ป้าด....รถงามดูคนขับเหียก่อน...บ่าธรรมดาหมดหน้ายางเลย


เอามาให้อ่านเฉย ๆ เน้อ บ่าได้เชียร์อาหยังเกี่ยวกับการเมืองเน้อ
กลางปี 2555 เสียงนกหวีดการเมืองเป่าให้คนการเมือง ที่เคยติดโทษแบน 5 ปี กลับคืนสนามอีกครั้ง เนวินยังคงใช้ชีวิตสูตร 70/30 แต่การเมืองสำหรับ "เนวิน" วันนี้คือ 0 เปอร์เซ็นต์
70 ส่วนแรก คือการใช้ชีวิตในสนามฟุตบอล "ไอโมบายสเตเดี้ยม" และสโมสรส่วนตัวที่ชื่อ "สโมสรเซาะกราว" ดูแลเด็กชายชาวบุรีรัมย์ใน "อะคาเดมี บุรีรัมย์ยูไนเต็ด" อีก 200 ชีวิต และนักฟุตบอลไทย-เทศ ในทีมปราสาทสายฟ้า 30 กว่าคน
อีก 30 ส่วน คือการใช้ชีวิตบนถนนกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ที่เขามีอยู่ในครอบครอง 3 คัน สนนราคาแค่คันละ 1.8-1.9 ล้านเท่านั้น แต่ละคันมีป้ายทะเบียนเรียงตามลำดับ buriram united 1-2-3 และทุกคันติดสติ๊กเกอร์ แสดงความรักภรรยา กรุณา ชิดชอบ บนตัวอักษร "KULOVE KARUNA"
ทั้ง 3 คัน ใช้สีรถและชุดแต่งเพียง 2 สี คือ สีน้ำเงินและสีส้ม ที่มีรากมาจากสีของพรรคภูมิใจไทย และสีของทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ที่ใช้ชุดแข่งทีมเหย้าสีน้ำเงิน และชุดแข่งทีมเยือนสีส้ม
มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ คันโปรด คู่กาย จนกลายเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ของเนวิน คือ KTM 990 Adventure Dakar
คันที่แรงที่สุด คือ suzuki hayabusa 1300 cc และคันที่ขับสนุกอีกคันคือ BMW 650 cc
เนวินบอกว่า วันพ้นโทษแบน หลัง 31 พฤษภาคม 2555 ไม่มีความหมายกับเขาเลย เพราะทุกวันนี้ ตื่นเข้ามาก็ดูงานธุรกิจส่วนตัว ดูความเรียบร้อยสนาม ดูแฟนบอล เทกแคร์แฟนบอล คุมทีมซ้อม ไปแข่งฟุตบอล ขี่มอเตอร์ไซค์ กลางคืนกินข้าวเสร็จก็กลับมานั่งคุยกันเรื่องมอเตอร์ไซค์ เรื่องฟุตบอล นอนไม่ดึก
แต่ชีวิตเมื่ออยู่บนหลังอานมอเตอร์ไซค์ เขาบอกว่า ชอบมาก มันส์มาก "เวลาอยู่บนมอเตอร์ไซค์ เหมือนมันเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย มันได้คิด ได้พิจารณาตัวเอง หลายเรื่องที่ดีๆ คิดได้ตอนอยู่บนมอเตอร์ไซค์ ผมพิสมัยความเร็ว ชีวิตได้อยู่บนลำแข้ง บนขาตัวเอง อีกครั้ง"
เขาจริงจังกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่แตกต่างจากการขับเคลื่อนการเมืองในอดีต
ชั่วโมงบินบนอานมอเตอร์ไซค์ของเขา มาจากการฝึกเทิร์นโปรแบบเร่งรัด กับโค้ช 2 สัญชาติ
ครูฝึกคนแรกเป็นชาวไทย คือ คุณเตีย- จิรัฏฐ์คุณ อภิธนพนต์ ที่ประจำการอยู่ในค่ายฮอนด้า ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายขายและวางแผนการตลาด ส่วนงานฮอนด้าบิ๊กวิง บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด
ครูความเร็วของเขาอีกคนสัญชาติญี่ปุ่น นายคาซูโทชิ อิวาโอะ (Mr. Kazutoshi Iwao) ผู้นำการฝึกอบรมขี่จักรยานยนต์คนแรกของประเทศ เจ้าของแชมป์มอเตอร์ครอส อันดับ 3 ของญี่ปุ่น และเป็นอันดับ 5 ของเอเชีย ด้วยวัย 70 ปี ไม่ได้ทำให้เขาใช้ชีวิตบนอานมอเตอร์ไซค์ช้าลงแต่อย่างใด
แผนการฝึกของทั้ง 2 โค้ชในสนามฝึกซ้อม ที่ดัดแปลงปรับพื้นที่หลังสนามไอโมบายสเตเดี้ยม จะเริ่มขึ้นทุกวันเวลา 16.00 นาฬิกา เป็นต้นไป โดยการฝึกจะแบ่งเป็น 4 สเต็ป
ท่าแรก เป็นการฝึกท่านั่ง การบังคับรถ การควบคุมทิศทาง ทำอย่างไรให้ "เอาอยู่" เขาบอกตรงนี้ต่างจากการเมือง ที่รถบังคับได้ตามใจคนขับ แต่คนการเมืองนั้นยากที่จะบังคับให้ได้ดั่งใจ
ท่าที่สอง เป็นฝึกการขับเข้าโค้ง และการขับทางตรง และจังหวะการเร่งความเร็ว
ท่าที่สาม ฝึกหยุด ฝึกการใช้เบรก ทั้งแบบกะทันหัน และเบรกท่าที่นุ่มนวล ท่านี้เขาบอกตรงกับชีวิตเขาตอนนี้คือ ถึงจุดที่ "พอ...หยุด"
ท่าที่สี่ ฝึกขับขี่เป็นหมู่คณะ ให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่เบียดเสียด ชนหรือปะทะกัน ท่านี้บางครั้งเขาฝึกร่วมกับเพื่อน-หลาน พี่น้อง นักธุรกิจ ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวบุรีรัมย์ร่วม 50 คัน
ทั้ง 4 สเต็ป เขาฝึกกับครูฝึกชาวญี่ปุ่นฝึกแบบหลักสูตรเร่งรัด 3 วัน รวม 18 ชั่วโมง
หลังจากฝึกซ้อมจนช่ำชอง ในฐานะประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขาจัดทีม "บิ๊กไบค์" ขับเป็นหมู่คณะกว่า 30 คัน ข้ามประเทศไทยไปฝั่งลาว ตามคำเชิญของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งประเทศลาว ให้ไปแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรกับทีม "ลาว ออลสตาร์" เพื่อหารายได้ช่วยเหลือโรงเรียนที่ยากไร้ของประเทศลาว ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ในทางการเมืองเขาไปใกลถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีหลายสมัย แต่ในเส้นทางขับมอเตอร์ไซค์ เขาบอกว่า "สำหรับคนขี่มอ"ไซค์ ยิ่งทางไกลยิ่งมันส์"