<< เชียงรายเอ็นดูโร่ (CHIANGRAI ENDURO CLUB) #2 >>

[OASIS]

 

[OASIS]

ซูซูกิ เอ็กซ์ทริกเกอร์ (Suzuki Extrigger) มอเตอร์ไซค์คันจิ๋วที่ไม่ง้อน้ำมัน

ทุกวันนี้แนวทางการพัฒนายานยนต์สองล้อสำหรับใช้งานในอนาคตถือว่ากำลังก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง
มีการทำวิจัยและพัฒนาในเรื่องของพลังงานทดแทนเพื่อให้ทั้งวงการและค่ายยานยนต์ของตนอยู่รอด 
และหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ที่ไม่ได้หยุดนิ่งอย่าง ซูซูกิ (Suzuki) ที่ในปัจจุบันมีทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ 
ก็ถือว่าได้รับความนิยมในท้องตลาดระดับหนึ่ง ได้มีตัวมอเตอร์ไซค์ต้นแบบที่ใช้พลังงานไฟฟ้าไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

ถ้าจะมองว่ามอเตอร์ไซค์ ซูซูกิ (Suzuki) เป็นมอเตอร์ไซค์คุณภาพ ที่ถือว่าในกลุ่มของบิ๊กไบค์ก็ถือว่าเป็นเจ้าแรกๆ
ที่ได้แนวคิดในการออกแบบและพัฒนาที่ไม่เหมือนใคร มาในครั้งนี้ก็เช่นกัน มอเตอร์ไซค์ต้นแบบที่พัฒนาขึ้นมาครั้งนี้มีชื่อว่า
ซูซูกิ เอ็กซ์ทริกเกอร์ (Suzuki Extrigger) เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก  เน้นการใช้งานที่สะดวก
มีความสปอร์ต เท่ห์ ล้ำสมัยเต็มคัน  แถมยังได้อารมณ์ความรู้สึกแบบ ครอสโอเวอร์อยู่ด้วย ด้านระบบกันสะเทือนนั้น
ก็ให้มาแบบจัดเต็มเป็นโช้คอัพแบบหัวกลับขนาดใหญ่ รวมทั้งด้านหลังที่โชว์ระบบกันสะเทือนให้เห็นเป็นสีแดงจัดจ้าน
พร้อมล้อแม็กซ์สีแดงที่ดูแล้ว สวยงามลงตัวไม่น้อย  แม้จะเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ดูเล็กกะทัดรัดก็ตาม
แต่ความแข็งแรงก็ไม่เป็นสองรองใครเลยทีเดียว

ในเรื่องของพละกำลัง  ได้พัฒนามาจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นแรก อย่างเจ้า ซูซูกิ อี-เล็ทส์ (Suzuki e-let’s)
แต่ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจน  แต่ที่โดดเด่นและเห็นได้ชัดเจน คงจะเป็นเรื่องของการบอกตำแหน่งพิกัดต่างๆ
ของร้านค้าที่เจ้ารถคันนี้ผ่านไป  ด้วยแอพพลิเคชั่นสุดเด็ด

พวกเราเองคงจะต้องลุ้นและดูเทรนการพัฒนารถสองล้อในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
แล้วบิ๊กไบค์คันโปรดของเราเองในอนาคตจะมีหน้าตาที่เปลี่ยนแปลกไปจากเดิมหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป
และถ้าหากมีความคืบหน้า  ทุกเรื่องในวงการมอเตอร์ไซค์ ทีมงาน GreatBiker
จะรีบนำกลับมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ทราบกันอย่างโดยเร็วแน่นอน

http://www.greatbiker.com/

[OASIS]

 

[OASIS]

ตำรวจเข้มพ.ค.สั่งบิ๊กไบค์ ต้องติดป้ายทะเบียนทุกคัน

ตำรวจสั่งเข้มทุกสน.ต้องกวดขัด พ.ค.นี้ "บิ๊กไบค์" ไม่มีป้ายทะเบียน จับปรับให้หนัก "โฆษกตร."
กำชับเสียงต้องไม่ดังเกิน 95 เดซิเบล
วันพุธที่ 6 พฤษภาคม 2558 เวลา 11:18 น.
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ดูแลงานจราจร เปิดเผยว่า กรณีผู้ขับขี่บิ๊กไบค์
ซึ่งขณะนี้เกิดเป็นกระแสที่มีผู้นิยมขับรถชนิดอย่างมาก โดยสังเกตเห็นว่า ส่วนมากรถบิ๊กไบค์จะไม่นิยมการติดป้ายทะเบียนรถ
เพื่อความสวยงาม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาการเข้ากวดขันจับบิ๊กไบค์ที่แอบฝ่าฝืนขับรถในช่องทางด่วน
พบว่า ร้อยละ 30 ไม่มีการติดป้ายทะเบียน และบางคันมีการปิดบังป้ายทะเบียน ทำให้เจ้าหน้าที่มองเห็นไม่ชัดเจน

พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นไป ได้กำชับให้สน.ทั้ง 88 สน. กวดขันการติดป้ายทะเบียนในรถทุกประเภท
โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ต้องมีป้ายทะเบียนทุกคัน หากพบเห็นมีผู้ฝ่าฝืน ให้เจ้าหน้าที่ปรับสูงสุดได้ทันที
ทั้งนี้ในด้านกฎหมายรถในลักษณะดังกล่าว จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรพ.ร.บ.จราจรทางบก 2522
เหมือนรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กทุกประการดังนี้คือ 1.ในการขี่ จะต้องชิดขอบทางด้านซ้ายเสมอการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง
2.ติดแผ่นป้ายทะเบียนชัดเจนสามารถมองเห็นได้ 3.จะต้องไม่มีเสียงดังเกิน 95 เดซิเบล

อย่างไรก็ตามหากพบว่า รถเหล่านี้วิ่งขวาสุดหรือวิ่งในช่องทางด่วน ให้เจ้าหน้าที่สน.ในพื้นที่
ดำเนินการจับปรับตามที่กฎหมายกำหนดปรับ 400, 1,000 บาท ในกรณีที่ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ชำระภาษี ปรับ 2,000 บาททันที

http://www.dailynews.co.th/bangkok/319098

[OASIS]

AMAZONIA Triumph Scrambler เอาใจคนชอบรถแต่ง

รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สมัยนี้ก็มีการเอาไปแต่งจนกลายเป็นรถแต่งมากมาย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งคัน
จากแดนผู้ดีที่ได้แต่งรถในตำนานขึ้นมาใหม่ กลายเป็น AMAZONIA Triumph Scrambler (อะเมโซเนีย ไทรอัมพ์ สแครมเบลอร์)
ที่ดูดุดัน เท่เอาการ และเหนือชั้นในเรื่องของการดีไซน์มากๆ บอกได้คำเดียวว่า เท่สะกดจิตจริงๆ

คนทีชอบรถแต่งคงจะยกย่องในความล้ำของสแครมเบลอร์รุ่นนี้จริงๆ เพราะว่าตัวเดิมก็คอนข้างดิบอยู่แล้ว
มาเจอการแต่งรถแบบผสมผสานเข้าไปอีก ยิ่งตอบโจทย์มอเตอร์ไซค์ CUSTOM ในตลาดรถ BIGBIKE
ได้อย่างชัดเจนมากๆ สำหรับเจ้าสองล้อสัญชาติอังกฤษคันนี้ครับ

สำหรับการแต่งของมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ ออกแบบมาให้สามารถใช้ขับขี่แบบลุยๆได้อย่างเต็มเปี่ยม AMAZONIA Triumph Scrambler
ออกแบบมาให้มีความเป็นอเนกประสงค์มากขึ้น ทัวร์ริ่่งทางไกลได้ ลุยทางขรุขระได้ดีขึ้น ลุยน้ำลุยโคลนได้
โดยเน้นการออกแบบมาให้ใช้ยางที่มาพร้อมดอกยางขนาดใหญ่ และยางเส้นใหญ่เพื่อการลุยในเส้นทางที่มีอุปสรรคโดยเฉพาะ
บังโคลนหน้าก็ยกสูงพร้อมลุยจริงๆ

ด้านท้ายก็ได้ออกแบบมาให้มีกระเป๋าอเนกประสงค์ตอบโจทย์การเดินทางไกลด้วยเช่นกัน ด้านหน้าของอะเมโซเนีย
ไทรอัมพ์ สแครมเบลอร์ จะใช้ไฟหน้า ติดตั้งกับหน้าแจกทรงแบน ใช้แฮนด์บาร์ทรงสตรีท เพิ่มความสปอร์ตและการขับขี่ที่เหนือชั้นมากขึ้น
ตัวถังทรงเดิม แต่แต่งความเท่ด้วยการใช้สีเขียวเข้ามาเป็นตัวเกริ่นนำความดุดันแทน เบาะนั่งดีไซน์เรียบยาว นั่งได้สองคน
มีกระเป๋าสัมภาระ 1 ข้าง ขนาดใหญ่ ไม่แน่ใจว่าหากใส่ของเต็มแล้วจะสามารถทรงตัวได้ดีแค่ไหน

เนื่องจากอีกด้วยไม่สามารถติดตั้งกระเป๋าสัมภาระได้ เพราะว่าเป็นท่อไอเสียที่ยกสูงมายันใต้เบาะ
ส่วนไฟท้ายยังคงเน้นแบบวินเทจคลาสสิค ไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย ด้านมาตราวัดความเร็วก็ยังคงใช้อันเล็กแบบเดิม
สำหรับ AMAZONIA Triumph Scrambler ก็เน้นความสตรีทในแบบฉบับรถแต่งมากที่สุด ดูรู้ว่าโมดิฟายด์ได้เนี๊ยบมากจริงๆ
สำหรับบิ๊กไบค์คันนี้ เยี่ยมมากๆครับ

แน่นอนว่าเจ้าสองล้อสุดเท่คันนี้ได้รับการแต่งมาจากเจ้าของดั้งเดิมอย่าง ไทรอัมพ์ สแครมเบลอร์ เป็นแน่แท้
พร้อมใช้ชื่อใหม่ว่าเป็น อะเมโซเนีย ไทรอัมพ์ สแครมเบลอร์ จากการแต่งสุดฝีมือจากค่ายแต่งรถชื่อดังอย่าง Ton-up Garage
ที่ผสมผสานความคลาสสิคออฟโร้ดไว้ในเส้นสายของบิ๊กไบค์แนว CUSTOM คันนี้ได้เป็นอย่างดี พร้อมเดินทางทุกหนแห่ง
และพร้อมเติมแต่งการผจญภัยให้สนุกล้ำอย่างสมบูรณ์แบบ

http://th-bigbike.com/amazonia-triumph-scrambler/

[OASIS]

KTM 250 SX-F ที่สุดแห่งนวัตกรรมทางฝุ่น

เครื่องยนต์ 4 จังหวะ สูบเดียว DOHC
ระบบระบายความร้อน ด้วยหม้อน้ำ
ขนาดความจุ  249.91 ซีซี.
กระบอกสูบxช่วงชัก 78 x 52.3 มม.
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง คาร์บูเรเตอร์
เกียร์ ้เป็นแบบธรรมดา 6 สปีด
คลัทช์ แบบเปียกสั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค (คลัทช์น้ำมัน)
ระบบขับเคลื่อน โซ่และสเตอร์
ระบบสตาร์ทเครื่อง ระบบไฟฟ้า
ถังน้ำมันเชื้อเพลิงจุได้ 7.5 ลิตร
เฟรม วัสดุเดียวกับรถจักรยานที่ใช้แข่ง
สวิงอาร์ม อะลูมิเนียมถูกยืดระยะให้ยาวขึ้นเพื่อจะได้สะดวกในการปีนผาไต่เนิน

ชิ้นงานบอดี้พาร์ทมีทั้งหมด 12 ชิ้น
- การ์ดแกนช็อคอับหน้า
- บังโคลนหน้า
- แป้นเบอร์ด้านหน้า
- ปีกหม้อน้ำขวา/ซ้าย
- ถังน้ำมันเชื้อเพลิง
- เบาะนั่ง
- แป้นเบอร์ด้านข้างซ้าย/ขวา
- บังโคลนหลัง
- นวมแฮนด์กันกระแทกด้านบน
- ตัวดันโซ่หน้าสเตอร์/หลัง

ระบบกันสะเทือนไม่ได้เน้นความนุ่มนวลเหมือนครูสเซอร์
- ด้านหน้า WP เป็นช็อคอับเทเลสโคปิคหัวกลับ 4860 MXMA CC ระยะการทำงาน 300 มม.
พร้อมโหมดปรับตั้งแบบเต็มเหนี่ยว ผิวแกนเคลือบด้วยฮาร์ดโครเมี่ยม
- ด้านหลัง เป็นช็อคอับเดี่ยว พ่วงต่อกับกระปุกซับแท้งค์บรรจุแก๊ส สามารถปรับตั้งได้แบบฟลูอ๊อพชั่น
ระยะยุบตัว 317 มม. ช็อคอับหลังเป็นรุ่น 5018 BAVP DCC

ระบบเบรค
- ด้านหน้า  จานเบรคเดี่ยวตายตัวขนาด 260 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ สั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค
- ด้านหลัง จานเบรคหลังแบบเดี่ยวตายตัวขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ

น้ำหนักรถ 92 กก.

ถ้าเป็นนักนิยม KTM ตัวจริงเสียงจริง แน่นอนว่าพวกเขาต้องรักรถสูตรทางฝุ่นหรือรถวิบากของค่าย
มากกว่าความยินดีปรีดาของตัวเลขบนหลังไมล์ของรถทางเรียบ หากจะเอาไปวิ่งบนดวงจันทร์ก็เพียงแค่แก้ระบบเชื้อเพลิงเท่านั้น!!

http://www.9carthai.com/ktm-250-sx-f/

[tai xr]

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนรักษาสุขภาพนะครับ

[OASIS]

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนรักษาสุขภาพนะครับ

[OASIS]

 

[OASIS]

Honda มีแผนที่จะผลิต SFA เป็นรถแบบโกบอลโมเดลใน 3 คลาสด้วยกัน

หลังจากที่เรานำเสนอข่าวกันมาตลอดเกี่ยวกับเจ้า Honda SFA รถแนวสตรีทไบค์แบบโมเดิร์นจากทางค่ายฮอนด้า ที่เปิดตัวครั้งแรกไปในงาน IMOS 2014 แบบคอนเซ็ปท์ไบค์ และล่าสุดเป็นโมเดลที่ใกล้เคียงกับรถที่จะผลิตกันจริงในงาน Osaka Motorshow เมื่อเร็วๆ นี้ วันนี้เรามีความคืบหน้ามานำเสนอกันอีก และนับว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือเจ้า SFA นี้จะผลิตออกมาเป็น 3 คลาสด้วยกัน

ข่าวจาก MCN รายงานว่ารถ Honda SFA นั้นจะไม่ได้เป็นเพียงแค่คอนเซ็ปท์ไบค์อีกต่อไป แต่มันเตรียมเข้าสู่สายพานการผลิตในเร็วๆ นี้แล้ว โดยในตอนนี้อยู่ในเฟสของการทำผลสรุปของตลาด เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และรวบรวมความคิดเห็น (Feed Back) จากผู้คนที่สัมผัสกับตัวคอนเซ็ปท์มาแล้ว เพื่อเตรียมจะนำมาทำเป็นไฟนอลโปรดักส์ในตอนนี้

และทาง MCN ยังได้รายงานว่าตอนนี้ทาง Honda สรุปจะผลิตรถ SFA ออกเป็น 3 คลาสด้วยกันดังนี้:

1. SFA 125 (125 cc) จะทำตลาดในยุโรปและออสเตรเลีย ซึ่งจะเป็นคำตอบสำหรับในเรื่องของกฏหมายในการจำกัด CC สำหรับใบขับขี่ของประเทศในโซนนั้นนั่นเอง
2. SFA 150 (150 cc) จะทำการตลาดในเอเชียเป็นหลัก
3. SFA 300 (300 cc) จะเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการรถในคลาสนี้ โดยจะมุ่งเน้นทำตลาดในประเทศที่โมเดล CB300F นั้นมียอดขายตามเป้ามาก่อนนั่นเอง

สำหรับเจ้า SFA นี้ต้องยอมรับว่าความประทับใจแรกที่เราเห็นตั้งแต่สมัยมันยังเป็น คอนเซ็ปท์ไบค์ ก็คือเรื่องดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และลงตัวมากๆ เป็นแนวสตรีทไบค์กึ่งๆ โมตาร์ท รวมไปถึงพวกอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้อย่างไฟหน้าสองชั้นแยกไฟสูง-ต่ำ หรือท่อแบบอันเดอร์เทลที่ซ่อนไว้ด้านล่างเบาะคนซ้อน รวมไปถึงโช๊คอัพหน้าแบบหัวกลับ (Upside-down) และที่เด็ดสุดก็คือสวิงอาร์มเดี่ยวด้านหลัง (โปรอาร์ม) เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องไปแต่งอะไรเพิ่มเติมแล้ว

เชื่อว่านับจากนี้ไปเจ้า SFA นั้นจะมีความคืบหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงอาจจะมีการทดสอบวิ่งกันจริงๆ ในเร็วๆ นี้ และเมื่อมองจากการแบ่งคลาสออกเป็นสามคลาสและถูกกำหนดมาเป็นโกบอลโมเดล นั่นก็หมายความว่ามีโอกาสสูงมากๆ ทีเดียวที่มันจะเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเรา และก็น่าจะประกอบกันที่บ้านเราด้วย แต่จะขายกี่ cc นั้นยังต้องลุ้นกันอีกที (ระหว่าง 150 หรือ 300) ยังไงเพื่อนๆ ทุกคนสามารถติดตามความคืบหน้ากันได้จากทาง GreatBiker.com ก่อนใครเช่นเคย

http://www.greatbiker.com/

[OASIS]

 

[OASIS]

 

[OASIS]

จัดมาเป็นคอลเลคชั่น Samsung X Marvel Avengers Briefcase สุดยอด !

เรียกได้ว่าจัดเต็มกันไปเลยทีเดียวกับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนยี่ห้อดังจากเกาหลี Samsung
ที่ได้จับเอาคอลเลคชั่น Marvel Avengers มาทำการตลาด งานนี้บอกเลยว่าสาวก Marvel Avengers ห้ามพลาดแต่ประการใด ๆ ทั้งปวง
กับ Samsung X Marvel Avengers Briefcase มาพร้อมกระเป๋าเหล็กกันเลยทีเดียว

http://world.kapook.com/pin/554d8c0a38217a2f0a000000

[OASIS]

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จับมือ อัลไพน์สตาร์ ลุยพัฒนาเทคโนโลยีถุงลมนิรภัยสำหรับนักขี่

อัลไพน์สตาร์คือหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ที่มีเทคโนโลยีถุงลมนิรภัยติดตั้งมาในชุดแข่งที่บรรดานักแข่งโมโตจีพีสวมใส่
เพื่อป้องกันตามเกิดเหตุสุดวิสัย บางทีเร็วๆ นี้ผู้ใช้รถทั่วไปอาจมีโอกาสได้สัมผัสกับเทคโนโลยีนี้ก็ได้


การยกเอาเทคโนโลยีจากสนามแข่งมาสู่ถนนอาจฟังดูเป็นเรื่องง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องที่ยากกว่าที่คิด
เนื่องจากบนท้องถนนมีปัจจัยที่หลากหลายกว่า ทางผู้ผลิตจึงต้องใช้เวลาในการพัฒนารูปแบบการใช้งาน
ให้เหมาะสมกับการใช้งานบนท้องถนนยิ่งขึ้น

การที่เจ้าของแบรนด์อุปกรณ์ป้องกันมาจับมือกับค่ายรถ ทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงจากสนามแข่ง
มาสู่ท้องถนนเป็นไปได้ง่ายขึ้นและเป็นที่นิยมมากขึ้น อย่างการที่ ไดเนส จับมือกับ ดูคาติ ในการออกแบบ ดี-แอร์(D-Air)
ระบบถุงลมนิรภัยของทางไดเนสในมัลทิสตราด้า1200

ดูเหมือนว่าตอนนี้แบรนด์อย่าง อัลไพน์สตาร์เอง ก็คงอยากจะขยับมาเล่นตลาดนี้มากด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในการออกแบบและพัฒนาแจ็คเก็ตที่มาพร้อมกับระบบถุงลมนิรภัยอย่าง อัลไพน์สตาร์เทคแอร์ (Alpinestars Tech-Air)

แน่นอนว่าเสื้อแจ็คเก็ตถุงลมนิรภัยของอัลไพน์สตาร์ชุดแรกจะต้องออกจำหน่ายมากับเสื้อแจ็คเก็ตของบีเอ็มดับเบิลยู
โดยระบบของ อัลไพน์สตาร์เทคแอร์ จะไม่ได้ไปจับที่ตัวรถแบบของไดเนส แต่จะใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการจับการปะทะ
ทำให้ผู้ขับขี่ลุกเข้าลุกออกจากรถ ได้โดยไม่ต้องเสียเวลานั่งเชื่อมต่อระบบอะไรกับตัวรถให้วุ่นวาย


นอกจากเรื่องเทคโนโลยีถุงลมนิรภัยของอัลไพน์สตาร์ที่จะนำมาให้ในอุปกณณ์ขับขี่ของบีเอ็มดับเบิลยูแล้ว
อัลไพน์สตาร์อาจมาทำอุปกรณ์ขับขี่ทั้งหมดให้กับบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราดด้วยเช่นกัน

http://www.autospinn.com/2015/05/%E0%B8%BAbmw-motorrad-adopt-alpinestars-tech-air/

[OASIS]

ไทรอัมพ์ เปิดตัวเวอร์ชั่นอัพเกรด ไทเกอร์800 เอ็กซ์อาร์ที และ เอ็กซ์ซีเอ เพิ่มฟังก์ชั่น เพิ่มตัวเลือก

นอกจาก บีเอ็มดับเบิลยู เอฟ800 จีเอส ที่เรานำมาทดสอบกันไปแล้ว ยังมีอีกหนึ่งแอดเวนเจอร์ไบค์ที่น่าจับตามอง
จากเมืองผู้ดี หลังจากได้เปิดตัว ไทเกอร์800 เอ็กซ์ซี และ เอ็กซ์อาร์ ได้ไม่ถึงปี ตอนนี้ไทรอัมพ์ได้เปิดตัวอีกสองรุ่นย่อย
ที่มีการเพิ่มเติมอุปกรณ์และพัฒนาให้เหมาะสำหรับการเดินทางไกลมากยิ่งขึ้น

สิ่งที่ ไทเกอร์800 เอ็กซ์อาร์ที และ เอ็กซ์ซีเอ มีเพิ่มเข้ามาก็คือเบาะทำความอุ่นสำหรับทั้งคนขี่และคนซ้อน
รวมถึงระบบทำความร้อนที่ปลอกแฮนด์ ไฟตัดหมอกแอลอีดี แหล่งพลังงานขนาดใหญ่ถึง 650 วัตต์ ระบบนำทางจีพีเอส
พอร์ทสำหรับชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์พกพา ที่สำคัญทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับแร็คสำหรับติดกล่องข้าง

เอ็กซ์อาร์ทีเองก็ยังคงมีเอกลักษณ์แบบเดียวกับ เอ็กซ์อาร์ และ เอ็กซ์อาร์เอ็กซ์ ล้ออลูมิเนียมขนาด 19 และ 17 นิ้ว มาพร้อมกับทริปมิตเตอร์ระดับสูง ระบบครูซคอนโทรล ชิลด์หน้าปรับได้ และการ์ดแฮนด์

ด้าน เอ็กซ์ซีเอ ยังคงรูปลักษณ์ในแบบแอดเวนเจอร์เช่นเดียวกับ เอ็กซ์ซี และ เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ ทั้งล้อซี่ลวดที่เลือกมา
สำหรับทางฝุ่นโดยเฉพาะด้วยล้อหน้าขนาด 21นิ้ว ล้อหลังขนาด 17 จงอยปากนกที่ใต้ไฟหน้า ระบบกันสะเทือนของไวท์พาวเวอร์(WP)
ที่มีระยะยุบที่มากกว่า ระบบสะเทือนจากโชว่าในรุ่น เอ็กซ์อาร์

โดยรถทั้งสองรุ่นใหม่ยังมาพร้อมกับระบบเบรคเอบีเอส แทร็คชั่นคอนโทรล และการันตีว่าประหยัดเชื้อเพลิงถึง 17%
เมื่อเทียบกับ ไทเกอร์800 โมเดลปี 2014 ในไทยเราน่าจะยังไม่มาเร็วๆ นี้ ส่วนถ้าใครสนใจ ไทรอัมพ์ ไทเกอร์800 เอ็กซ์ซี
และ เอ็กซ์อาร์ มีจำหน่ายในประเทศไทยเรียบร้อยแล้วนะ

http://www.autospinn.com/2015/05/triumph-reveal-2015-tiger-xrt-xca/

[OASIS]

ซุมประตูทางเข้าบ้านสบห้วย หมู่ 1 ทำเสร็จแล้ว ไปเรื่อยๆ ก่จะถึงสนาม

[OASIS]

เหลือแต่เด็กๆ และแม่บ้าน  พ่อบ้านทั้งหลายเข้าไปในป่า ไปเคลียเส้นทาง

[OASIS]

หัวไหล่โอลิเวอร์ดีขึ้นแล้ว ทิ้งเวลาฟักฟื้นก่อน

[OASIS]

เด็กสร้าง

[OASIS]

อากาศฮ้อนแต้  หลังจ่านงค์เหงื่อนิเต็ม