เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 กรกฎาคม 2025, 13:51:21
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  นักลงทุน การเงิน การธนาคาร
| | |-+  >>>ห้องนักลงทุนฯเปิดแล้ว 28 พ.ค.2554<<<
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 พิมพ์
ผู้เขียน >>>ห้องนักลงทุนฯเปิดแล้ว 28 พ.ค.2554<<<  (อ่าน 10594 ครั้ง)
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #40 เมื่อ: วันที่ 03 มิถุนายน 2011, 22:43:00 »

มีอะไรให้ลงทุนบ้าง

บ.ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้ง ห้า ถึงหกร้อยได้ ถ้าชอบขาเก็งกำไรก็ TFET AFET โอ้ยเยอะครับ...ว่าแต่จะเอาจริงเอาจังกับมันแค่ไหน..
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #41 เมื่อ: วันที่ 03 มิถุนายน 2011, 22:52:28 »

พอดีคนรู้จักเค้าแนะนำอ่ะค่ะ เค้าใช้อยู่...บอกว่าเป็นบริษัทเก่าแก่เชื่อถือได้ ยิงฟันยิ้ม พี่ใช้ของเชียงรายเหรอคะ?? ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้ว่าที่เชียงรายก็มี ก็เลยเปิดที่ กทม  ลังเล ไม่เคยมีประสบการณ์ในห้องค้าอีกต่างหาก เหะๆ แบบว่ามือใหม่...ไว้วันไหนจะลากพี่ชายไปดูด้วยกัน ว่าแต่มันอยู่ที่ไหนเหรอคะ??
โห บ่น่าเชื่อ นลท.รายใหญ่จะบ่ฮู้ว่าเจียงฮายมีโบรคไหนบ้าง
มี cgs   ที่ประตูสลี
มี asiaplus  บนธนาคารกรุงเทพ ห้าแยก
มี kgi  ที่หลัง รร.ดำรงค์
มีอีก 2 บริษัท จำบ่ได้ บนธนาคารนครหลวงไทยและธนาคารกรุงไทย ห้าแยก

ท่านเปาใช้บริการของ cgs ใช่ไหมเอ่ย ...? ยิงฟันยิ้ม
ผมนะแฟนพันธุ์แท้ เปิดบัญชีเกือบทุกโบรค เหลือ 2 โบรคของท่านนาฤทธิ์และท่านสมชายยังบ่ได้ไปเปิด อิอิ
IP : บันทึกการเข้า
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,910



« ตอบ #42 เมื่อ: วันที่ 03 มิถุนายน 2011, 22:57:16 »

พอดีคนรู้จักเค้าแนะนำอ่ะค่ะ เค้าใช้อยู่...บอกว่าเป็นบริษัทเก่าแก่เชื่อถือได้ ยิงฟันยิ้ม พี่ใช้ของเชียงรายเหรอคะ?? ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้ว่าที่เชียงรายก็มี ก็เลยเปิดที่ กทม  ลังเล ไม่เคยมีประสบการณ์ในห้องค้าอีกต่างหาก เหะๆ แบบว่ามือใหม่...ไว้วันไหนจะลากพี่ชายไปดูด้วยกัน ว่าแต่มันอยู่ที่ไหนเหรอคะ??
โห บ่น่าเชื่อ นลท.รายใหญ่จะบ่ฮู้ว่าเจียงฮายมีโบรคไหนบ้าง
มี cgs   ที่ประตูสลี
มี asiaplus  บนธนาคารกรุงเทพ ห้าแยก
มี kgi  ที่หลัง รร.ดำรงค์
มีอีก 2 บริษัท จำบ่ได้ บนธนาคารนครหลวงไทยและธนาคารกรุงไทย ห้าแยก

ท่านเปาใช้บริการของ cgs ใช่ไหมเอ่ย ...? ยิงฟันยิ้ม
ผมนะแฟนพันธุ์แท้ เปิดบัญชีเกือบทุกโบรค เหลือ 2 โบรคของท่านนาฤทธิ์และท่านสมชายยังบ่ได้ไปเปิด อิอิ

อยากทราบว่า ทำไมต้องเปิดหลายๆที่ด้วยครับ

เปิดที่เดียวไม่ได้หรือครับ

พออธิบายง่ายๆได้ไหมครับผม
IP : บันทึกการเข้า

....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #43 เมื่อ: วันที่ 03 มิถุนายน 2011, 23:01:29 »

พอดีคนรู้จักเค้าแนะนำอ่ะค่ะ เค้าใช้อยู่...บอกว่าเป็นบริษัทเก่าแก่เชื่อถือได้ ยิงฟันยิ้ม พี่ใช้ของเชียงรายเหรอคะ?? ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้ว่าที่เชียงรายก็มี ก็เลยเปิดที่ กทม  ลังเล ไม่เคยมีประสบการณ์ในห้องค้าอีกต่างหาก เหะๆ แบบว่ามือใหม่...ไว้วันไหนจะลากพี่ชายไปดูด้วยกัน ว่าแต่มันอยู่ที่ไหนเหรอคะ??
โห บ่น่าเชื่อ นลท.รายใหญ่จะบ่ฮู้ว่าเจียงฮายมีโบรคไหนบ้าง
มี cgs   ที่ประตูสลี
มี asiaplus  บนธนาคารกรุงเทพ ห้าแยก
มี kgi  ที่หลัง รร.ดำรงค์
มีอีก 2 บริษัท จำบ่ได้ บนธนาคารนครหลวงไทยและธนาคารกรุงไทย ห้าแยก

ท่านเปาใช้บริการของ cgs ใช่ไหมเอ่ย ...? ยิงฟันยิ้ม
ผมนะแฟนพันธุ์แท้ เปิดบัญชีเกือบทุกโบรค เหลือ 2 โบรคของท่านนาฤทธิ์และท่านสมชายยังบ่ได้ไปเปิด อิอิ

อยากทราบว่า ทำไมต้องเปิดหลายๆที่ด้วยครับ

เปิดที่เดียวไม่ได้หรือครับ

พออธิบายง่ายๆได้ไหมครับผม
บ่มีหยังครับ แค่อยากไปดูว่าโบรคไหนมาร์ฯสวย  ยิงฟันยิ้ม
ล้อเล่น จะเปิดกี่โบรคได้ทั้งนั้น
IP : บันทึกการเข้า
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #44 เมื่อ: วันที่ 03 มิถุนายน 2011, 23:36:04 »

ระวังเขาบังคับขายเอาจะลำบากนะท่านเปา...  มาร์ฯ สวยๆ จะมาเป็นเสียวๆ แทน... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #45 เมื่อ: วันที่ 04 มิถุนายน 2011, 21:04:44 »

สำหรับผู้ที่สนใจการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ควรรู้ความเป็นมาสักนิดว่า ตลาดหลักทรัพย์ไทยเกิดขึ้นได้อย่างไร มีวัตถุประสงค์อะไร สำคัญอย่างไร  ยิงฟันยิ้ม

ประวัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2510 - 2514) ได้กำหนดการพัฒนาตลาดทุน เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 นั้น เน้นให้ตลาดทุนมีบทบาทที่สำคัญ คือการเป็นแหล่งระดมเงินทุน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ของประเทศ

พัฒนาการของตลาดทุนของไทยในยุคใหม่นั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ยุค คือ เริ่มจาก "ตลาดหุ้นกรุงเทพ" (Bangkok Stock Exchange) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชน และต่อมาเป็น "ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย" ภายใต้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "The Securities Exchange of Thailand" หรือ SET

การจัดตั้งตลาดหุ้นกรุงเทพ

การจัดตั้งตลาดหุ้นของไทยเริ่มขึ้น ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2505 ในรูปห้างหุ้นส่วนจำกัด โดยในปีต่อมา ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด และเปลี่ยนชื่อเป็น "ตลาดหุ้นกรุงเทพ" (Bangkok Stock Exchange)

ถึงแม้ว่าจะมีพื้นฐานในการจัดตั้งที่ดี การซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นกรุงเทพ ก็ไม่ได้รับความสนใจมากนัก มูลค่าการซื้อขายมีเพียง 160 ล้านบาทใน ปี พ.ศ. 2511 และ 114 ล้านบาทใน ปี พ.ศ. 2512 การซื้อขายมีปริมาณลดลงเป็น 46 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2513 และลดลงเหลือ 28 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2514 การซื้อขายหุ้นกู้มีมูลค่าถึง 87 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2515 แต่การซื้อขายหุ้น ก็ยังคงไม่เป็นที่สนใจ โดยมูลค่าการซื้อขายหุ้น ที่ต่ำสุดมีเพียง 26 ล้านบาทเท่านั้น และในที่สุดตลาดหุ้นกรุงเทพ ก็ต้องปิดกิจการลง

เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า ตลาดหุ้นกรุงเทพไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ ประกอบกับประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจที่เพียงพอในเรื่องตลาดทุน

การจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นกรุงเทพจะไม่ประสบความสำเร็จ แนวความคิดเกี่ยวกับการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ ที่มีระบบระเบียบและ ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการนั้น ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก ดังนั้น แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2510 - 2514) จึงได้เสนอแผนการจัดตั้งตลาดทุนดังกล่าวขึ้น เป็นครั้งแรก โดยให้มีเครื่องมืออำนวยความสะดวก และมาตรการสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เหมาะสม

ในปี พ.ศ. 2512 รัฐบาลได้ทำการว่าจ้าง ศาสตราจารย์ซิดนีย์ เอ็ม รอบบิ้นส์ ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาการเงิน จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา เพื่อมาทำการศึกษาช่องทางการพัฒนาตลาดทุนไทย

ในเวลาต่อมา ในปี พ.ศ. 2515 รัฐบาลได้เข้ามามีบทบาทโดยการแก้ไข "ประกาศคณะปฏิวัติ ที่ 58 เกี่ยวกับการควบคุมธุรกิจ การค้า ที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของประชาชน" การแก้ไขดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลสามารถกำกับดูแล การดำเนินงานของบริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์ ซึ่งทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีระเบียบและยุติธรรม

หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2517 ได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจะจัดให้มีแหล่งกลางสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ และการระดมเงินทุนในประเทศ ตามมาด้วยการแก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับรายได้ เพื่อให้สามารถนำเงินออม มาลงทุนในตลาดทุนได้ ในปี พ.ศ. 2518 รูปแบบทางกฎหมายต่างๆได้รับการปรับแก้จนลงตัว

ในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ชื่อภาษาอังกฤษในขณะนั้นคือ The Securities Exchange of Thailand) ได้เปิดทำการซื้อขายขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรก และได้ทำการเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษเป็น "The Stock Exchange of Thailand" (SET) เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2534

บทบาทของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 ได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากนั้นตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เริ่มเปิดทำการซื้อขายครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518 และได้ทำการเปลี่ยนชื่อ ภาษาอังกฤษจาก "The Securities Exchange of Thailand" เป็น "The Stock Exchange of Thailand" (SET) เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2534 ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ตลาดหลักทรัพย์มีบทบาทสำคัญ ดังนี้

1.ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียน และพัฒนาระบบต่างๆ ที่จำเป็น เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายหลักทรัพย์
2.ดำเนินธุรกิจใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ เช่น การทำหน้าที่เป็นสำนักหักบัญชี (Clearing House) ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ นายทะเบียนหลักทรัพย์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3.การดำเนินธุรกิจอื่นๆ ที่ได้รับความเห็นชอบ จากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์





* StockExchangeIMG.jpg (9.49 KB, 320x81 - ดู 250 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 05 มิถุนายน 2011, 12:51:59 โดย ซาลาเปา » IP : บันทึกการเข้า
vee48
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #46 เมื่อ: วันที่ 04 มิถุนายน 2011, 23:03:58 »

พี่เปาวันนี้พิมพ์เยอะเลย ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #47 เมื่อ: วันที่ 05 มิถุนายน 2011, 09:19:29 »

พี่เปาวันนี้พิมพ์เยอะเลย ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
พิมพ์เก่งขนาดนี้เลยเร้ออ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
vee48
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #48 เมื่อ: วันที่ 05 มิถุนายน 2011, 09:40:35 »

พี่เปาวันนี้พิมพ์เยอะเลย ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
พิมพ์เก่งขนาดนี้เลยเร้ออ  ยิงฟันยิ้ม

แสดงว่าไปยืมๆเค้ามา ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ก็ว่าทำไมเมื่อวานขยันพิมพ์จัง 555
IP : บันทึกการเข้า
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #49 เมื่อ: วันที่ 15 มิถุนายน 2011, 12:49:20 »

"ตลาดหุ้น" ที่ชาวบ้านซื้อขายหุ้นกันอยู่ทุกวันนี้จัดอยู่ในประเภท ตลาดรอง (Secondary Market) ของตลาดทุน

ส่วน ตลาดหลัก (Primary Market) จริงๆ ของตลาดทุนซึ่งเป็นตลาดที่กิจการทั้งหลายใช้ระดมทุนเพื่อขยายกิจการ คือ "ตลาด IPO" หรือที่เรานิยมเรียกกันติดปากว่า "หุ้นจอง" นั่นเอง

ตลาดหลักเป็นตลาดที่เม็ดเงินจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจภาคจริง เพราะเมื่อกิจการขายหุ้นจอง เงินที่ได้จะเข้าบริษัทเพื่อนำไปใช้ในกิจการ หลังจากนั้น บริษัทก็มักจะนำหุ้นของบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น เพื่อให้หุ้นของบริษัทกลายเป็นสินค้าตัวหนึ่งที่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือในตลาดหุ้นได้ หลังจากนี้แล้ว การซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหุ้นจะเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนมือไปมาระหว่าง นักลงทุนเท่านั้น ไม่ได้มีเม็ดเงินเข้าสู่บริษัทเพื่อนำไปใช้ในกิจการอีกต่อไป นั่นคือ สิ่งที่ใช้แยกความแตกต่างระหว่างตลาดหลักกับตลาดรอง ก็คือ เมื่อมีการขายหุ้นแล้ว เงินไปไหน ถ้าเป็นตลาดหลัก เงินจะเข้าสู่บริษัท แต่ถ้าเป็นตลาดรอง เงินจะเข้ากระเป๋าผู้ที่ขายหุ้น


ประเด็นนี้ทำให้มีบางคนกล่าวหาตลาดหุ้นว่าไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับสังคม เพราะเงินไม่ได้เข้าบริษัทเพื่อก่อให้เกิดการลงทุนในระบบเศรษฐกิจจริงๆ เงิน เพียงแต่ไหลจากกระเป๋าของนักลงทุนคนหนึ่งไปยังกระเป๋าของนักลงทุนอีกคนหนึ่งไปเรื่อยๆ เท่านั้น และนักลงทุนในตลาดหุ้นก็หากินด้วยการซื้อหุ้นมาในราคาหนึ่งแล้วขาย ออกไปในราคาที่สูงกว่าแล้วเก็บกำไรเข้ากระเป๋า บางคนถึงกับบอกว่าน่าจะยกเลิกตลาดหุ้นไปเลยเหลือไว้แต่ตลาด IPO ก็พอ


นั้นเป็นความคิดของคนที่อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ลองคิดดูว่า ถ้าหากไม่มีตลาดรอง ตลาดหลักจะอยู่ได้หรือไม่ คงแทบไม่เหลือนักลงทุนคนไหนที่จะกล้าซื้อหุ้นจองจากบริษัทอีกต่อไป เพราะนักลงทุนเหล่านั้นย่อมรู้ว่า เมื่อซื้อมาแล้วจะไม่สามารถขายหุ้นนั้นต่อให้ใครได้ หรือถ้าขายได้ก็มักต้องยอมขายขาดทุนมากๆ เพื่อให้มีใครสักคนยอมซื้อ ดังนั้น เหตุผลที่แท้จริงที่ต้องมีตลาดหุ้น ก็เพื่อให้ตลาดหลักสามารถดำรงอยู่ได้นั่นเอง


บางคนคิดว่าการที่รถยนต์มีตลาดมือสองนั้นทำให้ตลาดมือหนึ่งแย่ลง เพราะตลาดมือสองจะแย่งลูกค้าส่วนหนึ่งของตลาดมือหนึ่งไป แต่ที่จริงแล้ว ลองคิดดูว่า ถ้าผู้บริโภคซื้อรถยนต์มาแล้ว ห้ามขายต่อโดยเด็ดขาด จะมีผู้บริโภคที่กล้าซื้อรถยนต์มือหนึ่งมากขึ้นหรือน้อยลง ทุกวันนี้ มีคนส่วนหนึ่งที่กล้าซื้อรถใหม่บ่อยๆ ก็เพราะเขารู้ว่าเขาสามารถขายต่อในตลาดมือสองเมื่อไรก็ได้ ขาดทุนนิดหน่อยแสนสองแสนถือว่ากำไรใช้ เลยทำให้ตลาดรถใหม่ขายดี ฉันใดก็ฉันนั้น ตลาดรองช่วยส่งเสริมตลาดหลักด้วยการทำให้สินค้าของตลาดหลักกลายเป็นสินค้า ที่มีสภาพคล่องสูง คนที่ซื้อหุ้นจองไปแล้วหากวันดีคืนดีเกิดมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วนขึ้นมา ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะขายต่อให้ใครไม่ได้


นอกจากนี้ ยังมีบางคนอยากเห็นตลาดหุ้นมีแต่นักลงทุนระยะยาวอย่างเดียว ไม่มีนักเก็งกำไรระยะสั้น เพราะพวกเขามีทัศนคติในแง่ลบกับคำว่า "เก็งกำไร" แต่ที่จริงแล้ว ลองคิดดูให้ดี ถ้าในตลาดหุ้นมีแต่นักลงทุนทั้งหมด ไม่มีใครเป็นนักเก็งกำไรเลย สภาพคล่องในตลาดหุ้นคงหายไปมากกว่า 95% ถ้าการขายหุ้นออกในตลาดหุ้นกับการไปเร่ขายหุ้นด้วยตนเองนอกตลาดหุ้นมีความ ยากลำบากเท่ากันเพราะหาคนซื้อได้ยากก็ไม่รู้ว่าจะมีตลาดหุ้นเอาไว้เพื่ออะไร ดังนั้น ตลาดหุ้นที่มีคุณค่าต้องเป็นตลาดที่มีคน จำนวนหนึ่งในตลาดยินดีที่จะซื้อหรือขายหุ้นบ่อยๆ โดยแลกกับโอกาสทำกำไรเล็กๆ น้อยๆ ทุกวันเพื่อสร้างสภาพคล่องให้กับคนที่เป็นนักลงทุน กล่าวคือ ทำให้คนที่เป็นนักลงทุนระยะยาวสามารถขายหุ้นออกได้เสมอ (โดยไม่ต้องขายขาดทุนมากๆ) เมื่อใดก็ตาม ที่พวกเขามีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินแบบเร่งด่วน พูดง่ายๆ ก็คือ การซื้อๆ ขายๆ ของนักเก็งกำไรช่วยลด liquidity risk ให้กับคนที่เป็นนักลงทุนนั่นเอง


ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับบางแนวคิดที่ว่า เป้าหมายของการพัฒนานักลงทุนรายย่อย คือ การทำให้นักลงทุนรายย่อยหันมาลงทุนระยะยาวกันให้หมด สิ่งที่ผมอยากเห็นมากกว่า คือ ทำอย่างไรนักลงทุนรายย่อยจึงจะเป็นนักลงทุนที่มีภูมิต้านทาน กล่าวคือ ตัดสินใจจากข้อมูลที่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้เป็นหลัก ไม่ถูกชักจูงไปได้ง่าย ไม่เชื่อข่าวลือข่าวปล่อยต่างๆ ไม่แห่ตามกันโดยขาดวิจารณญาณของตนเอง ส่วนจะเป็นนักเก็งกำไรระยะสั้น นักเทคนิค หรือนักลงทุนระยะยาวนั้น ผมกลับคิดว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญ นักลงทุนทุกแบบล้วนแต่มีคุณค่าต่อตลาดทุนทั้งสิ้น หากตั้งใจจะเป็นนักเทคนิค ก็ควรศึกษาเทคนิคให้จริงจัง คนที่เล่นสั้นหลายคนที่ผมรู้จักเป็นคนที่ไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆ ผมก็ไม่เคยรู้สึกเป็นห่วงพวกเขาเลย เพราะผมมั่นใจว่าคนนิสัยแบบนี้จะสามารถเอาตัวรอดในตลาดหุ้นได้อย่างแน่นอน





Tags : นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์ • ตลาดหุ้น
นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์
คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ "มนุษย์เศรษฐกิจ 2.0"
IP : บันทึกการเข้า
singhato
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 697



« ตอบ #50 เมื่อ: วันที่ 15 มิถุนายน 2011, 13:13:43 »

จัดไปอีกหนึ่งสมาชิก

ฝากตัวด้วยครับ
IP : บันทึกการเข้า
surasit64
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 219



« ตอบ #51 เมื่อ: วันที่ 15 มิถุนายน 2011, 14:05:57 »

ไม่มีหุ้น แต่สนใจให้เงินมีมูลค่าเพิ่มมากกว่าฝากธนาคาร

      ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #52 เมื่อ: วันที่ 17 มิถุนายน 2011, 14:50:21 »

ท่านคิวปิด ช่วยแต่งกลอนประจำห้อง นลท ด้วย  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,940


Experience is the best teacher.


« ตอบ #53 เมื่อ: วันที่ 17 มิถุนายน 2011, 14:55:39 »

ท่านคิวปิด ช่วยแต่งกลอนประจำห้อง นลท ด้วย  ยิงฟันยิ้ม

ตกลง ขอเวลาหน่อย... ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,940


Experience is the best teacher.


« ตอบ #54 เมื่อ: วันที่ 18 มิถุนายน 2011, 11:48:23 »

จัดให้ตามคำขอของท่านเปาครับ... ยิ้มเท่ห์

     การลงทุน  หลายอย่าง  ต่างประเภท
ให้เม็ดเงิน  ได้เวียน  และเปลี่ยนหมุน
การค้าปลีก  ค้าส่ง  คือลงทุน
ซื้อขายหุ้น  กองทุนฯ  และทองคำ

   การลงทุน  นั้นหรือ  คือความเสี่ยง
อย่าหวังเพียง  กำไร  ให้ดื่มด่ำ
หาข้อมูล  ไว้ด้วย  ช่วยชี้นำ
จะได้ไม่  หน้าดำ  ระกำใจ...!


* 2.gif (43.95 KB, 100x120 - ดู 211 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 18 มิถุนายน 2011, 11:51:55 โดย cupid » IP : บันทึกการเข้า
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #55 เมื่อ: วันที่ 18 มิถุนายน 2011, 13:26:04 »

จัดให้ตามคำขอของท่านเปาครับ... ยิ้มเท่ห์

     การลงทุน  หลายอย่าง  ต่างประเภท
ให้เม็ดเงิน  ได้เวียน  และเปลี่ยนหมุน
การค้าปลีก  ค้าส่ง  คือลงทุน
ซื้อขายหุ้น  กองทุนฯ  และทองคำ

   การลงทุน  นั้นหรือ  คือความเสี่ยง
อย่าหวังเพียง  กำไร  ให้ดื่มด่ำ
หาข้อมูล  ไว้ด้วย  ช่วยชี้นำ
จะได้ไม่  หน้าดำ  ระกำใจ...!

555 นลท ผู้ใดหน้าดำ ต้องใส่ใจในการลงทุนให้มากกว่าเดิม ครีมหน้าขาวมิอาจช่วยได้
ขอบคุณท่านคิวปิด ว่าแต่ว่าจะเอากลอนนี้ไปไว้ตรงไหนดีล่ะ นลท ทั้งใหม่ทั้งเก่าจึงเห็นสดุดตา
IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,940


Experience is the best teacher.


« ตอบ #56 เมื่อ: วันที่ 18 มิถุนายน 2011, 16:10:25 »


ขอปักหมุดดีไหม...? ยิ้มเท่ห์

เดียวผมจะลองขอ เว็บมาสเตอร์ ให้...
IP : บันทึกการเข้า
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,910



« ตอบ #57 เมื่อ: วันที่ 18 มิถุนายน 2011, 16:25:11 »


ขอปักหมุดดีไหม...? ยิ้มเท่ห์

เดียวผมจะลองขอ เว็บมาสเตอร์ ให้...


จัดไปพี่ เอาหัวข้อที่ดีๆปักไว้สัก 2-3กระทู้

เช่นกระทู้เหล่านี้

 >>> เก็งกำไร เล่นหุ้น ลงทุนสั้น หมั่นติดจอ <<<
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=96213.0

>>> ศิลปการลงทุนระยะยาว <<<
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=92942.0

ใครมีเงินเย็น อยากลงทุนหุ้น มาทางนี้
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=33231.0

แล้วก็สร้างกฏและระเบียบในการใช้ห้องนี้อีกสัก 1 กระทู้

แล้วโหวตให้ท่าน คิวปิด เป็น admin ดูแลไปด้วยเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 18 มิถุนายน 2011, 16:27:48 โดย ♥วัยทอง~คะนองรัก♥ » IP : บันทึกการเข้า

น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,910



« ตอบ #58 เมื่อ: วันที่ 18 มิถุนายน 2011, 18:50:53 »

อ้าว ใครมาปักหมุดให้ห้องนี้หว่า

ขอบคุณมากๆครับ
IP : บันทึกการเข้า

boondin
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 64


« ตอบ #59 เมื่อ: วันที่ 18 มิถุนายน 2011, 22:39:23 »

หุ้นเด่นวันจันทร์นี้ขอแนะนำTRUEครับ คาดว่าวันจันทร์นี้มาแรง พื้นฐานแย่แต่เหมาะกับคนใจถึงครับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!