หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 06 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ปีที่ 27 ฉบับที่ 954
เดียน เบียน ฟู เป็นเมืองอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม อยู่ห่างจากฮานอยประมาณ 200 ก.ม.เศษ
ทางทิศตะวันตกติดกับแขวงพงศาลี ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีลักษณะเป็นที่ราบ ล้อมรอบ
ด้วยภูเขาสูง เนื้อที่ประมาณ 18 ตารางกิโลเมตร ชาวไทดำซึ่งเป็นชนชาติหมู่น้อย ได้ตั้งถิ่นฐานทำมาหากินและ
เรียกชื่อเมืองว่า "เมืองแถง"
ในจดหมายเหตุกองทัพไทย ได้มีการบันทึกไว้ว่า กองทัพของเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ได้เคยยกกองทัพมาปราบ
โจรฮ่อที่เมืองนี้
สำหรับชาวไทดำ ก็มีภาษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิม ซึ่งมีหลายสิ่งหลายอย่างคล้ายคลึงกับคนไทยเราในปัจจุบัน
ถือได้ว่าเป็นผู้สืบเชื้อสายบรรพบุรุษเดียวกันกับเรา
เวียดนามได้ประกาศเอกราชภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองเสร็จสิ้นลงไม่นาน คือในวันที่ 2 กันยายน พ.ศ.2488
หลังจากนั้นฝรั่งเศสซึ่งเคยเป็นเจ้าอาณานิคม ก็ได้ส่งกำลังเข้ามายึดครองอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะเวียด
นามได้อีกต่อไป ทั้งนี้ เพราะประธานโฮจิมินห์ได้จัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีความเข้มแข็งและได้สร้า งขบวนการแนว
ร่วมที่เรียกว่าขบวนการ "เวียดมินห์"
กองทัพประชาชนเวียดนามได้ก่อตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ.2487(ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง) โดยประธาน
โฮฯ หรือ "ลุงโฮ" ได้มอบหมายให้นายพลโว เวียน ยับ เป็นผู้บัญชาการกองทัพคนแรก ด้วยวัยเพียง 36 ปี อดีตนักศึก
ษาวิชานิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยที่ฮานอย เคยถูกฝรั่งเศสจับกุมคุมขังมาแล้ว
โว เวียน ยับ ไม่เคยได้ศึกษาวิชาทหารหรือย่านโรงเรียนการทหารมาก่อน แต่เมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่จัดตั้งกองทัพ
ขึ้นเป็นครั้งแรกด้วยจำนวนคนประม าณ 30 คน และจากไว้วางใจของ "ลุงโฮ" และพรรคท่านก็ได้พัฒนากองทัพประชาชน
เวียดนาม จนเติบใหญ่ จนมีชื่อเสียงก้องโลกในการเอาชนะฝรั่งเศส ได้ที่เดียน เบียน ฟู เมื่อ 50 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ จากการที่ท่านได้เข้านำการสู้รบหลายครั้ง การน้อยไปสู่ใหญ่ และศึกษาทฤษฎีทางทหารรอบด้าน โดยเฉพาะ
ทฤษฎีทางทหารของฝรั่งเศสคู่ต่อสู้ และการผสมผสานทฤษฎีของประเทศต่างๆ รวมทั้งของประเทศจีน จึงได้ข้อสรุป
ที่ว่า ทหารและประชาชน คือปลากับน้ำ ซึ่งไม่มีวันแยกออกจากกันได้ การรบแบบจรยุทธ์ตามทฤษฎีของประธานเหมา
เจ๋อ ตุง และรวมไปถึงการจัดตั้งหมวดเคลื่อนที่เร็ว เป็นกองกำลังประชาสัมพันธ์ติดอาวุธ เพื่อช่วงชิงประชาชนในเขต
ต่างๆ ทั่วประเทศ

