กรรมชั่วที่เราทำด้วยเจตนา ทางกาย ทางวาจา หรือทางใจก็ตาม
ถึงเราจะไม่สามารถลบล้างได้ แต่เราสามารถทำกรรมดี
ทำดีให้มากๆ หรือดีอันยิ่งใหญ่ เพื่อไม่ให้กรรมชั่วบางชนิดมีโอกาสให้ผล
หรืออาจจะเข้าไปตัดรอนกรรมชั่วนั้นลงได้โดยเด็ดขาด ( อุปฆาตกกรรม)
หรือเข้าไปลดกรรมชั่วนั้นให้มีโอกาสให้ผลน้อยลง เบาบางลง (อุปปีฬกกรรม)
อีกทั้งกรรมดีที่เราทำนั้นก็จะไปสนับสนุนกรรมดีที่เรามีอยู่
ให้มีโอกาสให้ผลเต็มที่ (อุปัตถัมภกรรม)
เหมือนดังพระบรมราโชวาทในลักษณะที่ว่า
"เราไม่สามารถทำทุกคนให้เป็น คนดีได้ทั้งหมด
แต่เราต้องสนับสนุนคนดีให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง
เพื่อป้องกันคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ "
ฉะนั้น เราไม่สามารถล้างกรรมชั่วได้ทั้งหมด
แต่เราสามารถทำกรรมดี เพื่อให้กรรมดีมีอำนาจมากกว่ากรรมชั่ว
ไม่ให้กรรมชั่วมีอำนาจมากกว่า หรือไม่ให้กรรมชั่วมีโอกาสให้ผลได้
เมื่อเราทำกรรมดีมากๆ ดีอย่างที่สุด ดีอย่างยิ่งใหญ่
กรรมดีที่เราทำนั่นแหล่ะ จะเข้าไปตัดรอน
เข้าไปเบียดเบียนกรรมชั่ว ไม่ให้กรรมชั่วมีโอกาสให้ผลได้
ตัวอย่างในสมัยพุทธกาล ก็อย่างเช่น ท่านองคุลิมาล
ฆ่าคนมาเป็นร้อยเป็นพันคน แต่ทำกรรมดีอันยิ่งใหญ่คือ อรหันตมรรค อรหันตผล
ซึ่งกรรมชั่วที่จะนำไปสู่อบายภูมิเป็นอันไม่มี กลายเป็นอโหสิกรรมไป
(กรรมที่ไม่มีโอกาสให้ผล หรือให้ผลไม่ทัน หรือกรรมที่ผ่านพ้นไปแล้ว)
เพียงมีแต่เศษกรรมเล็กๆ น้อยเท่านั้น แต่นั่น
การทำความดี นั่นแหล่ะ ดีที่สุด
*************************************************
คัดลอกจาก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=22904