เจ้าของกระทู้มองแบบนี้หรอคะ
ลองมองอีกมุมนะคะ
ของเรา ยังหาไม่เจอ เขาก็พยายามเช็คอยู่ว่าของถึงหรือยัง กำลังอยู่ในส่วนไหนของคลัง แล้วก็กำลังหา
ส่วนคนที่ได้ก่อน คุยอย่างสนิมสนม ใช่ค่ะ เขารู้จักพนักงงานก็จริง เพราะเขามาบ่อย พนักงานอาจจะจำได้เลยเก็บของไว้ให้ใกล้ๆมือ เมื่อเธอมาก็จะได้หยิบง่ายไม่เสียเวลาไปหา
ส่วนพนักงานคนอื่นก็ยังหาของเจ้าของกระทู้อยู่นิคะ ไม่ได้หยุดหาแล้วไปบริการผู้หญิงคนนั้น
แบบนี้ไม่ได้เรียกลัดคิวมั้งคะ หรือว่าเราเข้าใจผิดไป
ปล.เราไป ปณ.แรกๆก็แบบเจ้าของกระทู้แหละค่ะ พอนานๆ เขาเริ่มจำเราได้ เขาก็เก็บไว้ให้ แปปเดียวก็ได้
ตอบแบบแสดงตัวเลยนะครับ โดยอาศัยความสนิทสนมกับพนักงาน นี่ไงครับระบบแซงคิวให้คนรู้จัก
เขากำลังหาให้ผมอยู่ คนต่อไปมาเอาเลข EMS ให้ แล้วก็หาเจอก่อน หมายความว่า
"พนักงานแซงคิวให้คนที่มาทีหลังผม ไงครับ"
จะบอกว่า รู้จักกันเลยเก็บของไว้ให้ ยิ่งมัดตัวใหญ่เลย ต่อไปในอนาคตมีถ้าคนรู้จักและสนิทสนมกับพนักงานมากขึ้น ก็มีแต่ของของคนเหล่านี้ใกล้มือพนักงานเต็มไปหมด ของคนทั่วไปไม่ต้องไปเอากองไว้ข้างหลังไกล ๆ เลยเหรอครับ
ยิ่งบอกว่า เก็บไว้ใกล้มือ จะได้หยิบให้คนที่รู้จักและสนิทสนมได้ง่าย ๆ นี่
ปรับความคิดใหม่นะครับ การบริการต้องเท่าเทียมและสม่ำเสมอสิครับ ไม่ใช่บริการให้คนรู้จักก่อน
ผมโดนลัดคิวไปแล้ว แล้วกลับไปหาของให้ผม แล้วมีคนรู้จักมาอีกเรื่อยๆๆๆๆๆ
ผมไม่โดนลัดคิวไปเรื่อยๆๆๆๆ เลยเหรอครับ
และ
ผมไม่ได้บอกเลยครับ ว่าพนักงานคนอื่นกำลังหาให้ ก็พนักงานคนที่กำลังหาให้ผมนี่แหละครับ หยุดหาแล้วมารับเลข EMS ของผู้หญิงที่รู้จักกันแล้วแทรกคิวหาให้ก่อนเลย
คนได้ประโยชน์ก็ต้องออกมาปกป้องประโยชน์ของตัวเองอยู่แล้ว โดยไม่สนใจว่ามันถูกหรือผิด...