งั้นผมขอใช้กระทู้นี้แนะนำ พื้นเพจังหวัดนี้หน่อยแล้วกันครับ เผื่อมีท่านใดสนใจไปเที่ยว..

เมืองสกลนครที่น่าท่องเที่ยว ทั้งทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม ประชาชนที่อาสัยอยู่มีหลายเผ่า ทั้งญ้อ ภูไท กะเลิง
ซึ่งจะมีพื้นฐานวัฒนธรรมต่างกัน แต่ก็อยู่ด้วยกันอย่างปกติสุข สกลนคร เป็นเมืองพุทธศาสน์ พระธาตุห้าแห่ง
แหล่งอารยธรรมสามพันปี ตามตำนานเล่าว่า เมืองหนองหานหลวงในอดีต หรือสกลนครในปัจจุบันนั้น
สร้างขึ้นเมื่อพุทธศตวรรษที่ 16 ในยุคที่ขอมมีอำนาจในดินแดนนี้ ต่อมาเมื่ออิทธิพลขอมเสื่อมลง
เมืองหนองหานหลวงตกไปอยู่ในความปกครองของอาณาจักรล้านช้าง เรียกชื่อเมืองว่า “เมืองเชียงใหม่หนองหาน”
และเมื่อมาอยู่ในความปกครองของไทย ได้เปลี่ยนชื่อเป็น
“เมืองสกลทวาปี” ต่อมา ในปี พ.ศ. 2373
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เปลี่ยนชื่อจากเมืองสกลทวาปี เป็น “เมืองสกลนคร”
ในปัจจุบัน จังหวัดสกลนครยังได้รับการขนานนามว่าเป็น "แอ่งธรรมะแห่งอีสาน" ดังเห็นหลักฐาน
ได้จากวัดวาอารามเก่าแก่ที่มีอยู่มากมาย แสดงถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาที่มีมาตั้งแต่ครั้งอดีต
เป็นถิ่นกำเนิดและพำนักของอริยสงฆ์ที่สำคัญเป็นที่เคารพบูชา ของชาวไทยหลายท่าน อาทิ
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์วัน อุตตโม หลวงปู่หลุย จันทสาโร หลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี เป็นต้น
หลวงปู่แหวนก็เป็นศิษย์สายนี้เหมือนกัน ยอกจานี้ยังเป็นถิ่นผ้าใหมขึ้นชื่อแห่งนึงเหมือนกันครับ
มีพระตำนักภูพานราชนิเวศน์ ตั้งอยู่บนภูพานใกล้กับอุทยานแช่งชาติภูพาน ที่เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์
ในการต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์ไทยตอนนั้นกระทั่ง เสรีไทย ก็ยังมีถ้ำเสรีไทยให้เห็น และสำหรับใคร
ที่ชอบท่องเที่ยวดูระบบนิเวทศ์ทางน้ำก็ยังมีทะเลสาบน้ำจืด "หนองหาน" ที่ยังมีความหลากหลายทางพันธุ์กรรมอยู่
โดยเฉพาะนกน้ำหนองหาร ถ้ามีโอกาสผมว่าจะไปถ่ายอยู่มีเยอะมาก ไม่แพ้ ทะเลน้อย พัทลุง หรือบึงบอระเพ็ดเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีพระธาตุเชิงชุมเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของสกลนคร พระธาตุนาเวง มีพระธาตุภูเพ็กและที่วัดนี้
ยังมีปฏิทินทางจันทรคติที่แม่นยำอีกด้วย และอื่นๆ อีกมากมายที่จะบรรยายในที่นี้หมด ถ้ามีโอกาสก็เชิญแวะเที่ยวดูครับ