หลายคนสงสัยว่าปั่นจักรยานทำไมต้องใส่ชุดปั่นให้ครบด้วย? ใส่ชุดธรรมดาไม่ได้หรือ? ชุดปั่นบางทีก็ดูบางจนไม่น่าจะป้องกันอะไรได้เลย ไม่ใช่เรื่องจริงครับ ชุดปั่นและอุปกรณ์ต่างๆ ล้วนมีประโยชน์และช่วยให้การปั่นจักรยานปลอดภัยขึ้น มาดูกันทีละชิ้นส่วนเลยดีกว่า
1. หมวกกันน๊อค : หมวกกันน๊อคเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่นักปั่นทุกคนควรมี หมวกจักรยานอาจจะดูหน้าตาแปลกกว่าหมวกทั่วๆ ไปที่เป็นหมวกทึบ แต่หมวกจักรยานมีรูระบายอากาศช่วยให้ศีรษะเราไม่ร้อนจนเกินไป หมวกจักรยานช่วยป้องกันศีรษะไม่ให้บาดเจ็บเวลาที่เกิดอุบัติเหตุล้มคว่ำ หน้าที่ของหมวกคือกระจายแรงกระแทก ซึ่งหากเราล้มหัวฟาด หมวกอาจจะแตก แต่นั่นคือมันได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว หมวกที่ไม่แตกจะสะท้อนเอาแรงกระแทกกลับเข้ามาที่ศีรษะ โดยเฉพาะหมวกราคาถูกไม่ได้มาตรฐานจะแข็งจนแตกยาก
2. ถุงมือ : ถุงมือจักรยานไม่ได้มีไว้ใส่สวยงามเพียงอย่างเดียว แต่มันช่วยซับแรงกระแทกบริเวณมือ ทำให้มือเราไม่เมื่อยล้าแม้ต้องปั่นเป็นเวลานาน
3. แว่นกันลม : การปั่นจักรยานเป็นเวลานานจะทำให้ดวงตาเรากระทบกับกระแสลมต่อเนื่อง ซึ่งหากเราปั่นเป็นเวลานานบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้เป็นต้อลมได้ จึงจำเป็นต้องมีแว่นกันลมดีๆ สักชิ้น
4. กางเกงปั่น : หลายคนอายที่จะใส่กางเกงปั่นที่เป็นผ้ารัดรูบ แต่กางเกงที่ทำมาเพื่อการปั่นจักรยานโดยเฉพาะจะมีเป้าที่บุด้วยฟองน้ำซึ่งทำให้การปั่นเป็นเวลานานสบายไม่เจ็บบริเวณใต้ร่มผ้า
5. เสื้อปั่น : เช่นเดียวกับกางเกงปั่นจักรยาน ชุดปั่นที่ดีจะช่วยระบายเหงื่อและความร้อนได้ดี เป็นเสื้อเข้ารูป และทำให้เราขยับตัวได้ง่ายเพราะเนื้อผ้าจะยืดหยุ่นตามท่วงท่าการปั่นจักรยานโดยเฉพาะ
ทั้ง 5 อย่างนี้ควรต้องมีไว้เพื่อความปลอดภัยเวลาที่เราปั่นจักรยานบนถนน และยังมีอีก 1 อย่างที่ขาดไม่ได้เช่นกัน...สิ่งนั้นก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก
ไฟจักรยาน เพื่อเป็นสัญญาณในตอนที่เราปั่นจักรยานตอนกลางคืนให้รถที่ตามมาข้างหลังเรา รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้าและจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น จะได้ไม่ต้องมีการสูญเสีย
หน้าหลักเว็บไซต์
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."
ผู้เขียน
