@@@พระเครื่องวัตถุมงคลพระสุปฎิปัณโน@@@

[montrik]

รูปหล่อปั้ม รุ่นบรรจุอัฐิ หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว 2503

 ราคา 7,500 บาท

 เนื่องจากมีผู้เลื่อมใส และเคารพหลวงพ่อเป็นจํานวนมาก และแต่ละคนก็ต้องการได้อัฐิของหลวงพ่อไปบูชาทั้งสิ้น แต่จํานวนอัฐิมีไม่มากพอสําหรับทุกคน ทางคณะกรรมการวัดจึงมีความเห็นให้จัดสร้างรูปหล่อรุ่นบรรจุอัฐิขึ้นมา และนําเถ้าอัฐิของหลวงพ่อเผือกบรรจุไว้ การทําแบบนี้จะได้เพียงพอต่อผู้ที่ต้องการและเลื่ยมใสหลวงพ่อจะได้มีเก็บไว้บูชาโดยทั่วกัน รูปหล่อรุ่น บรรจุอัฐิ นี้ มีขนาดครึ่งเดียวของรูปหล่อรุ่นหลังตะเข็บ และหลังดอกจันทร์ และที่ฐานด้านหลังของรูปหล่อรุ่นนี้ตอกคําว่า กิ่งแก้ว ซึ่งใช้ตัวตอกตัวเดียวกับรูปหล่อรุ่นหลังตะเข็บ
พิธีพุทธาภิเษกในครั้งนั้น มีหลวงพ่อ จง วัดหน้าต่างนอก เป็นประธานในพิธี และคณาจารย์องค์อื่นๆที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นอีกมากร่วมปลุกเสก และมีประสบการณ์มาแล้วหลายรูปแบบ รูปหล่อรุ่นนี้จึงเป็นที่นิยม และเก็บสะสม ของผู้ที่เลื่ยมใส หลวงพ่อเผือกอยู่เสมอครับ

[montrik]

ขอปิดรายการนี้ให้ผู้สนใจครับ

ธงมหาพิชัยสงครามผืนเล็ก รุ่นแรก และ ประคำไม้ 108 เม็ด 2 เส้น หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

ให้บูชา 3 รายการ

รวม ราคา 4,500 บาท
(ราคาตามสภาพการใช้งาน)

[montrik]

พระกสินเนื้อผงยาหลวงพ่อพัฒน์ วัดใหม่พัฒนาราม จ.สุราษฎร์ธานี
พิมพ์สี่เหลี่ยม บัวสิบเอ็ด หลังพระบรมธาตุ 2505 พิมพ์พิเศษ สร้างน้อย ปิดทอง

ราคา 5,500 บาท

หลวงพ่อพัฒน์ นารโท วัดใหม่พัฒนาราม อ.เมือง หนึ่งในพระอริยสงฆ์ไทยที่มรณภาพในท่านั่งสมาธิและสังขารไม่เน่าเปื่อยตราบทุกวันนี้ ท่านมีความเชี่ยวชาญในเรื่อง"กสิณไฟ" โดยเฉพาะเตโชกสิณและปฐวีกสิณ รวมทั้งการแพทย์แผนโบราณ ในอดีตจนถึงปัจจุบันบรรดาลูกศิษย์จะชอบบนบานศาลกล่าวเรื่องฝนหรือพายุ โดยมีความเชื่อว่าบนบานแล้วฝนหรือพายุจะพัดผ่านไปหมด พระกสินหลวงพ่อพัฒน์ปีสร้าง2505สร้างและปลุกเสกโดยคณาจารย์ยุคนั้นอย่างคับคั่งอาทิ อาจารย์ทิม วัดช้างไห้ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน และเกจิอาจารย์ทั่วทั้งปักษ์ใต้ที่สำคัญๆ มีประสบการณ์ในทาง เมตตาและเจริญก้าวหน้าสูงมากเนื้อนิยม

[montrik]

รูปหล่อโบราณหลวงพ่อเงิน กรุวัดเขาระใต้ จ.พิจิตร
มีแร่โลหะผุดจกเนื้อใน องค์แรก

ราคาองค์ละ 3,000 บาท

พระกรุหลวงพ่อเงินวัดเขาพระใต้ ในปี 2553 หลวงปู่สรวง แห่งวัดเขาพระใต้ได้มีการค้นพบ พระกรุโบราณ ในพื้นศาลาการเปรียญไม้ผุพัง ของวัดเขาพระใต้ อ.ทัับคล้อ จ.พิจิตร จึงได้ทำการดีดศาลาการเปรียญหลังเก่าขึ้น และได้พบกับพระกรุจำนวนมาก มีพระในลักษณะเป็นหลวงพ่อเงิน พบทั้งในห่อผ้ายันต์ และอยู่ในไหดินเคลือบดินเผา และบางองค์อยู่เกลื่อนอยู่รอบบริเวณที่ขุด เป็นจำนวนมาก พิมพ์พระที่พบพบว่ามีจำนวนมากกว่าร้อยแปดพิมพ์ และมีพระเนื้อสัมฤทธิ์เบ้าทุบโบราณ และเ้บ้าประกบ มีพระเนื้อชินตะกั่ว หรือเนื้อเงินยวงโบราณ ตามลักษณะท้องที่ที่เรียกกันติดปาก และเนื้อดินเผาที่มีลักษณะเฉพาะที่พบว่ามีแร่ทองคำปนอยู่ในเนื้อดิน จำนวนพระที่มากเชื่อกันว่าสร้างจำนวน 84,000 องค์และยังมีจำนวนมากที่ยังไม่ได้นำขึ้นมาอีก โดยหลวงปู่สรวงบอกไม่อนุณาติ เพราะยังไม่ถึงเวลา และได้มีการขนไปเก็บไว้เป็นจำนวนมากแล้ว พระกรุนี้หลวงพ่อเงินสร้างและทำพิธีใหญ่ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองรักษา และบังตาไว้มากมาย จึงเชื่อว่าที่กรุได้ออกมาในครั้งนี้ หลวงพ่อเงินคงอยากให้ช่วยสร้างวัดเขาพระใต้ และทำนุบำรุงพระศาสนาต่อ เพราะวัดเขาพระใต้ (ศรีพรหมจริยาวาส) มีสภาพที่ผุพังรอการพัฒนาเป็นอย่างมาก สอดคล้องกับคนเก่าแก่ของวัดเขาพระใต้ เล่าให้ฟังว่าวัดเขาพระใต้นี้หลวงพ่อเงินท่านได้มาจำพรรษาอยู่จริงๆ และมีผู้นำพระดินของกรุไปตรวจหาค่าอายุทางวิทยาศาสตร์ พบว่าพระเครื่องมีอายุ 130-137 ปี ซึ่งหลวงพ่อเงินท่านจะมีอายุประมาณ 60 ปี

[montrik]

เหรียญหล่อตะกั่ว หลังยันต์
หน้ารูปเหมือน
และ หน้ารูปพระซุ้มรัศมี รุ่นแรก หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปราจีนบุรี

ราคา เหรียญละ 2,000 บาท

หายากมากครับ

หลวงพ่อเอีย ขยันคิดสถานะเดิมได้อุบัติขึ้นที่บ้านด่าน หมู่ที่ 5ต.เกาะลอย อ.ประจันตคามปราจีนบุรี

เมื่อวันอังคารที่ 9พฤษภาคม พ.ศ.2448ตรงกับวันขึ้น 6ค่ำ เดือน 6ปีมะเส็ง

โยมบิดาชื่อ นายเธียว โยมมารดาชื่อ มา ขยันคิดถึงแก่กรรมตั้งแต่หลวงพ่อยังเยาว์อยู่

บรรพชา อุปสมบท

หลวงพ่อได้อุทิศตนบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 8พฤษภาคม 2465

ตอนนั้น หลวงพ่ออายุได้เพียง 17ปีเท่านั้นเพราะจิตใจเลื่อมใสศรัทธาในพระศาสนา

ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดเมื่อได้ศึกษาปริยัติธรรมเป็นที่เข้าใจดีแล้วจึงเดินธุดงควัตรไปศึกษากฤตยาคมศิลปศาสตร์ จากหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท

และได้ถวายตัวเป็นศิษย์ปรนนิบัติรับใช้พอเข้าพรรษาก็กลับมาจไพรรษาที่วัดบ้านด่าน

หลวงพ่อเอีย เล่าว่าท่านได้ศึกษาพุทธาคมกับหลวงปู่ศุข เพียงองค์เดียว

ในระยะที่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนไสยเวทย์กฤตยาคมอยู่นั้นท่านเห็นกรมหลวงชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์เสด็จไปๆมาๆหาหลวงปู่ศุขอยู่เสมอเป็นประจำ

พร้อมกับพ.ต.อ.พระกล้ากล่งสมรก็ไปศึกษาอยู่กับหลวงปู่ศุข

หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาทท่านสำเร็จวิชา ธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ท่านสามารถผูกหุ่นให้เฝ้าวัดได้สะเดาะกุญแจ ล่องหนหายตัวได้ ระเบิดน้ำได้

ซึ่งครั้งหนึ่งท่านเคยระเบิดน้ำไปทำตะกรุดให้กับกรมหลวงชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์

เมื่อหลวงพ่อเอียอายุได้ 20ปีจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 18พฤษภาคม พ.ศ.2468

ณ พัทธสีมาวัดสัมพันธ์ ๖.สัมพันธ์ อ.ศรีมหาโพธิ์ปราจีนบุรี

พระครูสังวรกิจ เป็นพระอุปฌาย์

พระอธิการอ้วน วัดชัยมงคล เป็นพระกรรมวาจา

พระอธิการเคน เจ้าอาวาสวัดบ้านด่านเป็นพระอนุสาวนาจารย์

นอกจากท่านจะเล่าเรียนกฤตยาคมกับหลวงปู่ศุขแล้วหลวงพ่อเอียเล่าว่าท่านได้พบกับอาจารย์อีกองค์หนึ่ง

ซึ่งเก่งในด้านไสยเวทเหมือนกันชื่อ โกลั่นฟ้า เป็นการพบกันโดยบังเอิญ

เป็น พระธุดงค์มาจากประเทศลาว ได้ธุดงค์รอนแรมมาปักกลด บริเวณวัดบ้านด่าน หลวงพ่อได้นิมนต์ให้จำพรรษาอยู่ที่วัด อยู่ได้ 6 เดือน ท่านก็กลับไป

ขณะที่จำพรรษาอยู่ที่วัดท่านได้ศึกษาวิชาไสยเวทย์จากพระอาจารย์โกลั่นฟ้ามากมาย

เมื่อ ครบกำหนดท่านกลับขณะที่หลวงพ่อกำลังครองจีวรอยู่ เพื่อจะออกไปส่ง ปรากฏว่า พระอาจารย์โกลั่นฟ้าหายไปแล้ว หลวงพ่อรีบติดตามเท่าไรก็ไม่ทัน นับว่าพระอาจารย์โกลั่นฟ้าองค์นี้สำเร็จวิชาย่นระยะทางได้อย่างแน่นอน

เพราะเหตุที่หลวงพ่อจึงเก่งด้านไสยเวทย์ โดยศึกษามาจากอาจารย์ต่างๆหลายท่าน

ประกอบกับท่านยังมีวิชาอาคมแก่กล้าในทางเพ่งกษิณทำน้ำมนต์อีกด้วย

ชื่อเสียงเกียรติคุณหลวงพ่อจึงเลื่องลือ ระบือไกล ผู้คนต่างหลามไหลไปให้ท่านรักษาแม้แต่คนบ้าเสียจริต สติฟั่นเฟือน

ตลอดจนผู้ถูกคุณไสย ภูตผีปีศาจ หรือถูกกระทำย่ำยี ซึ่งต่างก็พากันหายมานักต่อนักแล้ว

หลวงพ่อไม่เคยเรียกร้องเงินทอง เป็นค่ารักษาเลยแม้แต่รายเดียว บางรายเป็นหนักรักษาอยู่ที่วัดเป็นแรมเดือนก็มี

บางรายเป็นไม่มากรักษษ 3-4 วันก็หาย แต่ทางวัดต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

แม้แต่ข้าวปลาอาหารก็กินอยู่ฟรีทั้งหมด หลวงพ่อต้องรับภาระใช้จ่าย เดือนละหลายหมื่นบาท

นับว่าหลวงพ่อเป็นเทพเจ้าผู้สูงด้วยเมตตาธรรมโดยแท้จริง

หลวงพ่อเอีย ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านด่าน ตั้งแต่ พ.ศ. 2482 จนถึงวันมรณภาพ วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2521 รวมสิริอายุ 73 ปี

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์มัก "พระอยู่ยงคงกระพัน พระเหนียว พระนักเลง" : สรณะคนดัง เรื่อง/ภาพโดยไตรเทพ ไกรงู

พระดังในอดีตที่ขึ้นชื่อลือเลื่องในพุทธคุณด้านแคล้วคลาดยิงไม่เข้าฟันไม่ออก คงกระพันชาตรีนั้น ต้องยกให้พระเครื่องตระกูลยอดขุนพล ไม่ว่าจะเป็นพระร่วงหลังรางปืน พระหูยาน พระท่ากระดาน พระพุทธชินราชใบเสมา พระมเหศวร และพระยอดขุนพล กรุต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงในเรื่องความ "เหนียว" ทั้งสิ้น สังเกตให้ดี พระตระกูลนี้จะเป็นพระประเภทเนื้อ "ชิน" ซึ่งมีความหมายถึง "ชินะ หรือ ชนะ" บวกกับการผสมแร่โลหะอันมีคุณวิเศษต่างๆ ยิ่งทำให้เป็นที่เสาะแสวงหา

นอกจากนี้พระเครื่องที่ขึ้นชื่ออีกตระกูลหนึ่ง คือ พระสมเด็จทุกวัด ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ไม่ว่าจะเป็นวัดระฆังโฆสิตาราม วัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) วัดไชโยวรวิหาร หรือเกศไชโย นอกจากมีพุทธคุณครอบจักรวาลในฐานะจักรพรรดิแห่งพระเครื่องแล้ว ยังได้รับการร่ำลือถึงความแคล้วคลาดปลอดภัย

พระเครื่องอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงเรื่องเหนียว ได้แก่ พระ ๒๕ พุทธศตวรรษ ทั้งเนื้อชินและเนื้อดิน มีเรื่องเล่าว่า ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม พกพาติดตัวเป็นประจำ ทำให้รอดพ้นจากการลอบสังหารด้วยยาพิษ และอาวุธต่างๆ อย่างน่ามหัศจรรย์ และเป็นที่กล่าวขวัญในวงการนักเลง โดยเฉพาะเนื้อดินว่าสมัยก่อนคนจะทัดไว้กับใบหู มีนักโทษแหกเรือนจำแย่งปืนจากผู้คุมแล้วรัวยิง ปรากฏว่ากระสุนไม่ระคายผิวผู้คุมดังกล่าวแม้แต่นัดเดียว เรียกว่าเป็นของดีราคาถูก

ส่วนพระที่ทุกคนรู้จักกันดีในทางแคล้วคลาด ได้แก่พระของพระครูวิมลคุณากร หรือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านทำไว้แจกชาวบ้านให้อยู่รอดปลอดภัย เรียกว่าใครแขวนหลวงปู่ศุขไว้ไม่มีอันตรายใดๆ มาแผ้วพาน ได้รับความนิยมทั้งสองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จากปากคลองมะขามเฒ่า จนถึงกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับพระเครื่ององค์สำคัญ พระวัดรังษี (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งคณะเหลืองรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร กทม.) ถึงขนาดสมเด็จกรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทรงนิพนธ์ไว้ในของดีกรุงรัตนโกสินทร์ว่า "ผู้ใดมีพระวัดรังสี ผู้นั้นชีวีไม่วางวาย"

ด้วยพุทธคุณที่แคล้วคลาดยิงไม่เข้าฟันไม่ออก คงกระพันชาตรี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับ "พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ" บิ๊กอ๊อบ" ขึ้นชื่อชั้นมือปราบยาเสพติด "ตัวพ่อ" ผู้หลงใหลใน "พุทธคุณพระอยู่ยงคงกระพัน พระเหนียว พระนักเลง" จึงมีพระในความครอบครองจำนวนมาก โดยไม่เลือกว่าจะมีราคาค่างวดเท่าไร เพียงขอให้ขึ้นชื่อว่าพุทธคุณพระอยู่ยงคงกระพัน พระเหนียว พระนักเลง จะเช่าเก็บไว้ทั้งหมด

เมื่อถามว่าห้อยพระอะไร "บิ๊กอ๊อบ" ถอดสร้อยคอที่เป็นเชื่อกร่ม ซึ่งมีอยู่เพียงองค์เดียว คือ เหรียญหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม ซึ่งปกติแล้วจะมีอีก ๒ องค์ คือ หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง บางขุนเทียน ปี ๒๔๘๗ และเหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ซึ่งที่ ๓ องค์ ล้วนมีพุทธคุณด้านอยู่ยงคงกระพัน ขณะที่หลวงพ่อทวดมีพุทธคุณด้านแคล้วคลาด รุ่นสมณศักดิ์เชื่อกันว่ามีคุณทำให้เจริญก้าวหน้า สอดคล้องกับเจ้าตัวที่บอกว่า "ชอบพระเครื่องที่มีพุทธคุณพระอยู่ยงคงกระพัน พระเหนียว พระนักเลง"

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ยังเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งได้พบเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งในภาคใต้ ท่านนี้เก็บพระเยอะมาก เป็นคนแหวกแนว เอาพระไปคล้องคอไก่ แล้วยิง ไก่ตายเป็นร้อยตัวเลย พระบางองค์แม้จะยิงกดไปที่คอไก่ก็ยิงไม่เข้า พระกรุเขาก็เอามาลอง ไก่ตายหมดเลย ไม่เหลือ เลยขายพระกรุหมดเลย อย่างพระเครื่อง หลวงปู่แหวน พิมพ์หลังรางปืน ซึ่งคนไม่นิยมเท่าไหร่ นี่ยิงไม่เข้า เขาจะจดไว้พระองค์ไหน ที่ยิงไม่เข้าบ้างหลวงปู่แหวนกับพระสี่มุมเมือง จ.นครศรีธรรมราช ที่ยิงไม่เข้า หลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม หลวงพ่อเอีย (วัดบ้านด่าน) พิมพ์สันติบาล จ.ปราจีนบุรี ก็ยิงไม่เข้า แม้ไม่ได้เห็นด้วยตามและตัวเองไม่เคยลอง แต่ก็เชื่อทุกวันนี้มีพระตามที่ลุงคนนั้นเล่าทุกองค์
Credit คมชัดลึก ฉบับวันที่ 28/1/56

 

[montrik]

เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นทะเลซุง เนื้อทองแดง พระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ พ.ศ. 2508
สภาพใช้ พร้อมเลี่ยมเงินเก่า

ราคา 4,000 บาท

ในวาระเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท (พัดขาวฝ่ายวิปัสสนาธุระ) คราวเดียวกับ “เหรียญเลื่อนสมณ ศักดิ์” อันโด่งดัง เคยสำแดงปาฏิหาริย์ช่วยชีวิตผู้ประสบอุทกภัยที่ จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2531

[montrik]

พระสีวลีเนื้อผงใบลาน หลังยันต์ หลวงพ่อกวย
สภาพสวย
หายาก

ราคา 1,500

[montrik]

ปลัดขิก กัลปังหา หลวงพ่ออี๋
เก่า ตามสภาพ อดีตทหารเรือใช้ จารยันต์สึกหมดแล้ว

หายากมาก

ราคา 2,500 บาท

[montrik]

ตะกรุดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย จ.สุพรรณบุรี เนื้อตะกั่ว ขนาดยาว 4 นิ้ว

ราคา 12,000 บาท

โต 1.5 เซนติเมตร หายากสุดสุด ตะกรุดสำนักนี้ เรื่องเหนียวมาเป็นอันดับหนี่ง ไม่หัก (ถักเชือกใหม่รุ่นหลัง)

ปฐมบท
มี เรื่องเล่าสืบทอดกันมาถึงปาฏิหาริย์ของหลวงปู่เนียมมากมาย ประวัติและปาฏิหาริย์ของท่านได้ถูกเขียนลงในนิตยสารพระเครื่องดังๆ หลายฉบับ ท่านเป็นพระสงฆ์องค์แรกของเมืองไทยที่มรณภาพในปางไสยาสน์ ด้านพระพุทธคุณวัตถุมงคลของหลวงพ่อเนียม มีปรากฏการณ์ปาฏิหารย์เป็นที่ร่ำลือมาช้านาน

สุดยอดพระเกจิอาจารย์
เกียรติคุณ ชื่อเสียงของท่านที่โด่ง ดังมานาน พระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ เช่น หลวงพ่อโหน่ง (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) หลวงพ่อปาน (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เป็นต้น

ศิษย์สมเด็จโต
หลวงพ่อเนียม ได้ไปศึกษาในด้านสมถะและวิปัสสนากรรมฐานกับเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) วัดระฆัง ซึ่งเป็นผู้ที่มีอภิญญาสูงและมีวิทยาคมแก่กล้า

รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
วัน หนึ่ง ท่านเอ่ยปากขอสำรับเพลจากชาวบ้านจำนวน ๕๐ สำรับ โดยไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรที่ไหน ครั้นใกล้จะถึงเวลาเพล แต่ชาวบ้านมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติ ใครจะมาจากไหนหรือไม่เห็นมีวี่แวว แต่พอกลองเพลดังลั่นขึ้นเท่านั้น หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย พาภิกษุมารวม ๕๐ รูป เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พอเดินทางมาถึงหน้าวัดน้อย ปรากฏว่าเกิดพายุขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนเป็นที่ผิดปกติ ท่านอาจารย์วัดบางเหี้ย จึงพูดกับพระที่มาด้วยกัน "เห็นจะต้องแวะที่วัดนี้เสียแล้ว เจ้าของท้องที่เขาเชิญให้แวะ ไม่ควรขัดศรัทธา" สั่งให้เรือจอดพาภิกษุทั้งหมดขึ้นไปบนวัด ก็ได้รับการต้อนรับจากหลวงพ่อเนียมด้วยการถวายเพลแก่อาจารย์วัดบางเหี้ยและ ภิกษุทุกรูป

ห้ามฝน
ใน งานทำบุญคล้ายวันเกิดของท่าน วัดฯจัดงานสมโภชใหญ่โต ปรากฏเมฆดำทมึนฝนตั้งเค้า พายุพัดตึง ฝนได้ลงเม็ดมาปรอยๆ ร้านค้าต่างกุลีกุจอเก็บข้าวของเตรียมหนีฝนกันจ้าละหวั่นวุ่นวายไปทั่วทั้ง ลานวัด คนที่มาเที่ยวต่างก็หลบฝนเข้าไปในใต้ถุนกุฏิ และที่หอฉันเต็มไปหมด ในขณะที่กำลังอลหม่านกันนั้นเอง หลวงพ่อเนียมเดินลงมาจากุฏิร้องบอกว่า "ไม่ต้องเก็บไม่ต้องเลิก มหรสพเล่นต่อไป ของขายต่อไป ที่นี่ไม่มีฝน ฝนไม่ตกที่นี่" ท่านเดินไปหยุดที่หน้ากุฏิ มองขึ้นไปเบื้องบนท้องฟ้า ดั่งคำประกาศิต ฝนตั้งเค้าทำท่าจะตกลงมาอย่างหนักนั้นหาได้ตกลงมาภายในบริเวณวัด มีเพียงละอองฝนปรอยๆ เท่านั้น แต่เมื่อมองออกไปนอกวัดจะเห็นฝนตกลงมาอย่างรุนแรง ทั้งตกอยู่นานอักโข

น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์
น้ำมนต์ ของท่านไม่ได้มีเฉพาะแต่น้ำมนต์ในโอ่งเท่านั้น ที่ท่าวัดของท่านก็เป็นน้ำมนต์เช่นเดียวกัน ครั้งหนึ่งมีจีนคนหนึ่งชื่อ "โต้ผ่วย"มาขอน้ำมนต์ ท่านบอกเจ๊กโต้ผ่วยให้ไปตักเอาเองซิอยู่ที่ท่าน้ำ เจ๊กโต้ผ่วยมองหน้าหลวงพ่อเนียม สงสัย นึกฉุนตะหงิดๆ ขึ้นมาในใจ "ไม่เห็นหลวงพ่อท่านบริกรรมคาถาเลยแม้แต่คำเดียว จะเป็นน้ำมนต์ได้อย่างไร" เอาไปอย่างไม่เต็มใจ เมื่อ ออกไปนอกวัด เจ๊กโต้ผ่วยคว่ำขวดโหลใบที่ใส่น้ำมนต์มา น้ำมนต์ในขวดโหลหาได้ไหลออกมาไม่ น้ำมนต์ในขวดโหลแทนที่จะเป็นน้ำเหลว กลับกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เจ๊กโต้ผ่วยตกใจ นึกถึงอภินิหารของหลวงพ่อเนียม ยกภาชนะนั้นขึ้นทูนหัวพร้อมกับกล่าวขอขมาต่อหลวงพ่อ

[montrik]

พระเจ้าเจ็ดพระองค์ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก พระนครศรีอยุธยา

ปี2495 รุ่นแจก สงครามอินโดจีน เนื้อชินเขียว
พิมพ์สามเหลี่ยม หนึ่งในสุดยอดพระสายเหนียว มีประสบการณ์

ฐานกว้าง 4.5 สูง 7.2 ซม อัดกรองพลาสติกใสเก่าแต่เดิม กรอบแตกด้านล่างขวา

หลวงพ่อจง ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อสุ่น ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อปานวัดบางนมโคครับ

ราคา 10,000 บาท

พระพิมพ์เนื้อชินกรอบ ลักษณะนี้เป็นที่ถกเถียงกันว่าเป็นทั้งของหลวงพ่อจงและพระกรุสุพรรณบุรี แต่ศรัทธาทำให้เกิดปาฏิหาริย์เป็นที่ประจักษ์มาแล้วในยุคสงครามอินโดจีนถึงปัจจุบัน ชนิดที่ว่าเป็นพระเครื่องมีพระพุทธคุณเหนียวหนึบมาก มีซ่อมช่วงปลายยอด ถ้าเน้นพุทธคุณไม่ผิดหวัง อนุรักษ์พระเก่าโบราณน่าเก็บมากและราคาไม่แข็งเกินไป ด้วยเป็นพระเนื้อชินกรอบ เกิดรอยร้าวง่ายในองค์พระ คราบไขหนา สนิมไข่จัดมาก ปากสิงห์มีติ่งลักษณะมองเหมือนจุดอยู่ 3 จุด นี่คือพิมพ์หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก มีกงจักร และสิงห์ จึงเป็นพระที่หนักทางเหนียวชั้นยอด เหมาะสมในยุครุ่นสงครามอินโดจีน หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย เมื่อมีพิธีพุทธาภิเษกครั้งสำคัญ จะต้องนิมนต์หลวงพ่อจง ไปร่วมปลุกเสก ด้วยทุกครั้ง!!! 4 สุดยอดพระคณาจารย์ จาด จง คง อี๋ ในยุคสงครามอินโดจีน ซึ่งพระเกจิอาจารย์ แต่ละองค์ ต่างก็มีชื่อเสียงมากในปัจจุบัน หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก 1 ใน 4 สุดยอดพระคณาจารย์ ชื่อเสียงเกียรติคุณของท่านโด่งดังมาก ยุคอินโดจีน ท่านได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้มาก ทั้งพระพระเหรียญ ตะกรุด เสื้อยันต์ ฯลฯ แจกจ่ายให้กับนายทหาร ที่ร่วมรบในสงครามอินโดจีน ต่างก็มีประสบการณ์เล่าขานกันมาอย่างไม่รู้จักจบสิ้น หลวงพ่อจง ท่านได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายชนิด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 – ปี 2507หลวงพ่อจงท่านเริ่มมีชื่อเสียงรุ่งโรจน์เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เมื่อราว พ.ศ.2475 หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศเป็นต้นมา ซึ่งช่วงเวลานั้น เป็นเวลาที่บ้านเมืองต้องการทหารผู้กล้าหาญเข้มแข็ง เพื่อรับสถานการณ์ของบ้านเมือง ปัจจัยสำคัญในการปลุกใจทหารคือ เครื่องรางของขลัง ฉะนั้น จึงปรากฎมีผู้ไปมากราบไหว้ ขอให้หลวงพ่อประสิทธิ์ประสาทวิทยาคมให้มากขึ้นทุกที ในด้านบรรพชิต ปรากฎว่า ได้มาเล่าเรียนกรรมฐานภาวนาจากหลวงพ่อมากขึ้นเป็นลำดับ กุฏิที่ท่านอยู่เดิมไม่สามารถจะเพียงพอแก่การต้อนรับแขกได้ หลวงพ่อนิล (พระอธิการนิล ธัมมโชติ) น้องร่วมสายโลหิตของท่าน ในขณะนั้นยังช่วยบริหารการพระศาสนาอยู่วัดหน้าต่างนอก พร้อมด้วยทายกทายิกา จึงรวบรวมกัปปิยภัณฑ์ที่สาธุชนบริจาคถวายสร้างกุฏิใหญ่ขึ้นหลังหนึ่ง เสร็จเรียบร้อยเมื่อ พ.ศ. 2479 แล้วถวายเป็นที่อยู่อาศัยของท่าน ล่วงมาจนถึงปี พ.ศ. 2483 สงครามอินโดจีนอุบัติขึ้น เกียรติคุณของหลวงพ่อได้เลื่องลือไปทั่วประเทศไทย โดยได้จัดทำเสื้อแดงลงเลขยันต์ปลุกเสกด้วยวิทยาคม แจกจ่ายให้แก่ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนทั่ว ๆ ไป ด้วยอำนาจจิตตานุภาพอันทรงพลังของหลวงพ่อ บันดาลอัศจรรย์บำรุงขวัญทหารให้เข้มแข็งกล้าหาญในการสงคราม นับว่า หลวงพ่อได้มีส่วนในการบำรุงขวัญทหารไทยอยู่มิใช่น้อย เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สองระเบิดขึ้นนั้น ทางพันธมิตรได้ส่งเครื่องบินเข้าโจมตีประเทศไทยหลายครั้ง จนเป็นที่หนักใจแก่ทางราชการของเรา โดยเฉพาะกองทัพอากาศที่ไม่มีกำลังอาวุธพอที่จะต่อต้านได้ ดังนั้น ทางทหารอากาศจึงไปนิมนต์หลวงพ่อจง ถึงวัดหน้าต่างนอก โดยขอให้ท่านขึ้นเครื่องบินไปโปรยผงวิเศษและข้าวตอกดอกไม้ ลงมายังพื้นดินเบื้องล่าง เพื่อพรางตาข้าศึกที่ส่ง บี 29 มาทิ้งระเบิด และเป็นที่น่าประหลาดอย่างที่สุดว่า จุดที่หลวงพ่อโปรยผงวิเศษและข้าวตอกดอกไม้นั้น แคล้วคลาดจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายพันธมิตรอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่มีสถานที่ใดถูกระเบิดทำลายแม้แต่น้อย

[montrik]

เหรียญรุ่น 2 ปี 2507 พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
บล้อกน้ำกลวง เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง

ราคา 5,000 บาท

สร้างถวายโดย
คณะศิษย์ทหารอากาศ
ที่ระลึกงานโบสถ์น้ำ เมื่อ 2507

ด้านหลังมี 2 พิมพ์ เรียกว่า บล็อคน้ำตัน และบล็อคน้ำกลวง
สระอำเป็นจุด ( ำ )บล็อคน้ำตัน
สระอำเป็นวง ( ำ )บล็อคน้ำกลวง
บล็อคน้ำกลวงนี้ ด้านหลังได้ลง พ.ศ. 2507 ก็จิง แต่ความเป็นจิงแล้ว ได้จัดสร้างขึ้นในปี 2508

[montrik]

หนุมานหลวงปู่ทิมยุคต้น ผงพรายล้วน (ปี2510-2512)
ตะกรุดสาริกาทองคำใต้ฐาน 1 ดอก หายากมาก

ราคา PM

หนุมาน ซึ่งเป็นทหารเอกของพระราม มีฤทธิ์เดชสูงจึงกลายมาเป็นเครื่องรางของขลังยอดนิยมสำหรับชายชาตรีที่เลื่องลือมาจนถึงทุกวันนี้
หนุมาน เป็นลูกของพระพายกับนางสวาหะ จึงเป็นผู้ที่ไม่มีใครฆ่าตายเมื่อถูกฆ่า
แต่พอถูกลมเมื่อใดก็จะฟื้น ขึ้นมาอีกและแถมยังมีเขี้ยวเป็นเพชร ขนเป็นเพชรอีกด้วย
หนุมานนั้นนอกจากจะฆ่าไม่ตายแถมยังมีเมียมากมีด้วยด้วยเหตุฉะนี้ โบราณจารย์เกจิอาจารย์จึงนิยมสักหรือสร้างเครื่องลางสำหรับชายชาตรี
หนุมานจึงเก่งทั้งทางด้านการรบและความรักด้วย เป็นของดี ของศักดิ์สิทธิ์ ท่านจึงประยุกต์เอามาใช้เป็นเครื่องรางของขลังทั้งนี้ก็เพื่ออานิสงฆ์ทางความเก่งกล้า
สามารถและอยู่ยงคงกระพันชาตรีนั่นเอง

หลวงปู่ทิมท่านก็เป็นเกจิอาจารย์ที่สร้างหนุมานซึ่งมีมากมายหลายพิมพ์ โดยหลวงปู่ทิมท่านศึกษาจากตำราโบราณจนพบว่า กำลังหนุมาณที่ยิ่งใหญ่จะเกิดโดยสมบูรณ์จากหัวใจคาถากำลังหนุมาน ก็คือ นะ หะ ปะ ตัง ที่ท่านนำมาลงร่วมกับหะ นุ มา ณะ เป็นหัวใจหนุมานในแบบที่มีกำลังอย่างเหลือเฟือ โดยไม่ต้องเสกในน้ำว่านที่หายากหรือในน้ำมันหอมเหมือนเกจิท่านอื่น เพราะหนุมาณที่ท่านสร้างจะมีไส้คาถาที่ท่านเสกขึ้นมาโดยเฉพาะแล้วผูกขึ้นมาสำหรับจารโดยเฉพาะไม่เหมือนใคร ตำราเรียกว่า ไส้กำลังหนุมาน หรือตะขาบไฟซึ่งมีคุณวิเศษเหลือคณานับทุกด้านเพราะกำเนิดหนุมานนั้น หนุมาณได้รับพรจากพระอิศวรให้มีกำลังและเป็นอมตะจากหัวใจคาถานี้ แต่หลวงปู่ทิมท่านใช้วิธีการสร้างที่เป็นพิเศษโดยผ่านตนคุมทำให้ของของท่านมีคุณวิเศษไม่เหมือนใครดังกล่าวแล้ว ส่วนคาถาที่เกี่ยวข้องคงบอกมากกว่านี้ไม่ได้เพราะอาจเป็นการผิดครูอันเนื่องมาจากเป็นเคล็ดวิชา
(หนุมานของหลวงปู่จะเสกในวันเสาร์และอังคาร)

[montrik]

เหรียญพระพนัสบดีปี2517 หลวงปู่ทิม หลวงปู่โต๊ะปลุกเสก
เหรียญสวย มีกระแส ไม่ผ่านการใช้งาน

ราคา 1,800 บาท

 
รายละเอียด เหรียญพระพนัสบดีปี2517 ของดีเมืองพนัส หลวงปู่ทิม หลวงปู่โต๊ะและสุดเกจิภาคตะวันออกเพียบพิธีใหญ่
"พระพนัสบดี" เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีความสง่างามเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง นับว่าเป็นโบราณวัตุที่มีค่ายิ่ยของชาติเราอีกชิ้นหนึ่ง พระพนัสบดีถูกพบในตอนเรกเมื่อ
ราวปี พ.ศ.๒๔๔๐ (ในสมัยรัชการที่ ๕) โดยผู้ที่พบคือนายแดง-นางน้อย แซ่จัน เป็นพระพุทธรูปยืน แกะสลักด้วยหินโบราณสีดำ สูง ๒๒ เซนติเมตร วัดแต่พระบาทถึงพระเศียร
หากวัดจากฐานล่าง สูง ๔๕ เซนติเมตรลักษณะยกพระหัตถ์ ทั้งสองข้างอย่างพระปางห้ามสมุทร หันพระหัตถ์ออกเบื่องหน้า งอนิ้วเป็นวงกลม ที่ฝ่าพระหัตถ์มีลวดลายประณีต ประทับยืนอยู่บนฐานดอกบัว
ซึ่งตั้งอยู่บนหลังสัตว์ชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายครุฑ หน้าเต็ม มีเขาสองเขาเหนือหู มีตา มีปีก เท้า ปากมีลักษณะแหลมคล้ายปากครุฑ ด้านหลังมีหินรูปไข่ หลังองค์พระแกะเป็นประภามณฑล
ตั้งอยู่บนหลังสัตว์ดังกล่าว พระพนัสบดีนั้นได้ทำการขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากร ไว้เป็นโบราณวัตถุของชาติเพื่อเป็นการสงวนโบราณวัตถุอันมีค่ายิ่งของชาติ มิให้ตกไปอยู่ในมือของชนต่างชาติ
หรือตกไปอยู่นอกประเทศ เพราะเมื่อได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุแล้วก็ห้ามมิให้ทำลายหรือแก้ไขดัดแปลงอย่างหนึ่งอย่างใด เว้นแต่ได้รับอนุญาติจากกรมศิลป์เป็นลายลักษ์อักษร
และจะโอนให้ผู้ใด หรือย้ายไปอยู่ที่ใดต้องแจ้งให้อธิบดีกรมศิลปากรทราบ

ทางอำเภอพนัสนิคมได้ประกอบมงคลพิธีหล่อพระพนัสบดีด้วยโลหะขนาด ๓ เท่า ขององค์จริงเพื่อประดิษฐานเป็น พระพุทธรูปประจำอำเภอพนัสนิคม โดยกระทำการหล่อเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๑๗
ณ บริเวณโรงเรียนพนัสพิทยาคาร และอัญเชินมาประดิษฐานในหอพระพนัสบดีที่อำเภอพนัสนิคม

มหาพิธีพุทธาภิเศก พระพนัสบดี พระร่วงหน้าพระธาตุ และเหรียญพระพนัสบดี ถูกจัดขึ้นเมื่อ วันเสาร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๗ ณ อุโบสถวัดหน้าพระธาตุ ตำบลหนัาพระธาตุ
อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โดยมีลำดับ กำหนดการดังนี้
เวลา 17.39น. พระราชครูวามเทพมุนี บูชาฤกษ์บริเวณนอกอุโบสถ
เวลา 18.00น. ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล พระสังฆเถระประทาานศีล พระราชครูวามเทพมุนี บูชาเทพสิงรักษาองค์พระปฏิมาในอุโบสถ
เวลา 18.29น. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดราชบพิธ เจิมเทียนชัย เทียนมหามงคล จุดเทียนชัย พระเถระ 9 รูป เจริญคาถาจุดเทียนชัย อาราธนาพระปริต พระเถระเจริญพระพุทธมนต์
เวลา 19.00น. ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายอำเภอพนัสนิคม คณะกรรมการจัดงานถวายเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมธนา(พักประกอบพิธี)
เวลา 19.30น.-20.30น. พระชลธารมุนี วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี พระครูอุดมวิชชากร วัดกำแพง จ.ชลบุรี นั่งปรก พระสงฆ์วัดกลาง จ.ชลบุรี สวดภาณวาร
เวลา 20.45น.-21.45น. พระสังวรวิมลเถระ(หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ พระภาวนาโกศลเถระ(อาจารย์วีระ) วัดปากน้ำภาษีเจริญ นั่งปรก พระสงฆ์วัดราษฏร์บำรุง
จ.ชลบุรี สวดภาณวาร
เวลา 22.00น.-23.00น. พระครูสมุทรโกศล (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม หลวงพ่อทิม วัดไร่วารี จ.ระยอง นั่งปรก พระสงฆ์วัดกลาง จ.ชลบุรี สวดภาณวาร
เวลา 23.15น.-00.15น. หลวงพ่อคง สุวัฒโน วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี หลวงพ่อโต ยโสธโร อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นั่งปรกพระสงฆ์วัดราษฎร์บำรุง จ.ชลบุรี สวดภาณวาร
เวลา 00.30น.-01.30น. พระครูญาณวิจักษ์ (อาจารย์ผ่อง จินดา ) วัดสามปลื้ม กรุงเทพฯ หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา นั่งปรก พระสงษ์วัดกลาง จ.ชลบุรี สวดภาณวาร
เวลา 01.45น.-02.45น. พระครูบรรหารศีลคุณ วัดเฃิดสำราญ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พระครูพิศิษฐศาสนคุณ วัดโบสถ์ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี นั่งปรก พระสงฆ์วัดราษฏร์บำรุง ชลบุรี
สวดภาณวาร
เวลา 03.00น.-04.00น. พระครูประสาทศาสนกิจ วัดกลางทุมมาวาส อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พระอาจารย์หม่น วัดเนินตามาก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี นั่งปรก พระสงฆ์วัดกลาง
จ.ฃลบุรี สวดภาณวาร
เวลา 04.15น.-05.30น. พระกิตติวรรณมุนี วัดพลับ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี นั่งปรก พระสงฆ์วัดราษฎร์บำรุง จ.ชลบุรี สวดภาณวาร
เวลา 05.39น. พระกิตติวรรณมุนี เจ้าคณะอำเภอพนัสนิคม จ.ชลบุรี ดักเทียนชัย พระสงฆ์เจริญคาถาดับเทียนชัย เสร็จแล้วพรมน้ำพระพุทธมนต์เป็นเสร็จพิธี .

[montrik]

พระว่านจำปาสัก เนื้อแก่คลั่ง
ฐานกว้าง 2 ซม สูง 5 ซม
ของแท้ รับประกัน หายากครับ

ราคา 2,500 บาท


พระว่านจำปาสัก สร้างจากว่านยาวิเศษ 108 ชนิด เป็นพระมากประสพการณ์ มีผลทางคงกระพันในสมัยสงครามเป็นที่รู้กัน และยังสามารถขอน้ำมนต์ใช้รักษาโรคและประคบแผลได้
คณาจารย์หลายๆท่านมักนำพระว่านจำปาสักแบบนี้ที่แตกหัก มาสร้างเครื่องรางของขลังของตนเพราะเชื่อมันในพุทธคุณ ดังที่เรามักอ่านพบกันตามประวัติการสร้างพระในสมัยหลัง ที่มักจะใช้พระว่านจำปาสักเป็นส่วนผสมด้วย


พระว่านจำปาสัก จัดเป็นพระเครื่องเนื้อว่านโบราณประเภทนึง ที่พบได้ทั่วไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประเทศลาว ในหนังสือมหาโพธิ์เคยกล่าวไว้ว่า ประวัติใครสร้างไม่ทราบแน่ชัด แต่เมื่อครั้งประเทศลาวเปลี่ยนแปลงการปกครองและทหารไทยที่ไปช่วยรบอยู่นั้น เมื่อกลับสู่ฝั่งไทย ก็ได้นำพระว่านจำปาสักกลับมาด้วยเป็นจำนวนมาก เมื่อนำมาแล้วก็เอาไปฝากเอาไปวางไว้ตามวัดต่างๆในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้พบพระว่านจำปาสักกระจัดกระจายทั่วไป สำหรับพระว่านจำปาสักนั้น อายุขัยเกิน100ปีขึ้นไป จะมีการบิดเบี้ยวตามการหดตัวของเนื้อว่าน แต่ละองค์จะบิดเบี้ยวไม่เสมอเหมือนกัน ขนาดเท่าที่พบ มีตั้งแต่เท่านิ้วชี้ยาวๆไปจนถึงขนาดเท่าฝ่ามือ และมักจะถูกจับยัดเป็นของเกจิท่านนู้นบ้างท่านนี้บ้าง ในปัจจุบันนี้พระว่านจำปาสักเริ่มพบเห็นได้น้อยแล้ว เพราะพุทธศิลป์และอายุขัยของพระเนื้อว่านจำปาสัก มีเสน่ห์ควรค่าแก่การศึกษาสะสมเป็นอย่างยิ่ง

[montrik]

เหรียญนั่งใบโพธิ์(พิมพ์เล็ก)เนื้อเงินรุ่นอริยทรัพย์ หลวงปู่บุดดา ถาวโร สิงห์บุรี

ราคา 2,500 บาท

สร้างทันหลวงปู่

จัดสร้างสองเนื้อ เนื้อทองคำและเนื้อเงิน องค์เล็กๆ เหมาะกับท่านผู้หญิงและเด็กๆ ดีครับ เมตตา แคล้วคลาด โชคลาภ


ประวัติพอสังเขป เอ่ยถึงพระหลวงปู่บุดดา คนเล่นพระอาจมองข้ามไปอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยเหตุผล พระท่านไม่ดัง พระท่านไม่แพง หรือห้อยแล้วไม่เท่ โชว์ไม่ได้ หรือไม่มีข่าวคราวปาฏิหาริย์อะไร อย่างฟันไม่เข้าหรือยิงไม่เข้าตามหน้าหนังสือพิมพ์ อันนี้ ขอท่านได้พิจารณาให้รอบคอบ อันศักดิ์ศรีของหลวงปู่บุดดานั้น แม้จะดูธรรมดาในสายตาชาวโลก แต่สายของเหล่ากองทัพธรรมนั้นสูงสุดจะบรรยาย ครั้งหนึ่งท่านได้เดินทางไปสนทนาธรรมกับหลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลวงปู่บุดดาได้เทแป้งเสกลงในมือหลวงปู่ดู่ และทันทีทันใดเหมือนกัน หลวงปู่ดู่รีบเทแป้งเหล่านั้นลงบนศรีษะท่านจนขาวโพลนไปหมด ท่ามกลางความ ตกตะลึง ของเหล่าลูกศิษย์ท่านมากๆ เพราะปกติหลวงปู่ดู่ท่านมีกิริยาที่เรียบร้อยเอามากๆ จนเมื่อหลวงปู่บุดดากลับไป ลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ถามหลวงปู่ทันที หลวงปู่ทำไมเทแป้งอย่างนั้นล่ะครับ ท่านตอบทันที ก็ผง พระอรหันต์ ท่านให้ จะให้เอาไว้ตรงไหนนอกจากบนศรีษะของเรา ไม่งั้นจะเป็นการไม่เคารพ และที่สำคัญในพิธีเปิดโลกที่แสนสะโด่งดังนั้น หลวงปู่ดู่ท่านยังเชิญบารมีขององค์หลวงปุ่บุดดามาร่วมเสกด้วย (ทางญาณนะครับ) แม้แต่องค์หลวงปุ่ชา วัดหนองป่าพง พระเถระที่ปกติไม่สรรเสริฐพระองค์ไหนง่ายๆ ในวันหนึ่ง เมื่อท่านทราบว่าหลวงปุ่บุดดา นั่งอยุ่บนรถบัส ท่านถึงพูดกับลูกศิษย์ว่า ไม่ให้ท่านลงมานะ เราจะขึ้นไปกราบหลวงปุ่บุดดาบนรถเอง แล้วท่านก็ขึ้นไปทั้ง กราบ ทั้ง ไหว้ อย่างเคารพและเรียบร้อยที่สุด หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงท่านเคยบอกให้ลูกศิษย์ไปกราบ หลวงปู่บุดดา ตั้งแต่ที่ท่านยังอยุ่ที่วัดอาวุธ ฝั่งธน กทม. โดยให้เหตุผลว่า รีบไปกราบท่านนะ หลวงปู่องค์นี้ ท่านเป็นพระทองคำ ท่านจะไม่มาเกิดอีกแล้วนะ และยกย่องหลวงปุ่บุดดาอีกหลายครั้ง และหากท่านสงสัยในกัปกริยาที่ค่อนข้างจะแหวกแนว และ ล่อแหลมขององค์หลวงปู่ ที่มักทำอะไรที่คนทั่วไปมองว่าผิดปกติ ขอให้คิดเอาเสียใหม่ นี่คือเนื้อนาบุญของแท้ ซึ่งแม้แต่หลวงปู่สิม แห่งสำนักสงฆ์วัดถ้ำผาปล่อง ยังขอถวายสังฆทานและจีวร เป็นการเฉพาะ และบอกว่า หลวงปู่บุดดา ยอดเยี่ยมที่หนึ่ง แก่ทั้งอายุ แก่ทั้งพรรษา และแก่ทั้งมรรคผลนิพพาน หากท่านสงสัยในพุทธคุณที่หลวงปู่บรรจุไว้ในองค์พระแล้ว โปรดอ่าน ครั้งหนึ่งมีคนนำพระไปให้ท่านเสก ส่งไปแล้วท่านก้อส่งกลับ ทำอย่างนี้ถึง 3 ครั้ง โดยไม่แสดงอาการ เสก แต่อย่างใด ท่ามกลางความงุนงงของผุ้นั้นมาก จนหลวงพ่อองค์หนึ่งที่นั่งอยุ่ที่นั้นบอก พระองค์นี้ออกรบได้แล้วล่ะโยม เต็ม ตั้งแต่ที่ส่งมาให้แล้ว ........ตกใจไหม...... และเมื่อมีคนนำพระไปให้ครูบาสร้อย วัดมงคงคีรีเขต จ.ตาก พระอาคมขลัง ที่ผู้อ่านศักดิ์สิทธิ์คงรุ้จักกันดี ช่วยเสกซ้ำอีกที ท่านได้ปฏิเสธและให้เหตุผลว่า เต็มแล้ว เสกไม่ได้แล้ว แม้แต่องค์หลวงพ่อพุธ ยังปฏิเสธเหมือนกัน และบอก จะให้เสกทับไปได้อย่างไร หลวงปู่บุดดาก็เป็นครูบาอาจารย์องค์หนึ่งของเราเหมือนกัน สุดยอดจิงๆ ทุกวันนี้เราหาพระที่จะมาห้อยคอนั้น ง่ายเหลือเกิน แต่จะหาพระแท้ มาห้อยนั้น ยากครับ หากท่านเล่นพระ บูชาพระที่พุทธคุณ ไม่ใช่เล่นที่ค่านิยม อันเป็นเรื่องของทางโลกแล้ว พระหลวงปู่บุดดาเป็นอีกองค์หนึ่งซึ่งผม ขอฝากไว้ในใจท่านทั้งหลายครับ

[montrik]

เหรียญเสมาหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ปี 2515 วัดโคนอน
หลวงปู่โต๊ะเป็นประธานปลุกเสก

ราคา 2,000 บาท

เหรียญทรงเสมา พิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ที่ระลึกในงานผูกพัทสีมาวัด โคนอน สร้างปี พ.ศ.2515 โดยมีพระเดชพระคุณ หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ เป็นพระธานในการจัดสร้าง

และได้ทำพิธีมหาพุทธาภิเศกใหญ่โดยนิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมในสมัยนั้นมาร่วมพุทธาภิเศก หลายท่านอาทิเช่น
หลวงปู่โต๊ะ เป็นประธานปลุกเสก ,
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม,
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม ฯลฯ..

การสร้างเหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงปู่เอี่ยม ปี 2514-2515 มีชนวนแผ่นทองจารอักขระยันต์โดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในสมัยนั้น เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง, หลวงพ่อบุญมี วัดอ่างแก้ว, หลวงพ่อมิ่ง วัดกก, หลวงพ่อกรับ วัดโกรกกราก, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ คงทอง, หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา, หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์, หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง, หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม, หลวงพ่อพัฒน์ วัดบ้านบึง, หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก, หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตรฯ

วัตถุมงคลชุดนี้เป็นยอดของดีราคาเบาๆ พุทธคุณสูง

[montrik]

พระรอดเกษารุ่นแรกครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล

ประมาณปี 2534
พร้อมกล่องเดิม
หายาก

ราคา 1,500 บาท

หนึ่งในพระเกจิอาจารย์สายเหนือ คู่บารมีกับ ครูบาบุญชุ่ม

[montrik]

พระนาคปรก เนื้อผง รูปหยดน้ำ หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง

ปิดทองด้านหลัง พร้อมกล่อง ประมาณปี 253X ทันหลวงปู่

ราคา 1,200 บาท

[montrik]

ผ้ายันต์หลวงปู่แหวน 2524
เก่าเก็บ
ทันหลวงปู่

มี 3 ผืน ตามภาพ

ราคาผีนละ 1,200 บาท

[montrik]

แหวนปลอกมีด เนื้อเงินหลวงปู่ดู่ ปี 2532

ราคา 18,000 บาท

มีตอกโค้ดโบว์ไขว้ และจารชัด ท้องแหวน เป็นแหวนขนาดเท่าเหรียญบาทประมาณเบอร์ 56 นิ้วก้อยผู้ชาย ผู้หญิงใส่ได้พอดี สภาพใช้ เนื้อเงินออกสีดำไม่ได้ขัดออก