<< เชียงรายเอ็นดูโร่ (CHIANGRAI ENDURO CLUB) #2 >>

[OASIS]

 

[OASIS]

 

[OASIS]

RD1 - GP of Chile - Recap

[OASIS]

เผยตัวตนที่แตกต่างไม่ตามใคร ดูคาติ สแครมเบลอร์ จาก เดอุส เอ็กซ์ มาชินะ

งานนี้ดูคาติเลยจัดการส่ง ดูคาติ สแครมเบลอร์ ไปให้สามสำนักแต้่งชื่อดังเพื่อให้แต่ละค่าย
สร้าง ดูคาติ สแครมเบลอร์ ในแบบของตัวเองออกมา และนี่คือ “ออนโด กราทตาน”(Honda Grattan)
จากสำนักแต่ง เดอุส เอ็กซ์ มาชินะ จากเมืองแห่งศาสตร์และศิลป์ มิลาน อิตาลี

แค่มองแวบแรกก็เหมือนโดนสะกดด้วยสีสันอันแสบทรวงของตัวรถ และงานออกแบบที่ดูไกลจาก
สไตล์เดิมของตัวรถและไม่ได้ใกล้เคียงกับความเป็นฮิปสเตอร์อย่างในตอนแรก

ตัวรถถูกใส่สีเหลืองทั้งหมดเพื่อความโดดเด่นบนเฟรมและเครื่องยนต์สีดำ ตัดด้วยเบาะสีฟ้าสว่างเตะตาสุดๆ
ถ้ามองผ่านๆ เราอาจจะรู้สึกเหมือนกับว่ารถคันนี้ก็ไม่ได้พิเศษตรงไหน แต่ถ้ามองดีๆแล้วล่ะก็
เชื่อว่าคงละสายตาได้ยากเลยทีเดียว

http://www.autospinn.com/2015/04/ducati-scrambler-deus-ex-machina/

[OASIS]

 

[OASIS]

พริตตี้จีนรวมตัวประท้วงเหตุ "เซียงไฮ้ ออโต้ โชว์" ปีนี้ประกาศแบนพริตตี้!!

วันนี้(28เม.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหล่าพริตตี้สาวสวยในประเทศจีน
ออกมาแต่งตัวมอมแมมประท้วงจากกรณีที่ผู้จัดงาน "เซียงไฮ้ ออโต้ โชว์" ประกาศแบน "พริตตี้" ในปีนี้

            สำหรับงานเซียงไฮ้ ออโต้ โชว์ (Shanghai Auto Show) ปีนี้จะไม่เหมือนกับปีนี้ผ่านๆมาหลังผู้จัดงานตัดสินใจแบน "พริตตี้"
เนื่องจากมองว่าประชาชนให้ความสนใจนางแบบมากกว่าเข้ามาชมรถยนต์
 
        ทั้งนี้เหล่าพริตตี้ที่ตกงานจึงออกมารวมตัวประท้วงเรียกร้องให้ผู้จัดงานทบทวนเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งหลังจากภาพเหตุการณ์ประท้วงถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ก็มีผู้มาคอมเมนต์ให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
แม้ยอมรับว่าพริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์จะดึงดูดให้คนสนใจมากกว่ารถยนต์จริงๆก็ตาม

http://www.tnews.co.th/html/content/139867/

[OASIS]

Enduro Horror Movie

[OASIS]

 

[OASIS]

 

[OASIS]

ถูกใจสายหมอบ “สแครมเบลอร์ คาเฟ่ เรซเซอร์” จาก มิสเตอร์ มาร์ตินี่

ชื่อของชิ้นงานน่าจะบอกความเป็นตัวตนได้ชัดเจนสุดๆ อยู่แล้ว อย่างที่เราเห็นกัน เจ้านี่เนี่ยคาเฟ่สุดๆ ไปเลย
เริ่มตั้งแต่แฟริ่งชิ้นหน้าที่เรียกได้ว่าคาเฟ่ขนานแท้ โดยยังคงความเป็นสแครมเบลอร์ดังเดิมเอาไว้มากพอสมควร
ดูได้จากยางที่ยังคงยางเดิมติดรถเอาไว้ให้กลิ่นอายแบบ แท้ๆ เถื่อนๆ

นิโคลา มาร์ตินี่ แห่ง สำนักแต่ง มิสเตอร์ มาร์ตินี่ เองกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า เขาตัดสินใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจคนี้
เพราะว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เขาอยากทำงานร่วมกับแบรนด์อิตาลีแบรนด์นี้ รวมถึงการร่วมงานกับทีมงาน
ของสแครมเบลอร์เป็นอะไรที่ดี เขาจึงตัดสินใจร่วมแปลงโฉมสแครมเบลอร์แบบดั่งเดิมให้เป็น คาเฟ่ เรซเซอร์
ในแบบที่เขาต้องการ

งานออกแบบค่อนไปทางฝั่งอเมริกามากกว่าที่จะเป็นคาเฟ่เรซเซอร์ของเกาะอังกฤษ  ด้วยส่วนผสมต่างๆ
ที่ลงตัวทำให้เกิดเป็นสแครมเบลอร์ที่มีความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ ท่อยกสูง ยางดอกน้อยๆ
น่าจะช่วยคงความเป้นตัวตนของสแครมเบลอร์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี

นอกจากแฟริ่งชิ้นหน้าแล้วยังมีท้ายและท่อไอเสียที่ถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด รวมถึงพักเท้า แฮนด์บาร์
และระบบกันสะเทือนหลัง พร้อมกับสีดำขลับทั้งคัน แบบที่คุณแล้วจะต้องสะดุดแน่นอน

ไม่ใช่เพียงแค่ คาเฟ่ เรซเซอร์ เท่านั้น เรายังมี สแครมเบลอร์ แนวๆ โดนใจวัยรุ่น จาก เดอุส เอ็กซ์ มาชินะ และ
สแครมเบลอร์ให้แบบเดิร์ทๆ จาก ออฟฟิซิเน่ เมอร์เมด ที่น่าจะเป็นเเรงบันดาลใจในการจับรถของตัวเองมาคัสตอม
หรือ กระตุ้นความอยากได้การครอบครอง รถสุดแนวคันนี้ก็ได้บ้าง

http://www.autospinn.com/2015/04/ducati-scrambler-by-mr-martini/

[OASIS]

ตะกุยซะให้เข็ดกับ “สแคทช์” ดูคาติ สแครมเบลอร์ คัสตอม โดย ออฟฟิซิเน่ เมอร์เมด

เหล็ก เหล็ก เหล็ก มองตรงไหนรถคันนี้ก็มีแต่ส่วนประกอบที่เป็นสีเหล็กดิบๆ ไปเกือบทั้งหมด
จะเว้นก็ตรงไฟหน้าสุดแนว ตัวรถคันนี้ได้รับแรงบัลดาลจมาจากคำว่า “สแคทช์” (Scratch) ในภาษาอังกฤษที่หมายความว่า
ตะกุยหรือขูดออก รับกับรูปแบบของตัวรถสุดๆ

เราจะเห็นเอกลักษณ์ของสแครมเบลอร์คันนี้ได้จากถังน้ำมันที่ตั้งใจลงสีเองกับมือ ซึ่งเป็นกระบวนที่ทางสำนักทำให้
เฉพาะรถสุดเอ็กซ์ครูซีฟเท่านั้น บังโคลนแบบเหล็กสุดเท่ดูทำให้เนียนตาขึ้น ทางสำนักตั้งใจเหลือแค่ชิ้นส่วนที่จำเป็นกับตัวรถที่สุด
ส่วนไหนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ จะถูกถอดทิ้งไปโดยไม่รีรอ

สแคทช์ใช้ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว และล้อหลังขนาด 18 นิ้ว เบาะนั่งเล่นแฮนด์บาร์ใช้หนังสีเขียววินเทจหุ้มเอาไว้
และที่คาดไม่ได้คือไฟฟ้าที่บ่งบอกถึงความเป็นตะวันตกที่ทำให้สแครมเบลอร์คันนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด

http://www.autospinn.com/2015/04/ducati-scrambler-custom-by-officinemermaid/

[OASIS]

 

[OASIS]

 

[OASIS]

 

[OASIS]

13 สิ่งเกี่ยวกับ Apple Watch ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

สตีฟ จ็อบส์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Apple Watch

          แม้ว่า Apple Watch เป็นความฝันในช่วงบั้นปลายชีวิตของ สตีฟ จ็อบส์ แต่ทางแอปเปิลยืนยันว่านาฬิกาแห่งอนาคตตัวนี้
เกิดจากความต้องการของ โจนาธาน ไอฟ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการออกแบบของแอปเปิล ซึ่งเป็นผู้ผลักดัน
จนเกิดโปรเจคท์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจาก จ็อบส์ เสียชีวิตไปเมื่อปี 2011 นั่นเอง

           โดดเด่นด้านดีไซน์

          เม็ดมะยมแบบดิจิตอลของ Apple Watch ได้รับการออกแบบให้มีความสวยงามไม่ต่างจากเม็ดมะยมของนาฬิกาเรือนหรู
แถมมีฝาครอบด้านหลังนาฬิกา รวมทั้งยังลงรายละเอียดให้ดูมีความคลาสสิก และหน้าปัดนาฬิกาที่ดูเรียบหรูด้วย

           ใช้กระจกคุณภาพเยี่ยมสำหรับการผลิต Apple Watch

          กระจกที่ทางแอปเปิลใช้ผลิต Apple Watch ไม่ได้มีเพียงแค่กระจกแซฟไฟร์เท่านั้น แต่ยังมีกระจกที่ผลิตเองอย่าง Ion-X
ซึ่งมีความแข็งแรงไม่แพ้กัน โดยกระจกทั้ง 2 แบบ สามารถกันรอยขีดข่วนได้ดีเหมือนกับหน้าจอ iPhone 6 เลยทีเดียว

มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการตัวใหม่

          แอปเปิลได้ทำการพัฒนาระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่เฉพาะ Apple Watch เท่านั้น โดยใช้ชื่อว่า Watch OS
ซึ่งสามารถใช้งามร่วมกับอุปกรณ์และแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ ของแอปเปิลได้ อีกทั้งยังได้รับการออกแบบให้มีความสวยงาม
และมีจุดเด่นที่หน้าปัด ซึ่งสามารถเลือกเปลี่ยนได้หลายแบบด้วย

           ผู้ใช้สามารถปรับแต่งขนาดตัวหนังสือเองได้

          ทางแอปเปิลได้พัฒนารูปแบบตัวอักษรเพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับขนาดตัวอักษรได้ตามความเหมาะสมของตัวเอง
ซึ่งรูปแบบตัวอักษรดังกล่าวเรียกว่า San Francisco ที่ช่วยให้มองเห็นตัวหนังสือชัด แม้หน้าจอของ Apple Watch
จะมีขนาดเล็กก็ตาม

Apple Watch ตอบสนองการทำงานต่อผู้ใช้ได้ดี

          แอปเปิลตั้งใจสร้างและพัฒนา Apple Watch ให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ เพื่อตอบสนองการทำงาน
ในฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง

           มีวิธีบอกเวลาแบบใหม่

          ไม่เพียงแต่ Apple Watch สามารถเปลี่ยนการแสดงผลได้หลายแบบแล้ว ทางแอปเปิลยังคิดค้นวิธีบอกเวลาแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร
ซึ่งวิธีดังกล่าวมีชื่อว่า Solar ซึ่งจะแสดงเวลาตามการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ แถมมีเส้นบอกตำแหน่งดวงอาทิตย์แบบเรียลไทม์
ตามพื้นที่ของผู้ใช้ด้วย

แค่สะบัดข้อมือ ก็พบดอกไม้ที่งดงามสุด ๆ แล้ว

          หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากของ Apple Watch คือ ทุกครั้งที่ผู้ใช้สะบัดข้อมือ หน้าจอนาฬิกาจะแสดงรูปดอกไม้หลากชนิด
กำลังผลิบานราวกับอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเลยทีเดียว ทั้งนี้ กว่าที่แอปเปิลจะทำฟีเจอร์นี้สำเร็จ ต้องใช้กล้องประสิทธิภาพสูง
เพื่อถ่ายภาพดอกไม้ในแนวสต็อปโมชั่น แล้วใส่เอฟเฟกต์พิเศษเพื่อให้ดอกไม้บานอย่างสวยงาม

           Glances เทคโนโลยีใหม่ ช่วยให้ใช้งานแอพฯ ผ่าน Apple Watch ได้สะดวก

          แอปเปิลได้พัฒนาเทคโนโลยี Glances ควบคู่กับ Apple Watch สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลของแอพพลิเคชั่น
ที่ถูกใช้งานเป็นประจำ แล้วทำการประมวลผลเพื่อปรับปรุงการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
โดยผู้ใช้เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น

ปรับแต่งไอคอนแอพพลิเคชั่นได้ตามต้องการ

          เมื่อกดปุ่มที่เม็ดมะยมดิจิตอลของ Apple Watch แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ จะปรากฏขึ้นมาพร้อมกันในรูปแบบที่หน้าจอ Home
ซึ่งผู้ใช้สามารถเปลี่ยนตำแหน่ง เพิ่มหรือลดไอคอนได้ง่าย ๆ โดยใช้วิธีเดียวกับ iPhone นั่นเอง

           เช็กข้อความเข้าได้อย่างรวดเร็ว

          เมื่อมีคนส่งข้อความมาหาคุณในขณะที iPhone เชื่อมต่อกับ Apple Watch อยู่ จะมีการสั่นเตือนที่ตัวนาฬิกา
จากนั้นยกข้อมือขึ้นคุณจะเห็นว่ามีข้อความเข้ามาพร้อมกับชื่อของคนส่ง และหากยกข้อมือค้างไว้เพียงไม่กี่วินาที
เนื้อหาในข้อความจะปรากฏขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นการเช็กข้อความที่รวดเร็วมากเลยทีเดียว

มีการแสดงผลที่หลากหลายมากขึ้นในอนาคต

          แม้ว่า Apple Watch จะมีรูปแบบของการแสดงผลให้เลือกใช้มากมาย แต่ในอนาคต
ทางแอปเปิลต้องการเพิ่มรูปแบบดังกล่าวให้มีความหลากหลายสำหรับผู้ใช้มากขึ้น
อย่างไรก็ตามทางแอปเปิลไม่มีแผนที่จะให้บริษัทอื่นเข้ามาร่วมพัฒนารูปแบบของการแสดงผลแต่อย่างใด

           ก่อนซื้อ Apple Watch ควรลองให้พอใจ

          คุณควรลองใช้งานเจ้า Apple Watch จนกว่าจะพอใจ เพื่อหาดูว่ารุ่นไหนที่คุณต้องการจริง ๆ ซึ่งสมาร์ทวอทช์ของแอปเปิล มีให้เลือกทั้งหมด 3 คอลเลคชั่น ได้แก่ Apple Watch รุ่นปกติ, Apple Watch Sport และ Apple Watch Edition รวมถึงมีชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้เลือกตามต้องการ แถมมีราคาต่างกันด้วย

          นับว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะไม่เพียงแต่มีการออกแบบที่สวยงามแล้ว ยังเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่น่าใช้อีกต่างหาก ใครที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและอยากได้นาฬิกาข้อมือไฮเทคอย่าง Apple Watch ไว้ใช้งานละก็ เตรียมจับจองเป็นเจ้าของกันให้ดี ๆ นะครับ

http://men.kapook.com/view117335.html

[OASIS]

Honda CRF250L รถในแนวเอ็นดูโร่ ที่มีอีกแบบก็คือ CRF250M ซึ่งมาในสไตล์โมตาด
ซึ่งคนที่ใช้รถรุ่นนี้ส่วนมากก็จะทำการตกแต่งเป็นแค่ 2 แนวเท่านั้นก็คือ แนวซุปเปอร์ครอส หรือไม่ก็โมตาดแบบเจ็บๆ
แต่จะมีใครบ้างที่กล้าเอามาตกแต่งแบบข้ามสายพันธุ์

http://www.mocyc.com/modify/565/HondaCRF250

[OASIS]

 

[OASIS]

แอบถ่าย 2016 Triumph Bonneville

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่นิยมกันสำหรับคอรถคลาสสิกในบ้านเราอย่าง Triumph Bonneville
ซึ่งหลังจากทางค่ายปรับลดโครงสร้างราคาลงมายอดขายก็พุ่งกระฉูด และในวันนี้ทางสื่อเมืองนอกเองก็
สามารถแอบถ่ายการทดสอบรถ Bonneville โมเดลใหม่สำหรับปี 2016 มาได้ มันจะมีรายละเอียดยังไงไปติดตามชมกันได้เลยครับ

สำหรับเจ้าตัวนี้เท่าที่ได้รับข้อมูลมามันจะใช้เครื่องยนต์ใหม่ แชสซีใหม่ รวมไปถึงสไตล์โดยรวมของรถที่ใหม่หมดด้วย
และมันจะดูย้อนยุคยิ่งกว่าโมเดลปัจจุบันเสียอีก ด้วยตัวเครื่องยนต์นั้นใช้แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ fully-functional
ดังที่เราจะเห็นแผงหม้อน้ำขนาดใหญ่ด้านหน้าของเครื่องยนต์ และทางแหล่งข่าวนั้นยังได้ระบุเพิ่มเติมว่าพวกเค้ามองไม่เห็น
water pump แล้ว ซึ่งนั่นก็อาจจะหมายความว่าทางค่าย Triumph นั้นใช้ electric pump เช่นเดียวกันกับ Project Rushmore
ของทางค่าย Harley Davidson นั่นเอง

อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจก็คือแม้ว่าเจ้าบอนนี่คันนี้จะจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด แต่ว่าตรงบอดี้ของลิ้นปีกผีเสื้อนั้น
ก็ได้ออกแบบมาให้คล้ายคลึงกับแนวคาบูร์เรเตอร์ในสมัยก่อนนั่นเอง โดยที่เครืองยนต์ของ Bonneville
สำหรับโมเดลปัจจุบันนั้นจะอยู่ที่ 865cc แต่แหล่งข่าววงในนั้นได้ให้ข้อมูลมาว่าเครื่องยนตืใหม่ของเจ้าบอนนี่นั้น
จะมีขนาดความจุ cc ที่มากกว่าเดิม

http://www.greatbiker.com/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2-2016-triumph-bonneville/

[OASIS]

Vespa Limited 5 Years Race Collection

หลังจากที่ยอดการจำหน่ายของเจ้า Vespa ที่ถือว่าทำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง  ก็เริ่มที่จะผลิตตัว Limited
ออกมาเอาใจแฟนๆ สไตล์คลาสสิคกันไป  ซึ่งรุ่นก่อนหน้านี้จะเป็นตัว Vespa Limited 68 Years
ซึ่งผลิตมาเพียงรุ่นละ 200 คันเท่านั้น ตอนนี้ก็หมดสต๊อคการผลิตกันไปแล้ว สำหรับรอบนี้เป็นคิวการ
ผลิตของ Vespa Limited 5 Years Race Collection ซึ่งในรุ่นนี้มีการจัดจำหน่ายกันในเพียงประเทศไทยเท่านั้น
โดยจะมีให้เลือก 5 แบบ แบบละ 100 คันทั่วประเทศ ใครที่พลาดและกำลังอยากจะเก็บรถแบบ Limited
เอาไว้ต้องรีบจัดให้ไว เพราะของมันมาเร็วไปเร็วจริงๆ คร๊าบ….

Vespa Limited 5 Years Race Collection รุ่นนี้จะมีให้เลือกด้วยกัน 5 เฉดสีแบ่งเป็นสองรุ่นดังนี้
– Vespa Sprint 125 3Vie สีขาว พาทริโอตา (Patriota)
– Vespa Sprint 125 3Vie สีส้ม กอสซาเมอร์ (Gossamer)
สำหรับในรุ่น Vespa Sprint 125 3Vie จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 101,500 บาท

และ Vespa Primavera 125 3Vie จะมีให้เลือกสีดังนี้
– Vespa Primavera 125 3Vie สีดำ บอมบัส (Bombus)
– Vespa Primavera 125 3Vie สีแดง เคอร์เมส (Kermes)
– Vespa Primavera 125 3Vie สีเทานกพิราบ เทอร์ดัส (Turdus)

สำหรับในรุ่น Vespa Primavera 125 3Vie จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 98,500 บาท

นอกจากจะผลิตมาในจำนวนจำกัดแล้ว ยังมีของแถมที่เรียกว่าสุดพิเศษ สุดเอ็กซ์คลูซีฟมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นหมวกกันน๊อคนิรภัยที่สีสันของตัวหมวกเองจะเข้ากับชุดของตัวสีรถ  พร้อมแว่นตากันลม ถุงมือ 
และประกันภัยตัวรถ  และยังแถมท้ายแบบหายห่วงด้วยบริการตรวจเช็คสภาพฟรีที่ระยะทาง 1,000 กิโลเมตรอีกด้วย

http://www.greatbiker.com/vespa-limited-5-years-race-collection/

[OASIS]