เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 28 กรกฎาคม 2025, 16:20:37
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  ----[ จำหน่ายมูลไส้เดือน 100%, น้ำหมักมูลไส้เดือน และชุดทดลองเลี้ยงไส้เดือน ]----
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 ... 19 พิมพ์
ผู้เขียน ----[ จำหน่ายมูลไส้เดือน 100%, น้ำหมักมูลไส้เดือน และชุดทดลองเลี้ยงไส้เดือน ]----  (อ่าน 38392 ครั้ง)
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #100 เมื่อ: วันที่ 31 พฤษภาคม 2014, 20:14:52 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 78

เมื่อตัดเครือแล้ว ก็เอามาปลูกผักกันซะเลย

วัสดุ – อุปกรณ์
เมล็ดพันธุ์ผัก ประเภท กินใบ อายุการเก็บเกี่ยวสั้น เช่น ผักกาดหอม(ไม่ห่อหัว) จำพวกผักสลัด
กระบะเพาะกล้า หรือ ตะกร้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ถาดหลุมพลาสติก
กระดาษหนังสือพิมพ์
ขี้เถ้าแกลบ,ทราย
ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมัก

วิธีการปลูกผักบนต้นกล้วย
1. การเพาะกล้า ในตะกร้าพลาสติก/กระบะเพาะ
ปูประดาษหนังสือพิมพ์(แผ่นเดี่ยว)บนตะกร้าพลาสติก แล้วจัดกระดาษให้เข้ารูปกับตะกร้า ใส่ทรายลงไปในตะกร้าที่เตรียมไว้ให้ได้ความสูงประมาณ 2 ใน 3 ของความสูง ขีดทรายตามแนวยาวของตะกร้าให้เป็นร่องลึกประมาณ 1 ซม. 2-3 แถว โรยเมล็ดพันธุ์ผักลงไปบางๆ แล้วกลบเบาๆ ด้วยทราย จากนั้นนำกระดาษหนังสือพิมพ์(แผ่นเดี่ยว)วางปิดทับด้านบน พร้อมจัดกระดาษให้เข้ารูปกับตะกร้า ใช้บัวรดน้ำ ลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์ (พอให้มีน้ำขังบนผิวหน้าเล็กน้อย) จัดวางตะกร้าไว้ในที่ร่ม หมั่นรดน้ำเช้า-เย็น เมื่อกล้าผักเริ่มงอก ให้เอากระดาษหนังสือพิมพ์ที่ปิดทับด้านหน้าออก แล้วรดน้ำเช้า – เย็น เมื่อต้นกล้าเริ่มมีใบจริงใบแรก หรือ เมื่อมีอายุประมาณ 10-14 วัน ให้ย้ายกล้าในกระบะเพาะลงปลูกในถาดหลุมพลาสติก

2. การย้ายกล้าผักลงปลูกในถาดหลุม
นำขี้เถ้าแกลบผสมเข้ากับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักพอใส่ลงถาดหลุมให้เต็มทุกหลุม จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม ใช้ไม้แทงนำในขี้เถ้าแกลบให้เป็นรู เพื่อนำต้นกล้าลงปลูก ใช้มือจับยอดต้นกล้าผักเบาๆ แล้วนำไม้ขุดแซะรากกล้าผักขึ้นมาจากกระบะเพาะ จากนั้นแยกกล้าลงปลูกในหลุมถาดที่เตรียมไว้ กดปิดบริเวณรูเบา ๆ ทำจนครบทุกหลุมแล้วจัดเรียงถาดหลุมที่ย้ายกล้าเสร็จแล้วไว้ในที่ร่มรำไร พอมีแสงส่องถึง จัดวางไว้บนชั้นให้น้ำไหลผ่านได้โดยสะดวก เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบหรือประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังปลูก ก็สามารถย้ายกล้าผักไปปลูกบนต้นกล้วยได้แล้ว

3. การปลูกผักลงบนต้นกล้วย
เจาะรูบนต้นกล้วยที่ตัดเครือแล้ว โดยกะจำนวนรูที่จะปลูกผักให้เหมาะสมกับขนาดของต้นกล้วย ให้รูมีขนาดเท่ากับหลุมในถาดหลุมเพื่อ่ยึดรากต้นกล้าผัก จากนั้นจึงเอาต้นกล้าผักยัดใส่ลงไปในรูของต้นกล้วยที่เจาะไว้ ประมาณ 30 วันก็สามารถเก็บผักที่ปลูกบนต้นกล้วยมารับประทานได้ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุของผักที่ปลูก)

ทั้งนี้ ผักที่ปลูกไม่ควรมีอายุเกิน 40 วัน และควรปลูกผักกินใน ที่ไม่ต้องการแสงแดดจัด

ที่มา :
http://www.bansuanporpeang.com/node/5706
http://www.gotoknow.org/posts/448352
http://bettertree.blogspot.com/2009/08/blog-post_7028.html
Verticle Viggie
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #101 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2014, 21:20:58 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 79

การปลุกเมล็ดพันธุ์ให้ตื่น

ในการเพาะพันธุ์พืชผักของเรามีวิธีการปลุกเมล็ดพันธุ์ที่หลับไหลวิธีการต่างๆที่ทำให้เมล็ดพ้นการพักตัว ด้วยการทำให้เปลือกเมล็ดหรือส่วนอื่นที่หุ้มเมล็ดอยู่อ่อนตัวลงหรือที่เรียกกันว่า สการ์ริฟิเคชั่น (Scarification) คือ การทำให้เปลือกเมล็ดแตก การขัดหรือใช้เครื่องปรับหรือทำให้เปลือกอ่อนตัวลงเพื่อให้น้ำและก๊าซต่างๆ ซึมผ่านเข้าไปได้ขึ้นอยู่กับความหนาของเปลือกหุ้มเมล็ด คราวนี้จะทำอย่างไรมาดูกัน

ใช่น้ำร้อนแช่ บางคนก็ว่าให้แช่น้ำร้อน 70-100 องศาแล้วก็ทิ้งไว้จนเย็นบ้างก็ว่าแช่พออุ่นๆเช่นน้ำร้อนผสมน้ำเย็นอย่างละครึ่งแช่ทิ้งไว้ซัก2-3ชั่วโมงแต่ผมว่าดูจากเมล็ดที่เราจะปลูกว่าเปลือกหุ้มเมล็ดหนาบางอย่างไรจะดีกว่าหรือถ้ากลัวน้ำร้อนเกินก็ใช้วิธีแช่น้ำธรรมดาซัก1วันก็ใช้ได้เช่นกันตัวอย่างเช่นการปลูกข้าวก่อนนำเมล็ดไปหว่านชาวนาจะแช่ข้าวไว้1วันให้เป็นข้าวงอก

การขัดสีทำให้เปลือกแตกหรือบางลงใช้สำหรับเมล็ดพันธุ์ที่มีเปลือกหนามากๆผมเคยปลูกมะค่าเมล็ดมะค่าเราจะต้องเอาหินเจียรๆเปลือกให้เกือบถึงเนื้อซักจุดหนึ่งก่อนลองไปทดลองปลูกกับเมล็ดที่ไม่ได้กระเทาะเปลือกจะออกรากช้ากว่าหลายวันหรือไม่งอกเลยส่วนที่กรเทาะเปลือกเปอร์เซ็นการงอกสูงกว่าและเร็วกว่ามาก
.
การใช้กรดกัดให้เปลือกบางโดยทั่วไปก็จะใช่กรดกำมะถันที่มีความถ่วงจำเพาะ 1.84 แช่ทิ้งไว้วิธีนี้ส่วนใหญ่ใช้กับถั่วซึ่งเปลือกหุ้มเมล็ดแข็งแต่ก็ต้องระวังในการใช้

การล้างเมล็ดจุดประสงค์คือการล้างสารยับยั้งการงอกออกโดยแช่เมล็ดในน้ำไหลหรือแช่ในน้ำแล้วเปลี่ยนน้ำบ่อยๆเวลาที่ใช้แช่เมล็ดคือ 12-24 ชั่วโมง ถ้าต้องแช่นานกว่านั้นควรเปลี่ยนน้ำทุก 12 ชั่วโมงเพื่อให้ออกซิเจนกับเมล็ดที่จมอยู่ในน้ำ ถ้าเป็นไปได้ควรล้างเมล็ดด้วยน้ำไหลจะดีกว่า

เคล็ดลับ : มีตัวช่วยอย่างจุลินทรีย์สีเขียวพวกไตรโคเดอร์ม่าจะช่วยจัดการกับเชื้อราร้ายที่จะมารุกรานเมล็ดพันธุ์ทำให้การงอกมีอัตตราสูงขึ้น
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #102 เมื่อ: วันที่ 04 มิถุนายน 2014, 23:35:30 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 80

6 ดอกไม้... ชวนหลงรัก

ดอกไม้โปรดของหลายๆ คน นอกจากสวยแล้วเป็นตัวช่วยให้สุขภาพดีได้อีกด้วย
1.แดง ขาว ชมพู .... ดอกกุหลาบ
แม้จะมีหนามแหลมแต่ก็หลากสีสดใสทั้ง แดง ขาว ชมพู เหลือง ฯลฯ ที่สร้างความสดใสให้กับเราได้ไม่รู้เบื่อ นอกจากนี้กลิ่นหอมของกุหลาบ นอกจากจะช่วยสร้างความสดชื่นแล้ว ยังช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนผู้หญิง เพราะกลิ่นกุหลาบมีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ในเพศหญิง รวมถึงเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง มักพบในครีมบำรุงผิวลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง ซึ่งทำให้เส้นเลือดแข็งแรง
2.ขาว ... ดอกมะลิ
ดอกไม้สีขาวให้ความรู้สึกสงบ สบายใจ กลิ่นหอมเย็นช่วยต้านอาการซึมเศร้า ทำให้จิตใจเบิกบาน นอกจากนี้มะลิยังใช้ในการทำน้ำหอม ด้วยกลิ่นหอมเย็นๆ เย้ายวนใจ นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับคนผิวแห้ง
3.แดง ชมพู ... ดอกเจอราเนียม
สีแดง ชมพู ช่วยสร้างบรรยากาศให้สดชื่น น่าทะนุถนอม น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากกลิ่นเจราเนียมมีสรรพคุณช่วยให้จิตใจสุขุมเยือกเย็น และเป็นส่วนสำคัญที่พบในสบู่ ครีม และน้ำหอม เจราเนียมเหมาะกับผิวทุกประเภท
4.ม่วง ... ดอกลาเวนเดอร์
สีม่วงที่ดูไม่เศร้าหมอง แต่กลับให้ความรู้สึกสบาย โรแมนติกนิดๆ กลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ ช่วยให้จิตใจสุขุมเยือกเย็น มีสรรพคุณช่วยลดความเครียด และบรรเทาอาการปวดศีรษะ ช่วยให้หลับสบาย นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ความงาม ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ ใช้รักษาโรคผิวหนังอักเสบ และใช้เป็นยารักษาสิวได้
5.เหลืองทอง ... ดอกดาวเรือง
สีเหลืองอร่ามมองดูแล้วจะทำให้ความเครียดลง สารสกัดจากดอกดาวเรือง (คาเลนดูล่า) ช่วยแก้ปัญหาผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ แผลเป็นและผิวหนังแห้งแตก กลีบดอกดาวเรืองใช้ทำยาล้างตา กลิ่นหอมฉุนช่วยให้บ้านสดชื่น ต่อสู้กับพลังงานจากคอมพิวเตอร์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและมลพิษทางเสียง
6.เหลืองอ่อน ... ดอกกระดังงา
กลีบดอกดูละมุนละไม น่ารัก สีเหลืองอ่อนชวนมอง กลิ่นช่วยให้ร่างกายผลิตเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสาร เคมีในสมองที่สำคัญที่สุด ทำให้มีความสุข จิตใจสงบ อารมณ์ไม่แปรปรวน คลายความเมื่อยล้า สมองทำงานอย่างเป็นระบบป้องกันโรคไมเกรนและโรคเครียดได้
เพียงรู้จักเลือกใช้ สีสวยและกลิ่นหอมของดอกไม้ก็จะช่วยให้คุณสาวๆ ทั้งหลายผ่อนคลายพร้อมกับสุขภาพดี ทั้งสวยและดีแบบนี้จะอดใจไม่หลงรักได้ยังไงกันล่ะ

จาก : นิตยสาร Modern Mom
เรียบเรียง : Momypedia

จาก : http://www.momypedia.com/
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #103 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2014, 20:18:44 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 81

ประโยชน์จากพลังของแครอท

1.ป้องกันความเย็นด้วยพลังแห่งความอบอุ่น
แครอทจัดเป็นพืชที่มีความอบอุ่น จากผลการวิจัยของคณะแพทยศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยไอจิ ประเทศญี่ปุ่น บอกไว้ว่า การกินแครอท 320 กรัม เปรียบได้กับการดื่มน้ำในปริมาณเดียวกัน ซึ่งจะสามารถควบคุมความอบอุ่นที่ลดต่ำลงของผิวบริเวณมือและใต้ลิ้นได้

หมายเหตุ : คนเราต้องให้ความสำคัญกับการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เพราะถ้าอุณภูมิในร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติ จะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานต่างๆในร่างกายค่ะ

2.ปกป้องผิวจากรังสีอัลตร้าไวโอเลต
การบริโภคแคโรทีนที่อุดมอยู่ในแครอท จะสามารถควบคุมการเผาผลาญของไขมันที่ผิวหนังซึ่งเกิดจากรังสีอัลตร้าไวโอแลต เอาง่ายๆชัดๆ กินแครอทจะช่วยปกป้องผิวที่จะเหี่ยวย่น แก่ชรา เพราะถูกรังสีอัลตร้าไวโอเลตหรือรังสียูวีที่มากับแสงแดดทำร้ายนั่นแหละค่ะ

3.ควบคุมภูมิแพ้
นอกจากนี้แครอทยังช่วยควบคุมโรคภูมิแพ้ เช่นภูมิแพ้ทางผิวหนัง, แพ้เกสรดอกไม้ อีกด้วย จากผลการวิจัยล่าสุดบอกไว้ว่า แคโรทีนจะช่วยปรับสภาพการทำงานที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันโรคของลำไส้ ดังนั้นการกินแครอทในระหว่างตั้งครรภ์ หรือช่วงให้นมลูก มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถป้องกันโรคภูมิแพ้อาหาร

โอ๊ะ...ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย ถ้าอย่างนั้นทิ้งท้ายกับเมนูแครอทง่ายๆทำรับประทานกันได้ทั้งครอบครัวไปสัก 1 เมนูดีมั้ยคะ...

ที่มา : http://travel.truelife.com/detail/1766558#sthash.exk9Zc2b.5Um02EpS.dpuf
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #104 เมื่อ: วันที่ 08 มิถุนายน 2014, 17:34:05 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 82

คุณประโยชน์จากกะหล่ำปลีม่วง

กะหล่ำปลีม่วงที่มีสีสันสดใสชวนกิน ซึ่งมักพบบ่อยในจานสลัดหรืออาจกลายมาเป็นของประดับในอาหารจานอื่น แต่ใครจะรู้บ้างว่ากะหล่ำปลีสีสวยนี้จะมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็น อย่างมาก เนื่องจากกะหล่ำปลีม่วงเป็นพืชที่มีใยอาหารสูงและล้วนอุดมไปด้วยสารอาหาร หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต โซเดียม และวิตามินซี นอกจากนี้การกินกะหล่ำปลีม่วงอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรค มะเร็งลำไส้ใหญ่และโรคมะเร็งในช่องท้องได้

อีกทั้งยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่ช่วยเสริมสร้างฮีโมโลบินซึ่งเป็นส่วน สำคัญที่ทำให้มีเม็ดเลือดแดงไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ในร่างกายอย่างไรก็ตามในแต่ละวันเราไม่ควรกินกะหล่ำปลีดิบมากเกิน 1-2 กิโลกรัม เพราะถ้ามีสาร Goitrogen จากกะหล่ำปลีสะสมในร่างกายมากเกินไป อาจส่งผลให้ต่อมไทรอยด์นำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อยลง แต่สารนี้จะหายไปเมื่อกะหล่ำปลีนั้นสุกแล้ว

ที่มา http://www.womanplusmagazine.com/
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #105 เมื่อ: วันที่ 11 มิถุนายน 2014, 08:30:43 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 78

แตงโม ลดความดันเลือด

ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสทางตะวันตกเฉียงใต้บอกว่า ในแตงโมมีโพแทสเซียมและเกลือแร่สูง ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาไต และการทำงานของหัวใจได้ดี
แตงโมโพแทสเซียมสูง

กรมวิชาการเกษตรของสหรัฐอเมริกาได้แนะนำให้ผู้ใหญ่ ควรได้รับโพแทสเซียมประมาณ 4,044 มิลลิกรัม จากอาหารและเครื่องดื่มในแต่ละวัน

โดยโฆษกสมาคมอเมริกันเกี่ยวกับการควบคุมอาหาร Lona Sandon ยังบอกอีกว่า แตงแคนตาลูปและแตงโมมีโพแทสเซียมสูงมาก แคนตาลูป 1 ลูก มีโพแทสเซียมอยู่มากถึง 800-900 มิลลิกรัม หรือเกือบร้อยละ 20 ของโพแทสเซียมที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน ส่วนแตงโม 2 ลูกมีปริมาณโพแทสเซียมที่แนะนำต่อวันเกือบร้อยละ 10 เลย

จริง ๆ แล้วความดันเลือดสูงเป็นอันตรายอย่างมาก เพราะทำให้หัวใจทำงานหนักเกินไป และการไหลเวียนของเลือดที่ผิดปกติ สามารถทำลายเส้นเลือดและอวัยวะต่าง ๆ เช่น หัวใจ ไต สมอง และตาได้

จากผลสำรวจพบว่า ชาวอเมริกันประมาณ 65 ล้านคน โดยเฉพาะวัยผู้ใหญ่เป็นโรคความดันโลหิตมากขึ้น ซึ่งก็หมายความว่าคนเหล่านี้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไต และตาบอดได้

ออกกำลังกาย = กุญแจสำคัญ

นักวิจัยศูนย์หัวใจ ปอด และเลือดแห่งชาติ (NHLBI) พบว่า การกินอาหารที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียมรวมทั้งอาหารที่มีคอเลสเตอรอลและไขมันต่ำ จะช่วยลดความดันเลือดสูงได้ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ซึ่งประเภทอาหารที่ควรเลือกรับประทานก็คือ ผักผลไม้ นมไขมันต่ำ ผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ปลา เนื้อสัตว์ปีกและถั่ว

ที่สำคัญต้องไม่ลืมดูแลสุขภาพและควบคุมน้ำหนักเป็นประจำ ดื่มแอลกอฮอล์ แต่พอประมาณ และทานยาตามกำหนดอย่างต่อเนื่องนะคะ

ที่มา zazana.com
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #106 เมื่อ: วันที่ 13 มิถุนายน 2014, 23:13:51 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 83

ลดความอ้วนอย่างปลอดภัยได้ผลดีด้วย น้ำมะขาม

เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปแล้วว่า ภาวะน้ำหนักเกินหรือภาวะที่ร่างกายมีดัชนีมวลกาย (Body Mass Index) เกินเลข 24 ถือว่าเป็นภาวะผิดปกติที่เรียกว่า โรคอ้วน เนื่องจากเป็นภาวะที่ก่อให้เกิดกลุ่มโรคร้ายแรงหลายชนิด ซึ่งบางชนิดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีอัตราการตายอันดับสูง เช่น โรคหัวใจขาดเลือดและโรคเส้นเลือดในสมองแตก เป็นต้น

การที่โรคอ้วนกลายเป็นโรคไม่ติดต่อที่แพร่หลายในทุกเพศทุกวัยไปทั่วโลกก็เนื่องจากปัญหาพฤติกรรมบริโภคอาหารที่มี แป้ง น้ำตาล และไขมันล้นเกิน อันเกิดจากวัฒนธรรมบริโภคฟาสต์ฟู้ดของโลกยุคใหม่นั่นเอง

การควบคุมน้ำหนักร่างกายเพื่อป้องกันโรคอ้วนมีหลากหลายวิธี เช่น การควบคุมอาหารทีมีแคลอรี่สูงอย่าง แป้งน้ำตาล ไขมัน การฝึกนิสัยการบริโภคอาหารที่มีกากใยสูง หรือการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เป็นต้น หากทำได้ตามข้างต้น และเพิ่มเติมวิธีเสริม ที่ขอแนะนำในที่นี้จะเป็นมาตรการควบคุมน้ำหนักให้ได้ผลดีวิธีทำได้ง่ายสบายมากนั่นคือ การดื่มน้ำมะขาม

อากาศกำลังเข้าฤดูร้อน (มากๆ) ผู้ที่น้ำหนักปกติก็สามารถดื่มน้ำมะขามเย็นๆสักแก้วได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไปลดน้ำหนักตัว มะขามเป็นเครื่องดื่มรสเปรี้ยวเมื่อดื่มแล้วสดชื่นและให้สังเกตดูหลังดื่มน้ำมะขามแล้วสรรพคุณอีกอย่างหนึ่งคือ ช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายให้เย็นลง

หากต้องการได้สรรพคุณช่วยควบคุมน้ำหนักตัว อ้างอิงผลจากการทดลองในสัตว์และในคนว่าเมื่อได้กินเกลือแอมโมเนียของโพลีแซคคาไรด์จากเนื้อมะขาม (natural polysaccharides ซึ่งเป็นน้ำตาลธรรมชาติหลายโมเลกุลของเนื้อมะขาม) ขนาด 0.5กรัม/น้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม เป็นเวลา 30วัน สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลตัวเลวในเลือด (Low Density Lipoprotein – LDL) ลงต่ำกว่าระดับการรักษาเสียอีก ที่สำคัญคือยังพบว่า สารไซโลกลูแคน (Xyloglucan) ในเนื้อมะขามสามารถยับยั้งการสร้างไขมันในร่างกาย รวมทั้งยับยั้งการสร้างไขมันที่พอกตับและไขมันในเลือด

ยิ่งกว่านั้น จากการทดลองกับหนูขาว ที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวาน พบว่าสารมัลซิเลค (Mulcilage) และสารเปคติน( Pectin) ในเนื้อมะขาม สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดหนูขาวได้ถึง 60.48% นอกจากนี้ กรดทาร์ทาริก (Tartaric acid) ในน้ำต้มเนื้อมะขามขนาดเพียง 1กรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม มีฤทธิ์ขับปัสสาวะอย่างแรง จึงใช้แทนยาขับปัสสาวะ (Diuretic) เพื่อลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ และยังช่วยยับยั้งการเกิดนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะอย่างได้ผลดียิ่ง รวมทั้งน้ำจากเนื้อมะขามเข้มข้นสามารถทำลายพยาธิใบไม้ในเลือดแบบหมดจดอีกด้วย

วิธีดื่มน้ำมะขามให้ได้ผลง่ายสะดวกอย่างที่บอกไว้แต่ต้นก็คือ ใช้เนื้อมะขามล้วนๆ (ที่แกะเม็ด รวมทั้งรังและกากออกหมดแล้ว) ตามน้ำหนักตัวคือ 0.5กรัมต่อน้ำหนักตัว 1กิโลกรัม เช่น คนหนัก 50กิโลกรัมใช้เนื้อมะขาม 25กรัมละลายในน้ำสุกอุ่นๆ 1แก้ว (250ซีซี) ไม่ต้องเติมเกลือและน้ำตาลดื่มวันละครั้งหลังอาหารเย็นก็ได้ ช่วยเป็นยาระบายในตอนเช้าอีกต่างหาก

เนื่องจากมีการทดสอบความเป็นพิษของเนื้อมะขามสุกในสัตว์ทดลองหลายชนิด พบว่าสัตว์ทดลองมีน้ำหนักลดลงมาก และเซลล์ไขมันในตับก็ลดลงมากด้วย แต่ไม่พบความเป็นพิษ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักให้เห็นผลเร็ว อาจจะรับประทานเนื้อมะขามมากกว่าขนาดที่ระบุไว้ก็ได้ แต่มีข้อแนะนำไว้ 3 ข้อ คือ

บางคนอ่อนไหวกับมะขามกินมากไปเล็กน้อยอาจท้องเสียได้

ไม่ควรรับประทานเกิน 2กรัมต่อน้ำหนักตัว 1กิโลกรัมทั้งนี้ ต้องแบ่งรับประทานวันละ 3เวลาหลังอาหารและก่อนนอน

ไม่ควรรับประทานต่อเนื่องเกิน 30 วัน เพราะจะทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำมากเกินไป และขอย้ำว่าคนที่ธาตุเบาถ่ายง่ายควรลดเนื้อมะขามลงตามความเหมาะสมด้วย

นอกจากใช้เนื้อมะขามเป็นน้ำสมุนไพรลดน้ำหนักแล้ว อย่าลืมใช้ก้อนมะขามเปียกขัดผิวด้วย เพราะสารไซโลกลูแคน(Xyloglucan) และน้ำตาลโพลีแซคคาไรค์ (Polysaccharide)ในเนื้อมะขามจะช่วยยับยั้งการสร้างเมลานินที่ผิวหนัง ทำให้ผิวของคุณขาวขึ้นโดยไม่ต้องใช้สารเคมี น้ำมะขามจึงเป็นสมุนไพรใกล้ตัวที่มีคุณค่ามาก เป็นสมุนไพรที่คนยากดีมีจนเข้าถึง และเป็นวิธีเสริมมาตรการลดน้ำหนักที่สามารถปฏิบัติง่ายๆ ได้ผลดี ที่ต้องใช้ร่วมกับมาตรการหลักอื่นๆด้วย ดังนั้นไปตลาดแวะซื้อมะขามเปียกมาสักปั้นคั้นน้ำดื่มเลย

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน , http://www.tlcthai.com/
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #107 เมื่อ: วันที่ 16 มิถุนายน 2014, 18:12:25 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 84

ยาแก้ไอมะกรูดทำง่ายๆใช้ได้ผล

หามะกรูดสดที่แก่จัดแต่ว่าผิวเขียวสดไม่เหลืองนะครับ เพราะว่าจะมีน้ำเยอะดีครับ มาล้างและหันเป็นชิ้นเล็กๆๆ เอาเมล็ดออกด้วยนะครับ แล้วเติมในขวดแก้วให้เหลือเพื้นที่ด้านบนซักหน่อยนะครับ เติมน้ำตาลทรายแดงกลบไว้ด้านบนในอัตราส่วน มะกรูด 3 ส่วน ต่อ น้ำตาลทรายแดง 1 ส่วนครับ ไม่ต้องเติมน้ำนะครับ เพราะว่าน้ำตาลจะค่อยๆๆดึงวิตามินและสารสำคัญอันเป็นประโยชน์ ทั้งหลายออกมาจากมะกรูดเองครับ แล้วปิดผ่าขวดโหลเก็บไว้หนึ่งเดือนนะครับ เมื่อครบหนึ่งเดือนเราจะได้น้ำหมักจากมะกรูดเป็นยาจิบแก้ไอคุณภาพดีมาก ปลอดสารอันตรายใดๆๆเก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายเดือนเลยครับ ที่นี้เราก็ไม่ต้องซื้อยาที่มีสารต่างๆๆซึ่งอาจมีผลตกค้างต่อตัวเรามาใช้กันแล้วครับ

ส่วนเนื้อมะกรูดที่เหลือ เติมน้ำตาลทรายหมักต่อในอัตราส่วนเท่าเดิมครับ หมักไว้อีกหนึ่งเดือนแล้วก็จะได้น้ำหมักมะกรูด อีกเป็นชุดที่สองครับ

แล้วก็เทน้ำมะกรูดนี้ออกมาใส่ขวดสะอาดเก็บไว้ได้เหมือนเดิมครับ ส่วนกากที่เหลือก็ให้เติมน้ำตาลอีกรอบในอัตราเดิมหมักต่ออีกหนึ่งเดือนก็จะได้น้ำมะกรูดอีกเหมือนเช่นเดิมครับ สามารถหมักได้สามรอบนะครับ

ที่นี้มาถึงรอบสุดท้ายที่เราได้น้ำ มะกรูดออกแล้ว ให้เติมน้ำตาลทรายแดง กับน้ำผึ้งในอัตราส่วน น้ำตาลสองส่วน น้ำผึ้งหนึ่งส่วนครับ แล้วทิ้งไว้หนึ่งอาทิตย์ แล้วนำ ออกมาใส่ถุงพลาสติกสะอาดหนาๆๆหน่อยแล้วกลิ้งบดทับด้วยขวดแก้วกลมๆๆจนเนื้อเนียบละเอียดนะครับ แล้วตักเก็บใส่ขวดโหลแก้วเล็กๆๆไว้ ครับ สามารถน้ำมาชงเป็นชาน้ำผึ้งมะกรูด ซึ่งหอมกรุ่นมากประโยชน์ได้อีกนะครับ


IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #108 เมื่อ: วันที่ 18 มิถุนายน 2014, 10:58:20 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 85

ไอเดียที่รดน้ำจากขวดพลาสติกเหลือใช้ครับ

IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #109 เมื่อ: วันที่ 20 มิถุนายน 2014, 10:19:49 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 86

ต้นไม้มีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมเราอย่างไรบ้าง ?

จากรูปเป็นการทดลองให้เห็นว่า ต้นไม้มีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมเราอย่างไรบ้าง ดังจะเห็นได้จาก น้ำที่ไหลจากขวดพลาสติกอันแรก ที่ผ่านต้นไม้ จะได้น้ำที่ใส ส่วนขวดอื่นๆ น้ำจะมีสภาพขุ่น สกปรก ...สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า เราควรจะต้องช่วยกันรักษาต้นไม้ เพราต้นไม่้จะช่วยรักษาสมดุลของธรรมชาติ ช่วยทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น

Credit : Save Trees Save Earth

IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #110 เมื่อ: วันที่ 23 มิถุนายน 2014, 09:48:41 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 87

เมื่อเป็นลมหมดสติไปแล้ว......ทางแผนไทยมีแนวทางอย่างไร

ก่อนอื่นขอเรียนให้ทราบว่านี่คือวิธีที่คนโบราณสมัยก่อนปฏิบัติกันมาเนื่องจากการแพทย์สมัยนั้นยังไม่มีโรงพยาบาลค่ะ เป็นหลักการของการแพทย์แผนไทยสมัยโบราณนำมาจากเวปโอเคเนชั่นเขียนโดย คุณที่ใช้นามแฝงว่า no-name ข้าพเจ้าอ่านแล้วพิจารณาจากความรู้ที่เรียนมาเห็นว่ามีผลดี จึงขอนำมาเผยแพร่ค่ะ

ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงนั้นควรระวังเรื่องอารมณ์ตึงเครียดและอุบัติเหตุจากหกล้ม จะมีผลทำให้เส้นโลหิตฝอยในสมองแตกหรืออุดตันเป็นเหตุให้อัมพาต หรืออัมพฤกษ์
ดังนั้นผู้ที่อยู่ใกล้ตุการณ์จำเป็นต้องรู้จักปฐมพยาบาลโดย ด่วนจะไม่เป็นอัมพาตภายหลัง มีดังนี้ ผู้ป่วยบางรายเมื่อหกล้มหรือเหตุอื่น จะมีอาการกัดฟัน มือกำแน่น หน้าแดง

วิธีพยาบาลเบื้องต้น
--ให้เอาลูกบ๊วยหรือมะนาวทาที่เหงือกฟัน
-- แล้วรีบไปเอาสนแผง (จีนเรียกเจ๊กแป๊ะเฮีย) 1 กำมือ
-- ต้นหอมทั้งราก ทั้งใบ 1 กำมือ รวมกันตำคั้นเอาน้ำผสมกับเหล้าหนึ่งถ้วยกาแฟ ต้มให้เดือดสัก2-3 นาที แล้วยกลง พอน้ำยาอุ่น ๆ ก็กรอกปากเข้าไปให้หมดที่เดียว ผู้ที่ไม่เคยกินเหล้าแบ่งกินหลายครั้งก็ได้

-- หรือใช้ใบหนุมานประสานกาย 10-15 ช่อ ตำผสมกับสุราขาว 3 ช้อนโต๊ะ ระยะต่อไป อาการดีขึ้นให้ลดลง
-- เอาใบหนุมานประสานกาย 7-10 ช่อทำเหมือนเดิม แบ่งกินวันละ 2 หลังอาหารเช้า และ ก่อนนอน
จะช่วยประสานเส้นโลหิตฝอยให้ต่อกันและเส้นโลหิตที่คั่งอยู่ในสมองออกโดยไม่ต้องผ่าตัด

-- แต่ถ้าผู้ป่วยเป็นลมหมดสติแบมือ อ้าปาก ตาถลน เสียงกรนดัง หายใจเบา ปัสสาวะ ไม่รู้สึกตัวให้ใช้ยาขนานนี้
-- หยิ่งเซียม 3สลึง หูจื้อ 2สลึง (เอายาทั้งสองอย่างนี้ที่ร้านขายยาจีนมีขาย) แล้วเอามาต้มน้ำกรอกปากถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นให้รีบไปหาแพทย์ทันที่(อันนี้ต้องส่งโรงพยาบาลด่วน)

สูตรยารักษาความดันโลหิตสูง

1. ใช้ยอเกสรข้าวโพดแห้ง 1 กำมือ
เปลือกแตงโมแห้ง 1 กำมือ
เปลือกกล้วยแห้ง 2-3 ผล
นำมาต้มน้ำกินต่างน้ำชา

2. ใช้ต้นคึ่นไฉ้ปรุงเป็นอาหารกิน

3. ใช้ดอกคำฝอย 1 หยิบมือชงน้ำร้อนดื่มต่างน้ำชา

4. ใช้กาฝากมะม่วงทั้งต้นสับเป็นท่อนสั้น ๆ ตากแห้ง
แล้วคั่วให้เหลืองชงน้ำร้อน หรือผสมใบชาชงกินต่างน้ำชา
แก้ความดันและเบาหวาน

5. เฉาก๊วยกับน้ำตาลแดงกินบ่อย ๆ ก็ช่วยลดความดันสูงได้

6. ลำไยแห้งต้มกินต่างน้ำก็ลดความดันได้

7. ใช้รากกระย่อมหนัก 10 บาท
นำมาคั่วก่อนแล้วบดเป็นผงให้ละเอียด
ใช้ครั้งละ 1 ช้อนกาแฟกับน้ำอุ่นกินอย่ากินมากมีฤทธิแรง

8.ยาแก้ความดัน แก้ปวดหัว มึนงง แก้หวัด แก้ลมแน่นในกระเพาะ
ให้เอาใบคึ่นใช่ 20 ใบ
ใบโหระพา 10 ใบ
เมนทอล 10 เกร็ด
พิมเสน 20 เม็ด
น้ำมะกรูดครึ่งลูก น้ำมะนาวครึ่งลูก
วิธีทำตำให้เข้ากันรับประทานก่อนอาหาร

โดย Ayurvedic Association of Thailand
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #111 เมื่อ: วันที่ 24 มิถุนายน 2014, 20:49:45 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 88

สรรพคุณของหน่อไม้

ลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ป้องกันอาการท้องผูก ช่วยย่อยอาหาร เป็นสรรพคุณที่เห็นผลมาก เพราะหน่อไม้เป็นอาหารที่ให้เส้นใยสูงจึงช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ เมื่อหน่อไม้ผ่านการย่อยร่างกายจะดูดซึมสารอหารเข้าสู่กระแสเลือด ส่วนกากอาหารที่เหลือหรือสารพิษต่างๆ เช่น ยาฆ่าแมลงหรือโลหะหนักจะไปรวมกันที่ลำไส้ใหญ่ แต่ถ้ามีกากใยอาหารมากๆ กากใยอาหารเหล่านี้จะช่วยดูดน้ำและเพิ่มปริมาณ ทำให้กากอาหารมีน้ำหนักมากจะเคลื่อนออกสู่โลกภายนอกได้เร็ว กากใยอาหารจึงช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่

แก้กระหาย ขับปัสสาวะ ละลายเสมหะ แก้ไอ บำรุงกำลังแก้อาการร้อนต่างๆ ได้ดี เพราะมีฤทธิ์เย็นเช่นเดียวกับเห็ด

ขับพิษใต้ผิวหนัง ขับผื่นหัดรวมถึงผื่นชนิดอื่นๆ เพียงดื่มน้ำแกงที่ได้จากการต้มหน่อไม้ร่วมกับปลาตะเพียน

แก้โรคบิดเรื้อรังได้

นอกจากหน่อไม้สดจะมีคุณค่าทางอาหารสูงแล้ว ตัวหน่อไม้ดองเองแม้จะไม่มีคุณค่าทางอาหาร แต่ยังมีคุณค่าแฝงอยู่อีกคือ จะมีแบคทีเรียในหน่อไม้ดองที่ชื่อ คลอสทริเดีย เป็นแบคทีเรียที่ปนอยู่ในดิน เจริญเติบโตได้ดีในสภาวะไร้ออกซิเจน เช่น ในอาหารจำพวกของหมักดองทั้งหลายและรวมทั้งอาหารกระป๋องที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการทำลายแบคทีเรียอย่างถูกวิธี แบคทีเรียชนิดนี้มีพิษแต่มันก็มีประโยชน์ ซึ่งสำนักงานอาหารและยา หรือ FDA ของสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้นำแบคทีเรียนี้ไปผ่านกระบวนการแยกเอาสารพิษออกแล้วทำให้เจือจาง เพื่อนำไปใช้ในการบำบัดรักษาโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ โดยตั้งชื่อใหม่ว่า โบท็อก (Botox) (ซึ่งโบท็อกก็คือสารหน้าเด้งที่พวกดาราทั้งหลายไปฉีดเพื่อลดรอยเหี่ยวและย่นนั้นล่ะค่า)

ข้อควรระวังในการรับประทานหน่อไม้
หน่อไม้มีคุณค่าทางอาหารสูงในตัวของมันเอง ส่วนหน่อไม้ดองก็มีคุณค่าแฝง แต่สำหรับผู้ป่วยเป็นโรคบางชนิดแล้ว แพทย์เองก็ไม่แนะนำให้ทานเหมือนกัน

ผู้ป่วยเป็นโรคเกาต์ ไม่ควรรับประทาน เพราะในหน่อไม้มีสารพิวรินสูง ซึ่งสารตัวนี้อาจจะทำให้กรดยูริกที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคเกาต์สูงขึ้น ซึ่งกรดยูริกเป็นสารที่เกิดจากการเผาผลาญของพิวรีน มีมากในเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ถั่วต่างๆ และพืชผักอ่อนโดยเฉพาะหน่อไม้

ผู้ที่มีภาวะไตเสื่อม โดยปกติกรดยูริกจะถูกขับออกทางปัสสาวะของคนเรา หากร่างกายมีการสร้างกรดยูริกมากเกินไปหรือไตขับยูริกได้น้อยลง เนื่องจากไตเสื่อมลง กรดยูริกก็จะตกผลึกตามข้อ ผนังหลอดเลือด ไต และอวัยวะต่างๆทำให้เกิดอาการปวดข้อและโรคแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้ เช่น ข้อพิการ นิ่วในไต กระดูกพรุน เป็นต้น

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับหน่อไม้

คนไทยเรามักจะคิดว่าหน่อไม้มีแต่โทษเป็นของแสลง ถ้าไม่กินจะดีกว่า

กินหน่อไม้แล้วปวดข้อ จริงๆ แล้วตัวหน่อไม้เองนั้นไม่ได้ทำให้ข้อเสื่อมหรือปวดข้อ แต่จะมีผลกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์เท่านั้น ดังนั้นคนที่มีอาการปวดข้อจากสาเหตุอื่นๆ จึงกินหน่อไม้ได้ปกติ

คนเป็นเบาหวานห้ามกิน การกินหน่อไม้นั้นไม่ได้มีผลกับระดับน้ำตาลในกระแสเลือด เพราะฉะนั้นแม้เป็นเบาหวานก็รับประทานได้

ผู้ป่วยเป็นโรคตับห้ามรับประมาน ซึ่งโรคตับในที่นี้มีได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากไวรัสบีและอาการตับแข็ง แต่แพทย์ยืนยันว่าการรับประทานหน่อไม้ไม่มีผลต่อโรคดังกล่าว

เมื่อมีอาการตกขาวหรือระดูขาวให้งดกินหน่อไม้ จริงแล้วหน่อไม้หน่อไม้สดไม่มีผลกับอาการ แต่หากผู้ที่มีอาการตกขาวก็ยังสามารถรับประทานหน่อไม้สดได้

แต่อย่างไรก็ตาม ก็ควรจะกินอย่างพอดี ของทุกอย่างมี 2 ด้านหน่อไม้ก็เหมือนกัน
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #112 เมื่อ: วันที่ 26 มิถุนายน 2014, 22:32:29 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 89

แว่นแก้ว ผักจิ้มเครื่องเคียง

แว่นแก้ว (บัวแก้ว ผักหนอกใหญ่ หรือผักหนอกเทศ บัวบก) นิยมนำมารับประทานเป็นผัก สามารถปลูกเป็นพืชคลุมดินได้ โดยธรรมชาติแว่นแก้วจะชอบสภาพน้ำค่อนข้างกระด้าง ซึ่งจะเจริญเติบโตและแตกไหลแตกต้นอ่อนอย่างรวดเร็ว ถ้าแสงน้อยจะแทงยอดและแผ่กระจายไปตามผิวน้ำ สามารถอยู่ได้ทั้งใต้น้ำและลอยบนผิวน้ำ

แว่นแก้วเป็นไม้น้ำมีอายุหลายฤดู ลำต้นเป็นไหลทอดยาวตามพื้นดิน มีข้อปล้อง มีรากและใบงอกตามข้อทุกส่วน มีกลิ่นหอม ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะและริมน้ำ พบมากในภาคเหนือ และภาคกลาง

ประโยชน์
•ทางด้านอาหาร เป็นผักจิ้มเครื่องหลน หรือเครื่องเคียง คั้นน้ำเป็นน้ำดื่ม
•เป็นไม้ประดับในอ่างปลา
•ทางด้านสมุนไพร ทั้งต้นใช้แก้ตาแดง ขับปัสสาวะ ซ้ำใน บวม พิษไข้ ท้องอืด ท้องเสีย
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #113 เมื่อ: วันที่ 29 มิถุนายน 2014, 22:26:04 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 90

20 สรรพคุณของน้ำนมราชสีห์เล็ก

พืชสมุนไพรยาใกล้ตัวก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราควรรู้เพื่อช่วยดูแลตัวเองกับคนใกล้เคียงเบื้องต้น นมราชสีห์เล็กเป็นพืชที่หาง่ายมากไม่ว่าที่ไหนก็หาได้ตามข้างทางข้างถนนมีให้เห็นกันบ่อยแต่เราไม่เคยรู้ว่าจริงๆมันมีประโยชน์มากมายที่เดียวลองมาดูว่าสรรพคุณมีอะไรบ้าง

1.ช่วยแก้เด็กมีอาการตกใจกลัวง่าย ด้วยการใช้ต้นสดประมาณ 60 กรัม นำมาล้างให้สะอาดและตำให้ละเอียดผสมกับน้ำซาวข้าว แล้วเอาแต่น้ำมาผสมกับน้ำผึ้งกิน (ต้น)
2.ช่วยแก้หูน้ำหนวก (ทั้งต้น)
3.ช่วยแก้ไข้จับสั่น ด้วยการใช้ต้นสดประมาณ 120 กรัม นำมาต้มกับน้ำผสมกับน้ำตาลแดงพอประมาณ ใช้กินก่อนเป็นไข้จับสั่นสองชั่วโมง (ต้น,ทั้งต้น)
4.ช่วยแก้บิด บิดจากแบคทีเรีย ด้วยการใช้ต้นแห้งประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน หรือใช้ต้นแห้ง 30 กรัมผสมกับใบชาแก่แห้ง 15 กรัม ต้มน้ำผสมกับน้ำผึ้งกินก็ได้ (ต้น,ทั้งต้น)
5.ช่วยแก้ลำไส้อักเสบ ด้วยการใช้ต้นแห้งประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน (ต้น)
6.ช่วยแก้อาการท้องร่วง (ทั้งต้น)
7.ใช้เป็นยาระบายด้วยการนำมาบดเป็นผง (ไม่ได้ระบุส่วนที่ใช้ แต่เข้าใจว่าใช้ทั้งต้น)
8.ทั้งต้นมีสรรพคุณฆ่าพยาธิ ขับพยาธิ (ทั้งต้น)
9.ช่วยรักษาริดสีดวงทวารมีเลือดออก ด้วยการใช้ต้นสดพอสมควร ใช้ต้มเอาน้ำมาชะล้างบริเวณที่เป็นผื่นคัน (ต้น,ทั้งต้น)
10.ใบและเมล็ดแห้งใช้เป็นยาฝาดสมาน (ใบ,เมล็ด)
11.ทั้งต้นใช้ตำพอกแผลภายนอก ส่วนใบใช้พอกบาดแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น (ใบ,ทั้งต้น)
12.ใบใช้พอกแก้พิษงูกัดได้ (ใบ)
13.น้ำคั้นจากต้นนำมาผสมกับเหล้า ใช้แก้สัตว์ แมลง และสัตว์เลื้อยคลานมีพิษกัดหรือต่อย (ต้น)
14.ใบใช้ตำพอก มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังได้ (ใบ)
15.ช่วยแก้ผิวหนังเป็นผดผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ ด้วยการใช้ต้นสดพอสมควร ใช้ต้มเอาน้ำมาชะล้างบริเวณที่เป็นผื่นคัน (ต้น,ทั้งต้น)
16.น้ำคั้นจากต้น ใช้ทาแก้กลาก (ต้น)
17.ช่วยแก้กลากน้ำนม ด้วยการใช้ต้นสด นำมาตำผสมกับน้ำตาลกรวด แล้วใช้พอกที่แผล (ต้น,ทั้งต้น)
18.ช่วยแก้อาการอักเสบ แก้บวม ด้วยการใช้ต้นสด นำมาตำผสมกับน้ำตาลกรวด แล้วใช้พอกบริเวณที่เป็น (ต้น,ทั้งต้น)
19.ช่วยแก้งูสวัดขึ้นรอบเอว ด้วยการใช้ต้นสดประมาณ 1 กำมือ และกระเทียม 1 หัว นำมาตำให้ละเอียด แล้วผสมกับน้ำสุดที่เย็นแล้ว ใช้ทาบริเวณที่เป็นตุ่ม (ต้น)
20.ใบใช้ตำพอกแก้อาการกระดูกเคลื่อน (ใบ)
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #114 เมื่อ: วันที่ 02 กรกฎาคม 2014, 21:41:04 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 91

วิธีทดสอบเห็ดพิษตามภูมิปัญญาชาวบ้าน

ฤดูฝนเป็นช่วงที่มีเห็ดในธรรมชาติขึ้นมากมาย ทำให้ชาวบ้านมักจะเก็บเห็ดมาบริโภคหรือขายตามตลาด แล้วคิดว่าเเห็ดกินได้ทุกชนิดจนทำให้เกิดอันตราย ซึ่งได้เก็บข้อมูลรวบรวมเห็ดพิษไว้ 7 ชนิด รวมทั้งแนะวิธีการทดสอบด้วย เพื่อไว้ใช้ยามฉุกเฉิน

เห็ดพิษในประเทศไทยมีอยู่หลายชนิด ทั้งที่มีพิษร้ายแรงที่สุดที่ทำให้อันตรายถึงแก่ชีวิตได้ คือ เห็ดในสกุลอะมานิตา (Amanita) และเห็ดในสกุลเฮลเวลลา (Helvella) ส่วนเห็ดในสกุลอื่นๆ ไม่เป็นอันตรายมากนัก เพียงแต่ทำให้เกิดอาการมึนเมา สำหรับในประเทศไทยเห็ดอะมานิตาเป็นเห็ดมีพิษที่ควรระวังมากที่สุด

ทางสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้จัดทำข้อมูลเห็ดพิษ ที่มักพบได้ทั่วไปหรือบางชนิดมีลักษณะใกล้เคียงกับเห็ดที่รับประทานได้ รวมเห็ดพิษ 7 ชนิด เพื่อเผยแพร่เป็นความรู้ช่วยคุ้มครองผู้บริโภค

เห็ดไข่ตายซาก (เหนือ) หรือ เห็ดระโงกหิน (ตะวันออกเฉียงเหนือ)

เห็ดไข่เป็ด หรือ เห็ดระโงกหิน

เห็ดเกล็ดดาว

เห็ดกระโดงตีนต่ำ

เห็ดขี้วัว

เห็ดยวงขนุน

เห็ดไข่หงส์

การทดสอบเห็ดพิษแบบชาวบ้าน

วิธีการตรวจสอบเห็ดพิษแบบชาวบ้านต่อไปนี้ ถึงแม้จะไม่ถูกต้องตามหลักทางการแพทย์นัก แต่ก็จัดว่าเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน ที่จะใช้ตรวจสอบว่าเห็ดชนิดไหนรับประทานได้ ชนิดไหนเป็นเห็ดพิษ ซึ่งจะนำมาใช้ได้เป็นบางส่วนหรือในบางโอกาส ดังต่อไปนี้

1. นำข้าวสารมาต้มกับเห็ด ถ้าไม่เป็นพิษข้าวสารจะสุก ถ้าเป็นพิษข้าวสารจะสุกๆ ดิบๆ

2. ใช้ช้อนเงินคนต้มเห็ด ถ้าช้อนเงินกลายเป็นสีดำ จะเป็นเห็ดพิษ

3. ใช้ปูนกินหมากป้ายดอกเห็ด ถ้าเป็นเห็ดพิษจะกลายเป็นสีดำ

4. ใช้หัวหอมต้มกับเห็ด ถ้าเป็นเห็ดพิษจะเป็นสีดำ

5. ใช้มือถูเห็ดจนเป็นรอยแผล ถ้าเป็นพิษรอยแผลนั้นจะเป็นสีดำ แต่เห็ดแชมปิญญองเป็นเห็ดที่รับประทานได้ เมื่อเป็นแผลก็จะเป็นสีดำ

6. ดอกเห็ดที่มีรอยแมลงและสัตว์กัดกิน เห็ดนั้นไม่เป็นพิษ แต่กระต่ายและหอยทากสามารถกินเห็ดพิษได้

7. เห็ดที่เกิดผิดฤดูกาล มักจะเป็นพิษ แต่ในทุกวันนี้สามารถเพาะเห็ดได้ตลอดปี

8. เห็ดพิษมักจะมีสีฉูดฉาด เห็ดรับประทานได้จะมีสีอ่อน

การปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่รับประทานเห็ดพิษ

หากพบผู้ป่วยที่รับประทานเห็ดพิษและเกิดอาการพิษขึ้น ควรทำให้ผู้ป่วยอาเจียนโดยเร็ว เพื่อเอาเศษอาหารที่ ตกค้าง ออกมาให้มากที่สุด หากผู้ป่วยอาเจียนออกยากให้ใช้เกลือแกง 3 ช้อนชา ผสมน้ำอุ่นดื่มจะทำให้อาเจียนได้ง่ายขึ้น แต่วิธีนี้ห้ามใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ แล้วให้รีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์โดยด่วน พร้อมกับตัวอย่างเห็ดพิษ (หากยังเหลืออยู่) เพื่อให้แพทย์รักษาต่อไป

แหล่งที่มา http://www.dailynews.co.th/
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #115 เมื่อ: วันที่ 04 กรกฎาคม 2014, 18:15:41 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 92

สมุนไพรโป๊ยกั๊ก ใช่แค่เครื่องเทศใส่ก๋วยจั้บ

สรรพคุณของโป๊ยกั๊ก

1 ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรคต่างๆ ให้กับร่างกาย ด้วยการใช้ผงโป๊ยกั๊ก 1 ช้อนชา นำมาชงกับน้ำอุ่นสุกดื่ม แต่สำหรับเด็กเล็กมากให้ใช้น้ำมันโป๊ยกั๊กมาทาบริเวณฝ่าเท้า จะทำให้เท้าอุ่นช่วยเสริมภูมิคุ้มกันโรคได้ดีนัก
2..ช่วยแก้ธาตุพิการ
โป๊ยกั๊กสมุนไพรที่มีคุณสมบัติเป็นหยาง ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายในช่วงอากาศเย็นชื้น มีรสร้อนนิดเจือหวานเล็กน้อย ไม่เผ็ดร้อนมากจนเกินไปเหมือนสมุนไพรชนิดอื่นๆ วิธีการรับประทานก็ให้ใช้ผงโป๊ยกั๊ก 1 ช้อนชาชงกับน้ำอุ่น 1 แก้วกาแฟ ใช้ดื่มหลังอาหารในช่วงเช้าหรือเย็น หรือในช่วงที่มีอากาศเย็น
3.ช่วยขับเสมหะ
เมล็ดโป๊ยกั๊กเมื่อนำมาสกัดจะได้กรดชิคิมิค (Shikimic Acid) อันเป็นสารตั้งต้นสำคัญในการสังเคราะห์ยาทามิฟลู (Tamiflu) ซึ่งตัวยามีฤทธิ์ในการต้านเชื้อไวรัสได้หลายชนิด รวมไปถึงไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่ 2009
4.ช่วยแก้หวัด ลดไข้
น้ำมันหอมระเหยใช้ผสมกับชะเอมช่วยแก้อาการไอ โป๊ยกั้ก
น้ำมันหอมระเหยนำมาใช้ผสมในยาผงสำหรับแก้หืด และยาสำหรับสัตว์
5.ช่วยรักษาอาการอักเสบเรื้อรังในระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหารและระบบทางเดินปัสสาวะ
6.ช่วยบรรเทาอาการหลอดลมอักเสบ
7.ช่วยแก้ลมกองหยาบ
8.ช่วยแก้อาการปวดท้อง แก้อาการท้องอืด จุกเสียดในเด็กทารก ช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย ช่วยขับลมในลำไส้
9.ช่วยแก้ปัสสาวะขัด ช่วยแก้อัณฑะบวม และไส้เลื่อน
10.ช่วยขับน้ำดี ผลใช้เป็นยากระตุ้น ช่วยเพิ่มสมรรถภาพให้กับกล้ามเนื้อ
11.ช่วยระงับความเจ็บปวด ช่วยรักษาโรครูมาติสม์ (Rheumatism) ระงับอาการปวดข้อ ปวดกระดูก ปวดหลัง ปวดเอว ด้วยการใช้ผงโป๊ยกั๊ก 1 ช้อนชานำมาชงกับน้ำร้อนดื่มก่อนอาหารเช้าและเย็น
12.ช่วยแก้ตะคริว หรือเหน็บชาตามข้อมือข้อเท้า
13.น้ำมันหอมระเหยประมาณ 1-4 หยดผสมกับชะเอมใช้ฆ่าเชื้อโรคได้
14ช่วยรักษาวัยทองในเพศชาย ช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศ ช่วยส่งเสริมสุขภาพของอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง ช่วยเพิ่มการหลังน้ำนมของสตรีหลังคลอดบุต
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #116 เมื่อ: วันที่ 07 กรกฎาคม 2014, 09:15:35 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 93

มะนาวขจัดสิว

สิว นั้นถือเป็นปัญหาใหญ่ของผิวหน้าเราเพราะถ้าผิวหน้ามีสิวนั้นก็จะทำให้เกิดปัญหาตามมาเยอะมากค่ะ ทั้งหน้าค่ำดำ มีแผลเป็น มีรอยมีหลุมเกิดขึ้นบนใยหน้ายังกะหลุมอุกบาทผิวหน้าไม่เรียบเนียบยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ชอบแต่งหน้าด้วยกะก็ยิ่งจะทำให้เกิดสิวง่ายมากเพราะเครื่องสำอางนั้นเข้าไปอุดตันทำให้เกิดสิวได้ง่ายกว่า แต่การรักษาสิวนั้นก็ยังมีอีกหลายวิธีค่ะแต่ในวันนี้ดิฉันจะเสนอแค่การนำสมุนไพรในบ้านเรานั้นมาใช้กันค่ะไม่ทำอันตรายต่อผิวหน้าด้วย ก็คือมะนาวไงค่ะที่มีอยู่ในครัวเราส่วนวิธีการทำนั้นมีดังนี้ค่ะ
น้ำมะนาว ทำงานโดยการผลัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ทั้งยังช่วยชำระรูขุมขนและช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น สดใสด้วย สามารถใช้ได้ทั้งทาและดื่ม

วิธีใช้น้ำมะนาว ทารักษาสิว เริ่มต้นด้วย บีบน้ำมะนาว 1 ช้อนชาในถ้วยเล็ก และใช้สำลีจุ่มน้ำมะนาวพอเปียก แต่หากรู้สึกแสบเกินไปก็อาจผสมน้ำเพิ่มได้ จากนั้นก็ล้างหน้าให้สะอาด แล้วนำน้ำมะนาวที่ผสมแล้วป้ายลงบนสิว ทิ้งไว้ทั้งคืนแล้วค่อยล้างออกตอนเช้า สำหรับท่านที่แต่งหน้า อาจทาซ้ำอีกครั้งก่อนแต่งหน้า แต่หากรู้สึกว่าน้ำมะนาวนั้นแรงเกินไป แม้ว่าจะผสมน้ำให้เจือจางแล้ว ให้ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น โดยวิธีการนี้จะใช้เวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำจึงจะเห็นผลอย่างชัดเจนขึ้น
แต่ถ้าคุณมีผิวหน้าที่แห้งแต่เป็นสิวนั้นควรจะใช้อาทิตย์ละหนึ่งครั้งนะค่ะ

ขอขอบคุณบทความดีๆจาก suyu.com
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #117 เมื่อ: วันที่ 08 กรกฎาคม 2014, 15:23:01 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 94

แตงโม ผลไม้คุ้นตาเรานั้นอาจเเป็นผลไม้พิษได้

"ถ้าเราไม่เลือกรับประทานแตงโมปลอดสารพิษ"... เพราะพิษที่ว่าไม่ได้เกิดจากตัวผลแตงโม แต่เกิดจากสารเคมีฟูราดาน (Furadan) ที่เกษตรกรนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการปลูกแตงโม ฟูราดานเป็นชื่อทางการค้าของสารคาร์โบฟูราน ยาฆ่าแมลงชนิดร้ายแรงเต็มพิกัด เรียกกันว่ายาพิษได้เลย (Poison) เป็นสารเคมีที่เกษตรกรต้องใส่ลงในดินก่อนการปลูกแตงโม เพื่อป้องกันการกัดกินของแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะมด ...มีรายงานจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่าฤทธิ์ของฟูราดานคงค้างอยู่ในดินได้นานถึงประมาณ 12 เดือน ออกฤทธิ์ในการกำจัดแมลงได้ดีภายใน 90 วันแรกที่ใช้ ...ปัญหาคือ เกษตรกรเก็บผลแตงโมภายใน 55 วันซึ่งป็นช่วงที่ฟูราดานยังไม่เจือจาง ...นอกจากนี้ฟูราดานเป็นยาฆ่าแมลงชนิดดูดซึมเข้าสู่ราก ลำต้น และใบในปริมาณมากด้วยเช่นกัน ทำให้ผลแตงโมมีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็นผลไม้อาบยาพิษไปโดยเลี่ยงไม่ได้ พิษของฟูราดานที่สะสมในร่างกายสามารถมุ่งตรงทำลายไตเป็นสำคัญ เพราะไตทำหน้าที่เป็นเครื่องกรองสารตกค้างออกจากเลือด ...ถ้าหากได้รับในปริมาณมากจะเกิดอาการพิษ คือ อาการต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการวิงเวียน อาเจียน สับสน มึนงง หากได้รับสารพิษนี้บ่อยๆ จะมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ

ดังนั้น เวลาที่แอดมินโพสท์เกี่ยวกับคุณประโยชน์ของแตงโม จึงมักใส่วงเล็บไว้ว่า แตงโม (ออร์แกนิค หรือ ปลอดสารพิษ) เพราะเคยทราบมาก่อนจากเพื่อนที่เป็นผู้จำหน่ายสินค้าเพื่อการเกษตรรายใหญ่ในภาคอีสานว่าถ้าไม่มั่นใจ เขาไม่ค่อยกล้ากินแตงโมเพราะรู้ว่าใช้สารเคมีรุนแรงในการปลูก

หมายเหตุ : ในปี 2551 มีรายงานข่าวจากสมาคมเพื่อผู้บริโภครัฐปีนัง(CAP:Consumer Association of Penang)ถึงการเรียกร้องให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งชาติมาเลเซีย ยกเลิกการนำเข้าและใช้สารฆ่าแมลง คาร์โบฟูราน และหลายประเทศซึ่งตระหนักถึงพิษเฉียบพลันของคาร์โบฟูรานจนทำให้ประเทศในยุโรป ประเทศแคนนาดา ได้ยกเลิกการใช้สารดังกล่าวตั้งแต่ ค.ศ.2008 จนล่าสุด กรมควบคุมมลพิษ(EPA:Environmental Protection Agency) แห่งสหรัฐอเมริกาได้มีคำสั่งยกเลิกการใช้และนำเข้าสารดังกล่าว

Cr : forever-living-products.us/health-educational
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #118 เมื่อ: วันที่ 10 กรกฎาคม 2014, 23:06:30 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 95

ประโยชน์ของสับปะรด

สับปะรดมีวิตามินซีที่จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ช่วยในการย่อยอาหาร ป้องกันความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง ฯลฯ

สับปะรดเป็นผลไม้ที่หารับประทานได้ในบ้านเราตลอดทั้งปี มีประโยชน์ต่อสุขภาพจนไม่ควรมองข้าม เรามาทำความรู้จักความดีของสับปะรดกันดีกว่าค่ะ

1. ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง รับประทานสับปะรดวันละหนึ่งชิ้น ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซี ที่สำคัญคือวิตามินซีช่วยในการทำงานของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายติดเชื้อ และต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ การรับประทานสับปะรดวันละหนึ่งชิ้นจึงเป็นการเพิ่มแรงต้านโรคให้แก่ร่างกาย แต่ในผู้ที่มีเลือดจางไม่ควรกินมากนัก
2. ช่วยในการย่อยอาหาร สับปะรดมีกากใยอาหารมาก ซึ่งมีความสำคัญกับการย่อยอาหาร และเป็นที่รู้กันอยู่ว่ากากใยอาหารช่วยลดคอเลสเตอรอล ควบคุมน้ำตาลในเส้นเลือด และช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
3. ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี สับปะรดมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์ เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีส ที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระ ที่จะทำลายโครงสร้างของเซลล์ และอาจทำให้เป็นโรคหัวใจและอัมพฤกษ์ อัมพาต นอกจากนี้ สารแอนตี้ออกซิแดนต์ยังมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย
4. ป้องกันความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง การรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ และลดการสูบบุหรี่ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งเต้านม เพราะสับปะรดมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์ที่ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการก่อมะเร็ง และจากการศึกษาพบว่า เอนไซม์ Bromelain ในสับปะรดจะช่วยป้องกันการเติบโตของเซลล์ร้ายในปอด ป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งรังไข่
5. ช่วยป้องกันโรคต่างๆ การรับประทานผักและผลไม้ให้ได้วันละ 5 กำมือ จะช่วยลดการเสียชีวิตด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือมะเร็ง ได้ถึง 20%
6. ช่วยให้เหงือกแข็งแรง สับปะรดช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง เนื่องจากสับปะรดมีวิตามินซีสูงที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากโรคเหงือกได้
7. ช่วยยับยั้งการอักเสบ เอนไซม์ Bromelain ในสับปะรดจะช่วยยับยั้งการอักเสบ ทั้งนี้ ชาวอเมริกาใต้โบราณ ใช้สับปะรดเป็นยารักษาโรคผิวหนังและรักษาบาดแผล

หมายเหตุ : แม้ว่าสับปะรดจะมีประโยชน์มาก แต่ก็ควรกินพอประมาณ เช่น วันละหนึ่งชิ้น และกินผลไม้อื่นๆ ให้หลากหลายด้วย เพราะการกินอะไรที่มากเกินไปก็ย่อมให้ผลเสียทั้งนั้น

ที่มา : สมุนไพรดอทคอม
http://www.baanmaha.com/
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย) Tel.084-545-6163
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705


จำหน่ายมูลไส้เดือนแท้ 100% (เชียงราย)


« ตอบ #119 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2014, 19:15:44 »

เกร็ดความรู้วันละนิด ชีวิตแจ่มใส # 96

เทคนิคปลูกกล้วยไข่ให้มีรสชาติดี

แนะนำว่ามี 3 วิธีใหญ่ ๆ ดังนี้ค่ะ เทคนิคแรกคือ การคัดเลือกหน่อปลูก ควรดูหน่อที่ค่อนข้างสมบูรณ์นั่นคือ เป็นหน่อที่มี

โคนโต ปลายเรียวใบแคบ ไม่มีโรคและแมลงศัตรูเข้าทำลาย มีอายุประมาณ 3-4 เดือน

เทคนิคที่สองคือ เทคนิคในการปลูก ในการปลูกกล้วยไข่ควรวางให้เหง้าของหน่อพันธุ์อยู่ใต้ดินประมาณ 6-8 นิ้ว หลังจากกลบดินบริเวณโคนต้นจะอยู่ระดับผิวดินพอดี แล้วเหยียบดินกลบบริเวณโคนต้นให้แน่นปานกลาง เพราะกล้วยไข่ที่ปลูกใหม่จะต้องการการขยายตัวด้านข้างลำต้นค่ะ และควรปลูกให้มีระยะห่างระหว่างแถวต้นละสองเมตรถึงสองเมตรครึ่ง ดังนั้นในพื้นที่ 1 ไร่จะใช้หน่อกล้วยไข่ประมาณ 350-400 หน่อ ให้ขุดหลุมปลูกกว้างประมาณ 50-60 ซม. มีความลึก 50ซม. และในช่วงหลังการปลูกหากยังมีฝนก็ไม่ต้องให้น้ำ เพราะสามารถอาศัยน้ำฝนได้แต่ช่วงหน้าแล้งควรเริ่มให้น้ำนะคะ เพื่อเป็นการป้องกันดินแห้ง ในบางพื้นที่ที่แล้งมากความถี่ในการให้น้ำนั้นอาจจะถึงประมาณ 5-20 วันต่อครั้ง

เทคนิคที่สาม เป็นเทคนิคการให้ปุ๋ย หลังจากขุดหลุมปลูกแล้ว ควรย่อยดินก้นหลุมและรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกอีกชั้นหนึ่ง ให้มีความหนาประมาณ 1-2 ซม. แล้วจึงปลูกนะคะ เมื่อกล้วยอายุได้ประมาณ 1-2 เดือน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร3-1-1 หรือสูตร 3-2-1 และเมื่อกล้วยอายุได้ 3-4เดือน ให้ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอคือ 15-15-15 ต่อจากนั้นเมื่อกล้วยอายุ 5-6 เดือน ก็ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 โดยการแบ่งใส่สองครั้งระยะเวลาห่างกันประมาณ 15-20 วัน ในอัตราต้นละประมาณ30-50 กรัม โดยขุดหลุมห่างจากโคนต้นประมาณ30 ซม. ตรงกันข้าม 2 หลุม จากนั้นก็กลบและถ้าจะให้ดี ควรใส่ปุ๋ยเคมีควบคู่กับปุ๋ยคอก เช่นมูลไก่ที่ย่อยสลายแล้วต้นละ 1 กิโลกรัม และเทคนิคที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการปลูกกล้วยไข่ก็คือ การตัดแต่งต้นกล้วย เพื่อให้ต้นกล้วยเจริญเติบโตสมบูรณ์ มีคำแนะนำว่า ควรตัดแต่งต้นกล้วยในช่วงเดือน พ.ค. หรือเดือนมิ.ย.โดยการดำเนินการ 3 ลักษณะนะคะ คือ การแต่งหน่อการตัดใบลอกกาบ และการตัดปลี

สำหรับวิธีสังเกตว่า กล้วยไข่แก่มากน้อยแค่ไหน ก็ให้นับวันดูจากระยะเริ่มปลูกลงหลุมไปประมาณ 320 วัน หรือนับจากกล้วยออกปลี 50-60 วัน หรือนับหลังจากตัดปลี 45 วัน กล้วยไข่จะเจริญเติบโตเต็มที่และเริ่มแก่ หรือหากจะใช้การสังเกตสีผลกล้วยก็ได้ หากกล้วยออกสีนวลก็ตัดได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลด้วย หากต้องการให้กล้วยแก่เร็ว ก็ต้องเร่งการใส่ปุ๋ยและให้น้ำสิ่งสำคัญที่ควรระมัดระวังคือ ไม่ควรให้กล้วยสุกคาต้น เพราะผลกล้วยจะขาดรสชาติและไม่อร่อย นอกจากนั้นสีผิวของผลจะมีลักษณะกระด้างทำให้เสียราคาได้

ที่มา : เกษตรกรก้าวหน้า
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มไส้เดือนงามดี สาขาเชียงราย
จัดจำหน่าย มูลไส้เดือนแท้ 100%

("คนเลี้ยงดิน ดินเลี้ยงพืช พืชเลี้ยงคน")

โทรศัพท์ : 084-545-6163
หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 ... 19 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!