เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 23 กรกฎาคม 2025, 17:50:10
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  ฉันจะเป็นชาวนา
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 [11] 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 ... 27 พิมพ์
ผู้เขียน ฉันจะเป็นชาวนา  (อ่าน 49321 ครั้ง)
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #200 เมื่อ: วันที่ 17 ตุลาคม 2012, 21:23:06 »

เคยคิดไหมครับว่าทำไมญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เจริญมาก แม้ว่าการปลูกข้าวจะมีเครื่องจักรที่ทันสมัยแต่ทำไมไม่ได้เน้นเคมีมากมายเหมือนบ้านเราเค้าใส่ใจมากเกี่ยวกับผลผลิตว่าจะต้องไม่มีสารพิษตกค้าง เด็ก ๆ สามารถอยู่ร่วมกับท้องนาได้ต่างจากบ้านเราช่วงหว่านข้าวใหม่ ๆ ไม่มีใครให้เด็กไปนาเลยเพราะเต็มไปด้วยสารเคมีทั้งยาคลุมหญ้า ยาฆ่าหอยเชอรี่ชนิดน้ำ ( ยาฆ่าแมลง ) มาดูแนวคิดของชาวญี่ปุ่นกันครับ ไม่ได้มาโฆษณาหรือขายสินค้าอะไรนะครับแค่เอามาให้ได้ศึกษากัน บางประเทศก็ไม่ได้คิดแบบนี้เพราะพื้นที่และปัจจัยต่างกัน แต่สิ่งไหนที่ดีสามารถนำมาใช้ได้เราก็ควรนำมาเป็นแบบอย่างครับ

"ข้าว" เป็นวิถีชีวิต เป็นเศรษฐกิจ เป็นอาหารหลัก  
คนญี่ปุ่นมีอายุที่ยืนยาว ก็มาจากเเปลงนา มีอาหารปลอดสาร
ส่งออกอาหารญี่ปุ่น เป็นวัฒนธรรม ที่ขายได้ มีคุณค่า


เช่นเดียวกันการทำนา ก็ต้องมี
 "การจัดระเบียบการปลูกข้าว"
1.ให้ "ต้นข้าว" สามารถใช้ปัจจัยการผลิตจากธรรมชาติ (แสงเเดด ดิน น้ำ อากาศ สารอาหาร ) มาช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
 
2.การจัดการ พัฒนาคน พัฒนาเด็กให้รู้จักระเบียบวินัย กันตั้งแต่เเปลงนา  คนมีคุณภาพ มีการศึกษา เป็น "ทุน" ที่ได้เปรียบของญี่ปุ่น
3.ตามมาด้วยการพัฒนาเครื่องจักร เพื่อรองรับ อายุที่มากขึ้นของคน ประชากรโลก "ของเกษตรกร ญี่ปุ่น(สังคมญี่ปุ่นเข้าสู่ยุค คนชรามานานแล้ว)"
 
4.ญี่ปุ่นสร้างรายได้จากการส่งออก เทคโนโลยี เครื่องจักร รถยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร  ให้ผู้บริโภคในประเทศต่างๆ สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น มีความสะดวกสะบายและปลอดภัย มากขึ้น

ญี่ปุ่นเป็นประเทศอุตสาหกรรม และการเกษตรที่ก้าวหน้า ส่วนหนึ่งก็คือการพัฒนามาจาก ความมีระเบียบวินัย ของคนในชาติ ที่ฝึกฝนกันตั้งแต่เด็กรวมถึงการจัดระเบียบการปลูกข้าว...เค้าสอน เด็กๆ กันตั้งแต่ในเเปลงนา ครับ


"ดินดีหญ้าต้องขึ้น"  อยู่แล้วครับ
 เมื่อหญ้าขึ้น นอกแถวนอกกอข้าว ก็สามารถจัดการได้ง่าย
ไม่ต้องใช้ยา กำจัดวัชพืช ยาฆ่าหญ้า ที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อม = อาหารมีความปลอดภัยตั้งแต่เเปลงนา

อายุโดยเฉลี่ยเกษตรกร ญี่ปุ่น = 60-70 ปี ยังแข็งแรงนะครับ


สำหรับบ้านเรามีหลายตัวแปรหลาย ๆ ด้าน ในการทำนาแต่ละแบบทั้งราคาเครื่องจักร  ราคาปุ๋ย ราคาสารเคมี  ค่าแรง  วัสดุอุปกรณ์ในการเพาะปลูก  อีกทั้งการส่งเสริมความรู้กับชาวนาเกี่ยวกับข้าวตลอดจนการใช้สารเคมี ทั้งผลดีผลเสียในด้านต่าง ๆ และที่สำคัญส่งเสริมการทำนาแบบลดต้นทุน รู้จักทำบัญชีควบคุมค่าใช้จ่ายตัวเอง เพื่อให้ชาวนามีรายได้มากพอที่จะเลี้ยงชีพและเหลือเก็บได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 18 ตุลาคม 2012, 20:55:51 โดย ubuntuthaith » IP : บันทึกการเข้า
chate
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,023


« ตอบ #201 เมื่อ: วันที่ 18 ตุลาคม 2012, 14:58:01 »

ภาครัฐน่าจะปรับปรุงส่งเสริมแก้ไขให้ดีกว่านี้นะคับ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #202 เมื่อ: วันที่ 18 ตุลาคม 2012, 21:05:08 »

มองญี่ปุ่น :บทเรียนรู้ สังคมเกษตร และสังคมชนบท ญี่ปุ่น ภาคแรก   เครดิต สุภชัย ปิติวุฒิ

"จัดระเบียบการปลูกข้าว จากเเปลงนา สู่การพัฒนาประเทศ "บทเรียนรู้จากญี่ปุ่น ที่ผู้ใหญ่ต้องศึกษา"ศาสตร์เรื่องของการปลูกข้าว ของญี่ปุ่น น่าทึ่งมาก ครับ ว่ากันด้วยพัฒนาอย่างเป็น ระบบ ระเบียบ และความปราณีต เอาใจใส่ทุกขั้นตอน ทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

พัฒนาคน : มีคุณภาพ มีการศึกษา มีจิตวิญญาณของเกษตรกร ห่วงใยสิ่งแวดล้อม
พัฒนาพันธุ์ :ให้ได้ผลผลิตสูง ต้านทานโรคเเมลง รสชาตถูกปากผู้บริโภค
พัฒนาเครื่องจักร: รองรับแรงงานภาคเกษตรที่หายไป ซึ่งปัจจุบันเหลือประมาณ ร้อยละ 7 ของประชากรทั้งหมด คนรุ่นหนุ่มสาวออกไปเป็น salary man และ กลับมาเป็นชาวนาวันหยุด

การเพาะกล้า-เป็นระบบสายพานลำเลียงผลิตแผ่นกล้า ใช้เมล็ดพันธุ์ จำนวน 8-10 กิโลกรัมต่อไร่ มีการอนุบาลก่อนลงเเปลง อายุตั้งแต่ 8-15 วัน แต่ไม่เกิน 25 วัน ความสูงไม่เกิน25 เซนติเมตร ต้นกล้าข้าวไม่ต้องลงไปโตแข่งกับหญ้าในแปลงนา
เตรียมดิน -ใช้แทรกเตอร์ติดโรตารี เตรียมดินให้เรียบเสมอ  ลึกในระดับที่เหมาะสม 12-18 cm.พร้อมสำหรับการปักดำ

ปักดำ - เป็นแถว ความกว้าง 30 ซม. เป็นแนว มีระเบียบ มีช่องว่างให้อากาศผ่าน แสงแดดส่องถึงพื้น(แถวตามแนวขี้น-ลงของพระอาทิตย์:ต้นข้าวไม่บังแสงแดดกันเอง) ต้นข้าวสุขภาพดี แข็งแรง การจัดการดูแลในเเปลงนาก็ง่ายขึ้น     





* 1.JPG (49.27 KB, 400x600 - ดู 633 ครั้ง.)

* 2.JPG (34.64 KB, 512x394 - ดู 634 ครั้ง.)

* 3.JPG (65.71 KB, 640x480 - ดู 693 ครั้ง.)

* 4.JPG (13.47 KB, 640x134 - ดู 558 ครั้ง.)

* 5.JPG (14.52 KB, 640x126 - ดู 590 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #203 เมื่อ: วันที่ 18 ตุลาคม 2012, 21:07:25 »

การดูแลหลังการปักดำ -ใช้เครื่องพรวนหญ้า (weeder) ในร่องนาดำ ลดการใช้ยาปราบวัชพืช และใช้เครื่องชักร่องน้ำ ระบายน้ำได้ น้ำไม่ท่วมขังเเปลงนา ช่วย ลดก๊าชมีเทน

เก็บเกี่ยว -ใช้ระบบนวด "เฉพาะคอรวง" ใช้พลังงานในการนวดนวดน้อยลง ได้ข้าวที่มีความชื้นต่ำ เนื่องจากไม่ต้องเอาต้นข้าวเข้าตู้นวด (ซึ่งบริเวณโคนต้นข้าวมีความชื้นสูง) ประหยัดพลังงานในการอบลดความชื้น หลังการเก็บเกี่ยว

การจัดเก็บ -ไซโล ขนาดเล็ก เก็บข้าวที่โรงนาเกษตรกร ไว้ทยอยสีขายทั้งปี สีเป็นข้าวกล้อง และข้าวขาว หรือบรรจุเป็นข้าวเปลือกใส่ถุง กระดาษรีไซเคิล


* 6.JPG (46.36 KB, 401x490 - ดู 595 ครั้ง.)

* 7.JPG (18.53 KB, 640x134 - ดู 592 ครั้ง.)

* 8.JPG (18.93 KB, 640x128 - ดู 604 ครั้ง.)

* 9.JPG (15.27 KB, 640x127 - ดู 578 ครั้ง.)

* 10.JPG (44 KB, 400x600 - ดู 618 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #204 เมื่อ: วันที่ 18 ตุลาคม 2012, 21:09:26 »

การสีข้าว - มีเครื่องสีข้าวที่โรงนาของเกษตรกรเอง ทำให้ได้ทั้ง ข้าวกล้อง
ข้าวสาร รำ  และแกลบ เก็บไว้ใช้ประโยชน์ที่บ้าน
มีตู้สีข้าวหยอดเหรียญตามชุมชน เพื่อผู้บริโภคได้สารอาหารครบถ้วน กรณีซื้อข้าวกล้อง มาไว้ที่บ้าน แล้วต้องการบริโภคข้าวกล้องเเบบสีสดๆร้อน

หลังการเก็บเกี่ยว : เครื่อง กระจายฟาง รวมฟาง อัดฟาง ไว้ใช้ประโยชน์ทำปุ๋ย เลี้ยงสัตว์ต่อ   มีการหมัก และโรยใส่เเปลงนาบำรุงดินก่อนการเพาะปลูก
 
พัฒนาระบบชลประทาน : ควบคุมน้ำ ได้ก็ประหยัดน้ำ จัดการในเเปลงนาได้ดั่งใจ ที่ระดับ 5cm. น้ำสลับเเห้ง  ข้าวก็ไม่ต้องโตยืดตัว หนีน้ำ (มีผลต่อปัจจัยการผลิตอย่างอื่นต่อ ปุ๋ย ยา การร่วงหล่น ) หรือเเห้งตาย เพราะไม่มีน้ำ ลดต้นทุนเกษตรกรไม่ต้องสูบน้ำเข้านา

พัฒนาตลาดการเกษตร :ผ่านระบบสหกรณ์ หรือ JA ทำให้เกษตรกรได้รับส่วนแบ่งที่เป็นธรรม และการพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง


* 11.JPG (45.9 KB, 400x600 - ดู 595 ครั้ง.)

* 12.JPG (49.36 KB, 640x607 - ดู 609 ครั้ง.)

* 13.JPG (65.74 KB, 640x589 - ดู 600 ครั้ง.)

* 14.jpg (172.22 KB, 640x481 - ดู 609 ครั้ง.)

* 15.jpg (53.29 KB, 640x480 - ดู 602 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #205 เมื่อ: วันที่ 18 ตุลาคม 2012, 21:12:06 »

ไม่ใช่ ทำ Marketing ข้าวบรรจุถุงขาย อย่างเดียวเหมือนบ้านเรา ที่ใครปลูกก็ไม่รู้ ปลูกดูแลกันอย่างไร ก็ไม่รู้อีก  คนกิน คนซื้อ รู้แค่ว่าข้าวยี่ห้ออะไร รู้ กันอยู่ไม่กี่ยี่ห้อ ตราห้าง... ตราร่ม... ตราหัวเรือ...  ตรา ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่  ...

"ชาวนาญี่ปุ่น ไม่ขายข้าวเปลือกทีเดียวหลังเก็บเกี่ยวครับ แต่จะเก็บและทยอยสีขายตลอดทั้งปี ทำ packing ติด brand เจ้าของนา brand เเหล่งผลิต ทำให้ปริมาณข้าวไม่ล้นตลาด (มี Buffer stock ที่โรงนาเกษตรกร) "และมีของเหลือ จำพวกเเกลบและรำ ไว้ใช้ประโยชน์ต่อ...

ไม่ต้องขายข้าวโรงสี แล้วตามไปซื้อ แกลบ รำ ของตัวเองที่โรงสีครับ นั่นมันของของเรานะครับ !!!



* 16.JPG (14.42 KB, 640x127 - ดู 588 ครั้ง.)

* 17.jpg (26.8 KB, 521x270 - ดู 580 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
TG475
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 512



« ตอบ #206 เมื่อ: วันที่ 19 ตุลาคม 2012, 11:16:44 »

เยี่ยมเลยครับ...เทียบกับชาวนาบ้านเราคงห่างกัน 40-50 ปี ปุ้นละน้อ..  ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
bm farm
หัวหมู่ทะลวงฟัน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,576


canon eos


« ตอบ #207 เมื่อ: วันที่ 19 ตุลาคม 2012, 19:36:18 »

 ยิ้มกว้างๆ...ข้าวญี่ปุ่นก่ะต่าวเหมือนกั๋นน่อ...
IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มกว้างๆ .....อ่านกฏ,กติกาการใช้งานเวบบอร์ดด้วยครับ.....
bm farm
หัวหมู่ทะลวงฟัน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,576


canon eos


« ตอบ #208 เมื่อ: วันที่ 19 ตุลาคม 2012, 19:40:28 »

อยากเห็นกับตาเดี๋ยวปีหน้าต้องหาโอกาสไปให้ได้ครับ 

 ยิ้มกว้างๆ....เห็นชาวนาเวียดนามแล้ว(ภาพล่างสุด)....อยากไปเวียดนามจริงๆครับ
IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มกว้างๆ .....อ่านกฏ,กติกาการใช้งานเวบบอร์ดด้วยครับ.....
ดรีม ขี้เหล้าน้อย
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,174



« ตอบ #209 เมื่อ: วันที่ 20 ตุลาคม 2012, 10:33:22 »

ดรีมซื้อนกกระทามาเลี้ยง 150 ตัว 2 กรง สั่งในห้องเกษตรนี่แระเจ้า ตอนนี้หมาขบกรง ตายไปเป็นสิบตัวละเจ้า เอ็นดูขนาด ตอนนี้เก็บไว้ในโรงรถเจ้า ตอนแรกดรีมเอาไว้ที่คอกควายเก่าเจ้า มีแค่เสากับหลังคา ดรีมก็ไปซื้อตาข่ายพลาสติกมาล้อม หมาลักเข้ามาขบกรง ขบนกกระทาดรีม อารมณ์เสียวันนี้เลยย้ายให้มาอยู่ในโรงรถก่อนเจ้า รอเอาไม้มารอบๆ คอกควายเก่า ค่อยย้ายออกมา เจ้า อิอิ จะได้กำไรก่อนิเจ้า
IP : บันทึกการเข้า
ดรีม ขี้เหล้าน้อย
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,174



« ตอบ #210 เมื่อ: วันที่ 20 ตุลาคม 2012, 10:38:22 »

มาขอรับความรู้ครับ (ผมมีความรู้เรื่องธาตุอาหารพืช จากห้องปฏิบัติการ แต่ยังไม่เคยทำนาแบบจริงจัง ด้วยตัวเองเลยคับ) ดีใจมากครับ ที่มีคนหันมาสนใจเกษตรอินทรีย์ (ผมนึกว่า ผมเป็นผีบ้าอยู่คนเดียว ฮ่าๆๆๆๆ)

ไว้วันหลังผมก็ขอรับความรู้บ้างนะครับ เรื่องธาตุอาหาร หรือมีอะไรดี ๆ ก็ช่วยแนะนำด้วยนะครับ  ยิ้มกว้างๆ  ยิ้มกว้างๆ
ว้าวๆๆ ไว้ช่วยแนะนำดรีมบ้างเน้อเจ้า
IP : บันทึกการเข้า
pudongsan
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,246



« ตอบ #211 เมื่อ: วันที่ 20 ตุลาคม 2012, 10:49:40 »

 เจ๋ง  เจ๋ง เจ๋ง
IP : บันทึกการเข้า

นกน้อย ทํารังแต่พอตัว ^__^
ดรีม ขี้เหล้าน้อย
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,174



« ตอบ #212 เมื่อ: วันที่ 20 ตุลาคม 2012, 10:53:18 »

อยากเห็นกับตาเดี๋ยวปีหน้าต้องหาโอกาสไปให้ได้ครับ 

 ยิ้มกว้างๆ....เห็นชาวนาเวียดนามแล้ว(ภาพล่างสุด)....อยากไปเวียดนามจริงๆครับ
ท่าน bm ไขได้สาวเวียดนามมาช่วยทำนาต๋วยก่าเจ้า
IP : บันทึกการเข้า
ดรีม ขี้เหล้าน้อย
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,174



« ตอบ #213 เมื่อ: วันที่ 20 ตุลาคม 2012, 19:12:10 »

http://k2499.blogspot.com/  ของอาจารย์ กมล  พรหมหมากเจ้า มีสูตรปุ๋ยต่างๆ แม่ดูเป็นประจำเจ้า มีการเผาศพแบบพอเพียง เรียบง่าย ต๋วยเจ้า
IP : บันทึกการเข้า
yonok
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 103


เจ้านายตัวเอง 0813663304


« ตอบ #214 เมื่อ: วันที่ 21 ตุลาคม 2012, 12:08:51 »

ธรรมชาติกับวิถีชีวิต เป็นของคู่กัน
ดูก็เย็นตา เดินเข้าหาก็สุขใจ
ขอบคุณที่มีชาวนารุ่นใหม่ ใส่ใจทุ่งนา
เห็นเขาไปทุ่งนาโดยไม่ใส่รองเท้า งง!!!!!
IP : บันทึกการเข้า
bm farm
หัวหมู่ทะลวงฟัน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,576


canon eos


« ตอบ #215 เมื่อ: วันที่ 21 ตุลาคม 2012, 14:31:16 »

ไม่ใช่ ทำ Marketing ข้าวบรรจุถุงขาย อย่างเดียวเหมือนบ้านเรา ที่ใครปลูกก็ไม่รู้ ปลูกดูแลกันอย่างไร ก็ไม่รู้อีก  คนกิน คนซื้อ รู้แค่ว่าข้าวยี่ห้ออะไร รู้ กันอยู่ไม่กี่ยี่ห้อ ตราห้าง... ตราร่ม... ตราหัวเรือ...  ตรา ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่  ...

"ชาวนาญี่ปุ่น ไม่ขายข้าวเปลือกทีเดียวหลังเก็บเกี่ยวครับ แต่จะเก็บและทยอยสีขายตลอดทั้งปี ทำ packing ติด brand เจ้าของนา brand เเหล่งผลิต ทำให้ปริมาณข้าวไม่ล้นตลาด (มี Buffer stock ที่โรงนาเกษตรกร) "และมีของเหลือ จำพวกเเกลบและรำ ไว้ใช้ประโยชน์ต่อ...

ไม่ต้องขายข้าวโรงสี แล้วตามไปซื้อ แกลบ รำ ของตัวเองที่โรงสีครับ นั่นมันของของเรานะครับ !!!



 ยิ้มกว้างๆ...ขายอยู่ครับ....แต่ยังไม่มีเครื่องสีข้าวกับแบรนด์ของตัวเอง...กำลังหาทุนมาซื้อเครื่องสีข้าวครับ...


* bm4681.jpg (208.28 KB, 800x600 - ดู 562 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มกว้างๆ .....อ่านกฏ,กติกาการใช้งานเวบบอร์ดด้วยครับ.....
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #216 เมื่อ: วันที่ 21 ตุลาคม 2012, 21:35:21 »

ช่วงนี้ไปนาบ่อยใกล้ระยะเก็บเกี่ยวเลยถ่ายรูปห่วงโซ่อาหารมาให้ดูครับ แมงมุมสวยดี  ยิ้มกว้างๆ  ยิ้มกว้างๆ


* IMG_6713_resize.JPG (111.63 KB, 700x933 - ดู 544 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #217 เมื่อ: วันที่ 21 ตุลาคม 2012, 21:47:42 »

ช่วงนี้ไปนาแทบทุกวันเป็นระยะใกล้เก็บเกี่ยว วันก่อนฝนตกลมแรงเล่นทำซะข้าวล้มไปบางส่วนเสียหายประมาณ 5 % ของพื้นที่ต้องระบายน้ำบ้าง  ตอนนี้ข้าวเริ่มสร้างน้ำนมแล้วครับลองแกะเมล็ดดู ปกติระยะข้าวออกรวงจะมีดังนี้ครับ

วันที่ 1-7     เป็นช่วงระยะผสมเกสร
วันที่ 8-10   ระยะข้าวเป็นน้ำนม
วันที่ 14-20  ระยะเป็นเมล็ดหรือข้าวเม่า
วันที่ 30      ระยะเก็บเกี่ยว

อีกประมาณ 20 วันก็เก็บเกี่ยวได้แล้วครับ อาจช้าได้อีกหน่อยหากข้าวออกรวงไม่พร้อมกัน ช่วงนี้ต้องตรวจดูนาบ่อย เผื่อข้าวเป็นโรคไหม้คอรวงข้าวซึ่งพบมากในนาหว่าน ถ่ายรูปนาข้าวปัจจุบันมาให้ดูครับ


* IMG_6680_resize.JPG (63.41 KB, 700x525 - ดู 539 ครั้ง.)

* IMG_6642_resize.JPG (66.14 KB, 700x525 - ดู 500 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #218 เมื่อ: วันที่ 21 ตุลาคม 2012, 22:10:41 »

ช่วงนี้ไปนาทุกเย็น หากวันหยุดก็ไปตอนเช้าด้วย ไปตรวจดูข้าวว่ามีสิ่งไหนผิดปกติบ้าง ไหน ๆ ก็ปลูกมาหลายเดือนละครับ  นารอบข้างบางคนก็ข้าวล้มแช่น้ำบ้างควรอาจต้องปล่อยน้ำทิ้งเพื่อให้ข้าวชูคอรวงขึ้นได้บ้างจะได้ไม่เสียหายมากหากแช่น้ำทำใบทั้งรวงข้าวนาน ๆก็จะเสียหายมากยิ่ง ๆหลาย ๆ วันด้วย   ช่วงข้าวออกรวงอาจพบโรคไหม้คอรวง   เมล็ดด่าง  หนู นก  และอื่น ๆ  ข้าวเหมือนกับคน คลอดลูกใหม่ ๆ อาจไม่แข็งแรงเท่าไหร่ต้องเอาใจใส่ทั้งแม่และลูก แม้แต่ตอนข้าวตั้งท้องเช่นกันครับ


* IMG_6758_resize.JPG (141.14 KB, 700x525 - ดู 539 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #219 เมื่อ: วันที่ 21 ตุลาคม 2012, 22:20:11 »

ในช่วงข้าวออกรวงจนถึงเป็นเมล็ด ช่วงนี้ข้าวไม่ควรขาดน้ำ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องให้ดินมีความชื้นบ้าง  แต่หากมีน้ำขังนาน ๆ มาก ๆ ยิ่งบริเวณที่ดินหล่มข้าวอาจล้มง่ายมากมีลมพัดแรง ๆ หรือข้าวงามมากเกินไป คือต้นจะสูงเมล็ดมากก็ล้มเช่นกัน  ต้องประมาณพอดี ๆ ของผมล้มบ้างก็เลยต้องปล่อยน้ำออกก่อน แต่ก็ต้องตรวจดูดิน บางทีดูผิวหน้าดินไม่ได้อาจลองเอานิ้วจิ้มดินดูก็ได้ว่ามีน้ำอยู่ในดินหรือไม่ถ้าดินแห้งเกินก็ต้องเอาน้ำลงบ้างแล้วปล่อยออก  บางคนก็ใช้ท่อ PVC มาใส่ก็ได้เหมือนน้ำบ่อบ้านเราคล้าย ๆ วิธีการแกล้งข้าวครับ ข้อดีที่ไม่แช่น้ำก็คือเวลาเกี่ยวรถนาไม่เสียหายมากเวลาไถก็ง่าย แต่ก็ต้องดูเรื่องหนูด้วยครับเพราะดินแห้ง


* IMG_6728_resize.JPG (83.78 KB, 700x525 - ดู 656 ครั้ง.)

* IMG_6725_resize.JPG (76.4 KB, 700x525 - ดู 663 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 [11] 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 ... 27 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!