"เพื่อ ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จ" เป็นจุดประสงค์หลักของการเจิม ไม่ว่าจะเป็นเจิมหน้าผากในวันแต่งงาน ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เปิดบริษัทห้างร้าน รวมทั้งเมื่อซื้อรถคันใหม่
เรื่องของการเจิมรถ เจิมบ้านใหม่ รวมทั้งเจิมบริษัทห้างร้านต่างๆ นั้น พระสงฆ์โดยเฉพาะพระผู้ที่เป็นเจ้าอาวาสควรศึกษาไว้บ้าง เพราะอย่างไรเสียญาติโยมที่ซื้อรถคันใหม่ต้องนำรถมาให้ท่านเจิม ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ด้วยเหตุที่ว่า มียันต์ยอดนิยมในการเจิมไม่กี่ตัว ขณะเดียวกัน ถ้าเจ้าของรถมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับยันต์ที่เจิมด้วยจะยิ่งดีใหญ่ จะได้ภาวนาระหว่างขับรถ เพื่อความเป็นสิริมงคล และสร้างสติระหว่างขับรถ จากการรวบรวมข้อมูลการเจิมของพระเกจิต่างๆ ที่มีลูกศิษย์ลูกหามักจะให้เจิมบ้าน รถ รวมทั้งป้ายร้านค้า แต่ละรูปจะมีวิธีการเจิม จำนวนจุด รวมทั้งอักขระเลขยันต์ในการเจิมไม่เกิน ๑๐ ตัว ทั้งนี้จะมีการเขียนร้อยกันให้มีลักษณะสวยงาม หรือที่เรียกว่า การเขียนยันต์ตลก นั่นเอง
และในจำนวนนี้ มีคาถาอยู่ ๒ บท ที่นิยมใช้เจิมรถมากที่สุด มี ๒ ตัว คือ
คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ หรือเรียกว่า "แม่ธาตุใหญ่" ที่ว่า "นะ โม พุท ธา ยะ" ซึ่งมีพุทธคุณเหนือยันต์ทั้งปวง รวมทั้งความเชื่อสืบต่อกันว่า ผู้ใดที่ท่องหรือบริกรรมพระคาถาบทนี้ ด้วยจิตอันสงบ และมั่นคงแล้ว จะมีพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาล
หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ มีพุทธคุณครบทุกด้าน เช่น เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย โดยแต่ละตัวมีความหมายดังนี้
นะ หมายถึง พระกุกกุสันโธ ใช้เขียนแทน ธาตุน้ำ ซึ่งเรียกว่า อาโปธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๒
โม หมายถึง พระโกนาคม ใช้เขียนแทน ธาตุดิน ซึ่งเรียกว่า ปฐวีธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๒๑
พุท หมายถึง พระกัสสป ใช้เขียนแทน ธาตุไฟ ซึ่งเรียกว่า เดโชธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๖
ธา หมายถึง พระสมณะโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ใช้เขียนแทน ธาตุลม ซึ่งเรียกว่า วาโยธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๗
ยะ หมายถึง พระศรีอารยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป หลัง พ.ศ.๕๐๐๐) ใช้เขียนแทน อากาศธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๐
ส่วนอีกตัวหนึ่ง หัวใจพระฉิมพลี ที่ว่า นะ ชา ลิ ติ หรือ นะ ชา ลี ติ นั้น คือถอดมาจากคาถา ธรณีปริตร ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานแก่พระอานนท์ คาถาเริ่มจากนิยมใช้ในทาง ให้เกิดโชคลาภ เมตตามหานิยม ค้าง่ายขายคล่อง และป้องกันภัยกันผี
เท่าที่พบพระเกจิอาจารย์ที่เขียนยันต์ได้สวย ต้องยกให้ หลวงพ่อเปิ่น อดีตเจ้าอาวาสวัดบางพระ จ.นครปฐม เมื่อครั้งที่ท่านมีชีวิตอยู่ ด้วยเหตุที่ท่านมีความชำนาญเรื่องการเขียนอักขระเลขยันต์
เวลาเจิม ท่านจะเขียนยันต์ลงไปเลย โดยจะเขียนยันต์พุดซ้อน ซึ่งมีพุทธคุณครอบคลุมทุกด้าน ทั้งคุ้มภัย เมตตา และค้าขาย ยกเว้นบางโอกาสเท่านั้น ที่ท่านจะเจิมเป็นจุด
ส่วนอีกรูปหนึ่ง คือ หลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ท่านเป็นศิษย์ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม การเจิมของท่านมีทั้งเขียนเป็นอักขระเลขยันต์ และเจิมเป็นจุด
ปัจจุบันนี้ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อพูล เมื่อเจิมรถแล้วเป็นที่ร่ำลือว่า แคล้วคลาดปลอดภัยจากอุบัติเหตุ จึงมีทั้งรถเก๋ง รถกระบะ รวมทั้งรถบรรทุกสิบล้อมาให้ท่านเจิมวันละหลายสิบคัน
นอกจากคติความเชื่อเรื่องการเจิมรถ เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังมีผู้ซื้อรถใหม่จำนวนไม่น้อย ในวันแรกของการออกรถจะให้พ่อแม่นั่ง เพราะถือว่า ท่านเป็นพระอรหันต์ของลูก
บางคนจะถวายรถ พร้อมค่าน้ำมันให้พระเกจิอาจารย์ที่นับถือใช้เดินทาง ๕ วัน ๗ วัน และ ๙ วัน เพื่อความเป็นสิริมงคล
ในขณะที่บางท่านจะนำรถไปร่วมพิธีปลุกเสกพระเครื่องตามวัดต่างๆ โดยโยงสายสิญจน์มายังตัวรถ
สำหรับผู้นิยมวิธีปลุกเสกรถเอาความเป็นสิริมงคลนั้น ในวันอาทิตย์ที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๒ นี้ เวลา ๑๖.๔๙ น. พระครูวิสารทสุตาการ หรือ พระมหารัตนะ เจ้าอาวาสวัดช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้จัดพิธีปลุกเสกแม่ย่านางรถ พร้อมกับเสกรถ โดยนิมนต์เกจิชื่อดังมาร่วมพิธีหลายสิบรูป
ผู้ที่สนใจนำรถเข้าร่วมพิธีฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่ต้องไปก่อนเวลา ๑๒.๐๐ น. เพราะเท่าที่ทราบ หลังจากประกาศเชิญชวนเจ้าของรถมาร่วมพิธี ปรากฏว่ามีเจ้าของรถขอเข้าร่วมนับร้อยๆ คันแล้ว
ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.๐-๓๘๔๓-๑๑๒๓, ๐๘-๑๘๖๔-๓๑๔๙
เจิมด้วยจุดง่ายสุดๆ
ด้วยเหตุที่พระเกจิอาจารย์ รวมทั้งเจ้าอาวาสยุคปัจจุบันไม่ได้ศึกษาเรื่องอักขระเลขยันต์ รวมทั้งหัดเขียนเป็นเรื่องเป็นราว ดังนั้นเมื่อญาติโยมมาขอให้เจิมรถให้ ท่านมักจะเจิมด้วยจุดเพราะง่ายสุด
ทั้งนี้ จะลงจุดเป็นรูปสามเหลี่ยมเ โดยส่วนยอดของสามเหลี่ยมจะเป็นอุณาโลม สุดแล้วแต่จะกี่ชั้น
แม้ว่าจะเป็นการเจิมด้วยจุด แต่อำนาจพุทธคุณของแต่ละจุดนั้น ส่วนใหญ่จะครบทุกด้าน ทั้งแคล้วคลาด ปลอดภัย ค้าขาย และเมตตามหานิยม
ส่วนความหมายของจุดแต่ละจุด ในการเจิมนั้น มีความหมายดังนี้
๑ จุด ใช้เขียนอักขระที่ว่า เอกะอะมิ หมายถึง คุณแห่ง พระนิพพานอันยิ่งใหญ่
๒ จุด ใช้เขียนอักขระที่ว่า พุท โธ หมายถึง นามพระพุทธเจ้า
๓ จุด ใช้เขียนอักขระที่ว่า มะ อะ อุ หมายถึง คุณแห่งแก้ว ๓ ประการ (พระรัตนตรัย) และอีกความหมายคือ พระไตรปิฎก
๔ จุด ใช้เขียนอักขระที่ว่า ทุ สะ นิ มะ (หัวใจอริยสัจ ๔), นะ ชา ลิ ติ (พระสิวลี), อุ อา กา สะ (หัวใจเศรษฐี), นะ มะ อะ อุ (พระไตรปิฎก), นะ มะ พะ ทะ (ธาตทั้ง ๔)
๕ จุด ใช้เขียนอักขระที่ว่า นะ โม พุท ธา ยะ หมายถึง พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ หรือคุณแห่งศีล ๕ มีพุทธคุณ
๖ จุด ใช้เขียนอักขระที่ว่า อิ สฺวา สุ สุ สฺวา อิ หมายถึง คุณแห่งไฟ หรือพระเพลิง รวมทั้งหมายถึงคุณแห่งพระอาทิตย์
๗ จุด ใช้เขียนอักขระที่ว่า สะ ธะ วิ ปิ ปะ สะ อุ หมายถึง คุณแห่งลม หรือพระพาย
๘ จุด ใช้เขียนอักขระที่ว่า พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ หมายถึงคุณแห่งพระกรรมฐาน คุณแห่งศีล ๘ คุณแห่งพระอังคาร
๙ จุด ใช้เขียนอักขระที่ว่า อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ หมายถึง คุณแห่งมรรค ๔ ผล ๔ และพระนิพพาน ๑ และ ๑๐ จุด ใช้เขียนอักขระที่ว่า เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว หมายถึง คุณแห่งครูบาอาจารย์ คุณแห่งอากาศ หมายถึงคุณแห่งศีล ๑๐ หมายถึงคุณแห่งพระเสาร์ ๓๐ ทัศ
---------------
http://www.komchadluek.net/2009/01/1...?newsid=331043