<< เชียงรายเอ็นดูโร่ (CHIANGRAI ENDURO CLUB) #2 >>

[OASIS]

 

[OASIS]

BETA 430 RR 2015  อีกหนึ่งทางเลือก ของวงการสายฝุ่น..!!

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ สูบเดียว

ระบบระบายความร้อน : ระบายความร้อนด้วยน้ำ

ขนาดความจุ : 431 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ระยะชัก : 95 x 60.8 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 11.9:1

ระบบไฟเป็น : DC-CDI จากสำนัก KOKUSAN

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : คาร์บูเรเตอร์ KEIHIN รุ่น FCX MX ขนาด 39 มม.

เกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : เป็นแบบเปียก สั่งงานด้วยสายสลิง

สตาร์ทเครื่องด้วย : คันสตาร์ทเท้า

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

ชิ้นงานบอดี้พาร์ท 17 ชิ้น
– การ์ดแกนช็อคอับ
– บังโคลนหน้า/หลัง
– หน้ากากตาไฟ
– การ์ดแฮนด์
– ปีกหม้อน้ำขวา / ซ้าย
– การ์ดรังผึ้งหม้อน้ำ
– เบาะนั่ง
– แป้นเบอร์ด้านข้าง
– ตัวดันโซ่หน้าสเตอร์หลัง
– แผ่นกันกระแทกใต้เครื่องยนต์
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิง
– การ์ดแกนช็อคอับหน้า

เฟรม : ใช้วัสดุสุดเบา “โมลิบดินั่ม”  มีการ์ดเฟรมครอบในส่วนที่ต้องรูดหรือขูดกับร้องเท้า

แผงคอด้านบน : เป็นอะลูมิเนียม ส่วนด้านล่างเป็นเหล็ก

แฮนด์บังคับ : เน้นทรงเตี้ยๆ รัศมีออกจะกางๆ เพื่อลดแรงอาการดีด

พักเท้า : เป็นหนามรองยันได้แม่นยำ

สวิงอาร์ม : ขึ้นรูปด้วยอะลูมิเนียมอัลลอย ยืดระยะความห่างให้ยาวออกไป เพื่อรับมือกับแรงบิดหนักๆ

วงล้อหน้า/หลัง : เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวด ล้อหน้า 21 นิ้ว หลัง 18 นิ้ว

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิคหัวกลับขนาด 48 มม. มาพร้อมการปรับตั้งอย่าเต็มเหนี่ยว ระยะการทำงาน 289 มม.
ผิวแกนเคลือบด้วยฮาร์โครเมี่ยม
– ด้านหลัง ช็อคอับเดี่ยว มาพร้อมกับกระปุกซับแท้งค์ สามารถปรับตั้งได้ ระยะการทำงาน 289 มม.

ระบบเบรค
– ด้านหน้า จานเบรคเดี่ยว คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ
– ด้านหลัง ก็เป็นแบบเดี่ยวตายตัว คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ

แม้จะไม่ใช้ผู้ผลิตรายใหญ่ แต่ค่ายรถสัญชาติอิตาเลียนเต็ม 100% ค่ายนี้ก็ยังคงเดินหน้าผลิตและสร้างรถออกมาอยู่เรื่อยๆ
ตั้งแต่ปี 1904 และสร้างแต่รถลุยแนวอ๊อฟโรดเกือบทั้งหมด วันเวลาผ่านไปฝีมือก็เริ่มเพิ่มขึ้นจวบจนวันนี้ BETA
ก้าวมาถึงจุดสูงสุด มีการผลิตรถไม่ต่ำกว่า 20 รุ่น โดยรถส่วนใหญ่จะแยกออกเป็น โมโตครอส, เอนดูโร่
และไทรอัล ซึ่งเราขอเลือกเอา BETA 430 RR ของเขามาอวดกัน

http://www.9carthai.com/beta-430-rr-2015/

[OASIS]

KTM 125 SX 2016 มดแดง แรงฤทธิ์…!!

เครื่องยนต์ : 2 จังหวะ สูบเดียว

ระบบระบายความร้อน : ระบายความร้อนด้วยน้ำ

ขนาดความจุ : 124.8 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ระยะชัก : 54 x 54.4 มม.

ระบบจุดระเบิด : ด้วยหัวเทียน ภายในฝาสูบจะมีการขุดเป็นหลุมเพื่อใช้ในการจุดระเบิดโดยจะเรียกลักษณะนี้ว่า “โดม” ทำให้การจุดระเบิดแต่ละครั้งมีความหนาแน่นมากขึ้น

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : ใช้ชุดวาล์วทำหน้าที่กระพือไอดีเข้าห้องเผาไหม้ โดยใช้คาร์บูเรเตอร์แบบ Flat Slide ดูดอากาศผสมกับไอดีแล้วส่งต่อไปยังรีดวาล์วก่อนจะ เปิด/ปิด ด้วยความเร็วชนิด “เสี้ยววินาที” เข้าห้องเผาไหม้

เกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : เป็นแบบเปียก สั่งงานด้วยสายสลิง

สตาร์ทเครื่องด้วย : คันสตาร์ทเท้า

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

แรงบิด : 132 นิวตัน-เมตร ที่ 3,250 รอบ/นาที

ชิ้นงานบอดี้พาร์ท 14 ชิ้น
– การ์ดแกนช็อคอับ
– บังโคลนหน้า/หลัง
– แป้นเบอร์หน้า/ข้าง
– ปีกหม้อน้ำขวา / ซ้าย
– การ์ดรังผึ้งหม้อน้ำ
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิง
– เบาะนั่ง
– ตัวดันโซ่หน้าสเตอร์หลัง
– การ์ดแกนช็อคอับหน้า

เฟรม :  ใช้การขึ้นรูปด้วย Chrome Molybdenum เบาและแข็งแรง

สวิงอาร์ม : ขึ้นรูปด้วยอะลูมิเนียมเกรดพิเศษ

ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 395 มม.

ความสูงของเบาะนั่ง : 992 มม.

ถังเชื้อเพลิงจุได้ : 7.5 ลิตร

ล้อหน้า/หลัง : เป็นแบบอะลูมิเนียมซี่ลวด จับคู่กับยางสายลุย

น้ำหนักรถ : 90.4 กิโลกรัม

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิคหัวกลับขนาด 48 มม. มาพร้อมการปรับตั้งอย่าเต็มเหนี่ยว ระยะการทำงาน 300 มม. ผิวแกนเคลือบด้วยฮาร์โครเมี่ยม จาก WP
– ด้านหลัง ช็อคอับเดี่ยวร่วมสำนัก WP มาพร้อมกับกระปุกซับแท้งค์ สามารถปรับตั้งได้ ระยะการทำงาน 300 มม.

ระบบเบรค
– ด้านหน้า จานเบรคหน้าเป็นแบบตายตัว ขนาด 260 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ จาก BREMBO สั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค
– ด้านหลัง ก็เป็นแบบตายตัว ขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ BREMBO

มาถึงตัวแสบ KTM สายลุยแห่งท้องทุ่งออสเตรียกันบ้าง แม้ว่ารถรุ่นนี้จะมาด้วยขนาดความจุน้อยๆ แต่จะว่าไปแล้ว 125 ซีซี.
ถือเป็นรหัสความจุที่ทำให้คนทั้งโลกต้องเหลียวกลับมามองทุกครั้งในเรื่องของความเร็ว แถมรถคันนี้
ยังเป็นหนึ่งในยานยนต์ที่พ่อมดทางฝุ่ย KTM เป็นผู้ลงมือสร้าง 125 sx จะสวยเด็จ เผ็ดร้อน ขนาดไหน
ต้องลองสักครั้งแล้วละครับ

http://www.9carthai.com/ktm-125-sx-2016/

[OASIS]

ภาพที่ชัดเจนมากขึ้นสำหรับ all new DUCATI DIAVEL 2016

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางเราได้นำเสนอเกี่ยวกับภาพแอบถ่ายของเจ้า all new DUCATI DIAVEL 2016 ซึ่งเรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงกันไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมเลย มาวันนี้ทางเราก็มีภาพที่ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมมานำเสนอกัน ซึ่งวันนี้เรามีภาพที่ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมมาให้เห็นกันแล้ว ดังภาพที่แสดงให้เห็นด้านบน

ซึ่งภาพที่เราได้เห็นกันนี้เป็นภาพจากทาง motorevue.com magazine ซึ่งเจ้า Ducati Diavel นั้นเป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1198cc แบบสูบ V-twin โดยมีท่อขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อดูจากทางรูปที่ถูกแอบถ่ายมานี้ นับว่ามันมีรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากทีเดียว แต่ตัวล้อด้านหลังยังคงเป็นโปร์อาร์ม โดยมีผู้สังเกตว่ามันมีอารมณ์โดยรวมคล้ายคลึงกับเจ้า Harley-Davidson V-Rod รถแนวครูเซอร์คันเก่งจากฝั่งอเมริกา

อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากเจ้า New Ducati Diavel นั้นก็คือมิติของตัวรถนั้นจะมีความผอมเพรียวลงมากๆ ทำให้ดูมีความคล่องตัวมากขึ้น ไม่เทอะทะเหมือนกับโฉมปัจจุบัน แน่น่อนว่ามันให้ความรู้สึกสปอร์ตมากขึ้นด้วย และตำแหน่งของเบาะนั่งที่ดูแล้วจะเตี้ยกว่าเดิม เชื่อว่าทาง Ducati จะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีช่วงอายุน้อยลงกว่าเดิมให้หันมามองเจ้า Diavel ใหม่คันนี้

http://www.greatbiker.com/

[OASIS]

Endurada La Clua 2015 Full attack & Show by Jaume Soler

[OASIS]

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดคอนเฟิร์ม ราคา เอส1000 สองรุ่นและ อาร์ไนน์ที ลิมิเต็ด อิดิชั่น

หลังจากงานฉลองครบ 15 ปี บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง ที่ได้มีการประกาศจำหน่ายรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่
ระดับซูเปอร์ไบค์เวอร์ชั่นประกอบไทยเพิ่มอีกสองรุ่น ที่นี้ที่หลายๆ คนรอคอยกันอยู่ก็คือราคาอย่างเป็นทางการนั่นเอง

จากราคาคาดการณ์ เอส1000อาร์อาร์ ไม่เกิน 8.5 แสน และ อาร์1000อาร์ ไม่เกิน 6.5 แสน ที่หลุดออกมาจากปาก
ผู้บริหารในงานฉลองครบรอบ 15 ปี บีเอ็มดับเบิลยูแมนูแฟคเจอริ่งตอนนี้ทางบีเอ็มดับเบิลยูได้ประกาศราคา
อย่างเป็นทางการออกมาแล้ว

สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู เอส1000อาร์      ประกอบไทยมีราคาอยู่ที่  6.35แสนบาท

สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู เอส1000อาร์อาร์ ประกอบไทยมีราคาอยู่ที่  8.2 และ 8.4 แสนบาท

บีเอ็มดับเบิลยู อาร์ไนน์ที ลิมิเต็ด อิดิชั่น มีราคาอยู่ที่ 1.19 ล้านบาท

การขยายโรงงานด้วยงบ 1.1 พันล้านบาทของบีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง น่าจะทำให้ทั้งฝั่งรถยนต์
และรถจักรยานยนต์มีระยะเวลาในการรอส่งมอบรถที่สั้นลง เอาเป็นว่าใครใคร่จองจงรีบจองก่อนคิวจะยาว
ที่โชว์รูมบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดทั่วประเทศ และที่งาน บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์โป ในวันที่ 10-13 กันยายนนี้
ที่ศูนย์การค้าเซนทรัลเวิลด์

http://www.autospinn.com/2015/09/bmw-s1000-series-ckd-price-announcement/

[OASIS]

Ducati Monster 1200 R ตัวใหม่

Ducati กำลังจะเปิดตัวมอเตอร์ไซค์แนวเนคเก็ตตัวใหม่คือ Monster 1200 R ซึ่งจะถือได้ว่า
เป็นมอเตอร์ไซค์แนวเนคเก็ตตัวใหม่ที่ทรงพลังที่สุดเลยก็ว่าได้
 
“โดยรุ่น R ของเจ้า Monster 1200 นั้นจะมาพร้อมเครื่องยนต์ที่ทรงพลังกว่าเดิม ตัวถังที่ออกแนวสปอร์ท
มากว่าและการออกแบบโดยรวมที่ล้ำหน้ามากขึ้น” ข้อความนี้มาจากงานเปิดตัวให้กับสื่อมวลชนเมื่อช่วงเข้าที่ผ่านมา

มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่นี้จะมีการเปิดโฉมให้เห็นกันในวันที่ 14 กันยายนนี้ที่ Frankfurt ซึ่งจัดขึ้นก่อนงานเปิดตัว
บนสนามแข่งในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้

http://mocyclover.com/ducati-monster-1200-r-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/

[OASIS]

ซี่ล้อล่องหน แม้รถจะจอดอยู่ เป็นไปได้ไง

ใครผ่านไปผ่านมา มองมอเตอร์ไซค์คันนี้ แว็บแรกเห็นแล้วต้องคิดแน่นอนว่าซี่ล้อหายไปไหน
เพราะถ้าไม่มีซี่ล้อแล้วก้านโช้คมันจะลอยอยู่ได้อย่างไร จะบอกว่านี่ไม่ใช่การเล่นกล หรือมีเทคนิดพิเศษใดๆ
เพราะเมื่อพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วจะพบว่า มันก็ล้อธรรมดาๆนี่เอง
 
แต่ที่ทำให้ล้อนี้ได้รับความสนใจ สะดุดตา ตรงที่มันลวงสายตาเราให้คิดว่า มอเตอร์ไซค์คันนี้ไม่มีซี่ล้อแน่ๆ
เพราะตำแหน่งและระยะห่างของโช้คคู่หน้านนั้นมันสอดคล้องกับเส้นสายตาจริงๆ จนทำให้คิดว่าโช้คที่เห็นอีกด้านนั้น
เป็นของอีกฝั่งหนึ่ง ทำให้คิดว่ามันลอยอย่างอิสระนั่นเอง

ความจริงแล้วมันเป็นภาพลวงตาของกระจก ผสมกับก้านโช้คหน้า แถมเงาสะท้อนที่เหมือนกับอีกฝั่ง เลย
ทำให้เราคิดว่ามันโปร่งแสง แต่หากเราดูใกล้ๆ แล้วจะพบว่ามันคือโลหะที่ถูกขัดให้เป็นมันวาวจน
เหมือนเป็นกระจกเงาดีๆ นี่เอง ดังภาพด้านล่าง

เจ้าของมอเตอร์ไซค์คันนี้นำมาอวดในงานนัดชุมนุมพบปะกันของนักบิดรุ่นต่างๆ แต่นำมอเตอร์ไซค์ของตัวเองมาโชว์
และคันนี้เจ้าของก็ขัดล้อซะจนแวววับเหมือนกระจก ทำให้ดูเหมือนว่าล้อรถคันนี้โปร่งแสง หากจอดรถในตำแหน่งดีๆ
เช่นกลางสนามหญ้า หรือกลางลานคอนกรีต

คล้ายๆกับหลักการของมอเตอร์ไซค์ล่องหน ที่เอาแผ่นซะท้อนแสงมาครอบไว้ทั้งคัน
แล้วอาศัยเงาซะท้อนที่สามารถหลอกตาเราได้เช่นภาพข้างล่างนี้นั่นเอง

http://mocyclover.com/invisible-wheels-motorcycles/

[OASIS]

 

[OASIS]

Yamaha XSR700 เปิดราคาแล้ว!

ก่อนอื่นเลยเราลองมาทำความรู็จักกับเจ้า XSR700 กันให้มากขึ้นอีกนิด โดยบิ๊กไบค์คันนี้นั้น
ใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกันกับเจ้า MT-07 นั่นเอง โดยมีสโลแกนสุดเท่ว่า “FASTER SONS” ซึ่งในล็อตแรกนั้น
จะมีสีให้เลือกด้วยกันอยู่ทั้งหมด 2 สีคือ Forest Green และ Garage Metal โดยขุมกำลังของมันนั้น
จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 689cc 2 สูบเรียง มีขนาดกระบอกสูบอยู่ที่ 80 mm และช่วงชักอยู่ที่ 68.6 mm
แรงอัดจะมีอัตราส่วนอยู่ที่ 11.5:1 ตัวเฟรมและแชวซีนั้นเป็นแบบ DIAMOND ให้แรงม้ามาอยู่ที่ 73.8 ตัวที่ 9000 รอบต่อนาที
และมีทอร์คอยู่ที่ 46.9 รอบต่อนาที 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ DOHC 4 วาล์ว จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด
และจุดระเบิดแบบ TCI ตัวรถนั้นส่งกำลังสุดท้ายด้วยโซ่ ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ 6 สปีด ใช้คลัทช์เปียก
แบบซ้อนกันหลายแผ่น สตาร์ทไฟฟ้า

ขยับมาดูกันในเรื่องของช่วงล่างกันบ้าง เบรกหน้านั้นเป็นดิสก์คู่ขนาด 282mm ส่วนเบรกหลังนั้นเป็นดิสก์เดี่ยว
ขนาด 245mm ทำงานด้วยระบบ ABS ทั้งคู่ และในส่วนของระบบกันสะเทือนหน้านั้นใช้โช๊คอัพแบบเทเลสโคปิก
ส่วนโช๊คอัพหลังนั้นใช้แบบสวิงอาร์ม ในขณะที่ยางหน้านั้นใช้ขนาด 120/70 ZR 17M/C ยางหลังมีขนาด
180/55 ZR 17M/C แบบ TUBELESS ทั้งหน้าและหลัง ล้อเป็นแบบอัลลอยหรือที่บ้านเรานิยมเรียกกันว่าล้อแม็กส์นั่นเอง

ในส่วนของมิติรถนั้นตัวรถมีความยาว 2075 mm ความกว้าง 820 mm และสูง 1130 mm โดยมีระยะห่าง
ระหว่างพื้นถึงท้องรถอยุ่ที่ 140 mm ความสูงเบาะนั้นอยู่ที่ 815 mm และระยะห่างระหว่างล้อหน้าและล้อหลังจะอยู่ที่
1405 mm และมีน้ำหนักตัวค่อนข้างเบา อยู่ที่เพียง 186 กก. เท่านั้น โดยถังน้ำมันนั้นจุได้อยู่ที่ 14 ลิตร
น้ำมันเครื่องจุอยู่ที่ 2.7 ลิตร โดยทางแหล่งข่าวระบุว่าการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ยนั้นจอยู่ที่ประมาณ 20 – 23 กม./ลิตร
(แต่ทั้งนี้ทางเราคงต้องทำการทดสอบกันจริงๆ อีกครั้ง) สำหรับหน้าจอแสดงผลนั้นเป็นดิจิตอลทั้งหมดเลย
ไม่ว่าจะเป็นวัดความเร็ว, วัดรอบ, วัดทริป, ODO, นาฬิกา, เกจ์น้ำมัน และพวกไฟแจ้งเตือนระบบต่างๆ

โดยทาง Yamaha ได้ทำการเปิดราคากันที่เมืองนอกแล้วเมื่อไม่กี่ ชม. ก่อนหน้านี้ ซึ่งเจ้า Yamaha XSR700 นั้น
จะมีสนนราคาอยู่ที่ 5,508 ปอนด์ หรือประมาณ 300,000 บาท ซึ่งจะแพงกว่า MT-07 ไปอยู่ประมาณ 30,000 กว่าบาท
(MT-07 ที่เมืองนอกขายกันประมาณ 270,000 บาท) ดังนั้นแล้วหากทาง Yamaha Thailand นำเจ้ารถคันนี้
มาขายในบ้านเราจริงก็น่าจะมีส่วนต่างเทียบได้เช่นเดียวกันกับราคาเมืองนอกนั่นเอง รอติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
ว่ามันจะมาบ้านเราหรือเปล่า ทาง GreatBiker จะรีบนำเสนอทันทีหากมีการอัพเดท

http://www.greatbiker.com/yamaha-xsr700-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0
























http://ICUXuegvymU

[OASIS]

all new KTM DUKE 800 2 สูบ

เมื่อประมาณช่วงสัปดาห์ก่อน หลายๆ สื่อทั่วโลกเริ่มที่จะได้เห็นภาพหลุดของเจ้ารถเนกเกตโมเดลใหม่เอี่ยมจากทางค่ายส้มจี๊ดอย่าง KTM DUKE ที่รอบนี้มันจะมาในคลาส 800 cc ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะมันจะเป็นการใช้ลูกสูบแบบ 2 สูบแทนที่ปกติตระกูลนี้ในคลาส entry ถึง middle class จะเป็นมีจำนวนลูกสูบแค่ 1 ลูกเท่านั้น

โดยภาพที่เราได้เห็นกันนี้มาจากทางนิตยสารจากเยอรมันอย่าง Motorrad ที่เผยให้เห็นเห็นถึงรูปร่างหน้าตาของเจ้า DUKE 800 ที่เครื่องยนต์เป็นแบบ 2 สูบเรียง และภาพแอบถ่ายรถในขณะทดสอบจากทาง motorcyclenews.com ซึ่งก็ค่อนข้างจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่ามันจะออกมามีหน้าตาใกล้เคียงกับที่เห็นกันนี้

ย้อนกลับไปในช่วงต้นปี ทางประธานของ KTM อย่างคุณสเตฟาน ปิแอร์ นั้นได้บอกใบ้เกี่ยวกับโมเดลใหม่ที่จะใช้เครื่องยนต์แบบ 2 สูบ ซึ่งจะมาในคลาส 500cc และ 800cc โดยจะใช้ประเทศอินเดียเป็นพื้นฐานในการผลิตและทำเป็นโกบอลโมเดลส่งขายทั่วโลก ซึ่งในขณะนี้อย่างที่เราทราบกันแล้วว่าเจ้า 800cc มันน่าจะถูกปล่อยออกสู่ตลาดก่อน โดยที่ทาง KTM ได้ให้คำจำกัดความของรุ่นนี้ว่า stret-fighter character

ซึ่งนอกจากขุมกำลังของเครื่องยนต์ที่จะมาในขนาดประมาณ 800cc 2 สูบ แล้ว อุปกรณ์ติดรถต่างๆ ก็ยังถือว่าน่าสนใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นจานดิสก์เบรกคู่หน้า ที่ทำงานร่วมกับ duak-channel ABS, โช๊คหน้าแบบหัวกลับ (upside down) และไฟ LED blinkers โดยมิติของเจ้า DUKE 800 นี้น่าจะใกล้เคียงกับตัว 690

โดยทางสื่อจากประเทศเยอรมันยังคงรายงานเกี่ยวกับเรื่องของขุมกำลังได้อย่างน่าสนใจว่า เจ้า DUKE 800 มันจะให้ทอร์คที่ยอดเยี่ยม และกำลังรถในช่วงกลางถึงปลายที่ดีกว่าตัว 690 ซึ่งมีแค่สูบเดียวอย่างแน่นอน เพราะว่าคอนเซ็ปท์หลักของรถคันนี้ก็คือให้ความรู้สึกอะดรีนาลีนพลุ่งพล่านตั้งแต่เปิดคันเร่งครั้งแรก โดยทางค่ายจะออกแบบขนาดลูสูบให้มีขนาดใหญ่และช่วงชักที่สั้น ทำให้การจุดระเบิดนั้นถี่และหนักแน่นมากๆ

แน่นอนว่าคอรถเนกเกตบ้านเราก็รอลุ้นกันได้เลย เชื่อว่าทางค่าย KTM น่าจะนำมันเข้ามาจำหน่ายค่อนข้างแน่หากว่ามันมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกัน โดยราคาก็จะแพงกว่าตัว DUKE 690 ไประดับหนึ่ง แต่คลาส 800 นี่มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างลงตัวกับรถแนวเนกเกตจริงๆ และการที่ KTM เลือกใช้ 2 สูบให้กับตระกูลนี้สำหรับคลาส middle ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง หากว่ามีการกำหนดวันวางจำหน่ายและราคาออกมาแล้ว ทาง GreatBiker.com จะรีบรายงานโดยด่วน

http://www.greatbiker.com/all-new-ktm-duke-800-2-%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%9A/

[OASIS]

 

[OASIS]

สายดอยวันนี้ค่อนข้างบางตา หลายคนมีภาระกิจ บางคนไปสายปัน บางคนไปทางโมโต

[OASIS]

อาจจะเป็นเพราะทริปนี้วางเส้นทางค่อนข้างโหด  คงเหลือแต่สายแข็งไปออกทริปกั๋น

[OASIS]

ก่อนออกเดินทาง

[OASIS]

เลือกเส้นทาง  ล๊อกอำมะหิต (ล๊อกล้อ)
เหนื่อยครับเส้นนี้ มันบ่าค่อยจะได้ขี่รถ บ่าได้เปิดคันเร่งมันๆ  ตะคริวรับประทานบ่อยครั้ง

[OASIS]

ไปเจอกลุ่ม 4X4  พวกนี้ก่อชอบโหด

[OASIS]

หัวชุมหัวเปียกกั๋นเป็นแถว  ฮ่าๆ

[OASIS]

ฤดูฝนเส้นทางจะอุ๊ก  โอกาสกินข้าวสองมื้อในดอยมีสูงมาก

[OASIS]

เบอร์ 4 และคนอยู่หลัง  เป็นคนแข็งแรง  ไปเส้นนี้อ่อนแรงกั๋นเป็นแถว   เฮ้อ.....อิด