ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 2 เมษายน 2553 01:00
แผน 5 ปี 'เซ็นทรัลพัฒนา' สยายปีก 'โกอินเตอร์'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แผน 5 ปี วางโมเดล'โตนอกบ้าน'เติบโตปีละ15% อนาคตระยะกลาง'แจ๋ว' แต่ระยะ 1 ปีนี้'รายได้-กำไรสุทธิ'ไม่โดดเด่น หลังปิดเซ็นทรัล ลาดพร้าว 6 เดือน
ปี 2553 จะไม่มีการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่เพิ่ม และมีกำหนดปิดปรับปรุงสาขาเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว เป็นระยะเวลา 6 เดือน ระหว่างวันที่ 24 เมษายน ถึง 28 ตุลาคม 2553 ก่อนวางแผนปรับขึ้นค่าเช่าอีก 10-15% ซึ่งปัจจุบันรายได้จากสาขาลาดพร้าว ถือเป็น "อันดับสอง" คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 18% ของศูนย์การค้าทั้งหมด
โบรกเกอร์หลายแห่งคาดว่ายอดขายและกำไรปกติในปีนี้ จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากปี 2552 โดยผลการดำเนินงานของเซ็นทรัล พัฒนาจะกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง นับตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นไป โดย ณ สิ้นปี 2552 เซ็นทรัล พัฒนา มีโครงการภายใต้การบริหาร 15 โครงการ ประกอบด้วย ศูนย์การค้า 15 โครงการ พื้นให้เช่ารวม 810,120 ตารางเมตร อาคารสำนักงาน 6 โครงการ พื้นที่ให้เช่ารวม 129,984 ตารางเมตร อาคารที่พักอาศัย 2 โครงการ มีจำนวน 62 ห้องชุด และโรงแรม 1 โครงการ มีห้องพัก 255 ห้อง
โดยพื้นที่ดังกล่าวไม่รวมพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าในโครงการเซ็นทรัล พลาซา พระราม 2, เซ็นทรัล พลาซา รัชดา-พระราม 3, และเซ็นทรัล พลาซา ปิ่นเกล้า จำนวน 157,310 ตารางเมตร และพื้นที่อาคารสำนักงานปิ่นเกล้า เอ และ บี จำนวน 33,762 ตารางเมตร ซึ่งได้โอนไปยังกองทุน CPNRF แล้ว
นริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บมจ.เซ็นทรัล พัฒนา เปิดประเด็นว่า อยากให้นักลงทุนมองภาพรวมของเซ็นทรัล พัฒนา อย่างละเอียด และมองข้าม "ผลกระทบระยะสั้น" ที่เกิดจากการปิดปรับปรุงสาขาลาดพร้าว 6 เดือน นักลงทุนจะคาดเดาได้เลยว่าราคาหุ้น CPN ในอนาคตควรจะขึ้นไปยืนที่ระดับใด หุ้นเราเคยตกลงไปลึก วันนี้ก็ขึ้นมาแล้ว "ผมเองยังซื้อหุ้นไม่ทันเลย"
มือการเงินที่บริหารทรัพย์สินหลายหมื่นล้านบาทของครอบครัวจิราธิวัฒน์ เบี่ยงเบนประเด็นเรื่องราคาหุ้นโดยระบุ เรื่องหุ้นอยากให้มองที่วิชั่น 5 ปี (2553-2557) ของ เซ็นทรัล พัฒนา เรามีสโลแกนว่า To be the Most Admired and Dynamic Regional Retail Property Development with World Class Rewarding Experience
"อธิบายง่ายๆ เราจะออกไปเติบโตนอกบ้าน โดยจะเน้นในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ จีน อินเดีย และเวียดนาม โดยประเทศจีนจะเป็นประเทศแรกที่ เซ็นทรัล พัฒนา จะเข้าไปเปิดศูนย์การค้าร่วมกับพันธมิตร ขนาดโครงการจะเท่ากับ เซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ พื้นที่ 25 ไร่ ปัจจุบันเหลือเพียงคุยรายละเอียดเล็กน้อย ภายในเดือนเมษายนนี้จะได้ข้อสรุปทั้งหมด พันธมิตรจะลงทุนที่ดินบริษัทจะลงทุนเม็ดเงิน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2553 และจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2555"
นริศ บอกว่า วิสัยทัศน์ 5 ปี (2553-2557) ของเซ็นทรัล พัฒนา ยังรวมถึงรายได้จะเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 15% และมีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศใน 5 ปี อยู่ที่ 10% ของรายได้รวม วันนี้ต้องยอมรับว่าฐานของเซ็นทรัลพัฒนาใหญ่มากแล้ว และทำเลดีๆ ในเมืองไทยเต็มเกือบหมด การออกไปต่างประเทศอาจเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตก้าวกระโดดได้ในอนาคต
สำหรับเงินลงทุนที่ต้องใช้จำนวนมากผู้ถือหุ้นไม่ต้องเป็นห่วงบริษัทจะไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นเดือดร้อน ตอนนี้อยู่ระหว่างศึกษาจะจัดตั้ง Private Real Estate Fund (กองทุนอสังหาริมทรัพย์ส่วนบุคคล) คาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาท รูปแบบจะคล้ายๆ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ แต่พันธมิตรจะเข้ามาถือหุ้นร่วมกับเซ็นทรัลพัฒนา โดยให้บริษัทเป็นผู้บริหารโครงการทั้งหมด
ปัจจุบันมีนักลงทุนจีนสนใจจะขายโครงการให้บริษัทประมาณ 10 โครงการ มีทั้งศูนย์การค้า ที่ดินรอการพัฒนา และโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จ เขากลัวว่าทำไปแล้วจะไม่คุ้มคาดว่าภายในไตรมาส 3 ปีนี้ จะได้ข้อสรุปและรายละเอียด
สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทในปี 2553 นี้ นริศ ให้ข้อมูลว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 8,730 ล้านบาท เช่นการปรับปรุงสาขาเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว ประมาณ 1,600 ล้านบาท ส่วนแผนลงทุนในปี 2554 จะใช้เงินประมาณ 8,300 ล้านบาท และปี 2555 จะใช้ประมาณ 8,400 ล้านบาท ซึ่งแผนการใช้เงินทั้งหมดยังไม่นับรวมโครงการในต่างประเทศ
ในปี 2553 เซ็นทรัล พัฒนา มีแผนการเปิดโครงการใหม่เพียงโรงแรมฮิลตัน พัทยา มูลค่า 2,000 ล้านบาท (จำนวน 300 ห้อง) ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ล่าสุดก่อสร้างไปแล้ว 70%
และจะเปิดโครงการเซ็นทรัล พลาซา เชียงราย มูลค่า 1,600 ล้านบาท ในเดือนเมษายน 2554 เปิดโครงการเซ็นทรัล พลาซา พิษณุโลก มูลค่า 1,700 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2554
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปี 2553 นริศ ชี้แจงว่ายังคงเป็นไปตามวิสัยทัศน์ The Leading Retail Developer with World-Class Experience แต่หากถามถึงอัตราการเติบโต บอกตรงๆ ตอนนี้ยังประเมินไม่ได้ แต่หลังเดือนเมษายน 2553 น่าจะพูดได้แล้วว่าผลประกอบการจะขยายตัวจากปี 2552 เท่าไร ถึงตอนนั้นคงสรุปผลกระทบจากการปิดเซ็นทรัล ลาดพร้าว ได้แล้ว แต่จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่า ในปี 2553 จะมีค่าเช่าเติบโตประมาณ 7% เมื่อเทียบกับปี 2552 ที่มีค่าเช่าขยายตัว 5% แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่ภายใต้ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรง
ส่วนที่มีนักลงทุนกังวลเรื่องที่บริษัทจะไปลงทุนในต่างประเทศอาจมีความเสี่ยง อยากบอกให้รับรู้ว่าเซ็นทรัล พัฒนา "ไม่เคยซื้อของแพง" แบบไม่มีเหตุผล ไม่ว่าเราจะลงทุนทำอะไรต้องแน่ใจว่าคุ้มค่า ถ้าทำแล้วไม่รุ่งรับรองไม่ไปแน่นอน
http://www.bangkokbiznews.com/home/d...9;์.html