ไม่ต้องรีบ การลงทุนในหลักทรัพย์ นลท.ระยะยาว เมื่อได้ศึกษาติดตามข้อมูลของกิจการที่เราสนใจจะลงทุนด้วย
ทั้งข้อมูลของบริษัทฯในอดีต ปัจจุบัน นโยบายการดำเนินกิจการในอนาคต (การลงทุนในหลักทรัพย์
คือการซื้ออนาคตของกิจการฯ) เมื่อมีข้อมูลของกิจการฯเพียงพอ จนมั่นใจในระดับหนึ่งว่า เราจะลงทุน
ซื้อหุ้นของกิจการใด ก็ไปดูข้อมูลทางวิชาการ ประกอบกับราคาหุ้นว่าเป็นอย่างไร ความเคลื่อนไหวของ
ราคาในรอบสัปดาห์ รอบเดือน รอบหลายๆเดือนที่ผ่านมา เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าเราควรจะซื้อหุ้น
ในราคาเท่าใด แต่ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้หุ้น (ถึงแม้ว่าแนวทางของเราคือการทยอยซื้อ ก็
ไม่ต้องรีบครับ) หรือถ้าเริ่มทยอยซื้อไปบ้างแล้ว หุ้นตกลงไปอีก ก็ไม่ต้องรีบเข้าไปซื้อเพิ่ม ให้ดูความ
เคลื่อนไหวของตลาดฯโดยรวมประกอบด้วยครับ เพราะอาจได้
โอกาสในวิกฤต โอกาสในวิกฤต คืออะไร
วิกฤตในตลาดหลักทรัพย์ คือการที่ดัชนีตลาดฯตกอย่างรุนแรง มีแรงเทขายออกมาจากหุ้นเกือบทุกตัว
(จะโดยเหตุผลใดก็ตาม) ทำให้เกิด Panic Sell (การขายของ นลท.รายย่อยตามแรงเทขายของ นลท.
รายใหญ่ นลท.สถาบัน นลท.ต่างประเทศ) ซึ่งอาจมีปัจจัยที่มองไม่เห็นเข้ามาสร้างกระแสด้วย โดยการ
เทขายหุ้นล๊อตใหญ่ๆ เพื่อให้ นลท.รายย่อยตระหนก จนต้องขายตามๆกันออกมา ที่เรียกกันว่า
ทุบเอาของ นั่นแหละครับ
นลท.รายย่อยที่มีประสบการณ์ ผ่านร้อน ผ่านหนาว ในตลาดหลักทรัพย์มาพอสมควร จนสามารถ
ดำรงอยู่ในตลาดฯได้ เขาจะพลิกวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาส (ที่ผมเรียกว่า
โอกาสในวิกฤต นั่นแหละ ) ทยอยรับของ (หุ้นที่เลือกไว้ หรือที่มีอยู่แล้วในโกดัง)
นลท.รายย่อยระยะยาวมือใหม่ ผมจึงเรียนว่า ให้ทยอยซื้อ และ/หรือจะซื้อเพิ่ม ก็อาจจะได้
โอกาสในวิกฤต ไงครับ
เพราะถ้าเราลงทุนซื้อหุ้นจนเต็มพอร์ตแล้ว เมื่อวิกฤตมา
เราก็หมดโอกาส เพราะ บ่จี๊เสียแล้ว...