ระบบตำรวจของประเทศญี่ปุ่นว่า เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อมีการปฏิรูปประเทศในสมัยเมจิ ปี ค.ศ. 1867 (พ.ศ.2410) ในยุคนั้นตำรวจญี่ปุ่นมีลักษณะการดำเนินการที่รวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลาง และให้ตำรวจมีอำนาจมาก หลังสงครามโลกครั้งที่สองในปี ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) ภายใต้การกำกับของสหรัฐอเมริกาจึงเกิดการปฏิรูประบบตำรวจเป็นครั้งแรก โดยกระจายอำนาจไปยังหน่วยตำรวจประจำเมืองหรือที่เรียกว่า Municipal police ซึ่งมี 1,600 แห่ง แต่ต่อมาพบว่าเกิดปัญหาการขาดประสิทธิภาพและความเข้มแข็งลดลง จึงเกิดการปฏิรูปอีกครั้งในปี ค.ศ.1952 (พ.ศ.2495) โดยปรับโครงสร้างระบบตำรวจให้มี 2 ระดับ คือ หน่วยงานในระดับชาติ ที่เรียกว่า National Police Agency มีจำนวน 1 หน่วยงาน และในระดับจังหวัดที่เรียกว่า Prefecture Police มี 47 หน่วยงานเท่ากับจำนวนของจังหวัดNational Police Agency [NPA] อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการด้านความปลอดภัยสาธารณะ [National Public Safty Commission] จำนวน 6 คนที่มาจากการแต่งตั้งของนายกรัฐมนตรีและรับรองโดยรัฐสภา แต่ไม่มีสายงานที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อให้ตำรวจมีความเป็นกลางทางการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งตำรวจในปัจจุบันไม่สามารถจะเป็นกรรมการในชุดนี้ได้ โดยกรรมการด้านความปลอดภัยสาธารณะมักจะเป็นนักกฎหมาย นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ วิศวกร หมอ หรือเอ็นจีโอ
NPA ไม่มีกิจกรรมใดๆในด้านตำรวจ (เว้นแต่ทำหน้าที่องครักษ์ถวายความปลอดภัยแด่องค์จักรพรรดิและพระราชวงศ์) แต่จะทำงานด้านการสร้างระบบและจัดระเบียบ รวมทั้งการเสนอกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เสนอปัจจัยพื้นฐานเพื่อกิจการตำรวจ เช่นอุปกรณ์เครื่องใช้ เทคนิค จัดทำสถิติอาชญากรรม เก็บลายนิ้วมือประชาชน จัดเงินอุดหนุนให้แก่หน่วยงานตำรวจจังหวัด และประสานงานระหว่างหน่วยงานตำรวจจังหวัด
Prefecture Police [PP] อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการด้านความปลอดภัยสาธารณะระดับจังหวัด [Prefecture Public Safety Commission] จำนวน 3-5 คนที่มาจากการแต่งตั้งของผู้ว่าการจังหวัดและผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการระดับจังหวัด โดยกรรมการด้านความปลอดภัยสาธารณะระดับจังหวัดมักจะเป็นนักกฎหมาย นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ วิศวกร หมอ หรือเอ็นจีโอ เช่นเดียวกับระดับชาติ
PP มีหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวน ดูแลความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย งานจราจร ออกใบอนุญาตสถานบันเทิง ใบขับขี่รถยนต์ ฯลฯ แต่ละหน่วยรับผิดชอบในพื้นที่ของตนและเป็นอิสระไม่ขึ้นต่อกัน แต่สามารถจะทำงานข้ามเขตได้ในกรณีติดตามจับคนร้าย เป็นต้น และต้องทำงานประสานกับตำรวจจังหวัดอื่นๆด้วย ขนาดของหน่วยงานมีความแตกต่างกัน เช่นหน่วยงานตำรวจจังหวัดของโตเกียวมีเจ้าหน้าที่ 42,223 คน ส่วนตำรวจจังหวัดทอตโตริมีจำนวน 1,190 คน เป็นต้น
ในด้านบุคลากรตำรวจญี่ปุ่นนั้นไม่มียศ (เช่น นายดาบตำรวจ ร้อยตำรวจ พันตำรวจ และนายพลตำรวจ เป็นต้น) แต่จะมีตำแหน่ง เช่นผู้บังคับหน่วยเล็กที่สุดคือ Police Sergent และสูงขึ้นไปเป็นลำดับคือ Police Inspector, Chief Superintendent, Superintendent General เป็นต้น ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้เทียบได้กับ รองสารวัตร สารวัตร รองผู้กำกับการ และผู้กำกับการ
การรับสมัครนั้นแต่ละ Prefecture Police ต่างรับสมัครเจ้าหน้าที่ของตนเอง ซึ่งไม่สามารถโอนย้ายข้ามจังหวัดได้ ก่อนเลื่อนตำแหน่งแต่ละขั้นจะต้องผ่านการฝึกอบรม และสำหรับค่าตอบแทนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจะมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 240,000 เยน หรือประมาณ 80,000 บาท ซึ่งสูงกว่าข้าราชการพลเรือนทั่วไปประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์
กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นทั่วประเทศมีประมาณ 270,000 คน ร้อยละ 97.4 ประจำอยู่ที่จังหวัด มีประมาณ 7,000 คนเท่านั้นที่อยู่กับ NPA ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะทำงานในด้านการสื่อสารโทรคมนาคม
ญี่ปุ่นมีตำรวจรถไฟ มีตำรวจท่องเที่ยว มีตำรวจทางหลวง ด้วย แต่ตำรวจเหล่านั้นจะขึ้นกับกระทรวงอื่นๆ เช่น ตำรวจน้ำจะขึ้นกับกระทรวงคมนาคม เป็นต้น และยังมีหน่วยตำรวจพิเศษคือหน่วยปราบปรามยาเสพติดอีกด้วย
สำหรับการลงโทษเมื่อตำรวจทำผิดนั้น ไม่มีการย้ายไปไว้ที่อื่น เพราะแต่ละหน่วยงานแต่ละจังหวัดเป็นอิสระต่อกัน ดังนั้นหากทำผิดร้ายแรงก็จะให้ออกหรือไล่ออกอย่างเดียว และจะไม่สามารถไปสมัครเป็นตำรวจที่หน่วยงานอื่นได้อีก
อ้างอิงจาก
http://www.fpps.or.th/news.php?detail=n1172092967.newsภาพประกอบจาก
http://www.jeducation.com/THAI/sign/33_police/police.htm