<<<< เชียงรายเอ็นดูโร่ (CHIANGRAI ENDURO CLUB) #3 >>>>

[OASIS]

ลงต่อเนื่องมายาวพอสมควร  ขานิกางประคองอยู่ตลอด พอจะมีจุดหยุดรถ
ผมขอพักซักกำเต๊อะ  อิดครับอิด

[OASIS]

ผิวทางมันล๊อคล้อ  ปีนข้ามไปอีกฮ่องจะยิ่งลำบากนะครับ จะกลายเป็นล้อหน้า-หลังอยู่คนละฮ่อง
งานอาจเข้าได้  ทางทีดีไปต๋ามฮ่องจนสุดของมันนั่นแหละ  ตรงไหนสันกว้างก็ไต่ขึ้นไป เป็นช่วงๆ

[OASIS]

ล๊อคล้อบ่าปอ  มีมุด มีก้มแถมเข้ามาอีก  มันจะฆ่ำกั๋นปะล้ำปะเหลือ

[OASIS]

 

[OASIS]

แน่ใจนะว่านี่คือ Kawasaki D-Tracker กลายพันธุ์เลยงานนี้

http://www.mocyc.com/gallery/photos/6528/60455/

[OASIS]

ออกมาทางโล่งซะที  โล่งอกตี่ผ่านเส้นทางนี้มาได้

[OASIS]

มาโผล่ตรงนี้  เส้นแม่จัน-แม่อาย

[OASIS]

ออกมาวิ่งทางดำซัก 6-7 โลมั้ง หัวสะพานขวาขึ้นไป
เห้นเส้นทางแล้วผิดหวังเล็กน้อย ปกติจะเป็นทางแคบ มีฮ่องน้ำฮื้อลุ้น
วันนี้เกรดซะกว้าง เรียบ ขึ้นอย่างง่ายดาย
ไต่ระดับขึ้นไปจุดสูงอย่างรวดเร็ว  เห็นถนนข้างล่าง ชัดเจน

[OASIS]

ผ่ายบ้านจะบูสีไปเรื่อยๆ  ออกทางโรงเรียน หลังหลักกิโลใหญ่ครับ

[OASIS]

เวลาเลยมื้อเที่ยงไปพอสมควร  หิวจัดละครับ ใส่กั๋นเต็มที่
ไข่เจียวราคาสูงไปนิด  รายการอื่นโอครับ

[OASIS]

มื้อเที่ยงของมอไซค์คู่ชีพบ้าง 
ท้องอิ่ม น้ำมันเต็มถัง ไปไหนไปกั่น  ฮ่าๆ

[OASIS]

เบนซิน 95 ชัวร์   แน่นอน   ราคาสูงกว่าลุ่มดอย

[OASIS]

 

[OASIS]

Bajaj Pulsar CS400 เตรียมวางจำหน่ายในช่วงปลางปี 2016 นี้

บริษัทรถมอเตอร์ไซค์ชื่อดังจากประเทศอินเดียอย่าง Bajaj Auto Limited ได้ทำการเซอร์ไพร์สผู้ใช้งาน
AutoExpo เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 โดยการเปิดตัวโมเดล Bajaj Pulsar CS400 ในรูปแบบของคอนเซ็ปท์ไบค์
เป็นครั้งแรกในตอนนั้น และมาถึงปี 2016 นี้ได้มีข่าวว่าทางค่ายได้เตรียมปล่อยโมเดลนี้ออกมาในช่วงกลางปี 2016
ซึ่งก็ได้สร้างความฮือฮากันอย่างมากในแวดวงไบค์เกอร์ งานนี้เราลองไปดูรายละเอียดด้วยกันได้ตามข่าวด้านล่างนี้เลย

โดยเจ้า Bajaj Pulsar CS400 นั้นเป็นรถที่ผสมผสานกันระหว่างแนวเนกเกตและครูเซอร์ได้อย่างลงตัว
(แนวๆ เดียวกันกับ Ducati Diavel) ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 373.2cc แบบ 1 สูบที่เน้นแรงต้นแบบจัดจ้านไว้ก่อน,
ตัวรถเป็นแบบ 4 จังหวะระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ และให้แรงม้าอยู่ที่ 43 Bhp ที่ 9,000 รอบเท่านั้น
และทอร์คอยู่ที่ 35 Nm ที่ 7,000 รอบ ดูจากสเปคตรงนี้แล้ว โมเดลนี้มันถูกเซ็ทมาให้รถนั้นมีพละกำลังแบบจัดจ้าน
ในช่วงต้นถึงกลาง ก่อนที่จะแผ่วไปในความเร็วปลาย (ซึ่งก็ไม่แปลกแต่อย่างใดกับรถในแนวนี้) ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ 6 สปีด

ในส่วนประกอบอื่นๆ นั้นก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าที่เน้นความสว่างเป็นพิเศษ ในดีไซน์แบบล้ำๆ,
แฮนด์บาร์นั้นเป็นถูกออกแบบให้มีมิติค่อนข้างกระชับ ทำให้เราคอนโทรลได้ง่าย และท่านั่งในการขับขี่นั้น
จะให้ความสะดวกสบายมากกว่ารถแนวเนกเกตทั่วๆ ไป หน้าจอแสดงผลนั้นเป็นแบบฟูลดิจิตอล LCD เต็มรูปแบบ
สำหรับในส่นวชของระบบเบรกนั้น เจ้า CS400 คันนี้ใช้ดิสก์หน้าขนาด 300mm ส่วนดิสก์หลังขนาด 230mm
ซึ่งทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง สำหรับโช๊คอัพหน้านั้นเป็นแบบหัวกลับ
ส่วนทางโช๊คอัพหลังนั้นเป็นแบบ โมโน-โช๊ค ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มนั่นเอง

ราคาค่าวตัวของ Bajaj Pulsar CS400 นั้นถูกคาดเดาว่าน่าจะอยู่ที่ราวๆ ประมาณ 85,000 บาทถึง 90,000 บาท
(สำหรับที่วางขายในประเทศอินเดีย) ก็น่าจะเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าจะขายดีกันในท้องถิ่น ส่วนการส่งออกไปขาย
กันในต่างประเทศอย่างบ้านเรานั้น จะต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าจะมีบริษัทไหนสนใจรถจากค่ายนี้ ที่ถือว่าเป็นของดี
ราคาถูกมาทำตลาดในประเทศไทยหรือไม่อย่างไร ในอนาคตนี้ก็ไม่แน่เหมือนกัน อาจจะมีความเป็นไปได้อยู่ ต้องติดตามข่าวกันต่อไป

http://www.greatbiker.com/

[OASIS]

ระหว่างอาหารได้คุยกั๋นเรื่องเส้นทางว่าจะไปไหนต่อดี มันมีหลายเส้นทางตี่จะกลับสู่เจียงฮาย
บางเส้นมันไกลและอ้อมไป สุดท้ายเลือกเส้นนี้ครับ ออกบ้านแสนใหม่ ผ่านฐานทหารหลายฐานบางช่วงติดชายแดนพม่า

[OASIS]

เส้นทางถูกขยายกว้าง เดินทางได้เร็วขึ้น ลากกั๋นได้เต็มที่
วันออกทริปบ่าเจอรถสวนหรือตวยสักกัน ผู้ที่จะใจ้เส้นทางนี้จะเป็นทหารซะส่วนใหญ่
ประจำการทีละหลายๆ เดือน

[OASIS]

ใส่กั๋นยาวๆ จนถึงปลายทางดิน  มียังบ่ามาถึงสองกัน  ต้องรอครับ
ซักพักส่งข่าวมาว่ายางฮั่ว บ่าไกลจากตี่เฮาอยู่  บอกลงมาเปลี่ยนข้างล่างนี้

ปรากฎว่าฮั่วยางหน้า  ฮึ่ม......... นึกสภาพขี่ลงมาโดยตี่ยางหน้าบ่ามีลม  บ่าง่ายนะครับ
ผิวทาง น้ำหนักรถ ลงดอยและระยะทาง  การควบคุมเล่นยากแน่นอน
ฮั่วยางหน้าเกิดขึ้นบ่าบ่อยนั๊ก แต่เฮาก็มียางในขอบ21เปลี่ยนครับ

[OASIS]

ออกจากบ้านแสนใหม่ วิ่งทางดำเล็กน้อยมาเข้าทางดินตี่กิ่วสะไต เส้นทางประจำ
ทางมีก่าฝุ่น  ทิ้งห่างกั๋นไว้ไกลพอควรเพื่อจะได้บ่าเอาฝุ่นโฮมกั๋น

ข้างทางเห็นชาวบ้านเตรียมดินไว้ลงพืชผลทางการเกษตร

[OASIS]

เส้นทางทำเวลาได้ดีครับ เลี้ยวเลาะไปต๋ามดอย บางช่วงเห็นไกล
วันข้างหน้ามันคงจะเป็นทางคอนกรีตหรือราดยาง เพราะเส้นนี้เป็นเส้นหลักไปถึงบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตรและเข้าเมืองได้

[OASIS]

เลยผาขวางได้นิดเดียว เจอของแข็งแล้วสิ 
เหลืออยู่สองคนสุดท้าย  ต้องทำได้สิ....