เท่าที่ผมอ่านจากหน้าหนึ่งมาถึงหน้านี้
ในความเข้าใจผมว่า การซื้อ-ขายหุ้น
ก็เหมือนการซื้อ-ขาย ทองคำ ไว้เก็งกำไร ใช่ไหมครับ
แต่หุ้นในตลาดที่ว่านี้ ไม่ใช่มีแค่ทองอย่างเดียว
แต่มีกิจการหลายๆอย่างที่สามารถซื้อ-ขายได้ ใช่ไหมครับ
เพราผมได้ศึกษาการลงทุนซื้อ-ขายทองไว้บ้างนิดหน่อย
ก็ว่าจะลองดู แต่มาเจอกระทู้นี้ ทำให้ผมฉุดคิดว่า
การซื้อ-ขายหุ้น น่าจะมีหลากหลายและให้กำไรดีกว่าทอง
แบบนี้หรือเปล่าครับ หรือผมเข้าใจผิด
ยังไงช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ
สั้นๆครับ การซื้อหุ้นคือไปเป็นหุ้นส่วนในบริษัทที่เราสนใจในราคาใดราคาหนึ่งในตลาดขณะนั้น จะซื้อกี่หุ้นก็แล้วแต่วิตามิน M และความต้องการของเรา เวลาผ่านไปถ้าราคาหุ้นที่ซื้อมีคนต้องการมาก ราคาซื้อขายก็จะสูงขึ้น เราก็จะมีกำไรส่วนต่างตรงนี้ หากไม่ต้องการถือหุ้นบริษัทนี้แล้ว เราก็สามารถขายต่อเพื่อเอาเงินสดซึ่งรวมกำไรแล้วออกมา พอเข้าใจมั๊ยครับ อิอิ พิมพ์เหนื่อย ไม่งั้นจะละเอียดกว่านี้
เออ ลืมเลย คือถ้าหุ้นบริษัทนั้นไม่เป็นที่ต้องการของคนทั่วไป ไม่ว่าจะเพราะเหตุใดก็ตาม เช่นขาดทุน มีปัญหาด้านการเงิน ฯลฯ หุ้นบริษัทนั้นก็จะตกต่ำลง เพราะมีแต่คนแย่งขาย ถ้าเรามีทุนที่ซื้อสูงกว่าเราก็จะขาดทุน ตรงข้ามกะข้อความข้างบนน่ะ เหนื่อยอีกล่ะ 55+
ท่าน cupid ช่วยอธิบายเสริม
คำถามของผมหน่อยได้ไหมครับ
ขอบคุณครับ ถ้ายังไม่เหนื่อย
คำตอบของท่านเปา กระทัดรัด ได้ใจความดีมากครับ เดี๋ยวผมจะดูว่าจะเสริมอย่างไร ตรง
ไหน แต่ต้องขอเป็นพรุ่งนี้ครับ วันนี้เจอหลายเรื่องมาก เหนื่อยหลาย ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขออนุญาตเสริมที่ท่านเปาได้วิสัชนาไว้ ที่ผมขอผัดไว้เมื่อวานนี้ครับ
ที่ท่านเปาได้วิสัชนาไว้ว่า นลท.จะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้นที่ซื้อไว้ กับราคาที่ขายออกไป
นั่นคือวัตถุประสงค์ในการลงทุนซื้อหุ้น (แต่ก็เสี่ยงต่อการขาดทุน ตามที่ท่านเปาได้วิสัชนาไว้นั่นแหละครับ)
แต่ นลท.ระยะยาว (เกิน 1 ปี) ถ้าลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี จะมีผลตอบแทนเป็นเงินปันผล หุ้นปันผล
ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ แล้วแต่ผลประกอบการของบริษัทฯ นโยบายในการบริหาร ขยายกิจการ และ
เมื่อรับเงินปันผลแล้ว ผลประโยชน์ที่จะได้เพิ่มตามมาคือ เครดิตภาษี ครับ
หุ้นจะกำไรดีกว่าทองหรือไม่ ให้ท่านลงทุนในหุ้น และทอง แล้วเปรียบเทียบเอาเองเถิดครับ แต่
มีกิจการให้ลงทุน และวิธีการซื้อขาย ไหวพริบ นั้น ลงทุนในหุ้นได้รับความหลากหลายแน่นอนครับ