Arayasombat
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 185
|
|
« เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2015, 21:39:40 » |
|
วัตถุมงคลวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.ลำพูน"รุ่น ล้านนาร่มเย็น"จัดสร้างโดย วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.ลำพูน พระทุกองค์ ตอกโค๊ด และ ตอกหมายเลขกำกับทุกองค์ พร้อมใบรับรองจำนวนการจัดสร้าง วัตถุประสงค์ : 1.เพื่อหารายได้สมทบทุนจัดสร้างพระพุทธหริภุญชัยบรมโพธิ์สัตว์ ขนาดเท่าองค์จริง เพื่อประดิษฐาน ณ.วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.ลำพูน 2.เพื่อหารายได้สมทบทุนการก่อสร้างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน อ.เมือง จ.ลำพูน เปิดการสั่งจอง : 28 ก.พ. 2558 ปิดการสั่งจอง : 5 เม.ย.2558 พิธีมหาพุทธาภิเษก : 26 เม.ย.2558 เวลา 13.19น.ณ.วิหารหลวง วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.ลำพูน รับวัตถุมงคล : 6 พ.ค.2558 กำหนดโอนเงินภายใน : 5 เม.ย.2558 ท่านที่ประสงค์จะจองร่วมบุญสามารถโพสจองได้ในกระทู้นี้ได้เลยครับ หรือโทรแจ้งความประสงค์จองร่วมบุญทางโทรศัพท์กับผมโดยตรงที่ ร้านอารยสมบัติเบอร์โทรศัพท์ 086-4594495,084-2041313 ครับ ชื่อบัญชี : นายกิตติกรณ์ สัตยธำรงค์ (ร้านอารยสมบัติ) บัญชีออมทรัพย์ ธ.ทหารไทย จำกัด สาขาสกลนคร เลขที่บัญชี : 347-2-61986-9 โทร : 086-4594495,084-2041313
ค่าจัดส่ง พัสดุกันกระแทกและอี.เอ็ม.เอส 60 บาทครับ ท่านใดที่โอนเงินแล้วกรุณาแจ้ง จำนวนเงินที่ชำระ วันและเวลาในการโอนเงินและแจ้งชื่อ-ที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ
|
ขอเชิญร่วมบุญบูชาวัตถุมงคลครูบาจง อุปลวัณโณ รุ่นหล่อรวยรุ่นแรก วัดศรีสว่าง(วัวลาย) อ.หางดง จ.เชียงใหม่
|
|
|
|
Arayasombat
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 185
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2015, 21:42:06 » |
|
ประวัติพระธาตุหริภุญชัย พระธาตุประจำปีระกา พระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน เป็นปูชยสถานที่สำคัญยิ่งอีกแห่งหนึ่งของดินแดนล้านนาไทย มาแต่โบราณกาล ประมาณหนึ่งพันปีมาแล้ว บรรดาเจ้านครต่าง ๆ ในดินแดนส่วนนี้ได้มีความเคารพนับถือและศรัทธา ได้รับภาระในการปฏิสังขรณ์กันต่อมาจนถึงทุกวันนี้ องค์พระธาตุเป็นรูปทรงแบบลังกา ฝีมือประนีต และมีความคงทนถาวรมาก ตามประวัติกล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ. ๑๔๔๐ พระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์วงค์รามัญผู้ครองนครลำพูน เป็นลำดับที่ ๓๓ มีศรัทธาเลื่อมใสในพุทธศาสนาอย่างยิ่ง ได้ทรงรับเอาพระพุทธศาสนาจากเมืองมอญ มาประดิษฐานที่นครลำพูน และได้ทรงสร้างพระมณฑป เพื่อประดิษฐานพระบรมธาตุ สูงสามวา มีซุ้มทั้งสี่ด้าน ครอบโกศสูงสามศอก แล้วบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน ดังนั้นจึงเป็นที่รู้กันทั่วไปว่า บรรดาบ้านเรือนในนครลำพูน จะต้องสร้างไม่ให้สูงเกินสามศอก เพื่อให้สูงกว่าองค์พระบรมธาตุ ต่อมาพระนางปทุมวดี พระมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช ได้ทรงสร้างพระเจดีย์เหลี่ยมขึ้นองค์หนึ่ง ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของพระธาตุ เป็นพระปรางค์รูปสี่เหลี่ยมยอดแหลม มีนามว่าสุพรรณเจดีย์ ใต้ฐานชั้นล่างเป็นกรุบรรจุพระเปิม (พระเครื่องชนิดหนึ่ง) ยังปรากฎอยู่จนทุกวันนี้ เมื่อปี พ.ศ. ๑๗๒๒ พระเจ้าสัพพาสิทธิ์ ผู้ครองนครลำพูน ได้สร้างโกศทองเสริมต่อขึ้นไปอีกหนึ่งศอก รวมเป็นสูงสี่ศอก และสร้างพระมณฑปเสริมต่อขึ้นอีกสองวา รวมเป็นห้าวา เมื่อปี พ.ศ. ๑๘๑๙ พระเจ้าเม็งรายมหาราช ผู้ครองนครเชียงราย มีชัยชนะได้ครองนครลำพูน ได้ทรงสร้างพระมณฑป เสริมต่อครอบพระมณฑปเดิมอีกสิบวา รวมเป็นสิบห้าวา พร้อมทั้งสร้างทองจังโกฎก์หุ้มตั้งแต่ฐานถึงยอด เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๘๖ พระเจ้าอโลกราชกษัตริย์ของล้านนาไทย ผู้ครองนครเชียงใหม่ ได้อาราธนาพระมหาเมธังกร ให้ควบคุมการก่อสร้างเสริมต่อพระบรมธาตุ ให้สูงขึ้นไปอีกแปดวา รวมเป็นยี่สิบสามวา ฐานกว้างสิบสองวา สองศอก ฉัตรเจ็ดชั้น แก้วบุษหนัก ๒๓๐ เฟื้อง ใส่ไว้ที่ยอด สรุปรายการในการก่อสร้างได้ดังนี้ ศิลาแลง ๖๐,๐๐๐ ก้อน อิฐ ๑๐๐,๐๐๐ ก้อน ปูน ๑,๖๖๐,๐๐๐ ค่าน้ำกล้วยตีบเงิน ๖๐,๐๐๐ สิ้นน้ำหนัก ๔,๐๐๐,๐๐๐ ราคาเงิน ๙,๐๐๐ รวมค่าก่อสร้างทั้งหมด ๔,๐๐๐,๐๐๐ และได้เอาทองจังโกฎก์ (แผ่นทองแดงปนนาค) หุ้มตลอดองค์จำนวน ๑๕,๐๐๐ แผ่น สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๑๙๙๐ เมื่อปี พ.ศ. ๒๐๐๐ พระเมืองแก้วเจ้านครเชียงใหม่ ได้สร้างส่วนนี้เป็นสันติบัญชร (ระเบียงหอก) ล้อมเป็นรั้วไว้ ณ ฐานล่างสองชั้น เป็นจำนวน ๕๐๐ เล่ม และต่อมาในสมัยพระยาอุปโย เป็นเจ้านครเชียงใหม่ พระราชโมลีมหาพรหม และพระสังฆราชา ได้ชักชวนชาวเมือง ทำสันติบัญชรต่ออีก ๗๐๐ เล่ม จนเสร็จบริบูรณ์ ตามตำนาน เช่นพงศาวดารโยนก จามเทวีวงศ์ และมูลศาสนาชินกาลมาลินี กล่าวว่าพระบรมธาตุแห่งนี้ บรรจุพระบรมเกศาธาตุ เดิมบรรจุไว้ในกระบอกไม้ไผ่รวกฝังไว้ใต้พื้นดิน เมื่อครั้งพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ ได้เคยเสด็จมา ณ ที่นี้ ได้ประทับบนหินก้อนหนึ่ง กระทำภัตกิจ (ฉันอาหาร) และทรงพยากรณ์ว่าจะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งปาฏิหารย์ผุดขึ้นจากพื้นดิน ปัจจุบัน วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ตั้งอยู่กลางเมืองลำพูน มีเนื้อที่ ๒๕ ไร่ วัดนี้มีกำแพงสองชั้น เป็นกำแพงรอบบริเวณวัดชั้นนอก และกำแพงทำเป็นศาลาบาตรรอบองค์พระธาตุ เป็นกำแพงชั้นใน องค์พระธาตุเจดีย์มีสินติบัญชรสองชั้น สำเภาทองตั้งอยู่ประจำรั้วชั้นนอก ทั้งด้านทิศเหนือและทิศใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม กับหอยอดประจำทุกด้าน รวมสี่หอ มีพระพุทธรูปประจำอยู่ทุกหอ ประเพณีสรงน้ำพระธาตุมีในวันเพ็ญเดือนหก ใช้น้ำทิพย์โดยนำน้ำมาจากยอดดอยเค้าม้อ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออก ประมาณสิบกิโลเมตร และได้รับพระราชทานน้ำสรง กับเครื่องราชสักการะ มีการแห่แหนครัวทาน จุดบอกไฟ (ไฟพะเนียง) เป็นพุทธบูชา และมหรสพอยู่ตลอดคืน (ขอขอคุณข้อมูลจากwww.gotoknow.org-คุณณรงค์ศักดิ์)
|
ขอเชิญร่วมบุญบูชาวัตถุมงคลครูบาจง อุปลวัณโณ รุ่นหล่อรวยรุ่นแรก วัดศรีสว่าง(วัวลาย) อ.หางดง จ.เชียงใหม่
|
|
|
|
|
Arayasombat
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 185
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2015, 21:45:26 » |
|
ประเพณีสรงน้ำพระธาตุหริภุญชัย พระบรมธาตุหริภุญชัย เป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งของจังหวัดลำพูน เป็นจอมเจดีย์องค์หนึ่งในจำนวนแปดแห่งของประเทศไทย เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สร้างในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช พระบรมธาตุหริภุญชัยเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของประชาชนโดยทั่วไป ประเพณีสรงน้ำพระธาตุเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ เป็นที่สนใจของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดลำพูนและจังหวัดใกล้เคียง ประเพณีนี้ยึดถือและปฏิบัติมาเป็นประจำทุกปี
วันที่จัดงาน ราวเดือน พ.ค. หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 จัดงาน 5 วัน ณ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร
สิ่งที่น่าสนใจ มีการสรงน้ำตั้งแต่วันขึ้น 11 ค่ำ ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 จะทำพิธีสรงน้ำโดยนำน้ำพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัวฯ และเครื่องสักการะเพื่อประกอบพิธี รวมทั้งจังหวัดได้อัญเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากดอยขะม้อเข้าร่วมพิธีสรงด้วย บริเวณที่ทำพิธีอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระธาตุ นอกจากนี้ยังมีการแสดงทางวัฒนธรรม ตอนกลางวันจะเป็นประกวด ตีกลองสะบัดชัย และกลางคืนจะมีการประกวดฟ้อนยอง ฟ้อนเล็บ (ขอขอบคุณข้อมูลจาก:www.tourlamphun.com)
|
ขอเชิญร่วมบุญบูชาวัตถุมงคลครูบาจง อุปลวัณโณ รุ่นหล่อรวยรุ่นแรก วัดศรีสว่าง(วัวลาย) อ.หางดง จ.เชียงใหม่
|
|
|
|
|
Arayasombat
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 185
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 24 มีนาคม 2015, 17:52:07 » |
|
รายนามเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัย ปี พ.ศ. เจ้าอาวาสยุคต้น ๆ ไม่ปรากฏชัดเจน ต่อไปนี้เป็นรายนามเจ้าอาวาสของวัดพระธาตุหริภุญชัยทั้งหมด ดังต่อไปนี้ 1. พระมหาราชโมฬีสารีบุตร พ.ศ. - 2. พระราชโมฬี พ.ศ. – 3. พระคัมภีร์ คมฺภีโร พ.ศ. – 4. พระวิมิลญาณมุนี พ.ศ. 2476 – 2486 5. พระครูจักษุธรรมประจิตร พ.ศ. 2486 – 2489 6. พระธรรมโมลี พ.ศ. 2489 – 2533 7. พระเทพมหาเจติยาจารย์ (หลวงพ่อไพบูลย์ ภูริวิปโล) พ.ศ. 2533 - 2556
8. พระราชปัญญาโมลี (รักษาการณ์ เจ้าอาวาส) ปัจจุบัน
|
ขอเชิญร่วมบุญบูชาวัตถุมงคลครูบาจง อุปลวัณโณ รุ่นหล่อรวยรุ่นแรก วัดศรีสว่าง(วัวลาย) อ.หางดง จ.เชียงใหม่
|
|
|
|
Arayasombat
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 185
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 27 มีนาคม 2015, 10:45:58 » |
|
อาลัยพระเถระล้านนา พระเทพมหาเจติยาจารย์ คอลัมน์ มงคลข่าวสด
วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน สร้างเมื่อปี พ.ศ.1651 เป็นที่ประดิษฐานพระเกศบรมธาตุบรรจุโกศทองคำในพระเจดีย์แบบล้านนา
เป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งอาณาจักรล้านนาไทย ในแต่ละวันคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ เดินทางมากราบนมัสการพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง
วัดพระธาตุหริภุญชัยแห่งนี้ ปรากฏนามพระเถระ คือ "พระเทพมหาเจติยาจารย์" ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและวัตรปฏิบัติอันน่าเลื่อมใส เป็นพระดีที่ควรค่าแก่การกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ
พระเทพมหาเจติยาจารย์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดลำพูน และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน
พระเทพมหาเจติยาจารย์ มีนามเดิมว่าไพบูลย์ นามสกุล คำวัง เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีขาล ตรงกับวันที่ 17 มี.ค. 2469 ณ บ้านเลขที่ 361 หมู่ 1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน
บรรพชาเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2481 ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน และอุปสมบทเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2490 มีพระปลัดถาวร ถาวโร วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา "ภูริวิปุโล" การศึกษาสำเร็จหลักสูตรอักขระภาษาล้านนา และสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก จึงได้นำวิชาความรู้มาถ่ายทอดเป็นวิทยาทานแก่ศิษย์ ในฐานะครูสอนพระปริยัติธรรม ควบคู่ไปกับเป็นคณะกรรมการตรวจข้อสอบธรรมสนามหลวงและกรรมการศึกษาโรงเรียนเทศบาลประตูลี้จนถึงปัจจุบัน
ต่อมา สอบไล่ได้ตามหลักสูตรประโยคครูพิเศษมูล จากกระทรวงศึกษาธิการ ก่อนสำเร็จหลักสูตรโรงเรียนพระ สังฆาธิการส่วนภูมิภาค จังหวัดลำพูน และส่วนกลาง รุ่นที่ 3 วัดสามพระยา กรุงเทพฯ
ด้วยความคลุกคลีอยู่ในแวดวงการศึกษาสงฆ์ทำให้ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษาโรงเรียนหอปริยัติศึกษา ภาค 7 วัดพระธาตุหริภุญชัย แผนกธรรม-บาลี, เป็น ผู้อำนวยการโรงเรียนเมธีวุฒิกร วัดพระธาตุหริภุญชัย (โรง เรียนราษฎร์การกุศลของวัด), และเป็นผอ.โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จ.ลำพูน ในปี พ.ศ.2533
คุณูปการอันทรงคุณประโยชน์ที่ปรากฏแก่ชาวลำพูน ส่งผลให้ท่านเจ้าคุณมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการก่อตั้งและอุปถัมภ์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ควบตำแหน่งกรรมการสภาวิทยาเขต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ และเป็นเจ้าสำนักเรียนคณะจังหวัดลำพูน รวมทั้งเป็นประธานดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน บริเวณ ต.ต้นธง อ.เมือง จ.ลำพูน
ในปี พ.ศ.2541 สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้อนุมัติพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมศาสตร์ เพื่อประกาศเกียรติคุณให้เป็นที่ประจักษ์
ด้านการเผยแผ่ธรรม ท่านเทศน์มหาชาติชาดก แสดงปาฐกถาธรรม บรรยายธรรม ฝึกอบรมจริยธรรมแก่นักเรียน และเป็นวิทยากรในการอบรมในระดับต่างๆ
อีกทั้งเขียนบทความธรรมะ เขียนบทความทางประวัติ ศาสตร์และเขียนลวดลายไทยล้านนา แกะสลักลวดลายไทยล้านนาได้อย่างงดงาม
ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2533 เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัย พ.ศ.2553 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดลำพูน
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2521 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระมหาเจติยารักษ์ พ.ศ.2536 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชมหาเจติยาภิบาล
พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาชั้นเทพ ในราชทินนามที่ "พระเทพมหาเจติยาจารย์"
ท่านเป็นนักค้นคว้าด้านภาษาพื้นเมืองและอักขระล้านนา นำมาสั่งสอนบรรดาลูกศิษย์จนอ่านออกเขียนได้กันทุกคน ทั้งยังอนุรักษ์ประเพณีพื้นบ้านที่ชาวลำพูนร่วมสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนให้คงอยู่คู่บ้านคู่เมืองลำพูน จนถึงทุกวันนี้
การสร้างพิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณวัดพระธาตุหริภุญชัยฯ เป็นที่เก็บของเก่าของแก่เมืองลำพูน ในบริเวณวัดพระธาตุหริภุญ ชัยฯ ให้เยาวชนรุ่นหลังๆ และประชาชน ได้เข้าศึกษาที่มาของประวัติเมืองลำพูน และวัตถุโบราณครั้งสมัยเจ้าผู้ครองนครหริภุญชัย รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ได้สร้างไว้นานถึง 1,400 ปี มาเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
นอกจากวัตถุถาวรแล้ว พระเทพมหาเจติยาจารย์ ยังได้ตั้งมูลนิธิเจติยาภิบาล เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเจ็บไข้ได้ป่วยและอุบัติเหตุ มีเจ้าหน้าที่คอยออกช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ในบางครั้งท่านยังได้ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนไม่มีที่อยู่อาศัย ช่วงฝนตก ฟ้าร้อง ไม่มีที่พักอาศัยหลับนอน ด้วยการอนุเคราะห์นำปัจจัยส่วนตัวไปสร้างบ้านให้ จนเป็นที่กล่าวขวัญกัน พระเถระผู้มีเมตตาสูงรูปหนึ่งแห่งเมืองลำพูน
งานประเพณีประจำปีของวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ท่านได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เช่น การสรงน้ำพระบรมธาตุ งานตานก๋วยสลาก และงานปอยหลวง เป็นต้น
ด้านการส่งเสริมวัฒนธรรม ได้จัดตั้งครูสอนวัฒนธรรมแก่เยาวชนที่สนใจศึกษา
วิชาการดนตรีล้านนาและดนตรีไทย ท่านส่งเสริมจัดสอนเล่นดนตรีไทยแก่ผู้ที่สนใจทุกวัน เช่น การดีดซึง สีสะล้อ ตีระนาด ตีกลอง และเครื่องดนตรีไทยอีกจำนวนหลายชนิด
นักดนตรีจะเล่นช่วงตอนกลางวันเป็นประจำทุกวัน รวมทั้งแสดงโชว์ให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมวัดพระธาตุฯ รับฟังเสียงมนต์เพลงล้านนาที่ดังก้องกังวานอยู่บนดอยขะม้อ ท่าม กลางความโดดเด่นเป็นสง่าแห่งองค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่อาณาจักรลำพูน
ด้วยอายุขัยที่ล่วงเลยเข้าสู่วัยชราภาพ บ่อยครั้งทำให้ท่านอ่อนแรง สุขภาพไม่แข็งแรงดังเดิม กระทั่งล้มป่วยอาพาธเป็นประจำ ต้องเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง
คณะแพทย์ขอให้ท่านพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และได้ให้การรักษาอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 6 มี.ค. 2556 เวลา 14.30 น. ที่ตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พระเทพมหาเจติยาจารย์ ได้สิ้นลมอย่างสงบ ในวัย 87 ปี พรรษา 66
ทั้งนี้ คณะสงฆ์จังหวัดลำพูน และญาติโยม ศิษยานุศิษย์ ได้ประกอบพิธีสรงน้ำศพตามประเพณี จัดสวดพระอภิธรรมทุกคืน ไปจนถึงวันที่ 17 มี.ค. 2556 เพื่อทำพิธีพระราชทานเพลิงศพต่อไป
|
ขอเชิญร่วมบุญบูชาวัตถุมงคลครูบาจง อุปลวัณโณ รุ่นหล่อรวยรุ่นแรก วัดศรีสว่าง(วัวลาย) อ.หางดง จ.เชียงใหม่
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|