นแว่นบางๆมาวางบริณผิวหนังที่ถูกแดดเผาจะช่วยบรรเทาอาการได้
-แตงกวาช่วยขับสารพิษ น้ำในแตงกว่าจะช่วยขับสารพิษในร่างกายแล้ว การกินแตงกวายังจะช่วยละลายนิวในไตได้ด้วย
-แตงกวามีวิตมินที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันแตงกวาจะช่วยให้ระบบภูมิ คุ้มกันแข็งแรง ทั้งยังมีวิตมินซีช่วยเรื่องผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง
-แตงกวามีโพสแทสเซียมสูง และมีแมกนีเซียม โพสเตสเซียม จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมสปาหลายแห่งจึงนิยมใช้แตงกวาเป็นทรีตเมนต์พื้นฐาน
-แตงกวาช่วยในการเผาผลาญและลดน้ำหนักได้ เพราะแตงกว่าประกอบด้วยน้ำซะส่วนใหญ่ทำให้มันมีแคลอรี่ต่ำ สำหรับผู้กำลังลดน้ำหนักการรับประทานเมนูแตงกวา อย่างนำมาประกอบสลัดหรือจะรับประทานแทนขนม โดยนำมาหั่นเป็นแท่งจิ้มโยเกิร์ตหรือโรยเกลือแล้วแช่เย็นก่อนรับประทานก็ เป็นเมนูที่ดีไม่ใช่น้อย ทั้งแตงกวายังมีกากใยช่วยปัญหาท้องผูกได้อีกด้วย
-แตงกวาช่วยลดการอักเสบ ผู้ที่มีถุงใต้ตาบวมนำแตงกว่าฝานเป็นแว่นว่างไว้บริเวณที่ถุงใต้ตาจะช่วยลดอาการบวมได้
-แตงกวายังช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมากได้
-แตงกว่าช่วยผู้เป็นโรคเบาหวาน ลดคอเลสเตอรอลและควบคุมความดันโลหิต โดยแตงกวามีฮอโมนที่เซลล์ตับอ่อนใช้ในการผลิตอินซูลินซึ่งเป็นประโยชน์ต่อ ผู้ป่วยเบาหวาน ผลวิจัยพบว่าสารประกอบในแตงกวาสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ ทั้งยังมีไฟเบอร์ โพแทสเซียม และแมกนีเซียม เป็นส่วนช่วยควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ แตงกวาจึงส่งผลดีแก่ผู้ที่มีความดันสูงหรือความดันต่ำ
-น้ำแตงกวาช่วยรักษาโรคเหงือกได้ นำแตงกวาฝานเป็นแว่นใช้ลิ้นดันไว้บนเพดานปากครึ่งนาที ช่วยฆ่าแบคทีเรียในปากที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้
-แตงกวาช่วยรักษาอาการเมาค้าง แนะนำหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ให้กินแตงกวาก่อนเข้านอน ลดอาการปวดหัวในตอนเช้า เพราะแตงกวามีวิตมินบีและน้ำตาลช่วยลดอาการเมาค้างได้


Credit : ASTV ผู้จัดการออนไลน์

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #125

เห็ดหอม...สรรพคุณและประโยชน์

เห็ดหอม จัดเป็นเห็ดราคาแพงโดยเฉพาะเห็ดหอมแห้งจะมีหลายเกรดเลยทีเดียว แต่วันนี้เราจะมาพูดถึง สรรพคุณของเห็ดหอม และ ประโยชน์ของเห็ดหอม เห็นหอมนั้น จะมีสองแบบคือ เห็ดหอมแห้ง กับ เห็ดหอมสด เห็ดหอมแห้งก็คือเห็ดหอมที่นำมาตากแห้งสามารถเก็บไว้ได้นานก่อนนำมารับประทานหรือปรุงอาหารต้องแช่น้ำก่อนจะเหมือนเห็นหอมสดเลย ส่วนเห็ดหอมสดก็คือเห็ดหอมที่ไม่ผ่านการตากแห้งแต่สามารถนำมาปรุงอาหารโดยไม่ต้องแช่น้ำ แต่...อย่าเข้าใจผิดว่าไม่ล้างน้ำนะ และเห็นหอมยังมีคุณค่าทางอาหารที่มากและยังมี สรรพคุณของเห็ดหอม และ ประโยชน์ของเห็ดหอม ที่จัดว่าเป็นสมุนไพรอีกด้วยนะค่ะ นั้นเรามาดู สรรพคุณของเห็ดหอม และ ประโยชน์ของเห็ดหอม กันเลยดีกว่า

สรรพคุณของเห็ดหอม
คนจีนใช้เห็ดหอมเป็นอายุวัฒนะรักษาหวัดทำให้เลือดลมดี แก้โรคหัวใจ ป้องกันการเติบโตของเนื้อร้าย ต้านพิษงู ป้องกันโรคเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคมะเร็ง โรคร้ายจากเชื้อไวรัส เห็ดหอมมีกรดอะมิโนชื่อ eritadenine ช่วยให้ไตย่อยโคเลสเตอรอลได้ดี มีสารเลนติแนน (Lentinan) ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเซลล์เนื้องอก

ประโยชน์ของเห็ดหอม
1.บำรุงสมอง เพิ่มความสดชื่น คึกคัก ลดคอเลสเตอรอล
2.ช่วยในระบบย่อยอาหาร ป้องกันหลอดเลือดแดงแข็งตัว
3.ต้านมะเร็ง รักษาหอบหืด ลดความเครียด ต้านไวรัส บำรุง
4.ระบบประสาท ช่วยให้หลับง่าย บำรุงปอด บำรุงหลอดลม
5.ชะลอความชรา ฯลฯ ควรบำรุงสุขภาพด้วยการนำเห็ดหอม มาปรุงอาหารทุก ๆ สัปดาห์เป็นประจำ โดยนำมาปรุงเป็นอาหารจานผัด ๆ ต้ม ๆ แต่ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากจนเกินไป

คุณค่าทางอาหารของเห็ดหอม
- เห็ดหอมสด 100 กรัม ให้พลังงาน 387 กิโลแคลอรี
ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 67.5 กรัม โปรตีน 17.5 กรัม ไขมัน 8.0 กรัม เส้นใย 8.0 กรัม วิตามินบี1 1.8 มิลลิกรัม วิตามินบี2 4.9 มิลลิกรัม ไนอะซิน 4.9 มิลลิกรัม แคลเซียม 98 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 476 มิลลิกรัม เหล็ก 8.5 มิลลิกรัม
- เห็ดหอมแห้ง 100 กรัม ให้พลังงาน 375 กิโลแคลอรี
ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 82.3 กรัม โปรตีน 10.3 กรัม ไขมัน 1.9 กรัม เส้นใย 6.5 กรัม วิตามินบี1 0.4 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.9 มิลลิกรัม ไนอะซิน 11.9 มิลลิกรัม แคลเซียม 12 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 171 มิลลิกรัม เหล็ก 4.0 มิลลิกรัม

Credit : http://www.n3k.in.th/

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #126

สายบัว-ไหลบัว

"บัว" ถือเป็นราชินีแห่งไม้น้ำ มีดอกสวยงามที่เราใช้บูชาพระ และนอกจากนั้นส่วนต่างๆของบัวก็ยังสามารถนำมาประกอบอาหาร เป็นของมีประโยชน์บำรุงร่างกายได้ดีอีกด้วย ส่วนประกอบของบัวที่หลายๆคนมักจะจำสับสน หรือเข้าใจผิดว่าเป็นสิ่งเดียวกันเสมอก็คือ "สายบัว" และ "ไหลบัว" โดยสายบัวนั้น คือก้านของดอกบัวสาย เวลานำมากินต้องลอกเปลือกนอกออกก่อน โดยสีของสายบัวจะออกสีน้ำตาล นิยมนำมาแกงต้มกะทิ กินสดๆหรือลวกจิ้มน้ำพริก ส่วนไหลบัวหรือหลดบัวนั้นเป็นหน่อของบัว หรือส่วนที่งอกขึ้นมาและจะเจริญเป็นลำต้นใหม่ต่อไป สีของไหลบัวจะเป็นสีขาว ไหลบัวที่เรานิยมนำมากินนั้นเป็นบัวหลวง หรือบัวบูชาพระ และจะมีความกรอบกว่าสายบัว นิยมนำมาทำแกงส้ม หรือผัดน้ำมันกับเนื้อสัตว์ต่างๆ คุณประโยชน์ของสายบัวและไหลบัวก็แตกต่างกันไป สายบัวจะช่วยลดอาการเกร็งของลำไส้และกระเพาะ ลดความเครียดทางสมอง บรรเทาอาการท้องผูก ขับปัสสาวะ ดับพิษร้อนในกาย ส่วนไหลบัวเป็นยารสเย็นจืด แก้อ่อนเพลียและบำรุงหัวใจ มีเส้นใยอาหารมาก จึงช่วยแก้โรคท้องผูกได้

Credit : http://www.thaihealth.or.th/

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #127

มาดูกันว่า การปลูกผักไว้ทานเอง จะมีประโยชน์อะไรบ้าง

Credit : Thaiheallthcenter

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #128

ข้าวไรซ์เบอรี่  (Rice Berry)

ข้าวที่มีสีดำมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ดีเนื่องจากมี สารจับอนุมูลอิสระ ทั้ง quinolone alkaloid, vitamin E, phytate, g-oryzonol, polyphenol และ anthocyanin อยู่สูง ในข้าวสีดำพันธุ์ไรซ์เบอรี่ พบว่า มีปริมาณ polyphenolic ถึง 752.1 mg/100g, anthocyanin 250.36 mg/100g และ beta carotene 63.3 ug/100g ซึ่งพบอยู่มากในส่วน pericarp สารทั้งสามชนิดมีความสัมพันธ์กับความสามารถ ในการต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะ polyphenolic ดังนั้นรำข้าวสีดำจึงเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ

กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังซึ่งรวมถึงโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 3 ของคนไทยในทุกกลุ่มอายุ อวัยวะสำคัญที่พบคือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด เต้านม และมะเร็งทางเดินอาหารอัตราตายด้วยโรคมะเร็งต่อประชากร 100,000 คน เพิ่มขึ้นจาก 12.6 คน เป็น 68.8 คน ในช่วงปี พ.ศ. 2510- 2544 (กระทรวงสาธารณสุข) อนุมูลอิสระของออกซิเจน หรือ reactive oxygen species (ROS) เกิดขึ้นได้จากกระบวนการปกติของร่างกายและเพิ่มขึ้นจากการอักเสบ การได้รับสารเคมีจากมลพิษ ยาบางชนิด การสูบบุหรี่หรือการได้รับรังสี ROS ทำให้เกิด ปฏิกิริยา lipid peroxidation ซึ่งส่งผลทำให้สารพิษสามารถเข้าไปทำให้เกิดความเสียหายกับเยื่อหุ้มเซลล์, โครงสร้าง DNA และ RNA ตลอดจนชีวโมเลกุลในเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่สำคัญของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหลายชนิดเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไต, โรคข้อ รวมทั้งโรคมะเร็ง

การศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่าการรับประทานผัก ผลไม้ รวมทั้งธัญพืช ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสามารถลดอัตราการเกิดโรคเรื้อรังดังกล่าวได้ นอกจากนี้การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหารหลายๆประเภทจะให้ผลในการป้องกันมากกว่าการได้รับจากแหล่งใดแหล่งหนึ่งเนื่องจากมีฤทธิ์สร้างเสริมกัน ธัญพืชให้สารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดซึ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อได้รับร่วมกับสารกลุ่มที่มาจากผักและผลไม้ โดยฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระในข้าวมาจากกลุ่มสารประกอบฟีนอล (Phenolic acid derivatives) พบได้มากในส่วนของรำข้าว

ประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ

จากการศึกษาพบว่าข้าวยิ่งมีสีม่วงเข้มมากประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระยิ่งมีมากขึ้นโดยมีค่าอยู่ระหว่าง 35.3 ถึง 214.7 umole/g จากการศึกษาด้วยวิธี ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity)โดยเฉพาะในรำข้าวเจ้าหอมนิลและรำข้าวไรซ์เบอรี่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูง ถึง 229 ถึง 304.7 umole/g และเมื่อนำข้าวสายพันธุ์ต่างๆ มาเปรียบเทียบกับน้ำผลไม้พร้อมดื่มหรือน้ำชาเขียว พบว่ามีประสิทธิภาพในการต้าน อนุมูลอิสระมาก กว่า เกือบ 100 เท่า สำหรับกระบวนการหุงต้มข้าวที่มีสีม่วงเข้ม ด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้า พบว่ามีผลทำให้ ประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระลดลงประมาณร้อยละ 50 หรือลดประสิทธิภาพลงประมาณครึ่งหนึ่งของข้าวดิบ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาแล้วข้าวสีม่วง ยังมีคุณภาพและมีประสิทธิสูงกว่าน้ำผลไม้พร้อมดื่ม หรือน้ำดื่มชาเขียวที่ขายตามท้องตลาด ซึ่ง ข้าวยิ่งสีเมล็ดมีความเข้มเท่าไรยิ่งทำให้มีผลในการต้านอนุมูลอิสระได้สูงขึ้นเท่านั้น และจากงานวิจัยพบว่า ข้าวกล้องพันธุ์ไรซ์เบอรี่และพันธุ์สินเหล็กเมื่อหุงสุกแล้ว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระเหลืออยู่ ไม่ได้ถูกความร้อนทำลายหมด จึงเป็นแหล่งอาหาร ที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระสูง การที่ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระพอเพียงต่อความต้องการในแต่ละวัน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และ โรคมะเร็งได้

ที่มา : ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว http://dna.kps.ku.ac.th/

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #129

ประโยชน์ของพริก และการกินเผ็ด(Rice Berry)

จากแหล่งข่าวทางโภชนาการกล่าวว่า พริก เป็นพืชที่มีประโยชน์จริงๆ ไม่ว่าความเผ็ดของพริกที่มาจากสาร "แคป ไซซิน" แล้วในเม็ดพริกยังมีวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียมและธาตุเหล็กอีกด้วย พริกจากเดิมที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ เดินทางมาสู่ประเทศไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นโดยชาวโปรตุเกสเป็นผู้ นำเข้ามา ว่ากันว่าพริกเม็ดจิ๋วที่มีรสเผ็ดจ๊ากนั้น มีประโยชน์หลากหลายเสียด้วย ไม่เพียงแค่ให้ความเผ็ดอย่างไร้สาระ พริกยังช่วยเพิ่มสารแห่งความสุข "เอ็นโดร ฟิน" ให้ผู้ที่ชอบกินเผ็ด พริกยังบรรเทาอาการเจ็บปวด บรรเทาอาการไข้หวัด ลดน้ำมูก ขณะเดียวกันยังช่วยละลายเสมหะที่เหนียวข้นให้จางลง ช่วยให้ขับเสมหะออกมาได้ง่าย สำหรับผู้ป่วยหอบหืด กินพริกแล้วจะดีมาก เพราะจะช่วยทำให้หลอดลมขยายตัวได้ดี ไม่หดเกร็ง ดังนั้นคนที่เป็นหอบหืด ภูมิแพ้ กินพริกจะดีเจ้าค่ะ พริกยังลดปริมาณคอเรสเตอรอลได้ด้วย นั้นแน่เริ่มสนละสิ!! จากงานวิจัยนั้นพบว่า พริกช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย และช่วยในการเผาผลาญ จึงมีประโยชน์เรื่องการควบคุมน้ำหนัก การกินพริกไม่ทำให้รู้สึกอยากความหวาน พริกยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง

นอกจากนี้ พริกยังถูกนำมาทำเป็นเจลใช้ทารักษาผิวหนังอักเสบ เข่าอักเสบ แก้ปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัว เริม หรืองูสวัดอีกด้วย

Credit : ASTV ผู้จัดการออนไลน์

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #130

ทานตะวันงอก อร่อยปลูกง่าย

มีประโยชน์ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดี ช่วยบำรุงเซลล์สมอง ป้องกันโรคสมองเสื่อม(อัลไซเมอร์) กระดูก ผิวพรรณ เส้นผม ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย ป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจ ส่วนไขมันที่อยู่ในเมล็ดทานตะวันจะเป็นไขมันที่ไม่อิ่มตัว ประกอบด้วย วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี วิตามินอี และไนอะซิน

วัสดุอุปกรณ์
เมล็ดทานตะวันสีดำ (ฺBlack oil sunflower seeds) หาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์ทั่วไป //ถาดหรือกระบะทึบแสง 2 อัน //มูลไส้เดือนหรือดินสำหรับปลูก(ดินสวนธรรมดา) // สเปรย์ฉีดน้ำเปล่า

วิธีการปลูก
1. แช่เมล็ดทานตะวันในน้ำไว้หนึ่งคืน
2. เตรียมถาด 2 ใบ ไม่ต้องเจาะรูระบายน้ำหรือถ้ามีรูก็ไม่เป็นไร, ใส่มูลไส้เดือนหรือดินลงไปสูงครึ่งนิ้วถึงหนึ่งนิ้ว สเปรย์น้ำให้ทั่วดินพอชุ่มๆห้ามแฉะมาก
3. โรยเมล็ดทานตะวันที่แช่น้ำแล้วกระจายให้ทั่วในกระบะ, สเปรย์น้ำอีกครั้งให้ทั่ว แล้วใช้กระบะอีกใบคว่ำปิดทับด้านบน เปิดรดน้ำด้วยสเปรย์วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หลังรดน้ำแล้วปิดกระบะไว้เช่นเดิม สักสามสี่วันจะสูงประมาณ 1 นิ้ว
4. เริ่มผลิใบ 1 คู่ ให้หงายกระบะวางทับไว้ด้านบน บังคับให้ต้นทานตะวันงอกในระดับเดียวกัน, สเปรย์รดน้ำเช้า-เย็น แล้วก็วางกระบะทับไว้ด้านบนเช่นเดิม 2-3 วัน
5. ตอนนี้ลำต้นจะสูงประมาณ 2- 3 นิ้ว เอากระบะที่วางทับไว้ออกได้ จะเห็นใบมีสีเหลืองเนื่องจากไม่โดนแสง เอาวางถาดไว้ในที่ร่มห้ามโดนแสงแดด ไม่กี่ชั่วโมงใบทานตะวันจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว, สเปรย์รดน้ำเช้า-เย็น
6. วันที่ 7-11 สามารถเก็บเกี่ยวมากินได้ตามความชอบ (ถ้าปล่อยไว้นานจะเริ่มมีใบเลี้ยงคู่ที่สองออกมา รสชาติจะไม่ค่อยอร่อย)

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วคงต้องรีบปลูกกันแล้ว เดี๋ยวจะไม่ทันในเทศกาลกินเจ นะคะ ควรรับประทานในปริมาณที่พอดี และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วยนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณหมูน้อย พ่ะน่ะ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #131

แมคคาเดเมีย ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด

แมคคาเดเมียไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดแถบประเทศออสเตรเลีย ถึงแม้ว่าจะมีอยู่ด้วยกัน 10 ชนิด แต่ที่สามารถบริโภคได้มีแค่ 2 ชนิดเท่านั้น เป็นพืชที่ปลูกได้ในอุณหภูมิระหว่าง 9 องศาเซลเซียส และสูงสุดไม่เกิน 32 องศาเซลเซียส ต้องการน้ำและดินที่อุดมสมบูรณ์ ร่วนซุย ระน้ำได้ดี พบว่าปลูกได้ผลดีที่ดอยมูเซอ จังหวัดตาก เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ และภูเรือ จังหวัดเลย และยังเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ เป็นการสร้างอาชีพให้ชาวเขาอย่างยั่งยืน เพราะกว่าจะให้ผลิตจำหน่ายได้ครั้งแรกใช้เวลาประมาณ 7-10 ปี แต่อายุยืนถึง 100 ปี อีกทั้งยังเป็นการพลิกฟื้นผืนป่าให้สมบูรณ์คืนมาอีกครั้ง

ประโยชน์ของแมคคาเดเมีย
1.เมื่อเปรียบเทียบกับถั่วชนิดอื่น ๆ แล้ว เช่นอัลมอนด์และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ แมคคาเดเมีย มีไขมันสูงและโปรตีนต่ำ แต่มีจำนวนของไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูงที่สุด ซึ่งมีประโยชน์มาก
2.มีปริมาณ 22% ของกรดโอเมก้า 7 ซึ่งมีผลทางชีวภาพคล้ายกับไขมันอิ่มตัว
3.นอกจากนี้ยังมีโปรตีน 9% คาร์โบไฮเดรต 9% และใยอาหาร 2% เช่นเดียวกับแคลเซียม ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม โซเดียม ซิลิเนียม เหล็ก วิตามินบีและไนอาซิน
4.แมคาเดเมียมีระดับของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูงที่สุดในอาหารเชิงพาณิชย์ต่างที่เป็นธรรมชาติ
5.แมคคาเดเมียไม่มีคอลเสลเตอรอล
6.แมคคาเดเมียไม่มี Trans fatty acid
7.กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวเป็นไขมันที่ 'ดี' และได้มีการวิจัยไว้ว่า สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด รวมทั้งการเสริมสร้าง การปกป้องการเพิ่มขึ้นของปริมาณ lipoproteins ซึ่งระดับคอเลสเตอรอลและไลโปโปรตีนนั้น เป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

Credit : http://www.thaiafrica.com/healthy.html

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #132

ข้าวโพดหวานฝักสวยอร่อย และมีประโยชน์อย่างมาก

ข้าวโพดหวานฝักสวยอร่อย และมีประโยชน์อย่างมาก อย่าง “กรดเฟอรูลิก”ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของเซลล์ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง โรคหัวใจ ไข้หวัดและต่อต้านผลกระทบจากรังสีอุลตร้าไวโอเลตได้... เป็นของว่างมื้อบ่ายได้เลยค่า..

ขอบคุณภาพจาก static.tlcdn1.com

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #133

สมุนไพรใกล้ตัว "แตงโม" ป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

Credit : ASTV ผู้จัดการออนไลน์

[ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย]

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส #134

ปลูกกล้วยกลับหัว ง่ายจัง

เรื่องนี้ท่านเคยดูจากทีวีเรื่องการปลูกกล้วยกลับหัว และไม่คิดว่าจะได้ผล วิธีเดียวที่จะรู้ว่าได้ผลหรือไม่ คือลองดู และททท (ทำทันที)

วิธีนี้ท่านเสบอกว่าป้องกันแดดแรงที่จะเผาต้นกล้วยให้เฉาตายได้ด้วยและไม่ต้องแบกต้นกล้วยให้หนักอีกด้วย และมีข้อดีที่ต้นจะเตี้ย งอกมากกว่าหนึ่งต้นและออกปลีเร็วขึ้นเกือบสองเดือน(เขาว่างั้น)
1.เริ่มที่ขุดต้นกล้วย
2.แล้ว ตัดให้ขาดเลยฉับ ฉับ ฉับ
3.ขุดหลุมแล้วยัดลงไปเลย เอารากชี้ขึ้นฟ้า
4.นำดินกลบแล้ว เหยียบๆ จบ

...ไม้ที่โตเร็วคือไม้ที่ปลูกเร็ว...

ขอบคุณเรื่องราวและภาพจาก .. เส สวนเกษตรธรรมชาติ พลิกใจ
เรียบเรียงโดย จินูน
Credit : เถียงนา wifi หุ่นไล่กาไฮเทค