<< เชียงรายเอ็นดูโร่ (CHIANGRAI ENDURO CLUB) #2 >>

[OASIS]

TOYOTA FT-1 การกลับมาของ SUPRA

สปอร์ตซุปเปอร์คาร์สุดล้ำจากแดนปลาดิบ Toyota FT-1 สานต่อแนวคิด Fun To Drive ด้วยการเอาชนะกฎเกณฑ์ทางไดนามิกส์ทั้งหมดผ่านเรือนร่างแบบสปอร์ตคูเป้สองประตูสองที่นั่งทรง GT ได้อย่างแสบสันสุดขั้ว...

http://www.thairath.co.th/content/404556

[OASIS]

 

[OASIS]

Honda Africa Twin 2015 เปิดเผยสเปคแล้ว

ถือว่าเป็นรถที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สายลุยกันอย่างมากทีเดียว
เมื่อมันได้ทำการประกาศว่าจะผลิตเจ้า Africa Twin โฉมใหม่สำหรับปี 2015-2016 กัน ซึ่งเมื่อก่อนมันเป็นรถแนว
ADVENTURE ที่ถือว่ามีชื่อเสียงและประสิทธิภาพมากๆ คันหนึ่งของวงการเลยทีเดียว และในวันนี้ทางเราเอง
ก็ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสเปคของมันแบบเต็มๆ กันมาแล้ว

โดยพื้นฐานของรถคันนี้นั้นเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1000cc แบบสองสูบเรียง สิ่งหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลง
อย่างเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือทาง Honda เองนั้นเลือกที่จะใช้ระบบเกียร์แบบ DCT transmission ซึ่งเป็นระบบเกียร์
ที่ทางค่ายเลือกใช้กับรถหลายๆ รุ่นในสังกัดสำหรับช่วงหลังมานี้ โดยลักษณะการทำงานของเกียร์ DCT นั้น
มันจะมีสองระบบให้เลือกคือแบบอัตโนมัติและแบบชิฟท์เกียร์ขึ้นหรือลงที่มือของเรา ซึ่งแม้ว่ามันจะเป็นระบบเกียร์แบบอัตโนมัติ
แต่มันก็ไม่ได้เหมือนกับพวกรถออโต้ที่เราเห็นๆ กัน มันยังมีรอบและจังหวะในการเปลี่ยนเกียร์เหมือนกับระบบเกียร์ธรรมดาทุกอย่าง
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันมาว่าระบบเกียร์แบบนี้มันจะเหมาะกับรถแนวลุยๆ อย่างนี้หรือเปล่า
แต่บางคนก็คิดว่ามันอาจจะดีด้วยซ้ำ เพราะเวลาที่เราต้องยืนขึ้นเวลาขี่เจ้านี่ก็สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้จากการกดที่มือ
ได้อย่างสะดวกเลย ตรงนี้ก็ต้องรอผลจากการรีวิวอีกครั้ง

ในเรื่องของระบบช่วงล่วงนั้นก็แน่นอนว่าโช๊คอัพหน้านั้นเป็นแบบหัวกลับ (USD) มีระบบ stability control
หรือระบบช่วยควบคุมความสมดุลย์ในการขับขี่ และมีระบบเบรกแบบ ABS ทั้งหน้าและหลัง ตัวล้อนั้นใช้แบบซี่ลวด
ซึ่งเหมาะกับรถแนวลุยอย่างนี้มากๆ โดยมิติตัวรถนั้นแน่นอนว่ามีขนาดค่อนข้างจะสูงใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง
ของรถแนวนี้อยู่แล้ว มันได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งทางฝุ่น ซึ่งความจริงแล้วมันแทบจะลุยไปได้ทุกเส้นทาง

ขนาดเครื่องยนต์ : 1000cc
แรงม้า : 93 ตัว
ทอร์ค : 72 lbft
น้ำหนักตัว : น้ำหนักเปล่า 208 กก. น้ำหนักแบบบรรจุของเหลวเต็มถัง 228 กก.
ความจุถังน้ำมัน : 18.8 ลิตร
มิติตัวรถ : ยาว 2335 กว้าง 875 สูง 1475 mm
ระยะฐานล้อ : 1575 mm
ความสูงของเบาะ : (สามารถปรับได้สองแบบคือ Standard 870 mm และ Relaxed 850 mm)
ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ : 250 mm
ยางหน้า : 90/90-R21
ยางหลัง : 150/70 R18

สำหรับในบ้านเราเองนั้นก็ได้ยินข่าวมาเหมือนกันว่าทาง Big Wing จะนำเข้ามาจำหน่ายกันในช่วงปลายปีนี้หรือว่าต้นปีหน้า
โดยราคานั้นยังไม่ได้รับการเปิดเผยแต่อย่างไร แต่คนที่สนใจก็เตรียมๆ เก็บตังรอได้เลย หากว่ามีความคืบหน้าทางเราจะรีบนำเสนอกันต่อไป

http://www.greatbiker.com/honda-africa-twin-2015-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%
B8%A2%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%84%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7/

[OASIS]

รถไข่ฮุนได Hyundai EGG Car พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก

เปิดตัวรถใหม่ของค่าย Hyundai ต้องแปลกใจในความเก๋ไก๋ของรูปทรงที่ดูแล้วคล้ายไข่มากๆ แต่จริงๆ
แล้วคือรถยนต์ที่นั่งได้เพียงคนเดียว ประหยัดพลังงาน E4U single-person concept car รับรองว่าต้องมีคนสนใจ
อยากจะเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน

http://world.kapook.com/pin/55b091264d265a7b508b456a

[OASIS]

ชาว4ล้อมีเฮ!! ผลิตแล้วยางรถยนต์ ไม่ต้องเติมลมอีกต่อไป

i FLEX นี้ ถือเป็นความสำเร็จของค่าย ยักษ์ใหญ่ อย่าง Hankook นั่นเองครับ งานนี้ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ของวงการยานยนต์เลยทีเดียว

ยางรถยนต์ นามว่า i FLEX

ฮันกุก กล่าวว่า ยางรถยนต์ แบบไร้อากาศ ไอเฟล็กซ์ จะมีประสิทธิภาพทัดเทียมกับยางทั่วไปทุกประการ และยังประสบความสำเร็จในการทดสอบการขับขี่ทั้งความเร็วต่ำและความเร็วสูงมาแล้ว

http://www.agosocial.com/

[OASIS]

แล้วทุกสายตาจะจับจ้องมาที่คุณ ชมตัวเต็มๆ ของ ฮอนด้า แอฟริกาทวิน

คงต้องยอมรับว่าในบรรดารถที่เปิดตัวมาในช่วงปีนี้ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงช่วงกลางปีมีทั้งที่หวือหวาและที่ธรรมดา
แต่มีอยู่หนึ่งรุ่นที่ใครๆ ต่างเฝ้ารอที่จะได้ยลโฉมมานานข้ามปี และวันนี้เราก็ได้เห็นตัวเป็นของแอฟริกาทวินเสียที

ถือเป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่สมการรอคอยจริงๆ สำหรับ ฮอนด้า ซีอาร์เอฟ1000แอล แอฟริกาทวิน
เดอะ ทรูแอดเวนเจอร์

หลังจากที่ อาร์ซี213วี-เอส ดูเหมือนจะแป๊กๆ ไปจากกระแสการเปิดตัวที่เงียบๆ แต่ก็เชื่อว่าคนก็คงแห่ไปจองกัน
แบบเงียบๆ จนน่าจะเกินโควต้าอย่างแน่นอน แต่สำหรับแอฟริกาทวิน

แม้เราจะได้เห็นรถต้นแบบกันมาตั้งแต่งานอิคม่า จนเห็นภาพตัวจำหน่ายจริงที่เหมือนตัวต้นแบบออกมาแล้ว
แต่หลายคนก็ยังรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย

โปรเจค ทรู แอดเวนเจอร์ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทาง ความยิ่งใหญ่ ของฮอนด้าบนสื่อออนไลน์อย่างยูทูป
ได้อัพโหลดตอนล่าสุดซึ่งคือตอนที่ 6/2 ซึ่งในคลิปนี้เรามีโอกาสได้เห็น ฮอนด้า แอฟริกาทวิน โลดแล่นบนทางลูกรังถึงสองคัน
สองสี สองสไตล์
 
ฮอนด้า ซีอาร์เอฟ1000แอล แอฟริกาทวิน เป็นรถออฟโร้ดรุ่นแรกที่จะใช้เทคโนโลยีดูอัลคลัทช์ทรานมิชชั่น
ซึ่งหวังว่าจะเป็นก้าวใหม่ของวงการรถแอดเวนเจอร์ในอนาคต แน่นอนว่าจะต้องสะดวกขึ้นมาก
เมื่อคุณเปลี่ยนเกียร์ได้แม้ขณะที่กำลังยืนอยู่บนพักเท้า

เราได้เห็นตัวรถทั้งสองสีคือสีแดง-ดำ ที่เปิดตัวมาก่อนหน้า และอีกหนึ่งสีที่น่าสนใจไม่ใช่เล่นคือสี ขาว-ฟ้า ล้อทอง
ซึ่งแต่ละสีก็โดดเด่นไม่แพ้กัน แค่เห็นก็กระตุ้นต่อมความอยากแล้ว หวังว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการและประกาศราคาในเร็ววันนะ

http://www.autospinn.com/2015/07/full-appearance-and-new-colour-of-2016-honda-crf1000l-africatwin/

[OASIS]

ALL NEW SUZUKI GSX-R250 เผยภาพแรกให้เห็นกันแล้ว

สำหรับตระกูล GSX นั้นถือว่าเป็นที่รู้จักกันดีในโลกยานยนต์ โดยเฉพาะเจ้า GSX-R1300 หรือ Hayabusa
ที่ครั้งหนึ่งมันเคยถือว่าเป็นเจ้าแห่งความเร็วของโลก (แม้ว่าปัจจุบันจะโดนทำลายสถิติไปแล้วก็ตาม)
และแน่นอนว่าตระกูล GSX นั้นก็ได้แตกแขนงย่อยออกไปเป็นหลายคลาสด้วยกัน ที่สำคัญทาง Suzuki Thailand
บ้านเราก็เพิ่งประกาศว่าจะนำ 2 รุ่นใหม่อย่าง GSX-S1000F และ GSX-S1000 เข้ามาวางจำหน่ายกันในช่วงเดือนหน้านี้แล้วด้วย
(น่าจะเปิดตัวกันครั้งแรกในงาน BIG MOTOR SALE)

http://www.greatbiker.com/suzuki-gsx-r250/

[OASIS]

Moto Guzzi V7 Racer รถคาเฟ่สไตล์ ได้กลิ่นอายในยุค 50

หลายๆ คนในที่นี้อาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่คุ้นหูคุ้นตากันมากนักเท่าไรกับ มอเตอร์ไซณ์จากแดนมักโรนีแบรนด์ Moto Guzzi คันนี้เท่าไร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์สองล้อชั้นดีจากประเทศอิตาลีเลยก็ว่าได้ แบรนด์นี้ความจริงแล้วเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในระดับโลกไม่แพ้แบรนด์ยี่ห้อไหนๆ ได้เหมือนกัน ซึ่งในครั้งนี้เราขอนำเสนออีกหนึ่งเวอร์ชั่นรุ่นพิเศษของรถระดับนี้มาแนะนำให้ได้ลองทำความรู้จักกัน….เพราะไม่แน่ว่าอาจจะมีนักลงทุนใจบิ๊กๆ คิดที่จะทำตลาดในบ้านเราก็เป็นได้ สำหรับการนำเอารถสัญชาติอิตาเลี่ยนค่ายนี้เข้ามาทำตลาด  ก็คงอาจจะเป็นเจ้าเวอร์ชั่นพิเศษคันนี้อย่าง เจ้า Moto Guzzi V7 Racer

ถ้าพูดถึงเจ้า Moto Guzzi V7 Racer คันนี้เป็นโมเดลที่แม้จะเก่าแล้ว แต่สำหรับผลงานการพัฒนาที่ทีมวิศกรได้แรงบันดาลใจจากความยิ่งใหญ่ของตัวรถแข่งสไตล์คาเฟ่ ในยุค 50 ก่อนจะนำมาผสมผสานให้เข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างลงตัวนั้น ด้วยความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสังกัดเองภายใต้โลโก้ตราอินทรีสยายปีก โดยระบบโครงสร้างของแมนเฟรมแบบเปลคู่ที่มีสีแดงเลือดนก ได้ทำการโอบอุ้มเอาเจ้าเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงออกมาใหม่ ให้เป็นแบบ V – Twin 90 องศา ปริมาตรความจุกของกระสอบสูบอยู่ที่ 750 ซีซี มันสามารถรีดแรงม้าได้สูงสุดออกมาใช้งานได้ถึง 50 ตัวที่ 6,200 รอบต่อนาที และยังมีแรงบิดสูงสุดตามสเป็คที่โรงงานตั้งมาให้ที่ 58 Nm. ที่รอบเครื่องต่ำๆ เพียง 5,000 รอบ/นาทีเท่านั้น  ก่อนที่จะส่งถ่ายกำลังลงสู่การปั่นของล้อหลังที่ให้มาเป็นระบบการขับเคลื่อนด้วยระบบเพลา  เครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาล่าสุดนั้นนอกจากจะทำให้มันได้แรงบิดที่สูงขึ้นในรอบเครื่องที่ต่ำลงแล้ว มันยังสามารถทำงานได้อย่างสมบรูณ์แบบกว่าในรุ่นที่ผ่านๆ มาด้วย  ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำลง  และค่าไอเสียที่ปล่อยออกมาก็ยังลดลงได้อีกด้วย

นอกจากเรื่องของการปรับปรุงในส่วนของขุมกำลังพื้นฐานแล้ว สำหรับงานการออกแบบดีไซน์ที่ได้วางเป้าไว้ที่ความสวยและคลาสสิคมีสไตล์ก็เป็นอีกส่วนของงานที่ทีมวิจัยและพัฒนานั้นไม่ได้ทิ้งและให้ความสำคัญ จากความโดดเด่นของตัวรถที่ได้รับความสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น ไม่ว่าจะเป็นถังน้ำมันรูปทรงเฉพาะที่ต้องการที่จะเจาะจงเลือกสร้างความแตกต่างด้วยความเงางามของชิ้นงานโครเมี่ยม  แถมเติมความเก๋ไก๋ด้วยเข็มขัดหนังที่ออกแบบให้คาดกลางถังได้อย่างลงตัว  รับกับเบาะนั่งที่มาในสตล์ตัวแข่งยุคเก่า ซึ่งได้ทำการเลือกใช้วัสดุหนังแท้คุณภาพที่ตั้งใจตัดเย็บด้วยความประณีตสมราคารถหรูที่ดีแล้วมีระดับ  แถมยังช่วยเพิ่มอารมณ์รถสนามแข่งด้วยตูมมดพร้อมป้ายเบอร์ติดมาด้วยด้านข้างตามสไตล์ของตัวรถแข่งในยุคอดีตนั่นเอง  โดยในส่วนของถังน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นได้ออกแบบมาให้มีความจุมากถึง 5.8 แกลลอน  หรือราวๆ 22 ลิตรนั่นเอง  เมื่อรวมกับอัตราการบริโภคน้ำมันที่กินไม่มากทำให้การเดินทางสามารถวิ่งได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะทางไกลได้กว่าถึงประมาณ 310 ไมล์เลยทีเดียว

มาต่อกันที่อุปกรณ์พื้นฐานที่ได้ติดตั้งมาในตัวของเจ้า Moto Guzzi V7 Racer นั้นถือได้ว่าไม่ได้น้อยหน้ากว่าคู่แข่งในคลาสเดียวกัน ตั้งแต่ระบบกันสะเทือนหน้าที่ได้เลือกการวางระบบกันสะเทือนแบบเทเลสโกปิคที่มีขนาดของแกนโช้คที่โตถึง 40 มม. ในขณะที่ด้านหลังเป็นแบบสวิงอาร์มโช้คอัพคู่  ถัดมาที่ระบบเบรกก็ได้เลือกที่จะใช้ของค่ายดังอย่าง BREMBO โดยด้านหน้าจะเป็นแบบจานดิสก์เดียวขนาด 320 มม. ที่ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แบบ 4 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังเป็นจานดิสก์ไซส์ 260 มม. ที่จะทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แบบลูกสูบคู่  สำหรับวงล้อที่ให้มาเป็นแบบอลูมิเนียมด้านหน้าขนาด 18 นิ้ว ส่วนด้านหลังก็ได้เลือกใช้ขนาด 17 นิ้ว รัดทับด้วยยางสไดล์สปอร์ตขนาด 100/90 และ 130/80 ตามลำดับ  สำหรับราคาค่าตัวที่ได้เปิดตัววางขายกันในต่างประเทศนั้นจะอยู่ที่ราว ๆ 10,090 ดอลล่า  แต่เท่าที่เห็นหลุดๆ เข้ามาในบ้านเราในสภาพใหม่แกะกล่องส่วนใหญ่ก็จะเปิดราคาเอาไว้ที่แถว ๆ 7 แสนกว่าบาท บวกลบกันนิดหน่อย

ต้องบอกว่าสำหรับขาไบค์เกอร์ที่มีความชื่นชอบรถสไตล์คลาสสิก  รถคาเฟ่สไตล์ ไม่ควรพลาดที่จะต้องตามกันดีว่า รถค่ายนี้จากแดนมักโรนีจะมีใครเอาเข้ามาทำตลาดรถบิ๊กไบค์ในบ้านเราอย่างจริงจังกันบ้างต้องคอยติดตาม

ข้อมูลทางเทคนิค Moto Guzzi V7 Racer

เครื่องยนต์                            4 จังหวะ V – Twin 90 องศา ระบายความร้อนด้วยอากาศ
ความจุกระบอกสูบ              744 ซีซี.
กำลังสูงสุด                           37 kW (50HP) ที่ 6,200 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด                        42.7 ft lbs (58Nm ที่ 5,000 รอบ/นาที)
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง              หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์
ระบบท่อไอเสีย                    ท่อคู่ พร้อมแคตาไลติกแบบ 3 ทาง
ระบบเกียร์                            5 สปีด
ระบบหล่อลื่น                      แบบท่อไหลเวียนพร้อมปั๊มแรงดันความจุ 1.78 กก.
ระบบส่งกำลัง                      แบบเพลา
ระบบคลัทช์                          แบบแห้งแผ่นเดียว
ระบบเฟรม                           ทรงเปล ซับเฟรมถอดได้
ระบบกันสะเทือนหน้า          เทเลสโกปิค ขนาดแกนโช้ค 40 มม.
ระบบกันสะเทือนหลัง       สวิงอาร์มอลูมิเนียม โช้คอัพคู่
ระบบเบรกหน้า                   ดิสก์เบรกเดี่ยว Brembo คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ ขนาดจาน 320 มม.
ระบบเบรกหลัง                   ดิสก์เบรกเดี่ยว Brembo คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ ขนาดจาน 260 มม.
ขนาดวงล้อหน้า                   100/90 -18
ขนาดวงล้อหลัง                   130/80 – 17
ยาวxกว้างxสูง                     2,184 x 800 x 1,112 มม.
เบาะนั่งสูง                            805 มม.
น้ำหนักตัวเปล่า                   179 กก.
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง      22 ลิตร

http://www.greatbiker.com/

[OASIS]

Moto Guzzi Griso 8V SE ฟิลลิ่งความคลาสสิคความงามไร้ที่ติ

อย่างที่บอกว่าทางยุโรปยกให้มันเป็นอีกหนึ่งค่าย สำหรับดีไซน์ความงามของมันกับเจ้า Moto Guzzi วันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับที่สุดของบิ๊กไบค์อีกหนึ่งรุ่นที่มันเปรียบได้เหมือนกับภาพดังๆ  ที่มีมูลค่าความงามเกินจะบรรยยาย คาดว่าถ้าหากมันเป็นอีกค่ายหนึ่งที่จะมาทำตลาดบิ๊กไบค์ในไทย คงเป็นอีกหนึ่งค่ายที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก

ความงามของเจ้า Moto Guzzi รุ่นนี้มีชื่อว่า Moto Guzzi Griso 8V SE (โมโต กุซซี่ กริโซ่ 8วี เอสอี) ดูผ่านๆ มันมีความงามเปรียบเสมือนรถคลาสสิคไบค์ที่พร้อมจะอัดแน่กับความแรงที่เกินคาด เหมือนชื่อของมัน พร้อมราคาค่าตัวที่ให้มาแบบสมเหตุสมผล

การออกแบบและดีไซน์ของเจ้า Moto Guzzi Griso 8V SE (โมโต กุซซี่ กริโซ่ 8วี เอสอี) อย่างที่บอกว่ามองดูแวบแรก ก็เผยให้เห็นถึงมัดกล้ามที่เน้นความสปอร์ตและแข็งแรงเป็นอย่างมาก เริ่มที่ด้านหน้าของมันก่อน  กระจังไฟหน้าให้มาเป็นแบบกลม ก้านไฟเลี้ยว และกล่องเรือนไมค์ ก็จัดมาให้เต็มแบบคลาสสิค พร้อมแฮนด์บาร์ทรงกว้างยกระดับนิดหน่อย ทำให้รู้สึกว่ามันเป็นรถที่ควบคุมและขับขี่ได้ง่ายกว่าทรงสปอร์ตอย่างแน่นอน  ตัวนี้ช่วงต่อระหว่างตัวถังและด้านหน้าถือว่าเป็นจุดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของเจ้า Moto Guzzi Griso 8V SE (โมโต กุซซี่ กริโซ่ 8วี เอสอี) คันนี้เลยก็ว่าได้ แถมยังให้ความแข็งแรงของตัวโครงสร้างที่แอบดีไซน์แบบแนบเฟรมแบบโครงถัถทรงกลมให้เดิมเส้นสายตามโครงของตัวถังได้แบบแนบเนียนได้ดีจนต้องบอกเลยว่านี่แหละ คือที่สุดของบิ๊กไบค์ที่ด้านหน้าและด้านท้ายมองแล้วให้ความคลาสสิค แต่ช่วงกลางให้ความรู้สึกเหมือนกับรถสปอร์คลาสสิคตระดับพรีเมี่ยม

มาดูกันต่อที่บล็อกเครื่องยนต์กันบ้างสำหรับเจ้า Moto Guzzi Griso 8V SE (โมโต กุซซี่ กริโซ่ 8วี เอสอี) คันนี้ เรียกว่าจัดเต็มแบบไม่มีกั๊กกันและยังสวยงามจัดเรียงได้สวยงามมากๆ อีกบล็อคหนึ่งเลยทีเลย เพราะมันมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่แบบ V 90 twin แบบสี่จังหวะ พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Air and oil สำหรับปริมาตรความจุของกระบอกสูบอยู่ที่ 1,151 ซีซี โดยจะมีระยะช่วงชักของกระบอกสูบอยู่ที่ 95 x 81.2 มม. พร้อมอัตรากำลังแรงอัดของตัวกระบอกสูบอยู่ที่ 11:1 ที่สามารถให้กำลังแรงม้าได้สูงสุด 110 แรงม้าที่ 7500 รอบต่อนาที

สำหรับระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ก็ยังเป็นระบบหัวฉีดอิจฉริยะ ที่จะเข้ามาช่วยเรื่องของการส่งเชื้อเพลิง ทำงานร่วมกับระบบเกียร์แบบ 6 สปีดและระบบคลัทช์ ก็เป็นแบบ Single plate with integrated flexible couplings นอกจากนี้ ระบบความปลอดภัยและระบบเบรกก็จัดมาให้มีความสอดคล้องกับระบบเครื่องยนต์ที่ทั้งใหญ่และความแรงก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึง เช่นที่ระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวเฟรมและระบบกันสะเทือนต่างๆ โครงเฟรมเป็นแบบ High tensile steel tubular twin cradle ส่วนของระบบกันสะเทือนตัวโช้คด้านหน้า ให้มาแบบ Upside down fork ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Progressive single swingarm ถัดมาที่ตัวระบบเบรก เป็นระบบดิสก์เบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีขนาดอยู่ที่ 320 มม.แบบดิสก์คู่ และด้านหลังมีขนาด 282 แบบดิสก์เดียว ต่อกันที่ขนาดไซส์ของยางด้านหน้ามีขนาด  120/70 x 17 ส่วนด้านหลังให้ยางไซส์ 180/55 x 17 เรียกว่าไม่เบาเลยทีเดียว

มาต่อกันที่มิติภายนอกของตัวรถเจ้า Moto Guzzi Griso 8V SE (โมโต กุซซี่ กริโซ่ 8วี เอสอี) โดยมันมีมิติความกว้าง x ความยาว x ความสูงอยู่ที่ 830 x 2,260 x 1,070 มม. ตัวเบาะนั่งมีความสูงอยู่ที่ 800 มม. จากใต้ท้องรถสูง 185 มม. และตัวรถมีน้ำหนักอยู่ที่ 222 กิโลกรัม ส่วนความจุของถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ราวๆ  16.7 ลิตร เรียกว่า วิ่งใกล้ไกลสบายๆ หมดห่วงกันไป

สำหรับตัวนี้เป็นอีกหนึ่งตัวที่คิดว่าไบค์เกอร์บางท่านคงอยากจะให้ตัวแทนจำหน่ายในท้องตลาดบ้านเรา เอาเข้ามาจำหน่ายในไลน์มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ในบ้านเรากันบ้าง คงจะสร้างความฮอตและร้อนแรงกันไม่น้อย เรียกว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอีกหนึ่งตัว…

http://www.greatbiker.com/

[OASIS]

 

[OASIS]

ทริปวันนี้ถวายเทียน 9 วัดและงานแต่งงานตบท้าย เสร็จสิ้นไปด้วยดี

[OASIS]

 

[boonboo]

สวัสดีครับพี่ๆ ผมขอถามพี่ๆหน่อยครับว่ารถสูตรสองจังหวะ
(rmx250)ควรใช้นำ้มัน 2t ยี่ห้ออะไรดีครับ รุ่นไหนดีครับ
ผมใช้ shell ADVANCE  ผสม 20 cc ต่อนำ้มัน 1 ลิตร
พอได้ไหมครับ ขอบคุณครับ เพื่อเป็นความรู้แบ่งปันกันครับ

เดี่ยวรอผู้รู้มาตอบนะครับ ช่วงนี้โก แซว ไปทะเล ยังไม่กลับมาครับ ส่วนผม ไม่มีความรู้ใน 2 จัวหวะครับ

ถ้าเป๋นเครื่องตัดหญ้าก่อพอจะตอบได้อยู่5555เอ้าไผมีความรู้เรื่องนี้ตอบเปิ่นกำเน้อ

SUZUKI RMX250 เป็นรถตี่ผลิตจำหน่ายทั่วไป(ในต่างประเทศ)  เครื่องยนต์สองจังหวะ สูบเดียว 249 ซีซี.ระบายความร้อนด้วยน้ำ เป็นรถใจ้งานทั่วไปบ่าได้ออกแบบมาสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ  ฉะนั้น สามารถใจ้น้ำมันสองจังหวะทั่วไปได้ครับ ทุกยี่ห้อใจ้ได้  อัตราส่วนผสมนี้ไปตรวจสอบจากปริมาณควันและสีของหัวเทียนนะครับ ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์  หัวเทียนเบอร์ B8EGV, NGK

ไม่ได้เข้ามาดูนานเลยครับ หากระทู้แทบไม่เจอ
ขอขอบคุณพี่ๆด้วยครับทีมาตอบกระทู้ให้ครับ ผมจะได้หาย
สงสัย ว่าแต่หัวเทียนเบอร์ NGK B8EGV  หาชื้อได้ที่ร้านไหน
ในเมืองเชียงรายครับ ผมใช้ DENSO  W22EP-US เสียบ่อยมากครับ
แบบว่า วันกว่าๆสองวันเปลี่ยนทีเลยครับ

[OASIS]

สวัสดีครับพี่ๆ ผมขอถามพี่ๆหน่อยครับว่ารถสูตรสองจังหวะ
(rmx250)ควรใช้นำ้มัน 2t ยี่ห้ออะไรดีครับ รุ่นไหนดีครับ
ผมใช้ shell ADVANCE  ผสม 20 cc ต่อนำ้มัน 1 ลิตร
พอได้ไหมครับ ขอบคุณครับ เพื่อเป็นความรู้แบ่งปันกันครับ

เดี่ยวรอผู้รู้มาตอบนะครับ ช่วงนี้โก แซว ไปทะเล ยังไม่กลับมาครับ ส่วนผม ไม่มีความรู้ใน 2 จัวหวะครับ

ถ้าเป๋นเครื่องตัดหญ้าก่อพอจะตอบได้อยู่5555เอ้าไผมีความรู้เรื่องนี้ตอบเปิ่นกำเน้อ

SUZUKI RMX250 เป็นรถตี่ผลิตจำหน่ายทั่วไป(ในต่างประเทศ)  เครื่องยนต์สองจังหวะ สูบเดียว 249 ซีซี.ระบายความร้อนด้วยน้ำ เป็นรถใจ้งานทั่วไปบ่าได้ออกแบบมาสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ  ฉะนั้น สามารถใจ้น้ำมันสองจังหวะทั่วไปได้ครับ ทุกยี่ห้อใจ้ได้  อัตราส่วนผสมนี้ไปตรวจสอบจากปริมาณควันและสีของหัวเทียนนะครับ ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์  หัวเทียนเบอร์ B8EGV, NGK

ไม่ได้เข้ามาดูนานเลยครับ หากระทู้แทบไม่เจอ
ขอขอบคุณพี่ๆด้วยครับทีมาตอบกระทู้ให้ครับ ผมจะได้หาย
สงสัย ว่าแต่หัวเทียนเบอร์ NGK B8EGV  หาชื้อได้ที่ร้านไหน
ในเมืองเชียงรายครับ ผมใช้ DENSO  W22EP-US เสียบ่อยมากครับ
แบบว่า วันกว่าๆสองวันเปลี่ยนทีเลยครับ

เปลี่ยนบ่อยขนาดนั้น ต้องจูนคาบู ตรวจสอบส่วนผสมของน้ำมันและตรวจเช็คลูกสูบ+แหวนแล้วครับ  น่ากลัวจะหลวม

หัวเทียนลองไปถามร้านห้าแยกยานยนต์และร้านย่งเฮงสามแยกท่ารถครับ

[boonboo]

สวัสดีครับพี่ๆ ผมขอถามพี่ๆหน่อยครับว่ารถสูตรสองจังหวะ
(rmx250)ควรใช้นำ้มัน 2t ยี่ห้ออะไรดีครับ รุ่นไหนดีครับ
ผมใช้ shell ADVANCE  ผสม 20 cc ต่อนำ้มัน 1 ลิตร
พอได้ไหมครับ ขอบคุณครับ เพื่อเป็นความรู้แบ่งปันกันครับ

เดี่ยวรอผู้รู้มาตอบนะครับ ช่วงนี้โก แซว ไปทะเล ยังไม่กลับมาครับ ส่วนผม ไม่มีความรู้ใน 2 จัวหวะครับ

ถ้าเป๋นเครื่องตัดหญ้าก่อพอจะตอบได้อยู่5555เอ้าไผมีความรู้เรื่องนี้ตอบเปิ่นกำเน้อ

SUZUKI RMX250 เป็นรถตี่ผลิตจำหน่ายทั่วไป(ในต่างประเทศ)  เครื่องยนต์สองจังหวะ สูบเดียว 249 ซีซี.ระบายความร้อนด้วยน้ำ เป็นรถใจ้งานทั่วไปบ่าได้ออกแบบมาสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ  ฉะนั้น สามารถใจ้น้ำมันสองจังหวะทั่วไปได้ครับ ทุกยี่ห้อใจ้ได้  อัตราส่วนผสมนี้ไปตรวจสอบจากปริมาณควันและสีของหัวเทียนนะครับ ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์  หัวเทียนเบอร์ B8EGV, NGK

ไม่ได้เข้ามาดูนานเลยครับ หากระทู้แทบไม่เจอ
ขอขอบคุณพี่ๆด้วยครับทีมาตอบกระทู้ให้ครับ ผมจะได้หาย
สงสัย ว่าแต่หัวเทียนเบอร์ NGK B8EGV  หาชื้อได้ที่ร้านไหน
ในเมืองเชียงรายครับ ผมใช้ DENSO  W22EP-US เสียบ่อยมากครับ
แบบว่า วันกว่าๆสองวันเปลี่ยนทีเลยครับ

เปลี่ยนบ่อยขนาดนั้น ต้องจูนคาบู ตรวจสอบส่วนผสมของน้ำมันและตรวจเช็คลูกสูบ+แหวนแล้วครับ  น่ากลัวจะหลวม

หัวเทียนลองไปถามร้านห้าแยกยานยนต์และร้านย่งเฮงสามแยกท่ารถครับ

ขอบคุณครับ หัวเทียนมันดำแบบนี้แหละครับ ไฟก็ยังมาอยู่ครับ
แต่ต้องค่อยขัดถึงจะสตาทร์ติด

[OASIS]

แบบนี้ทำความสะอาดแล้วมั้งครับหรือว่ายังใจ้งานได้บ่าเมิน

ถ้ามีเขม่าและควันขาวมากแสดงว่าผสมหนา ปรับ 2T บางลง
ผมว่าตรวจสอบลูกสูบกับแหวนก่อนดีกว่าครับ รถสองจังหวะอัตราการสึกหรอสูงกว่าสี่จังหวะ
ลูก+แหวนมักจะหลวมเร็ว  รถสองจังหวะถอด-ประกอบง่ายครับ

[OASIS]

ทริปถวายเทียนพรรษา  27 กรกฎาคม 2558

เดิมทีเฮาจะไปถวายเทียนพร้อมกับกลุ่มพาน ปีนี้มีเหตุต้องมาดำเนินการเองเพราะเป็นวันตี่ลูกบ่าวสมศักดิ์แต่งงาน
ถ้าไปร่วมกับกลุ่ม อ.พานเกรงว่าจะมาบ้านงานแต่งบ่าทัน

นัดกั๋นแต่เช้าบริเวณป้อมตำรวจตรงข้ามกับไร่บุญรอดครับ ตั้งใจไป 9 วัดและอีก 1 งานแต่ง
วางเส้นทางเอาวัดตี่บ่าไกลกั๋นนั๊ก เดิมจะเลือกเอา 9 จอม มาคิดดูระยะทางแต่ละจอม ภายใน 1 วัน
คงจะเป็นไปได้ยาก เหตุนึ่งเพราะคนเฮาค่อนข้างเยอะ หลายๆ คนเอาครอบครัวมาร่วมทำบุญ
ก่อเลยเลือกเอาบริเวณบ่าไกลกั๋นนั๊ก

[OASIS]

"โอ" เด็ก กทม.เฮียนหนังสืออยู่เจียงใหม่ ขี่ CRFมาแอ่วเจียงฮาย
เห็นกลุ่มเฮาก่อแวะเข้ามาทักทาย เลยจวยไปทำบุญตวยกั๋นครับ

[OASIS]

พระธาตุจอมหมอกแก้ว เป็นวัดแรก

วัดพระธาตุจอมหมอกแก้ว เป็นหนึ่งในพระธาตุ 9 จอม ตั้งอยู่ใน บ้านดงมะเฟือง ตำบลจอมหมอกแก้ว อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย

ประวัติพระธาตุพระธาตุจอมหมอกแก้ว ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยใดยังไม่มีปรากฏหลักฐาน แต่มีเรื่องเล่าว่า เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว ชาวบ้านที่ตั้งถิ่นฐานอยู่แถบนั้นได้เข้าไปหาของป่า และได้พบจอมปลวกมีลักษณะคล้ายพระธาตุ ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆลูกหนึ่ง และในบริเวณนั้นมีต้นไม้ที่ ชาวเหนือเรียกว่าต้นส้มป่อยอยู่มากมาย มีลักษณะโน้มเอียงเหมือนพญานาค และได้พบเครื่องปั้นดินเผาที่แตกกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ชาวบ้านจึงได้พากันกราบไหว้จอมปลวกนั้น ใครจะเข้าไปทำอะไรในป่าบริเวณนี้ต้องมาต้องมากราบไหว้บูชาขออนุญาตเสียก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะมีอันเป็นไปต่างๆนานา ชาวบ้านแถบนั้นเชื่อว่าจอมปลวกนั้นเป็นที่บรรจุ อัฐิของเชื้อพระวงค์ในสมัยโบราณ สันนิษฐานว่าเจดีย์ถูกสร้างขึ้นมาครอบจอมปลวกภายหลัง

[OASIS]

ขึ้นไปไหวพระธาตุก่อนครับ