เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 กรกฎาคม 2025, 19:09:01
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  สมัชชาเกษตรกร แจ้งราคารับจำนำข้าวนาปี 2556
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 พิมพ์
ผู้เขียน สมัชชาเกษตรกร แจ้งราคารับจำนำข้าวนาปี 2556  (อ่าน 61432 ครั้ง)
pradi
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 150


« ตอบ #80 เมื่อ: วันที่ 20 มีนาคม 2013, 21:58:52 »

วัถุประสงค์ของกลุ่ม

ในเกมส์  เกมส์แรกที่ทุกคนเข้าไปเล่น มือใหม่จะไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรเดินทางไปทางไหน รวมกลุ่มเพื่ออะไร จะชนะในเกมส์ได้อย่างไร ส่วนคนที่เคยเล่นเกมส์มาแล้วรอบหนึ่งจะรู้ว่าเริ่มเกมส์จะต้องเล่นอย่างไร จึงมีโอกาสได้เปรียบกว่ามือใหม่

นอกเกมส์ วันนี้ผมลองคิด พบว่าผมเล่นเกมส์ๆนี้เหมือนคนที่เคยเล่นเกมส์มาแล้วรอบหนึ่ง ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีประสบการณ์อะไรเลย ผมคิดว่าผมน่าจะเล่นผิด ผมต้องจำลองตัวเองเป็นมือใหม่สิ แล้วเริ่มเล่นเหมือนมือใหม่ ฉนั้น เริ่มต้นผมต้องถามถึงวัตถุประสงค์การรวมกลุ่มของทุกๆคนก่อนเพื่อที่จะได้กำหนดแนวทางการเดินทางไปด้วยกัน

ที่ผมเสนอการหาตลาดไปกระทู้ด้านบนขอยกเลิกก่อนนะครับ เพราะยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ขอเจ้าของไอดี ส่วนคุณ sabaidree  อย่ายืนดูเฉยๆสิครับ เข้ามาวางระบบด้วยกันว่า คนที่เข้ากลุ่ม ต้องให้แสดงข้อมูลอะไรบ้าง ตอนนี้ที่ผมคิดว่าอยากให้แสดงมี
 1.ไอดี
 2.ตำแหน่งที่ตั้งคราวๆ แค่ ตำบล อำเภอ
 3.วัตถุประสงค์ที่ต้องการเข้ากลุ่ม  
 4.ชนิดของผลผลิต (เฉพาะสายเกษตร)
 
 

วัตถุประสงค์ในการรวมกลุ่มให้บอกดังนี้

1.ต้องการให้กลุ่มช่วยเหลือเรื่อง....
1.1ด้านการค้า
1.2ด้านความรู้วิชาการ
1.3ยังไม่ต้องการให้ช่วยในตอนนี้

2.ต้องการช่วยเหลือกลุ่มเรื่อง....
2.1เช่นช่วยเผยแพร่องค์ความรู้ด้าน.....
2.2หาตลาด
2.3ออกแบบระบบและบริหารกลุ่ม
2.4อยากให้ช่วยอะไรก็บอกมา ช่วยได้ก็จะช่วย

ประมาณนี้ก่อนใครอยากให้เสริมอะไรบอกมานะครับ
 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
ฮิๆ น่าสน แล้วจะไปหาเกมส์ตี้ไหนมาลง ลงในลินุกซ์ได้ก่ ยิงฟันยิ้ม ไม่ค่อยสนใจเรื่องเกมส์เท่าใด จะติดใจ๋ตั๋วนี้ละก้ะ ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
sabaidree
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565


« ตอบ #81 เมื่อ: วันที่ 21 มีนาคม 2013, 20:39:20 »

ข้อมูลการเกษตรของประเทศเดนมาร์กครับ
เดนมาร์กเป็นประเทศเล็ก มีประชากรประมาณ 5.3 ล้านคน พื้นที่ 43,094 ตารางกิโลเมตร แต่เป็นผู้นำในการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ใช้เป็นอาหารและเครื่องดื่ม จากความร่วมมือกันของสามฝ่าย คือ รัฐบาล เกษตรกร ผู้ค้าปลีก ซึ่งมี Co-op Denmark (FDB) เป็นแกนกลางในการผลักดันให้ไปถึงเป้าหมาย(โดยไม่มีพ่อค้าคนกลางในระบบครับ)

ช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ในเดนมาร์ก
1. ซูเปอร์มาเก็ตมีบทบาทมากที่สุด มีส่วนแบ่งในตลาด 70% เนื่องจากความต้องการอาหารกล่องมีสูงมาก การจำหน่ายสินค้าที่ฟาร์ม และในตลาดสดมีส่วนแบ่งตลาด 20% ผู้ค้าปลีกอื่นๆ และผู้ให้บริการด้านอาหารมีส่วนแบ่งตลาด 10% ผู้ค้าปลีกรายสำคัญในเดนมาร์ก มีดังนี้
1.1 Co-op Denmark (FDB) เป็นการรวมตัวกันของสหกรณ์ผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่งในเดนมาร์ก เป็นกลุ่มผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในเดนมาร์ก มีส่วนแบ่งตลาด 33% มีซูเปอร์มาเก็ตในเครือข่าย คือ Brugsen, Lokal Brugsen, DagliBrugsen, SuperBrugsen, Kvickly รวม 900 สาขา และไฮเปอร์มาเก็ต OBS! อีก 12 สาขา (OBS! เป็นธุรกิจร่วมทุนกับ NKL ในนอร์เวและ KF ในสวีเดน) สินค้าเกษตรอินทรีย์ที่จำหน่ายส่วนใหญ่ติดฉลาก Ø หรือติดฉลากอื่น ส่วน FDB มีตราสินค้าของตนเอง คือ Natura
1.2 IRMA มี FDB เป็นเจ้าของจำหน่ายสินค้าในตลาดบน มีร้านค้าปลีก 55 สาขา ในโคเปนเฮเกน จำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์หลายรายการรวมทั้งผักและผลไม้ ทั้ง FDB และ IRMA นำเข้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ผ่านบริษัท NAF International
1.3 Dansk Supermarket A/S เป็นกลุ่มผู้ค้าปลีกใหญ่อันดับ 2 ในเดนมาร์ก มีส่วนแบ่งตลาด 27% ของตลาดอาหารในเดนมาร์ก มีซูเปอร์มาเก็ตในเครือข่าย ได้แก่ fØtex (60 สาขา) ไฮเปอร์มาเก็ต Bilka 12 สาขา จำหน่ายอาหารและของใช้ประจำวัน ห้างจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด NETTO (300 สาขา) ซึ่งมีนโยบายส่งเสริมการจำหน่าย สินค้าเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจัง จำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ทั้งที่ผลิตในเดนมาร์กและ นำเข้า สินค้าผลิตในประเทศจะติดฉลาก Ø ส่วนสินค้านำเข้าติดฉลาก “importeret Økologisk for Dansk Supermarked IndkØb I/S” Dansk Supermarket A/S ทำหน้าที่จัดซื้อสินค้าให้ Bilka และ fØtex ส่วน NOTTO ดำเนินการจัดซื้อสินค้าเอง
1.4 SuperGros A/S เป็นผู้ค้าส่งของใช้ประจำวันรวมทั้งอาหารรายใหญ่ที่สุดในเดนมาร์ก จัดส่งสินค้าให้แก่ซูเปอร์มาเก็ตและผู้ค้าปลีกอิสระ เช่น FavØr, Spar Danmark A/S, SuperBest, ISO Supermarked, Rema 1000 Danmark A/S ซึ่ง SuperGros มีส่วนแบ่งตลาด 30% ในตลาดจำหน่ายปลีกอาหารในเดนมาร์ก โดยมีผักผลไม้เป็นสินค้าหลัก บริษัทนำเข้าผักผลไม้โดยตรงจากต่างประเทศ แต่สั่งซื้อผักผลไม้อินทรีย์ที่ติดฉลาก Ø จากผู้ผลิตในเดนมาร์ก เพื่อลดปัญหาเกี่ยวกับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ส่งให้ SuperGros คือ Blære Frugt, Danorganic, Gartneriet Marienlyst
2. อาหารกล่องและการจำหน่ายสินค้าทางอินเตอร์เน็ต Barritskov จัดทำเว้ปไซต์ www.aarstiderne.com จำหน่ายอาหารกล่องประเภทผักผลไม้อินทรีย์สดบรรจุกล่องจัดส่ง ถึงบ้านโดยส่งเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งมี Barritskov, Svanholm, Blarefrugt (สมาชิก Biodania) เป็นผู้ผลิตสินค้าให้ นอกจากนี้ยังนำเข้าสินค้าเกษตรอินทรีย์จากต่างประเทศ ซึ่งนำเข้าโดย Solhjulet A/S
3. ธุรกิจจัดเลี้ยงและศูนย์อาหารตามสถาบันต่างๆ สินค้าเกษตรอินทรีย์มีบทบาทน้อยมากในตลาดธุรกิจจัดเลี้ยงและศูนย์อาหารตาม สถาบันต่างๆ แต่ตลาดขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ยังขาดวัตถุดิบในอุตสาหกรรม เช่น ผักสลัดและผักอื่นๆ รวมทั้งสินค้า ที่มีการปรุงแต่งแล้วบางส่วน ผู้ผลิตผักผลไม้ในอุตสาหกรรมนี้ คือ Solhjulet A/S, Svanholm Catering, RØnnely, Flint & Hvids, ØKOterminalen, Frydenholm, MN Catering, H. Lembcke A/S, FDB

พฤติกรรมของผู้บริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ในเดนมาร์ก
ผู้บริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ในเดนมาร์กมี 3 กลุ่ม
1. Heavy-users ใช้จ่ายเงินมากกว่า 10% ของรายจ่ายค่าอาหารในครัวเรือนซื้อ สินค้าเกษตรอินทรีย์
2. Medium-users ใช้จ่ายเงิน 2.5-9.9% ของรายจ่ายค่าอาหารในครัวเรือนซื้อ สินค้าเกษตรอินทรีย์
3. Light-users ใช้จ่ายเงินน้อยกว่า 2.5% ของรายจ่ายค่าอาหารในครัวเรือนซื้อ สินค้าเกษตรอินทรีย์
นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคเดนมาร์กในการซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ คือ
- ผู้บริโภคในเดนมาร์กน้อยกว่า 1% ซื้ออาหารเกษตรอินทรีย์เพียงอย่างเดียว
- ผู้บริโภค 6-7% ไม่เคยซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์เลย
- ผู้บริโภคที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี ซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์มากกว่าผู้บริโภคสูงอายุ
- สินค้าเกษตรอินทรีย์ที่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคสูงอายุ คือ มันฝรั่ง แครอท และผักอื่นๆ
- ในตลาดผักอินทรีย์ แครอทมีสัดส่วน 15% หัวหอมและมันฝรั่ง 4% ผักแช่แข็ง 5%
- ปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ คือ สุขภาพ สิ่งแวดล้อม สวัสดิภาพสัตว์ คุณภาพ รสชาติ
- ฉลาก Ø สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์
ข้อจำกัดในตลาด คือ
1. ราคา ความแตกต่างของราคาสินค้าเกษตรอินทรีย์จากสินค้าธรรมดาที่ผู้บริโภคยอมรับได้ คือ สูงกว่าสินค้าธรรมดา 20%
2. คุณภาพ ซึ่งครอบคลุมถึง รูปลักษณ์ภายนอก รสชาติ บรรจุภัณฑ์ เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า แต่สำหรับสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผู้บริโภคไม่เห็นว่าคุณภาพสินค้าแตกต่างจากสินค้าธรรมดา จึงไม่เต็มใจที่จะจ่ายค่าสินค้าที่มีราคาสูงกว่า ดังนั้นการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีราคาสูงกว่า รูปลักษณ์ของสินค้าจึงต้องดีกว่า
3. มีสินค้าจำหน่ายสม่ำเสมอและส่งสินค้าทันเวลา เนื่องจากสินค้าหลายรายการยังไม่มีผลิตด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์ หรือแม้แต่สินค้าเกษตรอินทรีย์หลายรายการก็ไม่มีจำหน่ายในร้านจำหน่ายอาหาร ทั่วไป
4. ผู้บริโภคยังขาดความรู้เรื่องสินค้าเกษตรอินทรีย์ ทั้งด้านมาตรฐาน กฎระเบียบ การรับรอง ซึ่งยังเป็นข้อจำกัดอยู่มาก

การโฆษณาและส่งเสริมการขายสินค้าเกษตรอินทรีย์
ผู้ค้าปลีกรายใหญ่บางราย เช่น SuperBrugsen (ห้างในเครือ FDB) คัดเลือก 75 สาขา จาก 300 สาขา ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ 400 รายการ แต่งตั้งเจ้าหน้าที่รับผิดชอบสินค้าเกษตรอินทรีย์ประจำสาขาทำหน้าที่ด้านการ ตลาด ฝึกอบรมพนักงานและกำหนดเป้าหมายการโฆษณาและส่งเสริมการขาย IRMA และ NETTO มีแผนการคล้ายกันแต่มีสินค้าน้อยกว่าโดยเน้น บร๊อกโคลี่ ดอกกะหล่ำ พาร์สเล่ย์ แอปเปิล องุ่น Lemons, Oranges
IP : บันทึกการเข้า
chetta2499
เชษฐา 2499
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,138


จุดเทียนไขดีกว่านั่งแช่งความมืด


« ตอบ #82 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2013, 07:52:06 »

เริ่มเป็นกระบอกเสียงของเกษตรกรแล้วนะครับ
อยากจะมีโมเดล ของเกษตรกรไทยที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงจริงมานาน
  แต่มันก็ต้องอาศัยปัจจัยหลายประการที่จำทำให้สำเร็จ

ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ "ตัวของเกษตรกรเอง"
จะต้องคิดพึ่งพาตนเอง เป็นเบื้องต้น
ตั้งแต่การผลิต -------->แปรรูป------------>การจำหน่าย

ในส่วนของการผลิตต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
๑.การเตรียมดิน   เราทำเอง แทนการจ้างคนอื่นทำได้ไหม
๒.การหว่านหรือปักดำ ใช้แรงงานในครัวเรือนได้ไหม
๓.การดูแลและการบำรุงรักษา เช่น การลดการใช้นำ การใช้ปุ๋ย ยากำจัดวัชพืช ศรัตรูพืช เราทำเองได้ไหม
๔.การเก็บเกี่ยว  เราทำเองหรือใช่แรงงานในครัวเรือนได้ไหม

บางคนอาจจะตอบว่า "ไม่ได้"  เพราะว่าทำจำนวนมาก
ถามว่า ทำเยอะได้กำไรเยอะไหม  ได้เงินเยอะเราก็เอาไปจ่ายให้คนอื่นเกือบหมด เหลือให้เรานิดเดียว คิดแล้วขาดทุนแรงงานตนเองด้วยซ้ำไป
สมัยก่อน เขาทำนาครอบครัวละไม่เกิน  20 ไร่ ใช้คน 2 คน หรือ + 1 = 3
ทำนาปีละครั้ง  ยังมีข้าวกินเหลือเฟือส่งูลูกเรียนหนังสือได้
ลูกก็ยังเป็นแรงงานเสริมในแปลงนา ตอนเช้า  ตอนเย็น  และเสาร์ อาทิตย์
อย่างน้อย ก็ดูแลน้อง ๆ แทนพ่อแม่ได้
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มผลิตไก่ชนคุณภาพ จังหวัดเชียงราย
ซุ้มไก่ชนลูกพ่อขุนฯเชียงราย

htt://www.facebook.com/chetta worapitbenja

โทร 0892576293/0808979330
sabaidree
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565


« ตอบ #83 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2013, 08:37:33 »

จากข้อมูลข้างบน นอกจากจะทำให้เกษตรกรชาวเดนมาร์กพึ่งพาตัวเองได้แล้ว ยังส่งผลให้เดนมาร์กจากการเป็นประเทศที่ล้มละลายกลายเป็นประเทศที่
-ประชาชนมีความสุข เป็นอันดับ 1 ของโลก(ยูเอ็น)
-มีการทุจริตน้อยที่สุด เป็นอันดับ 1 ของโลก(ทรานสพาเรนซี อินเทอร์เนชันนัล หรือทีไอ)
-เป็นประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุด เป็นอันดับ 1 ของโลก(นิตยสารฟอร์บ)

เป็นต้น
กลไกที่สำคัญอยู่ที่
ความร่วมมือของภาครัฐ กลุ่มเกษตรกร และผู้ค้าปลีก โดยอาศัยปัจจัยที่สำคัญที่สุด ก็คือ"ความจริงใจซึ่งกันและกัน"
ที่สังเกตุได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ รูปแบบนี้ไม่มี "พ่อค้าคนกลาง" ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 มีนาคม 2013, 10:42:26 โดย sabaidree » IP : บันทึกการเข้า
civilroom
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,113



« ตอบ #84 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2013, 16:26:48 »

อ่านข้อมูล เกษตรกรชาวเดนมาร์ก 3-4 รอบแล้ว ยังไม่เข้าใจ -*-


แต่ไม่เป็นไรครับ อยากให้มีการคุยตอบโต้กันทุกวัน วันล่ะ 1 ครั้ง
แม้จะเป็นเรื่องวิชาการหรือไร้สาระ ก็ตาม
เพราะจะให้ให้ทุกคนเริ่มเปิดใจให้กันและกัน
เกมส์นี้ไม่ใช่เกมส์ offline  ที่จะสามารถเติบโตตามลำพังได้เนาะ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

IP : บันทึกการเข้า
สวนเห็ดกรรณิการ์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,488



« ตอบ #85 เมื่อ: วันที่ 23 มีนาคม 2013, 08:31:49 »

  การรวมกลุ่มเป็นอะไรที่ไม่ยากแต่ที่ยากคือ ไม่มีใครคำนึงถึงความสำคัญเพราะมองไม่เห็นผลประโยชน์ส่วนตน
เมื่อไหร่ก็ตามที่การรวมกลุ่มส่งผลให้มีผลประโยชน์ของแต่ละบุคคลเป็นรูปธรรม เชื่อว่ายังไงคนก็อยากเข้าร่วมกลุ่ม
 นับคนที่ได้ที่จะมีความอดทนรออะไรบางอย่างที่มั่นใจว่าทำได้ แล้วจะนับอะไรกับการรอในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยมีความมั่นใจว่าจะทำได้

  เป็นความคิดเห็นส่วนตัวคะที่มองการรวมกลุ่มของกลุ่มต่างๆแล้วไม่สำเร็จเพราะแต่ละบุคคลมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม ไม่เข้าใจคำว่า "ยิ่งให้ยิ่งได้"
IP : บันทึกการเข้า

การเพาะเห็ดเป็นอาชีพ ไม่ใช่เรื่องยากหากแต่คนที่ทำไม่สำเร็จ ไม่ใช่เขาไม่เก่งแค่เขาล้มเลิกไปก่อนก็เท่านั้นเอง
sabaidree
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565


« ตอบ #86 เมื่อ: วันที่ 23 มีนาคม 2013, 12:15:26 »

ส่วนตัวผมแล้วกำลังจะเริ่มทำเกษตร(อย่างจริงจัง) อย่างไรแล้วผมขอศึกษาแนวทางที่ดี ที่จับต้องได้ จากตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จแล้วจากทั่วทุกมุมโลก(อันนี้รู้สึกจะเกินไป) หากได้ข้อมุลที่สามารถนำมาเป็นแบบแผนและต่อยอดได้แล้ว ผมขออนุญาตเรียนปรึกษาทุกๆท่านด้วยนะครับ
 ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
ลุงใจ
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 85


« ตอบ #87 เมื่อ: วันที่ 29 มีนาคม 2013, 10:15:48 »

กลุ่มนี้น่าศึกษามากนะครับ ใกล้ตัวอีกด้วย
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=398758.0
IP : บันทึกการเข้า
kongkeat
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 29


ความจน ย่อมหลีกทางให้คนขยัน


« ตอบ #88 เมื่อ: วันที่ 07 เมษายน 2013, 11:06:33 »

ขายปุ๋ยขี้ควาย จำนวนไม่จำกัด ติดต่อได้ที่ 0906750844 , 0882239699 บริการส่งถึงที่
IP : บันทึกการเข้า
chetta2499
เชษฐา 2499
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,138


จุดเทียนไขดีกว่านั่งแช่งความมืด


« ตอบ #89 เมื่อ: วันที่ 09 เมษายน 2013, 08:30:18 »

  การรวมกลุ่มเป็นอะไรที่ไม่ยากแต่ที่ยากคือ ไม่มีใครคำนึงถึงความสำคัญเพราะมองไม่เห็นผลประโยชน์ส่วนตน
เมื่อไหร่ก็ตามที่การรวมกลุ่มส่งผลให้มีผลประโยชน์ของแต่ละบุคคลเป็นรูปธรรม เชื่อว่ายังไงคนก็อยากเข้าร่วมกลุ่ม
 นับคนที่ได้ที่จะมีความอดทนรออะไรบางอย่างที่มั่นใจว่าทำได้ แล้วจะนับอะไรกับการรอในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยมีความมั่นใจว่าจะทำได้

  เป็นความคิดเห็นส่วนตัวคะที่มองการรวมกลุ่มของกลุ่มต่างๆแล้วไม่สำเร็จเพราะแต่ละบุคคลมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม ไม่เข้าใจคำว่า "ยิ่งให้ยิ่งได้"

             ตอนนี้เรากำลังเดินหน้า " จัดประชุมหารือตั้งคณะกรรมการ" ของแต่ละอาชีพ เริ่มแรกจะขอเริ่มจากกลุ่มผู้ปลูกพืชก่อนนะครับ เพราะเท่าที่ผ่านมาพวกเขาได้รับผลกระทบมากกว่าอาชีพอื่น ๆ อาจจะเป็นเพราะ 1.มีปริมาณมากในสัดส่วนสาขาอื่น ๆ 2. คนส่วนใหญ่เป็นคนระดับรากหญ้าไม่สามารถเข้าถึงแหล่งต่าง ๆ เช่น แหล่งเงินทุน วิชาการ การตลาด เป็นต้น
     ตอนนี้เราเริ่มจาก  ผู้ปลูกข้าว  ผู้ปลูกลำใย ผู้ปลูกสับปะรด ส่วนกลุ่มสาขาอื่น ๆ ก็จะทยอยเข้าไปรวบรวมกลุ่มนะครับ
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มผลิตไก่ชนคุณภาพ จังหวัดเชียงราย
ซุ้มไก่ชนลูกพ่อขุนฯเชียงราย

htt://www.facebook.com/chetta worapitbenja

โทร 0892576293/0808979330
supannee2012
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


« ตอบ #90 เมื่อ: วันที่ 15 เมษายน 2013, 11:30:03 »

 ยิ้ม ยิ้ม :)I Love Lemon  จุมพิต จุมพิต จุมพิต




"ชีวิตเป็นของเรา"
IP : บันทึกการเข้า
canaan
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 209


« ตอบ #91 เมื่อ: วันที่ 15 เมษายน 2013, 11:43:14 »

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ..มีการรวมกลุ่มเกษตรในเชียงราย..ช่วยกันผลักดันเกษตรอินทรีย์ เพื่อรักษาสุขภาพกาย  ป้องกันโรคภัย..

มีแนวคิดผลักดันการรับประทานพืช ผัก ผลไม้ แนวเกษตรอินทรีย์...เมื่อคิด จึงควรเริ่มต้นลงมือทำในส่วนที่ตัวเองถนัด และพอทำได้...ไม่ถนัดปลูก เพราะเป็นคนกทม.มาอยู่เีชียงราย..

กำลังจะเปิดร้านอาหารเล็กๆ ในเชียงราย  เน้นใช้พืชผักเกษตรอินทรีย์...หากมีกลุ่มเกิดขึ้น  จะได้ติดต่อซื้อจากผู้ปลูกได้ต่อไป   ขยิบตา
IP : บันทึกการเข้า
chetta2499
เชษฐา 2499
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,138


จุดเทียนไขดีกว่านั่งแช่งความมืด


« ตอบ #92 เมื่อ: วันที่ 16 เมษายน 2013, 21:38:32 »

ยินดีต้อนรับนะครับ  พวกเราหมายถึงคณะกรรมการ มีนโยบายเรื่องเกษตรอินทรีย์ อยู่ละครับ
เพราะว่าในอีก 2 ปีกว่าพวกเราชาวเกษตรกร ก็ต้องแข่งขันกับอีกหลายประเทศ นอกจากด้านวิชาการแล้ว
อีกด้านหนึ่งที่เราต้องเน้นมากก็คือ อาหารปลอดภัย   เราถึงจะต่อสู้กับประเทศเพื่อนบ้านได้นะครับ
ตอนนี้ก็จะเน้นพืชหลัก ๆ ก่อน เช่น ข้าว  ลำใย สับปะรด ผักสวนครัว ส่วนด้านปศุสัตว์ ก็จะเข้าไปส่งเสริมในโอกาสต่อไปนะครับ
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มผลิตไก่ชนคุณภาพ จังหวัดเชียงราย
ซุ้มไก่ชนลูกพ่อขุนฯเชียงราย

htt://www.facebook.com/chetta worapitbenja

โทร 0892576293/0808979330
sasima
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 216


« ตอบ #93 เมื่อ: วันที่ 20 เมษายน 2013, 14:15:33 »

เห็นด้วยค่ะจะติดตามข่าวเป็นระยะๆค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
chetta2499
เชษฐา 2499
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,138


จุดเทียนไขดีกว่านั่งแช่งความมืด


« ตอบ #94 เมื่อ: วันที่ 20 เมษายน 2013, 16:38:59 »

ภาระหน้าที่ของพวกเราตอนนี้ก็คือ
1.  ต้องรวมกลุ่มอาชีพเดียวกันเข้าด้วยกัน
2.  ร่วมกันกำหนดแผน  นโยบาย วางยุทธศาสตร์ เช่น การผลิต การแปรรูป และการตลาด
3.  ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ให้เข้าสู่วิถึแห่งการเกษตรอย่างเป็นรูปธรรม

ผมมีโอกาสได้เข้าไปส่งหลานไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย
เพิ่งจะรู้ว่า เรียนที่นี่ "ฟรี " ทุกอย่าง ตั้งแต่ ค่าเรียน ค่าแต่งกาย ค่าหอพัก
ยกเว้น ค่ำา "ประกันชีวิต"  200 บาท
มี   3  สาขาวิชา  1. สัตว์  2. พืช  3. การแปรรูปอาหาร

ซึ่งเห็นว่า มันน่าจะเป็นโอกาสสำหรับเยาวชนรุ่นใหม่  ที่จะเตรียมความพร้อมเข้าสู่
ประชาคม อาเชี่ยนในปี 2558  โดยเฉพาะการนำเอาผลผลิตทางการเกษตร มาแปรรูปต่าง ๆ
ย่อมจะมีโอกาส และสร้างโอกาสให้แก่เกษตรกรต่อไป
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มผลิตไก่ชนคุณภาพ จังหวัดเชียงราย
ซุ้มไก่ชนลูกพ่อขุนฯเชียงราย

htt://www.facebook.com/chetta worapitbenja

โทร 0892576293/0808979330
chetta2499
เชษฐา 2499
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,138


จุดเทียนไขดีกว่านั่งแช่งความมืด


« ตอบ #95 เมื่อ: วันที่ 25 พฤษภาคม 2013, 17:00:53 »

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ผมและคุณ วิรัตน์ พร้อมแกนนำคนอื่น ๆ  โดย มีชาวนา 3 อำเภอมาสมทบได้เข้ายืนหนังสือ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอผ่อนปรน "มิติของ กนช." ที่ลดจำนวนโรงสีที่สามารถเป็นตัวแทนรับจำนำข้าวของเกษตรกร จากที่เ่คยให้มี "จุดรวบรวม" ข้าว ในพื้นที่ต่าง ๆ จำนวน 127 จุด ให้เหลือแค่ 13 จุด จังหวัดเชียงรายมี  18  อำเภอ มีพื้นที่ทำนา 1.5  ล้านไร่  จึงไม่เพียงพอ และไมทันกับการเก็บเกึ่ยวข้าวของเกษตรกร  เมื่อโรงสีเล็กที่เคยเป็นจุดดรวบรวมได้ปิดการรับรวบรวมข้าวจากเกษตรกร  จนมีการรื้อมติของคณะกรรมการ " กนช" ในวันที่  10  ที่ผ่านมาให้ยึดตามแนวทางการรับรวบรวมข้าวเหมือนฤดูนาปีที่ผ่านมา
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มผลิตไก่ชนคุณภาพ จังหวัดเชียงราย
ซุ้มไก่ชนลูกพ่อขุนฯเชียงราย

htt://www.facebook.com/chetta worapitbenja

โทร 0892576293/0808979330
yonok
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 103


เจ้านายตัวเอง 0813663304


« ตอบ #96 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2013, 09:01:01 »

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ..มีการรวมกลุ่มเกษตรในเชียงราย..ช่วยกันผลักดันเกษตรอินทรีย์ เพื่อรักษาสุขภาพกาย  ป้องกันโรคภัย..

มีแนวคิดผลักดันการรับประทานพืช ผัก ผลไม้ แนวเกษตรอินทรีย์...เมื่อคิด จึงควรเริ่มต้นลงมือทำในส่วนที่ตัวเองถนัด และพอทำได้...ไม่ถนัดปลูก เพราะเป็นคนกทม.มาอยู่เีชียงราย..

กำลังจะเปิดร้านอาหารเล็กๆ ในเชียงราย  เน้นใช้พืชผักเกษตรอินทรีย์...หากมีกลุ่มเกิดขึ้น  จะได้ติดต่อซื้อจากผู้ปลูกได้ต่อไป   ขยิบตา
-เห็นตวยอย่างยิ่ง
-ก็คิดอยู่เพมือนกันครับ แม่บ้านก็ชอบอยู่
-ยังบ่ฮู้จะเริมต้นจะไดดี
IP : บันทึกการเข้า
sabaidree
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565


« ตอบ #97 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2013, 12:04:30 »

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ..มีการรวมกลุ่มเกษตรในเชียงราย..ช่วยกันผลักดันเกษตรอินทรีย์ เพื่อรักษาสุขภาพกาย  ป้องกันโรคภัย..

มีแนวคิดผลักดันการรับประทานพืช ผัก ผลไม้ แนวเกษตรอินทรีย์...เมื่อคิด จึงควรเริ่มต้นลงมือทำในส่วนที่ตัวเองถนัด และพอทำได้...ไม่ถนัดปลูก เพราะเป็นคนกทม.มาอยู่เีชียงราย..

กำลังจะเปิดร้านอาหารเล็กๆ ในเชียงราย  เน้นใช้พืชผักเกษตรอินทรีย์...หากมีกลุ่มเกิดขึ้น  จะได้ติดต่อซื้อจากผู้ปลูกได้ต่อไป   ขยิบตา
-เห็นตวยอย่างยิ่ง
-ก็คิดอยู่เพมือนกันครับ แม่บ้านก็ชอบอยู่
-ยังบ่ฮู้จะเริมต้นจะไดดี


ข้อมูลนี้อาจจะเป็นไปได้ยากมากๆ สำหรับบ้านเรา
แต่ก็อาจจะพอมีประโยชน์อยู่บ้านครับ

ต้นกย. ๒๕๕๒ ผมเพิ่งกลับจากการเยือนเดนมาร์กเพื่อร่วมมือทำงานวิจัยด้านกังหันลมกับนักวิชาการเดนมาร์ก (ซึ่งเป็นแดนกังหันลมตัวจริง ไม่ใช่เนเธอร์แลนด์ซึ่งมีกังหันลมน้อยมาก) ก็เลยถือโอกาสเข้าไปเยี่ยมสวีเดนซึ่งมีพรมแดนติดกัน เป็นสองประเทศเล็กๆในแถบแสกนดิเนเวีย ซึ่งถือว่าเป็นประเทศได้พัฒนามานานแล้ว มีระบบรัฐสวัสดิการที่ดีที่สุดในโลกเลื่องชื่อมานาน

สวีเดนนั้นมีประชากรเพียงแค่ 9 ล้านคนเท่านั้นแต่รัฐในอดีตได้กำหยดนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง จนมีอุตสาหกรรมหนักมากมายหลายอย่างเช่น เครื่องบิน รถยนต์ เรือเดินสมุทร รายได้ส่วนใหญ่ของประเทศจึงมาจากอุตสาหกรรม มีพื้นที่เกษตรกรรมเพียงประมาณ 5% เท่านั้น

ส่วนเดนมาร์กประเทศติดกัน มีประชากร 5 ล้านคน เชื้อสายไวกิ้งเหมือนสวีเดน กลับมีนโยบายในการพัฒนาประเทศแบบตรงข้ามกับสวีเดน คือกำหนดให้เป็นประเทศเกษตรกรรม รายได้ประชาชาติมาจากเกษตรกรรมถึง 30% ที่เหลืออีก 70% มาจากภาคบริการ เพราะเดนมาร์กแทบไม่มีอุตสาหกรรมอะไรเลย นอกจากอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรนั่นเอง อุตสาหกรรมใหม่ที่เคยทำรายได้ให้ดีพอควรคือกังหันลม แต่บัดนี้แทบไม่ได้ทำรายได้เพราะรัฐบาลชุดที่ผ่านมาซึ่งครองอำนาจมานาน ไม่สนใจกังหันลมเท่าที่ควร ปล่อยให้อุตสาหกรรมกังหันลมเอกชนเจ๊งกันระเนระนาด

ที่น่าสนใจคือประเทศหนึ่งเน้นหนักอุตสาหกรรม ส่วนอีกประเทศหนึ่งเน้นหนักเกษตรกรรม แต่สองประเทศนี้กลับร่ำรวยพอฟัดพอเหวี่ยงกันมาโดยตลอด โดยมีรายได้ประชาชาติต่อหัว (per capita income) อยู่ในระดับสูงสุดในโลกมาโดยตลอด

แต่ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นคือ ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้เศรษฐกิจเดนมาร์กแซงหน้าสวีเดนไปแล้ว ทำให้เงินโครนของเดนมาร์กแข็งกว่าเงินโครนสวีเดนตั้งเกือบ 20% และเดนมาร์กก็ได้รับการโหวตจากนักข่าวทั่วโลกให้เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอีกด้วย (ทั้งที่ค่าครองชีพติดอันดับแพงที่สุดในโลก ส่วนสหรัฐฯติดอันดับประมาณ 35 และอังกฤษติดประมาณ 40)

ผมวิเคราะห์ว่าที่เดนมาร์กแซงสวีเดนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้เป็นเพราะเศรษฐกิจโลกตกต่ำทำให้ชะลอการซื้อสินค้าอุตสาหกรรม แต่ตกต่ำอย่างไรคนก็ยังต้องกิน ดังนั้นสินค้าเกษตรของเดนมาร์กจึงยังขายได้ดีกว่าสินค้าอุตสาหกรรมของสวีเดน

เดนมารก์เป็นประเทศเดียวในสหภาพยุโรปที่มีรายได้จากการส่งอาหารออกสุทธิ (ส่งออกมากกว่าซื้อเข้า) เดนมารก์นี้จึงถือได้ว่าเป็นครัว (เล็กๆ) ของยุโรปทีเดียว

แต่ที่น่าเศร้าที่สุดคือ ประเทศไทยเรา กำลังวางนโยบายตามอย่างสวีเดน (เมกาฯ ญี่ปุ่น และ อื่นๆ) เพื่อให้เรากลายเป็นประเทศอุตสาหกรรม แทนที่จะตามอย่างเดนมาร์ก โดยนักการเมือง และนักวิชาการที่ปรึกษา ต่างพากันคิดแบบทึ่มๆมานานนมแล้วว่าสินค้าเกษตรมันราคาถูกกว่าสินค้าอุตสาหกรรมมากนัก ดังนั้นถ้าอยากรวยก็ต้องทำอุตสาหกรรมสิ (ซึ่งผมได้เขียนบทความแสดงการคำนวณให้เห็นมาแล้วว่า เป็นการคิดที่ผิดมหันต์ เพราะราคาอาหารนั้นสูงกว่าคอมพิวเตอร์นับ100เท่า...เมื่อเทียบส่วนการบริโภคต่อหน่วยเวลาบริโภคเข้าไปแล้ว

ไทยเรานั้นมีภูมิอากาศเหมาะกว่าเดนมาร์กในทำเกษตรมากนัก เพราะของเขาเมืองหนาว ทำเกษตรได้ปีละ 6 เดือน แถมฝนตกปีละเพียงประมาณ 600 มิล ของเราเฉลี่ย 1200มิล ทำเกษตรได้ทั้งปี อีสานของเราที่สส.อ้างว่าแล้งหนักหนา (เลยต้องของบพัฒนาพิเศษ) ฝนตกปีละ 900 มิล เข้าไปแล้ว ความหนาแน่นประชากรเดนมาร์กก็ตกเข้าไป 250 คน ต่อ ตร.กม. มากกว่าเราตั้งสองเท่า คือเรามีพื้นที่ทำเกษตรมากกว่าเขาสองเท่านั่นเอง

ดังนั้นถ้าเราส่งเสริมการเกษตรของเราให้ดี มีการสร้างอุตสาหกรรมเกษตร มีการวิจัยจากมหาลัยรองรับเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ดี (แทนการส่งออกแบบดิบๆ เช่นปัจจุบัน) รับรองได้ว่าเราเป็นมหาเศรษฐีโลกแน่ๆ เมื่อคิดเทียบอัตราส่วนบัญญัติไตรยางศ์ของฝนตก และพื้นที่การทำเกษตรของเราที่มากกว่าสองเท่า เราน่าจะทำรายได้ต่อหัวประชากรได้มากกว่าเดนมาร์ก 4 เท่า ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นประเทศรวยที่สุดในโลกอย่างที่ทิ้งที่สองมองไม่เห็นฝุ่นทีเดียว

ผมเขียนมาหลายครั้งแล้วในประเด็นนี้ ก่อนแต่จะไปเห็นเดนมาร์ก จนความหวังผมริบหรี่ลงไปทุกวันทุกครั้งที่มองเห็นทุ่งนาท้องไร่ไทยที่เคยงดงามชะอุ่มถูกปล่อยรกร้าง หญ้าคลุมทั้งประเทศ (โดยเฉพาะอีสาน) เพราะเกษตรกรทิ้งนาเข้ามาทำงานเป็นขี้ข้านายทุนต่างชาติตามนิคมอุตสาหกรรมริมทะเลเสียหมด ตามนโยบายสร้างชาติ (แบบทึ่มๆ) ของรัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมา

เฮ้อ..ผมสังเกตว่าผู้ที่ทำร้ายสังคมไทยมากที่สุด ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือรัฐบาลไทยเรานี่แหละ ถ้ารธน. กำหนดว่าห้ามมีรัฐบาลบริหารประเทศไปเสียเลย ป่านนี้ผมว่าประเทศเราเจริญกว่านี้มากหลายขุมไปแล้ว

หมดที่พึ่งจริงๆ คงต้องฝากความหวังไว้กับการเมืองใหม่ (และเกษตรใหม่ มหาวิทยาลัยใหม่ด้วย)

อย่าลืมด้วยว่ายามโลกล่มสลาย (ซึ่งมันจะล่มแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว ถ้าแนวทางทุนนิยมผสมปชต.ยังดำเนินไปในรูปแบบเดิมๆ) เรากินมือถือ โทรทัศน์ รถยนต์ ไม่ได้ แต่เรากินการเกษตรได้ ก็ยังพอประทังชีวิต พอได้มีเวลาคิดหาหนทางเอาชีวิตรอดกันต่อไป



...ทวิช จิตรสมบูรณ์ ๒ ตค. ๕๒
IP : บันทึกการเข้า
chetta2499
เชษฐา 2499
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,138


จุดเทียนไขดีกว่านั่งแช่งความมืด


« ตอบ #98 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2013, 15:55:01 »

เจอรัฐบาล ที่มีนโยบายแกว่งไปแกว่งมาอย่างนี้
เราต้องรีบสร้างพลังจากตัวเราเองแล้วครับ
ทุกกลุ่มที่ได้ไปพูดคุย ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า

"อตหิ อตโน นาโถ" คือที่พึ่งของเราครับ
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มผลิตไก่ชนคุณภาพ จังหวัดเชียงราย
ซุ้มไก่ชนลูกพ่อขุนฯเชียงราย

htt://www.facebook.com/chetta worapitbenja

โทร 0892576293/0808979330
may111
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



« ตอบ #99 เมื่อ: วันที่ 31 กรกฎาคม 2013, 09:23:48 »

เจอรัฐบาล ที่มีนโยบายแกว่งไปแกว่งมาอย่างนี้
เราต้องรีบสร้างพลังจากตัวเราเองแล้วครับ
ทุกกลุ่มที่ได้ไปพูดคุย ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า

"อตหิ อตโน นาโถ" คือที่พึ่งของเราครับ
ถูกต้องครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!