I LOVE ร-ถ-เ-ค-รื่-อ-ง เรื่อง2ล้อ หัวใจทัวร์ริ่ง

[ninja250]

รุ่นที่ 3 ผลิตปี 1995 จะมี 2 รุ่น คือ
1. Standard ไมล์วัดรอบจะมีแค่ 14,000 รอบ
2. Version R ไมล์วัดรอบจะมี 15,000 รอบรุ่นนี้มีหน้ากากและไฟหน้าเป็นสี่เหลี่ยม
- ตัวปกติจะมี รหัสรุ่นคือ CB400SF2S ดูที่ใต้เบาะ
- version R รหัสรุ่นคือ CB400SF3S ดูที่ใต้เบาะ

[ninja250]

 

[ninja250]

รุ่นต่อมา ปี 1996 จะมี 2 รุ่นเหมือนกัน
1. standard
2. version s เรือนไมล์ตัวเลขเป็นสีขาว วัดรอบมี 15,000 รอบ
- standdard รหัสรุ่นคือ CB400SF2T
- version s รหัสรุ่นคือ CB400SF3T
ตัวนี้จะไม่ค่อยแตกต่างจากตัวปี 95 มากนัก ที่เปลี่ยนก็มี1. เรือนไมล์ กลับมาใช้แบบสามลูก และไม่ใช้หน้ากากแล้ว
2. ช็อคอัพหลังเปลี่ยนรูปทรงใหม่
3. ระบบเบรคหน้า เปลี่ยนไปใช้แบบ สี่ลูกสูบเป็นครั้งแรก และมีการแก้ไขปรับปรุงจานเบรคใหม่
เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมผัส
5. แผงพักเท้าแบบตาข่ายเปลี่ยนจากสีเงิน เป็นสีดำ
6. น้ำหนักรถ เบาลงไป 1กิโล เป็น 174กิโล (เวอร์ชั่นอาร์ 175กิโล)

[ninja250]

 

[ninja250]

รุ่นสุดท้ายที่เป็นรหัส NC31 เพราะตัว Vtec จะเป็น NC39
รุ่นนี้จะเป็น SF ปี 97-98 ( ตัวที่ผลิตเดือน พ.ย. ปี96 ถือว่าเป็นตัวนี้เหมือนกันนะครับ )
มี2 รุ่นเช่นกัน
1. standard รหัสรุ่น CB400SF2V
2. version s รหัสรุ่น CB400SF3V
จุดที่แตกต่างของ version s ก็คือ
คราวนี้มาดูเวอร์ชั่นเอส กันบ้าง มีจุดเด่นหลายอย่างเช่น
- ชุดเรือนไมล์ แบบตัวเลขและเข็ม สีแดง สวยมาก ๆ
- คาลิปเปอร์เบรคหน้าของเบรมโบ้
- กันสะเทือนหน้าแบบปรับความแข็งสปริงได้
- กันสะเทือนหลังยังคงเหมือนตัวเวอร์ชั่นเอส ปี96

[ninja250]

 

[ninja250]

CB400 VTEC 1 ปี 1999-2001- Hyper VTEC นั้นจะเป็นลักษณะการทำงานที่คล้ายกับระบบเดียวกันที่ใช้อยู่ในรถยนต์ โดยที่ระบบจะทำหน้าที่ควบคุมจังหวะการเปิด-ปิดวาล์วให้สัมพันธ์และเหมะสมกับ ความเร็วรอบของเครื่องยนต์ โดยระบบนี้จะแตกต่างจากเครื่องยนต์ทั่วไปก็คือ เครื่องยนต์แบบทั่ว ๆ ไปนั้นในแต่ละสูบของเครื่องยนต์ การทำงานของวาล์วไอดีและไอเสียจะทำงานพร้อมกันทั้งหมดทุกความเร็วรอบ แต่ในขณะที่เครื่องยนต์ระบบHyper VTEC นั้นในจังหวะที่เครื่องยนต์มีความเร็วรอบต่ำจนถึงปานกลางความต้องการปริมาณอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์มีความเร็วรอบเพิ่มขึ้นจนถึง 6,750 รอบ/นาที ระบบก็จะบังคับให้วาล์วที่เหลือเปิดกว้างขึ้น ซึ่งจะใช้ความเร็วรอบทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของวาล์วโดยมีอุณหภูมิน้ำมันหล่อลื่นและระบบจุดระเบิดมาเป็นตัวแปรต่อการทำงานของระบบ

[ninja250]

ข้อดีของระบบ Hyper VTEC นี้จะช่วยให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะในส่วนของแรงบิดเพิ่มมากขึ้นทั้งในช่วงความเร็วรอบต่ำและความเร็วรอบสูง โดยในช่วงที่เครื่องยนต์มีความเร็วรอบต่ำอยู่นั้นจะมีแรงบิดเพิ่มขึ้นถึง 60%ส่วนในจังหวะที่ใช้ความเร็วสูงนั้นแรงบิดเพิ่มขึ้นอีก 20%นอกเหนือจากนี้ยังช่วยลดแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นจากการทำงานของวาล์วช่วงความ เร็วรอบต่ำ เนื่องจากวาล์วจะทำงานแค่เพียงสองตัวเท่านั้นซึ่งก็จะช่วยให้สามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้นกว่าเครื่องแบบธรรมดาทั่วไป

[ninja250]

CB400 VTEC2 ปี 2002
ใช่ว่าการทำงานของ Hyper VTEC จะหยุดอยู่เพียงแค่นั้นฮอนด้ายังได้ทำการพัฒนาระบบ Hyper VTEC ขึ้นไปอีกโดยในปี 2002 วิศวกรฮอนด้าได้พัฒนาระบบ Hyper VTEC ให้ดีขึ้นซึ่งเวอร์ชั่นที่มีชื่อว่า Hyper VTEC Spec II ทางฮอนด้าได้พัฒนาโดยลดความเร็วรอบในการเปิดวงจรระบบ Hyper VTEC ลงจาก 6,750 รอบ/นาที ให้เริ่มเปิดที่ 6,700 รอบ/นาที

[ninja250]

 

[ninja250]

CB400 VTEC3 ปี 2003-2006
ในปี 2003 ทีมวิศวกรก็พัฒนาจังหวะควบคุมการเปิด-ปิดวาล์ว
ไอดี-ไอเสียให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยกำหนดให้ในช่วงความเร็วรอบ
ไม่เกิน 6,300 รอบ/นาที ระบบจะกำหนดให้อยู่ในช่วงความเร็วรอบต่ำ
และใช้เกียร์ 1-5 และวาล์วจะเปิดเพียงอย่างละตัวเท่านั้น
แต่เมื่อความเร็วรอบเพิ่มขึ้นจนถึง 6,750 รอบ/นาที
ระบบจะกำหนดให้เป็นช่วงความเร็วสูงและเกียร์จะอยู่ที่เกียร์ 6 วาล์ว
ไอดี-ไอเสีย จะเปิดกว้างสุดทั้งหมด ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ 3
คือ Hyper VTEC Spec III นั่นเอง

[ninja250]

 

[blooddybay]

ถูกใจสาวก Super4 มากเลยค้าบบบ   

[ninja250]

มีข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง V-TEC
V-TEC Spec l ปี 99-2000 มีผลิตออกมาน้อยเพราะเนี่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงเครื่องวีเทคครั้งแรก
V-TEC Spec ll ปี 2001-2003 จะจำหน่ายอยู่ในช่วงปีนี้ เทค 3 เริ่มผลิตแล้วปลายปี 2003 แต่ยังไม่จำหน่าย
V-TEC Spec lll ปี 2004-2006 เริ่มออกจะหน่ายปี 2004 ปั๊กหัวเทียนสีแดง ปี 2005 ปั๊กหัวเทียนสีดำปี 2006 กลับมาใช้ปั๊กแดง

[ninja250]

Honda CB 400SF Super Four Tec Revoได้เริ่ม ผลิต ปี 2008 และออกจำหน่ายในปีนั้นtec revo  เป็นเครื่องยนต์  Hyper VTEC  หัวฉีด ตัวแรก CB400 ที่ทำออกมา

[ninja250]

อย่างนี้น่าจะมันส์ดีนะ...ฮ่าฮ่า

[ninja250]

เห็นคันนี้แล้วมันส์เขี้ยวพิลึก...พี่น้อง...ฮ่าฮ่า

[blooddybay]

ผมอยากได้คันนี้ครับ

[ninja250]

ผมอยากได้คันนี้ครับ

สงสัยได้ไอเดียจากแบทแมน...ฮ่าฮ่า

[ninja250]

จุดเริ่มต้นของ KAWASAKI ZZR-1400 ครับ
ถ้าหากจะไปสัมผัสแบบเจาะลึกกับเจ้า ZZR 1400 ก็ต้องไปสาวตำนานตระกูลรถยักษ์ให้รู้ถึงต้นตอแห่งความแรงกันเสียก่อน ถ้าเอ่ยถึงชื่อรหัส ZZR สิงห์นักบิดทั่วไปคงไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไรแต่ถ้าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของค่ายคาวาซากิคงจะพอจำชื่อ ZZR-1100 (1052cc.)รถสปอร์ตทัวริ่งคันโตที่คาวาซากิปล่อยออกมาเมื่อ 15 ปีก่อนได้ แม้จะหวังให้ ZZR-1100 เป็นหัวหอกในการทำลายสถิติความเร็ว 300 กม./ชม. แต่จนแล้วจนเล่า คาวาซากิก็ไม่สามารถพารถยักษ์น้ำหนักตัว 250 กก. ทะลุกำแพง 300 กม./ชม.ได้แต่ก็ได้สร้างชื่อให้ ZZR-1100 กลายเป็นรถที่ผลิตออกวางตลาดเร็วที่สุดในยุคนั้นถึง 5 ปี ติดต่อกัน

เครดิตจากhttp://www.bloggang.com/viewblog.php?id=gsxr-club&date=16-03-2007&group=3&gblog=8