ซีพีเอ็นปั้น เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ให้เป็นศูนย์การค้า Eco-Friendly ครบวงจรแห่งแรกของไทย
ซีพีเอ็นปั้น “เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย” ให้เป็นศูนย์การค้า Eco-Friendly ครบวงจรแห่งแรกของไทย
· ใช้นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบ 360 องศา
· นวัตกรรมที่นำมาใช้ ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้กว่า 1.4 ล้านหน่วยต่อปี เทียบเท่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งปีสำหรับบ้านพักอาศัยกว่า 200 ครัวเรือน ช่วยลดปริมาณคาร์บอนฯ ได้กว่า 800 ตันต่อปี
กรุงเทพฯ - 10 มีนาคม 2554: บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น บริษัท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกชั้นนำของประเทศไทย ลุกขึ้นมาปลุกจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์พลังงานต่อเนื่อง ล่าสุดชูแนวคิด Eco-Friendly ในการพัฒนาศูนย์การค้าแห่งใหม่ล่าสุด “เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย” ศูนย์การค้าแห่งที่ 16 ของซีพีเอ็น ที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 30 มีนาคมนี้ โดยนำนวัตกรรมประสิทธิภาพสูง ที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบ 360 องศามาใช้ ทำให้ศูนย์การค้าแห่งนี้เป็น “ศูนย์การค้า Eco-Friendly ที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของไทย”
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจและโครงการก่อสร้าง ของ
ซีพีเอ็น กล่าวว่า “ซีพีเอ็นเล็งเห็นถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงานอย่างมาก การพัฒนาศูนย์การค้าของซีพีเอ็นต่อจากนี้ จะเน้นเรื่องการเป็นมิตรต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ โดยซีพีเอ็นจะนำนวัตกรรมประสิทธิภาพสูงตามแนวคิด Eco-Friendly ที่คำนึงถึงสภาวะแวดล้อมโดยรวมมาใช้”
ด้วยความที่เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่น ด้าน Eco-Friendly Tourism โดยมีภูมิประเทศ และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียง รวมถึงศิลปะวัฒนธรรมที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซีพีเอ็นจึงตั้งใจที่จะพัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ให้มีความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและสังคมของที่นี่
นางสาววัลยา กล่าวว่า “เรามุ่งพัฒนาศูนย์การค้าแห่งนี้ให้เป็น “ศูนย์การค้า Eco-Friendly ที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของไทย” ที่ให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบ 360 องศา ซึ่งความโดดเด่นของโครงการนี้ อยู่ที่ นวัตกรรมใหม่ซึ่งสามารถนำอากาศเย็นในช่วงฤดูหนาวจากภายนอกมาใช้ในอาคาร ทำให้มีอากาศเย็นไหลเวียนได้โดยไม่ต้องใช้ระบบปรับอากาศ ซึ่งถือได้ว่าเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกของไทยที่นำระบบนี้มาใช้”
การลดการใช้พลังงานจากระบบปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่ซีพีเอ็นให้ความสำคัญอย่างมาก นอกเหนือจากการนำอากาศเย็นมาใช้ในช่วงฤดูหนาวแล้ว เรายังได้นำระบบปรับอากาศชนิดประหยัดพลังงานมาใช้ทั้งศูนย์ฯ มีการลดการใช้น้ำในการระบายความร้อนของระบบปรับอากาศด้วยการใช้น้ำรีไซเคิล มีการวางผังโครงการตามทิศทางแสงแดด ทำให้พื้นที่ด้านหน้าอาคารซึ่งเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมรับแสงแดดเฉพาะในช่วงเช้า และหลังจากนั้นจะร่มตลอดทั้งวัน ช่วยลดความร้อนที่สะท้อนเข้าสู่อาคาร มีการสร้าง Water Feature ทั้งบ่อน้ำ น้ำตก น้ำพุ ด้านหน้าอาคารซึ่งเป็นด้านเหนือลม ทำให้ลมพัดเอาความเย็นจากน้ำเข้าสู่ตัวอาคารและใต้อาคารซึ่งยกสูงแบบใต้ถุนเป็นที่จอดรถ ช่วยในการระบายอากาศและควันพิษออกนอกอาคารด้านหลัง ทำให้ตัวอาคารเย็นขึ้น ทั้งหมดนี้ ทำให้เราสามารถลดการใช้พลังงานให้อยู่ในระดับต่ำสุด แต่ยังสามารถมีประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูงสุด ทำให้ไม่กระทบต่อความสบายของลูกค้าขณะมาใช้บริการในศูนย์ฯ
นอกจากนี้ เนื่องจากจังหวัดเชียงรายมีอากาศดี เราจึงได้จัดสรรพื้นที่ภายนอกศูนย์ฯ บางส่วนเป็นโซน Outdoor Retail และ Outdoor Dinning ซึ่งคิดเป็นประมาณ 20% ของพื้นที่รีเทลทั้งหมด เพื่อลดการใช้พลังงานในการปรับอากาศอีกทางหนึ่งด้วย
ด้านการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในการให้แสงสว่าง เราได้ออกแบบอาคารให้สามารถใช้แสงธรรมชาติได้มากขึ้น โดยใช้ Skylight และ Indirect Light นำแสงเข้าสู่อาคารอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ มีการจัดโซนนิ่ง การใช้ไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่โดยการแยกวงจร เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันในบริเวณที่มีแสงจาก Skylight และ Indirect Light ทั้งยังนำวัสดุประหยัดพลังงาน อาทิ หลอดไฟ LED ประหยัดพลังงาน ที่มีอายุการใช้งานยืนยาวมาใช้ นอกจากนี้ ยังมีการนำระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟ อัตโนมัติ (Building Automatic System) หรือ BAS และระบบการควบคุมและวิเคราะห์การใช้ไฟฟ้า (Energy Management System) หรือ EMS มาใช้ควบคุมระบบไฟตามปริมาณการใช้งานในแต่ละช่วงเวลาทำให้ประหยัดไฟฟ้าได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นางสาววัลยา กล่าวเสริมว่า “เราต้องการให้ เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย เป็นส่วนหนึ่งของความภูมิใจของชาวเชียงราย จึงตั้งใจออกแบบศูนย์การค้าแห่งนี้ โดยผสมผสานความทันสมัยให้เข้ากับบรรยากาศท้องถิ่นได้อย่างกลมกลืน เราตั้งใจอย่างมากในการออกแบบศูนย์การค้าที่นี่ให้สวยงาม โดยนำเอากับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและศิลปะวัฒนธรรมล้านนา ที่ทรงคุณค่าของชาวเชียงราย มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ตั้งใจให้เป็นหน้าเป็นตาสำหรับชาวเชียงราย เป็นแลนด์มาร์คของจังหวัด บริเวณ Façade ด้านหน้าศูนย์การค้า มีการตกแต่งด้วยแผงดอกกาสะลองซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดของเชียงราย ในส่วน Landscape ของโครงการมีสวนประติมากรรม จำลองสภาพภูมิประเทศของเชียงรายซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาและเนินดอกไม้นานาพรรณสลับกันอย่างสวยงาม มีการตกแต่งไฟ LED เล่นแสงสีในยามค่ำคืน เพื่อสร้างบรรยากาศที่แปลกใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มสัดส่วนพื้นที่สีเขียวในโครงการทั้งภายในและและภายนอกอาคาร ด้วยการปลูกต้นไม้ที่เป็นพันธุ์พื้นถิ่น อาทิ ดอกพวงแสด ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัด ต้นนุ่นแดง และพรรณไม้อื่นๆ รวมกว่า 400 ต้น”
“นวัตกรรมต่างๆ ด้านการประหยัดพลังงานตามแนวคิด Eco-Friendly ที่เรานำมาใช้ในการพัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย จะช่วยให้การประหยัดพลังงาน มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบกับมาตรฐานกฎหมายใหม่ปี 2552 ศูนย์การค้าแห่งนี้จะสามารถประหยัดพลังงานได้กว่า 13% คิดเป็นปริมาณไฟฟ้าที่จะประหยัดได้กว่า 1.4 ล้านหน่วยต่อปี เทียบเท่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งปีสำหรับบ้านพักอาศัยกว่า 200 ครัวเรือน ช่วยลดปริมาณคาร์บอนฯ ได้กว่า 800 ตันต่อปี ซึ่งเรามีโครงการที่จะนำศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย เข้าประกวดอาคารประหยัดพลังงานในปีนี้ด้วย” นางสาววัลยา กล่าว
นอกจาก ซีพีเอ็นจะมุ่งมั่นพัฒนาสร้างอาคารที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ซีพีเอ็นยังให้ความสำคัญกับการแทรกแนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อมเข้าไปในทุกๆ กิจกรรมของบริษัท ซึ่งเรามีแนวทางที่จะร่วมมือกับ องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ในการประชาสัมพันธ์แนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงเทคนิคในการประหยัดพลังงาน เพื่อรณรงค์ให้พนักงานและลูกค้าที่มาช้อปปิ้งในศูนย์เกิดสำนึกด้านการอนุรักษ์พลังงาน โดยจะจัดกิจกรรมหนุนกระแสสิ่งแวดล้อม ให้ความรู้ผู้บริโภค ภายใต้แนวคิด ทุกคนช่วยสังคม ช่วยสภาพแวดล้อมได้ และจัดนิทรรศการ เพื่อการประชาสัมพันธ์และรักษาสิ่งแวดล้อมในศูนย์การค้าของเราทุกศูนย์ฯ เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เกี่ยวกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย
ซีพีเอ็นตั้งใจพัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ให้เป็น “สุดยอดไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์แห่งแรกใจกลางเมืองเชียงราย” ที่ครบครันด้วยสินค้าและบริการหลากหลาย พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ทันสมัยทุกรูปแบบ ตั้งอยู่บนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ (พหลโยธินสายใหม่) และถนนพหลโยธินสายเก่า บนพื้นที่ 52 ไร่ มีพื้นที่โครงการกว่า 100,000 ตารางเมตร และมีมูลค่าการลงทุนทั้งโครงการกว่า 2,400 ล้านบาท โดยจะเปิดให้บริการในวันที่ 30 มีนาคม 2554
_________________________________________
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
โทร. 0-2667-5555 ปรีติ ประพันธ์วิทยา ต่อ 4306 ศิริรัตน์ วจะรักษ์เลิศ ต่อ 4101 โทรสาร 0-2264-5575
Email:
pr.ho@cpn.co.th Website:
www.cpn.co.th/presscenter
หน้าหลักเว็บไซต์
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."
ผู้เขียน
