เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 24 เมษายน 2024, 19:11:00
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  พระเจ้าเชียงใหม่ ใน หนังท่านมุ้ยคือใคร
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน พระเจ้าเชียงใหม่ ใน หนังท่านมุ้ยคือใคร  (อ่าน 5509 ครั้ง)
Benzram
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 216


หนุ่มน้อย ไร้ร้อยตีนกา


« เมื่อ: วันที่ 09 เมษายน 2011, 17:05:40 »

 ได้มีโอกาศดูตัวอย่างหนังนเรศวรภาค3ของท่านมุ้ยครับ ได้ยินชื่อของพระเจ้าเชียงใหม่ถุกกล่าวถึงในหนัง ครับว่าเป็นแม่ทัพของพม่าที่จะมารุกรานอยุธยา พระเจ้าเชียงใหม่ในที่นี้เป็นใครครับ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่คิดที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ครับ เนื้อหามันเข้าข้างตัวเองมากไปหน่อย รบกวนท่านผู้รู้มาตอบด้วยครับ
IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 09 เมษายน 2011, 18:06:25 »

ได้มีโอกาศดูตัวอย่างหนังนเรศวรภาค3ของท่านมุ้ยครับ ได้ยินชื่อของพระเจ้าเชียงใหม่ถุกกล่าวถึงในหนัง ครับว่าเป็นแม่ทัพของพม่าที่จะมารุกรานอยุธยา พระเจ้าเชียงใหม่ในที่นี้เป็นใครครับ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่คิดที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ครับ เนื้อหามันเข้าข้างตัวเองมากไปหน่อย รบกวนท่านผู้รู้มาตอบด้วยครับ

มันมีหั้นอย่าง ผมเลยบ่ก่อยได้เข้าโฮงหนังครับ
ยะหื้อผมบ่เกยเสี้ยงสตางค์หื้อหนังของท่านมุ้ยเลย
ได้ก้าผ่อฟรีในงานเทศก๋านหนังพ่อง ในทีวีช่อง 7 พ่อง


ส่วนเรื่องพระเจ้าเจียงใหม่ในเรื่องนเรศวร ภาค 3 ก็คือ
"สาวถีนรตรามังซอศรีมังสรธาช่อ"
เจ้านายเชื้อสายราชวงศ์ตองอู

พระเจ้าสาวถีนรตรามังซอศรีมังสรธาช่อ (Sawati Noratra Mangsosri)
หรือ อโนรธาเมงสอ หรือ เจ้าฟ้าสารวตี ปฐมราชวงศ์ของชาวพม่าที่ปกครองล้านนา
ในช่วง พ.ศ. 2121-2150 (29 ปี) พระองค์เป็นพระโอรสของพระเจ้าบุเรงนอง ที่ส่งมาปกครองล้านนา
พระราชมารดา คือ พระมเหสีตำหนักกลาง ตำแหน่ง อะเลนานดอ
พระมเหสีราชเทวี พระนามเดิม สิ่นทวยละ หรือ เชงทะเวง (ธิดาเมืองแปร)


ในปี พ.ศ.2127 หลังพระนเรศวรแห่งกรุงศรีอยุธยาประกาศอิสรภาพจากพม่า
พระนเรศวรพยายามขยายอำนาจเข้ามาในล้านนา
เจ้าฟ้าสารวตีแห่งเชียงใหม่ยอมสวามิภักดิ์ พระนเรศวรจึงให้เจ้าฟ้าสารวตีปกครองต่อไป
โดยเจ้าฟ้าสารวตีได้ถวายพระราชธิดาเป็นพระมเหสีในพระนเรศวร
ขณะเดียวกัน พระทุลอง โอรสของเจ้าฟ้าสารวตีก็ได้อภิเษกกับพระธิดาของพระนเรศวรอีกด้วย
หลังสิ้นยุคพระนเรศวรอิทธิพลของพม่าก็กลับเข้ามาในล้านนาอีกครั้ง

เจ้าฟ้าสารวตีมีโอรสธิดา ดังนี้
พระทุลอง (มางสาตุลอง) ราชบุตรเขยของพระนเรศวร
พระชัยทิพ (มองกอยต่อ) โอรส
พระช้อย (สโดกยอ) โอรส
โยเดียมี้พระยา พระธิดา มเหสีของพระนเรศวร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 เมษายน 2011, 21:18:06 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
>:l!ne-po!nt:<
~: ดาบราชบุตร :~
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,256

~>: แขกดอย :<~


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 10 เมษายน 2011, 09:08:00 »

ได้มีโอกาศดูตัวอย่างหนังนเรศวรภาค3ของท่านมุ้ยครับ ได้ยินชื่อของพระเจ้าเชียงใหม่ถุกกล่าวถึงในหนัง ครับว่าเป็นแม่ทัพของพม่าที่จะมารุกรานอยุธยา พระเจ้าเชียงใหม่ในที่นี้เป็นใครครับ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่คิดที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ครับ เนื้อหามันเข้าข้างตัวเองมากไปหน่อย รบกวนท่านผู้รู้มาตอบด้วยครับ

มันมีหั้นอย่าง ผมเลยบ่ก่อยได้เข้าโฮงหนังครับ
ยะหื้อผมบ่เกยเสี้ยงสตางค์หื้อหนังของท่านมุ้ยเลย
ได้ก้าผ่อฟรีในงานเทศก๋านหนังพ่อง ในทีวีช่อง 7 พ่อง


ส่วนเรื่องพระเจ้าเจียงใหม่ในเรื่องนเรศวร ภาค 3 ก็คือ
"สาวถีนรตรามังซอศรีมังสรธาช่อ"
เจ้านายเชื้อสายราชวงศ์ตองอู

พระเจ้าสาวถีนรตรามังซอศรีมังสรธาช่อ (Sawati Noratra Mangsosri)
หรือ อโนรธาเมงสอ หรือ เจ้าฟ้าสารวตี ปฐมราชวงศ์ของชาวพม่าที่ปกครองล้านนา
ในช่วง พ.ศ. 2121-2150 (29 ปี) พระองค์เป็นพระโอรสของพระเจ้าบุเรงนอง ที่ส่งมาปกครองล้านนา
พระราชมารดา คือ พระมเหสีตำหนักกลาง ตำแหน่ง อะเลนานดอ
พระมเหสีราชเทวี พระนามเดิม สิ่นทวยละ หรือ เชงทะเวง (ธิดาเมืองแปร)


ในปี พ.ศ.2127 หลังพระนเรศวรแห่งกรุงศรีอยุธยาประกาศอิสรภาพจากพม่า
พระนเรศวรพยายามขยายอำนาจเข้ามาในล้านนา
เจ้าฟ้าสารวตีแห่งเชียงใหม่ยอมสวามิภักดิ์ พระนเรศวรจึงให้เจ้าฟ้าสารวตีปกครองต่อไป
โดยเจ้าฟ้าสารวตีได้ถวายพระราชธิดาเป็นพระมเหสีในพระนเรศวร
ขณะเดียวกัน พระทุลอง โอรสของเจ้าฟ้าสารวตีก็ได้อภิเษกกับพระธิดาของพระนเรศวรอีกด้วย
หลังสิ้นยุคพระนเรศวรอิทธิพลของพม่าก็กลับเข้ามาในล้านนาอีกครั้ง

เจ้าฟ้าสารวตีมีโอรส 4 องค์ ดังนี้
พระทุลอง (มางสาตุลอง) ราชบุตรเขยของพระนเรศวร
พระชัยทิพ (มองกอยต่อ)
พระช้อย (สโดกยอ)
โยเดียมี้พระยา


ข้อมูลแน่นปึ๊กเลยครับ
IP : บันทึกการเข้า

!!!!!  กว่า ๑,๑๐๐ กม.จากยอดดอยสู่ทะเล...ตะวันออก  !!!!!

www.facebook.com/1100kilometer

||||| ธรรมชาติสร้างอากาศบริสุทธิ์    ส่วนมนุษย์นั้นสร้างอาวุธเพื่อทำลาย |||||
Benzram
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 216


หนุ่มน้อย ไร้ร้อยตีนกา


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 10 เมษายน 2011, 20:34:01 »

ได้มีโอกาศดูตัวอย่างหนังนเรศวรภาค3ของท่านมุ้ยครับ ได้ยินชื่อของพระเจ้าเชียงใหม่ถุกกล่าวถึงในหนัง ครับว่าเป็นแม่ทัพของพม่าที่จะมารุกรานอยุธยา พระเจ้าเชียงใหม่ในที่นี้เป็นใครครับ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่คิดที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ครับ เนื้อหามันเข้าข้างตัวเองมากไปหน่อย รบกวนท่านผู้รู้มาตอบด้วยครับ

มันมีหั้นอย่าง ผมเลยบ่ก่อยได้เข้าโฮงหนังครับ
ยะหื้อผมบ่เกยเสี้ยงสตางค์หื้อหนังของท่านมุ้ยเลย
ได้ก้าผ่อฟรีในงานเทศก๋านหนังพ่อง ในทีวีช่อง 7 พ่อง


ส่วนเรื่องพระเจ้าเจียงใหม่ในเรื่องนเรศวร ภาค 3 ก็คือ
"สาวถีนรตรามังซอศรีมังสรธาช่อ"
เจ้านายเชื้อสายราชวงศ์ตองอู

พระเจ้าสาวถีนรตรามังซอศรีมังสรธาช่อ (Sawati Noratra Mangsosri)
หรือ อโนรธาเมงสอ หรือ เจ้าฟ้าสารวตี ปฐมราชวงศ์ของชาวพม่าที่ปกครองล้านนา
ในช่วง พ.ศ. 2121-2150 (29 ปี) พระองค์เป็นพระโอรสของพระเจ้าบุเรงนอง ที่ส่งมาปกครองล้านนา
พระราชมารดา คือ พระมเหสีตำหนักกลาง ตำแหน่ง อะเลนานดอ
พระมเหสีราชเทวี พระนามเดิม สิ่นทวยละ หรือ เชงทะเวง (ธิดาเมืองแปร)


ในปี พ.ศ.2127 หลังพระนเรศวรแห่งกรุงศรีอยุธยาประกาศอิสรภาพจากพม่า
พระนเรศวรพยายามขยายอำนาจเข้ามาในล้านนา
เจ้าฟ้าสารวตีแห่งเชียงใหม่ยอมสวามิภักดิ์ พระนเรศวรจึงให้เจ้าฟ้าสารวตีปกครองต่อไป
โดยเจ้าฟ้าสารวตีได้ถวายพระราชธิดาเป็นพระมเหสีในพระนเรศวร
ขณะเดียวกัน พระทุลอง โอรสของเจ้าฟ้าสารวตีก็ได้อภิเษกกับพระธิดาของพระนเรศวรอีกด้วย
หลังสิ้นยุคพระนเรศวรอิทธิพลของพม่าก็กลับเข้ามาในล้านนาอีกครั้ง

เจ้าฟ้าสารวตีมีโอรส 4 องค์ ดังนี้
พระทุลอง (มางสาตุลอง) ราชบุตรเขยของพระนเรศวร
พระชัยทิพ (มองกอยต่อ)
พระช้อย (สโดกยอ)
โยเดียมี้พระยา

ขอบคุณครับ ที่คุณเชียงรายพันแท้ว่ามีนี่มันช่างต่างกับภาพ พระเนรศวรในหนัง หรือในสื่อต่างที่เราได้รับรู้มา แม้กระทั่งในบทเรียนที่ได้เรียนมา บางตำรายังบอกเลยครับว่าพระเนรศวรมัวแต่ทำสงครามปกป้องประเทศจนไม่สนใจเรื่องของตัวเอง จนไม่มีพระมเหสี และไม่มีโอรสสืบสกุลเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 เมษายน 2011, 21:04:22 โดย Benzram » IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 10 เมษายน 2011, 21:35:29 »

แก้ข้อมูลเรื่องโอรสธิดาของเจ้าฟ้าสารวตี (พระเจ้านรธามังสอ) ครับ
เจ้าฟ้าสารวตี (ปกครองเชียงใหม่ พ.ศ.2121-2150)
มีโอรส 3 องค์ ธิดา 1 องค์ ดังนี้
พระทุลอง (มางสาตุลอง) ราชบุตรเขยของพระนเรศวร
พระชัยทิพ (มองกอยต่อ) โอรส
พระช้อย (สโดกยอ) โอรส
โยเดียมี้พระยา พระธิดา มเหสีของพระนเรศวร


พระนเรศวรสวรรคต พ.ศ.2148 ก่อนหน้าเจ้าฟ้าสารวตีสวรรต 2 ปี
หลังจากนั้นพระเอกาทศรถ พระอนุชา ก็ได้ครองราชย์ต่อ

พระราชประวัติของพระนเรศวรส่วนใหญ่ได้จากพงศาวดารอยุธยา ซึ่งมักมีการจดบันทึกในพระราชกรณียกิจ ซึ่งส่วนใหญ่บันทึกถึงการทำสงครามกับอาณาจักรเพื่อนบ้านเป็นอันมาก จนมองข้ามเกี่ยวกับเจ้านายฝ่ายในหรือพระมเหสีของพระองค์ แต่อย่างไรก็ตามได้มีการปรากฏพระนามของเจ้านายฝ่ายใน ในเอกสารของต่างชาติ 5 ฉบับด้วยกัน ซึ่งได้แก่ จดหมายเหตุสเปน (History of the Philippines and Other Kingdom) ของบาทหลวงมาร์เชโล เด ริบาเดเนย์รา (Marchelo de Ribadeneira, O.F.M), จดหมายเหตุวันวลิต, พงศาวดารละแวก, คำให้การขุนหลวงหาวัด และพงศาวดารพม่าฉบับหอแก้ว ซึ่งปรากฏพระนามพระนามพระมเหสี 3-4 พระองค์ โดยมีพระนาม ดังนี้

1.พระมณีรัตนา จากคำให้การขุนหลวงหาวัด
2.เจ้าขรัวมณีจันทร์ จากจดหมายเหตุวันวลิต
3.โยเดียมี้พระยา พระราชธิดาในพระเจ้านรธามังสอ (เจ้าฟ้าสารวตี) กับพระนางเชงพยูเชงเมดอ ราชวงศ์ตองอูที่ปกครองเชียงใหม่ จากพงศาวดารพม่า
4.พระเอกกษัตรีย์ พระราชธิดาในพระเจ้าศรีสุพรรณมาธิราช เจ้าแผ่นดินเขมร จากพงศาวดารเขมร

มีการกล่าวถึง พระมณีรัตนา และเจ้าขรัวมณีจันทร์ ว่าอาจเป็นบุคคลเดียวกัน แต่บ้างก็ว่าอาจเป็นคนละคนกัน โดยเชื่อว่า พระมณีรัตนาอาจเป็นเจ้าหญิงที่สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ละโว้สายสุพรรณภูมิของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ และสมเด็จพระมหินทราธิราช ซึ่งในขณะนั้นเจ้านายฝ่ายในในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระองค์หนึ่งมีพระนามว่า พระรัตนมณีเนตร หรือ พระแก้วฟ้า ซึ่งเป็นพระขนิษฐาต่างชนนีของพระวิสุทธิกษัตรีย์ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นพระนางจะมีศักดิ์เป็นพระมาตุจฉาของพระนเรศวร อย่างไรก็ตามเจ้าขรัวมณีจันทร์ มีบทบาทสูงกว่าพระมเหสีจากเชียงใหม่และเขมร โดยมีการสถาปนาพระนางเป็นอัครมเหสีดังที่ปรากฏในคำให้การขุนหลวงหาวัด

หลังจากการสวรรคตของพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถได้เสด็จขึ้นครองราชย์ต่อนั้น เจ้าขรัวมณีจันทร์ได้ปรากฏอีกครั้งในจดหมายเหตุวันวลิต ที่ได้กล่าวถึง พระชายาม่ายของพระนเรศวร ได้เสด็จออกบวชชี และเป็นเหตุให้บุคคลทั่วไปเรียกกันว่า เจ้าขรัว

จนกระทั่งมีเหตุการณ์หนึ่งที่ทรงเสด็จไปช่วยพระราชโอรสพระองค์หนึ่งของสมเด็จพระเอกาทศรถ คือ "เจ้าไล" หรือศรี ซึ่งมีเหตุวิวาทกับพระยาออกนา จนต้องพระราชอาญาจนถึงชีวิต ข้ารองพระบาทในพระองค์ไลจึงได้ไปทูลขอพึ่งพระบารมีเจ้าขรัวมณีจันทร์ซึ่งเป็นพระปิตุจฉา พระนางจึงรีบเสด็จเข้าเฝ้าสมเด็จพระเอกาทศรถ จนสมเด็จพระเอกาทศรถยินยอมด้วยความเกรงพระทัย (แต่ในจดหมายเหตุวันวลิตกล่าวว่า ถูกฟันด้วยพระแสงดาบและถูกจำคุกเป็นเวลา 5 เดือน เจ้าขรัวมณีจันทร์จึงได้ขอพระราชทานอภัยโทษ) โดยปรากฏในจดหมายเหตุวันวลิต ความว่า "จนกระทั่งเจ้าขรัวมณีจันทร์ ชายาม่ายของพระเจ้าอยู่หัวในพระโกศ คือ พระ Marit หรือพระองค์ดำ ได้ทูลขอจึงเป็นที่โปรดปรานอีก"

พระราชโอรสธิดา

มีการกล่าวถึงพระราชโอรสในพระนเรศวรในจดหมายเหตุสเปน (History of the Philippines and Other Kingdom) ของบาทหลวงมาร์เชโล เด ริบาเดเนย์รา (Marchelo de Ribadeneira, O.F.M) ที่เขียนขึ้นจากคำบอกเล่าของบาทหลวงนิกายฟรานซิสกันที่เคยพำนักอยู่ในกรุงศรีอยุธยาใน พ.ศ. 2125 ปลายรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช และ พ.ศ. 2139 ตรงกับต้นรัชสมัยของพระนเรศวร โดยเนื้อความในจดหมายเหตุนี้ได้มีการอธิบายถึงกระบวนพยุหยาตราชลมารคของพระเจ้าแผ่นดินสยาม โดยมีเนื้อความตอนหนึ่งที่ได้กล่าวถึงพระอัครมเหสีและพระราชโอรสผู้ทรงพระเยาว์โดยเสด็จด้วย

เมื่อนำเหตุการณ์ที่บาทหลวงสเปนได้เขียนบอกเล่าไว้ไปเทียบเคียงกับพระราชพงศาวดารฯ ฉบับพระจักรพรรดิพงษ์เจ้ากรม (จาด) จะพบว่าในรัชสมัยของพระนเรศวรได้มีการกล่าวถึงพระราชพิธีอาสวยุทธ และการต้อนรับคณะทูตกัมพูชาที่เดินทางมาถวายเครื่องราชบรรณาการยังราชสำนักอยุธยาซึ่งตรงกับเหตุการณ์การเสด็จฯทางชลมารคและการออกรับทูตกัมพูชาในจดหมายเหตุของสเปน โดยบางทีพระนเรศวรอาจมีพระราชโอรสมากกว่า 1 พระองค์แล้ว เนื่องจากในจดหมายเหตุมีการใช้คำว่า "พระราชกุมารพระองค์เยาว์ที่สุด"

นอกจากนี้สมเด็จพระนเรศวารมหาราชก็ทรงมีพระราชธิดาด้วย โดยมีการกล่าวถึง พระเจ้านรธามังสอ (เจ้าฟ้าสารวตี) เจ้าผู้ครองล้านนา ด้วยเหตุที่พระเจ้านรธามังสอได้รับการช่วยเหลือจากกรุงศรีอยุธยาเพื่อจัดการปัญหาเมืองขึ้นแข็งเมือง และช่วยป้องกับการรุกรานข้าศึก ด้วยการเกื้อกูลกันดังกล่าว ได้สร้างสายสัมพันธ์ทางเครือญาติกับนรธามังสอและพระนเรศวร โดยพระนเรศวรได้ทรงยกพระราชธิดาให้สมรสกับเมงสาตุลอง ผู้ซึ่งเป็นพระราชโอรสในพระเจ้านรธามังสอ โดยพระเจ้านรธามังสอก็ได้ถวายพระราชธิดาให้เป็นพระมเหสีของพระนเรศวรด้วย โดยการมอบพระราชธิดาของพระเจ้านรธามังสอแด่พระนเรศวร

อย่างไรก็ตามก็มีหลักฐานเกี่ยวกับพระอัครมเหสีรวมไปถึงพระราชโอรสและพระราชธิดาน้อยมาก เนื่องจากผู้ที่เขียนจดหมายเหตุสเปนเองก็บันทึกจากผู้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่รู้รายละเอียด รวมไปถึงพงศาวดารของพม่าที่กล่าวถึงพระราชธิดาในพระนเรศวรอย่างผ่านๆเท่านั้น ภายหลังจากที่พระนเรศวรเสด็จสวรรคตแล้ว ราชสมบัติจึงตกแก่สมเด็จพระเอกาทศรถ

ที่มา
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A#.E0.B8.9E.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.A3.E0.B8.B2.E0.B8.8A.E0.B9.82.E0.B8.AD.E0.B8.A3.E0.B8.AA-.E0.B8.98.E0.B8.B4.E0.B8.94.E0.B8.B2
IP : บันทึกการเข้า
Twitty1239
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 133


เด็กดอยที่หลงรักน้ำทะเล~~


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 10 เมษายน 2011, 21:56:04 »

ยังไงก็ต้องดูเรื่องนี้อยู่แล้วค่ะ (ดูทุกภาค^^) รวมถึงก้านกล้วยด้วย
ไปดูมาแล้ว สนุกมากค่ะ
เพราะศรัทธาในองค์สมเด็จพระนเรศวรมาก
..จากใจ ลูกนเรศ..นเรศวร พิษณุโลกค่ะ^^ Fight Fight
IP : บันทึกการเข้า

สิ่งที่ดีที่สุด  คือ การลืมตาขึ้นมา แล้วพบว่า เรายังมีชีวิตอยู่ค่ะ
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 11 เมษายน 2011, 00:21:31 »

ในหนังเรียก อนรธาเม็งสอว่า "พระเจ้าเชียงใหม่"
แสดงโดย ชลิต เฟื่องอารมย์
สวมเครื่องแต่งกายกษัตริย์ของ "เชียงใหม่"


* A10411447-0.jpg (68.37 KB, 500x332 - ดู 1197 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 11 เมษายน 2011, 00:32:34 »

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชบนยอดดอยไตแลงของกองทัพไทยใหญ่



* 1293624156taiyai.jpg (63.16 KB, 640x427 - ดู 1092 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 15 เมษายน 2011, 21:37:55 »

พงศาวดารทั้งฝ่ายไทยและไทใหญ่ บันทึกไว้ตรงกันว่า สมเด็จพระนเรศวรกับเจ้าคำก่ายน้อยเจ้าฟ้าไทใหญ่เป็นสหายสนิทอย่างยิ่ง ร่วมทำสงครามกับพม่าในการกู้ชาติไทยมาด้วยกัน และพระนเรศวรฯ ยังได้เคยสั่งให้คุ้มครองชาวบ้านผู้อพยพไทใหญ่ที่หนีศึกพม่ามาพึ่งแผ่นดินไทย ไม่ยอมให้ส่งคนไทใหญ่กลับไปให้ขุนนางพม่า 

 และนี่คือคำให้สัมภาษณ์ของพลโทเจ้ายอดศึกสดๆร้อนๆ  จากฐานที่มั่นชายแดนไทย เพียง ๑ วันหลังการทำพิธีบวงสรวงรูปหล่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในช่วงกลางเดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ที่ผ่านมา

การที่ผมนำหุ่นฮ่าง(รูปหล่อ)พระนเรศวรฯ ขึ้นไว้สักการะบนดอยไตแลง จุดประสงค์มี ๓ อย่างคือ

             ๑.พระนเรศวรฯกับเจ้าคำก่ายน้อยผู้นำไทใหญ่ เคยเป็นเพื่อนช่วยเหลือกันมา  ชาวไทใหญ่นับถือพระนเรศวรมาก

             ๒.อุดมการณ์ของพระนเรศวรฯ เคยมีว่าพระองค์จะร่วมกันกับทางไทใหญ่รบพม่าที่ตองอู เพื่อก่อตั้งอาณาจักรคนไทย-ไทใหญ่ เพียงแต่ว่ายังไม่สำเร็จ พระนเรศวรฯมาเสียในประเทศไทใหญ่เสียก่อน พวกเราคนไทใหญ่เชื่อกันว่า วิญญาณพระนเรศวรฯยังวนเวียนอยู่ในประเทศไทใหญ่ของเรา

             ๓.ผมอยากเอาหุ่นฮ่าง(รูปหล่อ)พระนเรศวรไว้เป็นขวัญกำลังใจของคนไทใหญ่   เพราะบนดอยไตแลงนี่ผมมีหุ่นฮ่างของเจ้ากอนเจิงอดีตผู้นำการต่อสู้ของคนไทใหญ่ มีหุ่นฮ่างเจ้าเสือข่านฟ้าอดีตเจ้าฟ้าไทใหญ่ สองผู้นำนี้เป็นขวัญของคนไทใหญ่  ถ้าได้เชิญหุ่นฮ่างพระนเรศวรฯมาร่วมไว้ วิญญาณของพระองค์ก็จะมาเป็นขวัญของคนไทใหญ่และของกองทัพเราด้วย  เพราะพระนเรศวรเป็นคนกล้าหาญ คนรักชาติ ผมอยากให้พระองค์ท่านมาเป็นต้นแบบจิตใจของคนไทใหญ่ ให้มีคนกล้าหาญขึ้นมา ผมจะพยายามทำตามรอยพระนเรศวรฯและเจ้าเสือข่านฟ้า เจ้าเสือข่านฟ้าเป็นกษัตริย์ไทใหญ่เมื่อ ๗๐๐ ปีก่อน เป็นคนรวมอาณาจักรไทใหญ่ให้กว้างใหญ่ เป็นปึกแผ่นขึ้นมา



* 1293624410taiyai.jpg (60.11 KB, 640x480 - ดู 857 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 15 เมษายน 2011, 21:50:03 »

ดูสมเด็จพระนเรศวรมหาราชผ่านความคิดเห็นของชาวไทยใหญ่กันครับ

     ความเชื่อมั่นศรัทธาของคนไทใหญ่ที่มีต่อสมเด็จพระนเรศวรฯ นั้น มีรากฐานสำคัญส่วนหนึ่งมาจากการปกครองระบอบ "เจ้าฟ้า" ของไทใหญ่ที่สืบทอดมาเป็นพันปี แต่เพิ่งถูกทำลายหมดสิ้นไปกับการยึดอำนาจในสหภาพพม่าของนายพลเนวินเมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๕

แม้ปัจจุบันนี้ เจ้าฟ้าของไทใหญ่จะดับสูญ เชื้อสายเจ้าฟ้ากระจัดกระจายไปอยู่คนละทิศละทาง แต่ศรัทธาอันหยั่งรากลึกมาเป็นพันปีในจิตใจคนไทใหญ่ไม่เคยสูญหาย หลักฐานปรากฏชัดในทุกบ้านของทหาร SSA หรือกระทั่งบนเวทีงานฉลองปีใหม่ของไทใหญ่ สูงสุดแห่งการเคารพบูชานั้นคือพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ตระหง่านสง่าอยู่กลางยอดดอยไตแลง

พันเอกเจ้ายอดศึกกล่าวถึงปรากฏการณ์นี้ว่า ..

"คนไทใหญ่ทั้งสมัยนี้ทั้งสมัยโบราณเชื่อถือพระนเรศวรฯ คนยุคนี้เชื่อถือพระเจ้าอยู่หัว ทุกคนทุกบ้านมีรูปในหลวง-พระราชินี เพราะถ้าดูประวัติศาสตร์คนเชื้อชาติไท คนไทใหญ่ คนไทย คนลาว คนไทในเวียดนาม คนไทในจีนเป็นเชื้อสายเดียวกัน แล้วปัจจุบัน พระเจ้าอยู่หัวมีในประเทศไทยองค์เดียว ไทใหญ่จึงเคารพรักและเชื่อถือพระองค์มาก"

เดินอยู่ในบ้านคนไทใหญ่ แหงนมองผนังห้อง ใกล้หิ้งบูชาพระ จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างยิ่งที่จะได้พบรูปในหลวง-พระราชินี ประดับอยู่โดยถ้วนทั่ว ไม่ต่างอะไรจากบ้านคนไทย ส่วนความเชื่อในพระราชวงศ์นั้น คนไทใหญ่ยิ่ง "เหมือน" สุดๆ กับคนไทย ชนิดไม่มีผิดเพี้ยนเลยสักน้อย

ครูเคอแสน นักประวัติศาสตร์และเลขาธิการของสภากอบกู้รัฐฉานเล่าให้ฟังว่า เมื่อ ๑๐ กว่าปีก่อน ครั้งที่สมเด็จพระเทพรัตนฯ เสด็จเยือนพม่า และเสด็จไปที่เมืองตองจี คนไทใหญ่ตื่นเต้นกันมาก รู้สึกเหมือนเจ้าฟ้าของตนกลับบ้าน ใครสามารถไปรับเสด็จได้ก็พากันออกไป ส่วนคนที่ไม่มีโอกาส ต่างก็จ้องตาเป๋งไปที่ทีวีพม่า คอยดูภาพถ่ายทอดการเสด็จเยือนพม่าครั้งนั้นของสมเด็จพระเทพรัตนฯ อย่างปลาบปลื้ม แต่ที่คนไทใหญ่ตั้งใจดูๆ จ้องๆ กันอย่างละเอียดก็คือ "หมายเลข" ของเครื่องบินพระที่นั่งนั่นแหละ ครูเคอแสนเล่าว่าปีนั้นคนตองจีแห่ซื้อเลขเด็ดและถูก "หวย" ตัวเลขเครื่องบินสมเด็จพระเทพรัตนฯ กันทั้งเมือง จนเจ้ามือหวยแทบจะล่มจมไปเลย ครูยังบอกอีกด้วยว่าที่จำได้แม่นเพราะเพื่อนของครูในมหาวิทยาลัยตองจีได้เงินจากหวยในคราวนั้นเป็นหมื่นจ๊าด!

ด้วยรากฐานทางวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน แม้ระบบเจ้าฟ้าจะล่มสลาย แต่ความเชื่อถือศรัทธาในระบบกษัตริย์ที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมไทใหญ่มาเป็นพันปี ความรู้สึกของคนไทใหญ่ คนไทย หรือกระทั่งคนลาว  จึงไม่ได้ต่างกันเลยสักน้อย สำหรับคนไทใหญ่ สถาบันกษัตริย์ยังเป็นศูนย์รวมของจิตใจ เป็นแบบอย่างทางศีลธรรมอันดีงาม และเป็นสัญลักษณ์ของบารมีที่จะปกแผ่พระราชอำนาจมาปกป้องคุ้มครองพวกเขา เมื่อไม่มีเจ้าฟ้า ความรักความศรัทธานี้ก็ได้ทุ่มเทสู่กษัตริย์ไทยอย่างมั่นคงและเต็มที่ โดยเฉพาะในยามซึ่งพวกเขาต้องประสบกับชะตากรรมอันขมขื่น และต้องการขวัญกำลังใจในช่วงเวลาของการกอบกู้เอกราชของชาติไทใหญ่ อันลำบากตรากตรำในยุคปัจจุบัน

นับเป็นเวลาเกือบ ๕๐ ปีแล้วที่รัฐไทยได้สถาปนาความเชื่อเรื่องสมเด็จพระนเรศวรฯ กษัตริย์นักรบลงสู่กองทัพกู้ชาติไทใหญ่ และความเชื่อมั่นศรัทธานี้ก็ได้ฝังรากลึกอย่างมั่นคงจากพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ระหว่างไทยสยามกับไทใหญ่ที่มีร่วมกันมา การต่อสู้กู้ชาติของคนไทใหญ่ผูกพันกับตำนานของสมเด็จพระนเรศวรฯ มาตั้งแต่เริ่มแรก จนแม้นักธุรกิจการเมืองยุคนี้จะผลักดันนโยบายให้เมินเฉยต่อพวกเขา

แต่สำหรับนักรบไทใหญ่แล้ว ศรัทธาสูงสุดที่มีให้สมเด็จพระนเรศวรฯ ยังฝังลึกอยู่เต็มหัวใจ ด้วยความเชื่อมั่นว่า ในยามออกรบทำสงครามกู้ชาติ ในยามมืดมิดสิ้นหวัง สมเด็จพระนเรศวรฯ ยังทรงปกป้องคุ้มครองคนไทใหญ่เสมอ

พระองค์ไม่เคยทรงทอดทิ้งพวกเขา……





http://www.khonkhurtai.org/index.php?option=com_content&view=article&id=88:2009-11-26-08-20-48&catid=31:general&Itemid=46


* 1293625297taiyai.jpg (37.07 KB, 480x640 - ดู 705 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!