เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 24 เมษายน 2024, 22:42:58
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  สรุปแล้วพระพุทธเจ้าสอนอะไร
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 3 พิมพ์
ผู้เขียน สรุปแล้วพระพุทธเจ้าสอนอะไร  (อ่าน 7620 ครั้ง)
เวียงเก่า
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 280



« เมื่อ: วันที่ 18 มีนาคม 2011, 19:24:16 »

วันก่อนมีคนต่างศาสนามาถามผมว่า สรุปแล้วศาสดาของเราสอนอะไร ผมก็อึ้งไปเลยครับ ตั้งแต่เกิดมาก็ว่านับถือพระพุทธศาสนา เรียนมาก็เยอะ พระพุทธเจ้าก็สอนมาตั้งเยอะ ตั้งหลายหมื่นพระธรรมขันต์ แต่โดยสรุปแล้ว พระพุทธเจ้าท่านสอนอะไรเรา ท่านอยากให้เรารู้อะไร 
มีท่านไหนตอบได้บ้างครับ เผื่อเจอมันครั้งหน้าจะได้ตอบอย่างภาคภูมิใจในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง
IP : บันทึกการเข้า

ผลมันไม่ออกมาตามที่คาดหวัง จะมานั่งเสียใจไปทำไม เมื่อได้พยายามทำเหตุให้ดีที่สุดแล้ว
ap.41
ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19,008


ไม่มีเทพไม่มีโปร..มีแต่เราที่จะก้าวไปพร้อมกัน...


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 18 มีนาคม 2011, 19:52:01 »

เว้นจากการทำบาปทั้งปวง
หมั่นสร้างความดี
ทำจิตใจให้ผ่องใส
3 ข้อสั้นๆง่ายๆครับ
IP : บันทึกการเข้า

nazha
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 156


เหนือกว่ากฏหมาย คือ กฏแห่งกรรม


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 18 มีนาคม 2011, 20:11:31 »

สอนให้ดับทุกข์ ไงล่ะทั่น
IP : บันทึกการเข้า

ณชารีย์  ชินวรสิริวัชร (เพื่อนคอม)
240 หมู่18 ต.อ่างทอง อ.เมือง กำแพงเพชร 62000 T.0815308963 /บัญชี ธ.กรุงไทย 6200080178
Thaiimboard
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2011, 15:57:21 »

"ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส "

แนวทางปฏิบัติดังนี้
1.การให้ทาน จักก่อให้เกิดศีล
2.การรักษาศีล จักก่อให้เกิดสมาธิ
3.การทำสมาธิ จักก่อให้เกิดปัญญา
4.ปัญญา จักทำให้พบหนทางพ้นทุกข์ จิตใจบริสุทธิ์ผ่องใส
IP : บันทึกการเข้า
Atichai
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 34


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2011, 17:31:48 »

   พระพุทธเจ้าสอนให้หลุดพ้นจากกฏแห่งกรรม  ด้วย  ทาน  ศีล  ภาวนา                            ทาน   คือ  การให้  เป็นบุญ                                                                                    ศีล    คือ  การเว้นจากการทำบาปเพิ่ม                                                                       ภาวนา    คือ  การทำสมาธิ  เพื่อเข้าถึงธรรม  เป็นเครื่องพาให้หลุดพ้นจากกฏแห่งกรรม
IP : บันทึกการเข้า
watinta
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 21 มีนาคม 2011, 17:18:34 »

ตลอด 45 พรรษาของพระพุทธองค์หลังตรัสรู้  84000 พระธรรขันธ์ พระองค์ทรงพร่ำสอนเพื่อให้รู้เรื่องทุกข์ และ การดับทุกข์ (อริยะสัจ 4) แล้ววันหลัง จิตสะอาดสว่างแจ่มใส กว่านี้จะมาอธิบายให้ฟังครับผม  ยิงฟันยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 21 มีนาคม 2011, 17:29:14 โดย crtt » IP : บันทึกการเข้า
ปวดตับ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,555


ถ่ายรูปคือความสุข ..


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 21 มีนาคม 2011, 20:46:13 »

สอนให้คุณ "ทำดี"
IP : บันทึกการเข้า

อนิจจาผู้ไม่เคยมีความฝัน ... ไม่มีวันได้เจอสุข
M y L O V E . . . a
สู้...ให้ถึงที่สุดก่อน ค่อยยอมแพ้...
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 455


ขออภัยในบางลีลา...


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 13:13:30 »

ถ้าปุถุชน ก็ ทาน ศีล และภาวนา

ถ้าบรรพชิต ก็ ศีล สมาธิ และปัญญา ครับ

ทำก่อนแล้วจะเห็นเอง อย่าพึ่งถามว่าทำอย่างนี้แล้วจะได้อะไร มันเป็นปัจจัจตัง

ทำบ้างเห็นทางแล้วค่อยถาม  ก็ยังดี......

.........จำคำครูอาจารย์ที่ท่านสอนมาครับ ไม่รู้จะขาดตกตรงไหนบ้าง
IP : บันทึกการเข้า

แด่....ความเวิ้งว้าง....อันไกลโพ้น......
wsan
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 14:40:48 »

ชัดเจนมาสองพันห้าร้อยกว่าปีมาแล้ว ง่าย ๆ ให้ทำดี(ทำแล้วไม่เดือดร้อนตนเองและหรือผู้อื่นทั้งปัจจุบันและอนาคต) ไม่ทำชั่ว(ทำแล้วเดือดร้อนตนเองและหรือผู้อื่นทั้งปัจจุบันและอนาคต) ทำจิตใจให้ผ่องใสบริสุทธิ์ ไม่ห่วงใย เสียใจ เสียดาย อาลัยอาวรอดีตที่ผ่านไป ไม่วิตกกังวล หวาดกลัวกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง อยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติ มีปัญญา ละวางรัก โลภ โกรธ หลง .....
IP : บันทึกการเข้า
Patu
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 236


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 02 เมษายน 2011, 11:55:42 »

สอนไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา  ชีวิตไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน
ดูขยายความได้ที่

http://www.kroobannok.com/blog/16434

สรุปลงที่ ตถตา......เป็นเช่นนั้นเอง

IP : บันทึกการเข้า
Ranger
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 453



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 02 เมษายน 2011, 12:09:05 »

สอนให้เราคิดดี ทำดี     ให้เรารู้ตัวเราว่าไม่มีอะไร   จีรัง ยั่งยืน  มีเกิด ก็ต้องมีดับ    เป็นวัตสงสารของมนุษย์ทุกผู้ทุกคน     ไม่มีใครหลีกลี้หนีมันได้    ไม่ว่าจะรวย หรือจน    หมั่นทำความดี  ละเว้นการทำบาป
IP : บันทึกการเข้า
Beebie13
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 10 เมษายน 2011, 20:16:45 »

 ศีล สมาธิ ปัญญา แล้วท่านสอนให้เราไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่นด้วยคะ แค่ตบยุงก็ถือว่าเบียดเบียนแล้วค่ะแต่ในชีวิตจริงคงทำอยากหน่อย แต่ก็พยายามเป็นดีที่สุดเลยค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
บัวล้านนา
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 138


ไปให้สุดแล้วหยุดที่.. "พอ"


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 12 เมษายน 2011, 14:02:52 »

สอนให้ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ครับ
พระธรรมขันธ์ 84000 ย่อมาก็เหลือ ศีล สมาธิ ปัญญา
สอนให้เราพ้นจากการเกิดอีก  คือการตรงเข้านิพพานครับ
IP : บันทึกการเข้า

**-- จงฉลาดพอที่จะรู้ว่า..ลำพังเรานั้นไม่รู้ไปซะทุกสิ่ง...--**
ohyes
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 13 เมษายน 2011, 02:04:26 »

โค๊ะอ่านละสะดุ้ง นิขนาดเฮาบ่าก่อยจะพุทธละหน๋า แบบว่าบ่าก่อยเฮียนอ่านกะว่าท่องหยังจ่างเลย แต่เต่าตี่ปอจะเข้าจั๋ยส่วนตั๋วแล้ว

กึดว่าผะเจ้าเปิ้นสอนหื้อใจ้สติ ในก๋านแบ่งแยกต่างๆหื้อหันว่าสิ่งใดควรบ่าควรยะหรือใจ้ในจีวิต ผะเจ้าสอนหื้อใจ้จีวิตอย่างมีธรรม กึดว่าจะอี้เน่อ ส่วนนิพพานนิก่อแหมเรื่องละ...อิอิ
IP : บันทึกการเข้า
saluman
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 17 เมษายน 2011, 13:04:38 »

สอนความจริงของโลก คือ เกิด และ ดับ อริยสัจสี่ คือเหตุแห่งทุกข์ และวิธีดับ มรรค http://media.watnapahpong.org/video/OW92H7XDG8X9/%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-16-18-%E0%B8%9E%E0%B8%A2-53-%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1 ก๊อปไปดูนะจ๊ะ
IP : บันทึกการเข้า
เเมวมองเชียงรายโฟกัส
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 422



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 17 เมษายน 2011, 13:06:38 »

ง่ายๆๆครับสอนใครคนทำความดี ไม่ไปขัดต่อสิทธิเเละหน้าที่ของคนอื่นพอครับ ง่ายๆๆ
IP : บันทึกการเข้า
ละอ่อนโบราณ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,466



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 18 เมษายน 2011, 04:28:06 »

มีหลายท่านมาตอบไว้อย่างหลากหลาย
จึงขอแสดงความคิดเห็นบ้าง
คำสอนของพระพุทธเจ้าทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ เมื่อกล่าวโดยสรุปให้เข้าใจง่ายๆแล้ว
พระองค์ทรงประทานในโอวาทปาฏิโมกข์ว่า

สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง
    การไม่ทำบาปทั้งปวง  หมายถึงให้ละเว้นจากความชั่ว

กุสะลัสสูปะสัมปะทา
    การทำกุศลให้ถึงพร้อม      หมายถึงให้ทำความดี

สะจิตตะปะริโยทะปะนัง
    การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ     หมายถึงการทำจิตให้ปราศจากกิเลสทั้งหลาย มีโลภโกรธหลงเป็นต้น


ถ้ามีใครถามควรตอบดังนี้....และถ้าสามารถอธิบายได้ว่าอะไรคือความดี อะไรคือความชั่ว ทำอย่างไรจะทำจิตให้หมดจดได้ ผู้ฟังจะมีความเข้าใจพระพุทธศาสนายิ่งขึ้น
IP : บันทึกการเข้า

..............
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 18 เมษายน 2011, 11:34:39 »

มีหลายท่านมาตอบไว้อย่างหลากหลาย
จึงขอแสดงความคิดเห็นบ้าง
คำสอนของพระพุทธเจ้าทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ เมื่อกล่าวโดยสรุปให้เข้าใจง่ายๆแล้ว
พระองค์ทรงประทานในโอวาทปาฏิโมกข์ว่า

สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง
    การไม่ทำบาปทั้งปวง  หมายถึงให้ละเว้นจากความชั่ว

กุสะลัสสูปะสัมปะทา
    การทำกุศลให้ถึงพร้อม      หมายถึงให้ทำความดี

สะจิตตะปะริโยทะปะนัง
    การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ     หมายถึงการทำจิตให้ปราศจากกิเลสทั้งหลาย มีโลภโกรธหลงเป็นต้น


ถ้ามีใครถามควรตอบดังนี้....และถ้าสามารถอธิบายได้ว่าอะไรคือความดี อะไรคือความชั่ว ทำอย่างไรจะทำจิตให้หมดจดได้ ผู้ฟังจะมีความเข้าใจพระพุทธศาสนายิ่งขึ้น
สาธุครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
watinta
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 22 เมษายน 2011, 13:58:21 »

คำถามที่ว่า พระพุทธทรงเจ้าสอนอะไร คำตอบก็ตามที่ทุกท่านตอบมาตามความเข้าใจของแต่ละท่าน ไม่ผิดถูกต้อง แต่ถ้าถามต่อไปว่า แล้วจุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา หรือการอุบัติขึ้นมาของพระพุทธเจ้าเพื่อสิ่งใด  มีจุดเด่น หรือความแตกต่างจากลัทธิศาสนาอื่นๆที่มีอยู่ในโลกนี้อย่างไร  คำตอบก็คือ พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มนุษย์รู้จัก ตัวทุกข์ และ การดับทุกข์ (อริยะสัจ 4) หรือเรียกกันว่า นิพพาน (ความดับไม่เหลือแห่งเชื้อกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ) ซึ่งคำสอนเช่นนี้ไม่มีปรากฏในศาสนาใด นอกจากศาสนาพุทธ นี้คือความโดดเด่นของพุทธศาสนา และธรรม 84,000 พระธรรมขันธ์เมื่อย่นย่อแล้วก็อยู่ในกรอบของ ศิล สมาธิ ปัญญา หรือจะเรียกว่า ทาน ศิล ภาวนา ก็ตามสะดวก การปฏิบัติของพุทธศาสนิกชน ทั้งการให้ ทาน รักษาศิล เจริญภาวนา หรือจะเรียกอีกอย่างว่า  การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม การชำระจิตให้ขาวรอบ ก็ตามที ก็ล้วนแต่อยู่ในขอบเขต(มรรค8)และก็เป็นการปฏิบัติใน มรรค8 (อริยะสัจ4 ข้อที่4) หนทางปฏิบัติเพื่อไปให้ถึงความดับทุกข์ทั้งสิ้น เพราะมรรค8 ก็คือตัว ศิล สมาธิ ปัญญา นั้นเอง เอวัง เจ๋ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 เมษายน 2011, 21:29:56 โดย crtt » IP : บันทึกการเข้า
domvit
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 143


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 06 พฤษภาคม 2011, 13:27:42 »

คำถามที่ว่า พระพุทธทรงเจ้าสอนอะไร คำตอบก็ตามที่ทุกท่านตอบมาตามความเข้าใจของแต่ละท่าน ไม่ผิดถูกต้อง แต่ถ้าถามต่อไปว่า แล้วจุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา หรือการอุบัติขึ้นมาของพระพุทธเจ้าเพื่อสิ่งใด  มีจุดเด่น หรือความแตกต่างจากลัทธิศาสนาอื่นๆที่มีอยู่ในโลกนี้อย่างไร  คำตอบก็คือ พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มนุษย์รู้จัก ตัวทุกข์ และ การดับทุกข์ (อริยะสัจ 4) หรือเรียกกันว่า นิพพาน (ความดับไม่เหลือแห่งเชื้อกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ) ซึ่งคำสอนเช่นนี้ไม่มีปรากฏในศาสนาใด นอกจากศาสนาพุทธ นี้คือความโดดเด่นของพุทธศาสนา และธรรม 84,000 พระธรรมขันธ์เมื่อย่นย่อแล้วก็อยู่ในกรอบของ ศิล สมาธิ ปัญญา หรือจะเรียกว่า ทาน ศิล ภาวนา ก็ตามสะดวก การปฏิบัติของพุทธศาสนิกชน ทั้งการให้ ทาน รักษาศิล เจริญภาวนา หรือจะเรียกอีกอย่างว่า  การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม การชำระจิตให้ขาวรอบ ก็ตามที ก็ล้วนแต่อยู่ในขอบเขต(มรรค8)และก็เป็นการปฏิบัติใน มรรค8 (อริยะสัจ4 ข้อที่4) หนทางปฏิบัติเพื่อไปให้ถึงความดับทุกข์ทั้งสิ้น เพราะมรรค8 ก็คือตัว ศิล สมาธิ ปัญญา นั้นเอง เอวัง เจ๋ง
สรุปหลักการศาสนาพุทธ สอน 2 ระดับ คือ
1.ระดับการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ทั่วไป คือสอนให้ทำความดี ละเว้นจากความชั่วทั้งปวง โดยมีศีล5 เป็นข้อปฏิบัติหลักของการอยู่ร่วมกันของมนุษย์
2.ระดับการไปสู่นิพพาน คือการศึกษาให้เข้าใจและเห็นจริงถึงหลักการเกิดแก่เจ็บตาย รวมทั้งศึกษาพิจารณาด้วยปัญญาถึงหลักการของการเกิดทุกข์และวิธีการดับทุกข์ โดยนอาศํยสมาธิพิจารณาด้วยปัญญาจนสามารถเห็นแจ้งและปฏิบัติได้จริง
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!