
ขอคำวิจารณ์ และความรู้สึกเวลาดู้ดวยครับ
ขอบคุณคัรบ
การวิจารณ์ไม่มีถูก ไม่มีผิดนะครับ เพราะมุมมองแต่ละท่านไม่เหมือนกัน
...อันดับแรก ภาพนี้ตั้งชื่อว่าอะไร เพื่อจะได้มีมุมมองที่แคบลง
...อันดับ 2 พระเอกของภาพนี้อยู่ตรงไหน
...อันดับ 3 ภาพนี้เล่าเรื่องราวอะไร
......ถ้าหากถ่ายภาพจบที่กล้อง เรื่องราวจะหลากหลายมากมาย
......ภาพนี้เปรียบคล้ายกับเอาไฟฉายส่องที่ใบหน้าคน เหมือนตอนเด็ก ที่เราเล่นหลอกหลอนกัน
......จะมีสีเหลืองของแสงไฟฉาย สีขาวใบหน้าที่แสงส่องจัดๆ สีน้ำตาลของผิวหน้า และสีดำของความมืดหรือเส้นผม ภาพนี้มีแสงสีเช่นเดียวกันครับ ดูแล้วน่ากลัว เส้นสายไม่เป็นระเบียบ ดูแล้วน่ากลัว ถ้าเป็นจุดประสงค์ของภาพ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีนะครับ ได้อารมณ์คล้อยตาม
...แต่ผมชอบดูภาพสวยๆ งามๆ นะครับ อิ อิ.
......ภาพนี้สวยนะครับ อยู่ที่การตั้งชื่อให้เหมาะสมกับภาพ
...ต้นไม้ทั้ง 2 ต้น ตรงตามหลักตาราง 9 ช่องของการจัดองค์ประกอบครับ แต่ขxitนาดทรงพุ่มเกือบเท่ากัน เรียกว่าพระรองเกือบแย่งซีนพระเอก ประมาณนี้ครับ
...การถ่ายภาพกลางคืนยากกว่าตอนกลางวัน เพราะข้อจำกัดของแสง ภาพจะสวยสดใสที่สุดเมื่อมีแสงพระอาทิตย์ครับ
...ขออนุญาตเปรียบเทียบของผมดูนะครับ ถ่ายภาพ RAW จบด้วยโปรแกรม
...ภาพมี 2 ประเภทครับ จบในกล้องเรียกว่าภาพถ่าย จบในโปรแกรมเรียกว่าภาพแต่ง...
...ภาพแรกเป็นภาพจากไฟล์ RAW ดิบๆ กากๆ

...ภาพ 2 Crop และตบแต่งจากโปรแกรม Lightroom , Photoshop , LOMO ลบป้าย และเสาไฟฟ้าออกไปครับ มันรกตา อิ อิ.

...ตั้งชื่อภาพว่า "แสงไฟลูบไล้ ดอกไม้งามๆ"
...เล่าเรื่องราว"ในเช้าตรู่วันหนึ่งในฤดูหนาว ท่ามกลางสายหมอกหนา ไฟประดับก็ยังคงส่องแสงอาบไล้ไปทั่ว เหล่ามวลดอกไม้ชูช่อรอรับแสงไฟและน้ำค้าง นับเป็นรุ่งอรุณที่น่า รื่นรมณ์เบิกบานยิ่ง"...
...มาวิเคราะภาพกัน...
...ภาพแรก RAW กากๆ ภาพชัดไปทั่ว พระเอกอาจเป็นดอกไม้หรือต้นไม้ประดับไฟก็ไม่ทราบ อาจเป็นเสาไฟฟ้า หรือป้ายสีเขียวฟ้าก็ได้ เพราะสีแจ๊ดฟ้องออกมาว่าเด่นกว่านะครับ ทำให้ดึงสายตาทันทีที่มองดูภาพ.
...ภาพ 2 หน้าชัดหลังเบลอ บอกได้ทันทีพระเอกคือต้นไม้ นั่นคือมองปุ๊บ ไปที่ต้นไม้ทันทีนั่นคือพระเอก ส่วนดอกไม้มองไม่ชัดคือพระรอง สิ่งที่ขาดไม่ได้คือเส้นนำสายตา ทำให้รู้ว่ากิ่งไม้ยังยื่นยาวต่อไปอีก แสดงถึงความยิ่งใหญ่อลังการ์(กล้องมุมต่ำ = ยิ่งใหญ่อลังการ์ เจ้าบ่าวเจ้่าสาวเดินเข้าสู่ห้องพิธี ถ่ายด้วยกล้อมมุมต่ำ..แหล่ม.)
...ฉากหลังเรืองรอง เบลอๆ เหมือนหมอกหนาในยามเช้า นั่นคือ มิติความใกล้ไกล ผิดกับภาพแรกไม่มีมิติ เพราะภาพชัดเจนเท่าเทียมกัน ภาพจึงแบนๆ ไม่มีมิติความใกล้ไกล
...ผมมักเน้นให้ท่านที่เล่นกล้อง DLSR พยายามถ่ายภาพ RAW และศึกษาโปรแกรมตบแต่งภาพให้มากไว้ ซึ่งมีประโยขน์มากมาย Lightroom(Lr) สำหรับแต่งแสงสี บาลานซ์ Photoshop(Ps) เพิ่ม-ลบสิ่งต่างๆ ในภาพเพื่อเสริมสร้างจินตนาการโดยไม่มีที่สิ้นสุดครับ
...คำอธิบายที่กล่าวมาข้างต้น มิบังอาจสอนผู้รู้มาแล้ว เพียงแต่หวังว่ามือใหม่แวะเข้ามาชม จะได้รับความรู้ในการเล่นกล้องได้อย่างมั่นใจเท่านั้นเองนะครับ
...ท้ายสุดการวิจารณ์ถ้าหากขัดกับความรู้สึกของท่าน ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ
...เจ้าของกระทู้ต้องพร้อมรับได้ทั้งคำติและคำชม เช่นเดียวกับภาพผมที่แสดงบางท่านก็ชอบ บางท่านก็ไม่ชอบ เป็นไปได้เหมือนกัน ต่างกันเพียงคนชอบมากหรือน้อยกว่าคนไม่ชอบเท่านั้นเองครับ