เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 เมษายน 2024, 21:56:34
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  บอร์ดกลุ่มชมรม
| |-+  ชมรมนักกลอน
| | |-+  ข้อคิด สะกิดใจ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 [10] 11 พิมพ์
ผู้เขียน ข้อคิด สะกิดใจ  (อ่าน 17997 ครั้ง)
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #180 เมื่อ: วันที่ 10 ตุลาคม 2011, 22:05:07 »



Professor John Lorber of Sheffield University เป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านกะโหลกศีรษะมนุษย์ เขาได้เก็บข้อมูลและค้นคว้า เรื่องเกี่ยวกับสมองของคน


วันหนึ่งเขาได้เจอ นักศึกษาชายคนหนึ่ง ในสายตาคนอื่นเขาดูเป็นปรกติ แต่
โป รเฟสเซ่อร์ มองปราดเดียวก็ รู้ว่ามีบางอย่างผิดปรกติ กับ กะโหลกศีรษะของนักเรียนคนนี้ เขาได้เข้าไปพูดคุยและพบว่า นักศึกษาคนนี้เป็นนักเรียนที่เรียนเก่งมาก เขาได้เกียรตินิยมอันดับ1 สาขาคณิตศาสตร์ เขาขอให้นักศึกษามาเป็นตัวอย่างในงานวิจัย


เขานำเด็กคนนี้ไปทำ ซีทีสแกน สมอง และพบว่า นัก ศึกษาคนนี้ไม่มี “สมอง!!!! "ในกะโหลกศีรษะของเขามีแค่เนื้อเยื่อเส้นบางๆขนาด1 มม!! แล้วที่เหลือ เป็นของเหลว!!! เป็นเรื่องที่ วิทยาศาสตร์อึ้ง!! เป็นไปได้ยังไง? คนไม่มีสมองจะคิดได้ ? คิดได้เก่งจนเรียนได้เกียรตินิยมอันดับ 1? และมีไอคิวถึง 126 วิทยาศาสตร์ยอมรับไม่ได้!!

ตอน แรกงานวิจัยเรื่องนี้ถูกเก็บไว้(เหมือนงานวิจัยอีกหลายตัว) เพราะมันเป็นการท้าทายวิทยาศาสตร์มาก แต่สุดท้าย professor John Lorber ได้ตัดสินใจลงตีพิมพ์ ใน the Gaurdian วิทยาศาสตร์ไม่กล้าที่จะยอมรับว่า ความคิดของคนเราไม่ได้ใช้สมองสั่ง!!


แต่ พุทธศาสนาได้บอกไว้ตั้งแต่เมื่อ 2500 กว่าปีว่า จิตใจ หรือ ความคิด หรือปัญญา (mind) นั้นคือผู้คิด!! ไม่ใช่สมอง (brain) พุทธศาสนาบอกว่า กายหรือขันธ์5 ไม่สำคัญเท่ากับ "จิต (mind) "


เวลาเรามี ความสุขมากๆ ปลื้มใจสุดๆ เรารู้สึกมันได้ หรือเวลาเราเสียใจ ร้องไห้อย่างขมขืน เรารู้สึกได้ว่ามันทุกข์จริงๆ แต่ไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหน ทำเครื่องมือที่จะวัด ว่าความสุข หรือทุกข์ของเรา มันมีค่าเท่าใด? วิทยาศาตร์วัดไม่ได้!!


หลายคนที่อยู่ในโคม่า สมองตาย แต่จริงๆแล้วเขายังรับรู้ได้ ใน พุทธศาสนา “ความตาย ของร่างกาย”จึงไม่ใช่ จุดจบของชีวิต เพราะ จิต mind ยังจะคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ และด้วยจิตตัวนี้ที่คิดดี หรือ คิดชั่ว จะพาเราไปเกิดในที่ดีและที่ไม่ดี ท่านจึงบอกว่าให้เรารักษา จิต mind ของเราให้ดีเสมอ....


* lxZiD0647319-02.gif (5.85 KB, 300x397 - ดู 1306 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #181 เมื่อ: วันที่ 10 ตุลาคม 2011, 22:08:55 »

ถ้ารู้ว่าจุดจบ ความรัก ... ไม่ได้สวยงามอย่างที่ฝัน
ก็คงไม่มีใคร อยากฝ่าฟันไปให้ถึง
คงจบลงตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ยังไม่ซึ้ง ตราตรึง
และคงไม่ทำให้ใครคนหนึ่ง ... ต้องปวดใจ

ถ้าสามารถหยั่งรู้ อนาคตของความรัก
ก็คงจะลด ความรักลงไปได้
คงไม่ทุ่มเทให้หมด ทั้งกายและใจ
และคงไม่ต้องมานั่งเสียใจเหมือนเช่นตอนนี้นะเธอ

อนาคต… ความรัก ไม่มีใครรู้
ดังนั้นต้อง … รักษาหัวใจที่มีอยู่อย่าให้หาย
แม้บางครั้งอาจเจ็บปวดมากมาย
แต่ … อยากให้คุณอดทนรักษาไว้ให้ดีก่อนก่อนมาจากลา

แม้ … ความรักที่คุณจักรักษาไว้
มันได้หายไป ในเวลาถัดมา
แต่ก็อยากให้คุณทำใจและคิดเสมอว่า …
ไม่มีใคร … จักรู้ค่า อนาคตความรักเป็นเช่นไร

วันนี้ … อาจเลิกรัก หรือ ปวดร้าวใจ
วันหน้า … รักเราอาจกลับมารักกันได้เช่นเดิม

อ่านกลอนนี้แล้ว ทำให้รู้สึกว่า…
อนาคตนั้นช่างน่ากลัวนัก
แต่ถ้าเรามัวแต่กลัว ก็อาจทำให้คุณไม่กล้ามีความรัก


* iOOvN.451742-02.jpg (29.79 KB, 333x500 - ดู 352 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #182 เมื่อ: วันที่ 10 ตุลาคม 2011, 22:15:25 »

บทเรียนเรื่องความรัก

จะคบใคร เป็นคู่ อย่าดูแค่ภายนอก
จะช้ำชอก จนตรอกใจ ในภายหลัง
จะคบใคร หวังความใคร่ ให้ระวัง
เจ็บชอกช้ำ เป็นคู่กรรม ติดตามมา

เหมือนถูกผูก รัดเงื่อนตาย คลายไม่ออก
เหมือนถูกตอก ด้วยหมุดใหญ่ ให้แน่นหนา
เหมือนถูกฝัง ให้จมลึก ยากขุดมา
ต้องปีนป่าย หน่ายอุรา พาจากกัน

เป็นดังคำ ที่พระสอน ให้ย้อนคิด
จะผูกติด กับใครได้ ไม่แปรผัน
เป็นผลพวง จากอดีตชาติ ทำต่อกัน
เฝ้ารอวัน ได้ชดใช้ ชาติใหม่มา

แต่ท่านว่า อันผลกรรม นั้นเลี่ยงได้
ต้องฝึกใจ ไม่ให้หลง บ่วงเวหา
ต้องฝึกจิต คิดตัดกรรม ที่นำพา
ไม่ต้องมา ได้ชดใช้ ชาติใหม่จร

หากว่าได้ คลายบ่วง ที่พ่วงหนัก
หลุดจากรัก ที่มักง่าย ได้พักผ่อน
เป็นบทเรียน เพียรสอนใจ ให้อาวรณ์
เป็นครูสอน ย้อนชีวิต ไม่คิดตาม

เป็นบทเรียน กับชีวิต มีค่านัก
ได้ประจักษ์ ถึงรักลวง ที่พ่วงสาม
หนึ่งให้คิด ตริตรอง ของสวยงาม
อย่าผลีผลาม ย่ามเอา จะเฉาเอง

สองให้ใช้ ใจวิเคราะห์ เจาะให้ถึง
อย่าคำนึง ถึงภายนอก ว่าถูกเผง
คนเขาบอก ว่าสมกัน มันครื้นเครง
อย่าไปเร่ง ผูกสัมพันธ์ ก่อนดูใจ

สามให้ลอง มองให้เห็น เป็นกรรมเก่า
ที่ตัวเรา ได้ผูกไว้ ไม่สลาย
นำพาจิต ทั้งสอง ให้หมองใจ
ตัดให้ได้ ตัดใจ สลายกรรม

(แต่งไว้เมื่อสองปีที่แล้วอ่ะ)


* kvZsR0793736-02.jpg (19.61 KB, 500x312 - ดู 344 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 11 ตุลาคม 2011, 12:47:51 โดย ๋๋P » IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #183 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2011, 11:35:59 »

ลืมๆ  ยิงฟันยิ้ม


* 98.jpg (173 KB, 371x488 - ดู 336 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 11 ตุลาคม 2011, 18:45:12 โดย ๋๋P » IP : บันทึกการเข้า
OneManShow
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #184 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2011, 11:54:41 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม สุดยอด
IP : บันทึกการเข้า
Yim sri
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,753



« ตอบ #185 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2011, 12:27:55 »



ถึงท่านพี     วินวิน        ที่นับถือ
ยอดฝีมือ   ลือเลื่อง       เรื่องกลอนศรี
ทั้งถ้อยคำ  อรรถรส        บทกวี
มีแต่เรื่อง    ดีดีที่          น่าติดตาม

บุญแล้วนะ   บุญแล้วหนา  ได้มาเจอ
ได้พบปะ     เพื่อนเกลอ     น่าเกรงขาม
ให้ความรู้     สู่วิชา          ทั้งศีลธรรม
นับถือนาม    พี วิน วิน       จินตกวี ยิ้มกว้างๆ

นับถือในฝีมือท่านมาตลอดตั้งแต่รถมิมีใบ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ธ สถิตย์ในใจตราบนิรันดร์กาล
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #186 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2011, 20:16:50 »

พระอาจารย์ท่านว่า
"คนพูดดี ผิวจะสวย"  ยิ้มกว้างๆ

*-*

ที่ท่านว่าการพูดดีเป็นศรีปาก
คนพูดมากระวังปากจะเป็นสี
พูดไพเราะเสนาะหูเป็นครูดี
พูดบัดสี วจีหยาบ ผิวหยาบตาม

พระสอนว่า คนพูดดี มีผิวสวย
คำพูดช่วย ให้รวยได้ ใครไม่หยาม
พูดเป็นศรี วจีสวย รวยผิวงาม
ลองพูดตาม สักประโยค โชคมั่งมี

น๊ะจ๊ะ...


* 4c1b.gif (6.39 KB, 50x50 - ดู 340 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #187 เมื่อ: วันที่ 16 ตุลาคม 2011, 22:50:22 »

 ยิงฟันยิ้ม


* 038.jpg (40.38 KB, 550x413 - ดู 960 ครั้ง.)

* 039.jpg (35.64 KB, 550x413 - ดู 2260 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
Yim sri
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,753



« ตอบ #188 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2011, 21:28:49 »

อยากอ่านอีก  อยากอ่านอีกนะท่านพี
หากว่ามีเวลา จงเขียนมาอีกหนา
จะได้ช่วยเพิ่มพูนสติปัญญา
ที่น้อยค่า ของข้าน้อย ให้คล้อยตาม ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

ธ สถิตย์ในใจตราบนิรันดร์กาล
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #189 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2011, 23:15:44 »

จนเพราะตระหนี่ รวยเพราะให้
หวงคือไล่ ให้คือเรียก
ให้ด้วยการนำออก เป็นการเรียกทรัพย์มา
คำสอนหลวงพ่อ......


ชอบจัง ยิ้มกว้างๆ


* IMG_5255.jpg (222.73 KB, 500x400 - ดู 365 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
Yim sri
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,753



« ตอบ #190 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2011, 23:48:42 »

จนเพราะตระหนี่ รวยเพราะให้
หวงคือไล่ ให้คือเรียก
ให้ด้วยการนำออก เป็นการเรียกทรัพย์มา
คำสอนหลวงพ่อ......


ชอบจัง ยิ้มกว้างๆ

ชอบด้วย นะ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ธ สถิตย์ในใจตราบนิรันดร์กาล
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #191 เมื่อ: วันที่ 08 พฤศจิกายน 2011, 22:48:04 »

"อย่าให้วันแต่ละวันเป็นวันแห่งความทุกข์
ขอให้เราอยู่กับร่างกายนี้ด้วยใจที่สบาย
จะทุกข์อย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา
 เราไม่ทุกข์ไปกับเขาด้วย ..
ไม่โกรธ โมโห ขัดเคืองใจ ..
เหมือนกับรอเวลาเลิกงาน ก็ทำงานของเราไปเรื่อยๆ 
เลิกงานเมื่อไหร่ ก็พร้อมจะไปทันที"

ธรรมข้างเตียงเป็นมิตรกับความตาย จาก พระไพศาล วิสาโล


* 664.gif (29.67 KB, 50x50 - ดู 310 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
♡♡<Fairy>♡♡
นางฟ้า...ราตรี
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,585


เทพธิดา...ไร้ปีก


« ตอบ #192 เมื่อ: วันที่ 09 พฤศจิกายน 2011, 22:52:36 »

จนเพราะตระหนี่ รวยเพราะให้
หวงคือไล่ ให้คือเรียก
ให้ด้วยการนำออก เป็นการเรียกทรัพย์มา
คำสอนหลวงพ่อ......


ชอบจัง ยิ้มกว้างๆ

"อย่าให้วันแต่ละวันเป็นวันแห่งความทุกข์
ขอให้เราอยู่กับร่างกายนี้ด้วยใจที่สบาย
จะทุกข์อย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา
 เราไม่ทุกข์ไปกับเขาด้วย ..
ไม่โกรธ โมโห ขัดเคืองใจ ..
เหมือนกับรอเวลาเลิกงาน ก็ทำงานของเราไปเรื่อยๆ 
เลิกงานเมื่อไหร่ ก็พร้อมจะไปทันที"

ธรรมข้างเตียงเป็นมิตรกับความตาย จาก พระไพศาล วิสาโล

 ยิ้มกว้างๆ....ชอบๆ...ทั้งนั้นเลยค่ะ....ชอบด้วยอีกคน... ยิ้มเท่ห์


IP : บันทึกการเข้า

>>>>>....หากหัวใจไม่เข้มแข็ง    อย่าหวัง "แรง" จากสวรรค์....<<<<<
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #193 เมื่อ: วันที่ 12 พฤศจิกายน 2011, 12:30:17 »

หากวันใด ใจไม่สู้ หดหู่หนัก
อาจจมปัก กับเรื่อง ไม่สมหวัง
หมดกำลัง ท้อแท้ อ่อนแอจัง
เข้ามานั่ง ฟังข้อคิด สะกิดใจ

ดีกว่า   ยิ้มเท่ห์

สู้ๆ


* 486a65faa42da.gif (12.21 KB, 50x47 - ดู 318 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #194 เมื่อ: วันที่ 15 พฤศจิกายน 2011, 14:37:59 »

หลักการของ สตีเฟ่น เห็นว่าไว้
หากเราใช้ หลักเก้าสิบ หยิบมาถือ
ประจำวัน ชีวิตนี้ ที่ได้คือ
เครื่องยืดถือ เอาไว้ใช้  ประจำวัน

เก้าสิบสิบ เป็นตัวอย่าง  เรื่องสติ
ใครตำหนิ  ด่าว่าเข้า เราหุนหัน
เป็นเพราะว่า สติเรา  ไม่เท่าทัน
เลยหุนหัน พลันโกรธ ไม่โทษตัว

พระท่านว่า สติมี  ปัญญาเกิด
ใจประเสริฐ เพราะจิตคุม  สุมท่วมหัว
สติแตก แยกกายใจ ไม่ติดตัว
ใครที่มัว  สติหลง  จงแก้เอย

การค้นพบหลักการ 90/10
มันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณให้ดีขึ้น
(หรืออย่างน้อยที่สุด จะเปลี่ยนวิธีการตอบสนองต่อสถานการณ์บางอย่าง)
หลักการนี้คืออะไร
เป็นเรื่องง่ายๆ คือ 10% ที่เกิดขึ้นในชีวิต
“เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ”
ส่วนอีก 90% ที่เหลือนั้นคือ
สิ่งที่เกิดขึ้นจากปฏิกริยาของคุณในการตอบสนองสถานการณ์นั้น
ประเด็นของเรื่องนี้คือ
มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยู่เหนือความคาดหมายของเราเพียง 10% เท่านั้น
เช่นเราไม่สามารถห้ามรถยนต์ไม่ให้เสีย
เราไม่สามารถรู้ได้ว่า เครื่องบินจะมาช้ากว่ากำหนด
เราไม่สามารถรู้ได้ว่า ขณะที่เราขับรถถูกช่องจราจร จะมีรถคันอื่นมาปาดหน้า
เราไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ 10% นี้ที่เกิดกับเรา
แต่อีก 90% ที่เหลือนั้น
เราสามารถกำหนดได้
ทำอย่างไร … “โดยการตอบสนองของคุณ”
ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้
สมมุติว่า ขณะที่คุณกำลังกินข้าวเช้ากับครอบครัว
ลูกสาวของคุณทำกาแฟหก
รดเสื้อของคุณ
เหตุการณ์นี้เป็นอุบัติเหตุที่ควบคุมไม่ได้
แต่สิ่งต่อไปที่จะเกิด ขึ้นอยู่กับการกระทำต่อไปของคุณ
?คุณอาจจะโกรธ หลังจากนั้นก็ ดุ ว่ากล่าวลูกสาวคุณอย่างแรง จนกระทั่งลูกสาวคุณร้องไห้
หลังจากที่คุณดุลูกสาวเสร็จ คุณก็หันไปต่อว่าภรรยา ที่วางถ้วยกาแฟใกล้ขอบโต๊ะมากไป
เหตุการณ์ต่อมาก็คือ มีการโต้เถียงกันระหว่างคุณกับภรรยา
คุณเดินปึงปังขึ้นไปข้างบนห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อ
เมื่อกลับลงมาถึงข้างล่าง ลูกสาวคุณก็ยังร้องไห้ไม่หยุด
และยังไม่ได้กินอาหารเช้า ทำให้ไปรถโรงเรียนไม่ทัน
ภรรยาก็ต้องรีบไปทำงานทันที คุณจึงต้องขับรถไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน
เนื่องจากคุณสาย คุณต้องขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด
สิ่งที่ตามมาก็คือ คุณถูกตำรวจเรียก และต้องจ่ายค่าปรับ
เมื่อรถถึงโรงเรียน ลูกสาวคุณก็ต้องรีบไปโรงเรียนโดยไม่ได้ร่ำลา
ส่วนตัวคุณเองก็ไปถึงที่ทำงานสาย 20 นาที
และยิ่งไปกว่านั้น คุณดันลืมกระเป๋าทำงานไว้ที่บ้าน
วันนี้ทั้งวันดูเป็นวันที่เลวร้าย สถานการณ์มันแย่ลงเรื่อยๆ จนทำให้รู้สึกอยากกลับบ้าน
แต่เมื่อคุณกลับมาถึงบ้าน คุณรู้สึกได้ถึงความหมางเมิน จากลูกสาวและภรรยาของคุณ
ทำไม?
สิ่งนี้เกิดเพราะการตอบสนองของคุณตอนเช้า
อะไรเป็นสาเหตุของวันที่เลวร้ายวันนี้?
ก) เป็นเพราะกาแฟหก
ข) เป็นเพราะลูกสาวคุณทำกาแฟหก
ค) เป็นเพราะคุณโดนตำรวจจับ
ง) เป็นเพราะตัวเองนั่นแหละ ที่เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ทั้งหมด
คำตอบคือ ข้อ ง)
การที่กาแฟหก คุณไม่สามารถควบคุมได้
แต่ปฏิกริยาของคุณภายใน 5 วินาที หลังจากที่กาแฟหก
คุณสามารถควบคุมได้ และมันส่งผลถึงเหตุการณ์อื่นๆ ที่จะตามมา
?กาแฟหกรดตัวคุณ ลูกสาวคุณร้องไห้
คุณเข้าไปปลอบลูกสาวคุณ “ไม่เป็นไรลูก ต่อไประวังมากกว่านี้ก็แล้วกัน”
หลังจากนั้น คุณหยิบผ้าเช็ดตัว และปลี่ยนเสื้อของคุณ
คุณหยิบกระเป๋าทำงาน
และเมื่อคุณลงมาก็พบว่า ลูกสาวคุณกำลังขึ้นรถโรงเรียน
เธอหันมาโบกมือให้ ตัวคุณเองก็ถึงที่ทำงานก่อนเวลา 5 นาที มีเวลาคุยเล่นกับเพื่อนร่วมงาน
อะไรที่แตกต่าง?
ทั้ง 2 สถานการณ์ เริ่มต้นเหมือนกัน
แต่จบไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง เพราะอะไร?
เพราะการตอบสนองของคุณเอง ถึงแม้ว่าคุณควบคุมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 10% ไม่ได้
แต่อีก 90% ที่เหลือคุณควบคุมได้?
และนี่คือวิธีการประยุกต์ใช้หลักการ 90/10 นี้
ถ้ามีใครกล่าวร้ายต่อคุณ อย่าไปสนใจมัน
ให้ทำตัวเหมือนน้ำบนแผ่นแก้ว อย่าให้คำว่าร้ายต่างๆ มาทำร้ายคุณได้
การตอบสนองที่เหมาะสมจะไม่ย้อนกลับมาทำร้ายคุณ
การตอบสนองที่ผิดพลาดเป็นสาเหตุให้คุณเสียเพื่อน ถูกไล่ออก หรือเกิดความเครียดได้
ผู้คนเป็นล้านคนรู้สึกเจ็บปวดจากปัญหาต่างๆ
ความทุกข์ ความเครียดรุนแรง และปัญหาต่างๆ
เพียงแค่เราเข้าใจและนำเอาหลักการ 90/10 นี้มาใช้
มันสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณได้แน่!

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 15 พฤศจิกายน 2011, 14:41:36 โดย ๋๋P » IP : บันทึกการเข้า
little girl
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,174



« ตอบ #195 เมื่อ: วันที่ 15 พฤศจิกายน 2011, 15:38:22 »


โอ้โห! นานๆพี่พีมาที เอากันอ่านตาแฉะเลยนะเนีย .......    ยิงฟันยิ้ม 
IP : บันทึกการเข้า

Yim sri
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,753



« ตอบ #196 เมื่อ: วันที่ 15 พฤศจิกายน 2011, 21:41:25 »

อ่านแล้วเข้าใจมากขึ้น อีก ๙๐ นั้นเหมือนขึ้นอยู่กับสติด้วย ใช่หรือเปล่าคะ ท่านเทศะนาัจัง ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม


* สาธุ.gif (30.07 KB, 50x50 - ดู 255 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

ธ สถิตย์ในใจตราบนิรันดร์กาล
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #197 เมื่อ: วันที่ 16 พฤศจิกายน 2011, 09:35:11 »

อ่านแล้วเข้าใจมากขึ้น อีก ๙๐ นั้นเหมือนขึ้นอยู่กับสติด้วย ใช่หรือเปล่าคะ ท่านเทศะนาัจัง ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

วันนี้ถือ เลขเก้า เข้านำโชค
ที่สิบหก อาจารย์ให้ มาใบ้หวย
ใครหวังผล กำไร ขอให้รวย
หากซื้อหวย ด้วยเลขเ้้ก้า เขาว่าดี  ขยิบตา
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #198 เมื่อ: วันที่ 21 พฤศจิกายน 2011, 22:05:55 »

เขาว่า..... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

คนเข้าตา..หาโคตรง่าย
คนเข้าใจ..หาโคตรยาก
แต่ที่โคตรจะลำบาก..คือ
หาคนที่..เข้ากันได้.........จริงม่าย...


คนสูงอายุ ชอบเข้าวัด ชอบปฏิบัติธรรม
ชอบบำเพ็ญทาน ชอบงานกุศล ชอบคนเอาใจ
ชอบใช้ของเขา ชอบเล่าความหลัง
ชอบนั่งนาน ชอบสวรรค์นิพพานเป็นสุด........


* 33.gif (36.03 KB, 100x100 - ดู 244 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #199 เมื่อ: วันที่ 21 พฤศจิกายน 2011, 22:09:36 »

เหตุผลบางประการ...ที่ทำให้บุญส่งผลช้า

ทกท่าน....คงเคยได้ยินว่า ทำบุญแล้ว บุญไม่เห็นส่งผลสักที
หากเรากำลังประสบปัญหานี้ หรือเจอใครที่พบปัญหานี้

ก็ให้ลองมาสำรวจกันว่า เป็นเพราะเหตุผลบางประการเหล่านี้หรือไม่...

1. ทำบุญด้วยความไม่ศรัทธา

2. ทำบุญด้วยความเกรงใจ

3. ทำแล้วไม่ปลื้ม

4. ทำแล้วไม่ตามตรึกระลึกนึกถึงบุญอย่างต่อเนื่อง

5. ทำไม่เต็มกำลัง

6. ทำบุญช้า เวลาได้อะไรเลยช้า

7. เวลาจะทำบุญคิดแล้วคิดอีก มีเงื่อนไขในการทำบุญ เวลาได้อะไรก็เลยได้ยาก มีเงื่อนไขมาก

กว่าจะได้ทรัพย์มาก็เหนื่อย ต้องแลกมาด้วยความยากลำบาก

8. ก่อนทำบุญ ขณะทำบุญ หลังทำบุญ ใจไม่ใส มีเรื่องหงุดหงิด กังวล โมโห จนทำให้ใจหมอง

9. วัตถุหรือเงินที่นำมาทำบุญ เป็นวัตถุไม่บริสุทธิ์ ได้มาจากความไม่สุจริต ได้จากอาชีพไม่บริสุทธิ์

10. ผู้ให้และผู้รับเป็นบุคคลไม่บริสุทธิ์ เช่นรักษาศีล 5 ศีล 8 หรือศีล 227 ข้อไม่ครบ หรือมีศีลด่างพร้อย

11. เจตนาในการทำบุญไม่บริสุทธิ์ เช่น ทำบุญเอาหน้า ทำเพราะแข่งดีแข่งเด่น ไม่ได้ทำเพราะอยากบรรลุมรรคผลนิพพาน

12. ทำบุญแล้วนึกเสียดายภายหลัง

13. ทำบุญไม่ถูกแหล่งเนื้อนาบุญ

14. ทำบุญไม่ต่อเนื่อง ทำให้บาปที่เคยทำไว้ได้ช่องส่งผลก่อนบุญจะส่งผล

15. ขาดการนั่งสมาธิที่สม่ำเสมอ เพราะการนั่งสมาธิจะทำให้ใจใส และเมื่อใจใสจะมีอำนาจไปดึงดูดบุญ
ที่เคยทำไว้ให้มารวม ส่งผลได้เร็วแรง

(จากหนังสืออยู่ในบุญ)......


* 30.gif (14.75 KB, 50x50 - ดู 232 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 [10] 11 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!