เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 05:23:04
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  นักลงทุน การเงิน การธนาคาร
| | |-+  ใครอยากลองเริ่มเล่น forex แนะนำ Exness มีเงินแค่ 100 บาท ก็เล่นได้
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ใครอยากลองเริ่มเล่น forex แนะนำ Exness มีเงินแค่ 100 บาท ก็เล่นได้  (อ่าน 1730 ครั้ง)
pitchaya1412
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 29


« เมื่อ: วันที่ 15 มกราคม 2017, 21:15:38 »

Exness เปิดมานาน ได้รับความนิยม ถอนเงินไว มีเงินน้อยๆก็เล่นได้
 จริงๆแล้วเมื่อเราจะเปิดบัญชี กับ Exnessเราจะเจอบัญชีซื้อขายที่มีอยู่ 4 รุปแบบให้เราเลือกแต่ที่จะแนะนำนั้นมีอยู่ 2 บัญชีค่ะ คือ  Cent กับ Mini บัญชี Cent คือเงินที่เราเติมเข้าไปมันจะกลายเป็นเซนต์ อันนี้เหมาะสำหรับคนทุนน้อยๆ แต่ต้องการฝึกเทรดให้คล่องด้วยการใช้บัญชีจริงในการฝึก ตามที่หลายๆเว็บเขาสอนกันมาให้ฝึกเทรดในบัญชีทดลองใช้ ซึ่งมันมีเงินปลอมให้เราทดลองเทรดให้จังหวะเราแม่นๆ หรือเพื่อเพิ่มความชำนาญ ในรูปแบบนั้นก็ดีค่ะ แต่โดยส่วนตัวแล้วพี่คิดว่าทดลองเทรดกับบัญชีจริงเลยดีกว่า เพราะว่าเราได้ฝึกการตัดสินใจ คุม  mm  (money management)และที่แน่ๆคือได้ฝึกการควบคุมความโลภในตัวเราค่ะ เพราะการเปิดบัญชีปลอมนั้น เราจะเห็นว่ามันเป็นเงินปลอมจะได้จะเสียไม่ค่อยจริงจังเท่าไร แต่ถ้าเราได้ฝึกในบัญชีจริงๆแล้วล่ะก็อารมณ์มันจะต่างกันลิบลับเลยค่ะ อันนี้ความเห้นส่วนตัวนะ แต่ถ้ามีใครฝึกจากเงินปลอมได้โดยไม่มีปัญหาตามที่พี่บอกมาข้างต้นแล้วล่ะก็พี่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ  จะว่าไปการเปิดบัญชี Cent นั้นเช่นเราฝากเงิน 100 บาท จะมีเงินในบัญชีเทรด ประมาณ 280 Cent เราก็สมมุติเอาว่านั่นเป็น 280 เหรียญก็แล้วกัน ในการฝึกนะคะ 555+

สนใจสมัครเปิดบัญชี คลิกที่นี่ค่ะ http://bit.ly/2izlww2
หากใครสมัครไม่เป็นเรามีตัวอย่างให้ดูค่ะที่ https://www.youtube.com/watch?v=FiQeoQrr1mE
เรียนรู้จิตวิทยาในการเทรด  http://mysuccessfx.blogspot.com/2016/03/blog-post.html
หรือ เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ได้ที่กลุ่มนี้ มีแจกซิกแนลฟรีด้วยนะ เล่นสั้น ออกไวเข้ามาเลยที่ https://www.facebook.com/groups/1607301912864076/

การลงทุนมีความเสี่ยง
ความเสี่ยงเกิดจากความไม่รู้ แต่ถ้ารู้มันก็ลดความเสี่ยง  กูรูผู้หนึ่งได้กล่าวไว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 06 เมษายน 2017, 20:01:32 โดย pitchaya1412 » IP : บันทึกการเข้า
pitchaya1412
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 29


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 24 มกราคม 2017, 10:40:23 »

จับตาศาลฎีกาอังกฤษอ่านคำวินิจฉัยวันนี้ 16.30 น. ว่าด้วยอำนาจนายกฯประกาศ Brexit
ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2560 08:15:48 น.
ศาลฎีกาของอังกฤษนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันนี้ เวลา 09.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 16.30 น.ตามเวลาไทย ในประเด็นที่ว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ สามารถประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาได้หรือไม่
ก่อนหน้านี้ ศาลสูงในกรุงลอนดอนมีคำวินิจฉัยในวันที่ 3 พ.ย.ปีที่แล้วว่า รัฐบาลไม่มีอำนาจในการประกาศเริ่มต้นกระบวนการ Brexit โดยรัฐบาลจะต้องขอการอนุมัติจากรัฐสภาก่อนที่จะสามารถดำเนินการดังกล่าว
ทางด้านรัฐบาลอังกฤษได้แสดงความผิดหวังต่อคำวินิจฉัยของศาลดังกล่าว และได้ทำการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ยื่นคำชี้แจงว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญของอังกฤษที่ไม่มีการบัญญัติไว้นั้น รัฐบาลสามารถทำสนธิสัญญา หรือยกเลิกสนธิสัญญากับประเทศต่างๆ โดยไม่ต้องขอการอนุมัติจากรัฐสภา
อย่างไรก็ดี ฝ่ายคัดค้านระบุว่า การประกาศใช้มาตรา 50 จะทำให้ชาวอังกฤษสูญเสียสิทธิที่รัฐสภาเคยให้การอนุมัติไว้ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่จะประกาศยกเลิกสิทธิดังกล่าว
ทั้งนี้ หากศาลมีคำวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจประกาศ Brexit โดยลำพัง ก็จะทำให้รัฐสภามีโอกาสแก้ไขข้อตกลง Brexit ของรัฐบาล หรืออาจคว่ำข้อตกลงดังกล่าว
แต่หากศาลมีความเห็นว่านายกรัฐมนตรีสามารถประกาศ Brexit โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ก็จะทำให้นางเมย์เดินหน้าตามแผนการประกาศใช้มาตรา 50 ในสิ้นเดือนมี.ค. พร้อมกับเริ่มต้นกระบวนการเจรจาแยกตัวจากสหภาพยุโรปเป็นเวลา 2 ปี
IP : บันทึกการเข้า
pitchaya1412
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 29


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 26 มกราคม 2017, 12:50:00 »


IP : บันทึกการเข้า
pitchaya1412
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 29


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 28 มกราคม 2017, 20:32:59 »

เริ่มการอ่านกราฟ แท่งเทียน พื้นฐาน
http://www.meawbininvestor.com/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F-%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97/
IP : บันทึกการเข้า
pitchaya1412
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 29


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2017, 19:46:05 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
pitchaya1412
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 29


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2017, 22:23:23 »

Week หน้าระมัดระวังกันหน่อยนะคะ
(Feb 18) ขายทิ้งพันธบัตรสหรัฐครั้งใหญ่ ญี่ปุ่นส่งสัญญาณเตือน "ทรัมป์" : เมื่อ "โดนัลด์ ทรัมป์" ชนะเลือกตั้ง คนอเมริกันจำนวนไม่น้อยออกมาประท้วงไม่ยอมรับ หนึ่งในป้ายประท้วงนั้นเขียนว่า "ดัมพ์ ทรัมป์" หรือ "โยนทรัมป์ทิ้ง" แต่ดูเหมือนว่านโยบายและท่าทีของทรัมป์ทั้งด้านการค้าและเศรษฐกิจก็ทำให้ประเทศอื่น ๆ อยาก "ทิ้งทรัมป์" ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ถือครองพันธบัตรสหรัฐรายใหญ่ที่สุด
จากข้อมูลอย่างเป็นทางการล่าสุดธันวาคมปีที่แล้ว นักลงทุนญี่ปุ่นได้ลดการถือครองพันธบัตร (บอนด์) สหรัฐลง 2.39 ล้านล้านเยนหรือราว 2.13 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดถือครองเหลือเพียง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี
เนื่องจากเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านนโยบายของทรัมป์ที่มีแผนจะใช้มาตรการการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ อันจะทำให้สหรัฐขาดดุลงบประมาณมากขึ้น ดอกเบี้ยจะสูงขึ้นและเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น ทำให้สหรัฐที่เคยเป็นแหล่งลงทุนปลอดภัยที่สุดในโลกเกิดความไม่แน่นอนขึ้นมา โดยเฉพาะหลังจากผลตอบแทนพันธบัตรในเดือนพฤศจิกายนขยับสูงขึ้น
แม้ว่าญี่ปุ่นจะลดถือครอง 2.13 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนไม่มากจากที่ถือครองทั้งหมด แต่ก็เป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเทขายอย่างต่อเนื่องนับจากต้นปี 2014
"เคนตะ อิโนอูเอะ" หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนพันธบัตรต่างประเทศของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ มอร์แกน สแตนลีย์ ซีเคียวริตี้ระบุว่า เป็นเรื่องยากมากขึ้นสำหรับนักลงทุนญี่ปุ่นที่จะลงทุนในพันธบัตรและดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เพราะมีความไม่แน่นอนทางการเมืองอีกทั้งคาดว่าผลตอบแทน (ยีลด์) พันธบัตรจะปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนต่างประเทศไม่อยากซื้อพันธบัตรสหรัฐมากนัก (ราคาพันธบัตรจะเคลื่อนไหวตรงข้ามกับยีลด์ในตลาด ถ้ายีลด์ปรับขึ้น ราคาพันธบัตรจะปรับลง)
นักลงทุนรายอื่น ๆ ระบุว่า ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ทำให้พวกเขามีต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงที่สูงจนขาดทุน โดยไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้ว นักลงทุนในพันธบัตรสหรัฐขาดทุน 4.7% มากที่สุดในรอบ 30 ปี ทำให้นักลงทุนเห็นว่าเป็นการง่ายกว่าที่จะลงทุนในบ้านตัวเองแทนที่จะลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะในตอนนี้ที่ธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่นกำลังทดลองใช้นโยบายการเงินในรูปแบบที่อาจให้ผลตอบแทนพันธบัตรที่ดีแก่นักลงทุน
ปัจจุบันตลาดพันธบัตรสหรัฐมีมูลค่า 13.9 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าทั้งจีน ญี่ปุ่น และอังกฤษจะลดการถือครองลง แต่ก็ใช่ว่านักลงทุนต่างชาติทุกรายจะหันหลังให้ เพราะโดยรวมแล้วต่างชาติยังถือครองพันธบัตรสหรัฐ 5.94 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 43% ของตลาดพันธบัตรอเมริกา (ลดลงจาก 56% เมื่อปี 2008)
การที่ทั้งจีนและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ลดการถือพันธบัตรย่อมส่งผลเสียต่อสหรัฐ และผลกระทบนั้นจะยาวนานอันจะทำให้สหรัฐไม่สามารถจัดหาเงินดอกเบี้ยถูกมาใช้ตามนโยบายทรัมป์ที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างมโหฬาร ตลอดจนแผนลดภาษีนิติบุคคลนับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งสหรัฐเกิดวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ จีนกลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่สุดของสหรัฐ เนื่องจากเป็นผู้ซื้อพันธบัตรรายใหญ่อันดับ 1 แต่เมื่อถึงสิ้นเดือนตุลาคมปีที่แล้ว จีนได้เทขายพันธบัตรสหรัฐมากถึง 4.13 หมื่นล้านดอลลาร์ จนระดับการถือครองเพียง 1.12 ล้านล้านดอลลาร์ ต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี ทำให้ญี่ปุ่นแซงขึ้นมาเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่สุดแทน
ในปี 2008 นั้น จีนได้นำเงินหยวนมาซื้อพันธบัตรสหรัฐอย่างมากมาย แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้จีนประสบปัญหาเงินไหลออก และเงินหยวนอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว ทำให้จีนต้องขายพันธบัตรสหรัฐเพื่อนำไปพยุงค่าเงินหยวน
ปรากฏการณ์ที่ญี่ปุ่นขายทิ้งพันธบัตรสหรัฐครั้งนี้ ทำให้สื่ออเมริกันบางรายตีความว่า เป็นการ "เตือน" ไปถึงทรัมป์
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
IP : บันทึกการเข้า
pitchaya1412
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 29


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2017, 13:37:06 »

 ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
pitchaya1412
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 29


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 02 เมษายน 2017, 18:36:25 »

นางมณีเมขลาถามอีกว่า "ฝั่งของมหาสมุทรไม่ปรากฏแก่ท่าน ถึงท่านจะพยายามว่ายน้ำไป ก็จะต้องตายเสียก่อนที่จะถึงฝั่งแน่แท้"
พระมหาชนกตอบว่า "ดูกรเทพธิดา เมื่อบุคคลทำความเพียรอยู่ ถึงจะตายไปก็ได้ชื่อว่าไม่เป็นที่ติเตียนของบิดา-มารดาวงศาคณาญาติตลอดถึงเทพยดาทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง เมื่อบุคคลตั้งใจทำหน้าที่ของตนอย่างสุดความสามารถแล้ว ย่อมจะไม่เสียใจภายหลัง"
นางมณีเมขลากล่าวว่า "การพยายามทำงานอันใดแล้วยังไม่สำเร็จ แต่เกิดอุปสรรคถึงกับเสียชีวิตไปก่อน ก็ไม่ควรทำความพยายามนั้นเลย เพราะความพยายามที่ทำมาทั้งหมด สูญเปล่า"
พระมหาชนกตอบว่า "ผู้ใดรู้ว่าการงานที่ทำไปจะไม่สำเร็จ แล้วไม่รีบหาทางป้องกันภัยอันตราย บุคคลนั้นชื่อว่าไม่รักษาชีวิตตน ถ้าบุคคลนั้นละความเพียรเสีย ก็จะได้รับผลแห่งความเกียจคร้านของตน บางคนได้เห็นผลแห่งความประสงค์ของตน แล้วตั้งใจทำงาน ถึงการงานจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ก็ได้เห็นผลงานประจักษ์แก่ตน
ท่านจงดูคนทั้งหลายที่มาในสำเภาเดียวกับเราเถิด คนพวกนั้นพากันย่อท้อต่ออันตราย ไม่พยายามว่ายน้ำจนสุดความสามารถก่อน จึงพากันจมน้ำตายในมหาสมุทรทั้งสิ้น เหลือแต่เราผู้เดียวที่สู้ทนว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรอยู่ถึง ๗ วันเข้าแล้ว
บัดนี้ เราได้เห็นผลของความเพียรนั้นแล้ว คือเราได้เห็นท่านซึ่งเป็นเทวดาที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ท่านจะมาบอกว่าความพยายามของเราสูญเปล่าได้อย่างไร ? เพราะฉะนั้นเราจักพยายามว่ายน้ำอีกต่อไป จนกว่าจะถึงฝั่งแห่งมหาสมุทรให้จงได้"
พระราชนิพนธ์เรื่อง "พระมหาชนก"
พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๙
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!