เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 22 กรกฎาคม 2025, 20:33:49
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  เห็นด้วยหรือไม่ กับ แนวคิดสั่งปรับค่าจอดรถเสียรายนาที
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน เห็นด้วยหรือไม่ กับ แนวคิดสั่งปรับค่าจอดรถเสียรายนาที  (อ่าน 1319 ครั้ง)
kchar
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 49


« เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 11:52:37 »

http://morning-news.bectero.com/post.php?pml=3017
IP : บันทึกการเข้า
SpiriT_
สิ่งสำคัญ !!!
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


(: ไม่มีอะไรมากมาย ก๊แค่เดิม ๆ ! ! !


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 16:06:30 »

นโยบายหัว ... บ่าเห๊นโตยเด๊ดขาด. คนคิดนโบายนี้ท่าจะ สะกดคำว่า เหตุสุดวิสัย บ่าจ่าง เลยคิดนโยบายมาแบบนี้ ล้วกล้ำแหมเมาะ
IP : บันทึกการเข้า

,,,ถ้าบินได้บินไปแล้ว !! (:
bladelaww
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 17


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 16:18:27 »

ผมว่าเห็นด้วยนี่  ตกใจ ตกใจ  จากการที่เก็บค่าปรับเพิ่ม เก็บจากรายที่ เกิดอุบัติเหตุ บางครั้งอาจจะทำให้การขับขี่นั้นระมัดระวังมากยิ่งขึ้น แต่ ทั้งนี้ ดังที่ว่า เหตุสุดวิสัย เรื่องนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องการลดอุบัติเหตูผมว่า คาดได้เห็นผล 90 % แน่นอน ครับ
IP : บันทึกการเข้า
oyoyo *^_^*
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,011



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 16:39:25 »

แนวคิดนโยบายแต่ละอย่างที่ออกมาไม่รู้เอาส่วนไหนของร่างกายมาคิด...นโยบายรถคันแรกก่อให้เกิดปัญหาจราจร ตอนนี้ถูกคนด่าทั่วบ้านทั่วเมืองเลยต้องแนวคิดปัญญา...มาแก้ปัญหาแทน..
IP : บันทึกการเข้า

"มนุษย์ใช้เหตุผลทางความคิด
ในการตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิด
ขณะที่ธรรมชาติใช้ความจริงทางจิต
ในการตัดสินว่าอะไรเป็นบุญอะไรเป็นบาป"

วาทะดังตฤณ "ด้วยความเป็นห่วง"
~KT 2 U~
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,601


♥ แม่ค้าออนไลน์ ผู้ซึ่งเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ♥


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 18:10:25 »

แต่ละนโยบายออกมา มันน่าตื้นตันใจ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

yodying
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 281



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 18:13:36 »

เป็นการแก้ปัญหาจราจรอย่างหนึ่ง
เป็นความรับผิดชอบต่อสังคม
เพราะรถติดเป็นกิโล
IP : บันทึกการเข้า
Mylovesss
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 376



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 18:51:49 »

แนวคิดนโยบายแต่ละอย่างที่ออกมาไม่รู้เอาส่วนไหนของร่างกายมาคิด...นโยบายรถคันแรกก่อให้เกิดปัญหาจราจร ตอนนี้ถูกคนด่าทั่วบ้านทั่วเมืองเลยต้องแนวคิดปัญญา...มาแก้ปัญหาแทน..

ท่านครับ แนวคิดนี้ไม่ใช่รัฐบาลคิดนะครับ เป็นแนวคิดของ นายศรีราชา เจริญพานิช  ผู้ตรวจการแผ่นดิน

อ้างอิงจาก
http://tnews.teenee.com/etc/100610.html

"ผู้ตรวจการแผ่นดิน" จี้หน่วยงานเร่งแก้ปัญหาจราจร-ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล

ชี้การบริหารจัดการขาดความเชื่อมโยง นโยบายรถคันแรกทำให้เกิดปัญหาจราจรเพิ่มมากขึ้น บี้โปลิศ-ขนส่ง เข้มงวดกวดขันพฤติกรรมผู้ขับขี่ ใครไม่มีพื้นที่จอดรถไม่ควรอนุญาตให้มีรถ พร้อมเรียกค่าปรับรถจอดเสีย-เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนาทีละ 100 บาทเพื่อสร้างวินัยจราจรให้ดีขึ้น

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายศรีราชา เจริญพานิช  ผู้ตรวจการแผ่นดิน  เปิดเผยว่า
 
จากที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ติดตามความคืบหน้าการบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ดำเนินการประชุมอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 แล้วเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ปัญหาหลักของสภาวะการจราจรและระบบการขนส่งมวลชนนั้นมีหลากหลายมิติมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วอันเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาล การบริหารจัดการการเชื่อมต่อของระบบขนส่งมวลชนรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องใกล้ตัว อย่างวินัยการจราจรของผู้ใช้รถใช้ถนน

นายศรีราชา กล่าวอีกว่า ทางผู้ตรวจการจึงมีข้อเสนอแนะเพื่อลดปัญหาการจราจรไป 3 ข้อ
 
คือ 1. ด้านการบริหารจัดการการจราจร เสนอแนะให้กรุงเทพมหานครศึกษาความเป็นไปได้และสำรวจเส้นทางต่าง ๆ เพื่อเชื่อมต่อถนนที่มีโอกาสใช้เป็นทางลัดโดยหลีกเลี่ยงการเวนคืนที่ดินจากเอกชน พร้อมทั้งจัดทำแผนที่เส้นทางลัดเพื่อแจกจ่ายประชาชนอย่างทั่วถึง รวมทั้งการตัดแต่งกิ่งไม้ที่บังป้ายจราจรทำให้ทัศนวิสัยการขับขี่ยานพาหนะลดลงและเกิดอุบัติเหตุตามมา เสนอให้กรมทางหลวง รวมทั้งการทางพิเศษแห่งประเทศไทยปรับปรุงและเพิ่มป้ายเครื่องหมายจำกัดความเร็วต้นถนนสายหลัก ทั้งทางด่วนและมอเตอร์เวย์ เป็นการช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบถึงการใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด มากกว่าการเพิ่มกล้องดักจับความเร็วแล้วเรียกปรับค่าปรับภายหลัง  ตลอดจนเร่งการสำรวจและก่อสร้างถนนเพื่อเชื่อมต่อระหว่างท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง
 
โดยสร้างบนหรือคร่อมคลองสาธารณะแทนการเวนคืนที่ดินจากเอกชน อีกทั้งขยายช่องทางการจราจรบนทางหลวงพิเศษหมายเลข7 (มอเตอร์เวย์)
 
ทั้งขาเข้าและขาออก (ช่วงจุดตัดกับถนนวงแหวนสายตะวันออก) ที่ปัจจุบันนี้ปริมาณรถหนาแน่นและบางครั้งชะลอตัวจนถึงหยุดนิ่ง ด้วยการเพิ่มช่องทางซ้ายมืออีก 1 – 2 ช่องทางก่อนถึงทางออกถนนร่มเกล้าอีก 1 กิโลเมตร และขยายช่องจราจรด้านซ้ายก่อนแยกขึ้นบางปะอินและบางนาอีก 1 ช่องทาง เพื่อป้องกันรถเบียดหรือแซงเข้าช่องซ้าย เพื่อมิให้การจราจรติดขัดในช่วงขาออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเข้ากรุงเทพฯ อีกทั้งเพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีแก่ชาวต่างชาติที่ไม่ต้องเผชิญการจราจรที่ติดขัด


นอกจากนี้ ยังเสนอให้ลดจุดตัดของถนนหรือแยกหลายจุดที่เป็นปัญหาเรื้อรังด้วยการเสนอให้ทดลองใช้การเดินรถทางเดียว (one way)

เข้าและออกนอกเมืองคู่ขนานกันไปของถนนสายหลักที่คู่ขนานกัน เช่น ขาเข้าใช้ถนนพระรามที่ 4 ขาออกใช้ถนนสุขุมวิท หรือถนนเพชรบุรีเป็นขาเข้า ถนนพระรามที่ 9 เป็นขาออก ซึ่งหลายประเทศใช้วิธีการนี้แก้ไขปัญหาและประสบความสำเร็จอย่างดี  และที่เป็นปัญหาอย่างมากในขณะนี้ คือ จุด u-turn ต่าง ๆ โดยเฉพาะจุด u-turn ที่รับรถออกจากห้างสรรพสินค้า เช่น central สาขาแจ้งวัฒนะ ที่การจราจรติดขัดอย่างมาก เสนอให้ใช้ถนนสามัคคีเป็นจุด u-turn หรือ ทำสะพานกลับรถแทนการใช้ Barrier กั้นเป็นช่องทางให้ u-turn เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุทั้งรถเบียดแซง และพุ่งชน barrier อีกทั้งเสนอให้แก้ไขวิกฤตจราจรบริเวณหน้าศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะด้วยการขุดอุโมงค์จากซอยแจ้งวัฒนะ 5 ลอดไปขึ้นถนนวิภาวดีหน้าโรงเรียนไผทอุดมศึกษาเพื่อระบายรถออกสู่ถนนวิภาวดี และทำสะพานลอยจากหน้าศูนย์ราชการยาวลงถนนเลียบคลองประปาเป็นการระบายรถออกสู่ถนนงามวงศ์วาน ทั้งนี้พร้อมเป็นองค์กรกลางเชื่อมประสานกรมทางหลวง กรุงเทพมหานคร สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง และบริษัท ธนารักษ์สินทรัพย์ จำกัด เพื่อหารือร่วมกันและยกร่างข้อสรุปเสนอรัฐบาลต่อไป


2.การเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนทั้งทางบก ทางราง และทางน้ำ ให้เป็นโครงข่ายและเป็นทางเลือกที่มีคุณภาพและเป็นที่นิยมของผู้ใช้บริการ เช่น เรือต่อรถที่ท่าเรือราชปรารภ และต่อทางเดินลอยฟ้าเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ และให้หน่วยงานประชาสัมพันธ์เส้นทางอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งขอให้กรุงเทพมหานครปรับปรุงภูมิทัศน์และไฟส่องสว่าง ป้ายบอกทาง ป้ายแนะนำ เพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ  นอกจากนี้ขอให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เห็นแก่สาธารณประโยชน์ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยขอใช้พื้นที่ราชพัสดุในบริเวณมหาวิทยาลัยเพื่อรองรับการก่อสร้างถนนยกระดับที่เป็นโครงข่ายเชื่อมต่อระหว่างถนนวงแหวนสายตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกันที่ปัจจุบันนี้มีการขึ้นเสาเพื่อรองรับไว้แล้วจากถนนเกษตร - นวมินทร์ แทนข้อเสนอให้เปลี่ยนเป็นการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบา (Light rail)

ซึ่งที่จริงไม่อาจทดแทนกันได้ เพราะขนคนได้ไม่มาก ไม่คุ้มค่าเหมือนกับการสร้างถนนลอยฟ้า

ซึ่งเป็นถนนหลักเชื่อมระหว่างเส้นทางหลักทางตะวันออก (มอเตอร์เวย์สาย 4) มาเชื่อมกับถนนวิภาวดี – รังสิต เลยไปถึงถนนงามวงศ์วานและถนนรัตนาธิเบศร์ ก็ต้องให้กรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยพิจารณาและศึกษาความเป็นไปได้ของการก่อสร้างเส้นทางเพิ่มเติมระบายรถยนต์ลงสู่ภาคใต้เพื่อบรรเทาการจราจรจากกรุงเทพมหานคร โดยอาจพิจารณาต่อเชื่อมจากสายอำเภอบางใหญ่ ไปอำเภอดอนตูม และอำเภอปากท่อให้เป็นอีกทางเลือกนอกเหนือจากเส้นถนนเพชรเกษม และธนบุรี-ปากท่อ ซึ่งน่าจะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ


3.วินัยการจราจรและมารยาทการขับรถ โดยขอให้กองบังคับการตำรวจจราจรและกรมการขนส่งทางบกกวดขันและเข้มงวดต่อพฤติกรรมการขับขี่มากขึ้น เช่น กรณีฝ่าสัญญาณไฟแดงและย้อนศรซึ่งพบมากจากผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ ทั้งในตัวเมืองและชนบท ดังนั้น ขอให้กรมการขนส่งทางบกปรับปรุงวินัยการจราจรอย่างเข้มงวด อีกทั้งในการซื้อรถใหม่ต้องแสดงว่าตนมีพื้นที่จอดรถด้วยเพื่อกรมการขนส่งทางบกใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตต่อไป โดยเฉพาะรถยนต์จากโครงการรถยนต์คันแรกนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ถนนไม่พอรองรับ ดังนั้น การระบุที่จอดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม


ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้ขอให้กรมโยธาธิการและผังเมือง
 
เร่งทบทวนเพื่อปรับปรุง พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เพื่อกำหนดให้มีการอนุญาตการก่อสร้างอาคารต้องคำนึงการจัดพื้นที่จอดรถให้เพียงพอและเหมาะสมต่ออาคาร โดยเฉพาะหอพักเพื่อป้องกันมิให้มีการจอดรถบนถนนหรือทางสาธารณะลดการกีดขวางการจราจร ตลอดจนห้ามไม่ให้มีการจอดรถบนถนนสาธารณะเส้นหลักตลอดเวลา ส่วนถนนสาธารณะเส้นรองสามารถจอดได้เฉพาะตั้งแต่เวลา 22.00 - 05.00 น. เท่านั้น เพื่อเพิ่มพื้นที่การจราจรมากขึ้น รวมทั้งปรับผู้ที่ขับขี่รถแล้วไปเสีย หรือเกิดอุบัติเหตุตามท้องถนนโดยคิดค่าปรับเป็นรายนาที เช่น นาทีละ 100 บาท เพื่อสร้างวินัยการจราจรที่ดีเกิดความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เพื่อผู้ขับขี่จะได้ดูแลรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี อุบัติเหตุและการสูญเสียจะลดน้อยลงไปด้วย


“สภาพการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลหนาแน่นและติดขัดมากยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปริมาณรถยนต์ใหม่จดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น และจุดบอดของถนนสายหลักตามจุดต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันรวมทั้งสุขภาพจิตของประชาชน ซึ่งตอนนี้กลายเป็นปัญหาระดับชาติของคนเมืองและไม่เมืองไปแล้ว การระดมการแก้ปัญหาร่วมกันจะทำให้วิกฤตที่เรื้อรังนั้นดีขึ้นปัญหาการจราจรจะเบาบางลง หากหน่วยงานมีข้อจำกัดก็ต้องมาบูรณาการร่วมกันเพื่อให้การดำเนินโครงการและมาตรการต่าง ๆ เดินหน้าต่อไปได้ และต่อยอดการบริหารจัดการจราจรและระบบขนส่งมวลชนให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น” นายศรีราชากล่าว.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 19:03:51 โดย Mylovesss » IP : บันทึกการเข้า
SpiriT_
สิ่งสำคัญ !!!
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


(: ไม่มีอะไรมากมาย ก๊แค่เดิม ๆ ! ! !


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 18:53:42 »

ถ้าปรับ แต่รถที่จอดไหล่ทางว่าไปอย่างที่จอดขว้างไรงี้ นี่มาปรับ รถเสียผมว่ามันไม่ถูกต้องนะคับ อยู่ดีๆเครื่องดับ แล้วมาปรับเค้า แค่รถเสียเค้าก๊มีปัญญหาจะแย่อยู่แล้ว ต้องมาปรับเค้าอีก ทำไม่ไม่อำนวยความสะดวกให้เค้าละคับ หน้าที่ของตำรวจคืออะไร ใครพอรู้ไหมบอกผมที
IP : บันทึกการเข้า

,,,ถ้าบินได้บินไปแล้ว !! (:
ขี้เหล้าอาวุโส
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,061



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 19:35:29 »

ถ้าปรับ แต่รถที่จอดไหล่ทางว่าไปอย่างที่จอดขว้างไรงี้ นี่มาปรับ รถเสียผมว่ามันไม่ถูกต้องนะคับ อยู่ดีๆเครื่องดับ แล้วมาปรับเค้า แค่รถเสียเค้าก๊มีปัญญหาจะแย่อยู่แล้ว ต้องมาปรับเค้าอีก ทำไม่ไม่อำนวยความสะดวกให้เค้าละคับ หน้าที่ของตำรวจคืออะไร ใครพอรู้ไหมบอกผมที
ชัดเจนครับ คงบ่ามีไผอยากฮื้อรถเสีย
IP : บันทึกการเข้า

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
บ้านฮอมฮัก
ID-line cat-cream
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,431



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 19:41:46 »

เรื่องนี้ยังไม่ทันจางเลยตอนนี้มีนโยบายใหม่มาอีกละ ห้ามรถเก่าอายุ 7-10 วิ่งในกรุงเทพฯเพื่อแก้ปัญหารถติด คนผ่อนรถ 7 ปี ทีนี้ล่ะรถใหม่เพียบเลย เกลียดมากรัฐบาลนี้ กลัวอนาคตของลูกหลานจะอยู่กันยังไง เศร้า เศร้า
IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,358


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 20:07:30 »

ผลของการคิดโดยไม่ศึกษาผลกระทบให้รอบด้านครับ



ชะลอแล้วหลังทนเสียงต้านไม่ไหว...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 20:10:21 โดย @เชียงแสน » IP : บันทึกการเข้า
tiger-red
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,007



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 20:09:34 »

เอาเข้าไปนโยบายรีดเงินออกมาต่อเนื่องจริง ต่อไปก็คงเปิดด่านเก็บเงินค่าผ่านทางที่ยกเลิกไปนานแล้วกลับมาใช้ใหม่แน่เลย
IP : บันทึกการเข้า
yodying
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 281



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 20:27:23 »

เรื่องนี้ยังไม่ทันจางเลยตอนนี้มีนโยบายใหม่มาอีกละ ห้ามรถเก่าอายุ 7-10 วิ่งในกรุงเทพฯเพื่อแก้ปัญหารถติด คนผ่อนรถ 7 ปี ทีนี้ล่ะรถใหม่เพียบเลย เกลียดมากรัฐบาลนี้ กลัวอนาคตของลูกหลานจะอยู่กันยังไง เศร้า เศร้า

ทำไมชอบอ่านแต่พาดหัวข่าว
รถเกิน 7 ปี วิ่งได้แต่เสียภาษีเท่ารถคันใหม่
ญี่ปุ่นโหดกว่านี้ บ้านเขาจึงมีระเบียบ
ที่รถวิ่งล้อหลุดกันทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะ
กฎหมายมันหละหลวมกะคนมักง่ายหรือ
IP : บันทึกการเข้า
kawilah
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 59


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 21:04:16 »

โอ้โห บางคนผ่อนรถหกปีใกล้จะหมดก็ต้องเปลี่ยนรถใหม่อีกเพราะอีกปีเดียวก็เป็นรถเก่าแล้วเป็นหนี้ตายเลย
IP : บันทึกการเข้า
johin
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,001


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 21:20:44 »

ไม่เห็นด้วยครับ เพราะมึความคิดแต่เรื่องระยำทำแต่เรื่องเฮงซวย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 21:24:30 โดย johin » IP : บันทึกการเข้า
pppkonsila
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 322


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 09 ตุลาคม 2013, 00:56:45 »

มันบ่มีอะหยังจะยะกันแล้ว มันเลยเอาหัวแม่ตรีนคิดออกมา!!!!!
IP : บันทึกการเข้า
eake69
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 325



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 09 ตุลาคม 2013, 06:34:46 »

เรื่องนี้ยังไม่ทันจางเลยตอนนี้มีนโยบายใหม่มาอีกละ ห้ามรถเก่าอายุ 7-10 วิ่งในกรุงเทพฯเพื่อแก้ปัญหารถติด คนผ่อนรถ 7 ปี ทีนี้ล่ะรถใหม่เพียบเลย เกลียดมากรัฐบาลนี้ กลัวอนาคตของลูกหลานจะอยู่กันยังไง เศร้า เศร้า

ทำไมชอบอ่านแต่พาดหัวข่าว
รถเกิน 7 ปี วิ่งได้แต่เสียภาษีเท่ารถคันใหม่
ญี่ปุ่นโหดกว่านี้ บ้านเขาจึงมีระเบียบ
ที่รถวิ่งล้อหลุดกันทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะ
กฎหมายมันหละหลวมกะคนมักง่ายหรือ


+10000000
IP : บันทึกการเข้า
FINISH2
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 241


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 09 ตุลาคม 2013, 08:01:07 »

จะได้เอาเงินค่าปรับมาจ่ายคืนให้กับรถคันแรกงัยละ ตอนนี้ภาษีไม่ม่รู้จะไปรีดเอาตรงไหนแล้วนโยบายประชานิยม ทำได้แต่ไม่มีเงินก่ต้องหาทางรีดเอาเงินจากประชาชนงัย5555
IP : บันทึกการเข้า
อ็อด หมูน้อย....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,621



« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 09 ตุลาคม 2013, 11:30:56 »

เห็นเขาว่า รถใครจอดเสีย จอดผิดกฎ  จะทำการให้รถยก มาไว้ที่ปลอดภัย แล้วปรับ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ปรับค่าจอดรถเสียรายนาที คงไม่มีแล้วครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ชีวิตเปรียบดังกราฟ มีขึ้นและมีลงเสมอ จงอยู่ด้วยจิตใจที่แข็งแกร่ง
may111
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 09 ตุลาคม 2013, 11:41:17 »

ถ้ามีสิ่งอำนวยความสะดวกกว่านี้ ตั้งไปเต๊อะกฎนี้หนา ดูอย่าง ญี่ปุ่น สหรัฐ ใช้รถส่วนตัวน้อยมาก แต่นี้มันประเทศไทย ไปไหนมาไหน บ่ามีรถเหมือขาดขาดครับเจ้านาย....5555
มันกึดได้จะได่..หลวกล้ำ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!