---คุณ IMO พูดถูกแล้วครับ ดังเรื่องของมะเมียะ ... แม้แต่เธอเป็นแม่ชีแล้ว ก็ยังมาหาคนรัก แต่คนรักของเธอ เจ้าชายองค์นั้นกลับหลอกให้รอ หรือแสดงอาการไม่มีเยื่อใย
ที่ต้องทำเช่นนั้นเพราะท่านพ่อของท่านถูกจับตาว่า จะเข้าข้างทางพม่า จึงต้องตัดสวาทจากมะเมียะ ชาวเชียงใหม่-เชียงรายทั้งเคยร่วมกับกรุงศรีขับไล่พม่า และรบกับทางกรุงศรีเสียเอง ซึ่งแล้วแต่นโยบายทางเบื้องบนจะสั่งมา
ทั้งอักษร ความเชื่อวัฒณธรรมของชาวเหนือราวจะเป็นสิ่งต้องห้ามอยู่นานมาก
จนตระกูลสิโรรสได้นำมาให้ทางแขกเมือง-ฑูต-เจ้านายภาคกลางได้ดู จนกลายเป็นที่ยอมรับ
(ช่วงก่อน มีชาวอาข่าออกมาต่อต้านเรื่องลานสาวกอด ซึ่งเป็นความฝังใจแบบผิดๆมา 60ปีแล้ว
ความจริงเป็นแคลานแสดงรื่นเริง ร้องเพลงเต้นรำกัน การท่องเที่ยว(ทัวร์)ก็โปรโมทเรื่องนี้ผิดๆ
้เพราะเป็นแนวที่หากิน ปัจจุบันแม้แต่ชาวอาข่าก็ละทิ้งความเชื่อทางหมอผี มาถือคริสต์ มีทีวี ดีดวีดี ตู้เย็น ไม่ต้องไปนั่งร้องเพลงเป็นวง ความสัมพันธ์ ความสามัคคี ประเพณีก็หายไป
เคยพบกับแม่หมอผี เขาสามรถทายอดีตคนได้ และมีการดูเดือนปีจากดวงดาว-โหราศาสตร์ ต่อไปนี้ก็จะหายไปหมดแล้ว
(เหมือนจะได้ยินว่า พ่อขุนเมงราย มีเชื้อสายทางไทยใหญ่ แต่ท่านก็มาสร้างหลักให้อาณาจักรของไทยเรา)
---------ร้อยเอก เอช. มาร์ก เยนเซ่น ชาวเดนมาร์ก เดินทางเข้ามาเป็นครูฝึกตำรวจที่เมืองแพร่
--ท่านนี้และที่ถูกยิงตาย และมีโกศเจดีย์อยู่ที่วัดแห่งหนึ่งชานเมืองพะเยา
------ต่อเรื่องจากโครงกระดูกยักษ์์นะครับ เรื่องมีคนสามคน เข้าไปในป่ากรุงชิง ซึ่งเราจะรู้สึก
ว่าเหมือนบ้าน อบอุ่นดี เสือจะไม่กินเรา แค่กินกบตัวนึงก็อิ่ม เพราะกบภูเขาตัวเท่าเด็กสามขวบ
ใบบอนขนาดเท่าร่มชายหาด มีเฟรินยักษ์( มหาสะดำ) ยิ่งดูลึกลับ พายุมหาภัยถล่มแหลมแหลมตะลุมพุก ทำให้ต้นไม้สามคนโอบขึ้นไปล้มลงมาก แต่ก็พอมีอยู่
เรื่องเหล่านี้ ท่าขุนพันธุ์(เจ้าตำรับจตุคาม)ท่านได้ทูลเล่ากับองค์ในหลวงเรา เรื่องลึกลับเหล่านี้ ที่เขากรุงชิง นครศรีธรรมราช พระองค์ท่านสนใจมาก ท่านก็ถามขุนพันธ์ว่า
"รู้ไหมว่า กุหลาบที่ภูพิค์ โตเท่าจานข้าวนี่"
ท่านขุนพันธ์ตอบว่า " ถ้านำไปปลูกที่กรุงชิง จะโตกว่าเก่า อย่างน้อยสองเท่าพะย่ะค่ะ"
ในหลวงท่านได้ฟัง ท่สานก็รวบช้อนส้อม หยุดเสวยทันทีและสอบถามเรื่องนี้ตลอด
(เรือ่งนี้มีส่วนจริงมาก เพราะได้ลง ศิลปวัฒณธรรม แต่นานแล้วครับ)
--ขุนพันธุรักษ์ราชเดช ได้เล่าว่า พยายามไม่ให้นักศึกษษและพวกคอมมิวนิสต์เข้าไปที่กรุงชิง เพราะมีเขาล้อมรอบ และอุดมสมบูรณ์ ทำนาน ปลูกพืชได้ผลผลิตดี และก็เป็นจริง พวกนักศึกษาไม่ยอมออกป่ามาง่ายๆเลย (แต่ที่ผมไปดูมา ไม่ได้สัมผัสกับวิญญาณเป็นร้อยๆ ของ นศ.เลยครับ มีแต่หลับตาเห็นหญิงแก่คนหนึ่ง เหาะมาจากในป่า มานั่งใกล้ๆ ตัวใสเหมือนแก้ว ตอนนั้นผมบวชอยู่ แต่ก็กลัวนิดๆ)
-----ในบางส่วนของป่า คนตั้งเต๊นท์ข้างห้วย กลางคืน มีเสียงตัวะไรตกน้ำโครม แล้วมันวิ่งใต้น้ำ จนน้ำบานล้นฝั่งขึ้นมา มีบางส่วนมีเต่าใหญ่ ซึ่งขี้เหม็นไปทั้งป่า ตัวที่ใหญ่นั่งหลังมันเจ็ดคน เต่าก็พาเดินไปได้ บานยอดเขา มีรูลงไปในหิน เขาว่าเป็็นรูพญานาค
--มีคนไปเจอโครงกระดูกในถ้า ขนาดใหญ่มาก และมีดาบ หอก ขนาดใหญ่ มีครกบดยา ซึ่งเป็นหิน หนักมาก มีจารึกเป็นภาษามคธ คนก็เอาขึ้นหลังช้างมา ช้างเอียงตัว ครกก็ตกลงไปในเหวสูญหายไป
---มีชายสามคน เข้าไปหาของป่า หลงทางจนหมดแรง ไปเจอต้นหลุมพอ(เทพทาโร) ใหญ่โตมากแต่มีหมีอยู่บนทุกๆกิ่ง จนมันแทบจะหัก พอตล้อยหลังก็หันไปดู ปรากฏว่า ไม่มีหมีสักตัว (กรุณอย่าผวนคำอะไรที่เกี่ยวกับหมี) สามคนนั้นไปถึงทุ่งหญ้า มีต้นไม้ใหญ่อยู่ ลูกเล็กๆ สีเหลือง รสจืดๆหวานเล็กน้อย สองคนก็ไม่กล้ากิน อีกคนหนึ่งบอกว่ากำลังจะตาย ขอกินหน่อยพอกินเข้าไปก็มีแรง หาทางออกมาจากป่าได้ พอกลับมาหมู่บ้าน สองคนนั้นก็เป็นไข้ป่าตาย แต่คนที่กินผลไม้นั้น กลับเป็นคนที่อายุยืนมากๆ---เมื่อกลับไปหาไม้ต้นนั้น ก็ไม่มีใครหาพบเลย
(อาจจะอยู่มิติลับแล---เมืองลับแล--เถาวัลย์หลง จะเกี่ยวพันกัน มีแต่พระที่เก่งๆ ชาวลับแลจะเปิดให้เข้าไป --ในประวัติท่านอาจาร์มั่นก็มีครับเรื่องชาวลับแล)
----ได้ไปคุยกับเจ้าอาวาสวัดช่องลม ชลบุรี ท่านเล่าว่า ไปสอบที่วัดเขาสุกิม อจ.ไม่ให้ลงเขามา
(ตอนนั้นท่านสมชายก็เป็นพระธรรมดา) พอตีสอง พระทุกรูปก็ใด้เห็นแสงสว่าง แล้วปรากฏเทวดาแหวกฟ้าลงมา มีนางฟ้าบริวารถือของถวายตามมาเป็นแถวๆ แต่ให้เห็นเพียงสองนาทีก็หายไป ท่านเองก็มีรูปของท่านให้ดู เวลาไปที่ไหน จะมีดวงแสงติดในรูป บางทีสว่างมากตอนกลางวันด้วย--เรื่องแปลกๆมีให้เห็นทั่วไทยครับ อย่างรอยพญานาค โผล่ที่ชลบุรีก็มี พี่สาวอยู่บ้านจัดสรรริมทะเล บางวันก็มีรอยงูใหญ่กลางถนนเลย ฬหญ่มากขนาดพญานาตนะแหละ รอยที่เหมือนรอยเท้าครุฑก็มี มีแม้กระทั่งรอยเท้ามนุษย์ต่างดาว
(ทีเมืองรอสเวลมีพิพิธ๓ัณจานบิน แม่จันเราก็น่าทำ ได้ข้่าวว่า คนที่พูดเรื่องนี้ตามืดบอดไปทุกคน--ใครรู้บ้างครับ)
------ตามความเห้นของผม โลกเหมือนร่างกายรูปแบบหนึ่ง พลังชีวิต หรือ ชี่-chi ที่โพล่พุ่งขึ้นมา จะเป็นพลังที่กระตุ้นให้พืชและสัตว์ใหญ่โตกว่าปกติ จุดที่มีพลังมาก เรียกว่า โหนด เส้นพลังงานเรียกว่า กริด ครับ ปัจจุบัน ฝรั่งมีกล้องที่ถ่ายพลังชีวิตได้
และการแพทย์ทางเลือกแบบจีน อินเดีย ก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป เพราะเขาเปิดสอนแล้วที่อเมริกา บางคนอ้างว่าใช้สมุนไพรรักษาเอดส์ได้(ความจริงต้องรักษาด้วยสนามไฟฟ้า-เพราะเอดส์เป็นเชื้อที่คนเราสร้างขึ้นมา(อันนี้ความเชื่อส่วนตัว)) สงสัยต้องเปิดกระทู้ลี้ลับอีกละก๊า
---รายละเอียด--ข้อมูลเขากรุงชิง
http://www.prapayneethai.com/th/tourist_attraction/south/view.asp?id=0810