มีหลายท่านมาตอบไว้อย่างหลากหลาย
จึงขอแสดงความคิดเห็นบ้าง
คำสอนของพระพุทธเจ้าทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ เมื่อกล่าวโดยสรุปให้เข้าใจง่ายๆแล้ว
พระองค์ทรงประทานในโอวาทปาฏิโมกข์ว่า
สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง
การไม่ทำบาปทั้งปวง หมายถึงให้ละเว้นจากความชั่ว
กุสะลัสสูปะสัมปะทา
การทำกุศลให้ถึงพร้อม หมายถึงให้ทำความดี
สะจิตตะปะริโยทะปะนัง
การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ หมายถึงการทำจิตให้ปราศจากกิเลสทั้งหลาย มีโลภโกรธหลงเป็นต้น
ถ้ามีใครถามควรตอบดังนี้....และถ้าสามารถอธิบายได้ว่าอะไรคือความดี อะไรคือความชั่ว ทำอย่างไรจะทำจิตให้หมดจดได้ ผู้ฟังจะมีความเข้าใจพระพุทธศาสนายิ่งขึ้น
ไหว้สา พระรัตนสาม พระปัจเจกพุทธา พระมาตาปิตุปุพพการี พระครุปิอาจาริโย เท้าสนังกุมารพรหม สายบุญญาติมิตรบุตรบริษัทบริวารสัตรูหมู่มารผู้อุเบกขาจิต ทุกจิตในจักรวาลฮอดอนันตจักรวาลจงได้บุญกุศลจากธัมมทานโดยทั่วถึงกันเทอญ
คำสอน ของ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ตามหลักการทั้ง 3 อย่างนี้ มีพระบาลีรับรองเอาไว้ ใน พระโอวาทปาติโมกข์ (อ่านว่า โอ วา ทะ ปา ติ โมก) ดังท่านละอ่อนโบราณท่านยกมา ครูอาจารย์หลวงปู่บุญเพ็ง ท่านว่าพระบาลีนี้ พระศากยมุนีพุทธเจ้าทรงประทานในวันมาฆบูชา เพ็ญเดือน 3 ที่เป็นวันจาตุรงคสันนิบาต ก่อนพระองค์จะดับขันธปรินิพพาน 3 เดือน
การละชั่ว เป็น ศีล
การทำดี เป็น ธัมมะ
การทำจิตให้บริสุทธิ์ ผุดผ่องขาวรอบ เป็น โลกกุตรธัมมะ อริยทรัพย์ คือ มีพระนิพพานเป็นที่สุด
3 อย่างนี้นี่เป็นคำสั่งสอน ของ พระพุทธเจ้าทั้งปวงในอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
การละชั่ว การทำดี ด้วยทาง กาย วาจา จิตใจ พระศาสดาเจ้า ของ ศาสนาอื่น ต่างก็มีสอนเช่นกัน แต่ อาจเหมือนกัน และ/หรือ แตกต่างกันในวิธีการ ของ ท่านไป จึงจัดว่า เป็น พระธัมม์คำสั่งสอน ของ ศาสนานั้น ๆ
พระพุทธเจ้า ทรงสอน การละชั่ว การทำดี จนถึง พระนิพพานดับกิเลส แล้วดับธาตุ 4 ขันธ์ 5 ในที่สุด จึงเป็น ความเหมือนที่แตกต่าง จากในคำสั่งสอน ของ ศาสดาพระองค์อื่น ใน ศาสนาอื่น อันเป็น พระพุทธธัมมวินัย หลักธัมม์คำสอน ของ พระพุทธเจ้าเราท่านทั้งหลาย
ผิดถูกใดมี กราบขอสมาอภัยทานด้วยเถิด
สาธุ ครับ