CPN ขอสรุปความเสียหายหลังการชุมนุมยุติแล้ว แต่ยังย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต
14 - 15% จากปีก่อน ล่าสุดเผยเดือน พ.ค.นี้บินเจรจาพันธมิตรจีน ลุยสร้างศูนย์การค้า
ในจีนภายในปีนี้ แล้วเสร็จปี 55
นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ
ใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า ขอสรุปผลความเสีย
หายภายหลังผู้ชุมนุมยุติ การชุมนุมย่านราชประสงค์ แต่มองว่าเบื้องต้นภายหลังจาก
ศูนย์การค้าที่ราชประสงค์ปิดลง พบว่าจำนวนผู้เข้าใช้บริการในศูนย์การค้าเซ็นทรัล
พลาซ่า และอื่นๆ ที่อยู่รอบนอกมีจำนวนผู้เข้าใช้เพิ่มขึ้น 15-30% ซึ่งปกติจำนวนผู้เข้า
ใช้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์คิดเป็น 1.5 แสนคน/วัน ขณะที่ CPN ยังมีข้อดีคือมีศูนย์
การค้าอื่นรายรอบ จึงทำให้คาดการณ์ว่ารายได้ปีนี้จะเติบโต 14-15% ตามเป้าหมาย
และคาดว่าแม้จะมีสถานการณ์การเมืองที่รุนแรงจนทำให้เซ็นทรัลเวิลด์ปิดทำการชั่ว
คราวแต่ก็เชื่อว่าจะไม่มีผลขาดทุนเกิดขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าแผนการลงทุนในปีนี้มูลค่าราว 8,000 ล้าน
บาท โดยใช้ลงทุนในโครงการเซ็นทรัล พระรามเก้า และโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว
บางส่วน ขณะที่ยังคงเป้าหมายการลงทุนในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้อยู่ที่มากกว่า
10,000 ล้านบาท
นายกอบชัย กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับรัฐบาลแล้วภายหลังจากกลุ่ม นปช.
ปิดย่านราชประสงค์ ซึ่งรัฐบาลกลับไปประเมินตัวเลขความเสียหายและได้ให้ยื่น
รายงาน นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหลังจากนั้นมาดูว่ามี
มาตรการใดๆ เข้ามาช่วยเหลือได้บ้าง ซึ่งในส่วนของ CPN เบื้องต้นจะช่วยผู้ค้า ผู้เช่า
ที่อยู่ในเซ็นทรัลเวิลด์ โดยเสนอให้ผู้ค้าสามารถย้ายไปอยู่ในศูนย์การค้าอื่นๆ
รอบนอกได้ แต่ในส่วนของราคาต้องมีการตกลงเจรจาเป็นรายๆ ไป
ด้านนายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและ
บัญชี บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า ศูนย์การค้า
เซ็นทรัลเวิลด์ ได้มีการทำประกันการก่อการร้ายมาแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่ง
เป็นการประกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินและความเสียหายที่มีผลต่อราย
ได้ แต่ทั้งนี้ต้องมีความเสียหายต่อทรัพย์สินก่อนจึงจะเรียกร้องค่าเสียหายได้ โดยมีวง
เงินประกันอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
'ยังไม่ขอเปิดเผยถึงตัวเลขผลกระทบ ซึ่งเราจะขอเปิดเผยอย่างเป็นทาง
การกับผู้ถือหุ้นรวมถึงนักลงทุน และชี้แจงกับตลาดหลกทรัพย์อย่างเป็นทางการ รวม
ถึงรอให้การชุมนุมยุติก่อน บวกกับรอดูความช่วยเหลือจากภาครัฐที่จะเข้ามาช่วย
เหลือ' นายนริศ กล่าว
นายนริศ กล่าวถึงโครงการในอนาคตของบริษัทฯ ว่าปัจจุบันมีโครงการ
โรงแรม ฮิลตัน พัทยา บีช จำนวน 300 ห้อง มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยคาด
ว่าโครงการจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในไตรมาส 3/2553 และโครงการเซ็นทรัล
พลาซ่าพระรามเก้า บนพื้นที่ 15 ไร่ โดยความคืบหน้าของโครงการอยู่ระหว่างการก่อ
สร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 4 /2554 มูลค่าโครงการ 4.5 พันล้านบาท
โครงการเซ็นทรัล พลาซ่า เชียงราย บนที่ดิน 52 ไร่ โดยอยู่ระหว่างการ
เตรียม และออกแบบก่อสร้าง คาดเปิดได้ไตรมาส 2/2554 มูลค่าประมาณ 1.6 พัน
ล้านบาท โครงการเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ บนที่ดินประมาณ 70 ไร่ ปัจจุบันอยู่
ระหว่างศึกษารายละเอียด คาดเปิดได้ ไตรมาส 4/2555 มูลค่าโครงการประมาณ 3.3
พันล้านบาท โครงการศูนย์การค้าบนที่ดินเดิมของบริเวณโรงเรียนเตรียมทหาร และ
โครงการสวนลุม ไนซ์บาซ่า บนที่ดินประมาณ 40 ไร่ ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระ
มหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ได้ประกาศให้บริษัทฯ เป็นผู้ชนะการประมูล
เพื่อพัฒนาที่ดินผืนดังกล่าวเป็นระยะเวลา 30 ปี โดยคาดจะมีการลงนามในสัญญาเช่า
ที่ดินระยะยาวภายในปีนี้
ทั้งนี้บริษัทฯ มีวงเงินลงทุนที่เพียงพอสำหรับการลงทุนโครงการในอนาคต
โดยปัจจุบันมีกระแสเงินสดอยู่ประมาณ 6-7 พันล้านบาท และที่เหลืออาจจะมีการกู้
ยืมบางส่วนขณะที่สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.74 เท่า
'ภายหลังการชุมนุมยุติลง เราก็มีแนวคิดที่อาจจะมีการเซลหรือทำกิจกรรม
อะไรที่ดูน่าตื่นเต้น เพื่อดึงดูดให้ผู้เดินห้างกลับมาในส่วนของเซ็นทรัลลาดพร้าวก็ได้
เลื่อนปิดปรับปรุงมาเป็นวันที่ 31 พ.ค. จากเดิมที่ปิด 23 เม.ย. ใช้เวลา 6 เดือนในการ
ปรับปรุงโฉมใหม่ และจะเปิดให้ลูกค้าได้ใช้ประมาณกลางเดือน พ.ย. 2553 โดยใช้
งบลงทุน 2,100 ล้านบาท' นายนริศ กล่าว
โดยในวันที่ 12 พ.ค.นี้ จะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อเจรจากับพันธมิตร
ว่าจะสามารถเซ็น MOU ได้เมื่อใด ซึ่งตามแผนบริษัทฯ จะเข้าไปลงทุนสร้างศูนย์การ
ค้าในประเทศ ขณะที่พันธมิตรในจีนจะลงทุนในส่วนของที่ดินที่ก่อสร้างศูนย์การค้า
ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปีนี้ แล้วเสร็จประมาณ
ปี 2555 โดยตามแผนของบริษัทฯ 5 ปีจะทำรายได้ในต่างประเทศ ในสัดส่วนไม่เกิน
10% ของรายได้รวม เพราะการเข้าไปในจีนเป็นการเข้าไปบุกตลาดครั้งแรกของ
CPN
เขากล่าวต่อว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติการออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 5,000 ล้าน
บาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีวงเงินหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย 3.3 พันล้านบาท ดังนั้น
บริษัทฯ จะมีวงเงินในการออกหุ้นกู้ได้รวมไม่เกิน 8.3 พันล้านบาท ซึ่งตามแผนจะ
ออกหุ้นกู้บางส่วนในปีนี้แต่ยังไม่ทราบถึงวงเงินและเวลาในการออกหุ้นกู้ที่ชัดเจน
รายงาน โดย นันท์นภัส เปี่ยมสมบูรณ์
เรียบเรียง โดย ดวงสุรีย์ วายุบุตร์
อนุมัติ โดย ประสิทธิ์ กรโชคอนันต์
อีเมล์แสดงความคิดเห็น
commentnews@efinancethai.com