<< เชียงรายเอ็นดูโร่ (CHIANGRAI ENDURO CLUB) #2 >>

[OASIS]

 

[OASIS]

 

[OASIS]

เมนูอะไรเอ่ย.... ป๋ารอด  ไก่ทั้งตัว

[OASIS]

ยำไก่อี้ว่ะ  สุดยอด.....

[OASIS]

เห็นไกลๆ นึกว่าโหลดหน้า

[OASIS]

"น้องวา" เกณฑ์ทหารแล้วครับ

[OASIS]

 

[OASIS]

ขายดีเป็นเททิ้ง อาร์1เอ็ม ตัวเทพค่ายส้อมเสียงโควต้ายุโรปหมดสต๊อกเรียบร้อย

ในขณะที่บ้านเราเพิ่งเปิดตัว เปิดราคา และเปิดจอง ยามาฮ่า วายแซดเอฟ-อาร์1 และ อาร์1เอ็ม อย่างเป็นทางการไปในงาน
บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 ที่ผ่านมา แต่ว่าในโซนยุโรปนั้นได้ขายหมดเกลี้ยงเรียบร้อยแล้ว

อาร์1เอ็ม ตัวแรงตัวใหม่ของค่ายส้อมเสียง ยามาฮ่า ที่ผลิตขึ้นมาจำนวนจำกัดเพียง 500 คันทั่วโลก
น่าจะมีการแบ่งโควต้าตามภูมิภาคและประเทศต่างๆ เพื่อกระจายสินค้าให้ถึงมือผู้ใช้ทั่วโลก เรื่องการแบ่งโควต้าจะเป็นอย่างไรก็ตามนั่น
ไม่ใช่เรื่องที่เราจะนำมาเล่าในวันนี้ เพราะเรื่องที่เราจะนำมาบอกก็คือ โควต้าการจำหน่าย อาร์1เอ็มในยุโรปนั้นหมดแล้วเรียบร้อย!!

ขายดีเป็นเททิ้งจริงๆ สำหรับตัวสนามของ อาร์1 ที่จัดมาเต็มทั้งสเป็คและลูกเล่นต่างๆ จนทำให้ตอนนี้ อาร์1เอ็ม
ในยุโรปนั้นขายหมดเป็นที่เรียบร้อย และลูกค้าที่ซื้อ อาร์1เอ็ม ในยุโรป ยังได้สิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรม
Yamaha Racing Experience กับอดีตนักแข่งโมโตจีพี คอลินส์ เอ็ดเวิร์ดในเดือนมิถุนายนนี้อีกด้วย

หลังจากทีสร้างกระแสฮือฮาจากการเปิดตัวด้วยสารพัดเทคโนโลยีที่จนกลายเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับซูเปอร์ไบค์ของยุโรปและญี่ปุ่น
ตอนนี้ก็เป็นกระแสฮือฮาอีกครั้งด้วยยอดจำหน่ายที่มาแรงแบบเหลือเชื่อ ขายดีอย่างนี้ไม่รู้จะถึงมือพี่ไทยสักกี่คันกันนะ

http://www.autospinn.com/2015/04/yamaha-r1m-sold-out-in-eu/

[Jeda]

"น้องวา" เกณฑ์ทหารแล้วครับ

อ้าว!!!กะนึกว่าแม่ญิง  บ่าฮุ้แต้ๆเนี๊ยะ



คนนี้ ช่วงเช้าท่าบ่าฮู้เตี่ย อิ อิ





ช่วงแลง แป๋งเบ่นขี้ข้างหื้อเปิ้น

[OASIS]

"น้องวา" เกณฑ์ทหารแล้วครับ

อ้าว!!!กะนึกว่าแม่ญิง  บ่าฮุ้แต้ๆเนี๊ยะ

คนนี้ ช่วงเช้าท่าบ่าฮู้เตี่ย อิ อิ


ช่วงแลง แป๋งเบ่นขี้ข้างหื้อเปิ้น

ตาข้ามไปอีกฝั่ง

[OASIS]

Volkswagen Golf เจนเนอเรชั่นแรกฉีก Yamaha R1 ไม่เห็นฝุ่น

3แฟนๆสองล้อมย่อมรู้ดีว่ายามาฮ่า อาร์ 1 เป็นรถสปอร์ตไบค์ที่มีสมรรถนะระดับแนวหน้า
ดังนั้นรถอะไรก็ตามที่จะแซงหน้าได้นั้นต้องมีขุมพลังที่เหนือชั้นแบบสุดๆ

หากมองเผินๆ รถโฟล์คสวาเกน กอล์ฟคันนี้ไม่มีสิ่งใดบ่งบอกความพิเศษ นอกเหนือจากล้ออัลลอยขนาดใหญ่ขึ้นเท่านั้น
แต่แท้จริงแล้ว เครื่องยนต์ใต้ฝากระโปรงเป็นบล็อก 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จที่ผ่านการโมดิฟายด์เต็มพิกัด
รีดพละกำลังถึง 1,042 แรงม้า แรงบิดกระฉูดถึง 1,001 นิวตันเมตรกันเลยทีเดียว

แค่นั้นยังไม่สะใจเพียงพอ เพราะรถคอมแพกต์รุ่นเก๋าคันนี้ยังติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MOTION
และระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่ได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษด้วย

ด้วยการโมดิฟายด์สุดโหดทำให้รถคอมแพกต์กลายร่างเป็นปิศาจร้าย แซงหน้ายามาฮ่า อาร์ 1
ที่ว่าแน่ๆ กลายเป็นรถเชื่องช้าอืดอาดไปเลย

http://www.autospinn.com/2015/04/volkswagen-golf-yamaha-r1-race/

[OASIS]

 

[OASIS]

2015 AMA Supercross Rd 12 Detroit

http://kickasslink.com/2015-ama-supercross-rd-12-detroit-hd-720p-slicknick610-t10391358.html

[OASIS]

 

[OASIS]

ปัญหาโลกแตก รถเกียร์ออโต ติดไฟแดงเข้าเกียร์ว่างหรือคาเกียร์ D แบบไหนดีกว่ากัน

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปพบ เรื่องที่ว่า เวลาจอดรถติดไฟแดงนั้น ควรเข้าเกียร์ไหน
ซึ่งเรื่องนี้เพื่อนๆหลายๆคนอาจจะส่งสัยว่าการเข้าเกียร์สลับไปมาจะส่งผลเสียต่อชุดเกียร์อัตโนมัติ หรือเกียร์ออโต้ ที่เราชอบเรียกกัน
หรือวันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน กับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ เดี๋ยวเราไปชมกันเลยครับ กับเรื่องราวในวันนี้

หลายท่านคงสงสัยว่าในช่วงที่จอดรถติดไฟแดงนั้นควรเข้าเกียร์ไหนดี ถ้ารถเป็นระบบเกียร์ ออโต้
ส่วนผู้ที่ใช้รถเกียร์ธรรมดานั้นก็คงต้องเข้าในตำแหน่งเกียร์ว่างอยู่แล้วเพราะถ้ายิ่งรถติดนานๆ จะให้มานั่งเหยียบครัช
เหยียบเบรค คงเมื่อยน่าดู แต่ผู้ที่ขับรถเกียร์ออโต้ หลายๆท่านเวลาจอดติดไฟแดง บ้างท่านก็เข้าเกียร์ D แล้วเหยียบเบรค
บางท่านก็เข้าเกียร์ N แล้วถึงเบรคมือ ซึ่งตามจริงแล้วสามารถทำได้ทั้งสองแบบ แต่การสลับเกียร์ไปมาจะส่งผลต่อระบบเกียร์ดังนี้

1 เมื่อเข้าเกียร์ N หรือเกียร์ว่าง ระบบต่างๆภายในเกียร์จะหยุดการทำงานชั่วขณะ ในช่วงที่เราจอดรถนิ่งๆ
ทำให้ภายในระบบเกียร์ไม่มีการเกิดแรงดันในพวกระบบวาล์วต่างๆ

2.เมื่อเข้าตำแหน่งเกียร์ D ชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการออกรถหรือขับเคลื่อนนั้นจะเริ่มทำงานขับแรงดัน ตามที่เราเร่งรองเครื่องยนต์

3.เมื่อ ลูก ทอร์ค คอนเวอร์เตอร์ จะหยุดขับแรงดัน เมื่อเราเข้าเกียร์ N และขับแรงดันต่อทันที่เข้า เกียร์ D จะทำอัตราแปรผันภายในระบบเกียร์ 
และพวกวาล์ว มีแรงดันไม่ต่ำกว่า 2-5 บาร์ สำหรับต้นกำลังในการออกรถ

หมายความว่าเวลาที่เราสลับเกียร์ไปมา จะทำให้แรงดันภายในระบบเกียร์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
จึงทำให้ชิ้นส่วนต่างๆภายในเกียร์ทำงานอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เห็นได้ว่า การสลับเกียร์ไปมาในช่วงที่จอดติดไฟแดง
และออกตัวจะเป็นการบั่นทอนอายุการใช้งานของระบบเกียร์เรานั้นเอง

เพื่อนๆคงอาจจะทราบแล้วนะครับว่า เวลาที่จอดรถติดไฟแดงควรที่จะเข้าเกียร์ไหน ถ้ารถติดนานๆก็เข้าเกียร์ N (ว่าง)
แต่ถ้าติดนิดเดียวเหยียบเบรครอก็ได้จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ไปมา แต่การจอดติดไฟแดงเข้าเกียร์ D เหยียบเบรค ก็ระมัดระวังนิดนึง
ไม่ควรทำกิจกรรมอะไรเกิดเท้าหลุดจากแป้นเบรค รถอาจพุงไปชนคันหน้าเกิดอุบัติเหตุได้

http://car.boxzaracing.com/knowledge/3544

[OASIS]

ไปกันใหญ่ บก.จร.เสนอเพิ่มเกณฑ์อายุสำหรับใบขับขี่ จะเล่นบิ๊กไบค์ต้อง 30 ขึ้นไปเท่านั้น

กลายเป็นประเด็นใหญ่โตไปเสียแล้วสำหรับข้อกำหนดที่ฟังดูไม่ค่อยเข้าท่าจากบรรดาท่านๆ ทั้งหลาย
ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงการ “ล้อมคอก” ผู้ใช้บิ๊กไบค์ ด้วยมาตรการณ์ต่างๆ นาๆ โดยอ้างเรื่องความปลอดภัย
และข้อกำหนดของกฎหมายรุ่นคุณปู่

หลังจากกรณีบิ๊กไบค์ชนนักศึกษาเสียชีวิตที่สร้างกระแสในสังคมอย่างรุนแรง ล่าสุดมีการให้สัมภาษณ์ถึงการ
กำหนดอายุของคนขี่บิ๊กไบค์ โดย พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ที่บอกว่า “อยากให้คนที่ขับขี่บิ๊กไบค์ได้ต้องอายุ 30 ปีขึ้นไป
และต้องมีเหตุผลประกอบอื่นๆ ด้วย” ว่าแต่เหตุผลประกอบอื่นๆ และการต้องมีอายุ 30 ปีขึ้นไปนี่ใช้อะไรเป็นมาตรฐานกัน
นั่นคือสิ่งที่กลุ่มคนบนโลกโซเชียลต่างสงสัย

โดยท่าน รอง ผบ.จร. ได้ให้สัมภาษณ์ว่าทางตำรวจก็ได้ใช้กฎหมายทุกอย่างกับผู้ใช้บิ๊กไบค์ไม่ได้ต่างไปจากผู้ใช้คนใช้ถนนกลุ่มอื่นๆ
ไม่ได้ให้สิทธิ์พิเศษ ใช้ช่องทางพิเศษไม่ได้ ไม่ว่ารถจะแรงแค่ไหนก็เท่าเทียมกันหมด และต้องขับตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด
คือไม่เกิน 90 กม./ชม. (หากยังไม่ทราบเรื่องการกำหนดความเร็วที่ 90กม./ชม. นั้นมีใช้มานานแล้ว)

ข้อกฎหมายปัจจุบันกำหนดให้ผู้ที่เริ่มทำใบขับขี่ได้ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันจะเห็นว่ามีกลุ่มเด็กมัธยมใช้รถบิ๊กไบค์กันมากขึ้น
จึงอาจต้องมีการแบ่งประเภทผู้ใช้รถออกตามช่วงอายุให้ชัดเจน โดยยึดตามปริมาณกระบอกสูบหรือซีซี ตามอย่างต่างชาติ

พร้อมกันดีทาง รอง ผบ.จร. ยังได้อ้างถึงการตั้งด่านจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตำรวจมีข้อจำกัดเรื่องขนาดซีซี
ของรถที่เจ้าหน้าที่ใช้งานที่ไม่สู้รถบิ๊กไบค์ จึงต้องใช้วิธีตั้งด่านสกัดจับเพราะตำรวจไล่ไม่ทันและยังเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ด้วย

ยืนยันว่าไม่ว่ารวยหรือจนก็จับหมด ไม่งั้นจะกลายเป็นสองมาตรฐาน ส่วนเรื่องเครื่องมือวัดเดซิเบลที่มีน้อยและ
ไม่พอกับการใช้งานแล้วใช้หูวัดเอาว่าดังเกินกำหนดนั้น ทาง รอง ผบ.จร กล่าวว่า “เราไม่ได้ทำงานแบบผักชีโรยหน้า
แต่ขาดแคลนอุปกรณ์จริงๆ”

แหม่ ก็ไม่รู้ว่าขาดแคลนอุปกรณ์หรือขาดแคลนในส่วนไหนกันแน่ แต่ประเด็นเรื่องการเอาหูวัดความดังท่อไอเสียนี่ก็เป็นประเด็นมาหลายทีแล้ว
ถึงทางเจ้าหน้าที่จะยืนยันว่าไม่สองมาตรฐาน ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ แต่ทำไมประชาชนยังส่ายหน้า
อันนี้ก็ลองไปพิจารณากันดูเองแล้วกัน

http://www.autospinn.com/2015/04/police-said-bigbiker-should-be-30yearold/

[boy เจียงฮาย]

ขายครับ32000

[OASIS]

Ssangyong XAV รถเอสยูวีต้นแบบดีไซน์ประหลาดตา

งานโซล มอเตอร์โชว์มีรถต้นแบบที่น่าสนใจให้เลือกชมกันมากพอสมควร
หนึ่งในนั้นคือซานยอง เอ็กซ์เอวี (Ssangyong XAV) ดีไซน์หวือหวาคันนี้

เอ็กซ์เอวีเป็นรถเอสยูวีต้นแบบขนาดคอมแพกต์ ดีไซน์มีกลิ่นอายของรถซานยอง โคแรนโด รุ่นปี 1996
โดยเฉพาะซุ้มล้อที่มีขนาดใหญ่ กรอบไฟเล็ก ตัวถังเน้นความบึกบึน ผสมผสานสไตล์เรโทรเข้ากับความโมเดิร์นในแบบซานยอง

ค่ายรถจากเกาหลีรายนี้ระบุว่า เอ็กซ์เอวีย่อมาจาก for eXciting Authentic Vehicle
ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานแบบเอาท์ดอร์เป็นหลัก บั้นท้ายมีกล่องเก็บของอเนกประสงค์
แผงหลังคาเป็นผ้าใบที่เปิดออกรับแสงแดดสายลมได้

ขณะที่ห้องโดยสารเน้นความเรียบง่ายและล้ำอนาคตสไตล์รถต้นแบบ ใช้สีน้ำตาลสลับกับวัสดุเมทัลลิก
เส้นสายดูเฉียบคมและตรงไปตรงมา

ขุมพลังขับเคลื่อนเป็นระบบไฮบริด เครื่องยนต์บล็อก 4 สูบ ความจุ 1.6 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
ที่ติดตั้งทั้งเพลาหน้าและเพลาหลัง ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ
ช่วงล่างเป็นแบบถุงลมปรับอัตโนมัติ

ถ้าขึ้นสายการผลิตจริง เอ็กซ์เอวีจะออกจำหน่ายเคียงข้างกับทิโวลี รถอเนกประสงค์รุ่นเล็ก
ขณะเดียวกัน ซานยองยังอาจส่งรถรุ่นใหญ่อีกหนึ่งโมเดลออกทำตลาดพร้อมกันด้วย โปรดติดตาม

http://www.autospinn.com/2015/04/ssangyong-xav-concept-unveiled-seoul/

[OASIS]

เทรนด์ลดขนาดเครื่องยนต์ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ล่าสุด โตโยต้าเปิดเผยข้อมูลฉบับเต็มของขุมพลัง 1.2 ลิตร
เทอร์โบชาร์จรุ่นใหม่ที่เพียบพร้อมทั้งสมรรถนะและความประหยัดพลังงาน

หัวใจขับเคลื่อน 1.2 ลิตร เทอร์โบรุ่นนี้จะถูกใช้งานในรถโตโยต้า ออริสสำหรับตลาดญี่ปุ่นเป็นโมเดลแรก
มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดไดเรคอินเจคชั่นอันล้ำสมัย รีดพละกำลัง 114 แรงม้า แรงบิด 136 ฟุตปอนด์
ซึ่งทางโตโยต้าการันตีว่าให้สมรรถนะเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรเลยทีเดียว

โตโยต้ายังติดตั้งระบบวาล์วแปรผันซึ่งช่วยให้เครื่องยนต์มีการทำงานแบบ Atkinson cycle ในบางจังหวะ
เพิ่มความประหยัดน้ำมันและมีประสิทธิภาพความร้อนสูงสุด โดยตัวเลขอัตราบริโภคน้ำมันอยู่ที่ราว 21 กม./ลิตร

ถึงแม้โตโยต้าจะมุ่งเน้นการพัฒนารถไฮบริดมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นรายนี้
ก็ยังยืนยันว่าเครื่องยนต์ขนาดเล็กยังคงมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต

“เราประสบความสำเร็จกับไฮบริด แต่ขณะเดียวกัน เรายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในเช่นกัน”
โตโยต้าระบุในแถลงการณ์ “โตโยต้ามีเป้าหมายเพิ่มรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในวงกว้าง”

[OASIS]

KAWASAKI KX 100 ตัวเล็ก…สุดจี็ด!!!

เครื่องยนต์ 2 จังหวะ สูบเดียว

ชิ้นงานบอดี้พาร์ท 14 ชิ้น

- การ์ดแกนช็อคอับหน้า
- บังโคลนหน้า
- แป้นเบอร์ด้านหน้า
- ปีกหม้อน้ำขวา-ซ้าย
- แผงการ์ดรังผึ้งหม้อน้ำ
- ถังน้ำมันเชื้อเพลิง
- เบาะนั่ง
- แป้นเบอร์ซ้าย-ขวา
- บังโคลนหลัง
- ตัวดันโซ่หน้าสเตอร์หลัง
- การ์ดคาลิเปอร์หลัง
- ตัวรถใช้สีเขียว
- ดำ สลับตัดกันไปมา
ระบบระบายความร้อน ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำอะลูมิเนียม
ขนาดความจุ 99 ซีซี.
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง คาร์บูเรเตอร์ KEIHIN ขนาด 28 มม. แบบ Flat Slide
รีดวาล์ว เป็นคาร์บอน ใช้กล่อง CDI ควบคุมการจุดระเบิด

กระบอกสูบ x ระยะชัก 52.5 x 45.8 ใช้ระบบการปิดวาล์วแบบเดียวกับ KR 150 โดยมีชื่อเรียกระบบนี้ว่า KIPS 
มันจะใช้สลักฟันเฟืองหมุนขบเพื่อเปิดและปิดวาล์ว ไม่ต้องไปวุ่นวายกับระบบวาล์วแบบไฟฟ้า
(ข้อเสียคือ ต้องถอดมาทำความสะอาด)

ถังน้ำมัน ขึ้นรูปด้วยพลาสติค ป้องกันเม็ดฝุ่นผงสนิมและยังทนทานกว่าถังเหล็กแต่อายุใช้งานไม่มากเท่า
เกียร์ แบบธรรมดา 6 สปีด
คลัทช์ เป็นแบบเปียก สั่งงานด้วยสายสลิง
สตาร์ทเครื่องด้วย  คันสตาร์ทเท้า
สวิงอาร์ม อะลูมินั่มอัลลอย
ขับเคลื่อนด้วย โซ่-สเตอร์
ท่อไอเสีย เป็นลักษณะตัว U ออกด้านหน้าเครื่องบนต์ แล้วหมุนเหวี่ยงขึ้นด้านข้างไปจบปลายท่อที่ด้านหลังเหนือวงล้อ
เฟรม แบบเหล็กเป็นแบบคานอุ้มเครื่อง ตัวเฟรมเป็นแบบชิ้นเดียวไม่สามารถถอดแยกซับเฟรมหลังได้

ระบบกันสะเทือน

- ด้านหน้า เทเลสโคปิคหัวกลับขนาด 36 มม. ปรับตั้งได้ 20 ระดับ
- ด้านหลัง ช็อคอับเดี่ยวแบบ Uni-Trak ปรับตั้งได้ 24 ระดับ สปีดจังหวะช้าเร็วของการคืนตัวอีก 21 ระดับ

ระบบเบรค

- ด้านหน้า จานเบรคเดี่ยวกับคาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ
- ด้านหลัง จานเบรคเดี่ยวกับคาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ

การหล่อลื่นของเครื่องยนต์ 2 จังหวะจะมีน้ำมันเครื่องซึ่งหล่อลื่นระบบเกียร์แล้วก็ยังมีน้ำมันออโต้ลู้บที่ผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงร่วมอยู่ด้วย ต่สำหรับรถรุ่นนี้หากใช้น้ำมันออโต้ลู้บแบบที่จำหน่ายทั่วไป
เกรงว่าจะไม่หนืดพอเพราะรอบเครื่องสูงกว่าทำงานหนักกว่า จึงควรใช้น้ำมันออโต้ลู้บสำหรับการแข่งขันเท่านั้น

http://www.9carthai.com/kawasaki-kx-100/