<<<< เชียงรายเอ็นดูโร่ (CHIANGRAI ENDURO CLUB) #3 >>>>

[OASIS]

ระยะนี้ชีพจรลงเท้าตลอด

[OASIS]

New Suzuki SV650 Scrambler เปิดตัวแล้ว

สำหรับ SV650 Scrambler นั้นเป็นรถที่สร้างขึ้นมาเพื่อเน้นการใช้งานที่แตกต่างออกไปจากตัว SV650 ปกติ ซึ่งมีความเหมาะสมที่จะนำไปวิ่งในเส้นทาง off-road มากขึ้น ด้วยการใช้ยางของ Dunlop แบบ Mutant, แฮนด์บาร์ของ LSL ที่กว้างมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้การคอนโทรลรถในสภาพพื้นถนนที่ไม่ค่อยเรียบนั้นทำได้ถนัดมือขึ้น รวมไปถึงพักเท้าที่กว้างขึ้นกว่าเดิมด้วย ทำให้เราสามารถหาตำแหน่งวางเท้าได้หลากหลายมากขึ้น ตามเส้นทางที่แตกต่งากันออกไป รวมไปถึงการยืนบนรถได้อย่างมั่นใจขึ้นด้วย และเมื่อกลายมาเป็นรถในแนวลุยๆ อย่างนี้ ตรงชิลด์หน้าก็มีชิลด์กันโคลน (mudguard) ขนาดสั้นที่ทำจากอัลลอยติดมาให้, การ์ดไฟเลี้ยว, การ์ดไฟหน้า, บังโซ่, กันแมลง และเบาะหนังสีน้ำตาล ทำให้ภาพรวมของการดีไซน์นั้นมีความเป็น retro (ย้อนยุค) ผสมผสานอยู่อย่างเต็มตัว

ทางด้านขุมกำลังนั้นเป็นเครื่องยนต์ขนาด 645cc แบบ 2 สูบ V-twin แบบ dual-spark 90 องศา ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดขายของบิ๊กไบค์คันนี้ เพราะสูบแบบ V นั้นจะให้แรงบิดที่จัดจ้านเอามากๆ ใรอบต้นถึงกลางเมื่อเทียบกับแบบ 2 สูบเรียงปกติ ให้แรงม้ามาสูงสุดที่ 76 ตัว และทอร์คสูงสุดที่ เหมาะกับรถในแนวสแครมเบิลอย่างนี้พอดิบพอดี มาด้วยมิติของรถที่เน้ความคล่องตัวเป็นหลัก ทำให้เราสามารถซอกแซกหรือพลิกรถในการเข้าโค้งแคบๆ ได้อย่างง่าย

ระบบเบรกนั้นใช้แบบ ABS ของ Nissin ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และถึงแม้ว่าสเปคที่ให้มานั้นจะค่อนข้างดุดัน แต่ว่าทางซูซูกิเองก็ยังบอกว่ามันมีความเป็นมิตรกับผู้ขับขี่อยู่ นั่นก็คือลักษณะโดยทั่วไปในการใช้งานนั้นไม่ซับซ้อนมาก ตัวรถเองมีระบบที่น่าสนใจคือ Low RPM Assist หรือตัวช่วยการควบคุมในย่านความเร็วต่ำ ในกรณีที่เราปล่อยคลัทช์ในจังหวะออกตัวแล้วคันเร่งไม่สัมพันธ์กัน ปกติมันจะดับ แต่ระบบนี้จะช่วยให้เครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ หรือไม่ก็จังหวะเดินเบารถจะไม่ค่อยกระตุกมากนัก

สิ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษสำหรับบิ๊กไบค์คันนี้ย่อมหนีไม่พ้นการไต่ความเร็วของรถ โดยเฉพาะในย่านความเร็วกลาง ที่จะทำการไต่ความเร็วได้ไวมากๆ ส่วนความสูงของตัวรถนั้นอยู่ที่ 785mm ถือว่าค่อนข้างจะต่ำมากทีเดียวเมื่อเทียบกับรถในคลาส 600-800 cc ทั่วไป หน้าจอแสดงผลเองนั้นเป็นแบบ LCD fully digital โดยจะมีตำแหน่งบอกเกียร์เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้านี้ ถังน้ำมันจุอยู่ที่ 13.8 ลิตร อาจจะน้อยไปนิดเมื่อเราเทียบกับขนาด cc ของรถ และแรงบิดที่หนักหน่วงอย่างนี้ ตรงนี้ต้องรอดูผลการทดสอบในการบริโภคน้ำมันกันอีกครั้ง หากว่ามีข้อมูลตรงไหนอัพเดทเพิ่มเติม ทางเราจะรายงานให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันอีกอย่างแน่นอน

http://www.greatbiker.com/

[OASIS]

BMW G310R เคาะราคา 1.99 แสนบาทพร้อมซ่าแต่ขอเวลารอรถ 3 เดือน

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประกาศราคาจำหน่าย บีเอ็ฒดับเบิลยู จี310อาร์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทยหลังจากที่เคยมาโชว์ตัวครั้งแรกไปเมื่อปีก่อน

หลังจากที่ในโซนยุโรปเริ่มมีการประกาศราคาและวันส่งมอบเน็กเก็ตไซส์เล็ก พี่ไทยเราก็ถึงเวลาได้สัมผัสแล้วเป็นเจ้าของกันเสียทีและเป็นไปตามที่เคยสัญญาไว้ว่า จี310อาร์ จะได้ขายช่วงสิ้นปีนี้แน่นอน

บีเอ็มดับเบิลยู จี310อาร์ มาในสไตล์เน็กเก็ตหล่อๆ พร้อมใช้งานในชีวิตประจำวันและเข้าถึงได้ง่ายงานนี้เราคงได้เห็น บีเอ็มดับเบิลยู บนท้องถนนเพิ่มขึ้นอีกจม

ตัวรถใช้เครอื่งยนต์แบบสูบเดี่ยว 313 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ วางกลับหัว 180องศาคล้ายกับรถต้นแบบสตั๊นท์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุดที่ 34 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 28 นิวตันเมตร

บีเอ็มดับเบิลยู จี310อาร์ มีราคาจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ที่ 1.99 แสนบาท

สำหรับราคาถือว่ามีความใกล้เคียงกับโซนยุโรปอย่างประเทศอังกฤษเองก็มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4,290 ปอนด์ หรือ 1.9 แสนบาท

http://www.autospinn.com/2016/12/time2016-bmw-g310r-pricelist/

[OASIS]

ต่อทริปเชียงคาน

ตื่นแต่เช้าเพื่อไปดูคน เอ้ย !!!  ดูทะเลหมอกตี่ภูทอก

[OASIS]

คนละซาวห้าบาทครับ ค่าพาหนะ เปิ่นบ่าอนุญาตเอารถขึ้นไปเอง

[OASIS]

ขึ้นมาแล้วแทบอยากจะกลับลงไปทันที
ตี่เข้าแถวยาวเหยียดนี่เพื่อจะลงนะครับ  คนทำไมเยอะจัง  หมอกวันนี้ก่อบ่ามี
มาดูคนและวิวก่อแล้วกั๋น  ฮิฮิ

[OASIS]

อย่างตี่ว่า  ดูทั้งวิวและคน เพลินไปอย่าง  ฮ่าๆ

[OASIS]

กลับที่พักเพื่อเตรียมเดินทางกลับเจียงฮายครับ
มีบางส่วนไปต่ออีสานอีกหลายวัน  ใจอยากจะไปตวย แต่เฮามีเวลาจำกัด จึงของส่งตึกแค่เชียงคาน

[OASIS]

 

[OASIS]

Honda Rebel เมื่อทาง Honda คิดนอกกรอบ เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ ที่เป็นอะไรมากกว่าแค่เพียงพาหนะในการขับขี่เท่านั้น

หากจะมองย้อนกลับไปในรอบหลายต่อหลายปีที่ผ่านมา ทางค่ายปีกนก Honda ที่ถือว่าเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลก และแน่นอนว่ารวมไปถึงในประเทศไทยของเราด้วย  ก็ได้มีรถมอเตอร์ไซค์หลายต่อหลายรุ่นออกมาสู่ท้องตลาดกัน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่หากเราจะพิจารณาลงไปในรายละเอียดแล้ว อาจจะมองได้อีกมุมหนึ่งว่าเป็นการปล่อยรถในรูปแบบที่มีความเป็นตลาด หรือที่เราเรียกกันว่า “แมส” สูงมากๆ ทำให้เข้าถึงกลุ่มคนในวงกว้างได้แบบสบายๆ แต่ในครั้งนี้จะต้องนับว่าเป็น “ความกล้า” อย่างหนึ่งเหมือนกัน ที่ปลุกผีรถในตระกูล Bobber ที่เคยโด่งดังในสมัยก่อน ให้กลับมาโลดแล่นในยุคดิจิตอลอย่างทุกวันนี้ ซึ่งถือว่าไม่ใช่รถในกระแสหลักหรือรถตลาดแม้แต่น้อย

จากการพูดคุยกับคุณ เลิศศักดิ์ ตั้งเกียรติ์เลิศ เจ้าหน้าที่ส่วนงานการขายโซน 2 แผนกบิ๊กวิง ทำให้เราวิเคราะห์กันถึงหมัดนี้ของทาง Honda ว่า ทางค่ายเองนั้นกำลังทำอะไรบางอย่างที่อยู่นอกกรอบมากอย่างเต็มตัว เพราะว่าเจ้า Rebel คันนี้มันบ่งบอกถึงกลุ่มเป้าหมายแบบชัดเจนว่าเป็นไบค์เกอร์ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบเดินตามรอยใคร แต่ทั้งนี้ก็ยังคงครอบคลุมอยู่ในกลุ่ม Gen Y เป็นหลัก นั่นก็คือกลุ่มวัยเรียนมหาวิทยาลัยและวัยทำงานตอนต้น ที่ต้องการอะไรบางอย่างมาบ่งบอกถึงอัตลักษณ์ที่แตกต่างตรงนี้ รวมไปถึงคนที่อาจจะเบื่อรถตามกระแสหลักอย่างพวกทรงสปอร์ตทั้งหลาย ที่แข่งขันกันแค่ความเร็วและความแรงเป็นหลัก แต่กับเจ้า Rebel ที่เน้นการขับขี่ที่ชิลกันมากขึ้น, การเข้าสังคม, สโลว์ไลฟ์, Hipster, ชิค, สวนกระแส มันช่างตรงกันกับความหมายของ Rebel จริงๆ

Honda Rebel นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ในคลาส 500cc สองสูบเรียงแบบหัวฉีด ที่หยิบยกเอามาจากตระกูล 500 series ของทางฮอนด้า (CB500F, CBR500R และ CB500X) ที่ปรับจูนในเรื่องของพละกำลังในแรงบิดให้มากเป็นพิเศษ (ลดแรงม้าแต่เพิ่มทอร์ค) ดังนั้นในย่านความเร็วต้นถึงกลางตัวรถก็จะบิดได้ดั่งใจสบายๆ โดยทอร์คสูงสุดนั้นอยู่ที่ 44.6 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 44 ตัว ที่ 8,500 รอบต่อนาที ซึ่งตรงนี้เองมันเหมาะมากๆ กับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ส่งกำลังสุดท้ายด้วยโซ่ ท่อรถเป็นแบบวางนอนต่ำออกข้าง

สำหรับเบาะนั่งของตัวรถนั้นถือว่าค่อนข้างจะต่ำตามสไตล์ของรถ อยู่ที่เพียง 690mm เท่านั้น เหมาะกับผู้ขับขี่ในทุกสรีระที่มีความแตกต่างกัน ส่วนตำแหน่งแฮนด์หน้านั้นเชิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ท่านั่งโดยรวมถือว่าค่อนข้างจะชิลเอามากๆ นอกจากไบค์เกอร์ผู้ชายแล้ว ไบค์เกอร์ผู้หญิงเองก็สามารถขี่กันได้แบบสบายๆ ด้วย ตัวถังน้ำมันนั้นมีความเรียวและกระชับ ความจุอยู่ที่ 11.2 ลิตร ส่วนยางนั้นเป็นยางขอบ 16 ล้อแม็ก ส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้นเป็นแบบ LCD และเวอร์ชั่นที่วางขายกันในอเมริกาจะมีให้เลือกทั้งมี ABS และไม่มี ABS ในขณะที่น้ำหนักตัวรถโดยรวมนั้นถือว่าค่อนข้างพอดีๆทีเดียว อยู่ที่เพียง 190 กก. (รวมของเหลวแล้ว) ถือว่าเป็นรถที่ควบคุมได้ง่ายมากๆ คันหนึ่ง

อีกอย่างที่น่าสนใจก็คือตัวเบาะคนซ้อนนั้นสามารถถอดหรือติดตั้งได้โดยง่าย รวมไปถึงที่พักเท้าคนซ้อนด้วย ทำให้เราสามารถเลือกสไตล์ในการใช้งานได้ตามความต้องการ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการตกแต่ง custom ตัวรถให้ออกมาให้หลากหลายแนวทาง และของแต่งอย่างเป็นทางการจะตามมาอีกเป็นพรวน รวมไปถึงของแต่งจาก third party ด้วย ตรงนี้เองเป็นคีย์สำคัญของ Honda Rebel เลย ที่จะสร้างตัวตนของเจ้าของรถได้อย่างชัดเจนและไม่ซ้ำแบบใคร

ดังนั้นแล้วก้าวนี้ของ Honda เองนั้น นอกจากจะสร้างความสนใจให้กับไบค์เกอร์ที่เป็นแฟนๆ ของค่ายฮอนด้าแล้ว กับคนที่ไม่ได้สนใจรถจากค่ายฮอนด้ามาก่อน หรือแม้แต่คนที่ไม่ชอบรถบิ๊กไบค์ในกระแสหลักทั่วไป ก็เป็นตัวสร้างแรงดึงดูดชั้นดีที่จะเรียกให้พวกเค้าเหล่านั้นมาครอบครองเป็นเจ้าของ Rebel คันนี้ ซึ่งจะตอบโจทย์มากที่สุดสำหรับคนอยากจะได้รถบิ๊กไบค์สักคัน ที่เป็นอะไรมากกว่าแค่เพียงพาหนะในการขับขี่เดินทางไปไหนมาไหนเท่านั้น เพราะมันคือสิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของเราเอง สร้างความแตกต่างและไลฟ์สไตล์ที่ชัดเจนที่สุด

ราคา Honda Rebel รุ่น standard อยู่ที่ 222,000 บาท และสำหรับรุ่น Uncommon ที่ตกแต่งมาแล้วจะอยู่ที่  237,000 บาท พบกับตัวเป็นๆ กันได้ที่บูท Honda G04 ในงาน Motor Expo 2016 วันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2016 นี้ ที่อิมแพคอารีน่าเมืองทองธานี และหลังจากนี้ที่โชว์รูม Honda Big Wing ทั่วประเทศ

http://www.greatbiker.com/special-scoop-honda-rebel/

[tai xr]

เครื่องตัว 500 นี้ทำได้หลายอย่างจริง ๆ ครับ

[OASIS]

เครื่องตัว 500 นี้ทำได้หลายอย่างจริง ๆ ครับ

ท่าจะมีก่าบ้านเฮาตี่เป็น 500 CC.

[OASIS]

ทริปน้ำตกทีลอซู  พันห้าร้อยกว่าโล กลับถึงบ้านปลอดภัยทุกคนครับ

[OASIS]

BMW G310R Street Tracker สไตล์’เมกัน ปั้นโดยฝีมือชาวญี่ปุ่น


บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศญี่ปุ่นเผยภาพ บีเอ็มดับเบิลยูจี310อาร์ที่ทางบริษัทได้ส่งไปให้ ทาคาชิ นิฮิระ และสำนัก Wedge Motorcycles แปลงโฉมจนออกมาในสไตล์สตรีทแทร็คเกอร์แบบอเมริกันแต่แฝงความเป็นงานคัสตอมสไตล์ญี่ปุ่นเอาไว้คันนี้

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บอกว่าวิธีดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องการบาลานซ์น้ำหนักของตัวรถ แต่นั้นทำให้ ทาคาชิ นิฮิระ ต้องวางแผนในการเดินคอท่อของการคัสตอมในครั้งนี้อย่างระมัดระวังเพื่อให้รถออกมาสวยงามที่สุด

เฟรมของตัวรถ บีเอ็มดับเบิลยู จี310อาร์ เองก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายและยากที่จะออกแบบงานคัสตอมในครั้งนี้ออกมาให้ลงตัว งานนี้เลยต้องเลือกวางหม้อน้ำไว้ด้านข้างเฟรม แทนที่การวางไว้ด้านหลังล้อหน้าเพื่อเสริมความสปอร์ตและเอกลักษณ์ที่แตกต่าง

วงล้อแบบสตรีทแทร็กเกอร์ขนาด 19 นิ้วจานเบรกแบบเรียบๆ สไตล์ญี่ปุ่น ท่อไอเสียวางสูงออกข้างเดินคอท่อแบบเรียบง่ายผ่านสวิงอาร์มเดี่ยวที่สร้างขึ้นมาใหม่

http://www.autospinn.com/2016/12/bmw-g310r-street-tracker/

[OASIS]

ต่อทริปเชียงคาน (ยังบ่าได้ปิดทริป)

กลับมาทาง อ.ท่าลี่ เพื่อจะไปออกทางเส้นหลัก ภูเรือ  เลี่ยงรถเยอะได้เล็กน้อยและได้แอ่วเส้นทางใหม่ๆ

[OASIS]

รถน้อย วิวสวย เห็นยอดภูเรือ

[OASIS]

ช่วงขากลับต้องทำเวลานิดนึ่ง  เพราะเจียงฮายยังอีกไกลมั๊กๆ    (ทนเอานะแก๊งส์ก้นเหล็ก)

[OASIS]

มื้อกลางวันตี่ อ.นาแห้ว ติดชายแดนลาว แค่มีน้ำสายเล็กๆ คั่น

[OASIS]

ผ่านบ้านร่มเกล้ากับเส้นทางตี่มีรถน้อย
หลังมื้อกลางวัน อากาศฮ้อนเกิดอาการง่วงครับง่วงมั๊กๆ แวะพักผ่อนตี่อุทยานภูสอยดาว
ขื่นเดินทางต่ออาจมีหลับใน

[OASIS]

เป้าหมายต่อไป อ.น้ำปาดและเขื่อนสิริกิติ์  ใกล้เจียงฮายเข้าไปติ๊กๆละ