<< เชียงรายเอ็นดูโร่ (CHIANGRAI ENDURO CLUB) #2 >>

[OASIS]

ผิวทางแบบนี่ละครับตี่หมู่เอ็นดูโร่ฮ้องว่า "หนังหมู"  เดินยังต่าว

[OASIS]

เร่งเข้าไป........  ฟรีทิ้ง ดอกยางตันเป็นโดนัทแล้วครับ
ใจ้เจือกดึงขึ้นทุ่นแรงคนและกำลังรถ รวมถึงน้ำมันตวยครับ   (ดินปลิวมาติดเลนส์กล้องพอดี แม่นขนาด)

[OASIS]

มาโผล่ทางระหว่างห้วยหมากเลี่ยม-ผาลั้ง
เลี้ยวซ้ายไปผาลั้ง

[OASIS]

บ้านม่วง จุดหมายข้างหน้าอยู่ดอยอีกลูก  สูงเอาเรื่อง
ตอนนี้เป็นขาลงดอยจากบ้านผาลั้ง

[OASIS]

ทางแบบนี้ก่อต่าวได้ง่ายๆ 

[OASIS]

พักระหว่างทางก่อนครับ ขี่มาต่าวสุดทาง  เกิดขึ้นกับทุกคนครับ จะมากหรือน้อยก่อแล้วแต่ละคน เสียต้นตึงซ้ายและขวา ขนาดมีการ์ดมือคลัทช์ยังหัก
ระหว่างนี้ก่อหาหน่อไม้ดีกว่า  ฮ่าๆ

[OASIS]

ล้มทีสองสามกันก่อยังมี

[OASIS]

เวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็นแล้ว  ยังบ่าได้ระยะทางตี่ใกล้จะถึงจุดหมายเลยครับ
ยาวไกลพอสมควร อีกอย่างเฮาเดินทางได้จ้า

[OASIS]

ใส่เกียร์ 1 เร่ง ล้อยังบ่าหมุน  เบอร์ยางใหญ่ขึ้นถนัดตา  ฮ่าๆ

ดินเข้าไปอัดกั๋นตี่สเตอร์หน้าและระหว่างสวิงอาร์ม

[OASIS]

เหนื่อยนั๊กก็พักกั๋นก่อนครับ

เส้นทางข้างหน้ามีขึ้นไปล่วงหน้าแล้วก่อมี  
อ้อ ขึ้นไปสองรอบแล้วไปบ่าถึงปลายเนิน ล้มระหว่างทางต้องกลับลงมาเริ่มใหม่เป็นรอบที่ 3

อันนี้ไม้แขวนเสื้อแต้ๆ ครับ   handmade

[OASIS]

 

[OASIS]

2015 ซูซุกิ จีเอสเอ็กซ์-เอส1000 และ ซูซุกิ จีเอสเอ็กซ์-เอส1000เอฟ สองแสบตระกูลใหญ่ ใครเก๋าเจอข้า

ซูซุกิได้เปิดตัวสองแสบคลาสพันมาตั้งแต่ปลายปี ค.ศ.2014 ในงาน อินเตอร์มอท แต่ก็เพิ่งส่งถึงมือบรรดาผู้สั่งจองไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้าและวันนี้ทั้งคู่ก็ได้มาจุติที่แดนสยามแห่งนี้แล้ว

เริ่มทางฝังเน็กเก็ตตัวโหด จีเอสเอ็กซ์-เอส1000 ที่มาพร้อมกับดีไซน์อันดุดัน น่าเกรงขาม ก้าวร้าวในแบบซูซุกิ กับเครื่องยนต์ 999 ซีซี ดุดันในรอบต่ำถึงกลาง พร้อมเทคโนโลยีสารเคลือนกระบอกสูบชนิดพิเศษลิขสิทธิ์เฉพาะของซูซุกิจากสนามแข่ง พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ

ฉลาดล้ำด้วยเทคโนโลยี แทร็คชั่นคอนโทรลที่ปรับได้ถึง 3 ระดับเหมาะกับการขับขี่ทุกรูปแบบตั้งแต่ถนนที่เปียกแฉะจนถึงสภาพถนนที่ยอดเยี่ยม มั่นใจด้วยระบบเบรกจากเบรมโบ้ ระบบกันสะเทือนแบบหัวกลับ ควมคุมการสั่งการได้ง่ายดายผ่านปุ่มควบคุมที่แฮนด์และหน้าจอแอลซีดี บนน้ำหนักตัว 209 กก.

ด้านสปอร์ตทัวริ่งอย่าง จีเอสเอ็กซ์-เอส1000เอฟ เองก็มาพร้อมกับ สมรรถนะที่ไม่น้อยหน้าตัวเน็กเก็ต เรียกได้ว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งานและสมรรถนะที่ไม่หนีกัน เพียงแต่ถูกปรับจูนเครื่องยนต์มากันคนละแบบเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกัน พร้อมกับแฟริ่งหน้าที่หล่อดุดันและชิลด์กันลม เอาใจคนรักสปอร์ตแต่ก็ชอบแอบหนีเที่ยวโดยเฉพาะ จึงแบกน้ำหนักตัวเพิ่มเป็น 214 กก.

สำหรับราคาค่าตัวสำหรับทั้งสองแสบจากค่ายซูซุกิ 100 คันแรกนั้นมีดังต่อไปนี้

ซูซุกิ จีเอสเอ็กซ์-เอส1000 5.79 แสนบาท

ซูซุกิ จีเอสเอ็กซ์-เอส1000เอฟ 5.99 แสนบาท

http://www.autospinn.com/2015/08/lunched-2015-suzuki-gsx-s1000-and-suzuki-gsx-s1000f/

[tai xr]

คนบ้าขี่ซู เป็นสโลแกรน ครับ โกแซว

[OASIS]

ทางเรียบๆ แบบนี้ยังต้องดึงต้องดัน  ขี่รถเป็นกั๋นก่อนี่

[OASIS]

หลิ่งนี้ยาวกว่า 100 เมตร  ขึ้นต่อเนื่อง ต้องเอาขึ้นทีละกันครับ
รถ 17 กัน ใจ้เวลาร่วมสองชั่วโมงเฉพาะหลิ่งเดียว บางกันขึ้นไปได้แล้ว

"อ้อ"  เดินลงไปบ่าได้ครับเพราะจะต่าว แกใจ้วิธีเอาก้นถูไถลงไป

[OASIS]

สองแขนพาดแฮนด์แบบนี้คือ เหนื่อยครับเหนื่อย

ต้องพักคนพักรถ   น้ำดื่มเริ่มเหลือน้อยเต็มทีแล้ว พลังงานคนเป็นสีส้มนานแล้วครับ
เพราะตอนนี้โพล้เพล้แล้ว ข้าวบ่าหิว อยากแต่น้ำ  ล้มและป๊กรถขึ้นมาทั้งวัน
ช่วงเช้ายังพอจำได้ว่าล้มไปกี่ครั้ง  ตกเย็นมามันมากเกินตี่จะจำแล้วครับ ซ้าย-ขวา รวมถึงตากหงายก่อมี  ฮ่าๆ

แสงน้อยชัทเตอร์ทำงานช้างลงมาก

[OASIS]

ขึ้นไปทีละช่วงของเนิน  ได้ระยะทางเพียงเล็กน้อยแต่ใจ้เวลามาก

มันบ่ามีทางเลือกอื่นใดแล้วครับ มุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว  ย้อนถอยกลับหลังนึกถึงตอนลงมาก่อใจ่หมูๆ

[OASIS]

ใกล้จะมืดเต็มทีแล้ว  หมู่บ้านข้างหน้าอีกไกลแค่ไหนยังบ่าฮู้เลย


กล้องแทบจะจับภาพบ่าได้แล้วครับ ต้องเปิดแฟลท

[OASIS]

ในที่สุดก่อมืดสนิท  มืดในป่าในดอย บ่าเหมือนมืดในเมืองครับ

มืดคือมืด บ่าเห็นหยังซักอย่าง เหมือนคนตาบอดครับ เดินไปล้มไป รถติดก่อเห็นทางอยู่
บ่อยครั้งตี่ต้องดับเครื่อง เพราะคนมันเหนื่อยและหิวน้ำมั๊กๆ  น้ำดื่มหมดแล้วทุกคน แต่ฝนยังคงตกปรอยๆ

ปัญหาอื่นๆ ยังมีอีกนะครับ.......

[OASIS]