เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 เมษายน 2024, 01:30:16
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  +++ส่งเสริมปลูกเผือก เดือน พ.ย - ธ.ค - ม.ค
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ... 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 [16] 17 18 19 20 21 พิมพ์
ผู้เขียน +++ส่งเสริมปลูกเผือก เดือน พ.ย - ธ.ค - ม.ค  (อ่าน 24269 ครั้ง)
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #300 เมื่อ: วันที่ 09 ธันวาคม 2014, 08:01:40 »

เผือกหอมเป็นพืชล้มลุก ต้นมีลักษณะคล้ายต้นบอน เรารู้จักเผือกกันมานาน เพราะเป็นพืชอาหารและสามารถกินเผือกแทนข้าวได้ ในยามขาดแคลนอาหารจำพวกแป้ง แต่ที่นิยมคือนำหัวเผือกมาทำขนมหวาน ทำได้หลายรูปหลายแบบ ขนมที่ทำจากเผือกมีรสชาดดี จึงทำให้มีคนนิยมรับประทานเผือกกันมาก จนเกษตรกรสามารถยึดอาชีพปลูกพืชเป็นอาชีพหลักได้ และหารายได้ให้แก่ผู้ปลูกมากพอสมควร
สำหรับเผือกหอม เป็นเผือกที่มีหัวใหญ่ น้ำหนักมาก ก้านใบใหญ่และมีสีเขียว เมื่อต้มสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม เกษตรกรสนใจปลูกเผือกหอมมากกว่าชนิดอื่นๆ เพราะขายได้ราคาดี

ทำเลและฤดูปลูก
         เผือกเป็นพืชต้องการน้ำมาก แหล่งที่ปลูกต้องมีน้ำ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ ซึ่ง ถ้าขาดน้ำเผือกจะหยุดการเติบโต ชอบดินร่วนปนทราย  ต้นเผือกชอบดินที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำดี น้ำไม่ขังเมื่อมีฝนตกชุก

ฤดูกาลปลูก
  เผือกหอมสามารถปลูกได้ทุกฤดูไม่จัด ขอแค่พื้นที่ต้องมีแหล่งน้ำรองรับ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ แต่สำหรับพื้นที่ ที่ไม่มีแหล่งน้ำก็สามารถปลูกได้ช่วงฤดูฝน

การเตรียมดินแปลงปลูก
ไถ พรวน เก็บหญ้าออกให้หมดแล้วยกร่องทำแปลงปลูก ยาวไปตามพื้นที่ดิน ให้แต่ละร่องอยู่ห่างกันประมาณ 80ซม.-1 ม. เพื่อให้เป็นทางระบายน้ำเมื่อฝนตกหนัก น้ำจะได้ไม่ขังบนแปลงปลูก แต่เนื่องจากดินในท้องที่เป็นดินเปรี้ยว หรือดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง เกษตรกรจึงควรแก้ความเป็นกรดด้วยการใส่หินปูน หรือปูนขาว คลุกเคล้าลงในดิน ขณะทำการไถพรวน ประมาณไร่ละ 500 กก. เพราะดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง ทำให้ต้นพืชไม่สามารถดูดอาหารและแร่ธาตุในดินไปหล่อเลี้ยงลำต้นได้ ถ้าปลูกไม่มากจะใช้ขี้เถ้าแทนปูนขาวก็ได้

การเก็บเกี่ยว
เผือกหอมมีอายุนับจากวันปลูกถึงวันเก็บเกี่ยวประมาณ 5– 6 เดือน เมื่อเผือกอายุใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ใบจะค่อยๆ เป็นสีเหลืองตั้งแต่ใบล่างขึ้นไปจนหลือใบตรงส่วนยอด 2-3 ใบ ก็แสดงว่าหัวเผือกแก่จัดชุดยอดขึ้นได้แล้ว    ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในดินนานกว่านี้น้ำหนักของหัวเผือกจะลดลง วิธีขุดใช้จอบฟันดิน หรือใช้เสียมขุดใกล้ต้นเผือกแล้วงัดต้นเผือกขุดกองรวมกันไว้ เมื่อขุดหมดแล้วจึงตามเก็บลูกเผือกหรือลูกซอที่หักออกจากหัวเผือกติดอยู่ในดิน ในบางท้องที่ที่ไม่มีการทำนา เกษตรกรที่ปลูกเผือกเพียงอย่างเดียวจะปล่อยลูกเผือกไว้ในดินก็ได้แล้วหาฟางหรือหญ้าคลุมดินไว้กันความร้อนจากแดด ซึ่งสามารถจะเก็บปลูกไว้ในดินได้นาน สำหรับทำพันธุ์ในการปลูกคราวต่อไป แต่ถ้ามีฝนตกลงมามากต้องเก็บลูกเผือกขึ้นจากดิน มิฉะนั้นจะเน่า และนำไปไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก
ต้นเผือกที่ขุดมาได้แล้วนี้ต้องนำมาลอกกาบแห้งๆ ออกตัดลูกเผือกไว้ต่างหาก ตัดรากและส่วนยอดทิ้งเหลือแต่หัวเผือก สำหรับลูกเผือกจะขายหรือเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อไปก็ได้ ในเนื่อที่ 1 ไร่จะได้ผลผลิตเผือกประมาณ 3,500 กก จน ถึง 10,000 กก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลแต่ละพื้นที่ การเอาใจใส่ดูแลรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช.



การปลูกเผือก   
- ต้องมีพันธ์ที่ดี   แหล่งที่มาต้องของพันธ์  ต้องเชื่อถือได้ (เพราะใช้เวลาในการปลูก นานจะเสียเวลา  ) 
- พื้นที่ปลูก  ดินต้องดี  น้ำต้องถึง
- การดูแล  ต้องมีความตั้งใจสูง
- มีเทคนิค การปลูก  มีประสบการณ์

ผู้ปลูกต้องศึกษา  เรื่องเผือก  ให้เข้าใจ 

ข้อมูลเพิ่มเติม  089-4343454     
 


มาดูที่ยโสธร  เขาทำกัน
http://www.youtube.com/watch?v=pHyQl7C_Gec

IP : 1.47.81.33
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #301 เมื่อ: วันที่ 11 ธันวาคม 2014, 08:32:20 »

089-4343454


* 10846633_479514388856041_1638317270_n.jpg (44.75 KB, 376x500 - ดู 662 ครั้ง.)

* 10846928_479514525522694_958963725_n.jpg (36.31 KB, 376x500 - ดู 654 ครั้ง.)

* 10822676_479514485522698_1980530507_n.jpg (40.39 KB, 500x376 - ดู 653 ครั้ง.)

* 10818934_479514452189368_1977952946_n.jpg (33.09 KB, 500x376 - ดู 648 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #302 เมื่อ: วันที่ 14 ธันวาคม 2014, 18:35:00 »

เผือกหอมเป็นพืชล้มลุก ต้นมีลักษณะคล้ายต้นบอน เรารู้จักเผือกกันมานาน เพราะเป็นพืชอาหารและสามารถกินเผือกแทนข้าวได้ ในยามขาดแคลนอาหารจำพวกแป้ง แต่ที่นิยมคือนำหัวเผือกมาทำขนมหวาน ทำได้หลายรูปหลายแบบ ขนมที่ทำจากเผือกมีรสชาดดี จึงทำให้มีคนนิยมรับประทานเผือกกันมาก จนเกษตรกรสามารถยึดอาชีพปลูกพืชเป็นอาชีพหลักได้ และหารายได้ให้แก่ผู้ปลูกมากพอสมควร
สำหรับเผือกหอม เป็นเผือกที่มีหัวใหญ่ น้ำหนักมาก ก้านใบใหญ่และมีสีเขียว เมื่อต้มสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม เกษตรกรสนใจปลูกเผือกหอมมากกว่าชนิดอื่นๆ เพราะขายได้ราคาดี

ทำเลและฤดูปลูก
         เผือกเป็นพืชต้องการน้ำมาก แหล่งที่ปลูกต้องมีน้ำ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ ซึ่ง ถ้าขาดน้ำเผือกจะหยุดการเติบโต ชอบดินร่วนปนทราย  ต้นเผือกชอบดินที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำดี น้ำไม่ขังเมื่อมีฝนตกชุก

ฤดูกาลปลูก
  เผือกหอมสามารถปลูกได้ทุกฤดูไม่จัด ขอแค่พื้นที่ต้องมีแหล่งน้ำรองรับ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ แต่สำหรับพื้นที่ ที่ไม่มีแหล่งน้ำก็สามารถปลูกได้ช่วงฤดูฝน

การเตรียมดินแปลงปลูก
ไถ พรวน เก็บหญ้าออกให้หมดแล้วยกร่องทำแปลงปลูก ยาวไปตามพื้นที่ดิน ให้แต่ละร่องอยู่ห่างกันประมาณ 80ซม.-1 ม. เพื่อให้เป็นทางระบายน้ำเมื่อฝนตกหนัก น้ำจะได้ไม่ขังบนแปลงปลูก แต่เนื่องจากดินในท้องที่เป็นดินเปรี้ยว หรือดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง เกษตรกรจึงควรแก้ความเป็นกรดด้วยการใส่หินปูน หรือปูนขาว คลุกเคล้าลงในดิน ขณะทำการไถพรวน ประมาณไร่ละ 500 กก. เพราะดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง ทำให้ต้นพืชไม่สามารถดูดอาหารและแร่ธาตุในดินไปหล่อเลี้ยงลำต้นได้ ถ้าปลูกไม่มากจะใช้ขี้เถ้าแทนปูนขาวก็ได้

การเก็บเกี่ยว
เผือกหอมมีอายุนับจากวันปลูกถึงวันเก็บเกี่ยวประมาณ 5– 6 เดือน เมื่อเผือกอายุใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ใบจะค่อยๆ เป็นสีเหลืองตั้งแต่ใบล่างขึ้นไปจนหลือใบตรงส่วนยอด 2-3 ใบ ก็แสดงว่าหัวเผือกแก่จัดชุดยอดขึ้นได้แล้ว    ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในดินนานกว่านี้น้ำหนักของหัวเผือกจะลดลง วิธีขุดใช้จอบฟันดิน หรือใช้เสียมขุดใกล้ต้นเผือกแล้วงัดต้นเผือกขุดกองรวมกันไว้ เมื่อขุดหมดแล้วจึงตามเก็บลูกเผือกหรือลูกซอที่หักออกจากหัวเผือกติดอยู่ในดิน ในบางท้องที่ที่ไม่มีการทำนา เกษตรกรที่ปลูกเผือกเพียงอย่างเดียวจะปล่อยลูกเผือกไว้ในดินก็ได้แล้วหาฟางหรือหญ้าคลุมดินไว้กันความร้อนจากแดด ซึ่งสามารถจะเก็บปลูกไว้ในดินได้นาน สำหรับทำพันธุ์ในการปลูกคราวต่อไป แต่ถ้ามีฝนตกลงมามากต้องเก็บลูกเผือกขึ้นจากดิน มิฉะนั้นจะเน่า และนำไปไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก
ต้นเผือกที่ขุดมาได้แล้วนี้ต้องนำมาลอกกาบแห้งๆ ออกตัดลูกเผือกไว้ต่างหาก ตัดรากและส่วนยอดทิ้งเหลือแต่หัวเผือก สำหรับลูกเผือกจะขายหรือเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อไปก็ได้ ในเนื่อที่ 1 ไร่จะได้ผลผลิตเผือกประมาณ 3,500 กก จน ถึง 10,000 กก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลแต่ละพื้นที่ การเอาใจใส่ดูแลรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช.



การปลูกเผือก   
- ต้องมีพันธ์ที่ดี   แหล่งที่มาต้องของพันธ์  ต้องเชื่อถือได้ (เพราะใช้เวลาในการปลูก นานจะเสียเวลา  ) 
- พื้นที่ปลูก  ดินต้องดี  น้ำต้องถึง
- การดูแล  ต้องมีความตั้งใจสูง
- มีเทคนิค การปลูก  มีประสบการณ์

ผู้ปลูกต้องศึกษา  เรื่องเผือก  ให้เข้าใจ 

ข้อมูลเพิ่มเติม  089-4343454     
 


มาดูที่ยโสธร  เขาทำกัน
http://www.youtube.com/watch?v=pHyQl7C_Gec

IP : 1.47.81.33
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #303 เมื่อ: วันที่ 16 ธันวาคม 2014, 21:54:08 »



กระทู้: 382


    
Re: +++ส่งเสริมปลูกเผือก เดือน พ.ย - ธ.ค - ม.ค
« ตอบ #302 เมื่อ: วันที่ 14 ธันวาคม 2014, 18:35:00 »   ตอบโดยอ้างถึงข้อความ  แก้ไขข้อความ
เผือกหอมเป็นพืชล้มลุก ต้นมีลักษณะคล้ายต้นบอน เรารู้จักเผือกกันมานาน เพราะเป็นพืชอาหารและสามารถกินเผือกแทนข้าวได้ ในยามขาดแคลนอาหารจำพวกแป้ง แต่ที่นิยมคือนำหัวเผือกมาทำขนมหวาน ทำได้หลายรูปหลายแบบ ขนมที่ทำจากเผือกมีรสชาดดี จึงทำให้มีคนนิยมรับประทานเผือกกันมาก จนเกษตรกรสามารถยึดอาชีพปลูกพืชเป็นอาชีพหลักได้ และหารายได้ให้แก่ผู้ปลูกมากพอสมควร
สำหรับเผือกหอม เป็นเผือกที่มีหัวใหญ่ น้ำหนักมาก ก้านใบใหญ่และมีสีเขียว เมื่อต้มสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม เกษตรกรสนใจปลูกเผือกหอมมากกว่าชนิดอื่นๆ เพราะขายได้ราคาดี

ทำเลและฤดูปลูก
         เผือกเป็นพืชต้องการน้ำมาก แหล่งที่ปลูกต้องมีน้ำ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ ซึ่ง ถ้าขาดน้ำเผือกจะหยุดการเติบโต ชอบดินร่วนปนทราย  ต้นเผือกชอบดินที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำดี น้ำไม่ขังเมื่อมีฝนตกชุก

ฤดูกาลปลูก
  เผือกหอมสามารถปลูกได้ทุกฤดูไม่จัด ขอแค่พื้นที่ต้องมีแหล่งน้ำรองรับ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ แต่สำหรับพื้นที่ ที่ไม่มีแหล่งน้ำก็สามารถปลูกได้ช่วงฤดูฝน

การเตรียมดินแปลงปลูก
ไถ พรวน เก็บหญ้าออกให้หมดแล้วยกร่องทำแปลงปลูก ยาวไปตามพื้นที่ดิน ให้แต่ละร่องอยู่ห่างกันประมาณ 80ซม.-1 ม. เพื่อให้เป็นทางระบายน้ำเมื่อฝนตกหนัก น้ำจะได้ไม่ขังบนแปลงปลูก แต่เนื่องจากดินในท้องที่เป็นดินเปรี้ยว หรือดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง เกษตรกรจึงควรแก้ความเป็นกรดด้วยการใส่หินปูน หรือปูนขาว คลุกเคล้าลงในดิน ขณะทำการไถพรวน ประมาณไร่ละ 500 กก. เพราะดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง ทำให้ต้นพืชไม่สามารถดูดอาหารและแร่ธาตุในดินไปหล่อเลี้ยงลำต้นได้ ถ้าปลูกไม่มากจะใช้ขี้เถ้าแทนปูนขาวก็ได้

การเก็บเกี่ยว
เผือกหอมมีอายุนับจากวันปลูกถึงวันเก็บเกี่ยวประมาณ 5– 6 เดือน เมื่อเผือกอายุใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ใบจะค่อยๆ เป็นสีเหลืองตั้งแต่ใบล่างขึ้นไปจนหลือใบตรงส่วนยอด 2-3 ใบ ก็แสดงว่าหัวเผือกแก่จัดชุดยอดขึ้นได้แล้ว    ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในดินนานกว่านี้น้ำหนักของหัวเผือกจะลดลง วิธีขุดใช้จอบฟันดิน หรือใช้เสียมขุดใกล้ต้นเผือกแล้วงัดต้นเผือกขุดกองรวมกันไว้ เมื่อขุดหมดแล้วจึงตามเก็บลูกเผือกหรือลูกซอที่หักออกจากหัวเผือกติดอยู่ในดิน ในบางท้องที่ที่ไม่มีการทำนา เกษตรกรที่ปลูกเผือกเพียงอย่างเดียวจะปล่อยลูกเผือกไว้ในดินก็ได้แล้วหาฟางหรือหญ้าคลุมดินไว้กันความร้อนจากแดด ซึ่งสามารถจะเก็บปลูกไว้ในดินได้นาน สำหรับทำพันธุ์ในการปลูกคราวต่อไป แต่ถ้ามีฝนตกลงมามากต้องเก็บลูกเผือกขึ้นจากดิน มิฉะนั้นจะเน่า และนำไปไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก
ต้นเผือกที่ขุดมาได้แล้วนี้ต้องนำมาลอกกาบแห้งๆ ออกตัดลูกเผือกไว้ต่างหาก ตัดรากและส่วนยอดทิ้งเหลือแต่หัวเผือก สำหรับลูกเผือกจะขายหรือเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อไปก็ได้ ในเนื่อที่ 1 ไร่จะได้ผลผลิตเผือกประมาณ 3,500 กก จน ถึง 10,000 กก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลแต่ละพื้นที่ การเอาใจใส่ดูแลรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช.



การปลูกเผือก   
- ต้องมีพันธ์ที่ดี   แหล่งที่มาต้องของพันธ์  ต้องเชื่อถือได้ (เพราะใช้เวลาในการปลูก นานจะเสียเวลา  ) 
- พื้นที่ปลูก  ดินต้องดี  น้ำต้องถึง
- การดูแล  ต้องมีความตั้งใจสูง
- มีเทคนิค การปลูก  มีประสบการณ์

ผู้ปลูกต้องศึกษา  เรื่องเผือก  ให้เข้าใจ 

ข้อมูลเพิ่มเติม  089-4343454     
 


มาดูที่ยโสธร  เขาทำกัน
http://www.youtube.com/watch?v=pHyQl7C_Gec

IP : 1.47.81.33
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #304 เมื่อ: วันที่ 18 ธันวาคม 2014, 20:56:19 »

กระทู้: 382


   
Re: +++ส่งเสริมปลูกเผือก เดือน พ.ย - ธ.ค - ม.ค
« ตอบ #302 เมื่อ: วันที่ 14 ธันวาคม 2014, 18:35:00 »   ตอบโดยอ้างถึงข้อความ  แก้ไขข้อความ
เผือกหอมเป็นพืชล้มลุก ต้นมีลักษณะคล้ายต้นบอน เรารู้จักเผือกกันมานาน เพราะเป็นพืชอาหารและสามารถกินเผือกแทนข้าวได้ ในยามขาดแคลนอาหารจำพวกแป้ง แต่ที่นิยมคือนำหัวเผือกมาทำขนมหวาน ทำได้หลายรูปหลายแบบ ขนมที่ทำจากเผือกมีรสชาดดี จึงทำให้มีคนนิยมรับประทานเผือกกันมาก จนเกษตรกรสามารถยึดอาชีพปลูกพืชเป็นอาชีพหลักได้ และหารายได้ให้แก่ผู้ปลูกมากพอสมควร
สำหรับเผือกหอม เป็นเผือกที่มีหัวใหญ่ น้ำหนักมาก ก้านใบใหญ่และมีสีเขียว เมื่อต้มสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม เกษตรกรสนใจปลูกเผือกหอมมากกว่าชนิดอื่นๆ เพราะขายได้ราคาดี

ทำเลและฤดูปลูก
         เผือกเป็นพืชต้องการน้ำมาก แหล่งที่ปลูกต้องมีน้ำ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ ซึ่ง ถ้าขาดน้ำเผือกจะหยุดการเติบโต ชอบดินร่วนปนทราย  ต้นเผือกชอบดินที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำดี น้ำไม่ขังเมื่อมีฝนตกชุก

ฤดูกาลปลูก
  เผือกหอมสามารถปลูกได้ทุกฤดูไม่จัด ขอแค่พื้นที่ต้องมีแหล่งน้ำรองรับ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ แต่สำหรับพื้นที่ ที่ไม่มีแหล่งน้ำก็สามารถปลูกได้ช่วงฤดูฝน

การเตรียมดินแปลงปลูก
ไถ พรวน เก็บหญ้าออกให้หมดแล้วยกร่องทำแปลงปลูก ยาวไปตามพื้นที่ดิน ให้แต่ละร่องอยู่ห่างกันประมาณ 80ซม.-1 ม. เพื่อให้เป็นทางระบายน้ำเมื่อฝนตกหนัก น้ำจะได้ไม่ขังบนแปลงปลูก แต่เนื่องจากดินในท้องที่เป็นดินเปรี้ยว หรือดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง เกษตรกรจึงควรแก้ความเป็นกรดด้วยการใส่หินปูน หรือปูนขาว คลุกเคล้าลงในดิน ขณะทำการไถพรวน ประมาณไร่ละ 500 กก. เพราะดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง ทำให้ต้นพืชไม่สามารถดูดอาหารและแร่ธาตุในดินไปหล่อเลี้ยงลำต้นได้ ถ้าปลูกไม่มากจะใช้ขี้เถ้าแทนปูนขาวก็ได้

การเก็บเกี่ยว
เผือกหอมมีอายุนับจากวันปลูกถึงวันเก็บเกี่ยวประมาณ 5– 6 เดือน เมื่อเผือกอายุใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ใบจะค่อยๆ เป็นสีเหลืองตั้งแต่ใบล่างขึ้นไปจนหลือใบตรงส่วนยอด 2-3 ใบ ก็แสดงว่าหัวเผือกแก่จัดชุดยอดขึ้นได้แล้ว    ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในดินนานกว่านี้น้ำหนักของหัวเผือกจะลดลง วิธีขุดใช้จอบฟันดิน หรือใช้เสียมขุดใกล้ต้นเผือกแล้วงัดต้นเผือกขุดกองรวมกันไว้ เมื่อขุดหมดแล้วจึงตามเก็บลูกเผือกหรือลูกซอที่หักออกจากหัวเผือกติดอยู่ในดิน ในบางท้องที่ที่ไม่มีการทำนา เกษตรกรที่ปลูกเผือกเพียงอย่างเดียวจะปล่อยลูกเผือกไว้ในดินก็ได้แล้วหาฟางหรือหญ้าคลุมดินไว้กันความร้อนจากแดด ซึ่งสามารถจะเก็บปลูกไว้ในดินได้นาน สำหรับทำพันธุ์ในการปลูกคราวต่อไป แต่ถ้ามีฝนตกลงมามากต้องเก็บลูกเผือกขึ้นจากดิน มิฉะนั้นจะเน่า และนำไปไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก
ต้นเผือกที่ขุดมาได้แล้วนี้ต้องนำมาลอกกาบแห้งๆ ออกตัดลูกเผือกไว้ต่างหาก ตัดรากและส่วนยอดทิ้งเหลือแต่หัวเผือก สำหรับลูกเผือกจะขายหรือเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อไปก็ได้ ในเนื่อที่ 1 ไร่จะได้ผลผลิตเผือกประมาณ 3,500 กก จน ถึง 10,000 กก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลแต่ละพื้นที่ การเอาใจใส่ดูแลรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช.



การปลูกเผือก   
- ต้องมีพันธ์ที่ดี   แหล่งที่มาต้องของพันธ์  ต้องเชื่อถือได้ (เพราะใช้เวลาในการปลูก นานจะเสียเวลา  ) 
- พื้นที่ปลูก  ดินต้องดี  น้ำต้องถึง
- การดูแล  ต้องมีความตั้งใจสูง
- มีเทคนิค การปลูก  มีประสบการณ์

ผู้ปลูกต้องศึกษา  เรื่องเผือก  ให้เข้าใจ 

ข้อมูลเพิ่มเติม  089-4343454     
 


มาดูที่ยโสธร  เขาทำกัน
http://www.youtube.com/watch?v=pHyQl7C_Gec

IP : 1.47.81.33
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #305 เมื่อ: วันที่ 21 ธันวาคม 2014, 11:17:12 »

Re: +++ส่งเสริมปลูกเผือก เดือน พ.ย - ธ.ค - ม.ค
« ตอบ #302 เมื่อ: วันที่ 14 ธันวาคม 2014, 18:35:00 »   ตอบโดยอ้างถึงข้อความ  แก้ไขข้อความ
เผือกหอมเป็นพืชล้มลุก ต้นมีลักษณะคล้ายต้นบอน เรารู้จักเผือกกันมานาน เพราะเป็นพืชอาหารและสามารถกินเผือกแทนข้าวได้ ในยามขาดแคลนอาหารจำพวกแป้ง แต่ที่นิยมคือนำหัวเผือกมาทำขนมหวาน ทำได้หลายรูปหลายแบบ ขนมที่ทำจากเผือกมีรสชาดดี จึงทำให้มีคนนิยมรับประทานเผือกกันมาก จนเกษตรกรสามารถยึดอาชีพปลูกพืชเป็นอาชีพหลักได้ และหารายได้ให้แก่ผู้ปลูกมากพอสมควร
สำหรับเผือกหอม เป็นเผือกที่มีหัวใหญ่ น้ำหนักมาก ก้านใบใหญ่และมีสีเขียว เมื่อต้มสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม เกษตรกรสนใจปลูกเผือกหอมมากกว่าชนิดอื่นๆ เพราะขายได้ราคาดี

ทำเลและฤดูปลูก
         เผือกเป็นพืชต้องการน้ำมาก แหล่งที่ปลูกต้องมีน้ำ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ ซึ่ง ถ้าขาดน้ำเผือกจะหยุดการเติบโต ชอบดินร่วนปนทราย  ต้นเผือกชอบดินที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำดี น้ำไม่ขังเมื่อมีฝนตกชุก

ฤดูกาลปลูก
  เผือกหอมสามารถปลูกได้ทุกฤดูไม่จัด ขอแค่พื้นที่ต้องมีแหล่งน้ำรองรับ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ แต่สำหรับพื้นที่ ที่ไม่มีแหล่งน้ำก็สามารถปลูกได้ช่วงฤดูฝน

การเตรียมดินแปลงปลูก
ไถ พรวน เก็บหญ้าออกให้หมดแล้วยกร่องทำแปลงปลูก ยาวไปตามพื้นที่ดิน ให้แต่ละร่องอยู่ห่างกันประมาณ 80ซม.-1 ม. เพื่อให้เป็นทางระบายน้ำเมื่อฝนตกหนัก น้ำจะได้ไม่ขังบนแปลงปลูก แต่เนื่องจากดินในท้องที่เป็นดินเปรี้ยว หรือดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง เกษตรกรจึงควรแก้ความเป็นกรดด้วยการใส่หินปูน หรือปูนขาว คลุกเคล้าลงในดิน ขณะทำการไถพรวน ประมาณไร่ละ 500 กก. เพราะดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง ทำให้ต้นพืชไม่สามารถดูดอาหารและแร่ธาตุในดินไปหล่อเลี้ยงลำต้นได้ ถ้าปลูกไม่มากจะใช้ขี้เถ้าแทนปูนขาวก็ได้

การเก็บเกี่ยว
เผือกหอมมีอายุนับจากวันปลูกถึงวันเก็บเกี่ยวประมาณ 5– 6 เดือน เมื่อเผือกอายุใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ใบจะค่อยๆ เป็นสีเหลืองตั้งแต่ใบล่างขึ้นไปจนหลือใบตรงส่วนยอด 2-3 ใบ ก็แสดงว่าหัวเผือกแก่จัดชุดยอดขึ้นได้แล้ว    ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในดินนานกว่านี้น้ำหนักของหัวเผือกจะลดลง วิธีขุดใช้จอบฟันดิน หรือใช้เสียมขุดใกล้ต้นเผือกแล้วงัดต้นเผือกขุดกองรวมกันไว้ เมื่อขุดหมดแล้วจึงตามเก็บลูกเผือกหรือลูกซอที่หักออกจากหัวเผือกติดอยู่ในดิน ในบางท้องที่ที่ไม่มีการทำนา เกษตรกรที่ปลูกเผือกเพียงอย่างเดียวจะปล่อยลูกเผือกไว้ในดินก็ได้แล้วหาฟางหรือหญ้าคลุมดินไว้กันความร้อนจากแดด ซึ่งสามารถจะเก็บปลูกไว้ในดินได้นาน สำหรับทำพันธุ์ในการปลูกคราวต่อไป แต่ถ้ามีฝนตกลงมามากต้องเก็บลูกเผือกขึ้นจากดิน มิฉะนั้นจะเน่า และนำไปไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก
ต้นเผือกที่ขุดมาได้แล้วนี้ต้องนำมาลอกกาบแห้งๆ ออกตัดลูกเผือกไว้ต่างหาก ตัดรากและส่วนยอดทิ้งเหลือแต่หัวเผือก สำหรับลูกเผือกจะขายหรือเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อไปก็ได้ ในเนื่อที่ 1 ไร่จะได้ผลผลิตเผือกประมาณ 3,500 กก จน ถึง 10,000 กก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลแต่ละพื้นที่ การเอาใจใส่ดูแลรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช.



การปลูกเผือก   
- ต้องมีพันธ์ที่ดี   แหล่งที่มาต้องของพันธ์  ต้องเชื่อถือได้ (เพราะใช้เวลาในการปลูก นานจะเสียเวลา  ) 
- พื้นที่ปลูก  ดินต้องดี  น้ำต้องถึง
- การดูแล  ต้องมีความตั้งใจสูง
- มีเทคนิค การปลูก  มีประสบการณ์

ผู้ปลูกต้องศึกษา  เรื่องเผือก  ให้เข้าใจ 

ข้อมูลเพิ่มเติม  089-4343454     
 


มาดูที่ยโสธร  เขาทำกัน
http://www.youtube.com/watch?v=pHyQl7C_Gec

IP : 1.47.81.33
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #306 เมื่อ: วันที่ 29 ธันวาคม 2014, 09:25:57 »

มาดูที่ยโสธร  เขาทำกัน
http://www.youtube.com/watch?v=pHyQl7C_Gec

IP : 1.47.81.33
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #307 เมื่อ: วันที่ 06 มกราคม 2015, 19:32:19 »

มาดูที่ยโสธร  เขาทำกัน
http://www.youtube.com/watch?v=pHyQl7C_Gec

IP : 1.47.81.33
IP : บันทึกการเข้า
1 Singha
คิดบวกเอาไว้ คือการเข้าใจโลก
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 950

เรื่องของความจริง มันมีกระบวนการ บอกรายละเอียด และ


« ตอบ #308 เมื่อ: วันที่ 07 มกราคม 2015, 00:20:19 »

Re: +++ส่งเสริมปลูกเผือก เดือน พ.ย - ธ.ค - ม.ค
« ตอบ #302 เมื่อ: วันที่ 14 ธันวาคม 2014, 18:35:00 »   ตอบโดยอ้างถึงข้อความ  แก้ไขข้อความ
เผือกหอมเป็นพืชล้มลุก ต้นมีลักษณะคล้ายต้นบอน เรารู้จักเผือกกันมานาน เพราะเป็นพืชอาหารและสามารถกินเผือกแทนข้าวได้ ในยามขาดแคลนอาหารจำพวกแป้ง แต่ที่นิยมคือนำหัวเผือกมาทำขนมหวาน ทำได้หลายรูปหลายแบบ ขนมที่ทำจากเผือกมีรสชาดดี จึงทำให้มีคนนิยมรับประทานเผือกกันมาก จนเกษตรกรสามารถยึดอาชีพปลูกพืชเป็นอาชีพหลักได้ และหารายได้ให้แก่ผู้ปลูกมากพอสมควร
สำหรับเผือกหอม เป็นเผือกที่มีหัวใหญ่ น้ำหนักมาก ก้านใบใหญ่และมีสีเขียว เมื่อต้มสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม เกษตรกรสนใจปลูกเผือกหอมมากกว่าชนิดอื่นๆ เพราะขายได้ราคาดี

ทำเลและฤดูปลูก
         เผือกเป็นพืชต้องการน้ำมาก แหล่งที่ปลูกต้องมีน้ำ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ ซึ่ง ถ้าขาดน้ำเผือกจะหยุดการเติบโต ชอบดินร่วนปนทราย  ต้นเผือกชอบดินที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำดี น้ำไม่ขังเมื่อมีฝนตกชุก

ฤดูกาลปลูก
  เผือกหอมสามารถปลูกได้ทุกฤดูไม่จัด ขอแค่พื้นที่ต้องมีแหล่งน้ำรองรับ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ แต่สำหรับพื้นที่ ที่ไม่มีแหล่งน้ำก็สามารถปลูกได้ช่วงฤดูฝน

การเตรียมดินแปลงปลูก
ไถ พรวน เก็บหญ้าออกให้หมดแล้วยกร่องทำแปลงปลูก ยาวไปตามพื้นที่ดิน ให้แต่ละร่องอยู่ห่างกันประมาณ 80ซม.-1 ม. เพื่อให้เป็นทางระบายน้ำเมื่อฝนตกหนัก น้ำจะได้ไม่ขังบนแปลงปลูก แต่เนื่องจากดินในท้องที่เป็นดินเปรี้ยว หรือดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง เกษตรกรจึงควรแก้ความเป็นกรดด้วยการใส่หินปูน หรือปูนขาว คลุกเคล้าลงในดิน ขณะทำการไถพรวน ประมาณไร่ละ 500 กก. เพราะดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง ทำให้ต้นพืชไม่สามารถดูดอาหารและแร่ธาตุในดินไปหล่อเลี้ยงลำต้นได้ ถ้าปลูกไม่มากจะใช้ขี้เถ้าแทนปูนขาวก็ได้

การเก็บเกี่ยว
เผือกหอมมีอายุนับจากวันปลูกถึงวันเก็บเกี่ยวประมาณ 5– 6 เดือน เมื่อเผือกอายุใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ใบจะค่อยๆ เป็นสีเหลืองตั้งแต่ใบล่างขึ้นไปจนหลือใบตรงส่วนยอด 2-3 ใบ ก็แสดงว่าหัวเผือกแก่จัดชุดยอดขึ้นได้แล้ว    ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในดินนานกว่านี้น้ำหนักของหัวเผือกจะลดลง วิธีขุดใช้จอบฟันดิน หรือใช้เสียมขุดใกล้ต้นเผือกแล้วงัดต้นเผือกขุดกองรวมกันไว้ เมื่อขุดหมดแล้วจึงตามเก็บลูกเผือกหรือลูกซอที่หักออกจากหัวเผือกติดอยู่ในดิน ในบางท้องที่ที่ไม่มีการทำนา เกษตรกรที่ปลูกเผือกเพียงอย่างเดียวจะปล่อยลูกเผือกไว้ในดินก็ได้แล้วหาฟางหรือหญ้าคลุมดินไว้กันความร้อนจากแดด ซึ่งสามารถจะเก็บปลูกไว้ในดินได้นาน สำหรับทำพันธุ์ในการปลูกคราวต่อไป แต่ถ้ามีฝนตกลงมามากต้องเก็บลูกเผือกขึ้นจากดิน มิฉะนั้นจะเน่า และนำไปไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก
ต้นเผือกที่ขุดมาได้แล้วนี้ต้องนำมาลอกกาบแห้งๆ ออกตัดลูกเผือกไว้ต่างหาก ตัดรากและส่วนยอดทิ้งเหลือแต่หัวเผือก สำหรับลูกเผือกจะขายหรือเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อไปก็ได้ ในเนื่อที่ 1 ไร่จะได้ผลผลิตเผือกประมาณ 3,500 กก จน ถึง 10,000 กก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลแต่ละพื้นที่ การเอาใจใส่ดูแลรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช.



การปลูกเผือก   
- ต้องมีพันธ์ที่ดี   แหล่งที่มาต้องของพันธ์  ต้องเชื่อถือได้ (เพราะใช้เวลาในการปลูก นานจะเสียเวลา  ) 
- พื้นที่ปลูก  ดินต้องดี  น้ำต้องถึง
- การดูแล  ต้องมีความตั้งใจสูง
- มีเทคนิค การปลูก  มีประสบการณ์

ผู้ปลูกต้องศึกษา  เรื่องเผือก  ให้เข้าใจ 

ข้อมูลเพิ่มเติม  089-4343454     
 


มาดูที่ยโสธร  เขาทำกัน
http://www.youtube.com/watch?v=pHyQl7C_Gec

IP : 1.47.81.33
IP : บันทึกการเข้า

Say the truth even it lead to death.
1 Singha
คิดบวกเอาไว้ คือการเข้าใจโลก
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 950

เรื่องของความจริง มันมีกระบวนการ บอกรายละเอียด และ


« ตอบ #309 เมื่อ: วันที่ 07 มกราคม 2015, 00:28:59 »

 ยิงฟันยิ้ม ;Dว่าเงื่อนไขมาเลยดีกว่าอาจารย์ คนสนใจมีเยอะครับ ถ้าเคลียและจริงใจป่านนี้ไม่ต้องเสียหน้ากระดานโพสท์หรอกครับ ล้นโควต้านานแล้วละครับ มวยดีไม่จำเป็นไหว้ครูสวยหรอกครับ, ผมขอเงื่อนไขครับ ได้ข่าวว่ามีหลายแบบ pm.มาก็ได้ครับ (ไม่ได้มาfooty.) แบบจริงใจใส่กันดีกว่าครับ บรรยากาศจะได้สดใส ) เศร้า ตกใจ ตกใจ
IP : บันทึกการเข้า

Say the truth even it lead to death.
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #310 เมื่อ: วันที่ 07 มกราคม 2015, 08:03:01 »

 ยิ้มกว้างๆ


* 10805100_470419103098903_364890319_n.jpg (133.9 KB, 720x960 - ดู 501 ครั้ง.)

* 10816000_470419116432235_826301360_n.jpg (130.58 KB, 852x640 - ดู 511 ครั้ง.)

* 10819063_475182962622517_1298373356_n (1).jpg (49.52 KB, 500x376 - ดู 493 ครั้ง.)

* 10708344_451061795034634_1772755631_n.jpg (109.75 KB, 960x720 - ดู 496 ครั้ง.)

* 10406576_368044636702108_3176532228197280521_n.jpg (108.63 KB, 960x720 - ดู 495 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #311 เมื่อ: วันที่ 08 มกราคม 2015, 19:53:34 »

มาดูที่ยโสธร  เขาทำกัน
http://www.youtube.com/watch?v=pHyQl7C_Gec

IP : 1.47.81.33
IP : บันทึกการเข้า
komsan_puy
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104


« ตอบ #312 เมื่อ: วันที่ 15 มกราคม 2015, 10:50:09 »

ใกล้ขุดขายแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 15 มกราคม 2015, 19:36:34 โดย komsan_puy » IP : บันทึกการเข้า
tiwmycom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 337



« ตอบ #313 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2015, 23:06:57 »

อาจารย์ ครับ เผือกที่ผมปลูกมันไม่เป็นไปตามต้องการ อาจารย์จะช่วยผมตาม เงื่อนไขสัญญาญ แต่ทำไมอาจารย์เงียบหายไปเลยนะครับ เบอร์โทรที่บ้านผม 3-4 เบอร์โรเข้าหาเบอร์จานไม่ติดแล้วนะครับจะให้ผมรอไปถึงไหนจริงใจต่อกันหน่อยดิครับผมก็เครียดมากๆ
IP : บันทึกการเข้า
June
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 180


« ตอบ #314 เมื่อ: วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2015, 13:55:12 »

สนใจค่ะ...ว่าแต่ ติดต่อเจ้าของกระทู้ไม่ได้ ทำไงดี
IP : บันทึกการเข้า
1 Singha
คิดบวกเอาไว้ คือการเข้าใจโลก
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 950

เรื่องของความจริง มันมีกระบวนการ บอกรายละเอียด และ


« ตอบ #315 เมื่อ: วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2015, 19:11:59 »

รำมวยงาม(ไหว้ครูสวย)  ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ไไม้ต้องเครียดครับ เดี๋ยวจานก็มา ฮืม
IP : บันทึกการเข้า

Say the truth even it lead to death.
GIM
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 113


« ตอบ #316 เมื่อ: วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2015, 10:56:12 »

ใครมีเทคนิคการดูแลหรือมีประสบการณ์แชร์ข้อมูลได้นะครับ
IP : บันทึกการเข้า
dokkaew20
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,301


« ตอบ #317 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2015, 16:38:31 »

 ร้องไห้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2015, 18:10:53 โดย dokkaew20 » IP : บันทึกการเข้า
kaikon
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 886



« ตอบ #318 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2015, 16:47:08 »

เอาแล้วๆ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ;Dติดตาม
IP : บันทึกการเข้า

(ช่างบอย เลี่ยมพระกันน้ำเวียงชัย) 087-1905594
Id line:boykaikon
หนอนน้อย
กระดื๊บ กระดื๊บ
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,400


รักในสิ่งที่ทำ แล้วอะไรก็จะดี


« ตอบ #319 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2015, 17:05:29 »

สรุปเป็นไงกันครับ
IP : บันทึกการเข้า

Tel.087-7268139
หน้า: 1 ... 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 [16] 17 18 19 20 21 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!