เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 21 กรกฎาคม 2025, 02:28:12
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ชวนท่านสมาชิก ให้ความเห็นเกี่ยวกับการศึกษา
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน ชวนท่านสมาชิก ให้ความเห็นเกี่ยวกับการศึกษา  (อ่าน 1471 ครั้ง)
tiger-red
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,007



« เมื่อ: วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2016, 14:43:59 »

จากการที่เด็กสอบคะแนนโอเน็ตได้น้อย ท่านสมาชิกคิดว่าเกิดมาจากสาเหตุใด   บางทีความเห็นครั้งนี้ผู้มีส่วนรับผิดชอบจะได้เอาไปแก้ไขปัญหา
1. ระบบการศึกษา
2. ครูผู้สอน
3. นักเรียน
4. ผู้ออกข้อสอบกลาง
5. ผู้ปกครอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2016, 11:52:34 โดย tiger-red » IP : บันทึกการเข้า
ipoat
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2016, 08:44:44 »

คนสอนไม่ได้ออก 
คนออกไม่ได้สอน
ก็คิดดูเอานะครับ
เอาอะไรมาใช้วัด
IP : บันทึกการเข้า
bkav
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,799


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2016, 09:22:46 »

...ระบบการศึกษาไทยมีปัญหาเยอะแยะมากมายจนไม่รู้จะเริ่มต้นพูดตรงไหน.
ปัญหาพันกันยุ่งอีลุงตุงนังไม่รู้อีกกี่ร้อยปีจึงจะแก้ได้.
...สรุป ลูกใครลูกมันดูแลกันเองเน้อ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2016, 14:36:15 โดย bkav » IP : บันทึกการเข้า
dekdee2516
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 674


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016, 08:04:00 »

วันที่สอบ ให้เอาครูไปสอบด้วย หากครูสอบได้คะแนนน้อยให้ไล่ออก
IP : บันทึกการเข้า
gapong
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016, 09:13:46 »

  เพราะเอาการศึกษามาเป็นธุระกิจการศึกษา การสำเร็จของการศึกษา (ความฉลาดของเด็ก) มันไม่จบและสำเร็จที่โรงเรียน แต่มันไปจบที่สถาบัณติวและกวดวิชา เด็กโรงเรียนไหนเรียนพิเศษเยอะๆ เมื่อสอบและได้เข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงดีๆ ก็ชมว่าโรงเรียนนั้นดี โรงเรียนนี้ไม่ดี แต่หารู้ไม่ว่าเป็นผลสำเร็จของสถาบัณติวและกวดวิชา ขอฝากผู้ปกครองทุกท่านได้โปรดช่วยกันปรับปรุงในเรื่องนี้ให้มากที่สุดด้วยคับ
IP : บันทึกการเข้า
rittipon
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 236



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016, 13:42:01 »

นโยบายไม่ต่อเนื่องครับ ตามยุคตามสมัย ....
IP : บันทึกการเข้า
pom_9963
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,742


โปรแกรมสำเร็จรูปให้เช่า Line >> itsmypoodle


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016, 14:26:35 »

สมัยก่อนเรียนแค่ในโรงเรียน เข้า 8 โมง เลิก 3 โมงครึ่ง-4โมงเย็น หยุดเสาร์อาทิตย์ ก็ยังเอาดีได้  เดี๋ยวนี้งง วันหยุดยังแต่งชุดนักเรียน เย็นก็ต้องเรียนพิเศษ
ที่เหมือนเดิมคือ เด็กตัวเล็กๆยังต้องสะพายกระเป๋าขนาดพอๆกะตัว
IP : บันทึกการเข้า
tung 7737
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,801



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016, 15:10:43 »

  เพราะเอาการศึกษามาเป็นธุระกิจการศึกษา การสำเร็จของการศึกษา (ความฉลาดของเด็ก) มันไม่จบและสำเร็จที่โรงเรียน แต่มันไปจบที่สถาบัณติวและกวดวิชา เด็กโรงเรียนไหนเรียนพิเศษเยอะๆ เมื่อสอบและได้เข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงดีๆ ก็ชมว่าโรงเรียนนั้นดี โรงเรียนนี้ไม่ดี แต่หารู้ไม่ว่าเป็นผลสำเร็จของสถาบัณติวและกวดวิชา ขอฝากผู้ปกครองทุกท่านได้โปรดช่วยกันปรับปรุงในเรื่องนี้ให้มากที่สุดด้วยคับ
ช่ายถูกต้องที่สุดครับ ครูกั๊ก การสอนให้กับเด็กๆ ใช้วิชาชีพครูไปในทางธุระกิจไปเสียแล้ว ผู้ปกครองจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการส่งลุกเรียนพิเศษ จบ6 อยากให้มีวิชาหาเงิน สอนให้เด็กหาเงิน ได้ด้วยตัวเอง วิชานี้ควรบรรจุไว้เป็นวิชาพื้นฐาน เด็กโตขึ้นอยากเป็นอะไร ตำรวจ ทหาร หมอ พยาบาล นักธุระกิจ อาทิตย์ละสองชั่วโมงเชิญผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จ มาสอน มาบรรยายให้เด็กๆฟัง ผมเชื่อว่า เด็กๆจะมีความรู้มีการกระตุ้นในการเรียนมากขึ้น
IP : บันทึกการเข้า

ทำดี ขยัน อดทน ความจนอยู่ได้ไม่นาน
คนขาย น่ะ ..ไม่รีบ แต่คนชื้อ น่ะ..รีบๆหน่อยนะ
tangent
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,140


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016, 16:04:01 »

เชื่อไหม  เด็กนักเรียนในโรงเรียนแห่ง  ม.4-ม.6 ถ้าคัดกันจริง  มีเด็กไม่เกินร้อยละ  35 เท่านั้นที่สามารถเรียนสายสามัญได้  (วิทย์คณิต ศิลป์ ภาษา)  ที่เหลือควรเรียนสายอาชีพ ครับ 


 ไม่เคยมีปัญหากับการสอบโอเนต เพราะข้อสอบเขามาตรฐาน  แต่นักเรียนเราต่างหากที่ไม่มาตรฐาน

อีกอย่างที่อย่างบอกคือ  สื่อต่างๆ ที่เย้ายวนเด็กนักเรียน เอกชนก็ควรดูแลบ้าง มีสามัญสำนึกบ้าง
ยอมรับอีกอย่างหนึ่ง การเรียนมันไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจ (อย่าบอกว่ากิจกรรมการเรียนมันไม่น่าสนใจ) สิ่งที่น่าสนใจของเด็กนักเรียนตอนนี้คือ  faccbook  Line เหล่านั้นมากกว่า เป็นสิ่งจูงใจสำหรับเด็ก

แต่สุดท้ายอยากบอกว่า  เด็กที่เรียนสายสามัญไม่ได้ ผู้ปกครองควรพิจารณา ให้เด็กไปเรียนสายอาชีพเถอะครับ  ขอร้องหละ เข้าใจเด็กบ้าง  บางครั้งเด็กอยากไป  แต่ผู้ปกครองไม่อยากให้ไป เพราะกลัวเสียคน 

เฮ้อ  นานาจิตตังครับ  ถ้าเรายังไม่มีเกณฑ์มาตรฐานจริงสำหรับเด็กสายสามัญ 
IP : บันทึกการเข้า
mana.
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016, 16:18:20 »

 เพราะเอาการศึกษามาเป็นธุระกิจการศึกษา การสำเร็จของการศึกษา (ความฉลาดของเด็ก) มันไม่จบและสำเร็จที่โรงเรียน แต่มันไปจบที่สถาบัณติวและกวดวิชา เด็กโรงเรียนไหนเรียนพิเศษเยอะๆ เมื่อสอบและได้เข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงดีๆ ก็ชมว่าโรงเรียนนั้นดี โรงเรียนนี้ไม่ดี แต่หารู้ไม่ว่าเป็นผลสำเร็จของสถาบัณติวและกวดวิชา ขอฝากผู้ปกครองทุกท่านได้โปรดช่วยกันปรับปรุงในเรื่องนี้ให้มากที่สุดด้วยคับ
ช่ายถูกต้องที่สุดครับ ครูกั๊ก การสอนให้กับเด็กๆ ใช้วิชาชีพครูไปในทางธุระกิจไปเสียแล้ว ผู้ปกครองจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการส่งลุกเรียนพิเศษ จบ6 อยากให้มีวิชาหาเงิน สอนให้เด็กหาเงิน ได้ด้วยตัวเอง วิชานี้ควรบรรจุไว้เป็นวิชาพื้นฐาน เด็กโตขึ้นอยากเป็นอะไร ตำรวจ ทหาร หมอ พยาบาล นักธุระกิจ อาทิตย์ละสองชั่วโมงเชิญผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จ มาสอน มาบรรยายให้เด็กๆฟัง ผมเชื่อว่า เด็กๆจะมีความรู้มีการกระตุ้นในการเรียนมากขึ้น

ครูกั๊ก มันจะมีหรือ? นอกจากครูที่ไม่มีจรรยาบรรณของความเป็นครูละมั๊ง......แต่ข้าน้อยคิดว่า  โน่น..ปัญหามาจากนโยบายในห้องแอร์-มาจากผู้กุมอำนาจในการศึกษา-นักการเมือง วางกฎกติกา เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนการสอน ตำราเรียน มุ่งจะเอาดีทางโน้นบ้างทางนี้บ้าง  จิปาถะ  จะเอานโยบายเดิมที่พอจะดีอยู่ก็กลัวจะเสียหน้าไม่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เปลี่ยนอีก มาอยู่แค่ 4 ปี ไปแล้ว หน้าใหม่มาเปลี่ยนอีก ตำราเรียนก็ไม่รู้กี่สำนักพิมพ์ อวดเก่งกันอยู่นั่นแหละ อย่างไรก็ดี เราผู้ปกครองก็ควรที่จะดูแลเด็กในปกครองของเราให้ดีที่สุดก็แล้วกัน ขอให้โชคดีทุกท่านลูกหลานอยู่ถ้อยฟังกำ












 
IP : บันทึกการเข้า
doublePP2010
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 682



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016, 21:08:07 »

นโยบายไม่ต่อเนื่องครับ ตามยุคตามสมัย ....

โดนใจค่ะ

IP : บันทึกการเข้า

Me design บริการห้องหอพักใกล้สิงห์ปาร์ค วิทยาลัยเชียงราย เคเทค และหอพัก ราชมงคลเชียงราย
Sing ha
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,345



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016, 22:47:16 »

เชื่อไหม  เด็กนักเรียนในโรงเรียนแห่ง  ม.4-ม.6 ถ้าคัดกันจริง  มีเด็กไม่เกินร้อยละ  35 เท่านั้นที่สามารถเรียนสายสามัญได้  (วิทย์คณิต ศิลป์ ภาษา)  ที่เหลือควรเรียนสายอาชีพ ครับ 


 ไม่เคยมีปัญหากับการสอบโอเนต เพราะข้อสอบเขามาตรฐาน  แต่นักเรียนเราต่างหากที่ไม่มาตรฐาน

อีกอย่างที่อย่างบอกคือ  สื่อต่างๆ ที่เย้ายวนเด็กนักเรียน เอกชนก็ควรดูแลบ้าง มีสามัญสำนึกบ้าง
ยอมรับอีกอย่างหนึ่ง การเรียนมันไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจ (อย่าบอกว่ากิจกรรมการเรียนมันไม่น่าสนใจ) สิ่งที่น่าสนใจของเด็กนักเรียนตอนนี้คือ  faccbook  Line เหล่านั้นมากกว่า เป็นสิ่งจูงใจสำหรับเด็ก

แต่สุดท้ายอยากบอกว่า  เด็กที่เรียนสายสามัญไม่ได้ ผู้ปกครองควรพิจารณา ให้เด็กไปเรียนสายอาชีพเถอะครับ  ขอร้องหละ เข้าใจเด็กบ้าง  บางครั้งเด็กอยากไป  แต่ผู้ปกครองไม่อยากให้ไป เพราะกลัวเสียคน 

เฮ้อ  นานาจิตตังครับ  ถ้าเรายังไม่มีเกณฑ์มาตรฐานจริงสำหรับเด็กสายสามัญ 



มาเล่าสู่กันฟังเรียนสายอาชีพก็สามารถเบนเข็มมาเรียนระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก ที่คนจบสายสามัญตรงๆ เรียนก็ได้ / เรียนแล้วกลับมาสอนกลุ่มที่จบมัธยมสายสามัญอีก ไหนๆเจ้าตัวเขาเปิดเผยไว้อย่างไม่ปิดบังเลย ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ  ยิ้ม

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1356237846
IP : บันทึกการเข้า
bkav
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,799


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 12:49:52 »

จีน วิจารณ์การศึกษาของไทย

จีนรักไทยจริงใจ...วิจารณ์การศึกษาของไทยแบบตรงๆ...อ่านแล้วเศร้าจัง .........
 
การศึกษาไทย ในมุมมองของจีน ห่วยสุดๆ ตั้งแต่ระดับมัธยม จนถึงระดับ มหาวิทยาลัย
 
1. สถานทูตจีน เขียนรายงาน (เป็นภาษาจีน) ระบุการศึกษาบ้านเรา เน้นแต่ด้าน ศิลปศาสตร์ นิติฯรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การตลาด บริหารธุรกิจ ซึ่งจบมาแล้ว ไม่มีงานทำ ความรู้กระจอก สักแต่ให้มีปริญญา ไม่ได้สร้าง value-added ใดๆ นักวิทยาศาสตร์ การวิจัย แทบจะเป็นศูนย์ Guanmu อดีตเอกอัครรทูตจีน บอกว่า25ปีที่ผ่านมา ไทยผลิตยาง ยังไงก็ยังทำแบบนั้น ไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม ทำเป็นยางรถยนต์ หรือสิ่งประดิษฐ์ อะไรเองไม่เป็น สร้างคิดอะไรไม่ได้

2. มหาวิทยาลัยไทย รวมไปถึง ธรรมศาสตร์จุฬาฯ กิจกรรมเน้นเต้น หลีดโชว์หล่อสวย แต่โง่ ไม่มีการฝึกงานอะไร ที่เป็นประโยชน์ ขอเงินพ่อแม่ เที่ยวกลางคืน ไปวันๆ โชว์วัตถุนิยม ว่ารถกูขับรถไร สังคมมันวัดกันแค่นี้ (เห็นมากับตา) พวกดีๆ ก็มีแต่มันน้อย เอาจริงๆนะ ผมว่ามีแค่10% ในขณะที่เด็กสหรัฐฯ พวกMIT Stanford หรือเด็กจีนชิงหัว ปิดเทอม พยายามหางานทำ ฝึกงาน UN World Bank JP Morgan หรือมาค่ายผู้ลี้ภัย ชาวโรฮิงญาในไทย

3. จ่ายครบจบแน่ ปริญญาขยะ เต็มบ้าน คือ หางานไรทำไม่ได้ มีแต่อยากจะรวย "ผมจะทำธุรกิจ" คือมันคิดไรไม่ออก นอกจากขายของ นอกจากนี้ ยังทุจริต ผันงบกระทรวงศึกษา ให้ทุนกู้ยืม มหาวิทยาลัยเอกชน ที่มีนักการเมือง เป็นเจ้าของ สุดท้ายหนี้สูญ เพราะเด็กบ้านนอก ได้มาเข้ากรุง สักว่าจบปริญญา ประดับบ้าน แต่มันหางานทำไม่ได้ ปึหนี่งหมดเงิน ภาษีประเทศซาติ ไปหลายหมื่นล้าน เรื่องเลวๆนี้ ไม่เคยถูกตรวจสอบ

4. ภาษาอังกฤษ ห่วยแตกขั้นเทพ จริงๆ อจ.จุฬาฯส่วนใหญ่ ก็ลอกบทความฝรั่ง มาแปลๆ ไม่มีความคิด อะไรใหม่ หาน้อยคน ที่จบระดับโลก ไปดูCVเอาเอง ได้จบมหาลัยห้องแถว B-class ทั้งนั้น งานวิจัยขยะ copy/paste เด็มไปหมด ครูมัธยม เอาแค่โรงเรียน ในกรุงเทพฯ ผมเคยถูกเชิญไปพูด ยังออกเสียง สะกดศัพท์ไม่ถูกเลย จะสอนเด็กให้ถูก อย่างไร แล้วโรงเรียน ในอ.ปัว จังหวัดน่าน มันจะห่วยแตก ขนาดไหน

5.ความรู้ใหม่ๆ หรือเทคโนโลยี มันหมุนเวียน เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งคนไทยรู้แต่ ภาษาไทยตัวเอง ไม่มีความสามารถ แข่งขันอะไร ในระดับโลก โลกทรรศน์สุดจะแคบ สำนักข่าวไทย รายงานแต่เรื่องเส็งเคร็ง ไม่ได้สร้างคุณค่า ความรู้อะไร คนนั้นท้องกับคนนี้ ตำรวจตั้งด่านไถตังค์ ไปวันๆ ไปทำงานมา หลายประเทศ เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ บอกได้เลย
นักเรียนไทย โคตรจะขี้เกียจ ไม่รู้ปีหนึ่งๆ อ่านหนังสือกัน กี่เล่ม?...

รัฐบาลไหนจะคิดแก้ไขบ้างหนอ..

เค้าส่งมาอ่านแล้วดีเลยส่งต่อ
IP : บันทึกการเข้า
kaeo
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,897


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 14:01:35 »

ผิดที่ระบบการศึกษา หลักสูตร และกระบวนการจัดการเรียนการสอน
IP : บันทึกการเข้า
wiinny
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 376



« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 14:17:12 »

นโยบายไม่ต่อเนื่องครับ ตามยุคตามสมัย ....

โดนใจค่ะ


ตามนั้น คนเปลี่ยน นโยบายเปลี่ยน  อบรมก่าครูเวลาสอนก็หาย ค่ำเขล่ะอ่อนนักก็บ่ได้
สมัยก่อนไม้แซ้ทำฮื้อคนเป๋นฅน
IP : บันทึกการเข้า
max7756
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2016, 10:07:36 »

ผิดที่ ระบบการศึกษา ครับ

ต้องทำ ระบบการศึกษา ให้เหมือนกันทุกโทรเรียนทั่วประเทศ เหมือนต่างประเทศ

ไม่ต้องมา โรงเรียนไหนดีบ้าง จะได้มีความเท่าเทียมกันทุกโรงเรียน
IP : บันทึกการเข้า
jesa
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2016, 11:37:01 »

มาถึงยุค เทพ..ออกคำถามข้อสอบไม่ตรงคำตอบ... อาการออกแนวกระโดดกัดหูตัวเอง
IP : บันทึกการเข้า
iw
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,482


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2016, 11:37:11 »

ผมว่าควรยุบโรงเรียนทุกสังกัดให้เป็นสังกัดเดียวกันผมว่าควรยุบโรงเรียนทุกสังกัดให้เป็นสังกัดเดียวกันไม่ต้องแข่งขันกันดีเด่น
เพราะทุกวันนี้โรงเรียนแย่เพราะแข่งขัน
นโยบายไม่เหมือนกันมุ่งแต่จะทำโรงเรียนให้ดัง
ถ้าดังแล้วคนเรียนเยอะ แล้วก็พัฒนามาก ควรทำให้เหมือนกันให้หมด เมื่อเหมือนกันแล้วทุกโรงเรียนก็จะคุณภาพเหมือนกัน
คนก็จะรียนที่ไหนก็ได้
ไม่ต้องทำ ep mep sm stema ถ้าทำทำทั้วประเทศ
ลดเวลากิจกรรมทุกอย่างเรียนอย่างเดียว พ่อแม่มีปัญญาพาไปทัศนศึกษาได้
เรียนคือเรียน ไม่ต้องโกงเวลาเรียน
โกงทั้งเวลาครู ทั้วประเทศ 
หนังสือเรียนจำเป็นมาก ควรใช้ทั่วประเทศ เหมือนกันหมด เพราะต่างคนต่างทำ ไม่ได้ผล ไปเอื้อกับบริษัทที่ทำหนังสือ ให้ครูออกยิ่งแย่ เพราะครูผีบ้าก็เยอะ สอนตามเขาก็ยังไม่ไอ้เลยอย่าหวังสร้างเอง สิบคนสร้าง ไม่หมือนกันสักคน
งบประมาณไม่ต้องลงสถานศึกษา หน่วยกลางจัดการเลย เพราะเสี่ยงทุกที่ ใช้จ่ายไม่ได้ผลเต็มที่
แก้พวกนี้ก่อน
แต่ไม่มีหน่วยงานไหนกล้าทำหรอก
ทุกวันนี้ นักวิชาการ ไม่แท้ เทียมเยอะ ดูอย่างสิวรักษ์ สิ ยังบ้าได้ เสียดายคนดี  เพื่อน ๆ ดูเองนะครับผม   สุดท้ายเหลือแต่ท่านแล้วที่จะเป็นกำลังให้การศึกษา  ศาสนา  และพัฒนาเด็กไทย
IP : บันทึกการเข้า
Jkit
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 77


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2016, 13:11:04 »

ผิดตั้งแต่ระดับนโยบายแล้วมั้งครับ..ผิด เพราะเอาเด็กเป็นหนูทดลองทิฐิผู้บริหาร เด็กไทยยิ่งเรียน ยิ่งแก้ปัญหาไม่เป็น แต่สร้างปัญหา สร้างทุกข์ให้เด็กและผู้ปกครอง มากขึ้น...ภาษาอังกฤษ และวิธีการคิด การแก้ปัญหา คือจุดอ่อนของเด็กไทย
IP : บันทึกการเข้า
naylex
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,995



« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2016, 17:43:39 »

สู้ๆครับ
เป็นกำลังใจให้คุณครูและนักเรียนทุกคนครับ

ิเด็กๆที่ทำผลสอบไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นคนเลว
และก็ไม่ได้หมายความว่า ครูของเขาเลว

เขาอาจเป็นคนดีมีคุณธรรมมากกว่าคนที่ทำคะแนนได้ดีกว่าเขา
เพราะว่าครูเป็นผู้ช่วยกล่อมเกลา

การวัดคนด้วยข้อสอบชุดเดียวแน่นอนว่าย่อม ไม่เป็นที่ยอมรับในวงการวัดและประเมินผล
แต่ผลการสอบที่ตกต่ำทุกปีทำให้เชื่อได้ว่า เด็กไทยยังขาดสติปัญหา(ความรู้ ที่สำคัญคือการวิเคราะห์)
 
อย่างไรก็ตามก็ยังไม่สามารถวัดคุณธรรม และทักษะของเด็กได้เสมอไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2016, 17:56:26 โดย naylex » IP : บันทึกการเข้า

ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!