เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 กรกฎาคม 2025, 03:54:03
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนหางาน-งานหาคน
| | |-+  ขอขยายต่อเรื่อง "อัตราค่าแรงเชียงราย"
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 [3] 4 พิมพ์
ผู้เขียน ขอขยายต่อเรื่อง "อัตราค่าแรงเชียงราย"  (อ่าน 8137 ครั้ง)
komsan s
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 132



« ตอบ #40 เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2012, 16:39:29 »

ชีวิตเป็นของเรา แรงงานที่ใช้ไปเป็นของเรา แลกกลับมาเป็นเงินก็ต้องสมน้ำสมเนื้อ
ทำงานเกินวันละ12ช.มทุกวัน แล้วใด้เงินเกิน20000บาทต่อเดือนกูคุ้ม
ทำงาน5ช.ม แล้วเล่ไปแดกเหล้า ใด้20000ต่อเดือน ก็กำไร
มันไม่มีความยุติทำไนโลก จนกว่าคนส่วนมากที่มีอำนาดต่อรองจะรวมตัวกันใด้

ร ป ภ ทำงาน12ช.ม หยุดเดือนละ2วัน ใด้เงินเดือน 6000 แล้วพวก C บางคนในเทศบาล
หลือ.............ทำงานครึ่งวัน ไปแดรกเหล้าครึ่งวันหยุด8วันต่อเดือนมันได้40000

                             ยอมมันทำไมวะ ไม่ถูกใจก็หาใหม่
IP : บันทึกการเข้า
artphonecr1
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #41 เมื่อ: วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2012, 21:36:19 »

ชีวิตเป็นของเรา แรงงานที่ใช้ไปเป็นของเรา แลกกลับมาเป็นเงินก็ต้องสมน้ำสมเนื้อ
ทำงานเกินวันละ12ช.มทุกวัน แล้วใด้เงินเกิน20000บาทต่อเดือนกูคุ้ม
ทำงาน5ช.ม แล้วเล่ไปแดกเหล้า ใด้20000ต่อเดือน ก็กำไร
มันไม่มีความยุติทำไนโลก จนกว่าคนส่วนมากที่มีอำนาดต่อรองจะรวมตัวกันใด้

ร ป ภ ทำงาน12ช.ม หยุดเดือนละ2วัน ใด้เงินเดือน 6000 แล้วพวก C บางคนในเทศบาล
หลือ.............ทำงานครึ่งวัน ไปแดรกเหล้าครึ่งวันหยุด8วันต่อเดือนมันได้40000

                             ยอมมันทำไมวะ ไม่ถูกใจก็หาใหม่
ยิงฟันยิ้ม ผมเห็นด้วย อย่างเช่นผมเป็นช่างในแต่ละวันมีงานซ่อมอยู่ 7 อย่าง อย่างละ10-400ชิ้น ลองบวกลบคูณหารดูซิครับว่า ต้องดูแลงานซ่อมกี่ชิ้น(มันไม่ได้เสียพร้อมกันหรอกครับ) แต่เนี้องานมาก ต่างจากบางคนเป็นช่างเหมือนกันแต่ซ่อมอย่างเดียว(มันคือ1ใน7นี้แหละครับ) ทำงาน7หน้าได้ 6000 ทำงานหน้าเดียวได้ 7500 มันชั่งเท่าเทียมกันจิง(ประชด) ผมบุหรี่ไม่สูบเหล้าปีละ2ครั้ง ยังต้องดิ้นรนหางานที่มีรายได้สูงๆเลยครับ(มีลูก1คน) เวลาที่เหลือจากเลิกงาน เลี้ยงลูก ผิดด้วยหรือทีีต้องการเงินเดือนสูงๆ ไปดูได้เลยทุกที่ไม่ว่าราชการหรือเอกชน คนที่เหนื่อยที่สุดคือลูกน้อง(ก็เป็นลูกจ้างเหมือนกัน) คนที่ทำงานเยอะรับเงินน้อย คนที่ทำงานน้อยรับเงินเยอะ ผมทำงานมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว อยู่กับงานมาไม่ต่ำกว่า 18-19 ปีแล้ว เจอมาทุกอย่าง ลิ้นยาว/ก๋วยจั๊บ/ทะเลเรียกพี่/เจ้านายปากร้าย(ด่าแล้วก็ด่า)/ ล่าสุดหัวหน้าแกนตา ที่เล่ามาส่วนตัวไม่เกี่ยวกับใครนะครับ แต่ลูกน้องที่แย่ๆเอาไม้เขี่ยก็เจออันนี้ก็มากมี ผมคนนึงละที่จะสนับสนุนค่าแรงเท่ากันทั่วประเทศ ผมมีเหตุผลสำคัญและเป็นประโยชน์กับทุกคน(นายจ้างอาจจะไม่อยากฟัง)เอาไว้จะมาสรุปให้ฟังครับ วันเท่านี้ก่อนเดียวคนอื่นรำคาญ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
WalkManUser
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,391


ยิ่งโต ยิ่งเหนื่อย อยากกลับไปเป็นเด็ก


« ตอบ #42 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 18:50:50 »

- สมัครงานในตำแหน่งที่ประกาศไว้ แต่ให้ไปทำงานในอีกตำแหน่ง
เค้าดูตามความสารถรึเปล่าครับ เพราะเค้าดูจากตอนเราไปสัมภาษณ์งาน ว่ามีความถนัดด้านใหน อย่างไร เค้าจึงเปลี่ยนงานเราไปในจุดที่เหมาะสม อะไรทำนองนั้นรึเปล่าครับ

- สมัครทำงานในบริษัท แต่ใช้งานเราเป็นงานส่วนตัว เช่น รับ-ส่งลูกที่โรงเรียน, วันหยุดก็เรียกใช้
ข้อนี้นี่ แล้วแต่ว่าเจอหัวหน้าแบบใหนครับ แต่ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง หรือไม่กระทบกับงานหลักที่เรารับผิดชอบอยู่ ก็ทำๆไปเถอะครับ เพราะเราเป็นลูกน้อง ถ้าทำเป็นแข็ง ขัดขืน

รับประกัน ทดลองงานก็ไม่ผ่าน ^^


- ค่าแรงตามโครงสร้างบริษัท เริ่มที่ 6000 แล้วเมื่อไหร่จะใช้หนี้ กยศ.ได้หมดวะ
ข้อนี้เห็นใจครับ แต่เงิน กยศ. เค้าผ่อนจ่ายได้นิครับ บางคน กู้มาเป็นแสน ส่งปีละ 5-6 พัน มันจะไปหนักช่วงหลังๆ อย่างสมมุติ ปีะละ 5000 ก็เก็บเดือนละ 500 ไม่น่าจะยากน่ะ

ครับ


- เงินเดือนตามตกลง -> ขอไป 8000 แต่มันจะให้ 6000 แล้วมันจะตกลงหาหอกทำไมวะ
มันเป็นการเริ่มต้นงานครับ เพราะนักศึกษาที่ผ่านการฝึกงาน ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำงานจริงๆ จังๆ แค่ไปช่วยเค้าหยิบจับโน้น นี่ นั้น เท่านั้นเอง ในเมื่อเราเริ่มต้น เราก็คงไม่ได้เท่าที่คนที่

เค้าทำมาก่อน หรือนานกว่าน่ะครับ ถ้าหากคิดว่าตัวเองทำได้ หรือมีความสามารถ ก็แสดงศักยภาพให้เค้าเห็นครับ ฟ้ามีตา เค้าย่อมมองเห็น แต่ถ้าหาก ทำดีที่สุดแล้ว เค้ายังไม่อะไรยังไงกับเรา ก็หางาน

ใหม่ครับ ง่ายกว่า


- ทดลองงานเต็ม 4 เดือนก่อนถึงจะบรรจุ แล้วจะปรับขึ้นเงินเดือนให้ ทั้งๆ ที่อื่นไม่จำเป็นต้องครบ ก็บรรจุได้
จุดนี้ไม่ตายตัวครับ ถ้าหากเราเป็นงานเร็ว เค้าก็บรรจุให้ก่อนเวลาที่กำหนดครับ แต่ถ้าหาก ถึงเวลาที่กำหนด แล้วยังไม่เป็นงาน ก็หมายความว่า เตรียมหางานใหม่ได้เลย

- เดือนแรกให้มาทำงานเต็ม 30 วัน (ยังไม่มีวันหยุด) กะจะใช้ให้คุ้มเลยสิท่า คนนะ ไม่ใช่เครื่องจักร
ข้อนี้ตอนเริ่มงานแผนกบุคคลจะเป็นคนแจ้งครับ ถ้ารับจุดนี้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำครับ เดินหางานอื่นต่อไปครับ ไม่ต้องตอบตกลงรับงาน แต่เหตุผลที่เค้ายังไม่ให้หยุดงาน เพราะต้องการให้

เราทำงานเป็นเร็วที่สุดครับ มันจะเป็นผลดีต่อตัวเรา หากเราทำงานเป็นเร็ว เค้าก็บรรจุเราเร็วเหมือนกันครับ


- มีค่าประกัน 2-3 พันบาท (บ้างก็หักรายเดือน) มึงจ้างกูมาเฝ้าตู้เซฟเหรอวะ
  ที่อื่นเขาให้ข้าราชการค้ำประกันทั้งนั้น..
จุดนี้ต้องมีครับ เงินค้ำประกัน เค้าให้หักจากเงินเดือนได้ครับ เกือบทุกที่ เพราะถ้าหากระหว่างการทำงาน คุณทำของเค้าเสียหาย หรือ สร้างความเสียห้ายให้กับบริษัท เค้าจะได้เอาเงิน

ส่วนนี้ไปทดแทน และชำระในส่วนนั้นครับ ถ้าหากไม่มี คุณคิดดูว่า ถ้าคุณเปิดร้าน ขายกระถางดอกไม้ แล้วจ้างลูกจ้างมาทำงาน ลูกจ้างคุณทำกระถางดอกไม้แตก เพราะความประมาท ทำงานผิดขั้นตอน

คุณก็เรียก ลูกจ้างคุณมาคุยค่าเสียหาย อาจจะจ่ายครึ่งเดียวพอ แต่ลูกจ้างคุณไม่อยากจ่าย อีกวันไม่มาทำงาน มันเสียหายใหมครับ ถ้าเงินส่วนนี้ ที่เข้าเก็บไป ระหว่างการทำงาน คุณไม่ได้ก่อความเสีย

หายใดๆ เลย คุณก็ได้รับเงินคืนเต็มนิครับ รวมทั้งการทดลองงานไม่ผ่านเค้าก็คืนน่ะครับ ถ้าไม่ได้คืน ไปฟ้องกรมแรงงานโลด


- ประกาศตำแหน่งงานโดยใช้เงินเดือนสูงๆ มาล่อ แต่ต้องเริ่มต้นจากพนักงานทั่วไปก่อนอยู่ดี
มันเป็นเงินเดือนประจำตำแหน่งครับ คุณพึ่งเข้าทำงาน ยังไม่มีผลงานใดๆเลย เค้าก็ไม่กล้าจ้างคุณหรอกครับ แต่ถ้าคุณมีความสามารถ แสดงให้เค้าเห็น เงินเดือนเท่าไหร่ เค้าก็ยอม

จ่ายครับ


อย่างงานที่ผมทำปัจจุบัน เป็น PC ยี่ห้อ Sony เค้าก็เก็บค่าประกัน 5000 บาท หักเดือนละ 500 บาท เงินเดือนแค่ไม่กี่พัน ที่เหลือค่าคอม แล้วแต่ยอดขายเราอีกที วันหยุดประเพณีไม่มี สงกรานต์ไม่ได้หยุด ต้องมาทำงาน และ อะไรอีกเยอะ ที่ไม่ได้เหมือน งานราชการ แต่ก็เลือกไม่ได้ครับ เพราะ เราทำงาน เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเอง หากจะมามัวแต่เลือกงาน อดตายกันพอดี อะไรทนได้ทน อะไรยอมได้ยอมครับ แต่บางอย่างถ้ามันผิด เราก็ต้องว่ากันตามนั้น ทุกอย่าง มันมีเหตุผลครับ ก่อนจะได้งานนี้ ผมเริ่มงานครั้งแรก อายุ 19 ปี เป็นพนักงานขายชัวคราวที่ ห้างอภิพลาซ่า ผ่านมาแล้วก็หลายงาน หลายแบบ เงินเดือนแค่ 3260 ผมก็ยังอยู่ได้เป็นเดือนๆ (พูดแล้วยัง งง ตัวเองเลย อยู่ได้ไงเป้นเดือน )

ความเห็นสวนตัวน่ะครับ หากไม่ถูกใจใคร ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ แต่ผมผยากให้เห็นว่า งานมันหายากครับ มีความสามารถ  แต่ใช้ไม่ถูกที่ มันก็ไม่เกิดประโยชน์ เป็นกำลังใจให้คนว่างงาน ได้งานดีๆ

เจอเจ้านายดีๆ ครับผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 19:18:03 โดย WalkManUser » IP : บันทึกการเข้า
911
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,126



« ตอบ #43 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 18:58:58 »

งานบริหาร หรืองานที่ใช้สมองคิด กับงานที่ต้องออกแรงมันไม่เหมือนกันหรอกครับ

คนที่เป็นเถ้าแก่ ก็เคยทำงานใช้แรงมาเหมือนกัน แต่วันนึงที่เค้าเก็บเงินเก็บทองได้ เค้าก็ขยับขยายมาเป็นเจ้าของกิจการ แนวความคิดก็เปลี่ยนไป ต้องคิดในเชิงบริหารมากขึ้น ทำยังไงให้หาเงินได้เงินมากที่สุด จะดูแลลูกน้องยังไง ความรับผิดชอบมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า ต้องรับผิดชอบปากท้องลูกน้อง ไหนจะลูกเมียของลูกน้องแต่ละคนอีก คนที่เป็นเถ้าแก่ เค้าไ่ม่ต้องทำงานหนักแล้วล่ะครับ แต่เชื่อมั้ยว่าเค้าใช้ความคิดทั้งวันทั้งคืนเลย

อย่างคนที่ทำงานเทศบาลวันละไม่กี่ชั่วโมง ผมเชื่อว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้วล่ะครับที่สามรถทำแบบนี้ได้ เรื่องนี้ต้องทำใจ ระบบราชการไทยยังเป็นระบบเกื้อกูล เช้าชามเย็นชาม ถ้าต้องการเป็นแบบนั้นก็พยายามไต่เต้าขึ้นไป

ถ้าอยากมีรายได้มากๆ ผมเคยทำแบบนี้

เริ่มจากเลิกคิดเรื่องปัญหาในที่ทำงาน แล้วหาทางหารายได้เพิ่มครับ

จันทร์-ศุกร์ 8.00-18.00 ทำงานประจำ (บริษัทเอกชน)
จันทร์-ศุกร์ 20.00-24.00 อาชีพเสริม (ทำเบเกอรี่ ลงทุนไปเรียนมา)
เสาร์-อาทิตย์ 9.00-15.00 อาชีพเสริม (ทำเบเกอรี่)

เหนื่อยมากครับ แต่รายได้ไม่น้อยเลย เวลาใช้เงินก็ไม่ค่อยมี
ผมเชื่อว่าคนขยัน ยังไงก็ไม่จน ลองดูครับ เป็นกำลังใจให้
IP : บันทึกการเข้า
WalkManUser
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,391


ยิ่งโต ยิ่งเหนื่อย อยากกลับไปเป็นเด็ก


« ตอบ #44 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 20:31:52 »

งานบริหาร หรืองานที่ใช้สมองคิด กับงานที่ต้องออกแรงมันไม่เหมือนกันหรอกครับ

คนที่เป็นเถ้าแก่ ก็เคยทำงานใช้แรงมาเหมือนกัน แต่วันนึงที่เค้าเก็บเงินเก็บทองได้ เค้าก็ขยับขยายมาเป็นเจ้าของกิจการ แนวความคิดก็เปลี่ยนไป ต้องคิดในเชิงบริหารมากขึ้น ทำยังไงให้หาเงินได้เงินมากที่สุด จะดูแลลูกน้องยังไง ความรับผิดชอบมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า ต้องรับผิดชอบปากท้องลูกน้อง ไหนจะลูกเมียของลูกน้องแต่ละคนอีก คนที่เป็นเถ้าแก่ เค้าไ่ม่ต้องทำงานหนักแล้วล่ะครับ แต่เชื่อมั้ยว่าเค้าใช้ความคิดทั้งวันทั้งคืนเลย

อย่างคนที่ทำงานเทศบาลวันละไม่กี่ชั่วโมง ผมเชื่อว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้วล่ะครับที่สามรถทำแบบนี้ได้ เรื่องนี้ต้องทำใจ ระบบราชการไทยยังเป็นระบบเกื้อกูล เช้าชามเย็นชาม ถ้าต้องการเป็นแบบนั้นก็พยายามไต่เต้าขึ้นไป

ถ้าอยากมีรายได้มากๆ ผมเคยทำแบบนี้

เริ่มจากเลิกคิดเรื่องปัญหาในที่ทำงาน แล้วหาทางหารายได้เพิ่มครับ

จันทร์-ศุกร์ 8.00-18.00 ทำงานประจำ (บริษัทเอกชน)
จันทร์-ศุกร์ 20.00-24.00 อาชีพเสริม (ทำเบเกอรี่ ลงทุนไปเรียนมา)
เสาร์-อาทิตย์ 9.00-15.00 อาชีพเสริม (ทำเบเกอรี่)

เหนื่อยมากครับ แต่รายได้ไม่น้อยเลย เวลาใช้เงินก็ไม่ค่อยมี
ผมเชื่อว่าคนขยัน ยังไงก็ไม่จน ลองดูครับ เป็นกำลังใจให้

กดไลร์ 1 ที อยาก ทนได้เหมือนอ้ายบ่าวคนนี้จริงๆ  ยิงฟันยิ้ม เฒ่ามาค่อยใช้ครับตังหน่ะ มันไม่หนีไปใหนหรอก ทำไรไม่ได้ ก็สั่งเบียร์ 1 ขวด แล้วนั่งมองสาวเสริฟ์ โลด อิอิ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
911
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,126



« ตอบ #45 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 20:46:29 »

งานบริหาร หรืองานที่ใช้สมองคิด กับงานที่ต้องออกแรงมันไม่เหมือนกันหรอกครับ

คนที่เป็นเถ้าแก่ ก็เคยทำงานใช้แรงมาเหมือนกัน แต่วันนึงที่เค้าเก็บเงินเก็บทองได้ เค้าก็ขยับขยายมาเป็นเจ้าของกิจการ แนวความคิดก็เปลี่ยนไป ต้องคิดในเชิงบริหารมากขึ้น ทำยังไงให้หาเงินได้เงินมากที่สุด จะดูแลลูกน้องยังไง ความรับผิดชอบมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า ต้องรับผิดชอบปากท้องลูกน้อง ไหนจะลูกเมียของลูกน้องแต่ละคนอีก คนที่เป็นเถ้าแก่ เค้าไ่ม่ต้องทำงานหนักแล้วล่ะครับ แต่เชื่อมั้ยว่าเค้าใช้ความคิดทั้งวันทั้งคืนเลย

อย่างคนที่ทำงานเทศบาลวันละไม่กี่ชั่วโมง ผมเชื่อว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้วล่ะครับที่สามรถทำแบบนี้ได้ เรื่องนี้ต้องทำใจ ระบบราชการไทยยังเป็นระบบเกื้อกูล เช้าชามเย็นชาม ถ้าต้องการเป็นแบบนั้นก็พยายามไต่เต้าขึ้นไป

ถ้าอยากมีรายได้มากๆ ผมเคยทำแบบนี้

เริ่มจากเลิกคิดเรื่องปัญหาในที่ทำงาน แล้วหาทางหารายได้เพิ่มครับ

จันทร์-ศุกร์ 8.00-18.00 ทำงานประจำ (บริษัทเอกชน)
จันทร์-ศุกร์ 20.00-24.00 อาชีพเสริม (ทำเบเกอรี่ ลงทุนไปเรียนมา)
เสาร์-อาทิตย์ 9.00-15.00 อาชีพเสริม (ทำเบเกอรี่)

เหนื่อยมากครับ แต่รายได้ไม่น้อยเลย เวลาใช้เงินก็ไม่ค่อยมี
ผมเชื่อว่าคนขยัน ยังไงก็ไม่จน ลองดูครับ เป็นกำลังใจให้

กดไลร์ 1 ที อยาก ทนได้เหมือนอ้ายบ่าวคนนี้จริงๆ  ยิงฟันยิ้ม เฒ่ามาค่อยใช้ครับตังหน่ะ มันไม่หนีไปใหนหรอก ทำไรไม่ได้ ก็สั่งเบียร์ 1 ขวด แล้วนั่งมองสาวเสริฟ์ โลด อิอิ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ขอบคุณครับ ผมไม่มีทางเลือก พ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวย ให้เราได้แค่การศึกษา อยากรวยแล้วมานั่งฝันนอนฝันไม่ได้หรอกครับ มันต้องลงมือทำ ลองผิดลองถูก สร้างเองกับมือ ไม่ต้องมาง้อเงินเดือนจากใคร
IP : บันทึกการเข้า
m29kiku
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,608


ID Line : maczaaplayboy


« ตอบ #46 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 22:21:20 »

หนูก็ทำงานอยู่เชียงรายเหมือนกันค่ะ

ทำงานวันละ 9 ชั่วโมง

หยุดอาทิตละหนึ่งวัน สะสมวันหยุดได้ แลกเปลี่ยนวันหยุดได้

เงินเดือน 9,000 บาท +รายได้พิเศษขั้นต่ำ 7,000 ่บาท ก็อยู่ได้น๊ะ (เดือนแล้วรับไปสองหมื่นนึดหนึ่ง)

แต่ก็อย่างว่าค่ะ ไหนจะค่าหอ ค่ากิน ค่าเที่ยว ค่านู้น ค่านี่ ส่งเงินให้แม (ภูมิใจๆ)  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ก็อยู่ได้น่ะค่ะ

ปล. งานที่ไหนๆก็ทุกข์เหมือนกันนะคะ ทุกข์กายอยู่ได้ แต่ถ้าทุกข์ใจนี่สิ เหนื่อยเน้อออ

หนูทดลองงาน 3 เดือนได้เงินเดือน 5,000 หนูบรรจุ ได้เงินเดือน 6,000  ทำงานไป 1 ปีกะอีก 2 เดือน เค้าเพิ่งปรับเงินเดือนให้เป็น 9,000 เพราะเราทำให้บริษัทเห็นคุณค่าในฝีมือของเรา

มีน้อยใช้น้อย

มีมากใช้น้อย (รวยย)

ฉะนั้น "ถ้าเรามีฝีมือจริงๆ เราอยู่ที่ไหนคนก็ต้องการเราทั้งนั้นแหละ"

++++ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน++++

ปล. คห ส่วนตั้ว ส่วนตัว ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 22:24:17 โดย m29kiku » IP : บันทึกการเข้า

Line : maczaaplayboy
Tel  : 082-6226423 (mac)
kangaroo_41
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,650



« ตอบ #47 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 22:31:53 »

งานบริหาร หรืองานที่ใช้สมองคิด กับงานที่ต้องออกแรงมันไม่เหมือนกันหรอกครับ

คนที่เป็นเถ้าแก่ ก็เคยทำงานใช้แรงมาเหมือนกัน แต่วันนึงที่เค้าเก็บเงินเก็บทองได้ เค้าก็ขยับขยายมาเป็นเจ้าของกิจการ แนวความคิดก็เปลี่ยนไป ต้องคิดในเชิงบริหารมากขึ้น ทำยังไงให้หาเงินได้เงินมากที่สุด จะดูแลลูกน้องยังไง ความรับผิดชอบมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า ต้องรับผิดชอบปากท้องลูกน้อง ไหนจะลูกเมียของลูกน้องแต่ละคนอีก คนที่เป็นเถ้าแก่ เค้าไ่ม่ต้องทำงานหนักแล้วล่ะครับ แต่เชื่อมั้ยว่าเค้าใช้ความคิดทั้งวันทั้งคืนเลย

อย่างคนที่ทำงานเทศบาลวันละไม่กี่ชั่วโมง ผมเชื่อว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้วล่ะครับที่สามรถทำแบบนี้ได้ เรื่องนี้ต้องทำใจ ระบบราชการไทยยังเป็นระบบเกื้อกูล เช้าชามเย็นชาม ถ้าต้องการเป็นแบบนั้นก็พยายามไต่เต้าขึ้นไป

ถ้าอยากมีรายได้มากๆ ผมเคยทำแบบนี้

เริ่มจากเลิกคิดเรื่องปัญหาในที่ทำงาน แล้วหาทางหารายได้เพิ่มครับ

จันทร์-ศุกร์ 8.00-18.00 ทำงานประจำ (บริษัทเอกชน)
จันทร์-ศุกร์ 20.00-24.00 อาชีพเสริม (ทำเบเกอรี่ ลงทุนไปเรียนมา)
เสาร์-อาทิตย์ 9.00-15.00 อาชีพเสริม (ทำเบเกอรี่)

เหนื่อยมากครับ แต่รายได้ไม่น้อยเลย เวลาใช้เงินก็ไม่ค่อยมี
ผมเชื่อว่าคนขยัน ยังไงก็ไม่จน ลองดูครับ เป็นกำลังใจให้

เห็นด้วยครับ การเป็นผู้บริหาร ถูกที่ไม่เหนื่อยกาย แต่ก็ต้องเหนื่อยสมอง และ ใจ ที่ต้องเฉลี่ยความเข้าใจลูกน้องให้เท่าเทียมกัน เฮ้อ
IP : บันทึกการเข้า
amee
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 220


« ตอบ #48 เมื่อ: วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2012, 22:24:48 »

เคยบ่นเหมือนหลายคนบ่น  พอกลับมามองอีกมุมหลังจากผ่านงานต่างๆ มาเยอะ เราเก่งไม่พอและสายงานที่เราเรียนมามีไม่มากในตลาดเชียงรายพอที่จะให้เลือกได้  งานเชียงรายถ้าเก่งจริง ขยัน และอดทน เงินเดือนสูงๆ ก็มีมาก แต่ที่ความสามารถไม่พอ สมัครงานสั่วๆ ไปหลายๆ ที่แล้วไม่ได้ตามต้องการก็มีเยอะ อย่าบ่นเลย ตกงานก็สร้างอาชีพให้ตัวเองดีกว่านะ อย่ามัวนั่งฝันเงินเดือนเยอะ ทั้งที่ความสามารถไม่พอ นะ 
IP : บันทึกการเข้า
mammon
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 926


Mammon@Easy IT


« ตอบ #49 เมื่อ: วันที่ 03 มีนาคม 2012, 08:17:06 »

เดกเสริฟไต้หวันเด็กเสริฟเมกาเค้ามีปัญญาใช้ไอโฟนไอแพดกันเด็กเสริฟบ้านเราจะหาตังจ่ายค่าข้าวค่าหอยังไม่พอ
คนซักผ้าบริษัทที่ผมทำงานอยู่ได้เดือนละ 6,000 นะคร๊าบซักผ้าวันละไม่เกิน 20 ชุดมีวันหยุดให้ 4เดือนต่อวัน ซักผ้าเส็ดนั่งๆนอนนอน ป.ตรีหางานที่ไทยหาสมัครแทยตายได้แบบนี้หรือป่าวไม่รู้
IP : บันทึกการเข้า


รับทำระบบเซิฟเวอร์หอพักระบบไร้สายรับปรึกษาปัญหาตู้สล๊อตและตู้ยิงปลา ฟรี Tel. 089-432
N.J.Ferry
เงินเดือนตามความสามารถ ไม่ใช่เงินเดือนตามวุฒิการศึกษา
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 83



« ตอบ #50 เมื่อ: วันที่ 03 มีนาคม 2012, 11:55:07 »

ชีวิตเป็นของเรา แรงงานที่ใช้ไปเป็นของเรา แลกกลับมาเป็นเงินก็ต้องสมน้ำสมเนื้อ
ทำงานเกินวันละ12ช.มทุกวัน แล้วใด้เงินเกิน20000บาทต่อเดือนกูคุ้ม
ทำงาน5ช.ม แล้วเล่ไปแดกเหล้า ใด้20000ต่อเดือน ก็กำไร
มันไม่มีความยุติทำไนโลก จนกว่าคนส่วนมากที่มีอำนาดต่อรองจะรวมตัวกันใด้

ร ป ภ ทำงาน12ช.ม หยุดเดือนละ2วัน ใด้เงินเดือน 6000 แล้วพวก C บางคนในเทศบาล
หลือ.............ทำงานครึ่งวัน ไปแดรกเหล้าครึ่งวันหยุด8วันต่อเดือนมันได้40000

                             ยอมมันทำไมวะ ไม่ถูกใจก็หาใหม่
ยิงฟันยิ้ม ผมเห็นด้วย อย่างเช่นผมเป็นช่างในแต่ละวันมีงานซ่อมอยู่ 7 อย่าง อย่างละ10-400ชิ้น ลองบวกลบคูณหารดูซิครับว่า ต้องดูแลงานซ่อมกี่ชิ้น(มันไม่ได้เสียพร้อมกันหรอกครับ) แต่เนี้องานมาก ต่างจากบางคนเป็นช่างเหมือนกันแต่ซ่อมอย่างเดียว(มันคือ1ใน7นี้แหละครับ) ทำงาน7หน้าได้ 6000 ทำงานหน้าเดียวได้ 7500 มันชั่งเท่าเทียมกันจิง(ประชด) ผมบุหรี่ไม่สูบเหล้าปีละ2ครั้ง ยังต้องดิ้นรนหางานที่มีรายได้สูงๆเลยครับ(มีลูก1คน) เวลาที่เหลือจากเลิกงาน เลี้ยงลูก ผิดด้วยหรือทีีต้องการเงินเดือนสูงๆ ไปดูได้เลยทุกที่ไม่ว่าราชการหรือเอกชน คนที่เหนื่อยที่สุดคือลูกน้อง(ก็เป็นลูกจ้างเหมือนกัน) คนที่ทำงานเยอะรับเงินน้อย คนที่ทำงานน้อยรับเงินเยอะ ผมทำงานมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว อยู่กับงานมาไม่ต่ำกว่า 18-19 ปีแล้ว เจอมาทุกอย่าง ลิ้นยาว/ก๋วยจั๊บ/ทะเลเรียกพี่/เจ้านายปากร้าย(ด่าแล้วก็ด่า)/ ล่าสุดหัวหน้าแกนตา ที่เล่ามาส่วนตัวไม่เกี่ยวกับใครนะครับ แต่ลูกน้องที่แย่ๆเอาไม้เขี่ยก็เจออันนี้ก็มากมี ผมคนนึงละที่จะสนับสนุนค่าแรงเท่ากันทั่วประเทศ ผมมีเหตุผลสำคัญและเป็นประโยชน์กับทุกคน(นายจ้างอาจจะไม่อยากฟัง)เอาไว้จะมาสรุปให้ฟังครับ วันเท่านี้ก่อนเดียวคนอื่นรำคาญ ยิงฟันยิ้ม

เมื่อตอนสิ้นปี ผมไปติดต่อราชการเพื่อขอเปลี่ยนชื่อ (เพื่อเป็นสิริมงคลหลังจากตกงานเพราะน้ำท่วม) ไปเทศบาลก่อนเที่ยง พนักงานบอกว่าให้ไปแจ้งเปลี่ยนชื่อที่อำเภอก่อนแล้วค่อยกลับมาทำบัตรประชาชนต่อที่นี่ ผมว่าจะเข้ามาใหม่ตอนบ่าย พนักงานเทศบาลบอกว่า เข้ามาติดต่องานได้ตลอดไม่มีหยุดพักเที่ยง พอผมไปติดต่อที่อำเภอกลับเจอแต่ป้าย "พักเที่ยง" ได้แต่คิดว่าเนี่ยนะ ข้าราชการกินเงินเดือนจากภาษีราษฎร ขยันทำงานกันจังต้องปล่อยให้ประชาชนมานั่งรอได้ไง แล้วแบบนี้ยังจะขอขึ้นเงินเดือนเป็นหมื่นห้า ทำงานหยุดเสาร์-อาทิตย์ แต่ประชาชนทำงานหามรุ่งหามค่ำ หยุดสัปดาห์ละ 1 วัน บางคนทำมาค้าขายไม่เคยได้หยุดเลย รายได้ก็น้อยแค่หลักพัน แต่ต้องมาเสียภาษีให้ข้าราชการเงินเดือนหลักหมื่น... แถมยังมีโอกาสได้ไปดูงานต่างประเทศอีก คิดแล้วเสียดายเงินภาษีจากหยาดเหงื่อประชาชนตาดำๆ ทั้งประเทศ..
IP : บันทึกการเข้า

วนเวียนอยู่ในบอร์ดพันทิพย์มานาน ขอมาประจำที่บอร์ดบ้านเกิดในถิ่นตัวเองบ้างนะครับ..
ชื่อในพันทิพย์ "นักเดินทางผ่านไปผ่านมา"
mammon
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 926


Mammon@Easy IT


« ตอบ #51 เมื่อ: วันที่ 03 มีนาคม 2012, 12:48:58 »

ชีวิตเป็นของเรา แรงงานที่ใช้ไปเป็นของเรา แลกกลับมาเป็นเงินก็ต้องสมน้ำสมเนื้อ
ทำงานเกินวันละ12ช.มทุกวัน แล้วใด้เงินเกิน20000บาทต่อเดือนกูคุ้ม
ทำงาน5ช.ม แล้วเล่ไปแดกเหล้า ใด้20000ต่อเดือน ก็กำไร
มันไม่มีความยุติทำไนโลก จนกว่าคนส่วนมากที่มีอำนาดต่อรองจะรวมตัวกันใด้

ร ป ภ ทำงาน12ช.ม หยุดเดือนละ2วัน ใด้เงินเดือน 6000 แล้วพวก C บางคนในเทศบาล
หลือ.............ทำงานครึ่งวัน ไปแดรกเหล้าครึ่งวันหยุด8วันต่อเดือนมันได้40000

                             ยอมมันทำไมวะ ไม่ถูกใจก็หาใหม่
ยิงฟันยิ้ม ผมเห็นด้วย อย่างเช่นผมเป็นช่างในแต่ละวันมีงานซ่อมอยู่ 7 อย่าง อย่างละ10-400ชิ้น ลองบวกลบคูณหารดูซิครับว่า ต้องดูแลงานซ่อมกี่ชิ้น(มันไม่ได้เสียพร้อมกันหรอกครับ) แต่เนี้องานมาก ต่างจากบางคนเป็นช่างเหมือนกันแต่ซ่อมอย่างเดียว(มันคือ1ใน7นี้แหละครับ) ทำงาน7หน้าได้ 6000 ทำงานหน้าเดียวได้ 7500 มันชั่งเท่าเทียมกันจิง(ประชด) ผมบุหรี่ไม่สูบเหล้าปีละ2ครั้ง ยังต้องดิ้นรนหางานที่มีรายได้สูงๆเลยครับ(มีลูก1คน) เวลาที่เหลือจากเลิกงาน เลี้ยงลูก ผิดด้วยหรือทีีต้องการเงินเดือนสูงๆ ไปดูได้เลยทุกที่ไม่ว่าราชการหรือเอกชน คนที่เหนื่อยที่สุดคือลูกน้อง(ก็เป็นลูกจ้างเหมือนกัน) คนที่ทำงานเยอะรับเงินน้อย คนที่ทำงานน้อยรับเงินเยอะ ผมทำงานมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว อยู่กับงานมาไม่ต่ำกว่า 18-19 ปีแล้ว เจอมาทุกอย่าง ลิ้นยาว/ก๋วยจั๊บ/ทะเลเรียกพี่/เจ้านายปากร้าย(ด่าแล้วก็ด่า)/ ล่าสุดหัวหน้าแกนตา ที่เล่ามาส่วนตัวไม่เกี่ยวกับใครนะครับ แต่ลูกน้องที่แย่ๆเอาไม้เขี่ยก็เจออันนี้ก็มากมี ผมคนนึงละที่จะสนับสนุนค่าแรงเท่ากันทั่วประเทศ ผมมีเหตุผลสำคัญและเป็นประโยชน์กับทุกคน(นายจ้างอาจจะไม่อยากฟัง)เอาไว้จะมาสรุปให้ฟังครับ วันเท่านี้ก่อนเดียวคนอื่นรำคาญ ยิงฟันยิ้ม

เมื่อตอนสิ้นปี ผมไปติดต่อราชการเพื่อขอเปลี่ยนชื่อ (เพื่อเป็นสิริมงคลหลังจากตกงานเพราะน้ำท่วม) ไปเทศบาลก่อนเที่ยง พนักงานบอกว่าให้ไปแจ้งเปลี่ยนชื่อที่อำเภอก่อนแล้วค่อยกลับมาทำบัตรประชาชนต่อที่นี่ ผมว่าจะเข้ามาใหม่ตอนบ่าย พนักงานเทศบาลบอกว่า เข้ามาติดต่องานได้ตลอดไม่มีหยุดพักเที่ยง พอผมไปติดต่อที่อำเภอกลับเจอแต่ป้าย "พักเที่ยง" ได้แต่คิดว่าเนี่ยนะ ข้าราชการกินเงินเดือนจากภาษีราษฎร ขยันทำงานกันจังต้องปล่อยให้ประชาชนมานั่งรอได้ไง แล้วแบบนี้ยังจะขอขึ้นเงินเดือนเป็นหมื่นห้า ทำงานหยุดเสาร์-อาทิตย์ แต่ประชาชนทำงานหามรุ่งหามค่ำ หยุดสัปดาห์ละ 1 วัน บางคนทำมาค้าขายไม่เคยได้หยุดเลย รายได้ก็น้อยแค่หลักพัน แต่ต้องมาเสียภาษีให้ข้าราชการเงินเดือนหลักหมื่น... แถมยังมีโอกาสได้ไปดูงานต่างประเทศอีก คิดแล้วเสียดายเงินภาษีจากหยาดเหงื่อประชาชนตาดำๆ ทั้งประเทศ..

+99,999,999,999,999
IP : บันทึกการเข้า


รับทำระบบเซิฟเวอร์หอพักระบบไร้สายรับปรึกษาปัญหาตู้สล๊อตและตู้ยิงปลา ฟรี Tel. 089-432
N.J.Ferry
เงินเดือนตามความสามารถ ไม่ใช่เงินเดือนตามวุฒิการศึกษา
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 83



« ตอบ #52 เมื่อ: วันที่ 03 มีนาคม 2012, 15:18:02 »


อย่างงานที่ผมทำปัจจุบัน เป็น PC ยี่ห้อ Sony เค้าก็เก็บค่าประกัน 5000 บาท หักเดือนละ 500 บาท เงินเดือนแค่ไม่กี่พัน ที่เหลือค่าคอม แล้วแต่ยอดขายเราอีกที วันหยุดประเพณีไม่มี สงกรานต์ไม่ได้หยุด ต้องมาทำงาน และ อะไรอีกเยอะ ที่ไม่ได้เหมือน งานราชการ แต่ก็เลือกไม่ได้ครับ เพราะ เราทำงาน เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเอง หากจะมามัวแต่เลือกงาน อดตายกันพอดี อะไรทนได้ทน อะไรยอมได้ยอมครับ แต่บางอย่างถ้ามันผิด เราก็ต้องว่ากันตามนั้น ทุกอย่าง มันมีเหตุผลครับ ก่อนจะได้งานนี้ ผมเริ่มงานครั้งแรก อายุ 19 ปี เป็นพนักงานขายชัวคราวที่ ห้างอภิพลาซ่า ผ่านมาแล้วก็หลายงาน หลายแบบ เงินเดือนแค่ 3260 ผมก็ยังอยู่ได้เป็นเดือนๆ (พูดแล้วยัง งง ตัวเองเลย อยู่ได้ไงเป้นเดือน )

ความเห็นสวนตัวน่ะครับ หากไม่ถูกใจใคร ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ แต่ผมผยากให้เห็นว่า งานมันหายากครับ มีความสามารถ  แต่ใช้ไม่ถูกที่ มันก็ไม่เกิดประโยชน์ เป็นกำลังใจให้คนว่างงาน ได้งานดีๆ

เจอเจ้านายดีๆ ครับผม

- สมัครงานในตำแหน่งที่ประกาศไว้ แต่ให้ไปทำงานในอีกตำแหน่ง
เค้าดูตามความสารถรึเปล่าครับ เพราะเค้าดูจากตอนเราไปสัมภาษณ์งาน ว่ามีความถนัดด้านใหน อย่างไร เค้าจึงเปลี่ยนงานเราไปในจุดที่เหมาะสม อะไรทำนองนั้นรึเปล่าครับ
เรซูเม่ก็บอกอยู่แล้วว่าเราทำงานอะไรมาบ้าง ตำแหน่งที่สมัครก็ระบุไว้ชัดเจนว่าเราอยากจะทำในตำแหน่งนี้ เพราะเป็นงานที่เราชอบ เราถนัด เราอยากทำจริงๆ ทำแล้วมีความสุขกับงาน แล้วทำไมต้องให้เราทำงานอื่นที่ไม่ชำนาญด้วยละครับ ถ้างั้นทำไม่ติดป้ายประกาศรับสมัครงานให้ตรงตามตำแหน่งเลยละครับ บางที่ยังหน้าด้านโชว์ป้ายหราทั้งๆ ที่ตำแหน่งนั้นก็มีคนเต็มละ บางที่เห็นติดรับสมัครกันหลายตำแหน่งตั้งแต่ชาติปางไหนแล้วก็ไม่รู้ ไม่เอาออกสักที ใครผ่านไปแถวๆ ตรงโค้งหัวสนามบินเก่า จะเห็นป้ายรับสมัครตั้งแต่ชาติที่แล้ว เราคิดว่ารับสมัครก็ไปสมัครพอได้สัมภาษณ์กับ ผจก.สาวหน้าแก่แต่ทำเป็นแอ๊บแบ๊ว ก็ถึงบางอ้อ ตำแหน่งที่สมัครเต็มว่ะ จะให้เราไปทำในตำแหน่งอื่นที่เพิ่งจะมีตำแหน่งว่างกระทันหัน ณ เวลานั้นพอดี หน้าโจรอย่างKู จะให้ไปทำงานผู้หญิงซะงั้น

- สมัครทำงานในบริษัท แต่ใช้งานเราเป็นงานส่วนตัว เช่น รับ-ส่งลูกที่โรงเรียน, วันหยุดก็เรียกใช้
ข้อนี้นี่ แล้วแต่ว่าเจอหัวหน้าแบบใหนครับ แต่ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง หรือไม่กระทบกับงานหลักที่เรารับผิดชอบอยู่ ก็ทำๆไปเถอะครับ เพราะเราเป็นลูกน้อง ถ้าทำเป็นแข็ง ขัดขืน รับประกัน ทดลองงานก็ไม่ผ่าน ^^
ทำงานเหนื่อยตลอดสัปดาห์ ขอเวลาพักผ่อนส่วนตัวบ้างสักวันเถอะ โทรตามตั้งแต่เช้าให้ไปซ่อมคอมฯ ให้บ้านญาติที่บ้านนอกต่างอำเภอ ไอ้เราก็ต้องจำใจขับรถไปเอง เสียเวลาไปทั้งวันได้ค่าน้ำมัน 200 แหม่..จะเติมน้ำมันได้สักกี่จอกเนี่ย ช่วงเย็นๆ ก่อนเลิกงานมักจะใช้ให้ไปติดต่อนั่นติดต่อนี่ แต่ขากลับให้แวะรับลูกหลานตามฟอร์ม กลับมาตอกบัตรเลยเวลาเลิกงานทุกครั้ง โอทีก็ไม่ได้ ซึ่งคนที่ใช้เราไม่ใช่แค่หัวหน้าหรอกครับ เป็นถึงเจ้านาย..
พักหลังๆ เลยเอารถยนต์ส่วนตัวไปทำงาน อ้างว่าต้องรีบกลับเพราะที่บ้านจะต้องใช้รถต่อ ก็มาทำหงุดหงิดใส่เราอีก (ทำไมไม่ไปรับเองวะ)


- ค่าแรงตามโครงสร้างบริษัท เริ่มที่ 6000 แล้วเมื่อไหร่จะใช้หนี้ กยศ.ได้หมดวะ
ข้อนี้เห็นใจครับ แต่เงิน กยศ. เค้าผ่อนจ่ายได้นิครับ บางคน กู้มาเป็นแสน ส่งปีละ 5-6 พัน มันจะไปหนักช่วงหลังๆ อย่างสมมุติ ปีะละ 5000 ก็เก็บเดือนละ 500 ไม่น่าจะยากน่ะครับ
ไม่ต้องสมมุติครับ เอาของจริงเลยนะ
ม.ปลาย (ม.4-6) กู้ปีละ 8,500 x 3 ปี = 25,500.-
ปวส. กู้ปีละ 25,000 x 2 ปี = 50,000.-
ป.ตรี กู้ปีละ 90,000 x 2 ปีครึ่ง = 180,000+45,000 = 225,000.-
รวม กยศ. ทั้งหมด 300,500.- (ยังไม่รวมดอกเบี้ย) ผ่อน 10 ปี = 120 เดือน ประมาณเดือนละ 2,505.- ซึ่งคุณบอกว่ามันจะไปหนักช่วงหลังๆ ใช่ไหมครับ งั้นสมมุติว่า ผมเริ่มจ่ายคืน กยศ. ในปี 2555 นี้เป็นปีแรก จนถึงปี 2564 งวดสุดท้าย นะครับ
ปีแรก อัตราชำระ 3.25% ต่อปี จากยอด 300,500.00 = ผ่อนเดือนละ 1,060.- (รวมดอกเบี้ย 1% ต่อปี)
ปีที่ 2 อัตราชำระ 5.50% ต่อปี จากยอด 290,733.75 = ผ่อนเดือนละ 1,612.-
ปีที่ 3 อัตราชำระ 6.75% ต่อปี จากยอด 274,206.25 = ผ่อนเดือนละ 1,910.-
ปีที่ 4 อัตราชำระ 7.75% ต่อปี จากยอด 253,922.50 = ผ่อนเดือนละ 2,142.-
ปีที่ 5 อัตราชำระ 9.00% ต่อปี จากยอด 230,633.75 = ผ่อนเดือนละ 2,434.-
ปีที่ 6 อัตราชำระ 10.00% ต่อปี จากยอด 203,588.75 = ผ่อนเดือนละ 2,661.-
ปีที่ 7 อัตราชำระ 11.25% ต่อปี จากยอด 173,538.75 = ผ่อนเดือนละ 2,947.-
ปีที่ 8 อัตราชำระ 13.00% ต่อปี จากยอด 139,732.50 = ผ่อนเดือนละ 3,355.-
ปีที่ 9 อัตราชำระ 15.50% ต่อปี จากยอด 100,667.50 = ผ่อนเดือนละ 3,945.-
ปีสุดท้าย อัตราชำระ 18.00% ต่อปี จากยอด 54,090.00 = ผ่อนเดือนละ 4,529.-

คุณสมมุติว่าปีละ 5000 ผ่อนเดือนละ 500 เหรอครับ จะสมมุติไปทำไมครับ ขนาดตารางผ่อน 15 ปี ของจริงจาก กยศ. รายเดือนปีแรกยังต้องผ่อนเดือนละ 624.- เลยครับ อยากจะขออธิบายว่า นักศึกษาที่กู้ กยศ. ส่วนมากไม่ได้เริ่มกู้ตั้งแต่เข้าเรียนระดับชั้น ป.ตรี นะครับ แล้วที่คุณบอกว่าส่งปีละ 5-6 พัน <- คือ 3.25% จากยอดไหนเหรอครับ ขนาดปีแรกของผมยัง 9,766.25 บาทเลยครับ...


- เงินเดือนตามตกลง -> ขอไป 8000 แต่มันจะให้ 6000 แล้วมันจะตกลงหาหอกทำไมวะ
มันเป็นการเริ่มต้นงานครับ เพราะนักศึกษาที่ผ่านการฝึกงาน ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำงานจริงๆ จังๆ แค่ไปช่วยเค้าหยิบจับโน้น นี่ นั้น เท่านั้นเอง ในเมื่อเราเริ่มต้น เราก็คงไม่ได้เท่าที่คนที่เค้าทำมาก่อน หรือนานกว่าน่ะครับ ถ้าหากคิดว่าตัวเองทำได้ หรือมีความสามารถ ก็แสดงศักยภาพให้เค้าเห็นครับ ฟ้ามีตา เค้าย่อมมองเห็น แต่ถ้าหาก ทำดีที่สุดแล้ว เค้ายังไม่อะไรยังไงกับเรา ก็หางานใหม่ครับ ง่ายกว่า
ผมฝึกงานกับบริษัทครับ ไม่ได้ไปฝึกงานกับ อบต. หรืออนามัยหมู่บ้าน การที่เราขอฝึกงานกับองค์กรที่เราชอบ คือโอกาสในการเริ่มต้นการทำงานของเราแล้วครับ ตลอดระยะเวลา 2-3 เดือนที่เราฝึกงาน บางบริษัทฝึกสอนงานกันจริงๆ จังๆ เพื่อเข้าใจในระบบงานที่แท้จริง สามารถปฏิบัติงานในบริษัทนั้นได้ทันทีเมื่อเราเรียนจบ โดยไม่ต้องผ่านทดลองงานอีกแล้ว มีบ้างไหมครับ ในเชียงราย ที่ได้ฝึกงานแบบนี้ แถมยังได้เบี้ยเลี้ยงได้ค่าขนมจากบริษัทอีก ไม่ใช่ฝึกงานด้วยการหยิบจับโน่นนี่ ชงกาแฟบ้าง รับโทรศัพท์บ้าง หรือนั่งตากแอร์เฝ้าสำนักงานเหมือนบางที่ในเชียงราย (ดังรายชื่อดำๆ ข้างล่างสุดของโพสต์) นี่แหละครับที่ผมขอทางสถาบันไปฝึกงานใน กทม. จะว่าผมสะเออะไปไกลเกินหน้าเกินตาคนอื่นก็ช่าง แต่ผมมีปัญญาไปได้ แล้วผลการฝึกงานที่ได้รับมันคุ้มค่ามาก ได้เริ่มบรรจุตำแหน่งพนักงานประจำทันทีที่เข้าทำงานพร้อมเงินเดือนที่มากกว่าบ้านเราเกือบ 2 เท่า โดยไม่ต้องร้องขอเงินเดือน เขาก็ให้ตามความสามารถจริงๆ ครับ..

- ทดลองงานเต็ม 4 เดือนก่อนถึงจะบรรจุ แล้วจะปรับขึ้นเงินเดือนให้ ทั้งๆ ที่อื่นไม่จำเป็นต้องครบ ก็บรรจุได้
จุดนี้ไม่ตายตัวครับ ถ้าหากเราเป็นงานเร็ว เค้าก็บรรจุให้ก่อนเวลาที่กำหนดครับ แต่ถ้าหาก ถึงเวลาที่กำหนด แล้วยังไม่เป็นงาน ก็หมายความว่า เตรียมหางานใหม่ได้เลย
ก็มีที่เชียงรายนี่แหละครับ ที่ตายตัวมันแทบทุกที่ ซึ่งบางที่เจ้าเล่ห์ทำแบบซิ๊กแซ๊กจ้างเราแค่ชั่วคราวโดยไม่บอกเราให้รู้ พอครบ 3-4 เดือนก็บอกว่าเรายังไม่ผ่านงาน ถ้าต้องการทำในตำแหน่งอื่นต่อก็ต้องเริ่มทดลองงานใหม่ มันก็เหมือนเราไปหางานใหม่นั่นแหละครับ..  มิน่าล่ะ เชียงรายถึงได้มีบริษัทห้างร้านที่มีพนักงานเข้าออกกันบ่อยๆ...

- เดือนแรกให้มาทำงานเต็ม 30 วัน (ยังไม่มีวันหยุด) กะจะใช้ให้คุ้มเลยสิท่า คนนะ ไม่ใช่เครื่องจักร
ข้อนี้ตอนเริ่มงานแผนกบุคคลจะเป็นคนแจ้งครับ ถ้ารับจุดนี้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำครับ เดินหางานอื่นต่อไปครับ ไม่ต้องตอบตกลงรับงาน แต่เหตุผลที่เค้ายังไม่ให้หยุดงาน เพราะต้องการให้เราทำงานเป็นเร็วที่สุดครับ มันจะเป็นผลดีต่อตัวเรา หากเราทำงานเป็นเร็ว เค้าก็บรรจุเราเร็วเหมือนกันครับ
ถ้าคุณเป็นเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม คุณต้องการให้พนักงานใหม่ฝึกงานให้เป็นงานเร็วๆ ใช่มั๊ยครับ แสดงว่าคุณทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง ไม่มีนายจ้างโรงงานไหนหรอกครับที่จะเร่งให้พนักงานเป็นงานเร็วๆ แต่ขาดประสิทธิภาพและความชำนาญ ผมคิดว่าแผนก QC. คงต้องจ้างคนเพิ่มพอๆ กับแผนกธุรการเลยมั้งครับ งานที่คิดว่าจะต้องฝึกให้เราเป็นงานเร็วๆ คงไม่ใช่งานละเอียดและความชำนาญหรอกครับ เช่น งานเสิร์ฟอาหาร, ล้างจ้าง, ดูแลสวน, แม่บ้าน, ภารโรง, เด็กปั๊ม หรือยาม เป็นต้น.. แล้วคิดว่าจะมีนักศึกษาจบใหม่คนไหนอยากหาประสบการณ์ทำงานแบบนี้บ้างละครับ...

- มีค่าประกัน 2-3 พันบาท (บ้างก็หักรายเดือน) มึงจ้างกูมาเฝ้าตู้เซฟเหรอวะ
  ที่อื่นเขาให้ข้าราชการค้ำประกันทั้งนั้น..
จุดนี้ต้องมีครับ เงินค้ำประกัน เค้าให้หักจากเงินเดือนได้ครับ เกือบทุกที่ เพราะถ้าหากระหว่างการทำงาน คุณทำของเค้าเสียหาย หรือ สร้างความเสียห้ายให้กับบริษัท เค้าจะได้เอาเงินส่วนนี้ไปทดแทน และชำระในส่วนนั้นครับ ถ้าหากไม่มี คุณคิดดูว่า ถ้าคุณเปิดร้าน ขายกระถางดอกไม้ แล้วจ้างลูกจ้างมาทำงาน ลูกจ้างคุณทำกระถางดอกไม้แตก เพราะความประมาท ทำงานผิดขั้นตอน
คุณก็เรียก ลูกจ้างคุณมาคุยค่าเสียหาย อาจจะจ่ายครึ่งเดียวพอ แต่ลูกจ้างคุณไม่อยากจ่าย อีกวันไม่มาทำงาน มันเสียหายใหมครับ ถ้าเงินส่วนนี้ ที่เข้าเก็บไป ระหว่างการทำงาน คุณไม่ได้ก่อความเสียหายใดๆ เลย คุณก็ได้รับเงินคืนเต็มนิครับ รวมทั้งการทดลองงานไม่ผ่านเค้าก็คืนน่ะครับ ถ้าไม่ได้คืน ไปฟ้องกรมแรงงานโลด

แล้วจะมีลูกจ้างคนไหนบ้างครับ ที่จะทำข้าวของพังเสียหายทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องโดนหักเงินเดือนอันน้อยนิดแทบจะไม่เหลือเก็บซะอีก ยิ่งรู้ว่าจะต้องชดใช้ค่าเสียหายแน่นอน เขาก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษจริงมั๊ยครับ งานอะไรก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาเงินทองของบริษัท นายจ้างไม่มีสิทธิ์เรียกเก็บเงินประกันจากลูกจ้างได้เลยครับ (ไม่เชื่อลองไปดูได้ที่บริเวณบันไดชั้น 2 สนง.แรงงานเชียงราย) คุณยกตัวอย่างลูกจ้างทำกระถางดอกไม้แตก เพราะความประมาท ทำงานผิดขั้นตอน ไม่ทราบว่ากระถางดอกไม้ที่ว่านี้ ทำจากดินบนดาวอังคารเหรอครับ แถวบ้านผมไปซื้อที่ตลาด ใบนึงไม่ถึงร้อย ถ้าเป็นของหายาก ราคาแพงๆ เอาไว้ประดับบารมีนายจ้าง เขาก็คงเก็บเอาไว้โชว์ที่บ้านแล้วละครับ
ถ้าลูกจ้างไม่ได้หยิบจับนับเงินเป็นปึ่กๆ อย่างฝ่ายบัญชีแล้วละก้อ ผมคิดว่าไม่ต้องใช้เงินค้ำประกันหรอกครับ มันเหมือนทำลายขวัญและกำลังใจของลูกจ้างไปตลอดการเป็นพนักงาน ซึ่งบางที่จะได้คืนเมือลาออก (ถ้าเกษียณตอนอายุ 60 ล่ะ) ไม่เท่ากับเอาเงินไปจมโดยที่ไม่มีดอกเบี้ยงอกเงยอะไรเลยหรือ เอาไปฝากธนาคารยังได้ดอกเบี้ยนะครับ..
ที่คุณบอกว่า ต้องมีเงินค้ำประกัน เท่าที่ผมไปทราบมา ขนาดงานต๊อกต๋อยทั่วไป ยังต้องใช้เงินค้ำประกันเป็นพันๆ  แล้วถ้าหากว่าเป็นนักบินที่ได้ขับเครื่องบินรุ่นใหม่อย่าง A380-500 ราคาลำละ 2หมื่นล้านบาท ไม่ต้องไปหาเงินค้ำประกันเป็นร้อยๆ ล้านเหรอครับ เพราะทุกครั้งที่ขึ้นบิน นักบินทำความเสียหายแก่เครื่องบินเสมอ เช่น ยางสึก-ยางแตก บินชนนก โดนฟ้าผ่า ฯลฯ เป็นต้น แล้วแบบนี้จะเรียกว่านักบินประมาทเลินเล่อได้มั๊ยครับ....


- ประกาศตำแหน่งงานโดยใช้เงินเดือนสูงๆ มาล่อ แต่ต้องเริ่มต้นจากพนักงานทั่วไปก่อนอยู่ดี
มันเป็นเงินเดือนประจำตำแหน่งครับ คุณพึ่งเข้าทำงาน ยังไม่มีผลงานใดๆเลย เค้าก็ไม่กล้าจ้างคุณหรอกครับ แต่ถ้าคุณมีความสามารถ แสดงให้เค้าเห็น เงินเดือนเท่าไหร่ เค้าก็ยอมจ่ายครับ
ในเรซูเม่ของเราก็ระบุไว้ว่าเราเคยผ่านงานผ่านอะไรมาบ้าง นายจ้างก็น่าจะมีความสามารถในการตัดสินใจได้นะครับ แต่ถ้าหากเป็นพวกนักศึกษาจบใหม่ เขาก็ย่อมรู้ตัวดีว่าไม่มีประสบการณ์ คงไม่กรอกใบสมัครขอทำในตำแหน่งระบบบริหารหรอกครับ คุณว่าจริงไหม..
บ้านเราชอบระบุในประกาศว่าแบบนี้ แต่พอเข้าไปสมัครจริงๆ มันเป็นอีกอย่าง ผมละเบื่อเซ็งกับบริษัทที่ว่า เงินเดือนตามโครงสร้างของบริษัท ให้เข้าใจไว้เลยครับ โครงสร้างตามค่าแรงขั้นต่ำ ถ้าเป็นไปตามโครงสร้างของบริษัทจริงๆ ป่านนี้ลูกจ้างทุกคนผ่อนบ้านผ่อนรถกันหมดภายใน 5 ปี เหมือนอย่างพนักงานในบริษัทใหญ่ๆ ใน กทม. แล้วละครับ
แค่ตั้งเงินเดือน 6,000 ในปีแรก พอทำครบ 1 ปี ปรับขึ้นให้อีก 7% พอครบอีกทุกๆ 2 ปี ก็ปรับเงินเดือนขึ้นอีก 10% เช่นนี้ไปเรื่อยๆ ทุกๆ 2 ปี (ตามโครงสร้างของบริษัท) พอจะมีนายจ้างที่ไหนในเชียงรายที่กล้าให้เงินเดือนลูกจ้างตามนี้บ้างมั๊ยครับ.. ถ้ากล้าให้ตามนี้คิดว่าคงไม่มีลูกจ้างคนไหนลาออกก่อน 10 ปี อย่างแน่นอน...


อย่างงานที่ผมทำปัจจุบัน เป็น PC ยี่ห้อ Sony เค้าก็เก็บค่าประกัน 5000 บาท หักเดือนละ 500 บาท เงินเดือนแค่ไม่กี่พัน ที่เหลือค่าคอม แล้วแต่ยอดขายเราอีกที วันหยุดประเพณีไม่มี สงกรานต์ไม่ได้หยุด ต้องมาทำงาน และ อะไรอีกเยอะ ที่ไม่ได้เหมือน งานราชการ แต่ก็เลือกไม่ได้ครับ เพราะ เราทำงาน เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเอง หากจะมามัวแต่เลือกงาน อดตายกันพอดี อะไรทนได้ทน อะไรยอมได้ยอมครับ แต่บางอย่างถ้ามันผิด เราก็ต้องว่ากันตามนั้น ทุกอย่าง มันมีเหตุผลครับ ก่อนจะได้งานนี้ ผมเริ่มงานครั้งแรก อายุ 19 ปี เป็นพนักงานขายชัวคราวที่ ห้างอภิพลาซ่า ผ่านมาแล้วก็หลายงาน หลายแบบ เงินเดือนแค่ 3260 ผมก็ยังอยู่ได้เป็นเดือนๆ (พูดแล้วยัง งง ตัวเองเลย อยู่ได้ไงเป้นเดือน )

เงินเดือนแค่ 3,260 <-- ปี พ.ศ.ไหนเหรอครับ ผมเรียนจบ ม.3 เมื่อ 20 กว่าปีก่อน หาประสบการณ์ทำงานด้วยการไปสมัครงานแรกที่ร้าน am.pm. แฟรนไชน์โดยกลุ่มเทพวัลย์ ได้เงินเดือนครั้งแรก 3,500.- อีกทั้งยังต้องทดลองงานก่อน 1 เดือนโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แล้วยังโดนหักค่าชุดฟอร์มเชยๆ อีก 500.- แต่ก็ยังไม่ได้ชุดสักที เพิ่งทำได้ไม่ถึงครึ่งปี ก็โดนไล่ออกยกชุดทั้งร้านเพราะเงินในเครื่องหายไปพันกว่า ทั้งๆ ที่เราไม่ได้อยู่ในผลัดที่เกิดเรื่อง (ก็ไม่แปลกใจเลยที่เจ้านี้จะทำธุรกิจอะไรก็เจ้งไปหมด เพราะความเอารัดเอาเปรียบคนอื่นนี่เอง..)
3,260 อยู่ได้เป็นเดือนๆ ผมก็งงเหมือนกันว่าอยู่ได้อย่างไร ไม่ทราบว่าคุณกินข้าวหรือหยอดข้าวกันแน่ หรือทนอยู่แบบอดๆ อยากๆ รึเปล่าครับ... ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าอนาถมากเลยนะครับ ถ้าเป็นงานในบ้านเรา แม้เงินจะขาดมือแต่เราก็ไม่ต้องอดเพราะเรายังมีครอบครัวมีญาติพี่น้องที่ช่วยเหลือกันได้ แต่ไปอยู่ต่างถิ่นแล้วเจอแบบนี้ใครก็ช่วยเหลือเราไม่ได้หรอกครับ เพราะเช่นนี้ ผมถึงอยากกลับมาใช้ชีวิตวัยทำงานที่บ้านเกิดตัวเองไงครับ แต่ก็ต้องผิดหวังกับการเอารัดเอาเปรียบของนายจ้างนายทุนที่ไม่อู้กำเมืองมาจากต่างถิ่นหลายราย...
IP : บันทึกการเข้า

วนเวียนอยู่ในบอร์ดพันทิพย์มานาน ขอมาประจำที่บอร์ดบ้านเกิดในถิ่นตัวเองบ้างนะครับ..
ชื่อในพันทิพย์ "นักเดินทางผ่านไปผ่านมา"
WalkManUser
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,391


ยิ่งโต ยิ่งเหนื่อย อยากกลับไปเป็นเด็ก


« ตอบ #53 เมื่อ: วันที่ 03 มีนาคม 2012, 18:32:14 »

ครับแล้วแต่ท่านจะทำความเข้าใจครับ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
artphonecr1
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #54 เมื่อ: วันที่ 03 มีนาคม 2012, 20:46:51 »


อย่างงานที่ผมทำปัจจุบัน เป็น PC ยี่ห้อ Sony เค้าก็เก็บค่าประกัน 5000 บาท หักเดือนละ 500 บาท เงินเดือนแค่ไม่กี่พัน ที่เหลือค่าคอม แล้วแต่ยอดขายเราอีกที วันหยุดประเพณีไม่มี สงกรานต์ไม่ได้หยุด ต้องมาทำงาน และ อะไรอีกเยอะ ที่ไม่ได้เหมือน งานราชการ แต่ก็เลือกไม่ได้ครับ เพราะ เราทำงาน เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเอง หากจะมามัวแต่เลือกงาน อดตายกันพอดี อะไรทนได้ทน อะไรยอมได้ยอมครับ แต่บางอย่างถ้ามันผิด เราก็ต้องว่ากันตามนั้น ทุกอย่าง มันมีเหตุผลครับ ก่อนจะได้งานนี้ ผมเริ่มงานครั้งแรก อายุ 19 ปี เป็นพนักงานขายชัวคราวที่ ห้างอภิพลาซ่า ผ่านมาแล้วก็หลายงาน หลายแบบ เงินเดือนแค่ 3260 ผมก็ยังอยู่ได้เป็นเดือนๆ (พูดแล้วยัง งง ตัวเองเลย อยู่ได้ไงเป้นเดือน )

ความเห็นสวนตัวน่ะครับ หากไม่ถูกใจใคร ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ แต่ผมผยากให้เห็นว่า งานมันหายากครับ มีความสามารถ  แต่ใช้ไม่ถูกที่ มันก็ไม่เกิดประโยชน์ เป็นกำลังใจให้คนว่างงาน ได้งานดีๆ

เจอเจ้านายดีๆ ครับผม

- สมัครงานในตำแหน่งที่ประกาศไว้ แต่ให้ไปทำงานในอีกตำแหน่ง
เค้าดูตามความสารถรึเปล่าครับ เพราะเค้าดูจากตอนเราไปสัมภาษณ์งาน ว่ามีความถนัดด้านใหน อย่างไร เค้าจึงเปลี่ยนงานเราไปในจุดที่เหมาะสม อะไรทำนองนั้นรึเปล่าครับ
เรซูเม่ก็บอกอยู่แล้วว่าเราทำงานอะไรมาบ้าง ตำแหน่งที่สมัครก็ระบุไว้ชัดเจนว่าเราอยากจะทำในตำแหน่งนี้ เพราะเป็นงานที่เราชอบ เราถนัด เราอยากทำจริงๆ ทำแล้วมีความสุขกับงาน แล้วทำไมต้องให้เราทำงานอื่นที่ไม่ชำนาญด้วยละครับ ถ้างั้นทำไม่ติดป้ายประกาศรับสมัครงานให้ตรงตามตำแหน่งเลยละครับ บางที่ยังหน้าด้านโชว์ป้ายหราทั้งๆ ที่ตำแหน่งนั้นก็มีคนเต็มละ บางที่เห็นติดรับสมัครกันหลายตำแหน่งตั้งแต่ชาติปางไหนแล้วก็ไม่รู้ ไม่เอาออกสักที ใครผ่านไปแถวๆ ตรงโค้งหัวสนามบินเก่า จะเห็นป้ายรับสมัครตั้งแต่ชาติที่แล้ว เราคิดว่ารับสมัครก็ไปสมัครพอได้สัมภาษณ์กับ ผจก.สาวหน้าแก่แต่ทำเป็นแอ๊บแบ๊ว ก็ถึงบางอ้อ ตำแหน่งที่สมัครเต็มว่ะ จะให้เราไปทำในตำแหน่งอื่นที่เพิ่งจะมีตำแหน่งว่างกระทันหัน ณ เวลานั้นพอดี หน้าโจรอย่างKู จะให้ไปทำงานผู้หญิงซะงั้น

- สมัครทำงานในบริษัท แต่ใช้งานเราเป็นงานส่วนตัว เช่น รับ-ส่งลูกที่โรงเรียน, วันหยุดก็เรียกใช้
ข้อนี้นี่ แล้วแต่ว่าเจอหัวหน้าแบบใหนครับ แต่ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง หรือไม่กระทบกับงานหลักที่เรารับผิดชอบอยู่ ก็ทำๆไปเถอะครับ เพราะเราเป็นลูกน้อง ถ้าทำเป็นแข็ง ขัดขืน รับประกัน ทดลองงานก็ไม่ผ่าน ^^
ทำงานเหนื่อยตลอดสัปดาห์ ขอเวลาพักผ่อนส่วนตัวบ้างสักวันเถอะ โทรตามตั้งแต่เช้าให้ไปซ่อมคอมฯ ให้บ้านญาติที่บ้านนอกต่างอำเภอ ไอ้เราก็ต้องจำใจขับรถไปเอง เสียเวลาไปทั้งวันได้ค่าน้ำมัน 200 แหม่..จะเติมน้ำมันได้สักกี่จอกเนี่ย ช่วงเย็นๆ ก่อนเลิกงานมักจะใช้ให้ไปติดต่อนั่นติดต่อนี่ แต่ขากลับให้แวะรับลูกหลานตามฟอร์ม กลับมาตอกบัตรเลยเวลาเลิกงานทุกครั้ง โอทีก็ไม่ได้ ซึ่งคนที่ใช้เราไม่ใช่แค่หัวหน้าหรอกครับ เป็นถึงเจ้านาย..
พักหลังๆ เลยเอารถยนต์ส่วนตัวไปทำงาน อ้างว่าต้องรีบกลับเพราะที่บ้านจะต้องใช้รถต่อ ก็มาทำหงุดหงิดใส่เราอีก (ทำไมไม่ไปรับเองวะ)


- ค่าแรงตามโครงสร้างบริษัท เริ่มที่ 6000 แล้วเมื่อไหร่จะใช้หนี้ กยศ.ได้หมดวะ
ข้อนี้เห็นใจครับ แต่เงิน กยศ. เค้าผ่อนจ่ายได้นิครับ บางคน กู้มาเป็นแสน ส่งปีละ 5-6 พัน มันจะไปหนักช่วงหลังๆ อย่างสมมุติ ปีะละ 5000 ก็เก็บเดือนละ 500 ไม่น่าจะยากน่ะครับ
ไม่ต้องสมมุติครับ เอาของจริงเลยนะ
ม.ปลาย (ม.4-6) กู้ปีละ 8,500 x 3 ปี = 25,500.-
ปวส. กู้ปีละ 25,000 x 2 ปี = 50,000.-
ป.ตรี กู้ปีละ 90,000 x 2 ปีครึ่ง = 180,000+45,000 = 225,000.-
รวม กยศ. ทั้งหมด 300,500.- (ยังไม่รวมดอกเบี้ย) ผ่อน 10 ปี = 120 เดือน ประมาณเดือนละ 2,505.- ซึ่งคุณบอกว่ามันจะไปหนักช่วงหลังๆ ใช่ไหมครับ งั้นสมมุติว่า ผมเริ่มจ่ายคืน กยศ. ในปี 2555 นี้เป็นปีแรก จนถึงปี 2564 งวดสุดท้าย นะครับ
ปีแรก อัตราชำระ 3.25% ต่อปี จากยอด 300,500.00 = ผ่อนเดือนละ 1,060.- (รวมดอกเบี้ย 1% ต่อปี)
ปีที่ 2 อัตราชำระ 5.50% ต่อปี จากยอด 290,733.75 = ผ่อนเดือนละ 1,612.-
ปีที่ 3 อัตราชำระ 6.75% ต่อปี จากยอด 274,206.25 = ผ่อนเดือนละ 1,910.-
ปีที่ 4 อัตราชำระ 7.75% ต่อปี จากยอด 253,922.50 = ผ่อนเดือนละ 2,142.-
ปีที่ 5 อัตราชำระ 9.00% ต่อปี จากยอด 230,633.75 = ผ่อนเดือนละ 2,434.-
ปีที่ 6 อัตราชำระ 10.00% ต่อปี จากยอด 203,588.75 = ผ่อนเดือนละ 2,661.-
ปีที่ 7 อัตราชำระ 11.25% ต่อปี จากยอด 173,538.75 = ผ่อนเดือนละ 2,947.-
ปีที่ 8 อัตราชำระ 13.00% ต่อปี จากยอด 139,732.50 = ผ่อนเดือนละ 3,355.-
ปีที่ 9 อัตราชำระ 15.50% ต่อปี จากยอด 100,667.50 = ผ่อนเดือนละ 3,945.-
ปีสุดท้าย อัตราชำระ 18.00% ต่อปี จากยอด 54,090.00 = ผ่อนเดือนละ 4,529.-

คุณสมมุติว่าปีละ 5000 ผ่อนเดือนละ 500 เหรอครับ จะสมมุติไปทำไมครับ ขนาดตารางผ่อน 15 ปี ของจริงจาก กยศ. รายเดือนปีแรกยังต้องผ่อนเดือนละ 624.- เลยครับ อยากจะขออธิบายว่า นักศึกษาที่กู้ กยศ. ส่วนมากไม่ได้เริ่มกู้ตั้งแต่เข้าเรียนระดับชั้น ป.ตรี นะครับ แล้วที่คุณบอกว่าส่งปีละ 5-6 พัน <- คือ 3.25% จากยอดไหนเหรอครับ ขนาดปีแรกของผมยัง 9,766.25 บาทเลยครับ...


- เงินเดือนตามตกลง -> ขอไป 8000 แต่มันจะให้ 6000 แล้วมันจะตกลงหาหอกทำไมวะ
มันเป็นการเริ่มต้นงานครับ เพราะนักศึกษาที่ผ่านการฝึกงาน ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำงานจริงๆ จังๆ แค่ไปช่วยเค้าหยิบจับโน้น นี่ นั้น เท่านั้นเอง ในเมื่อเราเริ่มต้น เราก็คงไม่ได้เท่าที่คนที่เค้าทำมาก่อน หรือนานกว่าน่ะครับ ถ้าหากคิดว่าตัวเองทำได้ หรือมีความสามารถ ก็แสดงศักยภาพให้เค้าเห็นครับ ฟ้ามีตา เค้าย่อมมองเห็น แต่ถ้าหาก ทำดีที่สุดแล้ว เค้ายังไม่อะไรยังไงกับเรา ก็หางานใหม่ครับ ง่ายกว่า
ผมฝึกงานกับบริษัทครับ ไม่ได้ไปฝึกงานกับ อบต. หรืออนามัยหมู่บ้าน การที่เราขอฝึกงานกับองค์กรที่เราชอบ คือโอกาสในการเริ่มต้นการทำงานของเราแล้วครับ ตลอดระยะเวลา 2-3 เดือนที่เราฝึกงาน บางบริษัทฝึกสอนงานกันจริงๆ จังๆ เพื่อเข้าใจในระบบงานที่แท้จริง สามารถปฏิบัติงานในบริษัทนั้นได้ทันทีเมื่อเราเรียนจบ โดยไม่ต้องผ่านทดลองงานอีกแล้ว มีบ้างไหมครับ ในเชียงราย ที่ได้ฝึกงานแบบนี้ แถมยังได้เบี้ยเลี้ยงได้ค่าขนมจากบริษัทอีก ไม่ใช่ฝึกงานด้วยการหยิบจับโน่นนี่ ชงกาแฟบ้าง รับโทรศัพท์บ้าง หรือนั่งตากแอร์เฝ้าสำนักงานเหมือนบางที่ในเชียงราย (ดังรายชื่อดำๆ ข้างล่างสุดของโพสต์) นี่แหละครับที่ผมขอทางสถาบันไปฝึกงานใน กทม. จะว่าผมสะเออะไปไกลเกินหน้าเกินตาคนอื่นก็ช่าง แต่ผมมีปัญญาไปได้ แล้วผลการฝึกงานที่ได้รับมันคุ้มค่ามาก ได้เริ่มบรรจุตำแหน่งพนักงานประจำทันทีที่เข้าทำงานพร้อมเงินเดือนที่มากกว่าบ้านเราเกือบ 2 เท่า โดยไม่ต้องร้องขอเงินเดือน เขาก็ให้ตามความสามารถจริงๆ ครับ..

- ทดลองงานเต็ม 4 เดือนก่อนถึงจะบรรจุ แล้วจะปรับขึ้นเงินเดือนให้ ทั้งๆ ที่อื่นไม่จำเป็นต้องครบ ก็บรรจุได้
จุดนี้ไม่ตายตัวครับ ถ้าหากเราเป็นงานเร็ว เค้าก็บรรจุให้ก่อนเวลาที่กำหนดครับ แต่ถ้าหาก ถึงเวลาที่กำหนด แล้วยังไม่เป็นงาน ก็หมายความว่า เตรียมหางานใหม่ได้เลย
ก็มีที่เชียงรายนี่แหละครับ ที่ตายตัวมันแทบทุกที่ ซึ่งบางที่เจ้าเล่ห์ทำแบบซิ๊กแซ๊กจ้างเราแค่ชั่วคราวโดยไม่บอกเราให้รู้ พอครบ 3-4 เดือนก็บอกว่าเรายังไม่ผ่านงาน ถ้าต้องการทำในตำแหน่งอื่นต่อก็ต้องเริ่มทดลองงานใหม่ มันก็เหมือนเราไปหางานใหม่นั่นแหละครับ..  มิน่าล่ะ เชียงรายถึงได้มีบริษัทห้างร้านที่มีพนักงานเข้าออกกันบ่อยๆ...

- เดือนแรกให้มาทำงานเต็ม 30 วัน (ยังไม่มีวันหยุด) กะจะใช้ให้คุ้มเลยสิท่า คนนะ ไม่ใช่เครื่องจักร
ข้อนี้ตอนเริ่มงานแผนกบุคคลจะเป็นคนแจ้งครับ ถ้ารับจุดนี้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำครับ เดินหางานอื่นต่อไปครับ ไม่ต้องตอบตกลงรับงาน แต่เหตุผลที่เค้ายังไม่ให้หยุดงาน เพราะต้องการให้เราทำงานเป็นเร็วที่สุดครับ มันจะเป็นผลดีต่อตัวเรา หากเราทำงานเป็นเร็ว เค้าก็บรรจุเราเร็วเหมือนกันครับ
ถ้าคุณเป็นเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม คุณต้องการให้พนักงานใหม่ฝึกงานให้เป็นงานเร็วๆ ใช่มั๊ยครับ แสดงว่าคุณทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง ไม่มีนายจ้างโรงงานไหนหรอกครับที่จะเร่งให้พนักงานเป็นงานเร็วๆ แต่ขาดประสิทธิภาพและความชำนาญ ผมคิดว่าแผนก QC. คงต้องจ้างคนเพิ่มพอๆ กับแผนกธุรการเลยมั้งครับ งานที่คิดว่าจะต้องฝึกให้เราเป็นงานเร็วๆ คงไม่ใช่งานละเอียดและความชำนาญหรอกครับ เช่น งานเสิร์ฟอาหาร, ล้างจ้าง, ดูแลสวน, แม่บ้าน, ภารโรง, เด็กปั๊ม หรือยาม เป็นต้น.. แล้วคิดว่าจะมีนักศึกษาจบใหม่คนไหนอยากหาประสบการณ์ทำงานแบบนี้บ้างละครับ...

- มีค่าประกัน 2-3 พันบาท (บ้างก็หักรายเดือน) มึงจ้างกูมาเฝ้าตู้เซฟเหรอวะ
  ที่อื่นเขาให้ข้าราชการค้ำประกันทั้งนั้น..
จุดนี้ต้องมีครับ เงินค้ำประกัน เค้าให้หักจากเงินเดือนได้ครับ เกือบทุกที่ เพราะถ้าหากระหว่างการทำงาน คุณทำของเค้าเสียหาย หรือ สร้างความเสียห้ายให้กับบริษัท เค้าจะได้เอาเงินส่วนนี้ไปทดแทน และชำระในส่วนนั้นครับ ถ้าหากไม่มี คุณคิดดูว่า ถ้าคุณเปิดร้าน ขายกระถางดอกไม้ แล้วจ้างลูกจ้างมาทำงาน ลูกจ้างคุณทำกระถางดอกไม้แตก เพราะความประมาท ทำงานผิดขั้นตอน
คุณก็เรียก ลูกจ้างคุณมาคุยค่าเสียหาย อาจจะจ่ายครึ่งเดียวพอ แต่ลูกจ้างคุณไม่อยากจ่าย อีกวันไม่มาทำงาน มันเสียหายใหมครับ ถ้าเงินส่วนนี้ ที่เข้าเก็บไป ระหว่างการทำงาน คุณไม่ได้ก่อความเสียหายใดๆ เลย คุณก็ได้รับเงินคืนเต็มนิครับ รวมทั้งการทดลองงานไม่ผ่านเค้าก็คืนน่ะครับ ถ้าไม่ได้คืน ไปฟ้องกรมแรงงานโลด

แล้วจะมีลูกจ้างคนไหนบ้างครับ ที่จะทำข้าวของพังเสียหายทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องโดนหักเงินเดือนอันน้อยนิดแทบจะไม่เหลือเก็บซะอีก ยิ่งรู้ว่าจะต้องชดใช้ค่าเสียหายแน่นอน เขาก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษจริงมั๊ยครับ งานอะไรก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาเงินทองของบริษัท นายจ้างไม่มีสิทธิ์เรียกเก็บเงินประกันจากลูกจ้างได้เลยครับ (ไม่เชื่อลองไปดูได้ที่บริเวณบันไดชั้น 2 สนง.แรงงานเชียงราย) คุณยกตัวอย่างลูกจ้างทำกระถางดอกไม้แตก เพราะความประมาท ทำงานผิดขั้นตอน ไม่ทราบว่ากระถางดอกไม้ที่ว่านี้ ทำจากดินบนดาวอังคารเหรอครับ แถวบ้านผมไปซื้อที่ตลาด ใบนึงไม่ถึงร้อย ถ้าเป็นของหายาก ราคาแพงๆ เอาไว้ประดับบารมีนายจ้าง เขาก็คงเก็บเอาไว้โชว์ที่บ้านแล้วละครับ
ถ้าลูกจ้างไม่ได้หยิบจับนับเงินเป็นปึ่กๆ อย่างฝ่ายบัญชีแล้วละก้อ ผมคิดว่าไม่ต้องใช้เงินค้ำประกันหรอกครับ มันเหมือนทำลายขวัญและกำลังใจของลูกจ้างไปตลอดการเป็นพนักงาน ซึ่งบางที่จะได้คืนเมือลาออก (ถ้าเกษียณตอนอายุ 60 ล่ะ) ไม่เท่ากับเอาเงินไปจมโดยที่ไม่มีดอกเบี้ยงอกเงยอะไรเลยหรือ เอาไปฝากธนาคารยังได้ดอกเบี้ยนะครับ..
ที่คุณบอกว่า ต้องมีเงินค้ำประกัน เท่าที่ผมไปทราบมา ขนาดงานต๊อกต๋อยทั่วไป ยังต้องใช้เงินค้ำประกันเป็นพันๆ  แล้วถ้าหากว่าเป็นนักบินที่ได้ขับเครื่องบินรุ่นใหม่อย่าง A380-500 ราคาลำละ 2หมื่นล้านบาท ไม่ต้องไปหาเงินค้ำประกันเป็นร้อยๆ ล้านเหรอครับ เพราะทุกครั้งที่ขึ้นบิน นักบินทำความเสียหายแก่เครื่องบินเสมอ เช่น ยางสึก-ยางแตก บินชนนก โดนฟ้าผ่า ฯลฯ เป็นต้น แล้วแบบนี้จะเรียกว่านักบินประมาทเลินเล่อได้มั๊ยครับ....


- ประกาศตำแหน่งงานโดยใช้เงินเดือนสูงๆ มาล่อ แต่ต้องเริ่มต้นจากพนักงานทั่วไปก่อนอยู่ดี
มันเป็นเงินเดือนประจำตำแหน่งครับ คุณพึ่งเข้าทำงาน ยังไม่มีผลงานใดๆเลย เค้าก็ไม่กล้าจ้างคุณหรอกครับ แต่ถ้าคุณมีความสามารถ แสดงให้เค้าเห็น เงินเดือนเท่าไหร่ เค้าก็ยอมจ่ายครับ
ในเรซูเม่ของเราก็ระบุไว้ว่าเราเคยผ่านงานผ่านอะไรมาบ้าง นายจ้างก็น่าจะมีความสามารถในการตัดสินใจได้นะครับ แต่ถ้าหากเป็นพวกนักศึกษาจบใหม่ เขาก็ย่อมรู้ตัวดีว่าไม่มีประสบการณ์ คงไม่กรอกใบสมัครขอทำในตำแหน่งระบบบริหารหรอกครับ คุณว่าจริงไหม..
บ้านเราชอบระบุในประกาศว่าแบบนี้ แต่พอเข้าไปสมัครจริงๆ มันเป็นอีกอย่าง ผมละเบื่อเซ็งกับบริษัทที่ว่า เงินเดือนตามโครงสร้างของบริษัท ให้เข้าใจไว้เลยครับ โครงสร้างตามค่าแรงขั้นต่ำ ถ้าเป็นไปตามโครงสร้างของบริษัทจริงๆ ป่านนี้ลูกจ้างทุกคนผ่อนบ้านผ่อนรถกันหมดภายใน 5 ปี เหมือนอย่างพนักงานในบริษัทใหญ่ๆ ใน กทม. แล้วละครับ
แค่ตั้งเงินเดือน 6,000 ในปีแรก พอทำครบ 1 ปี ปรับขึ้นให้อีก 7% พอครบอีกทุกๆ 2 ปี ก็ปรับเงินเดือนขึ้นอีก 10% เช่นนี้ไปเรื่อยๆ ทุกๆ 2 ปี (ตามโครงสร้างของบริษัท) พอจะมีนายจ้างที่ไหนในเชียงรายที่กล้าให้เงินเดือนลูกจ้างตามนี้บ้างมั๊ยครับ.. ถ้ากล้าให้ตามนี้คิดว่าคงไม่มีลูกจ้างคนไหนลาออกก่อน 10 ปี อย่างแน่นอน...


อย่างงานที่ผมทำปัจจุบัน เป็น PC ยี่ห้อ Sony เค้าก็เก็บค่าประกัน 5000 บาท หักเดือนละ 500 บาท เงินเดือนแค่ไม่กี่พัน ที่เหลือค่าคอม แล้วแต่ยอดขายเราอีกที วันหยุดประเพณีไม่มี สงกรานต์ไม่ได้หยุด ต้องมาทำงาน และ อะไรอีกเยอะ ที่ไม่ได้เหมือน งานราชการ แต่ก็เลือกไม่ได้ครับ เพราะ เราทำงาน เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเอง หากจะมามัวแต่เลือกงาน อดตายกันพอดี อะไรทนได้ทน อะไรยอมได้ยอมครับ แต่บางอย่างถ้ามันผิด เราก็ต้องว่ากันตามนั้น ทุกอย่าง มันมีเหตุผลครับ ก่อนจะได้งานนี้ ผมเริ่มงานครั้งแรก อายุ 19 ปี เป็นพนักงานขายชัวคราวที่ ห้างอภิพลาซ่า ผ่านมาแล้วก็หลายงาน หลายแบบ เงินเดือนแค่ 3260 ผมก็ยังอยู่ได้เป็นเดือนๆ (พูดแล้วยัง งง ตัวเองเลย อยู่ได้ไงเป้นเดือน )

เงินเดือนแค่ 3,260 <-- ปี พ.ศ.ไหนเหรอครับ ผมเรียนจบ ม.3 เมื่อ 20 กว่าปีก่อน หาประสบการณ์ทำงานด้วยการไปสมัครงานแรกที่ร้าน am.pm. แฟรนไชน์โดยกลุ่มเทพวัลย์ ได้เงินเดือนครั้งแรก 3,500.- อีกทั้งยังต้องทดลองงานก่อน 1 เดือนโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แล้วยังโดนหักค่าชุดฟอร์มเชยๆ อีก 500.- แต่ก็ยังไม่ได้ชุดสักที เพิ่งทำได้ไม่ถึงครึ่งปี ก็โดนไล่ออกยกชุดทั้งร้านเพราะเงินในเครื่องหายไปพันกว่า ทั้งๆ ที่เราไม่ได้อยู่ในผลัดที่เกิดเรื่อง (ก็ไม่แปลกใจเลยที่เจ้านี้จะทำธุรกิจอะไรก็เจ้งไปหมด เพราะความเอารัดเอาเปรียบคนอื่นนี่เอง..)
3,260 อยู่ได้เป็นเดือนๆ ผมก็งงเหมือนกันว่าอยู่ได้อย่างไร ไม่ทราบว่าคุณกินข้าวหรือหยอดข้าวกันแน่ หรือทนอยู่แบบอดๆ อยากๆ รึเปล่าครับ... ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าอนาถมากเลยนะครับ ถ้าเป็นงานในบ้านเรา แม้เงินจะขาดมือแต่เราก็ไม่ต้องอดเพราะเรายังมีครอบครัวมีญาติพี่น้องที่ช่วยเหลือกันได้ แต่ไปอยู่ต่างถิ่นแล้วเจอแบบนี้ใครก็ช่วยเหลือเราไม่ได้หรอกครับ เพราะเช่นนี้ ผมถึงอยากกลับมาใช้ชีวิตวัยทำงานที่บ้านเกิดตัวเองไงครับ แต่ก็ต้องผิดหวังกับการเอารัดเอาเปรียบของนายจ้างนายทุนที่ไม่อู้กำเมืองมาจากต่างถิ่นหลายราย...

+999999999999999999999999999999999999999999999999999999999999999999999
IP : บันทึกการเข้า
mammon
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 926


Mammon@Easy IT


« ตอบ #55 เมื่อ: วันที่ 04 มีนาคม 2012, 11:18:31 »

เมื่อไหร่ที่รวมกลุ่มกันได้เมื่อนั้นพวกทำนาบนหลังคนมันจะรู้สำนึกซะมั่ง
IP : บันทึกการเข้า


รับทำระบบเซิฟเวอร์หอพักระบบไร้สายรับปรึกษาปัญหาตู้สล๊อตและตู้ยิงปลา ฟรี Tel. 089-432
juyue
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #56 เมื่อ: วันที่ 08 มีนาคม 2012, 09:27:37 »

 ๑)กฏหมายค่าแรงขั้นต่ำที่รัฐบาลกำหนดไว้นั้น  เป็นอัตราที่กำหนดกฏเกณฑ์ไว้ให้ลูกจ้างไม่ถูกเอาเปรียบจากนายจ้าง
 ๒)ในความเป็นจริงแล้ว   นายจ้างทุกแห่งต้องการคนดี-คนเก่ง  อยู่ช่วยเหลือตนเองให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้   โดยให้เงินค่าจ้างเท่ากับหรือมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว   ยกตัวอย่างเช่นเจ้าของบ้านต้องการคนช่วยเหลือทำงานบ้าน  เมื่อได้คนดี-คนเก่งอยู่กับตนก็จะต้องพยายามให้ทั้งเงินและสวัสดิการต่างๆเพื่อจูงใจให้อยู่นานๆ  หากเจ้านายไม่ดี-ไม่เอาไหน  ลูกจ้างได้รับค่าจ้างเท่าไหร่ๆๆ  ก็ไม่มีใครอยู่ด้วย   แต่หากลูกจ้างเป็นคนไม่ดี-ไม่เก่ง-ไม่มีน้ำใจ-ไม่รู้จักศีลห้า  อย่าว่าแต่ค่าแรงขั้นต่ำเลย  เงินเท่าไหร่นายจ้างก็ไม่จ้างให้เสียเวลา
  ๓)ฉนั้นในทางปฏิบัติและความเป็นจริง  ลูกจ้างต้องเป็นคนดี-คนเก่ง-อยู่ในธรรม  อยู่ที่ไหนๆก็เจริญได้-เงินเดือนจะได้มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำเสียอีก   และต้องไปอยู่ในที่ๆเจ้านายหรือนายจ้างเป็นคนดี-มีคุณธรรม-มีศีลธรรม-จริยะธรรมและรักษาศีลห้าด้วย
  ๔)ที่อ่านกระทู้มาทั้งหมด  เข้าข้างตัวกู-ของกูทั้งนั้น    หากตัวกูเป็นคนดี-มีธรรมะ-และเก่งด้วย  จะอยู่กับเจ้านายที่ไหนๆก็ได้เงินเดือนและได้เงินเกินค่าแรงขั้นต่ำอย่างแน่นอนอยู่แล้ว  ปริศนาธรรม  "ชี้นิ้วชี้ ๑ นิ้วด่าคนอื่น   แต่อีก ๓ นิ้วนั้นชี้เข้าหาตัวเอง"
  ๕)ฉนั้นก่อนที่จะไปว่า-ไปด่าใคร  ให้มองดูตนเองก่อน







IP : บันทึกการเข้า
จหมื่นไวยวรนารถ
ยิ้มทุกครั้ง ไม่ว่าจะเจอทุกข์หรือเป็นสุข
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,379


ความชั่วนั้นไม่มี ความดีก็เช่นกันไม่ปรากฎ


« ตอบ #57 เมื่อ: วันที่ 08 มีนาคม 2012, 13:36:07 »

ถ้าท่านเดือดร้อนกับค่าใช้จ่าย กับเงินเดือนที่ไม่ยุติธรรม
ท่านอ้างสถานการณ์ต่างๆนานามาพูด

ถ้าเดือดร้อนจริงๆ ก็ต้องอดทน หางาน หรือก็ไปเป็นเจ้าของเอง

คนเราก็ควรเดินทาง ต่อสู้ ไม่ว่า จะปากกัดตีนถีบ ก็ต้องทำ
ท่านเคยเห็นเจ้าของธนาคารหลายๆที่ เจ้าของกิจการหลายๆที่ เขาก็ไม่ได้รวยมาจากไหน บางท่านมาเมืองไทย หามน้ำแลกเงิน เอาหินทอดกับน้ำมันกินกับข้าวเปล่า
เคยเห็นชาวเขาที่ไม่มีความรู้ทางการศึกษาไหมครับ เขาอดทนกับงานพื้นราบมากๆ
มากกว่าท่านๆในนี้ด้วยซ้ำ แล้วพวกท่านก็ยังไม่รู้ตัวอีกนะครับ อีก 3 ปีกว่าๆก้เข้าสู่สมาคมอาเซ๊ยนแล้ว ท่านที่ไม่เก่งพอ ก็อย่าหวังได้งานครับ เพราะพวกต่างชาติที่เข้ามา เก่งๆทั้งนั้น ยิ่งเป้นภาษาละก้อ ไม่ต้องพูดครับ บ้านเราไม่ได้เทียบเขาได้เลย
แล้วจะหวังเงินเดือนที่สมกับความรู้ที่เรียนมา เงินกู้ที่ได้กู้มา ก็อย่าหวังเลยครับ
คนเราเกิดมาก็ใช่ว่าจะมีอะไรติดตัวมา และบั้นปลายชีวิตก็ไม่มีอะไรเช่นกัน
หวังว่า ทุกท่านจะมีความพยายาม ต่อสู้ อดทน ต่ออุปสรรคต่างๆที่เข้ามาไม่ว่าจะเป็น เจ้านายที่ไม่ดี เงินเดือนที่น้อย งานที่ไม่ได้เกี่ยวกับงาน

ใครที่ไม่มีงานก็ช่วยกัน หางานให้กันครับ ผ่านไปเห็นมาก็มาโพสไว้ครับ
อยากให้บอร์ดแห่งนี้ เป็นที่จุนเจือคนบ้านเชียงราย บ้านใกล้เคียงกัน อย่างที่ปู่ย่าตายายของพวกเราที่เกื้อกูลกันมาโดยตลอด

การเข้ามาในการเขียนในครั้งนี้ ใช่ว่าจะตอบโต้ใครๆ หรือเข้าข้างใครๆ
แต่ยังไงพวกเราก็คือคนไทยด้วยกัน อย่าได้มีการวิวาทะจนเกิดการโต้แย้งที่เกินเลยครับ

ขอบคุรครับ

ติ่ว
IP : บันทึกการเข้า

ไผยะฮาจัง ฮาจังเต๊าต๋าย ไผยะฮาเสียใจ๋ ถึงฮาต๋ายฮาตึงบะใจ้ลืม

mammon
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 926


Mammon@Easy IT


« ตอบ #58 เมื่อ: วันที่ 11 มีนาคม 2012, 11:42:10 »

ประเทศที่พัฒนาแล้วเค้าทำงานเพื่อเก็บเงินครับส่วนบ้านเราทำงานเพื่อใช้หนี้
IP : บันทึกการเข้า


รับทำระบบเซิฟเวอร์หอพักระบบไร้สายรับปรึกษาปัญหาตู้สล๊อตและตู้ยิงปลา ฟรี Tel. 089-432
911
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,126



« ตอบ #59 เมื่อ: วันที่ 11 มีนาคม 2012, 13:08:42 »

ประเทศที่พัฒนาแล้วเค้าทำงานเพื่อเก็บเงินครับส่วนบ้านเราทำงานเพื่อใช้หนี้

หนี้ที่ว่า บางทีผมเห็นหลายคนที่สร้างหนี้ไร้สาระ เช่น โทรศัพท์มือถือรุ่นแพงๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าดีๆ รถแพงๆ เสื้อผ้าแพงๆ กินๆเที่ยวๆ ฯลฯ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมาทำงานใช้หนี้ แล้วก็มาบ่นๆๆๆ ว่าเงินไ่ม่พอใช้ ก็แหงสิครับ แบบนี้ผมสงสารไม่ลง บางคนใช้โทรศัพท์แพงกว่าผม เสื้อผ้าดีกว่าผม รถดีกว่าผม แล้วมาขอยืมตังค์กันใช้ มันน่ามั้ยล่ะ

คนที่มีเงินเยอะๆ เค้าไ่ม่ยึดติดกับสิ่งของพวกนี้หรอกครับ เงินนอกจากมีไว้ซื้อของแล้ว มันยังมีไว้ลงทุน ใครคิดได้ก่อนก็รวยก่อน

หลายคนที่บอกว่าต้องกู้เงินมาเรียน บางคนครอบครัวก็ลำบากจริงๆ ต้องกู้เงินมาเรียน แล้วก็ตั้งใจเรียน อันนี้ผมเห็นใจนะ แต่ผมก็เห็นอีกหลายๆคน (คนใกล้ๆตัวแล้วก็พวกเด็กๆที่มาเช่าหอพักแถวๆบ้าน) ที่พอเงินกู้ออก ก็จะไปถอยโทรศัพท์ใหม่ ซื้อเสื้อผ้า แต่งรถมอไซค์ กินเหล้ากับเพื่อนๆ พอเรียนจบออกไปทำงาน ก็บอกมีหนี้ติดตัว เฮ้ออ..

นานาจิตตังนะครับ


IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!