จริงหรือไม่..ครู เทศบาล .7 ลาออกไป 13 คน..ท่านใดทราบบ้าง

[๋๋P]

ครูผู้น้อยก็เป็นบุคลากรสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนกลไก
ให้แข็งแรงและมีประสิทธิภาพ

พัฒนาการของเด็กๆ นอกจากครอบครัวแล้วก็ต้องพึ่งแม่พิมพ์ที่สำคัญ
อย่าลืมสร้างขวัญและกำลังใจให้บุคลากรในโรงเรียนด้วยครับ
เพื่อเขาจะได้มีกำลังใจในการดูแลเด็กๆ

เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ยิ้มๆ สู้ๆ ครับ เชื่อว่าจะผ่านไปด้วยดี

 

[AIT]

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ ผมมีตัวเลขให้คิดเล่น ๆ นะครับ เพราะผมก็พึ่งได้มาลองคิดเล่น ๆ เหมือนกันนะครับ

สมมติว่า ระดับอนุบาล เราต้องมีครูไทย 2 คน ต่างชาติอีก 1 คน ครูพี่เลี้ยงอีก 1 คน นักศึกษาปี 5 ฝึกสอนจาก cru อีก 1 คน รวม 5 คน รวมต้องจ้าง 4 คน (นศ.ฝึกสอนไม่ต้องจ้าง)

อนุบาลมี 6 ห้อง (อ.1-3) ต้องจ้าง 6 * 4 = 24 คน
แยกเป็น อัตราครูไทย ป.ตรี 12 คน
            ครูฟิลิปปินส์ 6 คน
            ครูพี่เลี้ยงวุฒิ ม.6 - ปวส. 6 คน

ระดับประถม เราต้องมีครูไทย 2 คน ต่างชาติอีก 1 คน นักศึกษาปี 5 ฝึกสอนจาก cru อีก 1 คน รวม 4 คน รวมต้องจ้าง 3 คน (นศ.ฝึกสอนไม่ต้องจ้าง)

ประถมมี 6 ห้อง (ป.1-3) ต้องจ้าง 6 * 3 = 18 คน
แยกเป็น อัตราครูไทย ป.ตรี 12 คน
            ครูฟิลิปปินส์ 6 คน

ยังต้องบวก ผอ. อีก 1, รอง อีก 1, หัวหน้างานวิชาการประถม อีก 1, หัวหน้างานวิชาการอนุบาล อีก 1 ครูพละ อีก 1, ครูสอนดนตรีอีก 1 , ครูสอนคอมพิวเตอร์อีก 1,  ครูสนับสนุนการสอน อีก 1, ครูการเงิน อีก 1, ครูธุรการ อีก 1, ครูห้องสมุด อีก 1 คน

รวมยอด ครูไทยตั้งแต่ ผอ.จนถึงครูผู้สอนทั้งหลาย 35 คน
ตัดข้าราชการออกไป 7 คน ตัดอัตราจ้างที่จ้างโดยเทศบาลไปอีก 7 คน คงเหลือที่โรงเรียนต้องจ้างเอง (อัตราจ้างเงินบำรุงการศึกษา) 35 - 7 - 7 = 21 คน
คิดเงินเดือน ป.ตรี + ค่าครองชีพเบ็ดเสร็จ เดือนละ 11,000 บาท ต่อคนต่อเดือน รวมทั้งปี 11,000 * 21 * 12 = 2,772,000 บาท

ครูฟิลิปปินส์ 12 คน รวมสวัสดิการคนละ 18,000 บาท ต่อคนต่อเดือน  รวมทั้งปี 18,000 * 12 * 12 = 2,592,000 บาท

ครูพี้เลี้ยงระดับอนุบาล 6 คน
ค่าจ้าง คนละ 7,500 บาท รวมต่อปี 7,500 * 6 * 12 = 540,000 บาท

ครูฝรั่ง 2 คน คนละ 30,000 บาท/เดือน ปีละ 720,000 บาท

แม่ครัว + พนักงานทำความสะอาด + คนขับรถ + ยาม = 6 คน
ค่าจ้าง คนละ 6,000 บาท รวมต่อปี 6,000 * 6 * 12 = 432,000 บาท  

รวมเฉพาะค่าจ้าง 2,772,000 + 2,592,000 + 540,000 + 720,000 + 432,000 = 7,056,000 บาท

ค่าอาหารกลางวัน + อาหารว่าง คนละ 2,000 บาท/เทอม ดังนั้นปีละ 2,000 * 2 * 450 = 1,800,000 บาท

รวมค่าใช้จ่าย 7,056,000 + 1,800,000 = 8,856,000 บาท

ค่าเรียน อนุบาล คนละ 9,000 + 8,000 = 17,000 บาท/คน/ปี
เด็กอนุบาลทุกชั้นมี 225 คน = 17,000 * 225 = 3,825,000 บาท

ค่าเรียนประถม คนละ 10,000 + 9,000 = 19,000 บาท/คน/ปี
เด็กประถมทุกชั้นมี 225 คน = 19,000 * 225 = 4,275,000 บาท

รวมรายได้บำรุงการศึกษาของโรงเรียนทั้งปี 3,825,000 + 4,275,000 = 8,100,000 บาท

สรุป จ่าย 8,856,000 บาท ต่อปี
       รับ 8,100,000 บาท ต่อปี

ป.ล. จริง ๆ โรงเรียน คงมีรายรับมากกว่านี้ เพราะได้เงินสนับสนุนค่าหัวจากต้นสังกัดอยู่ ซึ่งผมไม่รู้ว่าหัวละเท่าไหร่ แต่คาดว่าคงอีกไม่มาก และรายจ่ายอื่น ๆ เช่นค่าอาหารว่างผู้ปกครองเวลามาประชุมที่โรงเรียน ฯลฯ ผมยังไม่ได้คิดนะครับ ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัย เนื่องจากผมไม่ใช่นักบัญชีนะครับ

ผมเลยสงสัยว่าผอ. ไม่แจงตรงนี้ให้พวกเราทราบหรือเปล่า ปัญหาเลยคาราคาซังขนาดนี้ ผู้ปกครองท่านใด แม่นระเบียบงานพัสดุ งานการเงิน ลองมาช่วยผมแก้ตัวเลขอีกทีนะครับ

[๋๋P]

ขอบคุณครับ
อยากรู้เหมือนกันครับเกี่ยวกับเรื่องนี้
 

[chiang123]

ขออนุญาติผู้ปกครองหลายท่านนะครับ  อันดับแรกไม่ได้คิดในหัวสมองเลยครับว่าดูถูกท่าน  ผมมีความเชื่อว่าโดยภาพรวมส่วนมากผู้ปกครองจะเข้าใจ ส่วนการเสนอความคิดไปทางผู้บริหารผมว่าเป็นเรื่องปกติ  ได้บ้างไม่ได้บ้าง  เหมือนผู้บริหารเหมือนกัน ทำได้บ้าง  ไม่ได้บ้าง  ก็เป็นเรื่องปกติ  แต่โดยภาพรวมแล้วผมว่าทุกคนทำหน้าที่นะ  หน้าที่หลักท่านผู้บริหารก็ถือว่าทำแล้วนะครับ  ส่วนผู้ปกครองก็ถือว่าทำหน้าที่นะครับ  แต่ก็มีบางพวกครับ  ผมถึงบอกว่าเป็น แก้งไงครับ  ในสังคมถ้ามีคนกลุ่มนี้มาก ๆ  ก็ถือว่าแย่ครับ  ยิ่งทำตัวเป็นผู้รู้ที่จะเอาให้ได้ถ้าไม่ได้ก็ต้องมีเรื่อง  นี่ครับก็มีไม่กี่ท่าน  เช่น  thanaput กับพวก  คนอย่างนี้ถ้าอ่านขอความคิดผมก็จะถือว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม
ตั้งแต่ผมแสดงความคิดเห็นมา  ก็ถือว่ามีความคิดเห็นที่แตกต่างจากคนกลุ่มนี้พอสมควร  แต่ก็ด้วยเหตุด้วยผลและถ้าอ่านความคิดอ่านของผมให้ดี  ก็คือแรงสำหรับแก้ง  แต่แง่คิดต่าง ๆ  ไม่ได้คิดที่จะเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว  ไม่แน่ใจท่านได้ดูในเรื่อง  พรบการศึกษาหรือเปล่าครับ  คุณลักษณะอย่างหนึ่งที่เราปลูกฝังเด็กง่าย ๆ  ก็คือ การรู้จักการให้  พระเจ้าอยู่หัวท่านก็บอกว่าพอเพียง (4 คนลด 3 )  เรื่องนี้ท่านใช้ได้เลยนะ  ถ้าเป็นคนที่มีความคิด  แต่ผมเป็นห่วงว่าท่านทำตัวอย่างนี้กลัวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ลูกของท่าน  ส่งสารเด็กนะครับ  พ่อเป็นคนจะเอาให้ได้  มีข้าวกินอย่างดีแล้ววันหนึ่งมีความจำเป็นต้องลดบ้าง  สมองไม่ได้คิดการยอมเลยครับ  ฝากไว้เตือนสติคุณก็แล้วกัน
   มีบ้างท่านบอกว่าผมเป็นอสูรกาย  แปลกแฮะ  ผมก็บอกความคิดของผมให้ทราบ  แล้วถ้าอ่านให้ดีแบบมีความรู้นะครับ  ก็ไม่เคยคิดที่จะเอาเข้าข้างตัวเอง แสดงความคิดเห็นเรื่องปัญหาที่ไม่ใช่ปัญหา  แรงสำหรับบางคน แต่แนวคิดง่าย ๆ  ก็คือการศึกษาควรเป็นการศึกษาเพื่อสังคมโดยทั่วไป  ผมเสนอให้ปรับโครงสร้าง ปรับวิสัยทัศน์  แนวทางต่างๆ  เพื่อเด็กกลุ่มใหญ่เพราะผมบอกว่าผมก็เสียภาษี  เห็นโรงเรียนแห่งนี้ตั้งขึ้นมาแบบแปลก  คำว่าต้นแบบ  มันต้องแฝงไว้ด้วยความยุติธรรม
มันมีความแตกต่างมากมายกับโรงเรียนในเขตเทศบาล  แล้วผมก็อยู่เทศบาล  แต่ท่านสร้างกรอบโรงเรียนแห่งนี้เอาวิสัยทัศน์  เอาแนวคิดต่าง ๆ  มาเป็นกรอบ  แล้วใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างได้  ผมอยู่วงนอกแต่ผมเป็นชาวเทศบาล  ผมก็มีสิทธิคิดได้นะครับ แล้วสิ่งที่ผมเสนอจะได้ไม่ได้ผมไม่ได้คาดหวังขนาดนั้นครับ เพียงเป็นแง่คิดให้ผู้บริหารระดับสูงก็แค่นั้นเอง  และผมคิดว่าการเปลี่ยนโครงสร้าง  เปลี่ยนวิสัยทัศน์  หรืออื่น ๆ  เขาก็คงไม่เปลี่ยนแปลงในเรื่องคุณภาพครับ  โรงเรียนแห่งนี้เขาจะเป็นต้นแบบด้านการเรียนการสอน  ก็ทำไป  แต่อยากให้มันเกิดความเสมอภาคทางการศึกษาก็แค่นั้นเอง ไม่เหมือนโดยทั่วไปแต่ก็ให้ใกล้เคียง  คำว่าต้นแบบของผมก็คือคนทั่วไปเรียนได้  ลูกหม้อเทศบาลก็เรียนได้ 
   ครับพูดมากนิดหนึ่ง  ท่านบอกผมแสดงความคิดเห็นในเรื่องปัญหาในการบริหาร  แสดงความคิดเห็นในเรื่องของความเสมอภาคทางการศึกษา  แสดงความคิดเห็นไม่ต้องมีเงินบริจาคหรือเงินสนับสนุนโดยให้เทศบาลยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง  จะได้ไม่เป็นปัญหาแบบนี้เพราะถ้ามีการปรับเปลี่ยนในการบริหารงานบ้าง  ท่านผู้ปกครองที่เข้าใจก็มอง  ฟัง  พูด  ด้วยเหตุผล  แต่ผมดู thanaput  กับกลุ่มแก้ง  ไม่ยอมท่าเดียวดูเหมือนโรงเรียนแห่งนี้เป็นอาณาจักรของท่าน  แล้วมีบางท่านบอกว่าผมเป็นอสูรกาย  เป็นอะไรก็ได้ครับ  แต่ขอให้โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนแห่งโอกาสกับคนโดยทั่วไป  เด็กเทศบาล ก็แค่นี้  พูดมาทั่งหมดไม่เคยมีคำไหนที่พูดเห็นแก่ได้นะครับหรือได้สำหรับตัวเอง  และต้องย้ำแนวคิดเดิมนะครับว่าเป็นต้นแบบได้แต่ต้องให้โอกาสกับเด็กเทศบาลหรือเด็กที่จน ๆ  บ้าง  ก็แค่นั้นเอง  และยังเป็นกำลังใจให้กับฝ่ายบริหารโรงเรียน  ครู   กรรมการสถานศึกษา  และท่านผู้ปกครองทุกท่าน  ครับ  มีเวลาจะมาแวะเวียนครับผม    สบายใจได้เสนอแนวคิดให้กับบัวที่ยังไม่พ้นน้ำ(บางท่านนะครับ และขอโทษท่านผู้ปกครองส่วนมากด้วยครับ)  สติกเกอรไม่เอา  เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเด็ก ๆ 

[criec5]

วันนี้เป็นวันพระและเป็นวันมาฆบูชาด้วยท่านผู้ปกครองท.7เราพาลูกๆของพวกเราไปวัดดีกว่า
โตขื้นมาจะได้เป็นคนที่มีจิตใจที่ดีงาม

[THANAPUT]

ขออนุญาติผู้ปกครองหลายท่านนะครับ  อันดับแรกไม่ได้คิดในหัวสมองเลยครับว่าดูถูกท่าน  ผมมีความเชื่อว่าโดยภาพรวมส่วนมากผู้ปกครองจะเข้าใจ ส่วนการเสนอความคิดไปทางผู้บริหารผมว่าเป็นเรื่องปกติ  ได้บ้างไม่ได้บ้าง  เหมือนผู้บริหารเหมือนกัน ทำได้บ้าง  ไม่ได้บ้าง  ก็เป็นเรื่องปกติ  แต่โดยภาพรวมแล้วผมว่าทุกคนทำหน้าที่นะ  หน้าที่หลักท่านผู้บริหารก็ถือว่าทำแล้วนะครับ  ส่วนผู้ปกครองก็ถือว่าทำหน้าที่นะครับ  แต่ก็มีบางพวกครับ  ผมถึงบอกว่าเป็น แก้งไงครับ  ในสังคมถ้ามีคนกลุ่มนี้มาก ๆ  ก็ถือว่าแย่ครับ  ยิ่งทำตัวเป็นผู้รู้ที่จะเอาให้ได้ถ้าไม่ได้ก็ต้องมีเรื่อง  นี่ครับก็มีไม่กี่ท่าน  เช่น  thanaput กับพวก  คนอย่างนี้ถ้าอ่านขอความคิดผมก็จะถือว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม
ตั้งแต่ผมแสดงความคิดเห็นมา  ก็ถือว่ามีความคิดเห็นที่แตกต่างจากคนกลุ่มนี้พอสมควร  แต่ก็ด้วยเหตุด้วยผลและถ้าอ่านความคิดอ่านของผมให้ดี  ก็คือแรงสำหรับแก้ง  แต่แง่คิดต่าง ๆ  ไม่ได้คิดที่จะเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว  ไม่แน่ใจท่านได้ดูในเรื่อง  พรบการศึกษาหรือเปล่าครับ  คุณลักษณะอย่างหนึ่งที่เราปลูกฝังเด็กง่าย ๆ  ก็คือ การรู้จักการให้  พระเจ้าอยู่หัวท่านก็บอกว่าพอเพียง (4 คนลด 3 )  เรื่องนี้ท่านใช้ได้เลยนะ  ถ้าเป็นคนที่มีความคิด  แต่ผมเป็นห่วงว่าท่านทำตัวอย่างนี้กลัวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ลูกของท่าน  ส่งสารเด็กนะครับ  พ่อเป็นคนจะเอาให้ได้  มีข้าวกินอย่างดีแล้ววันหนึ่งมีความจำเป็นต้องลดบ้าง  สมองไม่ได้คิดการยอมเลยครับ  ฝากไว้เตือนสติคุณก็แล้วกัน
   มีบ้างท่านบอกว่าผมเป็นอสูรกาย  แปลกแฮะ  ผมก็บอกความคิดของผมให้ทราบ  แล้วถ้าอ่านให้ดีแบบมีความรู้นะครับ  ก็ไม่เคยคิดที่จะเอาเข้าข้างตัวเอง แสดงความคิดเห็นเรื่องปัญหาที่ไม่ใช่ปัญหา  แรงสำหรับบางคน แต่แนวคิดง่าย ๆ  ก็คือการศึกษาควรเป็นการศึกษาเพื่อสังคมโดยทั่วไป  ผมเสนอให้ปรับโครงสร้าง ปรับวิสัยทัศน์  แนวทางต่างๆ  เพื่อเด็กกลุ่มใหญ่เพราะผมบอกว่าผมก็เสียภาษี  เห็นโรงเรียนแห่งนี้ตั้งขึ้นมาแบบแปลก  คำว่าต้นแบบ  มันต้องแฝงไว้ด้วยความยุติธรรม
มันมีความแตกต่างมากมายกับโรงเรียนในเขตเทศบาล  แล้วผมก็อยู่เทศบาล  แต่ท่านสร้างกรอบโรงเรียนแห่งนี้เอาวิสัยทัศน์  เอาแนวคิดต่าง ๆ  มาเป็นกรอบ  แล้วใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างได้  ผมอยู่วงนอกแต่ผมเป็นชาวเทศบาล  ผมก็มีสิทธิคิดได้นะครับ แล้วสิ่งที่ผมเสนอจะได้ไม่ได้ผมไม่ได้คาดหวังขนาดนั้นครับ เพียงเป็นแง่คิดให้ผู้บริหารระดับสูงก็แค่นั้นเอง  และผมคิดว่าการเปลี่ยนโครงสร้าง  เปลี่ยนวิสัยทัศน์  หรืออื่น ๆ  เขาก็คงไม่เปลี่ยนแปลงในเรื่องคุณภาพครับ  โรงเรียนแห่งนี้เขาจะเป็นต้นแบบด้านการเรียนการสอน  ก็ทำไป  แต่อยากให้มันเกิดความเสมอภาคทางการศึกษาก็แค่นั้นเอง ไม่เหมือนโดยทั่วไปแต่ก็ให้ใกล้เคียง  คำว่าต้นแบบของผมก็คือคนทั่วไปเรียนได้  ลูกหม้อเทศบาลก็เรียนได้  
   ครับพูดมากนิดหนึ่ง  ท่านบอกผมแสดงความคิดเห็นในเรื่องปัญหาในการบริหาร  แสดงความคิดเห็นในเรื่องของความเสมอภาคทางการศึกษา  แสดงความคิดเห็นไม่ต้องมีเงินบริจาคหรือเงินสนับสนุนโดยให้เทศบาลยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง  จะได้ไม่เป็นปัญหาแบบนี้เพราะถ้ามีการปรับเปลี่ยนในการบริหารงานบ้าง  ท่านผู้ปกครองที่เข้าใจก็มอง  ฟัง  พูด  ด้วยเหตุผล  แต่ผมดู thanaput  กับกลุ่มแก้ง  ไม่ยอมท่าเดียวดูเหมือนโรงเรียนแห่งนี้เป็นอาณาจักรของท่าน  แล้วมีบางท่านบอกว่าผมเป็นอสูรกาย  เป็นอะไรก็ได้ครับ  แต่ขอให้โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนแห่งโอกาสกับคนโดยทั่วไป  เด็กเทศบาล ก็แค่นี้  พูดมาทั่งหมดไม่เคยมีคำไหนที่พูดเห็นแก่ได้นะครับหรือได้สำหรับตัวเอง  และต้องย้ำแนวคิดเดิมนะครับว่าเป็นต้นแบบได้แต่ต้องให้โอกาสกับเด็กเทศบาลหรือเด็กที่จน ๆ  บ้าง  ก็แค่นั้นเอง  และยังเป็นกำลังใจให้กับฝ่ายบริหารโรงเรียน  ครู   กรรมการสถานศึกษา  และท่านผู้ปกครองทุกท่าน  ครับ  มีเวลาจะมาแวะเวียนครับผม    สบายใจได้เสนอแนวคิดให้กับบัวที่ยังไม่พ้นน้ำ(บางท่านนะครับ และขอโทษท่านผู้ปกครองส่วนมากด้วยครับ)  สติกเกอรไม่เอา  เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเด็ก ๆ  

วันนี้วันพระนะ..ไปโปรดสัตว์เสียบ้าง..
..แล้วก็รีบไปทำที่ลูกผู้ชายพูดไว้..เสียก่อนนะครับ
มีอาไร..จะแนะนำ..ชี้แนะ..ก็เรียนนนน..เชิญเต็มที่
...คนอ่าน..เขาก็มีสมอง..ที่จะคิด..ว่าปัญญาสมอง..มันมองที่ตัวหนังสือ..โดยไม่ต้องวัด ไอคิว..
แค่ตัวอักษรก็..พูดกลับกรอก..
อย่าลืมไปวัดเน้อ..แก่จนป่านนี้แล้ว..

[THANAPUT]

 
1   ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย / คนเชียงราย สังคมเชียงราย / Re: จริงหรือไม่..ครู เทศบาล .7 ลาออกไป 13 คน..ท่านใดทราบบ้าง  เมื่อ: วันนี้ เวลา 04:18:35  
ขออนุญาติผู้ปกครองหลายท่านนะครับ  อันดับแรกไม่ได้คิดในหัวสมองเลยครับว่าดูถูกท่าน  ผมมีความเชื่อว่าโดยภาพรวมส่วนมากผู้ปกครองจะเข้าใจ ส่วนการเสนอความคิดไปทางผู้บริหารผมว่าเป็นเรื่องปกติ  ได้บ้างไม่ได้บ้าง  เหมือนผู้บริหารเหมือนกัน ทำได้บ้าง  ไม่ได้บ้าง  ก็เป็นเรื่องปกติ  แต่โดยภาพรวมแล้วผมว่าทุกคนทำหน้าที่นะ  หน้าที่หลักท่านผู้บริหารก็ถือว่าทำแล้วนะครับ  ส่วนผู้ปกครองก็ถือว่าทำหน้าที่นะครับ  แต่ก็มีบางพวกครับ  ผมถึงบอกว่าเป็น แก้งไงครับ  ในสังคมถ้ามีคนกลุ่มนี้มาก ๆ  ก็ถือว่าแย่ครับ  ยิ่งทำตัวเป็นผู้รู้ที่จะเอาให้ได้ถ้าไม่ได้ก็ต้องมีเรื่อง  นี่ครับก็มีไม่กี่ท่าน  เช่น  thanaput กับพวก  คนอย่างนี้ถ้าอ่านขอความคิดผมก็จะถือว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม
ตั้งแต่ผมแสดงความคิดเห็นมา  ก็ถือว่ามีความคิดเห็นที่แตกต่างจากคนกลุ่มนี้พอสมควร  แต่ก็ด้วยเหตุด้วยผลและถ้าอ่านความคิดอ่านของผมให้ดี  ก็คือแรงสำหรับแก้ง  แต่แง่คิดต่าง ๆ  ไม่ได้คิดที่จะเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว  ไม่แน่ใจท่านได้ดูในเรื่อง  พรบการศึกษาหรือเปล่าครับ  คุณลักษณะอย่างหนึ่งที่เราปลูกฝังเด็กง่าย ๆ  ก็คือ การรู้จักการให้  พระเจ้าอยู่หัวท่านก็บอกว่าพอเพียง (4 คนลด 3 )  เรื่องนี้ท่านใช้ได้เลยนะ  ถ้าเป็นคนที่มีความคิด  แต่ผมเป็นห่วงว่าท่านทำตัวอย่างนี้กลัวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ลูกของท่าน  ส่งสารเด็กนะครับ  พ่อเป็นคนจะเอาให้ได้  มีข้าวกินอย่างดีแล้ววันหนึ่งมีความจำเป็นต้องลดบ้าง  สมองไม่ได้คิดการยอมเลยครับ  ฝากไว้เตือนสติคุณก็แล้วกัน
   มีบ้างท่านบอกว่าผมเป็นอสูรกาย  แปลกแฮะ  ผมก็บอกความคิดของผมให้ทราบ  แล้วถ้าอ่านให้ดีแบบมีความรู้นะครับ  ก็ไม่เคยคิดที่จะเอาเข้าข้างตัวเอง แสดงความคิดเห็นเรื่องปัญหาที่ไม่ใช่ปัญหา  แรงสำหรับบางคน แต่แนวคิดง่าย ๆ  ก็คือการศึกษาควรเป็นการศึกษาเพื่อสังคมโดยทั่วไป  ผมเสนอให้ปรับโครงสร้าง ปรับวิสัยทัศน์  แนวทางต่างๆ  เพื่อเด็กกลุ่มใหญ่เพราะผมบอกว่าผมก็เสียภาษี  เห็นโรงเรียนแห่งนี้ตั้งขึ้นมาแบบแปลก  คำว่าต้นแบบ  มันต้องแฝงไว้ด้วยความยุติธรรม
มันมีความแตกต่างมากมายกับโรงเรียนในเขตเทศบาล  แล้วผมก็อยู่เทศบาล  แต่ท่านสร้างกรอบโรงเรียนแห่งนี้เอาวิสัยทัศน์  เอาแนวคิดต่าง ๆ  มาเป็นกรอบ  แล้วใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างได้  ผมอยู่วงนอกแต่ผมเป็นชาวเทศบาล  ผมก็มีสิทธิคิดได้นะครับ แล้วสิ่งที่ผมเสนอจะได้ไม่ได้ผมไม่ได้คาดหวังขนาดนั้นครับ เพียงเป็นแง่คิดให้ผู้บริหารระดับสูงก็แค่นั้นเอง  และผมคิดว่าการเปลี่ยนโครงสร้าง  เปลี่ยนวิสัยทัศน์  หรืออื่น ๆ  เขาก็คงไม่เปลี่ยนแปลงในเรื่องคุณภาพครับ  โรงเรียนแห่งนี้เขาจะเป็นต้นแบบด้านการเรียนการสอน  ก็ทำไป  แต่อยากให้มันเกิดความเสมอภาคทางการศึกษาก็แค่นั้นเอง ไม่เหมือนโดยทั่วไปแต่ก็ให้ใกล้เคียง  คำว่าต้นแบบของผมก็คือคนทั่วไปเรียนได้  ลูกหม้อเทศบาลก็เรียนได้  
   ครับพูดมากนิดหนึ่ง  ท่านบอกผมแสดงความคิดเห็นในเรื่องปัญหาในการบริหาร  แสดงความคิดเห็นในเรื่องของความเสมอภาคทางการศึกษา  แสดงความคิดเห็นไม่ต้องมีเงินบริจาคหรือเงินสนับสนุนโดยให้เทศบาลยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง  จะได้ไม่เป็นปัญหาแบบนี้เพราะถ้ามีการปรับเปลี่ยนในการบริหารงานบ้าง  ท่านผู้ปกครองที่เข้าใจก็มอง  ฟัง  พูด  ด้วยเหตุผล  แต่ผมดู thanaput  กับกลุ่มแก้ง  ไม่ยอมท่าเดียวดูเหมือนโรงเรียนแห่งนี้เป็นอาณาจักรของท่าน  แล้วมีบางท่านบอกว่าผมเป็นอสูรกาย  เป็นอะไรก็ได้ครับ  แต่ขอให้โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนแห่งโอกาสกับคนโดยทั่วไป  เด็กเทศบาล ก็แค่นี้  พูดมาทั่งหมดไม่เคยมีคำไหนที่พูดเห็นแก่ได้นะครับหรือได้สำหรับตัวเอง  และต้องย้ำแนวคิดเดิมนะครับว่าเป็นต้นแบบได้แต่ต้องให้โอกาสกับเด็กเทศบาลหรือเด็กที่จน ๆ  บ้าง  ก็แค่นั้นเอง  และยังเป็นกำลังใจให้กับฝ่ายบริหารโรงเรียน  ครู   กรรมการสถานศึกษา  และท่านผู้ปกครองทุกท่าน  ครับ  มีเวลาจะมาแวะเวียนครับผม    สบายใจได้เสนอแนวคิดให้กับบัวที่ยังไม่พ้นน้ำ(บางท่านนะครับ และขอโทษท่านผู้ปกครองส่วนมากด้วยครับ)  สติกเกอรไม่เอา  เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเด็ก ๆ  
 
    
 
2   ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย / คนเชียงราย สังคมเชียงราย / Re: จริงหรือไม่..ครู เทศบาล .7 ลาออกไป 13 คน..ท่านใดทราบบ้าง  เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2011, 14:08:59  
400  คนเขาก็เรียนได้ตามปกติวิสัยนั้นแหละ  ผมเห็นโรงเรียนเขาก็ทุ่มเทเพื่อนักเรียนทั้งนั้น  (น่าจะเป็นผู้ปกครองมากกว่าที่ไม่ปกติ) แหละอันไหนมันมากไปก็เปลี่ยนแปลงได้ ยังไ่ม่ทันไรแตะต้องไม่ได้แล้ว มีปัญหาก็ต้องแก้ปัญหา  ท่านมีปัญหาท่านก็หาที่เรียนที่ท่านต้องการก็สิ้นเรื่องใช้มั้ยจ้า เขาก็บริหารกันต่อไป ดีขนาดนี้สำหรับชาวเทศบาลก็สุดยอดแล้ว  เดี่ยวพวกเรา เกือบ 100,000 คน  จะเอาโรงเรียนคืนมานะ เอาโรงเรียน ของชาวเทศบาลคืนมา  คนจนอยากได้อย่างนี้บ้าง  คนค้าขายอยากได้อย่างนี้บ้าง  คนขายลูกชิ้นอยากได้อย่างนี้บ้างท่านได้แค่นี้ไม่พอใจแต่สำหรับเราพอใจ ภาษีของเรา  แต่ลูกเราเรียนไม่ได้แปลกดีแฮะ เอาโรงเรียน ของชาวเทศบาลคืนมา....เอาโรงเรียน ของชาวเทศบาลคืนมา...เอาโรงเรียน ของชาวเทศบาลคืนมา
 
    
 
3   ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย / คนเชียงราย สังคมเชียงราย / Re: จริงหรือไม่..ครู เทศบาล .7 ลาออกไป 13 คน..ท่านใดทราบบ้าง  เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2011, 12:55:01  
เอ  ใครเป็นเจ้าของโรงเรียน  ท.7  นะเนีย  คุณthanaput  กับพวกหรือ ประชาชนชาวเทศบาลนครเชียงราย  ภาษีใครวา  เราก็เสียภาษีและเสียมากเสียด้วย  อยากให้โรงเรียนท7 เป็นของประชาชนโดยแท้จริง  ไม่ใช่เป็นโรงเรียนของกลุ่มหรือแก้ง  เดี่ยวก็จะตุตะว่าเป็นเจ้าของอีก  สงสัยต้องพวกท่านต้องเปลี่ยนอาชีพเรียนบริหารให้มีความรู้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้นจะได้มาบริหารโรงเรียนเหมือนที่ท่านอยากให้เป็นท่านอยากได้สิ่งดีคนทั่วไปก็อยากได้สิ่งดี  มานจะเอาเปรียบกันมากไปแล้วก้า.....  เอาโรงเรียนท.7 ของชาวเทศบาลคืนมานะ  อยากขึ้นไปบนตึกสวยบ้าง ครู 3  คนเราก็เอา  ครูสองคนเราก็เอา...
เอาโรงเรียนท.7 ของชาวเทศบาลคืนมานะ ...เอาโรงเรียนท.7 ของชาวเทศบาลคืนมานะ ...เอาโรงเรียนท.7 ของชาวเทศบาลคืนมานะ
 
    
 
4   ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย / คนเชียงราย สังคมเชียงราย / Re: จริงหรือไม่..ครู เทศบาล .7 ลาออกไป 13 คน..ท่านใดทราบบ้าง  เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2011, 06:30:17  
เฮ้อ  อนาถใจครับ  แหมพูดออกมาได้มาดูถูกผู้ปกครอง  ผมแสดงความคิดเห็นสองสามครั้ง  ไม่เคยคิดครับที่จะดูถูกผู้ปกครองผมก็เป็นผู้ปกครองคนหนึ่ง  คำแรง ๆ  ที่ใช้ก็น่าจะเจาะจงใช้กับบุคคลบางท่านที่ใช้คำแรง  แต่ถ้าท่านคิดว่าสองสามคนคิดที่ผมแสดงความคิดเห็นว่าดูถูกผู้ปกครองน่าจะเป็นท่านนะครับ  แค่ผมเสนอทางเลือกออกมากลาง ๆ  อยากแสดงความคิดเห็นไม่ได้ตั้งแก้ง  ตั้งก้วน  เหมือนกลุ่มท่านที่หาแนวร่วมสอดแทรกแนวคิด  สร้างความเป็นต่อ  จะเล่นผู้บริหาร เริ่มแสดงพลังที่ไม่ดีออกมาหรืออุปนิสัยน่าจะเป็นอย่างนี้  แสดงความกร่างอย่างเห็นได้ชัด  ก็คงมีไม่กี่ท่านผมยังไม่เคยเห็นครับที่ผู้ปกครองเขาจะมีปัญหาน่าจะเป็นกลุ่มเล็ก ๆ  
   ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับโรงเรียนแห่งนี้  กับผู้บริหารชุดนี้  การเอาบุตรหลานเข้ามาเรียนแห่งนี้มันไกลครับ ก็คงจะมีความพร้อมในระดับหนึ่ง  ผมก็พูดตรง ๆ  ครับว่าเป็นโรงเรียนที่สร้างคนเพื่อคนคนรวย มีอำนาจเพราะเกิดขึ้นในยุคที่นายกคนเดิมมีอำนาจ  และสร้างความแตกต่างกับการศึกษามากมาย  ให้บางโรงเรียนเสียจนมากมาย  เป็นที่รองรับของนักการเมือง  แต่โรงเรียนเทศบาลโดยทั่วไปกลับไม่สนใจ  ให้บ้างให้รู้ว่าให้
ทั้งที่คนกลุ่มใหญ่ก็คือคนทำงานหาเช้ากินค่ำ  ผมเลยอยากจะให้โรงเรียนแห่งนี้เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองที่มีความพร้อมในระดับหนึ่งบ้างก็แค่นั้นเอง  การศึกษาบางครั้งก็ไม่ได้สร้างให้คนเป็นคนดีที่อยู่ในสังคมได้ครับ  ยิ่งคนที่มีการศึกษาสูง  โดยปกติธรรมชาติ  ก็น่าจะเดินบนดินอยู่กับสังคมทั่วไปได้  อย่างนี้ครับเขาเรียกว่าคนมีการศึกษา  แล้วส่วนมากผู้ปกครองที่นี่ก็เป็นอย่างนี้  แต่ก็คงมีบางกลุ่มที่คิดว่าตัวเอง  มีความพร้อม  ฉันต้องได้ในสิ่งที่ฉันได้
ฉันส่งลูกเรียนที่นี่เพราะมีความแตกต่าง ๆ  ผมก็บอกท่านแล้วครับโรงเรียนที่มีความแตกต่างมาก  ถ้าเป็นโรงเรียนเอกชนมันจะไม่มีปัญหา  เพราะเขาทำเพื่อธุรกิจ  ท่านอยากได้อย่างไรเขาก็จัดให้   ครู 4  หรือ 5  ก็ยังได้
แล้วมีเยอะ  เพียงแต่ท่านพาลูกของท่านไปเรียนก็เรียบร้อย  จะเสนอความคิดเห็นอย่างไรก็ได้  จะไล่  ให้โรงเรียนยุบก็ได้ทำไปเถอะครับ  เพราะสังคมไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย  แต่โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนรัฐบาลนะครับทำอะไรที่เกินไปมันก็ไม่ถูก  มันไม่ใช่โรงเรียนของท่าน  แต่เป็นโรงเรียนที่เป็นภาษีของชาวบ้าน ผมจึงพูดไงครับ  คนกลุ่มใหญ่คือชาวบ้านทั่วไป  แล้วท่านมาแสดงความกร่าง  แสดงอำนาจ  โดยที่ปัญหายังไม่เกิด  แต่ท่านก็สร้างปัญหาแล้วหาปัญหามาได้เรื่อย ๆ   ลามปามไปหมด  ไร้เหตุผล  ผมถึงบอกครับไม่มีประโยชน์  เอาเวลาที่ท่านจ้องจับปัญหาไปทำงาน  พัฒนาจิตใจของท่านดีกว่าครับ  คอยดูความเติบโตของลูกหลานของเราดีกว่าครับ  ลดสิ่งที่เคยได้ เพื่อคนกลุ่มใหญ่บ้างจิตใจก็จะประเสริฐครับ  
   ขอย้ำครับความคิดของผมไม่เคยดูถูกผู้บริหาร  โรงเรียน  เด็ก ๆ  ผู้ปกครองและสิ่งที่ผมทำหน้าที่ขณะนี้ก็คือในฐานที่เป็นผู้ปกครองคนหนึ่ง  ผมว่าสิ่งที่ท่านคิดว่าดูถูกผู้ปกครองนั่นแสดงว่าท่านคิดเองครับ  อาจคิดว่าเป็นท่านก็แล้วแต่ครับ
   ลองไปอ่านครับแรงสำหรับคนบางคน  แต่เขียนด้วยใจที่บริสุทธิ  เดี๋ยวจะมาแวะเวียนมาครับ
 
    
 
5   ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย / คนเชียงราย สังคมเชียงราย / Re: จริงหรือไม่..ครู เทศบาล .7 ลาออกไป 13 คน..ท่านใดทราบบ้าง  เมื่อ: วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2011, 20:25:52  
มีอีกครับท่าน  พูดในสิ่งที่ดีสบายใจครับ  พูดแบบเป็นผู้ให้แล้วเป็นสุขครับ
พูดแบบไม่หวังผลเพื่อตัวเอง แล้วสดชื่นครับ  อะไรที่เป็นสิ่งดี ๆ  ท่านลองคิดลองแสดงความคิดเห็นเถอะครับมานจะกลับมาหาตัวท่านเอง  ท่านอยู่ที่บ้านคอยสอนตัวเอง สอนลูกให้เป็นผู้ให้  ให้ด้วยเหตุผล  ได้ในสิ่งที่ได้  ได้พอประมาณ  แบ่งปันคนอื่นบ้าง  อย่าใจแคบ  ผมอยากให้โรงเรียนแห่งนี้มีคลื่นลมที่สงบ  เป็นโรงเรียนที่พัฒนาในแบบที่ท่านอยากพัฒนา  ให้เด็กที่เป็นภาพที่บริสุทธิ์ เขาได้สิ่งที่บริสุทธิครับ  พวกเราเลอะเทอะเปราะเปื้อนก็ควรเลอะเทาะเปราะเปื้อนเพื่อเด็ก  เอาเป็นเลอะเทาะด้วยความดีสีขาวดีกว่าครับ  อย่าเอาสีดำมาเล่นเอง  โดยมีเด็กอยู่ใกล้ ๆ  เดี๋ยวเด็กจะเลอะเทอะเปราะเปื้อนครับ  ปล่อยเขาบริหารราชการ  บริหารโรงเรียน  บริหารเด็กตามธรรมชาติที่เขาอยากทำงาน  พูดจากดูเหมือนจะไม่เข้าหูบ้าง  พูดแปลก ๆ  บ้างก็ไม่ควรถือสา  เด็กของเราได้รับสิ่งที่ดี ๆ  ก็พอ  ครับท่านเป็นผู้ปกครองก็ทำหน้าที่อีกส่วนหนึ่ง  เด็กมาเรียนหนังสือ  เด็กสนุก  เด็กเล่น  ก็คงเป็นธรรมชาติของการเรียนการสอนในระดับนี้
ครูก็คงทำหน้าที่อีกส่วนหนึ่ง  1 ปี  2 ปี  .....6 ปี  ผมว่าวันนั้นท่านจะภาคภูมิใจ  ผมยังไม่เคยเห็นโรงเรียนต้องล่มสลาลเพราะการบริหารงานเลยครับ  มีแต่จะดีขึ้น  ยิ่งท่านทำตัวเป็นผู้ปกครองที่ดีเสนอแนะเชิงสร้างสรรค์แค่นี้โรงเรียนแห่งนี้ก็จะก้าวไปอย่างดีครับ  ส่วนการบริหารงานจะดีไม่ดี  ผมว่าตัวผู้บริหารเองจะรู้ดีที่สุด  เราอย่าใช้อาวุธที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นบทบาท  หรือมุมมองที่มองจากภายนอก  พละกำลังด้านต่าง ๆ  มาทำลายล้างบุคลที่เกี่ยวข้องกับการดูแลบุตรหลานของท่าน  วันละ 8  ชั่วโมง  สัปดาห์ละ 40  ชม  เดือนละ  160  ชั่วโมง  ปีละ  3200 ชั่วโมง ครับ   คงมาแวะเวียนแสดงแนวคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ต่อไปเพราะเป็นเวที่ที่ดีครับ  อย่าไปคิดอะไรมากครับ  เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
 
    
 
6   ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย / คนเชียงราย สังคมเชียงราย / Re: จริงหรือไม่..ครู เทศบาล .7 ลาออกไป 13 คน..ท่านใดทราบบ้าง  เมื่อ: วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2011, 13:23:28  
ขอเสนอพันธกรณีครับ
1.อยากให้โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนธรรมดา ๆ  เหมือนโรงเรียนเทศบาลอื่น  โรงเรียนสพท อื่น ๆ ช่างน้อยใจจริง ๆ  คิดมาได้อย่างไร  ตั้งขึ้นเพื่อคนกลุ่มเล็ก ๆ  จริง  ใช้ทุนของเทศบาล(ภาษีของพวกเรานั้นแหละ)มาสร้างตึกหลังใหญ่ ๆ  สวย  แบบเริดๆ  แต่รับเด็กอยู่กลุ่มเดียว พวกเดียวกัน  เฮ้อ ความเสมอภาคในสังคมมีไหน  ลูกหลานชาวนา ชาวไร่ อย่างเราจะได้มีโอกาสมาเรียนบ้าง ห่างไกลกันมากขึ้น  
2.ยกเลิกเงินที่ผู้ปกครองบริจาคเถอะครับ ปัญหาเยอะ  พวกนี้เสียเงินแล้วเขาต้องได้กับลูกตัวเองเป็นร้อยเท่า   เอางบประมาณที่จะสร้างโรงเรียนแห้งนี้ให้ดีเลิศด้านภาษา ด้านรูปแบบ  ไปกระจายให้กับโรงเรียนเทศบาล อีกหลายโรงเรียนดีกว่าครับ  
3.จะเป็นโรงเรียนที่จะเน้นภาษาอังกฤษ ก็จ้างครูฝรั่งมาสอนเลยครับ  แล้วประเมินผลดูถ้าดีก็ควรกระจายไปทั่วเทศบาล  มีครูฝรั่งสอนทั่วทั้งเทศบาล ให้ฝนมานตกทั่วฟ้า
4.เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองที่มีปัญหาต้องการย้ายบุตรหลานของท่านได้ย้ายอย่างสบายใจ  อย่างสันติ  (เพราะมีโรงเรียนรองรับเยอะครับ  เพราะผู้ปกครองบางท่านท่านมีความพร้อมก็เป็นสิทธิของท่าน  และหลายท่านคงย้ายแบบไม่ติดใจอะไร  โรงเรียนที่รองรับเช่น โรงเรีนยนานาชาติบ้านใหม่  เปิดได้จังหวะพอดี) ไปเลยครับ  ที่ว่างเหลือพอคนที่อยากเข้าเรียนจะได้เข้าเรียน
5.เริ่มต้นใหม่  ทั้งผู้บริหารชุดใหม่ของเทศบาล  คณะกรรมการสถานศึกษา  ผู้บริหารมาประชุมร่วมกัน  กำหนดกรอบกันใหม่  จะเอาอย่างไร พึ่งตัวเองให้มาก  รบกวนผู้ปกครองให้น้อยที่สุดหรือแทบไม่รบกวนเลย  ตั้งเป้าว่าเด็กจะเป็นแบบใหนเอาให้เป็นมาตรฐาน
อย่าไปตั้งต้นให้มันเว่อครับ  
6.ผมเชื่อว่าผู้บริหารโรงเรียนทั้งคนเก่าและคนใหม่  ตั้งใจบริหารงานอย่างดีที่สุด
แต่ถ้ามันไปสะดุดขาใครเข้าก็ต้องระวัง  แต่อย่าไปสนใจครับ  
7.อย่างนี้เราก็จะไม่มีผู้ปกครองที่มีปัญหา  เด็กเทศบาลก็จะได้รับความเสมอภาคทางการศึกษา  ในอนาคตเด็กเหล่านี้ (คนจนๆ) จะได้มีโอกาสกับอนาคตที่ดีได้บ้าง
เอาภาษาไทยให้ดี  ภาษาอังกฤษบ้าง  เป็นเด็กดีอของพ่อ  แม่ และสังคม แค่นี้ก็ถือเป็นการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครับ  ใช้โอกาสอย่างนี้เปลี่ยนระบบเถอะครับ ผู้บริหารคนเก่าคิดได้อย่างไร  สร้างโรงเรียนให้กลุ่มตัวเองโดยแท้  เด็กที่เรียนก็กลุ่มเล็ก ๆ  
ผลาญเงินเทศบาล  สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองด้านการเมืองอย่างหน้า.....
เป็นกำลังใจให้เทศบาลและคณะผู้บริหารเปลี่ยนแปลงครับ เพื่อเด็กเทศบาลและคนเทศลบาลอย่างแท้จริง  วันหน้าเด็กที่เก่งภาษาอังกฤษ  เก่งวิชาอื่น ๆ  อาจเป็นเด็กที่พ่อแม่ขายของในตลาดสดเทศบาล  หรือแม่ค้าขายกล้วยปิ้งก็ได้
8.อย่าไปสนใจพวกตั้งกลุ่มแก้ง  วันหน้าพวกนี้ก็จะหมดไปเองครับ  เพื่อเด็กตาดำของชาวเทศบาล(หรือจะเปิดกว้างให้กับเด็กทั่วไปก็ดีครับ)
    
 
7   ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย / คนเชียงราย สังคมเชียงราย / Re: จริงหรือไม่..ครู เทศบาล .7 ลาออกไป 13 คน..ท่านใดทราบบ้าง  เมื่อ: วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2011, 05:13:04  
ไปกันใหญ่จริง ๆ  ครับ จากคนที่ใช้ความคิดของตนเองตัดสินไม่แน่ใจเป็นฝ่ายแค้นหรือเปล่าเพราะดูแนวคิดออกจะแรงจริง ๆ  และยังไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด   จากครู 4  เหลือ 3  แล้วสร้างเงื่อนใขที่เคยได้แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงบ้างซึ่งก็ยังถือได้มากมายกว่าโรงเรียนทั่วไปในจังหวัดเชียงรายหลายพันโรงเรียนยังไม่พอใจอีก  สร้างสรรค์คำพูดเชิงสร้างกลุ่ม  แก้ง   ฟาดหัวฟาดหางไปทั่ว  ผมว่าคุณลองไปดูโรงเรียนทั่วไปครับ  อาคารเรียนยังไม่หรูหราเท่านี้เลยครับ ตึกของโรงเรียนสร้างโรงเรียนให้เด็กตาดำ ๆ  ได้เป็นร้อยโรงเรียน    หลังคารั่วเวลาเรียนหนังสือ
ครูมี 1  คน  อาหารดีบ้างไม่ดีบ้าง  สนามก็เป็นสนามธรรมชาติ  ภาษาอังกฤษก็เรียนกับครูไทย  ได้บ้างตามสภาพ
แต่เขาก็ดีนะ  มอบหมายภาระอันยิ่งใหญ่ให้โรงเรียน  ที่เขาเรียนมาโดยตรง  อยู่กับเด็กตลอดเวลา  ไว้ใจ  เชื่อใจ
แล้วเด็กพวกนี้ก็ดีจริง ๆ  นะครับมารยาท   กริยา  การเคารพนบน้อม  ก็ดี  เห็นแล้วชื่นใจ  คนที่ทำงานด้านการศึกษาเขาจะรู้ดีว่าต้องทำอย่างไรให้ดี  และต้องดีที่สุด  ครูสอนอย่างไรและต้องสอนให้ดีที่สุด   โอ้โฮ  ครูจาก 4  เหลือ 3  ท่านก็เป็นคนเจ้าปัญหาแล้วได้มากกว่าโรงเรียนในจังหวัดเชียงรายอีกเป็นพันโรงเรียนนะครับ  
หาเงื่อนไขเล็ก ๆ  น้อย  มาต่อเติมเหมือนกับการเสียผลประโยชน์  (จากการลงทุน 10,000 บาท)  ผมว่าสิ่งที่ท่านได้รับจากโรงเรียนมันมากมายแล้วครับอย่าแสดงความคิดเห็นในเชิงเห็นแก่ตัวให้มาก  ท่านไม่ต้องนัดหมาย  นัดพูด  นัดคุยครับ เอากันตรงนี้ ความคิดเห็นของผมก็เป็นส่วนหนึ่งที่พอเข้าใจระบบการศึกษา ว่ามันตั้งอยู่แบบนี้  เกิดแบบนี้แล้วน่าจะเป็นแบบใหน  ท่านทำงานอยู่ที่บ้าน  ดูแค่พื้นที่บ้าน  ที่ทำงาน  แต่การบริหารงานในโรงเรียนมันกว้างมากครับ  แค่พื้นที่ก็มากมายแล้วครับ  ครูอีก  อะไรอีกมากมายแต่สิ่งที่ท่านได้รับท่านกลับคิดว่าแย่โดยเป็นแค่ความคิดนะครับ  บุคลากรที่หายไป 13  คน  ผมว่าเขาก็มีเหตุมีผลของเขา  เขาจะเพิ่มมาอีก ก็คงเป็นเหตุเป็นผลของเขา  แล้วท่านอยู่ที่บ้าน  นั่งคิด  นอนคิด  แสดงความคิดเห็นเน้นการพูดแบบสำนวน  ลีลา  แต่สภาพความเป็นจริงคุณก็ไม่อยู่ในสถานที่การศึกษาแค่คิดไปอีก  จะเอาให้ได้  เอาเรื่องให้ได้   สร้างความยิ่งใหญ่ว่าจะเล่นในระดับสูง  ฟ้องศูนย์ดำรงธรรม  เฮ้อ  บ้าไปกันใหญ่  เดี่ยวเขาจะหัวเราะความโ...ง....  ของตัวเอง  ปล่อยเขาไปเถอะครับ  ผมว่าเขาบริหารงานคงไม่คิดต่ำที่จะบริหารให้เสียหายครับ  เขามีกระบวนการ  มีความคิด  และมีเด็กเป็นที่ตั้ง
กรรมการสถานศึกษาเขาก็เป็นผู้ที่มีความรู้  มีวุฒิภาวะสูง   ผมว่าเขาไม่พูดมาก  อธิบายให้ในส่วนที่อธิบายได้
ทราบมาว่าท่านผอเพี่งจะมาปฏิบัติหน้าที่ผมว่าถ้าเป็นผู้ปกครองที่ดี  ก็ควรสนับสนุนส่งเสริมคณะทำงานดีกว่า
ให้กำลังใจผู้บริหาร  กรรมการสถานศึกษา  โครงสร้างโรงเรียนใหญ่นะครับ  มันไม่ล้มง่าย ๆ  หรอกครับ  ส่งสารผู้ปกครองส่วนมากที่เขาเอาลูกมาเรียนที่นี้แล้วเขาก็พอใจ  มีความสุข  แต่ท่านนำทีมไม่แน่ใจเขาเรียกว่าแก้งหรือเปล่า  ต้องขอโทษที่ใช้คำแรง เพราะฟังแนวคิดของท่านแล้วเหมือนจะไม่ใช่บทบาทของผู้ปกครองที่สนับสนุนการศึกษา  แต่จ้องทำร้ายมากกว่า    เรื่องกล้วยผมคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ  ธรรมชาติบ้านเรามีเยอะครับ  เป็นผมไม่ต้องไปปลูกครับ  เสียด้ายพื้นที่  อยากปลูกก็ไปซื้อสวนปลูกให้เด็กได้ศึกษาเป็นเรื่องเป็นราวเลยครับ แต่ในโรงเรียนพื้นที่จำเป็นมากว่านั้น  สนามไว้เล่น  ไม่อันตรายก็สนามหญ้า  ง่ายๆ   ที่ใหน ๆ  เขาก็ใช้สนามหญ้าเพื่อเด็กที่มีจำนวนมาก   ผลไม้ในโรงเรียนเขาไม่ปลูกครับ  มันอันตราย    ความเป็นเด็ก  แล้วมากมายหลายร้อยครับ
อยากกิน  อยากปีน  เห็นกล้วยสุกแล้วอยากกินเด็กทำอย่างไร  มันอันตรายมันยุ่งพอสมควร  ครับอธิบายอย่างนี้สำหรับคนอย่างนี้พอเข้าใจนะครับ  ผมพูดอย่างนี้ไม่ได้ต่อต้านคุณแต่ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง  ผมไม่มีผลประโยชน์ได  ๆ  ทั้งสิ้นกับโรงเรียนแห่งนี้  ยังอยากให้เปลี่ยนโครงสร้างที่เปิดโอกาสให้เด็กตาดำ ๆ  จน  ได้มีโอกาสเข้าเรียนบ้างแต่คงยาก  ไม่ต้องมีเงินสนับสนุนจากผู้ปกครอง  (10,000 )  ปัญหาเยอะครับ  ผมว่าแนะนำอีกอย่างถ้าคุณคิดว่าโรงเรียนแห่งนี้ไม่เหมาะสมท่านอยากได้ครูมากกว่านี้  ผมว่าไปหาโรงเรียนเอกชนดีกว่าแล้วคุยฝ่ายบริหารดูครับ  ขอครู 4  คนต่อห้องเรียนได้ใหม  (ไม่แน่ใจในเชียงรายมีกี่โรงเรียน)  หรืออยากเก่งภาษาอังกฤษ
เปิดแล้วครับโรงเรียนนานาชาติ  ภาษาอังกฤษดีแน่ ๆ  ครับ  แล้วพบกันครับกับแนวคิดพอเป็นทางเลือกหรือเป็นแนวทางให้ท่านได้อ่านอีกแนวหนึ่งครับ  คำแรง  แต่จริงใจ  ให้กำลังใจนักเรียน  ครู  ผู้ปกครอง  ผู้บริหาร  กรรมการสถานศึกษา  ครับ
 
    
 
    
 
หน้า: [1]  
ลุง..chiang123 แปลตัวอักษร..ของตัวเองที่พิมพ์มาเสียก่อน
แล้วถามอะไรไว้..ตอบมาเสียก่อน..
เดี๋ยสีข้าง..จะแดง..เหมือนกับวันที่ประชุมผู้ปกครอง..

โอ้ย..เสียราคาหมด..อย่าให้ราคากับคนที่ไร้จุดยืน..ปล่อยให้พล่ามไปเถอะ..อยากจะด่า..จะว่า..ก็เชิญจ้า..
คิก..คิก..แก๊งค์คนรักลูก..ที่นี่ไม่มี  แก๊งค์..มีแต่สมาชิกกลุ่มคนรักลูก..ชัดมั้ยครับ
แต่..ใครกันแน่มาเป็นแก๊งค์..
ใครให้จะให้สติ๊กเกอร์คุณ...สำคัญตัวเองมี..ราคาเกิน..ไปหรือเปล่า
คุยแบบคนไม่ปัญญา..ก็อย่าใช้ปัญญา..กับคนที่ต่ำปัญญา..
ใครที่พูดกับเรา..ด้วยสติปัญญา..ก็ต้องตอบเขาด้วยสติปัญญา..
ไปวัดดีกว่า..ปัญญาจะได้ผ่องใส..
ไปวัดหย๋าเน้อ..แก่ปูนนี้แล้ว..

[an_angle]

จะพูดถึงการทำงานของคุณครูและพี่เลี้ยงทางอนุบาลคะ  เห็นแต่ละคนหัวฟูทุกวัน เพราะว่าคงจะทำงานกันเหนื่อยมาก  และพี่เลี้ยงก็เห็นจะงานเยอะมากเหมือนกัน คุณ AIT คะแต่เห็นว่าเงินเดือนพี่เลี้ยงเค้าได้ไม่ถึง 5,000 นะคะ ประมาณ 4 กว่าๆ คะ  ขอเป็นกำลังใจให้คุณครู สู้ๆต่อไป เพื่อเด็กๆนะคะ  สู้ๆๆคะเพื่ออุดมคติ

[มดคันไฟ]

ไปวัดทำบุญ กันดีกว่าครับ...

[chiang123]

ผมต้องขออนุญาตท่านผู้ปกครองอีกครั้งนะครับ และต้องบอกไว้ก่อนไม่เคยคิดจะดูถูกท่านผู้ปกครองที่บริสุทธิใจทั้งการแสดงเห็นตรงและเห็นต่าง  แสดงความคิดเห็นบริสุทธิใจ  แต่ไม่ได้ตั้งกลุ่มตั้งแก้งเหมือนพวกนี้  จะพยายามอธิบาย  อธิบาย ให้บัวที่ไม่พ้นน้ำฟังอีกนะ  และหวังว่าสักวันบัวเหล่านี้จะได้พ้นน้ำวันนี้วันพระ  วันนี้ก็จะให้ทานด้านความคิดแก่คนกลุ่มหรือผมต้องเรียกว่าแก้งครับ จะได้ถือว่าให้สติแก่คนที่ไม่รับรู้เรื่องราวของสังคมนะไม่แน่ใจว่า ชื่อเหมือนสัตว์ประหลาดเลย  มดคันไฟ   ชื่อดีดีมีตั้งเยอะแยะไม่ยอมตั้ง ระวังเขาจะว่าเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ  นะ  และนายไม่แน่ใจว่านายหรือนางนะ thanaput ให้ทราบนะโลกของความเป็นจริงเป็นอย่างนี้  พรบการศึกษาเขาก็ปลูกฝังหมดแหละ ปรับมาจนเป็นหลักสูตร 2551 เพราะคนไทยยังขาดคุณลักษณะอันพึงประสงค์มีตั้ง 8  ข้อ  เป็นเรื่องจิตสำนึกทั้งนั้น  รัฐบาลเขาลงทุนการศึกษาเพื่อให้คนไทยทุกคนไม่ว่ายากดีมีจนได้เรียนหนังสือพัฒนาโดยเท่าเทียมกัน  ผมว่าเทศบาลก็คงใช้หลักการนี้สร้างโรงเรียนเพื่อให้การศึกษาเด็กเทศบาล(และถือเป็นเด็กที่ต้องดูแลเป็นพิเศษนะ)มีโรงเรียนเทศบาลปัจจุบันนี้ก็น่าจะ 7-8 โรงเรียน  มีนมฟรี  มีอาหารฟรี  ท่านลองใช้จิตสำนึกความเป็นคนคิดดูก็แล้วกัน  เด็กบางคนไม่มีจะกิน ลำบาก แต่ไปโรงเรียนก็มีข้าวกิน  นมดื่ม  มีเครื่องเล่น ของเล่น ไว้เล่นเด็กมีความสุขแต่เสื้อผ้าเด็กมอมแมมเพราะเขาจน แต่เด็กเหล่านี้ก็มีความสุข  ครูก็มีความสุข ผู้ปกครองก็มีความสุข  ผมเห็นก็มีความสุข  แล้วมีโรงเรียนแห่งนี้แหละที่อยู่ๆ ก็จัดเป็นโรงเรียนต้นแบบ(ในยุคของนายกคนเก่า)มีตึกหรูหรา  ครูเยอะแยะ  ทั้งที่โรงเรียนอื่นครูขาด  ท่านก็ตั้งของท่านไป  มีครูฝรั่งมากมายครูไทยเยอะแยะ 
ก็ไม่เป็นไร  ก็บริหารมาคนเทศบาลก็ไม่ว่าแต่แอบติงนิด ๆ  แต่มาวันนี้พอโรงเรียนแห่งนี้มีการเปลี่ยนแปลงบ้างเป็นเรื่องปกติ  การบริหารโรงเรียนก็ดำเนินไปเด็กก็มีความสุข  เริ่มมีผู้ปกครองที่ทำตัวเป็นนักเลงเสนอแนะแกมข่มขู่  ผมในฐานะเสียภาษีให้เทศบาล  และถือเป็นเจ้าของโรงเรียนแห่งนี้ก็คิดว่าทำไมต้องมีการข่มขู่  อะไรต่างๆ  มากมาย  เพียงแต่บางอย่างลดลงไป  แต่สิ่งที่บุตรหลานท่านได้ก็มากมายอยู่แล้ว  แล้วก็เริ่มก่อกลุ่มขึ้นมา ผมว่าคงมีบางส่วนนะและน่าจะเป็นส่วนน้อยนิด  ผมก็อธิบายเหตผล แรงบ้าง เบาบ้าง  และวันหนึ่งผมเสนอพันธกรณีอย่างนี้ได้ใหม่ท่านก็รับไม่ได้  ว่าผมเป็นโน่นเป็นนี่   ผมก็ยิ่งคิดว่า  เอ  โรงเรียนแห่งนี้ใครแตะต้องไม่ได้หรือ
ใครเป็นเจ้าของกันแน่  ก็เสนอแนวทางว่าถ้าวิสัยทัศน์มันเป็นกรอบแน่นเกินไป ก็แก้วิสัยทัศน์  แก้อะไรเสีย
เพื่อจะให้เป็นโรงเรียนของชาวเทศบาลโดยแท้จริง  เพื่อให้เกิดความเสมอภาคทางการศึกษา  นี้ผมถือว่าผมเป็นเจ้าของโรงเรียนแห่งนี้นะเพราะผมเสียภาษี  แต่ความเป็นเจ้าของของผมก็เสนอน่าจะเป็นเรื่องของส่วนรวมมากกว่าเพื่อให้ปัญหาไม่ต้องยึดติดกับคนกลุ่มเล็ก ๆ  เอาโรงเรียนแห่งนี้  มีฝรั่งสอนอย่างนี้  ครู2-3 คนต่อห้อง  แล้วก็เปิดโอกาสให้กับเด็กทุกคนโดยไม่เลือกยศ  ฐานะ  ตำแหน่ง  หรือเงิน  เข้ามาเรียนโรงรียนแห่งนี้ด้วยความภาคภูมิใจ  อยู่กันแบบสังคมรวม  ผู้ปกครอง  ยาก ดี มี  จนก็เรียนได้  ผมก็เสนอในลักษณะอย่างนี้
   หรือไม่ถ้าตัดสินใจไม่ได้  ก็ให้โอกาสเจ้าของโรงเรียนคือประชาชนโดยทั่วไปโดยเฉพาะคนเทศบาลลงประชาพิจารณ์เสียก็สิ้นเรื่อง  จะเอาอย่างไง ปรับวิสัยทัศน์  ปรับเป้าหมาย  ปรับรูปแบบให้มีความเสมอภาคทางการศึกษา  จะได้หมดปัญหากับผู้ปกครองที่โมเมเอาว่าเป็นโรงเรียนของเขาแต่ถ้าต้องการเน้นด้านภาษาก็จ้างครูฝรั่งมาสอน   ผู้ปกครองที่ใจดีบริจาคโดยไม่หวังผลตอบแทนอยากได้บุญก็บริจาค แล้วให้โรงเรียนนำไปใช้จ่ายที่เกิดประโยชน์ทางการศึกษา  เป็นทุนคอยช่วยเหลือนักเรียนที่เรียนเก่งแต่ยากไร้ได้อีกทาง  ก็เสนอแนวทางอย่างนี้มา
   ทางเลือกสำหรับ  thanaput  กับพวก  ก็ง่าย ๆ  ก็คือย้ายบุตรหลานของท่านไปเรียนโรงเรียนที่ท่านต้องการ  เช่น  โรงเรียนนานาชาติ หรืออนุบาลของเอกชนมีเยอะแยะ  หาเอาที่มีครูตามจำนวนที่ต้องการ ก็แค่นี้
ครับเรื่องของเด็กผมก็พูดมีแต่ให้มาตลอด  วันนี้อบรมผู้ใหญ่สองสามคน  เป็นสติเพื่อจะได้เป็นบัวพ้นน้ำเสียที่
มีเวลาก็จะแวะเวียนมาเตือนสติคนที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ ครับ และผมต้องขอโทษท่านผู้ปกครองหลายท่านที่แสดงความคิดเห็นที่ดีทั้งเห็นตรงและเห็นต่าง  แต่ไม่เชิงเป็นแก้งเหมือนกลุ่มนี้  คนกลุ่มนี้ต้องเตือนสติกันบ่อย ๆ  ไม่รู้จักการให้บ้างเลย.....ผับ.....เฮ้อ

[not stupid]

หลังจากที่ได้เข้าร่วมประชุมมาก็อยากร่วมแสดงความคิดเห็นร่วมกับผู้ปกครองท่านอื่นดังนี้
ประเด็นแรก จากที่ท่านอาจารย์จากม.ราชภัฏเชียงรายมาแสดงความคิดเห็นของท่านก็ไม่อยากจะพูดเลยว่า
ท่านดูหมิ่น เหยียดหยาม ใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม ต่อครูผู้สอนเป็นอย่างมาก ท่านบอกว่าคุณครูที่ลาออกไปดิฉันรู้ดีว่าไม่ได้ลาออกเพราะความคับข้องใจ แต่ออกไปเพราะได้ไปบรรจุ ไปทำงานเป็นพนักงานของรัฐ มันได้ดีกว่าที่นี่ด้วยซ้ำมันถึงไป อยากถามว่าท่านรู้ข้อมูลมาจากไหน ข้อมูลที่ท่านได้รับเป็นความจริงหรือไม่ หรือโดนหลอกใช้เป็นเครื่องมือในวันประชุม  จากที่รู้มา คุณครูหลายท่านที่ออกไป บางคนลาออกไปอยู่โรงเรียนเอกชน บางคนยอมไปอยู่บนดอยแต่ก็เป็นแค่อัตราจ้าง เงินเดือนก็น้อยกว่าที่โรงเรียนแห่งนี้เขาก็ยอมไปเพราะอะไร บางคนให้เหตุผลว่าลาออกเพราะสอนไม่ตรงสาย ต่างให้เหตุผลให้ฟังดูดีเพราะอะไร ถ้าทำงานที่ไหนมีความสุขมีหรือเขาจะลาออก  การที่ท่านพูดจาดูถูกลูกศิษย์ก็เหมือนดูถูกตัวเอง เพราะท่านเองไม่ใช่เหรอที่เป็นครูของคุณครูเหล่านั้น

ประเด็นที่สอง  ท่านผอ. บอกว่าคุณครูที่นี่สอนได้หลายวิชาเพราะว่ามีความสามารถที่หลากหลาย ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง จะเลือกวิชาเอกไปเพื่ออะไร ครูแต่ละคนความถนัดก็ไม่เหมือนกัน แล้วท่านบอกว่าครูที่นี่ต้องสอนหลายวิชาเพราะชั่วโมงไม่ครบ มีผลต่อการต่อใบประกอบวิชาชีพ หรือบางคนก็ไม่มี ก็ต้องเก็บชั่วโมงเพื่อไปขอใบประกอบวิชาชีพครู จากที่ดิฉันทราบมาเขาถามเอาชั่วโมงสอนด้วยเหรอคะ มีแต่โรงเรียนต้นสังกัดไม่ใช่เหรอถ้าจำไม่ผิด และดิฉันคิดว่าคุณครูทุกท่านต้องมีใบประกอบวิชาชีพอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นคงมาประกอบอาชีพนี้ไม่ได้ แต่ละโรงเรียนที่ประกาศรับสมัครครู ก็ต้องระบุไว้ในการประกาศรับสมัครครูอยู่แล้ว หรือไม่ก็ หากผู้ปกครองท่านใดอยากรู้ว่าเป็นจริงแบบท่านพูดหรือไม่ ก็ไปขอดูใบประกอบวิชาชีพจากคุณครูท่านเลย คุณครูท่านใดไม่มีก็ถือว่าทำผิดกฏหมาย และท่านผอ.ก็ยังบอกอีกว่า Teacher ที่ลาออกไป เพราะทางโรงเรียนไม่สามารถจ้างต่อเ นื่องจากอยู่ครบสองปีแล้วไม่มีใบประกอบวิชาชีพ อันนี้คงไม่เป็นเป็นจริง เพราะดิฉันเคยพูดคุยกับ Teacher Bench ที่ลาออกไป ท่านจบป.โทด้วยซ้ำ และสอนอยู่ที่นี่ประมาณสามปีเขามีใบประกอบวิชาชีพ  และอีกท่านที่สอนป.2 ถ้าจำไม่ผิดคือ Teacher Zaza ท่านสอนเก่งมากเพราะลูกดิฉันเคยพูดให้ฟัง ท่านมีอย่างแน่นอน

ประเด็นที่สาม  ห้องเรียนของนักเรียนชั้นป.4 ท่านผอ.จะให้เรียนในห้องสมุด และห้องนาฏศิลป์ และในการเรียนนาฏศิลป์ ท่านจะให้นักเรียนย้ายมาเรียนที่หอประชุม ขอถามท่านผอ.ว่า ตึกจะมาเมื่อไหร่ ผู้ปกครองไม่ได้ต้องการรั้ว หรือทัศนียภาพที่สวยงามของโรงเรียน ขอแค่มีตึกเรียนที่มั่นคงแน่นอนให้ลูกๆ ไม่ได้ต้องการความสวยงามของโรงเรียน และสนามหญ้าที่ท่านพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีขึ้นมา ความมั่นคงของโรงเรียนคือเด็กนักเรียนมีคุณภาพ เน้นการเรียน แต่ทุกวันนี้เท่าที่เห็นท่านเน้นกิจกรรม ให้ดูว่าเด็กท่านมีความสามารถ เด็กของท่านเก่ง แต่ในความเป็นจริง เด็กๆ แทบจะไม่ได้เรียน มีแต่การทำกิจกรรม คนที่ได้โชว์หรือได้รางวัลก็ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง กลับมาท่องที่บ้าน แต่ถ้าเด็กไม่ได้ท่องเด็กจะสามารถโชว์อะไรได้มั่งนอกจากที่ท่อง ขอถามว่าเนื้อหาบทเรียนที่เรียน เด็กเรียนทันหรือไม่ อย่างไร แล้วผลงานที่โชว์ในงาน Open house ที่ผ่านมา ดิฉันเห็นคุณครูแต่ละท่านยุ่งวุ่นวายกันมาก ตามคำสั่งของท่านผอ. และเด็กนักเรียนก็ไม่มีใครดูแล

ประเด็นที่สี่  อยากทราบว่าปีการศึกษาหน้าท่านผอ.จะยังใช้นโยบายเดิมของท่านอยู่หรือไม่ที่จะมีครูไทย 1 คน ครูต่างชาติ 1 คนดูแลเด็กต่อหนึ่งห้องเรียน เท่าที่ฟังในวันประชุม ท่านยังไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนว่าป.1-ป. 3 คุณครูท่านใดจะประจำชั้น Teacher คนไหนอยู่ห้องใด ไม่เห็นท่านชี้แจงให้ทราบ หรือผู้ปกครองต้องเดาเอาว่าเทอมหน้าคงจะเป็นคุณครูท่านนี้อยู่ห้องนี้ หรือเทอมหน้าจะไม่มีคุณครูอยู่แล้วเพราะทราบมาว่าขวัญและกำลังใจของครูก็ถดถอยลงเหมือนกันในวันประชุม
ถ้าองค์กรดี ผู้บริหารดี ครูมีความสุข เด็กก็มีความสุข แต่ถ้าสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ดี ผลกระทบก็คงตกที่เด็กมากกว่าใคร เด็กคือผ้าขาว สาดสีอะไรไป ผลที่ได้ก็อย่างนั้น ก็ฝากให้ท่านผู้บริหารโรงเรียนเอาไปคิด(บ้างสักนิด) ก็คงดี
และรอต่อไปว่ากระดาษที่ยื่นไปในวันประชุมวันนั้น ทางเทศบาลจะตอบกลับมาอย่างไร ก็รอฟังข่าวดีกันต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้คุณครูทุกท่านค่ะ

[THANAPUT]

สาระ..อยู่ใหน..



คุยแบบคนไม่ปัญญา..ก็อย่าใช้ปัญญา..กับคนที่ต่ำปัญญา..
ใครที่พูดกับเรา..ด้วยสติปัญญา..ก็ต้องตอบเขาด้วยสติปัญญา..
                          แมงนูดนีด.ว่าไว้..

[not stupid]

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ ผมมีตัวเลขให้คิดเล่น ๆ นะครับ เพราะผมก็พึ่งได้มาลองคิดเล่น ๆ เหมือนกันนะครับ

สมมติว่า ระดับอนุบาล เราต้องมีครูไทย 2 คน ต่างชาติอีก 1 คน ครูพี่เลี้ยงอีก 1 คน นักศึกษาปี 5 ฝึกสอนจาก cru อีก 1 คน รวม 5 คน รวมต้องจ้าง 4 คน (นศ.ฝึกสอนไม่ต้องจ้าง)

อนุบาลมี 6 ห้อง (อ.1-3) ต้องจ้าง 6 * 4 = 24 คน
แยกเป็น อัตราครูไทย ป.ตรี 12 คน
            ครูฟิลิปปินส์ 6 คน
            ครูพี่เลี้ยงวุฒิ ม.6 - ปวส. 6 คน

ระดับประถม เราต้องมีครูไทย 2 คน ต่างชาติอีก 1 คน นักศึกษาปี 5 ฝึกสอนจาก cru อีก 1 คน รวม 4 คน รวมต้องจ้าง 3 คน (นศ.ฝึกสอนไม่ต้องจ้าง)

ประถมมี 6 ห้อง (ป.1-3) ต้องจ้าง 6 * 3 = 18 คน
แยกเป็น อัตราครูไทย ป.ตรี 12 คน
            ครูฟิลิปปินส์ 6 คน

ยังต้องบวก ผอ. อีก 1, รอง อีก 1, หัวหน้างานวิชาการประถม อีก 1, หัวหน้างานวิชาการอนุบาล อีก 1 ครูพละ อีก 1, ครูสอนดนตรีอีก 1 , ครูสอนคอมพิวเตอร์อีก 1,  ครูสนับสนุนการสอน อีก 1, ครูการเงิน อีก 1, ครูธุรการ อีก 1, ครูห้องสมุด อีก 1 คน

รวมยอด ครูไทยตั้งแต่ ผอ.จนถึงครูผู้สอนทั้งหลาย 35 คน
ตัดข้าราชการออกไป 7 คน ตัดอัตราจ้างที่จ้างโดยเทศบาลไปอีก 7 คน คงเหลือที่โรงเรียนต้องจ้างเอง (อัตราจ้างเงินบำรุงการศึกษา) 35 - 7 - 7 = 21 คน
คิดเงินเดือน ป.ตรี + ค่าครองชีพเบ็ดเสร็จ เดือนละ 11,000 บาท ต่อคนต่อเดือน รวมทั้งปี 11,000 * 21 * 12 = 2,772,000 บาท

ครูฟิลิปปินส์ 12 คน รวมสวัสดิการคนละ 18,000 บาท ต่อคนต่อเดือน  รวมทั้งปี 18,000 * 12 * 12 = 2,592,000 บาท

ครูพี้เลี้ยงระดับอนุบาล 6 คน
ค่าจ้าง คนละ 7,500 บาท รวมต่อปี 7,500 * 6 * 12 = 540,000 บาท

ครูฝรั่ง 2 คน คนละ 30,000 บาท/เดือน ปีละ 720,000 บาท

แม่ครัว + พนักงานทำความสะอาด + คนขับรถ + ยาม = 6 คน
ค่าจ้าง คนละ 6,000 บาท รวมต่อปี 6,000 * 6 * 12 = 432,000 บาท  

รวมเฉพาะค่าจ้าง 2,772,000 + 2,592,000 + 540,000 + 720,000 + 432,000 = 7,056,000 บาท

ค่าอาหารกลางวัน + อาหารว่าง คนละ 2,000 บาท/เทอม ดังนั้นปีละ 2,000 * 2 * 450 = 1,800,000 บาท

รวมค่าใช้จ่าย 7,056,000 + 1,800,000 = 8,856,000 บาท

ค่าเรียน อนุบาล คนละ 9,000 + 8,000 = 17,000 บาท/คน/ปี
เด็กอนุบาลทุกชั้นมี 225 คน = 17,000 * 225 = 3,825,000 บาท

ค่าเรียนประถม คนละ 10,000 + 9,000 = 19,000 บาท/คน/ปี
เด็กประถมทุกชั้นมี 225 คน = 19,000 * 225 = 4,275,000 บาท

รวมรายได้บำรุงการศึกษาของโรงเรียนทั้งปี 3,825,000 + 4,275,000 = 8,100,000 บาท

สรุป จ่าย 8,856,000 บาท ต่อปี
       รับ 8,100,000 บาท ต่อปี

ป.ล. จริง ๆ โรงเรียน คงมีรายรับมากกว่านี้ เพราะได้เงินสนับสนุนค่าหัวจากต้นสังกัดอยู่ ซึ่งผมไม่รู้ว่าหัวละเท่าไหร่ แต่คาดว่าคงอีกไม่มาก และรายจ่ายอื่น ๆ เช่นค่าอาหารว่างผู้ปกครองเวลามาประชุมที่โรงเรียน ฯลฯ ผมยังไม่ได้คิดนะครับ ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัย เนื่องจากผมไม่ใช่นักบัญชีนะครับ

ผมเลยสงสัยว่าผอ. ไม่แจงตรงนี้ให้พวกเราทราบหรือเปล่า ปัญหาเลยคาราคาซังขนาดนี้ ผู้ปกครองท่านใด แม่นระเบียบงานพัสดุ งานการเงิน ลองมาช่วยผมแก้ตัวเลขอีกทีนะครับ

รู้เยอะจังค่ะ คุณเอไอทีเป็นคณะกรรมการโรงเรียนรึเปล่าคะ รู้ลึกจัง

[AIT]

   หรือไม่ถ้าตัดสินใจไม่ได้  ก็ให้โอกาสเจ้าของโรงเรียนคือประชาชนโดยทั่วไปโดยเฉพาะคนเทศบาลลงประชาพิจารณ์เสียก็สิ้นเรื่อง  จะเอาอย่างไง ปรับวิสัยทัศน์  ปรับเป้าหมาย  ปรับรูปแบบให้มีความเสมอภาคทางการศึกษา  จะได้หมดปัญหากับผู้ปกครองที่โมเมเอาว่าเป็นโรงเรียนของเขาแต่ถ้าต้องการเน้นด้านภาษาก็จ้างครูฝรั่งมาสอน   ผู้ปกครองที่ใจดีบริจาคโดยไม่หวังผลตอบแทนอยากได้บุญก็บริจาค แล้วให้โรงเรียนนำไปใช้จ่ายที่เกิดประโยชน์ทางการศึกษา  เป็นทุนคอยช่วยเหลือนักเรียนที่เรียนเก่งแต่ยากไร้ได้อีกทาง  ก็เสนอแนวทางอย่างนี้มา

ขออภัยที่พาดพิงท่าน chiang123 นะครับ หลายส่วนที่ท่านพูด บางส่วนผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่งกับท่านนะครับ ท่านคงพอมองจากการตอบกระทู้ของผมในหลาย ๆ กระทู้แล้ว

แต่ส่วนที่ผมใส่คำพูดอ้างอิงด้านบนนั้น โดยหลักการที่เป็นไปจริง ๆ แล้วก็คือหลักการที่ทางเทศบาลทำโรงเรียนเทศบาล 8 ตอนนี้อ่ะนะครับ ท.8 จะเป็นโรงเรียนสองภาษา แต่เรียนฟรีครับ และเราคงไม่สามารถเอาโรงเรียนเทศบาล 7 มาปรับเปลี่ยนให้เป็นไปอย่างที่ท่านพูดเอาไว้ได้ เพราะเป้าหมายการจัดตั้งโรงเรียนเทศบาล 7 ซึ่งถือเป็นการจัดการศึกษาแบบพิเศษ ก็ชัดเจนอยู่แล้วตั้งแต่เมื่อ 6 ปีที่แล้ว และเมื่อ 6 ปีที่แล้วก็ไม่ได้มีเสียงคัดค้านอันใดจากประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียงรายเลยนะครับ

เรียนคุณ not stupid
ผมไม่ใช่คณะกรรมการสถานศึกษาหรอกนะครับ ผมก็เป็นผู้ปกครองคนหนึ่งเหมือนกัน ลูกผมอยู่ อ.1 กับ ป.1 ครับ ตัวเลขด้านบนที่ผมลองคิดคำนวณดูก็มาจากที่ผมได้ไปนั่งฟังเหมือนกับทุก ๆ ท่านแหละครับ เพียงแต่มาลองคำนวณดูเล่น ๆ ถึงจุดสมดุล และความเป็นไปได้ของสิ่งต่าง ๆ ผมมักจะชอบคิดและเชื่อในสิ่งที่ต้องเห็นเป็นรูปธรรมอ่ะครับ เป้าหมายที่ผมมาโพสต์ ๆ อยู่ทุกวันก็คือ อยากเรียนบอกว่า "ผมยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่มันอาจจะเป็นไปตามวิถีที่มันควรจะเป็น ยอมรับในการตัดสินใจของคณะผู้บริหารโรงเรียน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องขึ้นกับความเป็นจริง เป็นเหตุเป็นผลของความเป็นไปได้ และผลลัพธ์สุดท้ายของการเปลี่ยนแปลงควรจะดีขึ้นหรือไม่แย่ไปกว่าเดิมครับ"

ป.ล. กับท่านผ.อ. ผมก็มีโอกาสเจอท่านบ่อยนะครับ (ช่วงก่อนที่จะมีการประชุมวันที่ 13 ก.พ.) เวลาผมไปรอรับลูกที่โรงเรียนตอนเย็น เวลาเจอท่านผมก็ไหว้ท่าน บางครั้งท่านก็แวะเข้ามาพูดคุย-ทักทายด้วย ผมยังเคยเสนอท่านเลยว่าเพลงที่เด็ก ๆ ร้องทุกอาทิตย์ ถ้าเอามาลงในเวปไซต์หรือเอกสารของโรงเรียน ก็จะดีผู้ปกครองจะได้ร้องเป็นด้วย

[tateto]

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ ผมมีตัวเลขให้คิดเล่น ๆ นะครับ เพราะผมก็พึ่งได้มาลองคิดเล่น ๆ เหมือนกันนะครับ

สมมติว่า ระดับอนุบาล เราต้องมีครูไทย 2 คน ต่างชาติอีก 1 คน ครูพี่เลี้ยงอีก 1 คน นักศึกษาปี 5 ฝึกสอนจาก cru อีก 1 คน รวม 5 คน รวมต้องจ้าง 4 คน (นศ.ฝึกสอนไม่ต้องจ้าง)

อนุบาลมี 6 ห้อง (อ.1-3) ต้องจ้าง 6 * 4 = 24 คน
แยกเป็น อัตราครูไทย ป.ตรี 12 คน
            ครูฟิลิปปินส์ 6 คน
            ครูพี่เลี้ยงวุฒิ ม.6 - ปวส. 6 คน

ระดับประถม เราต้องมีครูไทย 2 คน ต่างชาติอีก 1 คน นักศึกษาปี 5 ฝึกสอนจาก cru อีก 1 คน รวม 4 คน รวมต้องจ้าง 3 คน (นศ.ฝึกสอนไม่ต้องจ้าง)

ประถมมี 6 ห้อง (ป.1-3) ต้องจ้าง 6 * 3 = 18 คน
แยกเป็น อัตราครูไทย ป.ตรี 12 คน
            ครูฟิลิปปินส์ 6 คน

ยังต้องบวก ผอ. อีก 1, รอง อีก 1, หัวหน้างานวิชาการประถม อีก 1, หัวหน้างานวิชาการอนุบาล อีก 1 ครูพละ อีก 1, ครูสอนดนตรีอีก 1 , ครูสอนคอมพิวเตอร์อีก 1,  ครูสนับสนุนการสอน อีก 1, ครูการเงิน อีก 1, ครูธุรการ อีก 1, ครูห้องสมุด อีก 1 คน

รวมยอด ครูไทยตั้งแต่ ผอ.จนถึงครูผู้สอนทั้งหลาย 35 คน
ตัดข้าราชการออกไป 7 คน ตัดอัตราจ้างที่จ้างโดยเทศบาลไปอีก 7 คน คงเหลือที่โรงเรียนต้องจ้างเอง (อัตราจ้างเงินบำรุงการศึกษา) 35 - 7 - 7 = 21 คน
คิดเงินเดือน ป.ตรี + ค่าครองชีพเบ็ดเสร็จ เดือนละ 11,000 บาท ต่อคนต่อเดือน รวมทั้งปี 11,000 * 21 * 12 = 2,772,000 บาท

ครูฟิลิปปินส์ 12 คน รวมสวัสดิการคนละ 18,000 บาท ต่อคนต่อเดือน  รวมทั้งปี 18,000 * 12 * 12 = 2,592,000 บาท

ครูพี้เลี้ยงระดับอนุบาล 6 คน
ค่าจ้าง คนละ 7,500 บาท รวมต่อปี 7,500 * 6 * 12 = 540,000 บาท

ครูฝรั่ง 2 คน คนละ 30,000 บาท/เดือน ปีละ 720,000 บาท

แม่ครัว + พนักงานทำความสะอาด + คนขับรถ + ยาม = 6 คน
ค่าจ้าง คนละ 6,000 บาท รวมต่อปี 6,000 * 6 * 12 = 432,000 บาท  

รวมเฉพาะค่าจ้าง 2,772,000 + 2,592,000 + 540,000 + 720,000 + 432,000 = 7,056,000 บาท

ค่าอาหารกลางวัน + อาหารว่าง คนละ 2,000 บาท/เทอม ดังนั้นปีละ 2,000 * 2 * 450 = 1,800,000 บาท

รวมค่าใช้จ่าย 7,056,000 + 1,800,000 = 8,856,000 บาท

ค่าเรียน อนุบาล คนละ 9,000 + 8,000 = 17,000 บาท/คน/ปี
เด็กอนุบาลทุกชั้นมี 225 คน = 17,000 * 225 = 3,825,000 บาท

ค่าเรียนประถม คนละ 10,000 + 9,000 = 19,000 บาท/คน/ปี
เด็กประถมทุกชั้นมี 225 คน = 19,000 * 225 = 4,275,000 บาท

รวมรายได้บำรุงการศึกษาของโรงเรียนทั้งปี 3,825,000 + 4,275,000 = 8,100,000 บาท

สรุป จ่าย 8,856,000 บาท ต่อปี
       รับ 8,100,000 บาท ต่อปี

ป.ล. จริง ๆ โรงเรียน คงมีรายรับมากกว่านี้ เพราะได้เงินสนับสนุนค่าหัวจากต้นสังกัดอยู่ ซึ่งผมไม่รู้ว่าหัวละเท่าไหร่ แต่คาดว่าคงอีกไม่มาก และรายจ่ายอื่น ๆ เช่นค่าอาหารว่างผู้ปกครองเวลามาประชุมที่โรงเรียน ฯลฯ ผมยังไม่ได้คิดนะครับ ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัย เนื่องจากผมไม่ใช่นักบัญชีนะครับ

ผมเลยสงสัยว่าผอ. ไม่แจงตรงนี้ให้พวกเราทราบหรือเปล่า ปัญหาเลยคาราคาซังขนาดนี้ ผู้ปกครองท่านใด แม่นระเบียบงานพัสดุ งานการเงิน ลองมาช่วยผมแก้ตัวเลขอีกทีนะครับ

ข้อมูลของท่านลงลึกและค่อนข้างชัดเจน เอาเป็นว่าเสนอให้ผู้บริหารโรงเรียนไปเลยดีกว่าว่า ไอ้เจ้าเงินค่าบำรุงการศึกษาทั้งหมดที่เรียกเก็บจากผู้ปกครอง ให้นำมาเป็นค่าจ้างครู + ครูพี่เลี้ยงให้หมดเลย ส่วนสมุดหนังสือ แบบฝึก สื่อการเรียน สื่อนวัตกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงค่าวัสดุที่ต้องเอาจัดทำอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ต้องไปสนใจ เอาครูเยอะ ๆ เข้าไว้จะได้ถูกใจผู้ปกครอง อย่างนี้ดีไหมครับ

[tateto]

สาระ..อยู่ใหน..



คุยแบบคนไม่ปัญญา..ก็อย่าใช้ปัญญา..กับคนที่ต่ำปัญญา..
ใครที่พูดกับเรา..ด้วยสติปัญญา..ก็ต้องตอบเขาด้วยสติปัญญา..
                          แมงนูดนีด.ว่าไว้..

รับในความคิดเห็นในมุมมองที่ต่างบ้างก็ดีนะท่าน ... ตราชั่งจะได้ไม่เอียงมากจนเกินไป

[tateto]

สวัสดีค่ะทุกท่าน เหนื่อยเหลือเกินค่ะ ที่ได้ผอ. คนนี้คงช่วยกันเเก้น่าดู จำคำที่เค้าพูดได้เลย เค้าว่า วันนี้เป็นบุญ วาสนา ที่เรามาเจอกัน ฉันไมท่อยากเจอเธอ แต่เธอทำเกิดปัญหา เน้นเหลือเกิน ผอ.ๆๆๆๆทูกกคำ คงอยากเป็นมานาน เกาะขาเก้าอี้ดีๆนะค่ะ ทุกวันนี้สงสารคุณครู สงสารเด็กๆๆมากค่ะที่มาเจอคนแบบนี้ ดูคุณครูเเต่ลบะท่านหมองไปถนัดตาจริงๆ

หันกลับมามองดูตัวเองสักหน่อยนะ มองให้ลึกๆ ด้วย จะได้ไม่ต้องไปมองเห็นอะไรต่อมิอะไรของคนอื่นให้มากเกินความเป็นจริง

[tateto]

ว่าจะไปวัดเหมือนกัน แต่ไม่ทันละ สงสัยบาปจะหนาเกินไปหน่อย 

[AIT]

ลองมองเล่น ๆ ในมุมเดียวกันนะครับ ตัวเลขรับ-จ่ายที่ผมลองคำนวณดูเล่น ๆ ด้านบน ถ้าเป็นเอกชน จะมีโรงเรียนไหนกล้าทำบ้างมั้ยอ่ะครับ

[HAPPY2009]

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ ผมมีตัวเลขให้คิดเล่น ๆ นะครับ เพราะผมก็พึ่งได้มาลองคิดเล่น ๆ เหมือนกันนะครับ

สมมติว่า ระดับอนุบาล เราต้องมีครูไทย 2 คน ต่างชาติอีก 1 คน ครูพี่เลี้ยงอีก 1 คน นักศึกษาปี 5 ฝึกสอนจาก cru อีก 1 คน รวม 5 คน รวมต้องจ้าง 4 คน (นศ.ฝึกสอนไม่ต้องจ้าง)

อนุบาลมี 6 ห้อง (อ.1-3) ต้องจ้าง 6 * 4 = 24 คน
แยกเป็น อัตราครูไทย ป.ตรี 12 คน
            ครูฟิลิปปินส์ 6 คน
            ครูพี่เลี้ยงวุฒิ ม.6 - ปวส. 6 คน

ระดับประถม เราต้องมีครูไทย 2 คน ต่างชาติอีก 1 คน นักศึกษาปี 5 ฝึกสอนจาก cru อีก 1 คน รวม 4 คน รวมต้องจ้าง 3 คน (นศ.ฝึกสอนไม่ต้องจ้าง)

ประถมมี 6 ห้อง (ป.1-3) ต้องจ้าง 6 * 3 = 18 คน
แยกเป็น อัตราครูไทย ป.ตรี 12 คน
            ครูฟิลิปปินส์ 6 คน

ยังต้องบวก ผอ. อีก 1, รอง อีก 1, หัวหน้างานวิชาการประถม อีก 1, หัวหน้างานวิชาการอนุบาล อีก 1 ครูพละ อีก 1, ครูสอนดนตรีอีก 1 , ครูสอนคอมพิวเตอร์อีก 1,  ครูสนับสนุนการสอน อีก 1, ครูการเงิน อีก 1, ครูธุรการ อีก 1, ครูห้องสมุด อีก 1 คน

รวมยอด ครูไทยตั้งแต่ ผอ.จนถึงครูผู้สอนทั้งหลาย 35 คน
ตัดข้าราชการออกไป 7 คน ตัดอัตราจ้างที่จ้างโดยเทศบาลไปอีก 7 คน คงเหลือที่โรงเรียนต้องจ้างเอง (อัตราจ้างเงินบำรุงการศึกษา) 35 - 7 - 7 = 21 คน
คิดเงินเดือน ป.ตรี + ค่าครองชีพเบ็ดเสร็จ เดือนละ 11,000 บาท ต่อคนต่อเดือน รวมทั้งปี 11,000 * 21 * 12 = 2,772,000 บาท

ครูฟิลิปปินส์ 12 คน รวมสวัสดิการคนละ 18,000 บาท ต่อคนต่อเดือน  รวมทั้งปี 18,000 * 12 * 12 = 2,592,000 บาท

ครูพี้เลี้ยงระดับอนุบาล 6 คน
ค่าจ้าง คนละ 7,500 บาท รวมต่อปี 7,500 * 6 * 12 = 540,000 บาท

ครูฝรั่ง 2 คน คนละ 30,000 บาท/เดือน ปีละ 720,000 บาท

แม่ครัว + พนักงานทำความสะอาด + คนขับรถ + ยาม = 6 คน
ค่าจ้าง คนละ 6,000 บาท รวมต่อปี 6,000 * 6 * 12 = 432,000 บาท  

รวมเฉพาะค่าจ้าง 2,772,000 + 2,592,000 + 540,000 + 720,000 + 432,000 = 7,056,000 บาท

ค่าอาหารกลางวัน + อาหารว่าง คนละ 2,000 บาท/เทอม ดังนั้นปีละ 2,000 * 2 * 450 = 1,800,000 บาท

รวมค่าใช้จ่าย 7,056,000 + 1,800,000 = 8,856,000 บาท

ค่าเรียน อนุบาล คนละ 9,000 + 8,000 = 17,000 บาท/คน/ปี
เด็กอนุบาลทุกชั้นมี 225 คน = 17,000 * 225 = 3,825,000 บาท

ค่าเรียนประถม คนละ 10,000 + 9,000 = 19,000 บาท/คน/ปี
เด็กประถมทุกชั้นมี 225 คน = 19,000 * 225 = 4,275,000 บาท

รวมรายได้บำรุงการศึกษาของโรงเรียนทั้งปี 3,825,000 + 4,275,000 = 8,100,000 บาท

สรุป จ่าย 8,856,000 บาท ต่อปี
       รับ 8,100,000 บาท ต่อปี

ป.ล. จริง ๆ โรงเรียน คงมีรายรับมากกว่านี้ เพราะได้เงินสนับสนุนค่าหัวจากต้นสังกัดอยู่ ซึ่งผมไม่รู้ว่าหัวละเท่าไหร่ แต่คาดว่าคงอีกไม่มาก และรายจ่ายอื่น ๆ เช่นค่าอาหารว่างผู้ปกครองเวลามาประชุมที่โรงเรียน ฯลฯ ผมยังไม่ได้คิดนะครับ ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัย เนื่องจากผมไม่ใช่นักบัญชีนะครับ

ผมเลยสงสัยว่าผอ. ไม่แจงตรงนี้ให้พวกเราทราบหรือเปล่า ปัญหาเลยคาราคาซังขนาดนี้ ผู้ปกครองท่านใด แม่นระเบียบงานพัสดุ งานการเงิน ลองมาช่วยผมแก้ตัวเลขอีกทีนะครับ

ข้อมูลของท่านลงลึกและค่อนข้างชัดเจน เอาเป็นว่าเสนอให้ผู้บริหารโรงเรียนไปเลยดีกว่าว่า ไอ้เจ้าเงินค่าบำรุงการศึกษาทั้งหมดที่เรียกเก็บจากผู้ปกครอง ให้นำมาเป็นค่าจ้างครู + ครูพี่เลี้ยงให้หมดเลย ส่วนสมุดหนังสือ แบบฝึก สื่อการเรียน สื่อนวัตกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงค่าวัสดุที่ต้องเอาจัดทำอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ต้องไปสนใจ เอาครูเยอะ ๆ เข้าไว้จะได้ถูกใจผู้ปกครอง อย่างนี้ดีไหมครับ

เห็นด้วยครับ