การรับน้องในมหาวิทยาลัย
เป็นกิจกรรมที่ใช้ละลายพฤติกรรมของนักศึกษาใหม่ที่จะเข้ามาสู่สังคม ของคนที่จะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
ถ้าคุณรับแรงกดดันตรงนี้ไม่ได้ เวลาคุณเรียนจบมา คุณจะรับแรงเสียดทานของสังคมและสภาพแวดล้อมรอบตัวได้อย่างไร
เขาให้ทำอะไรก็ทำไปครับ อย่าไปเครียดมาก เจ็บหัว
กิจกรรมละลายพฤติกรรม ฟังแล้วมันก็ไม่จำเป็นหรอก ไม่ใช่ว่าเขาเรียนมัธยมเข้ามาแล้วพฤติกรรมเขาจะใช้ไม่ได้ แล้วจะมีมัธยมไปทำไม ในเมื่อเข้ามาแล้วจะโดนละลาย สลายให้หัดกลัวเกรงเครรพรุ่นพี่ เป็นเมืองนอกเขาไม่ทำกัน เขาคือเพื่อนร่วมสถาบันที่รักไคร่กัน คนเราควรเป็นตัวของตัวเอง รุ่นพี่ไม่ควรมาบังคับขู่เข็น เคยได้ยินการกลั่งแกล้ง กินเหล้า เอาหัวพุ่งขวิดทราย ตายบ้างก็มี เข้าสู่โลกยุคใหม่ได้ก็ดี ประเภณีก็อีกข้ออ้าง อะไรไม่ดีก็เปลี่ยนแปลงกันได้ ซึ่งประเทศไทยก็ควรจะเป็นแบบนั้น
การเคารพผู้สูงอายุนั้นก็อีกเรื่อง แต่การเคารพรุ่นพี่ ก้มหัวโดนสับโขกในการละลายพฤติกรรมนั้น มันไม่ใช่ประเทศที่ดีๆ เขาทำกัน
Chiang Rai Focus ก็เช่นกัน พี่หรือน้องก็ควรเท่าเทียมกันในด้านความคิด การแสดงออกในกรอบของกฎมิใช่หรือ
การละลายพฤติกรรมในแง่ของการรับน้อง มีเหตุจาก เด็กแต่ละคน มาจากหลายๆสถาบัน มาจากหลากหลายฐานะความเป็นอยู่ บางคนก็มีทิฐิติดตัวมาเพราะเคยอยู่โรงเรียนใหญ่โต
การละลายพฤติกรรมของน้องใหม่ คือการให้ทุกคนกลับไปอยู่ที่ 0 แล้วเริ่มต้นนับหนึ่งไปพร้อมๆกับเพื่อนๆ เคารพรุ่นพี่ เคารพครูบาอาจารย์ มีป้ายชื่อคล้องคอเพราะจะได้รู้จักกันได้ง่าย มีพวกว๊ากเกอร์มาคอยกดดัน ทำให้น้องๆลำบากกายลำบากใจ เพื่อสร้างความสามัคคีกลมเกลียวในหมู่เพื่อน (ใครผ่านระบบว๊ากมาก็คงจะรู้ว่าถ้าแตกสามัคคีกันเมื่อไรก็โดนทำโทษหนักทั้งกลุ่ม)
เหรียญมันมีสองด้าน ด้านที่สร้างสรรค์ก็มี ส่วนด้านที่แย่ๆอย่างในข่าวมันก็มี เพราะขาดการควบคุมดูแลจากอาจารย์ ทำให้กลายเป็นการรับน้องเพื่อความสะใจ
แต่ในคณะที่เราจบมา คนจะเป็นว๊ากเกอร์ได้นั้นไม่ใช่แค่หน้าโหดอย่างเดียวแล้วจะเป็นได้นะ ต้องมีการสอบคัดเลือก สอบสัมภาษณ์ และอาจารย์ลงมาคัดตัวอีกรอบ
การละลายพฤติกรรมเป็นศัพท์หรูไป น่าจะเรียกว่าเป็นการ ขู่ให้เกรงกลัวไม่กร่างเสียมากกว่า แถมกับโชว์พาวไปด้วย ลึกๆแล้วเป็นการตอบสนองความต้องการของรุ่นพี่เพราะมันรู้สึกสะใจรู้สึกถึงความสำคัญของตัวเอง high self realization แต่พวกเขาไม่รู้ตัวหรอก แถมยังมีคำว่าประเพณีมาช่วยหนุนอีกแรง