เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 30 กรกฎาคม 2025, 07:46:45
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  จริงหรือไม่..ครู เทศบาล .7 ลาออกไป 13 คน..ท่านใดทราบบ้าง
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 [8] 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ... 22 พิมพ์
ผู้เขียน จริงหรือไม่..ครู เทศบาล .7 ลาออกไป 13 คน..ท่านใดทราบบ้าง  (อ่าน 39241 ครั้ง)
manu07
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,872


วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน


« ตอบ #140 เมื่อ: วันที่ 29 มกราคม 2011, 23:15:30 »

           วันประชุมผู้ปกครองอนุบาล3 ผมก็เข้าร่วมประชุมด้วยครับ แล้วก็สอบถามจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เอาลูกมาเรียนที่ ท.7 เค้าก็สงสัยเหมือนกันครับเก็บค่าเล่าเรียนลูกตั้ง 10000 บาทแล้วลดผู้สอนลงทั้งที่เป็นเงินที่ผู้ปกครองช่วยกันออกเป็นค่าจ้างครูผู้สอน
           จากลักษณะแบบนี้ถ้าลดครูก็ต้องลดค่าเล่าเรียนลูกด้วยถึงจะถูก(แต่เก็บเท่าเดิม)
           อีกอย่างท่านผู้อำนวยการก็ตอบคำถามไม่ชัดเจนเหมือนตอบขอให้มันผ่าน ๆ ไป ทำให้ผู้ปกครองในที่ประชุมเริ่มไม่ค่อยพอใจในคำตอบที่ไม่ชัดเจน
IP : บันทึกการเข้า
criec5
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #141 เมื่อ: วันที่ 30 มกราคม 2011, 06:47:50 »

ถามท่านผอ.
1. ท่านเก็บค่าเรียนเพื๋ออะไร?
2. เก็บแล้วเอาไปทำอะไร และทำอย่างไร? (หากท่านตอบไม่ได้ให้ย้อนกลับไปดูข้อ 1)
3. ตอนนี้ท่านผอ.ติดค้างอะไรใครอยู่หรือไม่?
IP : บันทึกการเข้า
suddum
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


« ตอบ #142 เมื่อ: วันที่ 30 มกราคม 2011, 11:37:41 »

เงียบไม่มีการตอบลับจาก ผู้บริหารเเบบนี้เเสดงว่าไม่ใส่ใจเลยนะค่ะ ถ้าเป็นเรานะค่ะพอทราบเรื่องนี้จากปากใครครั้งเเรก เราจะเรียกประชุมผู้ปกครองเลย จะไม่ปล่อยให้เข้าใจกันคนละทางเเบบนี้เเสดงว่าเค้าไม่จริงใจกับเด็กไม่ใส่ใจกับผู้ปกครอง เเบบนี้จัดให้ไปเลยค่ะ เอาจริงจังเลย ใครที่มาอ่านโปรดเเสดงความคิดเห็นช่วยกันนัค่ เราเมลถามรายละเอียอดเค้าเงียบไม่พอ มาหาด้วยว่าเป็นผู้ปกครองเด็กคนไหนส่งเเล้วให้ครูมาถาม มันน่านะค่ะ เด็กไม่รู้เรืองด้วยเลยชักทนไม่ไหวเเล้ว ช่วยๆกันค่ะ เราใช่ว่าไม่มีการศึกษากันนะค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
auto!atom
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,349

รับทำระบบไฟฟ้าโรงงาน อุตสาหกรรม โรงแรม


« ตอบ #143 เมื่อ: วันที่ 30 มกราคม 2011, 11:37:52 »

พอดีไม่ทราบว่าเมื่อเช้าท่านผู้ปกครองท่านใดได้ไปตามที่นัดหมายหรือไม่ครับ ต้องขออภัยด้วยที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงการนัดหมายเล็กน้อย เอาเป็นว่าแบบนี้ดีมั้ยครับ เรานัดหมายกันอีกทีอาจจะเป็นวันไหนซักวัน นั่งคุยกันแบบสบาย ๆ ไม่ต้องมีพิีธีรีตรองอะไร ผมเลยอยากขอเบอร์ของทุกท่านเพื่อสะดวกในการนัดหมายกันอีกครั้ง ส่วนสถานที่ผมมีที่ใหม่มาเสนอ บนชั้น 3 CRMall มีโต๊ะเก้าอี้พร้อมเยอะเลยครับ อยู่กลางเมือง ประตูสลีน่าจะสะดวก แต่เบื้องต้นขอเบอร์ของทุกท่านก่อนนะครับ

เบอร์ผม 081-5317814 ครับ

เบอร์ท่าน THANAPUT 0817646719
เบอร์ข้างลายเซ็นต์ค่ะ
IP : บันทึกการเข้า

รับทำระบบไฟฟ้า อาคารพาณิชย์ บ้าน ห้องแถว โรงแรม โรงเรียน
ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า
ติดตั้งและจำหน่ายกล้องวงจรปิด
dang1234
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #144 เมื่อ: วันที่ 30 มกราคม 2011, 16:22:13 »

พวกเราก็ย้ายลูกเราไปเรียนที่ ท8 เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 มกราคม 2011, 16:44:22 โดย dang1234 » IP : บันทึกการเข้า
jj_t01
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #145 เมื่อ: วันที่ 30 มกราคม 2011, 19:03:40 »

วันนี้ ติดตามอย่างอารมณ์ดีคะ
1.ก่อนอื่นขออนุญาตปรบมือให้ท่านผู้บริหารก่อนนะคะว่า ท่านเป็นคนหนักแน่นมาก ถามอะไรไปไม่เคยตอบเลย..ประเด็นที่ถาม
2.ท่านคงปล่อยให้พวกเราบ่นไป เรื่อยๆเดียวก็หมดแรงไปเอง....
3.หรือท่าน...ตอบกระทู้ไม่เป็น....หรือ...(อาจเป็นไปได้)
4....ท่านคงสนใจประเด็นทุกประเด็น...อยู่  พวกเราไม่ต้องน้อยใจแต่ท่านยังไม่มีโอกาสตอบ
5.รึท่าน ให้ความเงียบ สยบ ความร้อนแรง...ของกระแส
6.งง....คะ...ไม่เข้าใจ...
IP : บันทึกการเข้า
criec5
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #146 เมื่อ: วันที่ 30 มกราคม 2011, 19:19:32 »

อยากทราบว่าเมื่อไรท่านผอ.จะประชุมใหญ่ชี้แจงเรื่องต่างๆที่ผู้ปกครองสงสัยและแสดงวิสัยทัศน์การบริหารที่จะนำให้ท.7เป็นต้นแบบของโรงเรียนเทศบาลที่จัดการศึกษาหลักสูตรสองภาษาแบบmini english program ให้ได้มาตรฐานมีคุณภาพตามวัดถุประสงค์ที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น(เทศบาล)ได้จัดตั้งขึ้นมา ผู้ปกครองทุกคนมีความหวังดีต่อโรงเรียนชึ่งลูกๆของพวกเราเรียนอยู่และพร้อมสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนอย่างเต็มที่แต่ผู้บริหารต้องมีความจริงใจ พร้อมที่จะตอบคำถามของผู้ปกครองได้ทุกคำถาม อย่างนี้สิจึงจะเรียกว่าผู้บริหาร
ไม่ใช่จะรอให้ปัญหาเกิดแล้วจึงมาแก้ไขทีละประเด็น หรือเรียกผู้ปกครองมาชี้แจงทีละคน และไม่ควรใช้เด็กมาถามผู้ปกครอง(คนผูกก็ควรเป็นดนแก้เองจะได้กระจ่าง)
IP : บันทึกการเข้า
THANAPUT
เชียงรายบ๊อช คาร์ เซอร์วิส
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,620



« ตอบ #147 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2011, 08:22:16 »

กระทู้นี้ขอหยุดการโพสต์ทุกข้อความ..
เพื่อรอดูแนวทางการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
น่าจะมีการแก้ปัญหาอย่างจริงและยั่งยืน
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ได้เข้ามาอ่าน..และช่วยให้เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไข
IP : บันทึกการเข้า

บริการ  ติดตั้งแก๊สรถยนต์ ระบบหัวฉีด รับประกัน 5 ปีเต็ม  จำหน่าย สินค้า  BOSCH  ทั้งปลีกและราคาขายส่ง
http://www.chiangraiboschcarservice.com
dang1234
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #148 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2011, 09:20:07 »

ถ้าทุกท่านยึดเด็กเป็นสำคัญ ทุกอย่างก็จะดีขึ้น แต่ถ้ายึด ผู้ใหญ่เป็นสำคัญทุกอย่างก็จะจบโดยเร็ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 31 มกราคม 2011, 21:10:09 โดย dang1234 » IP : บันทึกการเข้า
auto!atom
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,349

รับทำระบบไฟฟ้าโรงงาน อุตสาหกรรม โรงแรม


« ตอบ #149 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2011, 10:10:31 »

ถ้าทุกท่านยึดเด็กเป็นสำคัญ ทุกอย่างก็จะดีขึ้น แต่ถ้ายึด ผู้ใหญ่เป็นสำคัญทุกอย่างก็จะจบโดยเลว

ขอบคุณที่ท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นซึ่งทางเราได้บอกเบื้องต้นแล้วอย่างกับตัวดิฉันลูกไม่ยอมไปโรงเรียนสาเหตุมาจากคุณครูที่ดูแลมาตั้งแต่เข้าเรียนได้ลาออกไป ดังนั้งทางดิฉันได้ผลกระทบโดยตรง  ดิฉันก็หวังว่าลูกของดิฉันจะปรับตัวได้โดยเร็ว ถ้าไม่อย่างงั้นดิฉันคงต้องเหมือนผู้ปกครองหลายท่านที่ย้ายที่เรียน  และหวังเป็อย่างยิ่งว่าท่าน dang 1234 คงไม่ใช้คนของโรงเรียนที่เข้ามาโพสแสดงความคิดเห็น เพราะถ้าท่านเป็นคนของโรงเรียนก็คงจะแย่ (ผู้ใหญ่เป็นสำคัญทุกอย่างก็จะจบโดยเลว) มันส่อจริงๆ   
               ดิฉันขอแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้าคำพูดบางคำไม่ถูกต้อง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
IP : บันทึกการเข้า

รับทำระบบไฟฟ้า อาคารพาณิชย์ บ้าน ห้องแถว โรงแรม โรงเรียน
ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า
ติดตั้งและจำหน่ายกล้องวงจรปิด
ฺฺิิิิิิิฺฺิ222
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #150 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2011, 10:30:46 »

ขอมีส่วนร่วมในการผลักดันโรงเรียนเทศบาล 7 ไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นกว่าเดิมเื่พื่อลูกหลานของเรา ผู้ปกครองที่มีเวลาดูแลเอาใจใส่เด็ก ย่อมดีกว่าผู้ปกครองไม่ใส่ใจ ปล่อยให้เด็กเป็นไปตามวิถีของโรงเรียน โรงเรียนน่าจะนำจุดนี้มาเป็นจุดแข็งของโรงเรียน ทำความเข้าใจให้ตรงกัน ยอมรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น เื่พื่อสิ่งที่ดีทีสุด เพื่อลูกหลานของเราค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
prucha
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #151 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2011, 12:41:34 »

ท่านผู้บริหารควรเรียกกรรมการและผู้ปกครองประชุมด่วนเพราะความศรัทราต่อโรงเรียนลดลง อย่าปล่อยให้โรงเรียนต้นแบบต้องกลายเป็นโรงเรียนปลายน้ำ และควรเชิญนายกเทศมนตรีสมพงษ์มาร่วมรับฟังปัญหา และตอบคำถามว่าท่านต้องให้โรงเรียนท.7เป็นอย่างไร
IP : บันทึกการเข้า
AIT
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,914



« ตอบ #152 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2011, 14:22:04 »

รอคณะกรรมการสถานศึกษามาชี้แจง หลังจากเข้าพบกับผู้อำนวยการสถานศึกษาในวันนี้ครับ รอคำตอบดี ๆ กันนะครับ
IP : บันทึกการเข้า
moutun
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15


« ตอบ #153 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2011, 19:58:59 »

เรียน  ผู้ปกครอง

             จากการเข้าพบ  ผอ.ท่านจะชี้แจงให้ผู้ปกครองในสัปดาห์หน้าเกี่ยวกับข้อซักถาม      ที่ท่านสงสัยในที่ประชุมต่อหน้า ผู้บริหารเทศบาลนครเชียงรายฝ่ายการศึกษาและนายกเทศมนตรีฯ ภายหลังจากงานโอเพ้นเฮ้าส์ สรุปคำชี้แจง(คร่าวๆ) ครูที่ลาออกไปก็เนื่องไปอยู่ตามโรงเรียนต่างๆในเชียงรายและพะเยาที่เขาสอบได้และถูกเรียกตัวไปบรรจุ  จำนวน 10 คน(อัตราครูจ้างสอน) รวมครูต่างชาติ( 3 คน)  ซึ่งในเทอมหน้าก็จะหามาชดเชยเป็นครูฝรั่ง 2 คน ครูไทย อีก 3 คน เป็นข้าราชการ  โครงสร้างอื่นเหมือนเดิม  ระดับอนุบาล ครูต่างชาติ 1  ครูไทย 1  พี่เลี้ยง 1  ที่หายไปคือครูไทยเอกอังกฤษที่เป็นล่ามแปล  จำนวน 3 คน ไม่เอามาทดแทนเนื่องจากครูไทยปรับตัวเข้ากับครูต่างชาติได้และครูต่างชาติพูดไทยได้    ส่วนระดับประถม  ครูต่างชาติ 1 คน ครูไทย 1 คน  เหมือนเดิม  ปัจจุบัน ร.ร.ท.7 มีบุคคลากรดังต่อไปนี้คือ  ครูข้าราชการ 7 คน ครูอัตราจ้างตามภารกิจ 7 คน  ครูอัตราจ้าง(เงินบำรุงการศึกษา) 7 คน  ครูต่างชาติ 11 คน  ครูจีน 1 คน  รวมครู 33 คน (มีหน้าที่สอน) รวมผู้บริหารอีก 2 คน เป็น 35 คน   ปัจจุบันเรามีห้องเรียนประถม 6 ห้อง  อนุบาล 6 ห้อง รวมมี 12 ห้อง  มีครู 33 คน  ครูเยอะมาก  พี่เลี้ยงเด็ก มี 6 คน สำหรับน้องอนุบาลครบ  แม่ครัว 3 คน เหมือนเดิม  รายละเอียดท่าน ผอ.จะมีหนังสือเชิญผู้ปกครองมาประชุมอีกครั้ง  คอยรอหนังสือเชิญ 
  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
THANAPUT
เชียงรายบ๊อช คาร์ เซอร์วิส
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,620



« ตอบ #154 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2011, 20:24:06 »

ขอบคุณครับที่ได้รับคำชี้แจ้งในเบื้องต้น
ท่านผู้ปกครองของนักเรียนท่านใด..มีคำถามอะไร..
ก็เก็บคำถามเอาไว้ในวันที่จะมีการประชุมก็แล้วกันครับ..
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
IP : บันทึกการเข้า

บริการ  ติดตั้งแก๊สรถยนต์ ระบบหัวฉีด รับประกัน 5 ปีเต็ม  จำหน่าย สินค้า  BOSCH  ทั้งปลีกและราคาขายส่ง
http://www.chiangraiboschcarservice.com
omhom
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #155 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2011, 20:55:57 »

แล้วคิดว่าท่านจะตอบเราอย่างจริงใจรึป่าว
ทุกคำตอบจากท่านจะได้ใจเราแค่ไหน  เพราะที่ผ่านมาท่านไม่เคย
ตอบคำถามกับผู้ปกครองแบบเคลีย ครั้งเดียวจบ
เห็นแล้วเหนื่อยอ่ะ  กับโรงเรียน จะเข้าปีที่ 7  แล้ว  ทุกอย่างยิ่งแย่ลงๆ
IP : บันทึกการเข้า
AIT
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,914



« ตอบ #156 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2011, 21:48:49 »

เรียน  ผู้ปกครอง

             จากการเข้าพบ  ผอ.ท่านจะชี้แจงให้ผู้ปกครองในสัปดาห์หน้าเกี่ยวกับข้อซักถาม      ที่ท่านสงสัยในที่ประชุมต่อหน้า ผู้บริหารเทศบาลนครเชียงรายฝ่ายการศึกษาและนายกเทศมนตรีฯ ภายหลังจากงานโอเพ้นเฮ้าส์ สรุปคำชี้แจง(คร่าวๆ) ครูที่ลาออกไปก็เนื่องไปอยู่ตามโรงเรียนต่างๆในเชียงรายและพะเยาที่เขาสอบได้และถูกเรียกตัวไปบรรจุ  จำนวน 10 คน(อัตราครูจ้างสอน) รวมครูต่างชาติ( 3 คน)  ซึ่งในเทอมหน้าก็จะหามาชดเชยเป็นครูฝรั่ง 2 คน ครูไทย อีก 3 คน เป็นข้าราชการ  โครงสร้างอื่นเหมือนเดิม  ระดับอนุบาล ครูต่างชาติ 1  ครูไทย 1  พี่เลี้ยง 1  ที่หายไปคือครูไทยเอกอังกฤษที่เป็นล่ามแปล  จำนวน 3 คน ไม่เอามาทดแทนเนื่องจากครูไทยปรับตัวเข้ากับครูต่างชาติได้และครูต่างชาติพูดไทยได้    ส่วนระดับประถม  ครูต่างชาติ 1 คน ครูไทย 1 คน  เหมือนเดิม  ปัจจุบัน ร.ร.ท.7 มีบุคคลากรดังต่อไปนี้คือ  ครูข้าราชการ 7 คน ครูอัตราจ้างตามภารกิจ 7 คน  ครูอัตราจ้าง(เงินบำรุงการศึกษา) 7 คน  ครูต่างชาติ 11 คน  ครูจีน 1 คน  รวมครู 33 คน (มีหน้าที่สอน) รวมผู้บริหารอีก 2 คน เป็น 35 คน   ปัจจุบันเรามีห้องเรียนประถม 6 ห้อง  อนุบาล 6 ห้อง รวมมี 12 ห้อง  มีครู 33 คน  ครูเยอะมาก  พี่เลี้ยงเด็ก มี 6 คน สำหรับน้องอนุบาลครบ  แม่ครัว 3 คน เหมือนเดิม  รายละเอียดท่าน ผอ.จะมีหนังสือเชิญผู้ปกครองมาประชุมอีกครั้ง  คอยรอหนังสือเชิญ  
  ยิงฟันยิ้ม

ขอขอบคุณท่านคณะกรรมการสถานศึกษาเป็นอย่างสูงครับ เป็นอันว่าการจัดโครงสร้างบุคลากรใหม่ ซึ่งเราคงต้องยอมรับในการตัดสินใจของฝ่ายบริหารของโรงเรียน  และประเด็นเรื่องการจัดการบริการด้านอาหาร คงพอเคลียร์ใจให้ผู้ปกครองทราบได้บ้างบางส่วนแล้วครับ ส่วนผลด้านคุณภาพการจัดการศึกษาที่ผ่านมาคงต้องรอจากผลสอบ LAS ในระดับชั้น ป.2 และผลสอบ NT ในระดับชั้น ป.3 ซึ่งจะมีการสอบในเร็ววันนี้เป็นตัวบ่งประสิทธิภาพกันต่อไปนะครับ ปัญหาที่อาจจะต้องรอฟังให้ดี ๆ ในวันประชุม ก็คงจะเป็นปัญหาในด้านนโยบายจากเบื้องบนสุดของต้นสังกัดคือเทศบาลนครเชียงรายครับ เค้ากำลังปล่อยเกาะลูกหลานของพวกเราจริงหรือไม่ เค้ากำลังจะลดบทบาทโรงเรียนต้นแบบของโรงเรียนเทศบาล7 ลงหรือไม่ และผู้อำนวยการสถานศึกษามีแผนในการรองรับปัญหาตรงนี้อย่างไร อันนี้คงเป็นประเด็นที่ผมคิดว่าเป็นไฮไลท์ของการประชุมในวันนั้นอย่างแน่นอนครับ ขอบคุณครับ

ช่วงนี้เราคงต้องทำบทบาทหน้าที่ของผู้ปกครองให้ดีที่สุด ช่วยกันส่งเสริมและเป็นกำลังใจให้ลูกหลานของเราแสดงออกในงาน Open House ที่จะถึงนี้ให้ดีที่สุด อันจะนำมาซึ่งหน้าตาและชื่อเสียงของโรงเรียนเทศบาล 7 อันเป็นที่รักของเรากันดีกว่าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 31 มกราคม 2011, 23:40:19 โดย AIT » IP : บันทึกการเข้า
katiandpaul
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 158



« ตอบ #157 เมื่อ: วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2011, 02:41:26 »

รู้สึกดีใจกับการเคลื่อนไหวของบรรดาผู้ปกครอง ตลอดจนผู้ร่วมแสดงทัศนะในพื้นที่สาธารณะแห่งนี้
ผมเชื่อว่าการศึกษาคือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชากรของประเทศไทยควรได้รับอย่างเท่าเทียม แต่อย่างไรก็ตามความเลื่อมล้ำนั้นย่อมเกิดขึ้นอยู่เสมอๆในสังคมที่ยึดเอาเงินทุนเป็นตัวขับเคลื่อน ในกรณีของโรงเรียนเทศบาล ๗ ที่ผมได้อ่านมาจากกระทู้ข้างต้น ทำให้ผมเองเกิดความปริวิตกเป็นยิ่งยวดว่า การศึกษาในระดับปฐมวัย (อนุบาลและประถมศึกษา) ที่กำลังดำเนินอยู่นี้ ดำรงอยู่บนวิถีที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพสังคม ตลอดจนแก่นแท้ของระบบการศึกษาของประเทศไทยแล้วหรือยัง ผมในฐานะของผู้ที่มีใจรักในการศึกษาและผู้ที่ใช้ภาษาต่างประเทศที่เป็นภาษาสากลได้มากกว่า ๒ ภาษา ขออนุญาตแสดงทัศนะส่วนตัวในพื้นที่สาธารณะแห่งนี้ เผื่อว่าบรรดาผู้ปกครองจะได้ข้อสังเกตุใหม่บางประเด็นจากมุมมองส่วนตัวของผม

ผมขอแยกประเด็นการนำเสนอออกเป็น ๓ ประเด็น คือ ๑.ความสำคัญของภาษาอังกฤษและกระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนอกบริบทของเจ้าของภาษา ๒.หลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๗ และพัฒนาการทางภาษาของนักเรียน ๓.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนและการประยุกต์ใช้ความรู้กับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น

๑.ความสำคัญของภาษาอังกฤษและกระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนอกบริบทของเจ้าของภาษา
ผมเชื่อมั่นว่าคนไทยในยุคปัจจุบันได้หันมาให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษกันมากขึ้นกว่ายุคก่อนๆ และหมายมั่นที่จะปลูกฝังการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้แก่บุตรหลานของตนกันมากขึ้น เพื่อว่าลูกหลานของตนจะได้มีโอกาสทางสังคมมากขึ้น หรือมากกว่าตนเอง ประเด็นนี้ส่วนตัวถือว่าเป็นการตื่นตัวที่ดีอย่างหนึ่งในสังคมไทย ที่กำลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและเปิดรับความเป็นสากลสู่ประเทศมากขึ้น

บทบาทของภาษาอังกฤษที่แท้จริงในประเทศไทยเราก็คือการเป็น Vehicular Language ภาษาที่เป็นพาหนะไปสู่ ข้อมูลหรือความรู้ แต่กระบวนการเรียนรู้ภาษาในบ้านเมืองเรานี้มีข้อจำกัดหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านตัวผู้สอน บริบททางสังคม หรือหลักสูตรการเรียนรู้ที่ไม่เหมาะสมกับผู้เรียน ดังนั้นคนไทยจำนวนมากทั้งในอดีตและปัจจุบันจึงใช้ภาษาได้แค่ผิวเผินเท่านั้น การถือกำเนิดขึ้นของโรงเรียนสองภาษา หรือโรงเรียนนานาชาติจึงอีกทางเลือกหนึ่งของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และการศึกษาไทย 

การเรียนรู้ภาษา (อังกฤษ) ที่ดีที่สุดคือ การลอกเลียนแบบ (Imitation) จากผู้อยู่แวดล้อมที่ใช้ภาษาเดียวกัน แต่ในขณะที่เราอยู่ในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสื่อสาร หรือภาษาราชการ การเรียนรู้ภาษาที่ดีที่สุดจึงเป็นวิธีการอ่านภาษาอังกฤษให้มากที่สุด จึงจะสามารถใช้ภาษาและเข้าใจภาษาได้อย่างทรงประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม กระบวนการอ่านนั้นผู้อ่านจำต้องมีความรู้ทางไวยกรณ์และคำศัพท์ในภาษาอยู่ในระดับหนึ่ง และวิธีการเรียนรู้ศาสตร์ใดๆที่ดีที่สุดก็คือการเรียนรู้ผ่านภาษาของตนเอง ซึ่งในที่นี้ก็คือภาษาไทย ผมเองเชื่อมั่นว่าการเรียนรู้ภาษาอังกฤษระดับพื้นฐานควรเรียนรู้ด้วยภาษาไทย  ซึ่งในกรณีของนักเรียนตัวน้อยของโรงเรียนเทศบาล ๗ นี้ ผมเห็นเป็นการส่วนตัวว่า พัฒนาการทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของเด็กจะไม่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วหรือบางรายอาจเกิดเจตนคติในแง่ลบต่อภาษาอังกฤษ ยิ่งไปกว่านั้นนักเรียนมีแนวโน้มอย่างมากที่จะเกิดความสับสนเกี่ยวในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ตลอดจนองค์ความรู้ของสาระวิชาหลักต่างๆที่นักเรียนจะได้รับ หรือเข้าใจนั้นจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ดังนั้นแล้วผมคิดว่าการเรียนในระดับปฐมวัยที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสารนั้น น่าจะส่งผลกระทบในระยะยาวกับการเรียนรู้ของนักเรียนในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐเป็นแน่นอน

๒.หลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๗ และพัฒนาการทางภาษาของนักเรียน

หากมองจากหลักสูตรสถานศึกษาที่โรงเรียนได้กำหนดไว้ ผมเองเชื่อมั่นว่าผู้ปกครองทุกท่านรวมทั้งตัวผมด้วยคงจะเห็นด้วยและปลาบปลื้มกับหลักสูตรที่ฟังดูแล้วเข้าที

“โรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น จัดการศึกษาโดยใช้หลักสูตรสองภาษา MEP Mini English Programคือการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาเป็น แกนกลาง และพัฒนาเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับสภาพบริบทของโรงเรียนในการใช้ภาษา อังกฤษเป็นสื่อเน้น ความเป็น เอกลักษณ์ไทย โดยเฉพาะภาษาไทยและประเพณี วัฒนธรรมที่่ดีงามของไทย ส่วนภาษา อังกฤษเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะของการสื่อสาร ในชีวิตประจำวันอย่างเป็นธรรมชาติ และ สามารถ ใช้ภาษาอังกฤษเป็น เครื่องมือ ในการศึกษาแสวงหาความรู้ให้ทันกับความ เปลี่ยนแปลง ของโลกปัจจุบัน”


โดยส่วนตัวเห็นว่าข้อความข้างต้นนี้น่าฟังและแลดูมีเหตุผล แต่หากถ้าคิดพินิจพิเคราะห์ให้ดีแล้ว ผมกลับเข้าใจว่า สิ่งนี้คือจินตนาการหรือคือความเพ้อฝัน เพราะหลักสูตรที่นำเสนอนี้ไม่อาจจะประยุกต์ใช้กับนักเรียนระดับอนุบาลหรือประถมศึกษาที่ยังขาดพื้นความรู้ทางภาษา หากมองตามความเป็นจริงแล้ว นักเรียนตัวน้อยคงต้องเรียนหนักพอดู เพราะไหนจะต้องเรียนรู้ภาษาต่างชาติที่แตกต่างไปจากภาษาของตนอย่างสิ้นเชิงแล้ว นักเรียนยังต้องเรียนรู้รายวิชาพื้นฐานด้วยภาษาอังกฤษอีกด้วย ผมยังมองไม่เห็นทางเลยว่านักเรียนจะเข้าถึงองค์ความรู้ได้มากน้อยอย่างไร มองดูแล้วให้คิดวิตกกับการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น (การเรียนรู้ที่ยึดเอาสาระความรู้เป็นสำคัญ) ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว การจัดการเรียนการสอนภาษาจีนเพิ่มเติมให้แก่เด็ก ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการจัดการศึกษาที่แลดูไม่สมเหตุผล อาจจะจริงที่ภาษาจีนเป็นภาษาที่สำคัญในยุคปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามทรัพยากรตัวน้อยที่เข้ามาเรียนในสถานศึกษาก็มีขีดความสามารถทางการเรียนรู้ที่จำกัด การเรียนภาษาต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง ๒ ภาษานี้ นับว่าเป็นการสร้างภาระให้แก่เด็กเป็นอย่างมาก ถ้าอยู่ในโลกตะวันตกแล้ว ผมเชื่อมั่นเป็นที่สุดว่า การจัดหลักสูตรแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเป็นอันขาด ภาษาจีนเป็นภาษาที่มีระบบกลไกที่ตรงกันข้ามกับภาษาอังกฤษ ภาษาหนึ่งเป็นระบบสัญลักษณ์ อีกภาษาหนึ่งเป็นระบบอักษรที่เกิดจากการประสมคำ วัฒนธรรมในภาษายิ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ประเด็นนี้น่าเป็นห่วงเสียเหลือเกิน ไม่ทราบเหมือนกันสิ่งมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร หรือว่าคนไทยเรากระหายใคร่รู้แต่ภาษาต่างชาติ จนลืมนึกไปถึงความรู้ที่เกิดจากการศึกษาอย่างแท้จริง?

๓.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนและการประยุกต์ใช้ความรู้กับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น

จากประสบการณ์ที่ผมสอนภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสให้แก่นักเรียน นิสิต และนักศึกษาไทยในระยะหลังมานี้ มีข้อสังเกตุว่า นักเรียนจำต้องออกไปเข้าสถาบันกวดวิชา หรือไปเรียนเพิ่มเติมกับติวเตอร์มากขึ้น เพราะเนื้อหาความรู้ในห้องเรียนนั้นจำกัด และข้อสอบคัดเลือกหรือสอบแข่งขันนั้น มีขอบเขตที่เกินกว่าหลักสูตรการศึกษา ยิ่งไปกว่านั้นแล้วทักษะทางภาษาของนักเรียนนั้นอยู่ในระดับที่ถดถอยไปจากนักเรียนรุ่นก่อนหน้ามากขึ้นๆ ผมเองสันนิษฐานว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้คือผลลัพธ์ของการดำเนินการเรียนการสอนที่ผิดรูปแบบและขาดความเหมาะสมกับทรัพยากร (นักเรียน) หรืออาจกล่าวให้ชัดเจนมากขึ้นก็คือ การเรียนการสอนวิชาภาษาไทยถูกละเลยไปอย่างมาก นักเรียนใช้ภาษาไทยกันผิดมากขึ้น และผมเองก็เชื่อมั่นเป็นยิ่งยวดว่า การอ่านภาษาไทยของนักเรียนอยู่ในระดับต่ำ ยิ่งมองไปถึงการเรียนภาษาต่างชาติด้วยแล้วยิ่งกลายเป็นหายนะของการเรียนรู้ภาษา ครั้งหนึ่งขณะที่ผมได้ปฏิบัติหน้าที่ล่ามให้แก่ภริยาเอกอัครราชทูตของประเทศมหาอำนาจชาติหนึ่ง ท่านได้เอ่ยถามผมว่า คนไทยอ่านหนังสือและข้อความเดียวกันแล้วมีความเข้าใจตรงกันไหม คำถามนี้ผมไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยิน ท่านยังกล่าวต่อไปอีกว่าท่านเห็นการเรียนการสอนในโรงเรียนหลายๆโรงเรียนของไทยแล้ว ท่านอดที่จะวิตกไม่ได้ว่าวันหน้าของเราจะเป็นอย่างไร เพราะคนไทยจะขาดความรู้ที่แท้จริง ความรู้ที่ถ่องแท้กันมากขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่าคนไทยให้ความสำคัญต่อความเป็นอื่น และภาษาอื่นๆมากขึ้นทุกขณะจิต ฟังดูแล้วผมก็ได้ข้อคิดและทุกครั้งที่กลับมาสอนหนังสือ ไม่ว่าจะสอนภาษาใดๆ วรรณกรรมของชาติใดๆ ผมจะไม่ละเลยที่จะใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องในการสอนและการทดสอบ ควบคู่ไปกับการใช้ภาษาต่างชาติที่ถูกต้องเช่นกัน แต่ผมเองอาจโชคดีกว่าครูโรงเรียน ท.๗ ตรงที่ว่า ผมสอนนักศึกษาที่เรียนภาษาอังกฤษมานานปีแล้ว ถ้าให้ไปสอนเด็กน้อยปฐมวัย ผมก็ยังนึกไม่ออกเลยว่าเด็กจะเข้าใจเวลาเราใช้ภาษาอังกฤษสอนเขาจริงๆไหม เกรงจะเป็นการเปล่าประโยชน์เสียมากกว่า ที่พูดมาอย่างนี้ก็เพียงเพราะอยากผู้ปกครองหรือโรงเรียนได้เห็นความสำคัญกับภาษาไทยที่ควรนำมาเป็นภาษาแห่งการเรียนรู้ ส่วนภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะภาษาอังกฤษหรือภาษาจีนนั้น เด็กระดับปฐมวัยนี้ ควรได้รับการปูพื้นทางภาษาอย่างค่อยเป็นค่อยไปและสม่ำเสมอมากกว่าการเอาภาษามาใช้กับทุกรายวิชาในขณะเดียวเลย ผมคิดว่ามันมากมายเกินไปสำหรับชีวิตน้อยๆที่และดูสดใส

ข้อเขียนที่ยืดยาวนี้เป็นเพียงทัศนะส่วนตัว มุมมองของผมเอง คงมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและขัดแย้ง แต่อย่างไรก็ตามผมก้น้อมรับความคิดเห็นทุกๆความคิดเห็นด้วยความยินดีครับ
IP : บันทึกการเข้า

Great Expectations
victorinox
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 70


« ตอบ #158 เมื่อ: วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2011, 08:49:33 »

รู้สึกดีใจกับการเคลื่อนไหวของบรรดาผู้ปกครอง ตลอดจนผู้ร่วมแสดงทัศนะในพื้นที่สาธารณะแห่งนี้
ผมเชื่อว่าการศึกษาคือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชากรของประเทศไทยควรได้รับอย่างเท่าเทียม แต่อย่างไรก็ตามความเลื่อมล้ำนั้นย่อมเกิดขึ้นอยู่เสมอๆในสังคมที่ยึดเอาเงินทุนเป็นตัวขับเคลื่อน ในกรณีของโรงเรียนเทศบาล ๗ ที่ผมได้อ่านมาจากกระทู้ข้างต้น ทำให้ผมเองเกิดความปริวิตกเป็นยิ่งยวดว่า การศึกษาในระดับปฐมวัย (อนุบาลและประถมศึกษา) ที่กำลังดำเนินอยู่นี้ ดำรงอยู่บนวิถีที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพสังคม ตลอดจนแก่นแท้ของระบบการศึกษาของประเทศไทยแล้วหรือยัง ผมในฐานะของผู้ที่มีใจรักในการศึกษาและผู้ที่ใช้ภาษาต่างประเทศที่เป็นภาษาสากลได้มากกว่า ๒ ภาษา ขออนุญาตแสดงทัศนะส่วนตัวในพื้นที่สาธารณะแห่งนี้ เผื่อว่าบรรดาผู้ปกครองจะได้ข้อสังเกตุใหม่บางประเด็นจากมุมมองส่วนตัวของผม

ผมขอแยกประเด็นการนำเสนอออกเป็น ๓ ประเด็น คือ ๑.ความสำคัญของภาษาอังกฤษและกระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนอกบริบทของเจ้าของภาษา ๒.หลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๗ และพัฒนาการทางภาษาของนักเรียน ๓.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนและการประยุกต์ใช้ความรู้กับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น

๑.ความสำคัญของภาษาอังกฤษและกระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนอกบริบทของเจ้าของภาษา
ผมเชื่อมั่นว่าคนไทยในยุคปัจจุบันได้หันมาให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษกันมากขึ้นกว่ายุคก่อนๆ และหมายมั่นที่จะปลูกฝังการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้แก่บุตรหลานของตนกันมากขึ้น เพื่อว่าลูกหลานของตนจะได้มีโอกาสทางสังคมมากขึ้น หรือมากกว่าตนเอง ประเด็นนี้ส่วนตัวถือว่าเป็นการตื่นตัวที่ดีอย่างหนึ่งในสังคมไทย ที่กำลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและเปิดรับความเป็นสากลสู่ประเทศมากขึ้น

บทบาทของภาษาอังกฤษที่แท้จริงในประเทศไทยเราก็คือการเป็น Vehicular Language ภาษาที่เป็นพาหนะไปสู่ ข้อมูลหรือความรู้ แต่กระบวนการเรียนรู้ภาษาในบ้านเมืองเรานี้มีข้อจำกัดหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านตัวผู้สอน บริบททางสังคม หรือหลักสูตรการเรียนรู้ที่ไม่เหมาะสมกับผู้เรียน ดังนั้นคนไทยจำนวนมากทั้งในอดีตและปัจจุบันจึงใช้ภาษาได้แค่ผิวเผินเท่านั้น การถือกำเนิดขึ้นของโรงเรียนสองภาษา หรือโรงเรียนนานาชาติจึงอีกทางเลือกหนึ่งของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และการศึกษาไทย 

การเรียนรู้ภาษา (อังกฤษ) ที่ดีที่สุดคือ การลอกเลียนแบบ (Imitation) จากผู้อยู่แวดล้อมที่ใช้ภาษาเดียวกัน แต่ในขณะที่เราอยู่ในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสื่อสาร หรือภาษาราชการ การเรียนรู้ภาษาที่ดีที่สุดจึงเป็นวิธีการอ่านภาษาอังกฤษให้มากที่สุด จึงจะสามารถใช้ภาษาและเข้าใจภาษาได้อย่างทรงประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม กระบวนการอ่านนั้นผู้อ่านจำต้องมีความรู้ทางไวยกรณ์และคำศัพท์ในภาษาอยู่ในระดับหนึ่ง และวิธีการเรียนรู้ศาสตร์ใดๆที่ดีที่สุดก็คือการเรียนรู้ผ่านภาษาของตนเอง ซึ่งในที่นี้ก็คือภาษาไทย ผมเองเชื่อมั่นว่าการเรียนรู้ภาษาอังกฤษระดับพื้นฐานควรเรียนรู้ด้วยภาษาไทย  ซึ่งในกรณีของนักเรียนตัวน้อยของโรงเรียนเทศบาล ๗ นี้ ผมเห็นเป็นการส่วนตัวว่า พัฒนาการทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของเด็กจะไม่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วหรือบางรายอาจเกิดเจตนคติในแง่ลบต่อภาษาอังกฤษ ยิ่งไปกว่านั้นนักเรียนมีแนวโน้มอย่างมากที่จะเกิดความสับสนเกี่ยวในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ตลอดจนองค์ความรู้ของสาระวิชาหลักต่างๆที่นักเรียนจะได้รับ หรือเข้าใจนั้นจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ดังนั้นแล้วผมคิดว่าการเรียนในระดับปฐมวัยที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสารนั้น น่าจะส่งผลกระทบในระยะยาวกับการเรียนรู้ของนักเรียนในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐเป็นแน่นอน

๒.หลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๗ และพัฒนาการทางภาษาของนักเรียน

หากมองจากหลักสูตรสถานศึกษาที่โรงเรียนได้กำหนดไว้ ผมเองเชื่อมั่นว่าผู้ปกครองทุกท่านรวมทั้งตัวผมด้วยคงจะเห็นด้วยและปลาบปลื้มกับหลักสูตรที่ฟังดูแล้วเข้าที

“โรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น จัดการศึกษาโดยใช้หลักสูตรสองภาษา MEP Mini English Programคือการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาเป็น แกนกลาง และพัฒนาเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับสภาพบริบทของโรงเรียนในการใช้ภาษา อังกฤษเป็นสื่อเน้น ความเป็น เอกลักษณ์ไทย โดยเฉพาะภาษาไทยและประเพณี วัฒนธรรมที่่ดีงามของไทย ส่วนภาษา อังกฤษเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะของการสื่อสาร ในชีวิตประจำวันอย่างเป็นธรรมชาติ และ สามารถ ใช้ภาษาอังกฤษเป็น เครื่องมือ ในการศึกษาแสวงหาความรู้ให้ทันกับความ เปลี่ยนแปลง ของโลกปัจจุบัน”


โดยส่วนตัวเห็นว่าข้อความข้างต้นนี้น่าฟังและแลดูมีเหตุผล แต่หากถ้าคิดพินิจพิเคราะห์ให้ดีแล้ว ผมกลับเข้าใจว่า สิ่งนี้คือจินตนาการหรือคือความเพ้อฝัน เพราะหลักสูตรที่นำเสนอนี้ไม่อาจจะประยุกต์ใช้กับนักเรียนระดับอนุบาลหรือประถมศึกษาที่ยังขาดพื้นความรู้ทางภาษา หากมองตามความเป็นจริงแล้ว นักเรียนตัวน้อยคงต้องเรียนหนักพอดู เพราะไหนจะต้องเรียนรู้ภาษาต่างชาติที่แตกต่างไปจากภาษาของตนอย่างสิ้นเชิงแล้ว นักเรียนยังต้องเรียนรู้รายวิชาพื้นฐานด้วยภาษาอังกฤษอีกด้วย ผมยังมองไม่เห็นทางเลยว่านักเรียนจะเข้าถึงองค์ความรู้ได้มากน้อยอย่างไร มองดูแล้วให้คิดวิตกกับการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น (การเรียนรู้ที่ยึดเอาสาระความรู้เป็นสำคัญ) ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว การจัดการเรียนการสอนภาษาจีนเพิ่มเติมให้แก่เด็ก ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการจัดการศึกษาที่แลดูไม่สมเหตุผล อาจจะจริงที่ภาษาจีนเป็นภาษาที่สำคัญในยุคปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามทรัพยากรตัวน้อยที่เข้ามาเรียนในสถานศึกษาก็มีขีดความสามารถทางการเรียนรู้ที่จำกัด การเรียนภาษาต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง ๒ ภาษานี้ นับว่าเป็นการสร้างภาระให้แก่เด็กเป็นอย่างมาก ถ้าอยู่ในโลกตะวันตกแล้ว ผมเชื่อมั่นเป็นที่สุดว่า การจัดหลักสูตรแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเป็นอันขาด ภาษาจีนเป็นภาษาที่มีระบบกลไกที่ตรงกันข้ามกับภาษาอังกฤษ ภาษาหนึ่งเป็นระบบสัญลักษณ์ อีกภาษาหนึ่งเป็นระบบอักษรที่เกิดจากการประสมคำ วัฒนธรรมในภาษายิ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ประเด็นนี้น่าเป็นห่วงเสียเหลือเกิน ไม่ทราบเหมือนกันสิ่งมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร หรือว่าคนไทยเรากระหายใคร่รู้แต่ภาษาต่างชาติ จนลืมนึกไปถึงความรู้ที่เกิดจากการศึกษาอย่างแท้จริง?

๓.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนและการประยุกต์ใช้ความรู้กับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น

จากประสบการณ์ที่ผมสอนภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสให้แก่นักเรียน นิสิต และนักศึกษาไทยในระยะหลังมานี้ มีข้อสังเกตุว่า นักเรียนจำต้องออกไปเข้าสถาบันกวดวิชา หรือไปเรียนเพิ่มเติมกับติวเตอร์มากขึ้น เพราะเนื้อหาความรู้ในห้องเรียนนั้นจำกัด และข้อสอบคัดเลือกหรือสอบแข่งขันนั้น มีขอบเขตที่เกินกว่าหลักสูตรการศึกษา ยิ่งไปกว่านั้นแล้วทักษะทางภาษาของนักเรียนนั้นอยู่ในระดับที่ถดถอยไปจากนักเรียนรุ่นก่อนหน้ามากขึ้นๆ ผมเองสันนิษฐานว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้คือผลลัพธ์ของการดำเนินการเรียนการสอนที่ผิดรูปแบบและขาดความเหมาะสมกับทรัพยากร (นักเรียน) หรืออาจกล่าวให้ชัดเจนมากขึ้นก็คือ การเรียนการสอนวิชาภาษาไทยถูกละเลยไปอย่างมาก นักเรียนใช้ภาษาไทยกันผิดมากขึ้น และผมเองก็เชื่อมั่นเป็นยิ่งยวดว่า การอ่านภาษาไทยของนักเรียนอยู่ในระดับต่ำ ยิ่งมองไปถึงการเรียนภาษาต่างชาติด้วยแล้วยิ่งกลายเป็นหายนะของการเรียนรู้ภาษา ครั้งหนึ่งขณะที่ผมได้ปฏิบัติหน้าที่ล่ามให้แก่ภริยาเอกอัครราชทูตของประเทศมหาอำนาจชาติหนึ่ง ท่านได้เอ่ยถามผมว่า คนไทยอ่านหนังสือและข้อความเดียวกันแล้วมีความเข้าใจตรงกันไหม คำถามนี้ผมไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยิน ท่านยังกล่าวต่อไปอีกว่าท่านเห็นการเรียนการสอนในโรงเรียนหลายๆโรงเรียนของไทยแล้ว ท่านอดที่จะวิตกไม่ได้ว่าวันหน้าของเราจะเป็นอย่างไร เพราะคนไทยจะขาดความรู้ที่แท้จริง ความรู้ที่ถ่องแท้กันมากขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่าคนไทยให้ความสำคัญต่อความเป็นอื่น และภาษาอื่นๆมากขึ้นทุกขณะจิต ฟังดูแล้วผมก็ได้ข้อคิดและทุกครั้งที่กลับมาสอนหนังสือ ไม่ว่าจะสอนภาษาใดๆ วรรณกรรมของชาติใดๆ ผมจะไม่ละเลยที่จะใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องในการสอนและการทดสอบ ควบคู่ไปกับการใช้ภาษาต่างชาติที่ถูกต้องเช่นกัน แต่ผมเองอาจโชคดีกว่าครูโรงเรียน ท.๗ ตรงที่ว่า ผมสอนนักศึกษาที่เรียนภาษาอังกฤษมานานปีแล้ว ถ้าให้ไปสอนเด็กน้อยปฐมวัย ผมก็ยังนึกไม่ออกเลยว่าเด็กจะเข้าใจเวลาเราใช้ภาษาอังกฤษสอนเขาจริงๆไหม เกรงจะเป็นการเปล่าประโยชน์เสียมากกว่า ที่พูดมาอย่างนี้ก็เพียงเพราะอยากผู้ปกครองหรือโรงเรียนได้เห็นความสำคัญกับภาษาไทยที่ควรนำมาเป็นภาษาแห่งการเรียนรู้ ส่วนภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะภาษาอังกฤษหรือภาษาจีนนั้น เด็กระดับปฐมวัยนี้ ควรได้รับการปูพื้นทางภาษาอย่างค่อยเป็นค่อยไปและสม่ำเสมอมากกว่าการเอาภาษามาใช้กับทุกรายวิชาในขณะเดียวเลย ผมคิดว่ามันมากมายเกินไปสำหรับชีวิตน้อยๆที่และดูสดใส

ข้อเขียนที่ยืดยาวนี้เป็นเพียงทัศนะส่วนตัว มุมมองของผมเอง คงมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและขัดแย้ง แต่อย่างไรก็ตามผมก้น้อมรับความคิดเห็นทุกๆความคิดเห็นด้วยความยินดีครับ


เห็นด้วยอย่างมาก ทั้ง 3 ข้อ นับว่าคุณมีประสพการณ์ในการสอนมาก
ลูกผมเรียนอยู่ ป.1 ที่ ท.7นี้  ใกล้สิ้นปีการศึกษาแล้ว พูดอังกฤษได้ไม่ถึง 10 ประโยค 
จำศัพท์ แทบจะไม่ได้เลย ถ้าถามเป็นคำ ก็พอจะบอกคำเรืยกภาษาอังกฤษได้

ปัจจุบันเด็กไทยอ่านหนังสือกันน้อยมาก แม้แต่ภาษาไทยก็อ่านน้อย  ลองไปดูในร้านเช่าหนังสือ
มีแต่การ์ตูนมากกว่า 80 %
เราควรส่งเสริมเด็กไทยให้ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องกันเสียที

IP : บันทึกการเข้า
THANAPUT
เชียงรายบ๊อช คาร์ เซอร์วิส
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,620



« ตอบ #159 เมื่อ: วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2011, 08:50:59 »

ขอขอบคุณในข้อชี้แนะ..ที่ทำให้มองเห็นถึงสิ่งที่ควรจะเป็น..แบบเหมาะสม

“โรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น จัดการศึกษาโดยใช้หลักสูตรสองภาษา MEP Mini English Programคือการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาเป็น แกนกลาง และพัฒนาเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับสภาพบริบทของโรงเรียนในการใช้ภาษา อังกฤษเป็นสื่อเน้น ความเป็น เอกลักษณ์ไทย โดยเฉพาะภาษาไทยและประเพณี วัฒนธรรมที่่ดีงามของไทย ส่วนภาษา อังกฤษเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะของการสื่อสาร ในชีวิตประจำวันอย่างเป็นธรรมชาติ และ สามารถ ใช้ภาษาอังกฤษเป็น เครื่องมือ ในการศึกษาแสวงหาความรู้ให้ทันกับความ เปลี่ยนแปลง ของโลกปัจจุบัน”
โรงเรียนเทศบาล .7 เป็นจุดเริ่มต้นของพื้นฐานการเรียนรู้ของทางภาษา ไทย-จีน-อังกฤษ
มันสำคัญก็ตรงที่..พื้นฐานนี่แหละครับ
พื้นฐานไม่ดี..
เปรียบดังว่า..ถ้าเราปลูกต้นไม้นั้นเราก็การต้องการดินที่ดี ปุ๋ยที่ดี  การที่มีดินที่ดีเพื่อหล่อเลิ้ยงลำต้นให้เติบโต..ใบสวย..ลำต้นแข็งแรง ทนทานต่อดินฟ้า-อากาศ-ลมพายุ
รากของต้นไม้ก็ก็ดูดซับ ปุ๋ยที่มีมาจากดินที่ดี ก็ส่งผลให้ฐานของลำต้นที่ยืดสูงขึ้นทุกวัน..ไม่มีวันใหนที่ต้นไม้ไม่เจริญเติบโตงอกงาม..พอถึงจุดที่..มันก็ออกดอก..ออกผล..
เมื่อนั้นผู้ปลูก..ก็ยิ้มได้น่าชื่นตาบาน..
แต่..ถ้าขาดดินที่ดี..มีเนื้อปุ๋ยอยู่ในเนื้อดินน้อย...มันจะส่งผลดีกับต้นไม้ได้อย่างไร
ดินเปรียบได้..ก็ครูผู้สอน   ขาดดิน-ขาดปุ๋ย อะไรมันจะเกิดทั้งที่มันอยู่ในแหล่งสมบูรณ์ของอาหาร ยิ่งสมัยนี้..ปุ๋ยที่ดีต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
รากของต้นไม้ก็คือสมองของเด็ก..มันต้องตัวดูดซับเกือบทุกสิ่งทุกอย่างที่..ที่สามารถดูดซับเอาไปได้..เพราะมันอยู่ในช่วงวัยของการเติบโต
น้ำ..ก็คือผู้ที่จะเป็นผู้ที่ชี้เป็น..ชี้ตายเป็นกลไกควบคุมทุกอย่างให้กับ..ดินและต้นไม้
เพราะอะไร..ถ้าไม่ได้น้ำ..ดินก็แห้งแตกระแหง..ถ้าไม่ได้น้ำ..ต้นไม้ก็เหี่ยวเฉา..ทั้ง 2 สิ่งต้องพึ่งพาน้ำ มันเป็นวงจรที่เป็นมาตรฐาน
น้ำ-ดิน-ต้นไม้
น้ำก็คือ..ผู้บริหารจัดการองค์กร
 2 สิ่งต้องคู่กัน  ดิน-น้ำ  ต้นไม้ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ดีไป..มันก็ส่งผลถึงวันที่ต้นไม้..ต้องออกดอก..ออกผล
ว่ามันจะลูกใหญ่..ผลสวย..ผิวเกลี้ยง...
ได้ราคาที่ดี..ตามที่ตลาดต้องการ
หรือจะปล่อยมันเป็นไปโดยธรรมชาติ..ขาดปุ๋ยที่ดี..ขาดน้ำที่ดี..
ออกผลมาลูกเล็ก--ลีบแบน..ผิวขรุขระ..ตลาดไม่สนใจ
ผลไม้..มันก็ยังมีหลายเกรดเลย..
แล้วท่านหล่ะ..จะปล่อยต้นไม้ของท่านออกผลมาเป็นแบบใหน
ท่านที่เข้ามาอ่าน..ก็ลองพิจารณา..ด้วยวิจารณาณของความเป็นคุณพ่อ..เป็นคุณแม่ดู
---------------------------------------------------------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2011, 10:48:08 โดย THANAPUT » IP : บันทึกการเข้า

บริการ  ติดตั้งแก๊สรถยนต์ ระบบหัวฉีด รับประกัน 5 ปีเต็ม  จำหน่าย สินค้า  BOSCH  ทั้งปลีกและราคาขายส่ง
http://www.chiangraiboschcarservice.com
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 [8] 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ... 22 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!