<< เชียงรายเอ็นดูโร่ (CHIANGRAI ENDURO CLUB) #2 >>

[OASIS]

ลุงพลขี่มาถึงด่าน เจ้าหน้าที่ว่าเกินหกสิบแล้วนิ เชิญเข้าไปได้เลย  ทั้งๆ ตี่ยังบ่าถอดหมวก
ครับอายุ 60 ขึ้นไป ไปแอ่วอุทยานบ่าต้องชำระเงินครับ

[OASIS]

 

[OASIS]

ทีมบินผาดโผนหญิงจีนเตรียมแสดงโชว์ในมาเลย์

ทีมนักบินหญิงของจีนเตรียมร่วมแสดงการบินผาดโผนในนิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติในมาเลย์

สำนักข่าวซีซีทีวีรายงานว่า จีนได้เปิดตัว ทีมนักบินผาดโผนหญิงล้วน 4 คน ที่เตรียมจะขึ้นบินแสดงโชว์
ในงานนิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติที่จะจัดขึ้นที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะมีการเปิดงานในวันอังคารที่

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ทีมนักบินผาดโผนหญิงของจีน ได้นำเครื่องบินขับไล่ เจ-10
ขึ้นบินเดินทางไปมาเลเซียเพื่อเตรียมร่วมแสดงในการบินผาดโผนนานาชาติภายในงานดังกล่าว

สำหรับการแสดงในครั้งนี้จะเป็นการแสดงนอกประเทศจีนครั้งแรกของทีมนักบินชุดนี้ โดยก่อนหน้านี้พวกเธอ
ได้เคยแสดงการบินภายในงานนิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นในจีนเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา

โฆษกกองทัพอากาศของจีนระบุว่า ทีมนักบินชุดนี้ต้องผ่านการฝึกฝนกว่า 800 ชั่วโมง เพื่อเตรียมที่จะมาแสดงการบินผาดโผนในครั้งนี้

สำหรับงานนิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติ จะจัดขึ้นเป็นเวลา 5 วันโดยจะมีผู้แทนจากหลายชาติเข้าร่วม

http://bit.ly/1Grtx93

[OASIS]

o'neal 2015 MAYHEM

[OASIS]

Forma (off-road) PREDATOR

[OASIS]

2015 บีเอ็มดับเบิลยู เอฟ800จีเอส ทัวร์ริ่งสไตล์สิงทางฝุ่น

หลังจากที่ BMW สร้างกระแสฮือฮาด้วยการย้ายฐานการผลิต BMW F800GS มาในไทย
พร้อมประกาศหั่นราคาลงมาเหลือเพียง 530,000 บาท เมื่อปีที่แล้วนั้น ได้สร้างกระแสฮือฮาได้เป็นวงกว้างทั้งในกลุ่มของผู้ใช้
และกลายเป็นที่จับตามองของคู่แข่งในทันทีด้วยราคาค่าตัวในตอนนั้นที่ยังไม่มีใครในรุ่นเดียวกันเทียบได้

หากมองกันตรงๆ แล้ว เอฟ800จีเอส ดูเหมือนจะมีคู่แข่งตรงรุ่นอยู่แค่คันเดียวคือไทรอัมพ์ ไทเกอร์800
กับเครื่องยนต์สามสูบจากเมืองผู้ดีที่ตอนนี้เขยิบราคาลงมาไม่หนีกันมาก ในขณะที่เ อฟ800จีเอส
เจ้าตาเหล่จากเมืองเบียร์ยังคงถือความได้เปรียบในเรื่องของชื่อเสียงที่สั่งสมมาอย่างยาวนานในเรื่องสมรรถนะการใช้งาน
และที่สำคัญยังถือไพ่เหนือกว่าในด้านบริการหลังการขายด้วยโชว์รูมที่มีรองรับมากกว่าแบบเห็นๆ


พร้อมพรั่งด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยี

เครื่องยนต์สองสูบเรียงแปดวาล์วแบบระบายความร้อนด้วยน้ำของ เอฟ800จีเอส มีปริมาตรกระบอกที่แท้จริงที่ 798 ซีซี
โดยทางผู้ผลิตเครมแรงบิดสูงสุดที่ 83 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบต่อนาที  และให้พละกำลังสูงสุดที่ 85 แรงม้าที่ 7,500 รอบต่อนาที
พละกำลังทั้งหมดไม่ได้ถูกส่งผ่านจากคันเร่งโดยตรงเพียงอย่างเดียว แต่จะถูกคุมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอย่าง
แทรคชั่นคอนโทรล (Traction Control) เพื่อกันไม่ได้ล้อหลังเกิดอาการสไลด์ เมื่อเราเปิดคันเร่งมากเกินไป
ระบบจะเข้ามาตัดกำลังเครื่องยนต์ออกอย่างรวดเร็ว จนในบางสถานการณ์อาจรู้สึกว่าน่ารำคาญแต่ก็เพื่อความปลอดภัยสูงสุดบนท้องถนน
ส่วนความเร็วสูงสุดทางค่ายเครมไว้ว่าทำได้มากกว่า 200 กม/ชม ซึ่งอาจทำได้จริง แต่จากที่ลากดูก็ทำความเร็วได้ถึง 180-190 กม./ชม. เลยทีเดียว

อุปกรณ์ใช้สอยขั้นเทพ

ตัวเครื่องยนต์วางอยู่กับเฟรมแบบท่อที่น่าจะทำสีตัดกับตัวรถได้แจ่มกว่านี้อีกสักนิด ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องการตัดสีแจ่มๆ
คงโดนยกไปอยู่ในรุ่นท๊อปอย่าง จีเอสแอดเวนเจอร์ ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบหัวกลับเส้นผ่านศูนย์กลาง 43 มม.
เหมาะสำหรับการบุกตะลุยด้วยช่วงหน้าที่มีน้ำหนักเบา ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังปรับค่าพรีโหลด รีบาวด์ แดมปิ้ง
ได้ด้วยตัวหมุนที่ด้านขวา ช่วงล่างไม่สะเทือนจนน่าตกใจเวลาเจอเนินเจอหลุมตอนที่ทำความเร็วประมาณหนึ่ง
โดยรวมถือว่าเอาอยู่ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะทางดำหรือทางฝุ่น  ดิสก์เบรคหน้าแบบคู่ขนาด 300 มม.
ประกบด้วยปั๊มเบรคลูกสูบคู่จาก Brembo ที่หนึบเอาเรื่อง ดิสก์หลังเดี่ยว ขนาด 265 มม. ประกับด้วยคาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว
พร้อมด้วยระบบเบรค ABS ที่ทำงานได้นุ่มนวล ตัวรถมีน้ำหนักอยู่ที่ 191 กก หากไม่รวมน้ำมันในถังน้ำมันขนาด 16 ลิตร
และของเหลวอื่นๆ แต่พอเข็นกันจริงๆ กลับให้ความรู้สึกว่า เอฟ800จีเอส นั้นหนักกว่าทัวร์ริ่ง 650 จากซูซูกิที่มีน้ำหนักรวมที่ 214 กก.

บางคนว่าเขาออกแบบมาเพื่อเอเชีย

ด้านสรีระตัวรถมีความยาวอยู่ที่ 2,320 มม กว้าง 945 มม และมีความสูงจากพื้นถึงกระจกมองหลังที่ 1,350 มม
ส่วนความสูงจากพื้นที่เบาะนั่งนั้นจะสูงเพียง 880 มม. แม้จะมีขนาดเบาะที่ไม่กว้างแต่ก็ยังทำให้คนตัวสูงราวๆ 175 ซม.
ต้องมีเขย่งในบางช่วง เบาะนั่งแม้จะดูขนาดเล็กและเหมือนจะแข็งแต่พอได้ลองหย่อนก้นจริงๆ กลับนั่งสบายอย่างน่าเหลือเชื่อ
ความกว้างของแฮนดบาร์ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมสำหรับสไตล์ของตัวรถ ควบคุมได้ง่ายและคล่องตัว
แต่ตำแหน่งความสูงของแฮนด์จะค่อนข้างพอดีกับกระจกข้างของรถกระบะหรือรถตู้ ทำให้บางจังหวะของการมุดในเมืองค่อนข้างติดขัด
ตำแหน่งของชิลด์หน้าตัดลมเข้าปะทะตรงๆ ได้ประมาณหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สูงพอที่จะตัดให้พ้นช่วงไหล่ขึ้นไป
ฉะนั้นอย่าแปลกใจถ้าจะมีแมลงตายอยู่เต็มชิลด์หมวกกันน็อคและถ้าใส่หมวกกันน็อคแบบมีปีกก็อาจจะหน้าหงายได้

จอแสดงผลเป็นแบบผสมโดยมีหน้าปัดบอกรอบและความเร็วแบบอนาล็อค ส่วนข้อมูลต่างๆ อย่างระยะเดินทาง อุณหภูมิเครื่อง
เวลา อัตราสิ้นเปลือง อัตราคงเหลือของน้ำมันจะบอกบนหน้าจอแบบดิจิตอล ส่วนไฟบอกค่าอื่นๆ อย่างไฟสูง ไฟแจ้งการทำงานของระบบ TC  ABS ไฟแจ้งเตือนระดับน้ำมัน จะอยู่ที่ด้านซ้ายของจอแสดงผล

มันส์ เร้าใจ อะไรก็หยุดไม่อยู่

เอฟ800จีเอส เป็นรถเท่ๆ ที่มาในสไตล์รถทัวร์ริ่งผสมกับเอ็นดูโร่ต่างจากรถอีกหลายๆ รุ่นที่ถูกออกแบบมาแบบทัวร์ริ่งผสมสปอร์ตตามสมัยนิยม
แต่ด้วยความที่เป็นทัวร์ริ่งเอ็นดูโร่ เอฟ800จีเอส  จึงพร้อมให้คุณพาไปลุยได้ทุกที่ทุกรูปแบบ ถึงแม้บนถนนราดยางรถจะดูไม่นิ่ง
และไม่แรงเท่ารถทัวร์ริ่งสปอร์ตคันใหญ่ๆ และยังมีอาการหน้าเบาในย่านความเร็วสูงจนต้องถามหากันสะบัด ต่างจากทัวร์ริ่งทางเรียบ
ที่จะให้น้ำหนักที่ดีกว่าบนถนนทั้งทางตรงและในโค้ง แต่เครื่องยนต์ของ เอฟ800จีเอส นั้นกลับนุ่มนวลกว่ามาก
และให้แรงสั่นสะเทือนที่น้อยกว่าหลายเท่าตัว ด้วยรอบการทำงานแบบสบายๆ ที่ราวๆ 3,000-4,000 รอบ
โดยเราจะสัมผัสได้ถึงแรงบิดที่มากขึ้น และแรงสั่นสะเทือนที่เพิ่มขึ้นหลังจากเข็มวัดรอบตีเกิน 4,000 รอบขึ้นไป
 เรื่องความร้อนของเครื่องยนต์เอาเป็นว่าแดดร้อนๆ ตอนกลางวันแสบสะเทือนขากว่ากันเยอะ แต่ถ้าขี่ตอนเช้าๆ
หรือเย็นๆ ก็รู้สึกได้ที่ความร้อนที่ระอุมาแตะขาด้านใน

บนทางฝุ่นเอง เอฟ800จีเอส ก็วาดลวดลายได้สนุกไม่เบาราวกับว่าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ด้วยน้ำหนักเวลาขับขี่ที่เบา
จึงไม่ได้รู้สึกว่ายากลำบากในการปีนขึ้นเนินสักลูกและยังมีพละกำลังเหลือเฟือในการส่งขึ้นไปได้อย่างสบาย
แค่การวาดลวดลายบนทางฝุ่นเรียบๆ กับเอฟ800จีเอส ก็สนุกแบบพอเรียกอะดรีนาลีนได้แล้ว แต่ก่อนกระโดดลงฝุ่นผู้ใช้ เอฟ800จีเอส  
อย่าลืมปิดระบบ แทรคชั่นคอนโทรล และ เอบีเอส ทิ้งไปเสียก่อนเพื่อความปลอดภัยและความสนุกของท่าน
เพราะการลงทางลาดลื่นๆ ร่วนๆ โดยเปิด เอบีเอส ไว้อาจทำให้ท่านต้องไถลลงมาแทนได้ ส่วนการขับขี่บนถนนราดยางทั่วๆ
ไปการเปิดทั้งสองระบบนี้ทิ้งไว้ถือเป็นเรื่องดี แม้จะทำให้เกิดอาการหน่วงของเครื่องยนต์เล็กน้อยเวลาเปิดคันเร่ง
แต่สักพักเดียวเครื่องก็จะถ่ายทอดพละกำลังออกมาได้อย่างราบเรียบและนุ่มนวล แต่ถ้าอยากได้อะไรที่ดุดันกว่าเราขอแนะนำให้ปิด
แทรคชั่นคอนโทรล ทิ้งไปซะ ทีนี้ล่ะสั่งได้ดั่งใจแถมยังสัมผัสได้ถึงความกร้าวของเจ้านี่แบบเต็มๆ เลยทีเดียว

ด้านอัตราสิ้นเปลือง ถังน้ำมันขนาด 16 ลิตร ใช้งานเดินทางได้จริงเกือบๆ 280 กม. ก่อนสัญญาณไฟแจ้งเตือนจะสว่างขึ้น
เท่ากับว่ามีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ราว 17.5 กม./ลิตร ซึ่งผมว่าเจ้านี่ก็ประหยัดใช้ได้อยู่ ถ้าคุณเป็นคนทั่วไป
อาจมองหารถทัวร์ริ่งที่ซิ่งได้อย่างรวดเร็วและนิ่งบนทางดำตามสไตล์ขาเที่ยว เอฟ800จีเอส อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด
แต่ถ้าหากคุณกำลังมองหาทางเลือกใหม่ๆ ชอบความท้าทายแบบไร้ปราณี พร้อมไปทุกที่ที่ใจอยากแล้วล่ะก็ เอฟ800จีเอส
นี่ล่ะคือมอเตอร์ไซค์ในแบบของคุณ

http://www.autospinn.com/2015/03/testride-2015-bmw-f800gs/

[OASIS]

 

[OASIS]

YAMAHA พานางพญาแมงมุม RD 350 กลับมาอีกครั้งในปี 2015

สำหรับใครที่เป็นนักบิดในช่วงยุค 80 น่าจะรู้จักกับ Yamaha RD 350 เป็นอย่างดี กับฉายา “Black Widow”
หรือแมงมุมแม่ม่ายดำ ซึ่งเป็นชื่อเล่นของเจ้ารถแนวเนกเกตที่สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 200 กม./ ชม. ในขณะนั้น
มันเป็นรถที่ใหญ่โตและดุดัน ด้วยแรงม้าที่มากถึง 39 ตัว ซึ่งนางเป็นที่นิยมกันอย่างมาก

ว่ากันว่าในช่วงก่อน 5,000 รอบนั้น RD 350 จะเป็นรถที่ว่านอนสอนง่าย แต่หลังจากนั้นไปแล้ว ถ้าวาล์วเปิดเต็มที่ล่ะก็
นางจะกลายร่างเป็นพญาปีศาจดีๆ นี่เอง ด้วยขุมกำลังสองสูบ เสียงหอนอันโหยหวนของทอร์คโหดๆ
และพญาแมงมุมคันนี้จะเริ่มกินเหยื่ออย่างตระกละตระกลาม หลังจากทีคุณควบมันห้อตะบึงออกไปแล้ว
เหมือนกับจะถูกสิงร่างให้เสพติดกับความเร็วแรงอันน่าขนลุกที่แสนจะเอร็ดอร่อย

และในปี 2015 นี้ ทาง Yamaha ก็ได้ทำภาพร่างออกมาให้กับทางแฟนๆ ของค่ายได้ดูว่า RD 350 
จะมีวิวัฒนาการรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้างในปี 2015 นี้ โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Nova RD 350
ซึ่งอาจจะไม่ได้หมายความว่า RD 350 จะถูกผลิตขึ้นมาจริงๆ แต่ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนของทาง Yamaha ที่จะกล้าฟันธง 100%
ว่ามันจะไม่ถูกสร้างออกมาจริงๆ โดยในโลกของการตลาดบิ๊กไบค์ในทุกวันนี้ที่อะไรๆ ก็เป็นไปได้ และขายได้กันทั้งนั้น
หากว่ามีกระแสตอบรับในทางที่ดีกับภาพโมเดลที่ทางค่ายเพิ่งจะปล่อยออกไปแล้วล่ะก็ งานนี้อาจจะได้เห็นนางพญาแมงมุมแม่ม่ายดำ
กลับมาสร้างความสะพรึงและน่าขนลุกให้กับเหล่านักบิดกันอีกครั้งหนึ่งก็เป็นได้

http://www.greatbiker.com/

[OASIS]

Spy shot Suzuki Gixxer 155 สปอร์ตฟูลแฟริ่ง

ได้มีการเผยรูป Spy Shot ล่าสุดของ Suzuki Gixxer ในแบบสปอร์ตฟูลแฟริ่งออกมา
ซึ่งเป็นรูปใกล้ๆที่น่าจะหลุดออกมาจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศที่จะจัดวางจำหน่ายออกมา
สำหรับข้อมูลจำเพาะของ Suzuki Gixxer นั้นเป็นเครื่องยนต์ขนาด 154.9 cc สูบเดี่ยว ระบายความร้อนด้วยอากาศ
โดยให้แรงม้า 14.8 PS @ 8,000 rpm พร้อมด้วยแรงบิด 14 Nm @ 6,000 rpm
ที่มาพร้อมกับ SEP - Suzuki Eco Performance ไม่รู้ว่าจะเข้าไทยไหม แต่คิดว่าน่าจะยาก


http://www.mocyc.com/news/857/SpyshotSuzukiGixxer155

[OASIS]

เดินเข้าไปแอ่วน้ำตกกั๋นครับ

[OASIS]

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ลำปาง

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนเป็นแหล่งธรรมชาติที่คงสภาพป่าไว้ได้อย่างสมบูรณ์ยิ่ง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดลำปาง 38 กม.
ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลวังเงินถนนลำปาง-เดินชัย เลี้ยวขวาเข้าไป 500 เมตร เป็นหมู่บ้านท่องเทียวเชิงอนุรักษ์
ซึ่งมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมสูงและเป็นแหล่งที่ดำเนินงาน
ตามแนวพระราชดำรัสในการใช้พลังงานน้ำ ธรรมชาติมาประยุกต์ การดำเนินงานอย่างสอดคล้องเป็นประโยชน์
และเพื่อเป็นการ ส่งเสริมการอนุรักษ์และการรักษาสภาพแวดล้อม ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน บริเวณ อุทยานฯมีธารน้ำแร่
ที่เต็มไปด้วยโขดหินธรรมชาติที่สวยงามบริเวณโขดหินที่แซกอยู่ท่ามกลางแอ่งน้ำร้อน น้ำแร่ที่มีอุณหภูมิสูง ถึง 70 – 80 องศาเซลเซียส
สามารถแช่ไข่ให้สุกได้ภายใน 15 นาที ไข่จะมีลักษณะไข่แดงสุกไข่ขาวสุกไม่แข็งจะ เหมือนมะพร้าวอ่อน
เมื่อนำมาปรุงเป็น “ ยำไข่แช่น้ำแร่ ” ร่อยยิ่งนัก บริเวณน้ำตกแจ้ซ้อนและ อุทยานแห่ง ชาติแจ้ซ้อนห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร
ธารน้ำ จากน้ำตกแจ้ซ้อนไหลมาบรรจบกับธารน้ำร้อนจากน้ำแร่ กลายเป็น ธารน้ำอุ่น ทางอุทยานฯจึงสร้างที่อาบน้ำแร่ขึ้นอย่างมาตรฐาน
เพื่อบริการแก่นักท่องเที่ยวเพื่อจะได้มาแช่น้ำแร่ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนได้รับรางวัล “อุทยานแห่งชาติดีเด่นประจำปี 2543 ”
ตามที่ กรมป่าไม้ได้จัดงานวัน สถาปนากรมป่าไม้ครบรอบ 104 ปี
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2543 โดยได้จัดประกวดอุทยานแห่งชาติ ดีเด่นด้านการ ท่องเที่ยวประจำปี 2543
นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนนอกจากจะได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Awards) ปี 2543
ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดเยี่ยมในด้านการออกแบบ สิ่งอำนวยความ สะดวกใน อุทยานฯ
ได้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติแล้ว สภาพแวดล้อมภายในอุทยานฯ ยังตกแต่งได้อย่าง สวยงามไม่แพ้รีสอร์ทเอกชน
เหมาะสำหรับผู้ที่จะไปเที่ยว แบบครอบครัว สามารถเที่ยวได้ตลอดปี

http://www.paiduaykan.com/76_province/north/lampang/jeason.html

[OASIS]

ก่อนหน้านี้ก่เดินขึ้นดอยตี่วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง  มาอุทยานเดินขึ้นดูน้ำตกอีก 6 ชั้น
แกนน่องเอาเรื่องเหมือนกั๋น  แต่ทางเดินทำได้ดีครับ เดินขึ้น-ลงสะดวก

[OASIS]

เวลาล่วงเลยมายามแลงแล้วครับ
เลือกเส้นทางแม่แจ่ม  ออกตรงขาหมูภูเก็ต บ่าอยากไปซ้ำทางเดิมตอนขามา

ระหว่างทางมีเผาใบไม้-หญ้าแห้งข้างทางเป็นระยะๆ ควัน-เถ้า แสบตาพอสมควร

[OASIS]

ขี่ลึกเข้าไป  ขึ้นดอยสูงอย่างต่อเนื่อง ทางบ่าถึงกับแคบมาก
สำหรับมอไซค์ขี่ม่วนอยู่ครับ ส่วนรถยนต์ต้องระวังนิดนึ่งอย่าไปเร็วนั๊ก มีโค้งหักศอกอยู่มากมาย

[OASIS]

ถึงบ้านแม่แจ่ม โพล้เพล้เต็มที แสงน้อยกล้องผมจับภาพลำบากละครับ

[OASIS]

ทางยาวอะล่ะ  หล๋ายสิบโล    เจอทางแยก ทางขวาครับไปเจียงฮาย

[OASIS]

กว่าจะออกมาถึงป้อมตำรวจตี่ขาหมูภูเก็ตได้ เล่นเอาล้าไปพอสมควร
จากสามแยกส่วนใหญ่เป็นขาลงดอยสูง  ทางบางช่วงอยู่ระหว่างซ่อมแซม ฝุ่นนิกระจาย
บางช่วงกำลังปูผิว กลางคืนก่ยังทำกั๋น  
ขี่กลางคืนและบนดอยสูงความระวังต้องเพิ่มขึ้นครับ เดินทางช้าลงมากเลย

แวะรับประทานอาหารตี่แม่ขะจาน จากนั้นลากยาวถึงบ้าน 4 ทุ่มกว่า  
เดินทางกลับบ้านด้วยความสวัสดิภาพทุกคนครับ

จบทริป

[OASIS]

 

ราคาสด 4 แสน ถ้วน..(จัดไฟแนนซ์ได้ ดาวน์ประมาณ 80,000 ผ่อนเดือนละ 8 พันกว่าๆ )
คุยง่ายลดได้ลดครับ
เลขไมล์ 16000
สีแดง แล็ปสี tri colour

ติดต่อ 0813799925
line id : thedaedevil

[OASIS]

ยามาฮ่าลั่นไม่ประกอบบิ๊กไบค์ หลังภาษีลดเหลือ 0% ในปี 2559

แม้จะประกาศทุ่มงบประมาณกว่า 3 พันล้านบาทในการผลิตและเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ อีก 12 รุ่นภายใน 3 ปีจากนี้
แต่ที่ดูจะขัดใจสาวกยามาฮ่าเสียหน่อยก็คือการที่ยามาฮ่าประกาศว่าจะไม่มีการขึ้นไลน์เพื่อผลิต
หรือประกอบรถบิ๊กไบค์ในประเทศไทยอย่างแน่นอน

แม้ว่ายามาฮ่าจะเล็งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจบิ๊กไบค์ไว้ค่อนข้างสูง กล่าวคือ จากยอดจำหน่าย 311 คัน
จากตลาดรวม 1.3 หมื่นคันในปี 2556 เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 คันจากตลาดรวม 3 หมื่นคันในปี 2559 ก็ตาม
แต่ผู้บริหารของยามาฮ่าก็ประกาศว่ารถที่นำมาทำตลาดจะยังเป็นรถนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด

ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่าด้วยนโยบายของบริษัทแม่
ที่จะคงการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (เครื่องยนต์มากกว่า 500 ซีซี.) ไว้ที่ประเทศญี่ปุ่น
ทำให้ไม่สามารถเปิดไลน์ผลิตในประเทศไทยได้ เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงของนโยบายตรงนี้

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาของการทำตลาดบิ๊กไบค์ในประเทศไทยแต่อย่างใด
เพราะการนำเข้ารถจักรยานยนต์ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (เจเทปป้า) นั้น
อัตราภาษีนำเข้าจะลดลงไปเรื่อย ๆ จนเหลือ 0% ในปี 2559

“ถ้ามองในมุมของการผลิตแล้วผมคิดว่าเราได้เปรียบ เพราะต่อไปยามาฮ่าจะเป็นรถบิ๊กไบค์ที่ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น
และเรามองไม่เห็นว่าจะต้องย้ายฐานการผลิตมาที่ประเทศไทยทำไม เมื่อสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นได้”

ประพันธ์ยกตัวอย่างรถบิ๊กไบค์ที่เปิดตัวรุ่นล่าสุดอย่างโบลท์ อาร์ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ 950 ซีซี.
วางราคาจำหน่ายในปัจจุบันที่ 4.65 แสนบาท ซึ่งเป็นราคาที่นำเข้าและเสียภาษีนำเข้าในปัจจุบัน
หากมาตรการเจเทปป้าเกิดขึ้นราคาจำหน่ายจะลดลงไปเหลือราว 4 แสนบาท
ซึ่งสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างไม่มีปัญหา

นอกเหนือไปจากโบลท์ อาร์ ที่เปิดตัวและรับจองไปในฃ่วงปลายปี 2556 และมียอดจองไปแล้วกว่า 70 คัน
ส่งมอบไปแล้ว 40 คันนั้น ในปีนี้ ยามาฮ่าจะเปิดรับจองบิ๊กไบค์อีก 1 รุ่น ได้แก่ เอฟซี-09 ซึ่งวางราคาจำหน่ายใกล้เคียงกับโบลท์ อาร์
ทำให้ยามาฮ่ามีรถบิ๊กไบค์ที่ทำตลาดในประเทศไทย 7 รุ่นในปีนี้

สำหรับการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเพื่อรองรับการดูแลลูกค้าทั้งด้านการขายและบริการนั้น
ในปัจจุบัน ยามาอ่ามีตัวแทนจำหน่ายบิ๊กไบค์อยู่ 4 ราย และเตรียมแผนที่จะเพิ่มให้ครบ 10 รายภายใน 3 ปี

http://www.autospinn.com/

[OASIS]